Wednesday, 14 May 2025
Hard News Team

'อั๋น ภูวนาท' ตั้งคำถามรัฐ เอเปคครั้งนี้ไทยได้อะไร? ยันคนไทยไม่รู้เรื่องเลย นอกจากโปรโมตว่าไทยพร้อม

เมื่อไม่นานมานี้ ‘อั๋น ภูวนาท คุนผลิน’ นักร้อง นักจัดรายการวิทยุ และนักแสดงชาวไทยชื่อดัง ได้ไลฟ์พูดคุยกับแฟนคลับในช่องทางสื่อออนไลน์ส่วนตัว หลังจากนั้นช่อง ‘UNJA_FAMILY(แฟนคลับ)’ ในติ๊กต๊อกก็ได้ตัดบางช่วงบางตอนที่ ‘อั๋น ภูวนาท’ ได้พูดถึงการประชุมเอเปก 2022 ที่ในปีนี้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ โดยมีเนื้อหาว่า…

“พี่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเอเปกเลย รู้แค่ไทยเป็นเจ้าภาพ ไม่ได้อคตินะว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรก็ด่า แต่ถ้าทำดีพี่ก็ชมไง แต่พูดตรง ๆ นอกเหนือจากบอกว่าไทยกำลังจะมีเอเปก ควรบอกให้ประชาชนรู้หน่อยไหมว่าประเทศไทยจะได้อะไร”

“เราได้อะไร? ต้องได้แหละ แต่ได้อะไร? ต้องบอกกันหน่อยนะ เพราะให้หยุด 3 วันมันมีต้นทุนการหยุดอะ ไม่ได้บอกว่าเราไม่ได้ แต่อยากรู้ว่าเราได้อะไร บอกหน่อย จะได้ความรู้ จะได้เข้าใจ”

“อีกอย่างหนึ่งคือเชิญผู้นำระดับโลกมาตั้งมากมาย agenda หลัก ๆ ที่รัฐบาลและผู้นำของไทยจะคุยกับผู้นำที่มารวมตัวกันที่ไทย มีเรื่องอะไรบ้างที่จะเจรจาเพื่อผลประโชยน์ของประเทศไทย เรารู้เรื่องไหมว่าเขาจะคุยเรื่องอะไร…ไม่รู้เรื่องเลยว่าจะขออะไร ผลักดันอะไร ขอความร่วมมืออะไร จากใคร และจะเสนออะไรให้กับประเทศไหน ในมุมไหน ไม่รู้เรื่องเลย”

น่ายกย่อง!! หนุ่มวัย 24 ปีเสียชีวิต บริจาคอวัยวะมอบ 15 ชีวิตใหม่

ยกย่องคนจนผู้ยิ่งใหญ่ หนุ่มวัย 24 ปี รับจ้างตัดมะพร้าวอ่อน ชาวสมุทรสงคราม เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต บริจาคอวัยวะมอบ 15 ชีวิตใหม่ พ่อแม่เผย ลูกเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่นแม้ครอบครัวจะมีฐานะยากจน 

14 พฤศจิกายน 2565 เพจมูลนิธิโรงพยาบาลราชบุรี โพสต์ข้อความ “บริจาคอวัยวะ สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ 1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต” เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงพยาบาลราชบุรี นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ได้มอบหมายให้ คณะกรรมการ Service plan สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะโรงพยาบาลราชบุรี เป็นตัวแทนมอบเกียรติบัตร ให้แด่ญาตินายอชิระ กัญญา ผู้บริจาคดวงตาให้ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย

โดยสภากาชาดไทยได้นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามเจตนารมณ์แล้ว ส่วนกระดูกให้ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ ขอกุศลกรรมที่ได้บำเพ็ญเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วย จงเป็นอานิสงส์ดลบันดาลให้ผู้อุทิศประสบความเกษมสุขในสัมปรายภพชั่วนิรันดร์ พร้อมกันนี้ ได้มอบพวงหรีดเคารพศพผู้วายชนม์ จากศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย และศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย

ผู้ป่วยชายอายุ 24 ปี ประสบอุบัติเหตุจราจร ผู้ป่วยอยู่ในอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรง ถูกนำส่งตัวจากโรงพยาบาลดำเนินสะดวก ส่งมายังโรงพยาบาลราชบุรีเพื่อเข้ารับการรักษา เมื่อมาถึงโรงพยาบาลราชบุรีพบว่าผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บรุนแรงหลายระบบจึงได้เข้ารับการรักษาอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากอาการที่รุนแรง แพทย์ได้วินิจฉัยว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะสมองตาย 

