Sunday, 18 May 2025
Hard News Team

จีนใช้หุ่นยนต์เชิดสิงโต!! ต้อนรับตรุษจีน ปี 2025 จีนอวดคนทั้งโลก โชว์ประเพณีการเชิดสิงโต กับความไฮเทคของจีน

จีนใช้หุ่นยนต์เชิดสิงโต!! 
#ตรุษจีน ปี 2025 จีนคงอยากจะอวดทั้งโลก โชว์ประเพณีจีน Soft Power การเชิดสิงโตกับความไฮเทคของจีน !! #SoftPower

‘อ.ไชยันต์’ เผยเหตุผล ทำไมหลายประเทศในโลก ถึงไม่ยอมให้การพนันถูกกฎหมาย ชี้!! เล่นแล้วติด ควบคุมไม่ได้ ต้องขายข้าวของ เพื่อหาเงิน มาเล่นการพนัน

เมื่อวานนี้ (24 ม.ค. 68) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า …

“ทำไมหลายประเทศในโลกถึงไม่ยอมให้การพนันถูกกฎหมาย ?” การพนันเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น เมื่อเล่นแล้ว มักจะติด

ขณะเดียวกัน การพนันก็ยังเป็นวิธีการหลีกหนีจากความเป็นจริงและความเครียดของชีวิต คนจำนวนไม่น้อยจึงชอบ

ในขณะเดียวกัน บางประเทศก็มีการพนันเป็นส่วนหนึ่งของประเพณี อย่างไรก็ตาม การพนันอาจควบคุมไม่ได้

สิ่งที่เคยเป็นกิจกรรมทางสังคมได้กลายเป็นสิ่งเสพติด นำมาซึ่งนิสัยใหม่ที่เป็นอันตราย
ในประเทศที่รัฐบาลและประชาชนเข้าใจถึงด้านลบของการพนัน และตระหนักรู้ถึงข้อจำกัดของผู้คนในประเทศ จึงไม่สามารถทนดูสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายประเทศทั่วโลกห้ามกิจกรรมการพนัน

เพราะถ้าการพนันถูกกฎหมายแล้ว ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นตามมา ได้แก่

ปัญหาทางสังคม: การพนันจะถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ เมื่อคนๆ หนึ่งติดการพนัน พวกเขาจะเสี่ยงต่ออันตรายต่างๆ เช่น:
-ก่อหนี้
-ลดการใช้จ่ายสำหรับสิ่งจำเป็น เช่น อาหาร ฯลฯ
-ลดการทำงานหรือเรียนหนังสือ
-ขายข้าวของเพื่อหาเงินมาเล่นการพนัน
-ผู้ติดการพนันยังมีความเสี่ยงที่จะติดสุราและสารเสพติด ซึ่งส่งผลให้มีอาชญากรรมเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น และอาจส่งผลให้ชีวิตของประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง

ดังนั้น เพื่อปกป้องประชาชนจากความเสียหายเหล่านี้ รัฐบาลและประชาชนที่เล็งเห็นผลเสียทางสังคมนี้ จึงได้ทำให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ยังมีปัญหาในมิติอื่นๆ อีก ซึ่งผมจะนำมาเสนอในตอนต่อไปนะครับ

รวมทั้ง จะโต้แย้งเหตุผลข้ออ้างที่ว่า เมื่อรัฐนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นบนดินแล้ว จะได้เก็บภาษีไปใช้ในสวัสดิการต่างๆเพื่อประโยชน์ของประชาชนคนส่วนใหญ่

กองทุนดีอี BDE ลงพื้นที่อุบล สร้างการรับรู้การใช้ประโยชน์ โครงการระบบบริหารจัดการท้องถิ่นชุมชน แบบมีส่วนร่วม

เมื่อวานนี้ (24 ม.ค. 68) นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบริหารเทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) พร้อมด้วยนางสาววรรณศิริ พัวศิริ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม BDE ตลอดจนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สดช. ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการระบบบริหารจัดการท้องถิ่นชุมชนแบบมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนด้วยระบบดิจิทัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ สำนักงานเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ศิริมาเมธ์วดี ศิรธนิตรา นายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ร่วมให้การต้อนรับ

นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา สำนักงานคณะกรรมการ ดีอี กล่าวว่า การลงพื้นที่มาเยี่ยมชม โครงการระบบบริหารจัดการท้องถิ่นชุมชนแบบมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนด้วยระบบดิจิทัล ประจำปี 2566 ของเทศบาลพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์ โครงการที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สืบเนื่องจาก โครงการต่าง ๆ ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนดีอี ล้วนเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนจำนวนมาก แต่ยังขาดการสร้างการรับรู้และการเข้าถึงของหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่อยู่ไม่น้อย โดยการลงพื้นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนดีอี ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบบริหารจัดการท้องถิ่นชุมชนแบบมีส่วนร่วมของเทศบาลพิบูลมังสาหาร อันเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้เป็นอย่างดี

“ผมขอชื่นชมในความมุ่งมั่นและความสำเร็จของ โครงการระบบบริหารจัดการท้องถิ่นชุมชนแบบมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนด้วยระบบดิจิทัล ประจำปี 2566 ของเทศบาลพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ ความเชี่ยวชาญ ความคิด สร้างสรรค์ของหน่วยงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนฯ ครั้งนี้จะทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนทั่วไปได้รับรู้ และสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ได้มากยิ่งขึ้น”

สำหรับโครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการพัฒนาระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อบูรณาการ
การบริหารจัดการท้องถิ่นผ่านแพลตฟอร์มในรูปแบบ 'Application Phibun' โดยมีฟังก์ชันการทำงาน 5 ระบบ ประกอบด้วย ระบบบริหารจัดการเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ระบบฝึกอบรมพัฒนามืออาชีพ ระบบจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ระบบบริการสาธารณสุขชุมชน และระบบพัฒนาชุมชน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal Life) ของประชาชนในยุคสังคมดิจิทัล

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ได้รับทุนงบประมาณ 36 ล้านบาท จากกองทุนดีอี ดำเนินโครงการระบบบริหารจัดการท้องถิ่น ชุมชนแบบมีส่วนร่วม สร้างความยั่งยืนด้วยระบบดิจิทัล ประจำปี 2566 เพื่อการยกระดับระบบบริหารจัดการท้องถิ่นและสร้างความยั่งยืนในชุมชน พร้อมทั้งบูรณาการการบริหารจัดการท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยระบบนี้จะขับเคลื่อนผ่านแพลตฟอร์มในรูปแบบของแอปพลิเคชัน(ApplicationPhibun) ซึ่งมีฟังก์ชันการทำงานหลัก 5 ระบบ ได้แก่ 1.  ระบบบริหารจัดการเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร (E - management) 2. ระบบฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ (E - Service)  3. ระบบจำหน่ายสินค้าออนไลน์ (E - market) 4.ระบบบริการสาธารณสุขชุมชน (E - Sata) และ 5. ระบบพัฒนาชุมชน (E - Community)

โดยผลชี้วัดของโครงการดังกล่าว ส่งผลให้เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารบริหารจัดการระบบงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของเทศบาลแหล่งข้อมูลของท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชน และผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลนำไปใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทันสมัย ทั้งยังเป็นการสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารและพัฒนาของผู้นำท้องถิ่นเป็นเครื่องมือในการช่วยประเมินระยะเวลา และประเมินผลการจัดทำงบประมาณรายจ่ายให้เกิดความคุ้มค่าในการทำโครงการใหม่ ๆ

ของหน่วยงานได้มากขึ้น ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและยุ่งยาก ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่และอำนวยความสะดวกต่อการให้บริการประชาชน เป็นองค์กรต้นแบบให้กับหลาย ๆ หน่วยงานในการสร้างสรรค์ และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ สามารถนำไปใช้ในชุมชนอย่างยั่งยืน พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการเสริมสร้าง การมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชน และวิถีการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal Life) มากขึ้น

‘วิชัย ทองแตง’ บรรยายพิเศษ ผลักดัน!! นวัตกรรมงานวิจัย เน้น!! ต่อยอดเศรษฐกิจให้เกษตรกร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

เมื่อวานนี้ (24 ม.ค. 68) คุณวิชัย ทองแตง  The Godfather Of  Startup ร่วมบรรยายพิเศษกับ สวก. ในกิจกรรม ‘ปั้นงานวิจัย ให้โตไวเชิงพาณิชย์’ 

โดยมี ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร พร้อมด้วย นางสาวศิริกร วิวรวงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร คณะอนุกรรมการการพัฒนาธุรกิจและการลงทุน และคณะผู้บริหารจาก ARDA เข้าร่วมกิจกรรมฯ ณ ห้องประชุม 904 อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

กิจกรรมนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง ARDA กับ บริษัท ทีวีดี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TV Direct เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ ARDA ที่ต้องการการส่งเสริม การเชื่อมโยง และการเข้าถึงคู่ค้าที่สำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการขยายตลาดที่มีผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายและสามารถเชื่อมโยงได้ทุกมิติของการตลาด โดยได้รับโอกาสเติบโตทางธุรกิจ ไปกับ TV Direct 