ทั้งนี้ บิดามารดาและยายผู้เลี้ยงดูผู้ป่วยมาตลอดรับทราบอาการและเข้าใจถึงความรุนแรงที่ผู้ป่วยได้รับ โดย พว.ชุลีพร ทองแพรว พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประจำหอผู้ป่วยศัลยกรรมระบบประสาท 1 โรงพยาบาลราชบุรี จึงได้เจรจาเพื่อขอรับบริจาคอวัยวะ ดวงตามอบสู่สภากาชาดไทยเพื่อนำไปให้ผู้ที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ โดยญาติตัดสินใจบริจาคเพื่อเป็นการสร้างบุญใหญ่ให้กับผู้ป่วยโดยในการนี้ได้จัดเก็บดวงตามอบสู่สภากาชาดไทย และกระดูกมอบสู่ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ

ขอเชิดชูเกียรติ แด่นายอชิระ กัญญา และครอบครัวที่ได้ร่วมสร้างบุญใหญ่ มอบอวัยวะเพื่อส่งต่อไปยังผู้รอคอยอวัยวะอย่างทุกข์ทรมาน ซึ่งในการนี้ยังได้เป็นอาจารย์ใหญ่ในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือการบริจาคร่างกายและอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ

ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลราชบุรี ได้จัดแถลงข่าวและยกย่องครอบครัวของ นายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ โดยมีนายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายกเหล่ากาชาดราชบุรี พร้อมด้วยนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี แพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งกระดูก พร้อมด้วย นางสมพร แสงสี อายุ 60 ปี และ นายเฉลิม กัญญา อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ต.นางตะเคียน อ.เมือง สมุทรสงคราม พ่อและแม่ของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ ร่วมกันแถลงข่าว ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลราชบุรี โดยมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักร่วมทำข่าว

นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ อายุ 24 ปี อาชีพรับจ้างตัดมะพร้าวอ่อนในพื้นที่ วัดหลักห้า ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.6 ต.นางตะเคียน อ.เมือง สมุทรสงคราม ได้รับอุบัติเหตุทางจราจร ญาติได้นำตัวส่งมาทำการรักษาที่ รพ.ดำเนินสะดวก

โดยผู้ป่วยอยู่ในอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงถูกนำส่งตัวจากโรงพยาบาลดำเนินสะดวก ส่งมายังโรงพยาบาลราชบุรีเพื่อเข้ารับการรักษา เมื่อมาถึงโรงพยาบาลราชบุรีพบว่าผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บรุนแรงหลายระบบ แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่รุนแรง ร่างกายของนายอชิระ ไม่ตอบสนองต่อการรักษาใด ๆ ทีมแพทย์ได้ลงความเห็นว่านายอชิระ เสียชีวิตแล้วด้วยภาวะสมองตาย สร้างความเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้นายอชิระ เคยแจ้งไว้กับคุณพ่อและคุณแม่ ว่าตนได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาล หากตนเสียชีวิตก็ขอบริจาคอวัยวะที่ยังใช้งานได้ให้กับผู้อื่นนำไปใช้ต่อ เพื่อเป็นการทำคุณประโยชน์และสร้างบุญกุศลครั้งสุดท้ายในชีวิต หลังแพทย์ทางโรงพยาบาลราชบุรี ได้แจ้งให้กับทางญาติได้ทราบ คุณพ่อคุณแม่จึงตัดสินใจแจ้งต่อแพทย์ ขอบริจาคอวัยวะของนายอชิระทั้งหมด เพื่อทำตามเจตนารมณ์ของลูกชาย

โรงพยาบาลราชบุรีได้ร่วมประสานงานกับสภากาชาดไทย และศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ ทำการผ่าตัดส่งมอบอวัยวะ ที่ยังใช้งานได้ คือดวงตาทั้ง 2 ข้าง เนื้อเยื่อ ผิวหนัง และกระดูกอีกจำนวน 12 ชิ้น เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งกระดูก ได้จำนวน 15 ราย

ผู้บริหารโรงพยาบาลราชบุรี ศูนย์ประสานงานรับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลราชบุรี และเจ้าหน้าที่ทุกคนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และขออนุโมทนาบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ของนายอชิระ กัญญา ที่ท่านมีจิตเมตตาเสียสละบริจาคอวัยวะเป็นทานในครั้งนี้