กิจกรรมในงานประกอบด้วย ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ‘ปั้นงานวิจัย ให้โตไวเชิงพาณิชย์’ โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิชัย ทองแตง ประธานมูลนิธิหนึ่งน้ำใจ และการบรรยายพิเศษ เรื่อง ‘LOCAL TO GLOBAL’ จากหิ้งสู่ห้าง โดย คุณวรสิทธิ์ ลีลาบูรณพงศ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ทีวีดี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยน ‘แนวคิดทางธุรกิจ ประสบการณ์ตรงจากกูรูเชิงลึกการตลาด’ และ ‘การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ ARDA กับ TV Direct’ จำนวน 28 บริษัท อาทิ เครื่องดื่มข้าวสินเหล็ก ตรา วีไลท์ นมเม็ดมะม่วงหิมพานต์เผา ตรา แคซเซียส ผลิตภัณฑ์สำหรับลดการหลุดร่วงของเส้นผม ตรา หยดสังข์ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูนา ตรา crabhouse ระบบฟาร์มปลูกผักปลอดภัยด้วยระบบ LED ของบริษัท ซีวิค อะโกรเทค จำกัด เป็นต้น

การจัดกิจกรรมนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ARDA ในการร่วมผลักดันนวัตกรรมงานวิจัยจาก ARDA สู่การต่อยอดใช้ประโยชน์เพื่อสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม เสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นับเป็นหนึ่งในแนวทางการขับเคลื่อนภาคการเกษตรให้กับประเทศไทยเกิดเป็นผลกระทบที่ดีให้กับกลไกตลอดห่วงโซ่ของการวิจัยได้อย่างเป็นรูปธรรม

‘น้าหงา คาราวาน - โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ โชว์เรียกน้ำย่อย แถลงข่าว!! คอนเสิร์ต ‘ROAD FOR LIFE 3’ ที่เขาใหญ่

(25 ม.ค. 68) เรียกได้ว่าเป็นมหกรรมดนตรีเพื่อชีวิตที่แฟนเพลงต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ! โดยเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา บรรยากาศร้านเขาใหญ่คาวบอยสเต็กเฮ้าส์ร้อนแรงขึ้นทันที เมื่อสองตำนานศิลปินรุ่นใหญ่เพื่อชีวิต ‘หงา คาราวาน’ และ ตำนานผู้บุกเบิก Hard Rock เมืองไทย ‘โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ ตัวแทนศิลปิน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ ‘ROAD FOR LIFE 3’ จัดโดย Pazan Music Festival มหกรรมดนตรีที่ทุกคนรอคอย และในปีนี้เรามีเครื่องดื่มคาราบาว และ ตะวันแดงเป็นผู้สนับสนุนหลักร่วมผลักดันให้มหกรรมนี้เป็นจริงขึ้นมา!!

กับเวทีสุดยิ่งใหญ่ที่ Pazan Music Festival พร้อมมอบความสุขและประสบการณ์ดนตรีเหนือระดับ ในวันที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้ รวมพลศิลปินระดับตำนาน 13 วง ขึ้นเวที โดยครั้งนี้ 'น้าหงา' สุรชัย จันทิมาธร พร้อมเพื่อนศิลปินสุดเก๋าทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ จะมาร่วมสร้างสีสันให้กับเวที ‘ROAD FOR LIFE 3’ หวังเปิดประสบการณ์ฟังเพลงแบบใหม่ให้กับมิตรรักทุกคน

นำทีมโดย : หงา คาราวาน, พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ, คาราบาว, มาโนช พุฒตาล & The Lamb, พงษ์สิทธิ์ คำภีร์, หิน เหล็ก ไฟ x โอฬาร พรหมใจ, เสือ ธนพล, สีเผือก คนด่านเกวียน, ทอม ดันดี, ไววิทย์ สันติภาพ, คณะขวัญใจ, มนต์แคน แก่นคูน, ก้อง ห้วยไร่ x เบิ้ล ปทุมราช

นอกจากนี้ยังได้พิธีกรระดับตำนานอย่าง มาโนช พุฒตาล, ภิญโญ รุ่งสมัย และ บอย รถไฟดนตรี มาร่วมปลุกความสนุกบนเวทีอีกด้วยไฮไลต์สุดพิเศษที่ห้ามพลาด