พร้อมกันนี้ นายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายกเหล่ากาชาดราชบุรี ได้มอบเงินสดส่วนตัวจำนวน 4 พันบาท ให้กับพ่อและแม่ของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ เพื่อเป็นค่าเช่าที่บ้านที่ทางครอบครัวต้องจ่ายให้กับทางเจ้าของที่ที่ให้เช่าที่สำหรับปลูกบ้าน พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณยกย่อง นายอชิระ กัญญา ในการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ในครั้งนี้

ส่วนทางด้าน นายเฉลิม กัญญา และนางสมพร แสงสี พ่อและแม่ของ นายอชิระ กล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกดีใจที่ การบริจาคร่างกายของลูกชาย เพื่อนำอวัยวะที่สามารถใช้ได้นำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก 15 คน เป็นไปตามความประสงค์ของลูกชายที่ได้พูดไว้เมื่อครั้งยังชีวิต แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าโศกเสียใจที่สูญเสียลูกชายซึ่งเป็นที่รักของครอบครัว ลูกชายของตนเป็นคนดี คนขยันทำมาหากิน และชอบช่วยเหลือผู้อื่น ตั้งแต่เล็กลูกชายจะอยู่กับพ่อและแม่ตลอด จนเขาทำงานก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ไปที่ทำงานในอำเภอดำเนินสะดวก ราชบุรี กลับมาที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรสงครามทุกวัน

ก่อนหน้าที่ลูกจะตาย ทางแม่ได้มีรางสังหรณ์นอนฝันถึงลูกชายว่ามีเลือดเต็มใบหน้าและนอนคว่ำลงกับพื้นมีเลือดไหลนอง แต่ก็ไม่กล้าที่จะมาเล่าให้ลูกฟังเพราะลูกบอกว่าแม่ชอบคิดมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นเรื่องจริง และยังบอกอีกว่า “ร่างกายไม่ใช่ของเรา ให้โรงพยาบาลเขาไป เอาไปช่วยเหลือคนอื่นได้”
 

เตือนสติ ‘กลุ่ม 3 นิ้ว’ เตรียมป่วนเอเปค ชี้ ก่อม็อบล้มประชุมทำชาติเสียหาย โทษหนักถึงคุก

การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามนิ้ว เพื่อขัดขวางการประชุมปรากฎในเพจสำนักข่าวราษฎร ในชื่อกลุ่มราษฎรหยุด APEC2022 นำโดยสมบูรณ์ กำแหง, มายด์ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล และไผ่ ดาวดิน จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา จะออกมานำม็อบป่วนการประชุม APEC 2022 โดยมีหัวขบวนอย่าง Amnesty International Thailand เป็นเจ้าภาพ 

แกนนำสามนิ้วทำตัวเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ทั้งที่คดีรอบเอว น่าจะมี Hidden Agenda หากนำม็อบบุกป่วนงานได้ จะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายในวงกว้าง ที่สำคัญคือกระทบประชาชนที่คนกลุ่มนี้ชอบอ้างว่ารักนักหนานั่นแหละ

ขนาดมองลงมาจากดาวอังคารยังเห็นว่า ป้ายที่จะนำมาประท้วงนั้นเต็มไปด้วยถ้อยคำแอนตี้จีน โยงไปถึงเรื่องอุยกูร์ แล้ววกเข้าประเด็นพม่า ซึ่งนี่ใช่เรื่องของประเทศไทยไหม แปลกแต่จริงที่แนวคิดนี้ไปสอดคล้องกับนักการเมืองบางคนที่ขึ้นเวทีด่าทอประเทศไทยอยู่ในต่างแดน โดยอวยไต้หวันแนวเดียวกับอเมริกา แอนตี้จีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งที่บรรพบุรุษตนเองมาจากมณฑลฝูเจี้ยน

หากยุวชนสามนิ้วยังฮึกเหิมอยากมาม็อบ ขอยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ ถึงเหตุการณ์ล้มการประชุมอาเซียนของกลุ่มเสื้อแดง นปช. เมื่อ 10 ปีก่อน หากจะอ้างว่าการประท้วงแสดงเสรีภาพและสิทธิส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญละก็ ขอให้จำไว้แม่น ๆ ว่า ตอนนั้นศาลชี้การกระทำของแกนนำ นปช. ไม่ใช่สิทธิตาม รธน. เพราะนี่คือการใช้เสรีภาพเกินขอบเขตจนละเมิดกฎหมาย ส่วนแกนนำไม่รอดคุกเลยแม้แต่คนเดียว