งานนี้ ‘น้าหงา สุรชัย จันทิมาธร’ เผยถึงความประทับใจที่ได้กลับมาร่วมเวทีครั้งที่ 3 ว่า “คอนเสิร์ตนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในนามของ Pazan Music Festival ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแฟนเพลง และก่อให้เกิดสังคมของนักฟังเพลงรุ่นใหม่ๆ ที่ได้มาทำความรู้จักกัน งานนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี

ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ พร้อมกับศิลปินท่านอื่นๆ ซึ่งโอกาสที่พวกเราจะได้พบปะกันนั้นค่อนข้างน้อย ต้องเป็นงานใหญ่อย่างนี้เท่านั้นถึงจะได้เจอกัน และทุกปีเรามีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เรามีการประสานงานและประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการขับเคลื่อนวงการดนตรีไปข้างหน้า รู้สึกดีใจที่มีแนวเพลงหลากหลายมาร่วมแจมในงาน เพราะเราเปิดกว้างสำหรับคนที่อยากสัมผัสดนตรีอย่างแท้จริง การได้ศิลปินแนวลูกทุ่งมาร่วมงานครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะถึงแม้จะไม่ได้เป็นญาติกันจริงๆ แต่ความสัมพันธ์ของเราก็เหมือนญาติพี่น้อง วงการดนตรีไม่ว่าจะเป็นแนวไหน เราก็พร้อมต้อนรับอย่างไม่มีข้อจำกัดครับ”

สำหรับ ‘โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ ได้กล่าวว่า

“ผมได้เป็นเกสต์ของวงหินเหล็กไฟ เป็นสมาชิกเคยเล่นด้วยกันมาก่อน อยากเชิญชวนทุกคนให้มาคอนเสิร์ต ช่วยยกระดับความรู้สึก อารมณ์ของพวกเราให้มันชื่นบาน ฟังดนตรีในช่วงเวลานี้ และอยากเล่นแบ็กอัพให้วงน้าหงา” พร้อมแซวน้าหงาอย่างอารมณ์ดี

ด้านผู้จัดงาน คุณพงษ์พัฒน์ เพ็ญโชติรส กล่าวว่า “ทางทีมงาน Pazan Music Festival ได้ประสานงานกับโรงแรมและรีสอร์ตในพื้นที่เพื่อจัดทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองที่พัก เราให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกและเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหัวใจหลัก ครั้งนี้เรายกระดับความอลังการไปอีกขั้น ด้วยการนำระบบเสียงใหม่ล่าสุดมาใช้ เสียงกระหึ่มคมชัดทุกมิติ พร้อมด้วยเวทีขนาดใหญ่ที่รับรองว่าอลังการตระการตา นอกจากนี้ เรายังใส่ใจในรายละเอียดการดูแลผู้เข้าชมอย่างเต็มที่ มีการเตรียมห้องน้ำถึง 200 ห้อง พร้อมแม่บ้านที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนระบบแสง สี เสียง จัดเต็มแบบเหนือระดับ และยังเพิ่มขนาดจอภาพให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ทุกคนสามารถรับชมโชว์ได้อย่างชัดเจนไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของงาน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่นี้ไปด้วยกันครับ”

งานนี้ ‘น้าหงา’ นำกีต้าร์คู่ใจร่วมแจมเพลงเพราะๆ กับ ‘พี่โอ้ ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์’ รวมสองตำนานเพลงไว้บนเวทีเดียวกัน ทำเอาเหล่าแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนอิ่มเอมไปกับบรรยากาศสุดฟิน เริ่มต้นด้วยบทเพลงไพเราะอย่าง ‘เดือนเพ็ญ’, ‘ดอกไม้ให้คุณ’ และปิดท้ายด้วย ‘หนุ่มพเนจร’ เป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยก่อนเสิร์ฟเมนูหลักในวันแสดงจริง

โดยเฉพาะช่วงที่ ‘พี่โอ้’ โชว์สกิลไลน์ริฟฟ์ระดับเทพร่วมกับ ‘น้าหงา’ ที่มีสำเนียงกีต้าร์สะกดใจคนดู บอกเลยว่าเรียกเสียงปรบมือกระหึ่ม เพราะฝีมือยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ทุกคนในงานต่างทึ่งและชื่นชมในความสามารถสุดเฉียบคม เชื่อเลยว่าแฟนเพลงต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เพราะการแสดงจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นรับรองว่าเต็มอิ่ม ทั้งเพลงฮิตในความทรงจำและโชว์ที่สร้างความประทับใจให้แฟนเพลงอย่างแน่นอน!!

ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรม Road for Life 3 โดย Pazan Music Festival ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 เริ่มตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานกิจกรรมเขาใหญ่มาราธอน ถนนธนะรัชต์ กม.21 เตรียมตัวมาสัมผัสความยิ่งใหญ่และสร้างความทรงจำที่เขาใหญ่ ขอบคุณเครื่องดื่มคาราบาว และ ตะวันแดง ที่ร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ครั้งนี้! พร้อมขับเคลื่อนวงการดนตรีไทยให้ก้าวไกลไปด้วยกัน แล้วพบกันในค่ำคืนที่เสียงดนตรีจะเป็นดั่งสายลมเย็นพัดผ่านใจ!!

ซื้อบัตรผ่านช่องทางออนไลน์ Pazan Music Festival

แชตเฟซบุ๊ก: http://m.me/pazanmusicfestival 

LINE Official Account: @pazanmusicfestival 

THE CONCERT: https://www.theconcert.com/concert/3813 

All Ticket by Counter Service: https://www.allticket.com/event/ROADFORLIFE3 

All Ticket และ 7-Eleven ทุกสาขา หรือ โทร : 09-8828-2187

‘ป.ป.ช.’ เผย ‘หมออ๋อง’ พ้น สส. แจ้ง!! เก็บเงินสดหลักพันบาท มีห้องชุด - ตึกแถว 3 ชั้นครึ่ง มีหนี้สินอีก 1.5 ล้านบาท

(25 ม.ค. 68) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง กรณีเข้ารับตำแหน่ง จำนวน 31 คน และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 8 คน

ที่น่าสนใจรายของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2567 แจ้งมีทรัพย์สิน 9,399,081 บาท ได้แก่ เงินสด 2 พันบาท เงินฝาก 26,463 บาท เงินลงทุน 451,288 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 8,690,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 229,330 บาท มีหนี้สิน 1,513,346 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,270,378 บาท เป็นเงินเดือน 1,170,378 บาท ขายรถกระบะ 1 แสนบาท รายจ่ายรวม 495,956 บาท

ส่วนนางปิยนุช สันติภาดา คู่สมรส เจ้าของกิจการ ‘อายตานิค พิษณุโลก’ มีทรัพย์สิน 2,544,121 บาท ได้แก่ เงินสด 5 พันบาท เงินฝาก 521,059 บาท เงินลงทุน 812,427 บาท ยานพาหนะ 863,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 75,634 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 267,000 บาท มีหนี้สิน 824,948 บาท รายได้รวม 373,312 บาท รายจ่ายรวม 256,046 บาท

บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 133,910 บาท ได้แก่ เงินสด 2,900 บาท เงินฝาก 110,984 บาท สิทธิและสัมปทาน 20,026 บาท ไม่มีหนี้สิน มีรายจ่ายรวม 182,000 บาท
รวมทั้งหมดมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 12,077,113 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,338,295 บาท

ทั้งนี้นางปิยนุช แจ้งในส่วนเงินลงทุนว่า มีร้านค้าอายตานิคพิษณุโลก ได้มาเมื่อ 24 ก.พ. 2563 มูลค่า 1 แสนบาท และถือหุ้นใน หจก.หวานสุภาพ ได้มาเมื่อ 3 ก.ค. 2566 มูลค่า 5 แสนบาท

สำนักข่าวอิศรา ผ่าธุรกิจ ท่ามกลางความไม่สงบ!! 437 ล้าน ‘อนุศาสน์ สุวรรณมงคล’ อดีตสว.ปัตตานี เจ้าของโรงแรมดัง อสังหาฯ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

(25 ม.ค. 68) สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า นักธุรกิจจากปัตตานีหนึ่งเดียวที่ได้รับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล เจ้าของโรงแรม ซี เอส ปัตตานี ซึ่งเพิ่งเกิดคาร์บอมบ์ด้านหลังโรงแรมเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2555 ล่าสุดกลุ่มคนร้ายบุกเผารถยนต์ใหม่ป้ายแดงวอด 15 คันในบริษัท ปัตตานี ฮอนด้า คาร์ส จำกัด เหตุเกิดเมื่อ 22 สิงหาคม 2555

แจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตอนรับตำแหน่งมีพี่น้อง 4 คน ชื่อ นายสุเชฎฐ์ สุวรรณมงคล นางทิพย์วดี สุวรรณมงคล นายอนุพาสน์ สุวรรณมงคล และนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล

ไม่มีคู่สมรส มีทรัพย์สิน 437.1 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุน 303.7 ล้านบาท ที่ดิน 52 แปลง มูลค่า 35.2 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 54.3 ล้านบาท เงินฝาก 27.3 ล้านบาท รถยนต์ 5 คัน 11 ล้านบาท ประกันชีวิต 3.3 ล้านบาท นาฬิกา 15 เรือน  2 ล้านบาท หนี้สิน 19.1 ล้านบาท

เป็นเจ้าของธุรกิจ 6 บริษัทได้แก่

1. บริษัท ปัตตานี ฮอนด้า คาร์ส จำกัด ดีลเลอร์ ดีลเลอร์รถยนต์ฮอนด้า ที่.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จดทะเบียนวันที่ 7 ธันวาคม 2538 ทุน 10 ล้านบาท  นายอนุศาสน์ถือหุ้น 59,896 หุ้น มูลค่า 5,989,600 บาท นาย นพดล อรรจนโรจน์ 40,000 หุ้น ปี 2553 รายได้ 549,566,623 บาท  กำไรสุทธิ 2,672,783 บาท ปี 2554 รายได้ 380,513,313  บาท กำไรสุทธิ 2,704,262 บาท สินทรัพย์ 70,780,754 บาท หนี้สิน 67,194,603 บาท

2. บริษัท นราธิวาส ฮอนด้าคาร์ส จำกัด ดีลเลอร์ ฮฮนด้าที่ อ.สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส จดทะเบียนวันที่ วันที่ 26 มีนาคม 2539 ทุน 10 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 37/17 หมู่ที่ 2 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสนายอนุศาสน์ถือหุ้น 59,896 หุ้น มูลค่า 5,989,600 บาท นาย นพดล อรรจนโรจน์ 40,000 หุ้น ปี 2553 รายได้ 266,994,255 บาท ขาดทุนสุทธิ 659,752 บาท ปี 2554 รายได้ 225,458,954 บาท กำไรสุทธิ 182,709 บาท สินทรัพย์ 43,429,638 บาท หนี้สิน 34,285,628 บาท

3. หจก.เซาเทิร์น อิควิปเม้นท์ แอนด์ แมชีนเนอรี่ มูลค่า 2.5 ล้านบาท จดทะเบียนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2529 ทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้ง 23 ถนนหนองจิก ตำบลสะบารัง อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ปี 2554 รายได้ 2,411,111 บาท  ขาดทุนสุทธิ 863,182 บาท สินทรัพย์ 2,062,029 บาท หนี้สิน 23,536,118 บาท

4. บริษัท ปัตตานีสปอร์ตคลับ จำกัด จัดสรรที่ดิน ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ จดทะเบียนวันที่ 18 ตุลาคม 2536 ทุน 315.3 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่  99/9 หมู่ที่ 4 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี นายอนุศาสน์ ถือหุ้น 2,570,000 หุ้น มูลค่า 257 ล้านบาท หรือ 81.5% ปี 2554 รายได้ 2,530,551บาท ขาดทุนสุทธิ 598,876บาท สินทรัพย์ 247,833,656 บาท หนี้สิน 266,044,583 บาท

5. บริษัท ศรีวัฒนมงคล จำกัด ประกอบธุรกิจโรงแรม จดทะเบียนวันที่ 11 มีนาคม 2545 ทุน 30 ล้านบาท  ที่ตั้งเลขที่99/9 หมู่ที่ 4 ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี นายอนุศาสน์ถือหุ้น 180,000 หุ้น มูลค่า 18 ล้านบาท หรือ 60%  ปี 2554 รายได้ 60,883,163 บาท ขาดทุนสุทธิ 13,840,375 บาท สินทรัพย์ 105,852,677 บาท หนี้สิน 147,186,338 บาท

6.บริษัท ซี .เอส. พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง จำกัด ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ก่อตั้งวันที่ 15 เมษายน 2537 ทุน 252,114,200 บาท ที่ตั้งเลขที่ 10 ถนนพิพิธ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี นายอนุศาสน์ถือหุ้น  92,490 หุ้น มูลค่า 9,249,000 บาท ปี 2553 รายได้ 7,282,776 บาท กำไรสุทธิ 6,051,244 บาท  ปี 2554 รายได้ 5,920,697 บาท กำไรสุทธิ 4,749,777 บาท สินทรัพย์ 172,381,237 หนี้สิน 60,308,850 บาท

น่าสังเกตว่า บริษัท ปัตตานี ฮอนด้า คาร์ส จำกัด บริษัท นราธิวาส ฮอนด้าคาร์ส จำกัด และ บริษัท ซี .เอส. พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง จำกัด ผลประกอบการยังพอมีกำไรบ้าง

นอกจากนี้ถือหุ้น บริษัท ปัตตานีเจริญเทรดดิ้ง (1972) จำกัด 23 หุ้น มูลค่า 230 บาท ขายรถยนต์ ศูนย์บริการ ก่อตั้งวันที่ 15 มิถุนายน 2525 ทุน 520,100 บาท, บริษัท อีซูซุ นครมอเตอร์เซลล์ (1991) จำกัด 500 หุ้น , บริษัท อีซูซุหาดใหญ่ จำกัด 7 หุ้น มูลค่า 70 บาท ,บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ 12,049 หุ้น มูลค่า 12,049 บาท และกองทุน 2 รายการ

ที่ดินของนายอนุศาสน์อยู่ใน อ.หาดใหญ่ และ อ.นาทวี จ.สงขลา 13 แปลง ,เขตบึ่งกุ่ม กรุงเทพฯ 2 แปลง ,อ.เมือง จ.พัทลุง 2 แปลง ที่เหลืออีก 35 แปลง อยู่ใน จ.ปัตตานี รวมเนื้อที่ 55 ไร่

มีบ้านและอาคารพาณิชย์ทั้งหมด 22 แห่ง อยู่ในจ.ปัตตานี 17 แห่ง ได้แก่ เลขที่ 17/1-8 ถนนมายอ ต.อาเนาะรู อ.เมือง ,เลขที่ 80 ,82  ถนนยะรัง ต.อาเนาะรู อ.เมือง ,เลขที่ 146/10-11 ถนนนาเกลือ ต.อาเนาะรู อ.เมือง ,เลขที่ 18/1-5 ถนนหน้าวัง ต.จะบังติกอ อ.เมือง ,เลขที่  11,11/1 ถนนมะกรูด  ซอย 11 ต.สะบางรัง อ.เมือง , เลขที่ 64-78  ถนนนาเกลือ ต.อาเนาะรู อ.เมือง, เลขที่ 249-251 ถนนปัตตานีภิรมย์ อ.เมือง  ,เลขที่ 14-16 ต.อาเนาะรู อ.เมือง ,เลขที่ 161-165 ถนนปัตตานีภิรมย์  อ.เมือง ,เลขที่ 177 ถนนปัตตานีภิรมย์ อ.เมือง , เลขที่ 9 ถนนมะกรูด ซอย 9 ต.สะบางรัง ,เลขที่ 1 , เลขที่ 1/1-2 ถนนปากน้ำซอย 1 อ.เมือง ,ถนนนาเกลือ ต.บานา อ.เมือง , เลขที่ 4-6 ถนนยะรัง ซอย1 ต.จะบังติกอ อ.เมือง และเลขที่ 99/10-11 ถนนหนองจิก ต.รูสะมิแล อ.เมือง ,  จ.พัทลุง 1 หลังเลขที่ 35 ถนนตำนานนิเวศน์ ต.ตำนาน อ.เมือง ,กรุงเทพฯ 3 หลัง เลขที่ 48/190 ,48/191 หมู่ 10 ซอยนวมินทร์ 143 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ,เลขที่ 138/9 ชั้น 4 อาคารเลขที่ 138 บ้านกาญจนาคม สามเสนใน เขตดุสิน (บางซื่อ) และบ้านในสหรัฐ 1 หลัง เลขที่ 503,555 PIERCE STREET ALBANY CA 94760 ราคา 7.8 ล้านบาท

ทั้ง 6 บริษัทคือฐานธุรกิจของนายอนุศาสน์ที่ยังคงปักหลักท่ามกลางวิกฤตความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มานานหลายปี

‘วีระศักดิ์’ ร่วมประชุมหารือ!! เรื่องฝุ่น ในระดับนานาชาติ ภายใต้!! โครงการปรับปรุงคุณภาพอากาศ ในภูมิภาคอาเซียน

(25 ม.ค. 68) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้โพสต์ข้อความ โดยได้ระบุว่า ... 