วันที่ 11 ก.ย. ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3494-3495/2562 ความอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ บริษัทโรแยลคลีฟ บีช โฮเต็ล จำกัด เป็นโจทก์ร่วม โดยยื่นฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. จำเลยที่ 1 นายนพพร นามเชียงใต้ จำเลยที่ 2 พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ จำเลยที่ 3 นายสมญศฆ์ พรมภา จำเลยที่ 4 ในความคิดต่อความมั่นคงของรัฐ ก่อการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ทำให้เสียทรัพย์บุกรุกความผิดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก

รวมทั้งคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ บริษัท โรแยลคลีฟ บีช โฮเต็ล จำกัด เป็นโจทก์ร่วม ระหว่างที่นายนิสิต สินธุไพร จำเลยที่ 1 นายสำเรง ประจำเรือ จำเลยที่ 2 พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ จำเลยที่ 3 นายธรชัย ศักดิ์มังกร จำเลยที่ 4 นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือแซ่ด่าน จำเลยที่ 5 นายศักดา นพสิทธิ์ จำเลยที่ 6 นายสิงห์ทอง บัวชุม จำเลยที่ 7 นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อยหรือเกิดดี จำเลยที่ 8 นายวรชัย เหมะ จำเลยที่ 9 พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ จำเลยที่ 10 นายพายัพ ปั้นเกตุ จำเลยที่ 11 นายวัลลภ ยังตรง

แกนนำทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาหลายข้อหา คือร่วมกันขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งสั่งให้เลิกการมั่วสุม  ร่วมกันเดินแถวเป็นขบวน และกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ และมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่ก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยเป็นหัวหน้า เป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำผิดนั้น ร่วมกันบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ โดยขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 216, 358, 362, 364, 365 และ พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 108, 114, 148 

‘พี่เบิร์ด’ เตรียมร้องเพลงงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำ APEC ฟาก ‘บัวขาว’ เตรียมโชว์ 'ไหว้ครู-ท่ามวยไทย' ให้สื่อรับชม

ไม่นานมานี้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงสิ่งของที่ระลึกในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC สำหรับผู้นำเขตเศรษฐกิจและคู่สมรส รวมทั้งหมด 7 ชิ้น

นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า สำหรับวันที่ 17 พฤศจิกายนในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ที่หอประชุมกองทัพเรือ จะมีกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือด้านนอกจะมีการแสดงโขน หนังใหญ่ การแสดงพื้นบ้าน การสาธิตทำขนมไทย การละเล่น นอกจากนี้ ยังจะประดับบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยกระทงขนาดใหญ่ เรือไฟ และกระทงสาย

ทั้งนี้ สำหรับการแสดงด้านในงานเลี้ยงแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นการขับร้องและบรรเลงดนตรี ซึ่งได้เชิญนักร้องที่มีชื่อเสียงหลายคนมาร่วมร้องเพลง ทั้งเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงไทย เพลงสากล เช่น พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ซึ่งจะมาขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ แผ่นดินของเรา และ รัดเกล้า อามระดิษ

ปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ ขออภัยตอบกลับช้าลูกค้าล้น ยัน!! ตัวแทนหน่วยงานรัฐสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์

ดรามาปลากุเลาเค็มตากใบทำร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบผลตอบรับเกินคาด แอดมินต้องออกมาขอโทษที่ตอบกลับช้าเพราะลูกค้าติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก พบราคา 1 กิโลกรัม 1,700 บาท ซื้อน้อยๆ เริ่มต้นที่ 3 ขีด 560 บาท รวมค่าส่งแล้ว แถมมีน้ำพริกปลากุเลา ปลากุเลาเค็มหย็อง และสมันปลากุเลาเค็มกินกับข้าวสวยขายอีกต่างหาก

วันนี้ (15 พ.ย.) จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก ‘Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้’ ของศูนย์ข่าวภาคใต้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รายงานว่า ผู้ประกอบการปลากุเลาเค็มตากใบจังหวัดนราธิวาสหลายรายโวย เมื่อรู้ว่าปลากุเลาเค็มตากใบที่ถูกเลือกเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่จะเสิร์ฟในงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์แก่ผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก 2022 กลับเป็นปลามาจากพื้นที่อื่นที่ถูกนำไปจัดเลี้ยง ไม่เข้าใจว่าทำไมเอาปลาจากที่อื่นมา ไม่ใช่ร้านของตน จึงไม่อยากให้นำชื่อของปลากุเลาเค็มตากใบไปใช้ รวมทั้งมีการนำภาพของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย จังหวัดปัตตานี ไปใช้โปรโมต จึงเกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิดว่าสั่งซื้อมาจากกลุ่มนี้ กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ

ต่อมาเฟซบุ๊ก ‘ปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ’ โพสต์ข้อความระบุว่า จากกรณีดรามาในโลกออนไลน์เรื่องปลากุเลาปลอม ยืนยันว่ามาจากร้านของตน เพราะเป็นร้านจำหน่ายปลากุเลาเค็มเพียงรายเดียวในอำเภอตากใบที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เหมาะสมกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนที่น่าเชื่อถือ (มผช.) ในระดับ 5 ดาว ซึ่งก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ได้มาซื้อปลากุเลาเค็มไปจำนวน 1 ตัวเพื่อนำไปชิม กระทั่งมีการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ แต่เนื่องจากมีการซื้อวันละหลายหมื่นบาทในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาหลังจากมีกระแสข่าวเอเปก ทำให้ร้านไม่ได้ทันได้ตรวจสอบ ซึ่งยืนยันว่าหน่วยงานภาครัฐ โดยตัวแทนได้สั่งผ่านระบบออนไลน์ไป จึงเกิดข้อผิดพลาดกันในกลุ่มผู้ค้าปลากุเลาเค็มตากใบ

สอดคล้องกับนายชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลินสตาร์ชื่อดังของไทย ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าเชฟในงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์แก่ผู้นำเอเปก 2022 ยืนยันว่า กระแสโซเชียลมีเดียที่ระบุว่าเมนูปลากุเลาตากใบเป็นปลากุเลาปลอมนั้นไม่เป็นความจริง เพราะได้สั่งปลากุเลาตากใบจากร้าน ‘ปลากุเลาเค็มตากใบป้าอ้วน’ ซึ่งเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาว ซึ่งผู้ประกอบการกลุ่มอื่นไม่ได้ทราบในข้อมูลตรงนี้ จึงเกิดความเข้าใจผิด โดยจะใช้เป็นส่วนประกอบในเซตอาหารจานหลักเพื่อเพิ่มความโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นในซอสราดมัสมั่นเนื้อน่องโคขุนจากสหกรณ์โพนยางคำ จ.สกลนคร และข้าวกล้อง 9 ชนิดอบตะไคร้หอม

'รถเทสลา' ซิ่งสยองในเมืองจีน ชนดับ 2 เจ็บ 3 คนขับอ้างเบรกไม่ทำงาน เทสลาสวนไม่เห็นไฟเบรกขึ้น

คลิปที่แชร์ในโลกออนไลน์ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนเมือง Chaozhou มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันที่ (5 พ.ย.) ที่ผ่านมา เป็นนาทีที่รถไฟฟ้าเทสลา โมเดล Y สีขาว กำลังจะจอดข้างทาง จู่ ๆ รถกลับเบนออกไปบนถนน และวิ่งด้วยความเร็วสูงอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เป็นระยะทาง 2.6 กม. แม้คนขับพยายามคุมพวงมาลัยและบีบแตรไปตลอดทาง แต่ก็พุ่งชนรถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน และจักรยานสองคัน ทั้งยังชนกับรถบรรทุกเล็ก เป็นเหตุให้เศษชิ้นส่วนกระจายว่อน ก่อนหยุดในที่สุดเมื่อชนกับด้านข้างตึกหลังหนึ่งจนฝุ่นฟุ้งปกคลุมไปทั่ว

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ กับ นักเรียนมัธยมปลาย นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ตำรวจเปิดเผยว่ารถวิ่งด้วยความเร็ว 150 กม./ชม. ขณะเกิดอุบัติเหตุ 

ต่อมา เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ญาติของคนขับรถเทสลา นำคลิปมาโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมระบุว่า คนขับ วัย 55 เป็นคนขับรถบรรทุกอาชีพ ได้รับโอนรถคันนี้มาจากเพื่อนเมื่อต้นเดือนพ.ย. ขณะพยายามจอดรถที่หน้าร้านค้าของครอบครัว คนขับอ้างว่าระบบเบรคไม่ตอบสนอง เมื่อตั้งค่าจอดรถ ก็หยุดรถไม่สำเร็จ พอรถเคลื่อนไปข้างหน้า รถก็เร่งความเร็วทันที กล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นไฟเบรกหลังรถหลายจังหวะ แต่รถไม่ลดความเร็วลง ส่วนประเด็นคนขับใช้ยาเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์ ถูกตัดออกไป

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 7 – 11 พ.ย. 65 จับตาปัจจัย ‘บวก - ลบ’ ชี้ แนวโน้ม 14 – 18 พ.ย. 65

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 7 – 11 พ.ย. 65 จับตาปัจจัย ‘บวก - ลบ’ ชี้ แนวโน้ม 14 – 18 พ.ย. 65

>> ราคาน้ำมันย้อนหลัง 15 วัน

ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสัปดาห์ล่าสุดลดลง เนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯ และปริมาณการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามช่วงปลายสัปดาห์ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 อาทิ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (National Health Commission: NHC) ประกาศลดเวลากักตัวลง 2 วัน สำหรับผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย เหลือ 5 วัน ที่ศูนย์กักกัน (จากเดิม 7 วัน) กักตัวที่บ้านต่ออีก 3 วัน คงเดิม และไม่ระบุผู้ใกล้ชิดระดับรองอีกต่อไป, สำหรับผู้เดินทางที่ใกล้ชิดผู้ป่วย ลดการกักตัว เหลือ 8 วัน (จากเดิม 10 วัน), ลดการทดสอบ COVID-19 ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง เหลือครั้งเดียว (จากเดิม 2 ครั้ง) และยกเลิกบทลงโทษสายการบินที่มีผู้โดยสารติดเชื้อ, ปรับการจัดประเภทพื้นที่เสี่ยง เป็น 'สูง' และ 'ต่ำ' (จากเดิม 'สูง' 'ปานกลาง' และ 'ต่ำ') และหากไม่พบผู้ป่วยใหม่ในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นเวลา 5 วัน จะปรับเป็นพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ เป็นต้น

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์ (DXY Index) ซึ่งเทียบกับตะกร้าเงินสกุลหลักของโลก วันที่ 10 พ.ย. 65 ลดลงกว่า 2% อยู่ที่ 108.10 จุด และวันที่ 11 พ.ย. 65 ลดลง 1.6% อยู่ที่ 106.42 จุด เป็นการลดลงสองวันติดต่อกันมากที่สุดตั้งแต่ มี.ค. 52

รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ นาง Janet Yellen กล่าวถึงมาตรการจำกัดราคาน้ำมัน (Price Cap) ว่าอินเดียจะซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย ที่ราคาเท่าไร่ก็ได้ หากจะไม่ใช้เรือ ประกันภัย และการบริการทางการเงิน จากชาติพันธมิตรตะวันตก ซึ่งราคาน้ำมันดิบ Urals ของรัสเซียไม่ควรอยู่ที่ระดับเกิน 63-64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  

เลขาธิการ ศรชล. ปฐมนิเทศกำลังพล ย้ำ 7 ศร รวมพลังหนึ่งเดียว สนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

เลขาธิการ ศรชล.ปฐมนิเทศกำลังพล ศรชล. ย้ำ 7 ศร รวมพลังหนึ่งเดียว สนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มอบนโยบาย 3 ด้านเพิ่มสมรรถนะ ทีมโกอินเตอร์ปราบค้ามนุษย์ดีขึ้น Tier2 - ยึดโปร่งใสเป็นธรรม

(14 พ.ย. 65) พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (รอง ผอ.ศรชล.) มอบหมายให้ พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือและเลขาธิการ ศรชล. เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดการปฐมนิเทศกำลังพล ศรชล.และรับมอบนโยบายการปฏิบัติงานของ ศรชล. ประจำปี งบประมาณ 2566 

โดย พลเรือตรี วิฉณุ ถูปาอ่าง ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนความมั่นคงทางทะเล ศรชล. พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และพนักงานราชการ ศรชล. ผู้แทนหน่วยงานในสังกัด ศรชล. ทั้ง 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงแรม บางแสนเฮอริเทจ จังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน  

พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เลขาธิการ ศรชล. ได้กล่าวเปิดการปฐมนิเทศฯ โดยมอบนโยบายของ รอง ผอ.ศรชล. ประจำปีงบประมาณ 2566 แก่กำลังพล ศรชล. ประกอบด้วยนโยบายหลัก 3 ด้าน 3 หมุดหมาย อาทิ ด้านแผนและนโยบาย จัดทำแผนแม่บท ศรชล. รองรับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติและพัฒนา ศรชล. อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนากลไก การขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในทุกมิติ การพัฒนาแนวทางการประชาสัมพันธ์ และการสร้างความตระหนักรู้ โดยกำหนดกลยุทธ์ให้สอดคล้องเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล   

ด้านการฝึกอบรมและบังคับใช้กฎหมาย มีการฝึกอบรมกำลังพลในหลักสูตรต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติการ ยกระดับการปฏิบัติงานให้มีมาตรฐานสากล พัฒนาแนวทางในการปราบปรามการค้ามนุษย์ในแรงงานภาคประมงของประเทศไทย คงเทียบเท่าหรือดีกว่าระดับบัญชี 2 หรือ Tier 2 ในรายงาน TIP Report ของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา และร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมในด้านที่เกี่ยวข้องกับ ศรชล. รองรับการตรวจประเมินจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ทั้งนี้ ยังให้ความสำคัญกับการประเมินผลและทบทวนการปฏิบัติงาน โดยวิเคราะห์ปัญหาและกำหนดแนวทางแก้ไข เพื่อถอดบทเรียนที่มีคุณค่า (Best practice) จัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงาน และด้านธุรการ มุ่งเน้นสร้างความโปร่งใส และเป็นธรรม ในการจัดซื้อจัดจ้างที่ยึดผลประโยชน์สูงสุดในการช่วยเหลือประชาชน มีเครื่องแบบปฏิบัติงานที่แสดงถึงความเป็นเอกภาพ ในการบังคับใช้กฎหมาย ตามพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 ให้เป็นแนวทางเดียวกับนานาชาติ  

ฉวยโอกาส 'ก่อม็อบ-ก่อเหตุวุ่นวาย' ช่วงเอเปค 2022 กฎหมายหนัก โทษชัด รัฐจะไม่ใจดีเหมือนที่ผ่านมา

เสรีภาพเป็นสิ่งที่ควรมี แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ภายใต้ความมีอารยะ ใครที่คิดจะออกมาป่วนในการประชุม APEC ครั้งนี้ อยากให้คิดใหม่ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น มันจะเป็นปัญหาใหญ่ถึงขั้นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลยทีเดียว

(14 พ.ย.65) เพจ 'ฤๅ - Lue History' ได้โพสต์วิดีโอเตือนบุคคลบางกลุ่มกำลังจะก่อม็อบ ในงานจัดประชุมสัปดาห์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค โดยมีใจความสำคัญดังนี้...

ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพงานจัดประชุมสัปดาห์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่กำลังจะมีคนบางกลุ่มเฉพาะพวกที่ออกมาประท้วงยกเลิก 112 ฉวยโอกาสก่อม็อบ หรือแม้กระทั่งก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในงาน นี่คืองานระดับโลกมีผู้นำเข้ามามากมาย มีสื่อเข้ามามากมาย 

โดยเตือนว่างานนี้ทางรัฐบาลไม่ได้ใจดีเหมือนที่ผ่านมา เพราะมีกฎกติกาต่างๆ ออกมา รวมถึงการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น การประชุมครั้งนี้มีตำรวจ ทหารทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบประมาณ 50,000 คน ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในทุกจุดรอบกรุงเทพ และเพิ่มกล้องวงจรปิดกว่าหมื่นตัวที่สามารถเชื่อมโยงได้ทุกพื้นที่ หากมีการชุมนุมเรียกร้องล้ำเส้นขึ้นมาจนเป็นความวุ่นวาย ไปกระทบต่อผู้นำประเทศต่างๆ จะถูกดำเนินคดีข้อหาหนัก และประวัติการก่อคดีจะถูกส่งต่อไปทั่วโลก

หากก่อม็อบแล้วเกิดอะไรขึ้นกับผู้นำต่างประเทศอย่างเช่น ปูติน หรือ สีจิ้นผิง หากถูกดำเนินคดีขึ้นมา จะมาเรียกร้องหาความถูกต้องแบบที่ผ่านมาไม่ได้ ที่สำคัญจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายคุ้มครองประมุขต่างประเทศนั่นคือ มาตรา 133 และ 134 ซึ่งสองมาตรานี้ เป็นกฎหมายคุ้มครองทั้งพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาทต่างประเทศ หรือผู้แทน, ตัวแทนประมุขรัฐต่างประเทศ โดยทั้งสองมาตราก็มีเนื้อหาเดียวกันกับมาตรา 112 ต่างแค่อัตราโทษของผู้ที่กระทำผิดเท่านั้น