วันนี้ผมมาในนาม ‘สภาลมหายใจกรุงเทพฯ’ เพื่อร่วมประชุมกับกลุ่มนักวิชาการนานาชาติที่ทำงานเรื่องฝุ่น ที่ศาลาการจังหวัดเชียงใหม่ทั้งวัน

ภายใต้ ‘โครงการปรับปรุงคุณภาพอากาศในภูมิภาคอาเซียน : แนวทางสู่อนาคต’

กิจกรรมนี้เป็นการประชุม work shop แบ่งปันประสบการณ์ และความร่วมมือเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน จัดโดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส AFD สถานทูตฝรั่งเศส และจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเป็นประธานเปิด มีรองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กรมควบคุมมลพิษ สภาลมหายใจเชียงใหม่ สภาลมหายใจกรุงเทพฯ เครือข่ายนักวิชาการในไทย นักวิชาการฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น สกสว. AIT มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น

อัตราลมพัดดีกำลังจะมาถึงในอีกสองสามวันครับ

ต้นอาทิตย์หน้า ค่าฝุ่นควรจะลดลงได้มากครับ

‘เปิ้ล นาคร’ โพสต์เฟซ!! เหตุการณ์ประทับใจ ใครไม่รู้มาเลี้ยงข้าว ตอนอยู่ใต้ เพิ่งเฉลยภายหลัง!! ที่แท้เป็นคนดัง อดีต สว. ปัตตานี เจ้าของ ‘โรงแรมซีเอส’

(25 ม.ค. 68) นายนาคร ศิลาชัย หรือ ‘เปิ้ล’ นักแสดง และพิธีกรชื่อดัง ดาราจิตอาสา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องราวที่น่าประทับใจ โดยมีใจความว่า ...

ผู้ชายคนนี้..ใครก็ไม่รู้..จู่ๆ ก็มาขอจ่ายตังค์เลี้ยงข้าวเรากับออก้า..“ขอบใจนะน้องที่มาช่วยชาวบ้าน”..แล้วเขาก็เดินจากไปอย่างที่เห็น…..(มีแบบนี้อีกหลายมื้อ ถ่ายไว้ไม่ทัน)..อีกทั้งขอบคุณพี่ป๋องโรงแรมcs ปัตตานีที่ดูแลเราและทีมงานกว่า20ชีวิต…..#คนใต้ใจดีน่ารักทุกคน# น้ำท่วมภาคใต้2567

กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการด้านกิจการทหาร สรุปการเดินทางไปหารือข้อราชการกับ พลเรือตรี หวัง เจิ้ง ผู้ช่วยทูตทหารสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย 

เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.68) เวลา 09.00 -10.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ นำโดย พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการ ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์  รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เลขานุการคณะกรรมาธิการ และนางสาวนวลนิจ  หงษ์วิวัฒน์ รองเลขานุการคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยอนุกรรมาธิการ และที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ ได้ร่วมประชุมหารือข้อราชการกับ พลเรือตรี หวัง เจิ้ง ผู้ช่วยทูตทหารสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมด้วยคณะผู้ร่วมหารือของฝ่ายจีน สรุปประเด็นสำคัญในการหารือข้อราชการ ดังนี้

1.การฝึกซ้อมร่วมกันของกองทัพไทยจีนกับกองทัพจีนซึ่งเน้นความร่วมมือด้านความมั่นคง ในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ จะเป็นประโยชน์ต่อการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการรักษาพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บโดยหน่วยทหาร รวมทั้งเป็นกิจกรรมที่จะนำมาซึ่งการกระชับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกองทัพไทยและกองทัพจีนในโอกาสครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ

2.ผู้ช่วยทูตทหารฝ่ายทหารของสาธารณรัฐประชาชนจีนแสดงความสนใจที่จะไปชมศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และเห็นด้วยสำหรับกิจกรรมความร่วมมือในอนาคต ด้วยการจัดการฝึกร่วมระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพจีนทั้งการฝึกกู้ภัยพิบัติและการให้ความความช่วยเหลือด้านการแพทย์ทหาร ซึ่งรายละเอียดจะได้มีการหารือระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบของฝ่ายจีนและฝ่ายไทยต่อไป 

ข้อเสนอของคณะอนุกรรมาธิการด้านกิจการทหาร

การฝึกกู้ภัยพิบัติและการให้ความความช่วยเหลือด้านการแพทย์ทหาร นอกจากจะสามารถขยายผลไปสู่ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว ยังจะขยายผลความร่วมมือด้านความมั่นคงไปสู่ประเทศอื่น ๆ ทั้งในอาเซียน และประเทศคู่เจรจาของอาเซียน เช่น สหรัฐอเมริกา โดยที่ประเทศไทยมีบทบาทนำในการประสานความร่วมมืออีกด้วย จึงเห็นสมควรรายงานกราบเรียนประธานวุฒิสภา และเรียนประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ทราบ เพื่อเป็นประเด็นในการหารือข้อราชการเกี่ยวกับการเสริมสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศสำหรับการประชุมในกรอบสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) และการประชุมทวิภาคีของรัฐสภาไทยกับประเทศที่เกี่ยวข้องต่อไป 

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการด้านกิจการทหารจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top