“พอดูถึงตรงนี้อยากจะฝากถึงคนที่บอกให้ยกเลิกมาตรา 112 คุณลืมไปหรือเปล่าว่าเรามีมาตรา 133 และ134 ที่คุ้มครองประมุขต่างประเทศด้วย มันจะกลายเป็นเรื่องย้อนแย้งทางกฎหมาย ลองนึกภาพว่าทั่วโลกเขาจะมองประเทศเรายังไง คุ้มครองประมุขต่างชาติ แต่ไม่อยากคุ้มครองประมุขชาติตัวเอง” พิธีกรในคลิปกล่าว

ยังมีใจความอีกว่าหากมีคนบอกให้ยกเลิกมาตรา 112, 133, 134 ให้หมดเลย ถ้าทำอย่างนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ประเทศไทยจะเป็นประเทศป่าเถื่อนในสายตาชาวโลกทันที ทั้งที่ทั่วโลกมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของประเทศตัวเอง แต่เราไม่มีเลย ไม่คุ้มครองใครเลย แล้วใครจะอยากมาประเทศของเรา นั่นหมายความว่าเราไม่ให้เกียรติประมุขของพวกเขา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์และเป็นเกียรติยศสูงสุดของประเทศ

‘MEA’ เปิดศูนย์ปฏิบัติการคุมระบบไฟฟ้าแบบบูรณาการ เสริมความมั่นคง-เตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน ช่วง ‘APEC 2022’

MEA เปิดศูนย์ปฏิบัติการควบคุมระบบไฟฟ้า บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมต่าง ๆ เตรียมความพร้อมและเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าสถานการณ์ฉุกเฉินในระดับสูงสุด ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการประชุม APEC 2022

วันนี้ (14 พ.ย. 65) นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการควบคุมระบบไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง รองรับการประชุม APEC 2022 ระหว่างวันที่ 14 - 19 พฤศจิกายน 2565 พร้อมบูรณาการหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อให้เกิดความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในระดับสูงสุด ณ อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย

สำหรับศูนย์ปฏิบัติการแห่งนี้ จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานระหว่างศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยระบบ SCADA/EMS/DMS ทั้ง 2 แห่ง สถานีไฟฟ้า 22 สถานี รวมถึงการไฟฟ้านครหลวงทั้ง 18 เขต และสถานที่สำคัญ 26 แห่ง รองรับการจัดประชุม APEC 2022 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และหอประชุมกองทัพเรือ เป็นต้น 

โดยมีการเชื่อมโยงกับระบบปฏิบัติการ Field Force Management หรือ FFM กับระบบแผนที่ GIS เพื่อใช้ในสถานการณ์เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ให้สามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ตามแผนรับมือเหตุวิกฤตของ MEA

เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางระบบไฟฟ้าสูงสุดในการจัดงาน APEC 2022 ครั้งนี้ MEA ยังได้ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่าง ๆ ช่วยการเตรียมความพร้อมในด้านระบบไฟฟ้า ได้แก่ การใช้เทคโนโลยี Acoustic Camera และ Thermovision สแกนตรวจเสียงในคลื่นความถี่สูง และตรวจจับความร้อนของอุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้ Drone ตรวจสอบระบบสายส่งไฟฟ้า ใช้เทคโนโลยีการตรวจจับความผิดปกติในระบบไฟฟ้า เช่น Partial Discharge Power Transformer รวมถึงการตรวจสอบอุโมงค์ไฟฟ้าใต้ดิน 230 kV ติดตั้ง Battery UPS และ Generator อีกทั้ง ระดมเจ้าหน้าที่ MEA กว่า 700 คน ประจำสถานีไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องทุกสถานี จัดเจ้าหน้าที่ประจำห้องไฟฟ้าของโรงแรมที่พักทุกแห่ง พร้อมรถปฏิบัติงานกว่า 250 คัน พร้อมด้วย ทีม MEA Ready Rider ซึ่งเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วที่ปฏิบัติภารกิจแก้ไขไฟฟ้าขัดข้องเร่งด่วน โดยทั้งหมดนี้ จะกระจายตำแหน่งการดูแลตามจุดต่าง ๆ ให้สามารถรองรับได้ในทุกสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top