Monday, 19 May 2025
Hard News Team

ขอนแก่น - คักอีหลี งานเกษตร มข. 2 วันแรก ยอดผู้เข้าชมกว่า142,698 คน

งานวันเกษตรภาคอีสาน [Isan Agricultural Fair 2025] จำนวนผู้เข้าร่วมวันอาทิตย์ ที่ 26 มกราคม 2568 จำนวน142,698 คน เวลา 08.00 - 22.00 น.โดย คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รวม 10 วัน ภายใต้แนวคิด “เกษตรอีสานสร้างสรรค์ ผลักดัน Soft Power ยกระดับเกษตรทันสมัย สู่การพัฒนาไทยให้ยั่งยืน“

เมื่อวันที่ (27 ม.ค.68) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นได้รายงานถึงบรรยากาศ ของงานวันเกษตรภาคอีสาน [Isan Agricultural Fair 2025] จำนวนผู้เข้าร่วมวันอาทิตย์ ที่ 26 มกราคม 2568 จำนวน142,698 คน เวลา 08.00 - 22.00 น.โดย คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รวม 10 วัน ภายใต้แนวคิด “เกษตรอีสานสร้างสรรค์ ผลักดัน Soft Power ยกระดับเกษตรทันสมัย สู่การพัฒนาไทยให้ยั่งยืน”

ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า “งานวันเกษตรภาคอีสานได้พัฒนามาจากงานวันขายผลิตผลการเกษตรของนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ ที่มุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรที่ได้จากการฝึกงานของนักศึกษา และต่อมาได้ขยายขอบข่ายของการจัดงานเพื่อให้เกิดความยิ่งใหญ่และร่วมเฉลิมฉลองวันสถาปนามหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวันที่ 25 มกราคมของทุกปี โดยในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมงานกว่า 660,000 คน สร้างเงินหมุนเวียนมากกว่า 600 ล้านบาท”

งานวันเกษตรภาคอีสานประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รวม 10 วัน ภายใต้แนวคิด “เกษตรอีสานสร้างสรรค์ ผลักดัน Soft Power ยกระดับเกษตรทันสมัย สู่การพัฒนาไทยให้ยั่งยืน” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแลกเปลี่ยนผลงานวิชาการและการวิจัยทางการเกษตร เผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ทางการเกษตรและเทคโนโลยีสู่ชุมชน การฝึกอบรมอาชีพการเกษตร รวมถึงการส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขนาดกลางและขนาดย่อม
รศ.นพ.ชาญชัย ได้เปิดเผยถึงไฮไลท์สำคัญของงานวันเกษตรภาคอีสานครั้งที่ 33 ว่า การจัดนิทรรศการในปีนี้มีความพิเศษที่แตกต่างจากทุกปี ด้วยการนำเสนอภายใต้แนวคิด 'Local สู่เลอค่า' ที่สอดรับกับธีมหลัก “เกษตรอีสานสร้างสรรค์ ผลักดัน Soft Power ยกระดับเกษตรทันสมัย สู่การพัฒนาไทยให้ยั่งยืน”

สำหรับภายในงานผู้เข้าชมจะได้พบกับกิจกรรมมากมาย ทั้งนิทรรศการถ่ายทอดองค์ความรู้จาก 8 สาขาวิชาคณะเกษตรศาสตร์ การเสวนาและฝึกอบรมวิชาชีพทางการเกษตร การประกวดและแข่งขันภูมิปัญญาชาวบ้านและทักษะทางการเกษตร การประชุมวิชาการเกษตร ครั้งที่ 26 การจัดแสดงปลาและจัดแสดงพันธุ์สัตว์ชนิดต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การให้บริการนำเที่ยวเชิงเกษตรบริเวณโดยรอบงานวันเกษตรภาคอีสาน โดยนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ และการออกร้านจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรของนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ 

นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่างๆ อาทิ กรมวิชาการเกษตรจัดนิทรรศการแบบมีชีวิตภายใต้แนวคิด “วิชาการเกษตรสร้างสรรค์ ผลักดันคุณภาพผลผลิต ด้วยเกษตรทันสมัยนำอีสานเข้าสู่ศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อน” กรมส่งเสริมการเกษตรนำเสนอ “1 ท้องถิ่น 1 สุดยอดสินค้าเกษตรมูลค่าสูง” พร้อมสินค้า “สุดยอดของดี 20 จังหวัด” และผลิตภัณฑ์จาก Young Smart Farmer กรมปศุสัตว์จัดเวทีแลกเปลี่ยนด้านแพะและกิจกรรม Roadshow กระตุ้นการบริโภคแพะในประเทศ พร้อมการประกวดแพะและกระบือชิงถ้วยพระราชทาน กรมการข้าวนำเสนอภายใต้สโลแกน “กรมการข้าวสร้างสรรค์ ผลักดันชาวนาอีสานทันสมัย สู่การพัฒนาข้าวไทยให้ยั่งยืน” และกรมพัฒนาที่ดินจัดนิทรรศการ “การสร้างความรู้ ความเข้าใจ สถานภาพทรัพยากรดินภาคอีสาน” พร้อมบริการตรวจวิเคราะห์ดินฟรีวันละ 50 ราย

28 มกราคม 2529 รำลึก โศกนาฏกรรม 'ยานชาเลนเจอร์' ระเบิดกลางฟ้า นักบินอวกาศ 7 ชีวิตสูญเสีย

วันนี้เมื่อ 39 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์ที่ช็อคโลก เมื่อกระสวยอวกาศ ‘ชาเลนเจอร์’ เกิดระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า หลังจากถูกปล่อยขึ้นไปเพียงไม่กี่นาที

ย้อนไปถึงที่มาของ ‘ยานชาเลนเจอร์’ เป็นกระสวยอวกาศขององค์การนาซ่าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการสำรวจอวกาศ ก่อนเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ยานชาเลนเจอร์เคยบินไปในอวกาศมาแล้ว 9 ครั้ง แต่ในการบินครั้งที่ 10 หลังจากถูกปล่อยออกไป ท่ามกลางผู้ชมหลายล้านคนที่ติดตามชมผ่านหน้าจอโทรทัศน์ เพียง 73 วินาทีเท่านั้น ยานก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด

อุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้มีนักบินอวกาศเสียชีวิต 7 คน หนึ่งในนั้นคือ คริสตินา แมคคอลิฟ อดีตครูประถมที่มีความฝันอยากเป็นนักบินอวกาศ แม้เธอจะได้มาเป็นนักบินอวกาศในที่สุด แต่เธอก็ต้องเสียชีวิตอย่างกะทันหันในเหตุการณ์นี้

การสอบสวนภายหลังพบว่า สาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจากชิ้นยางวงแหวนที่ใช้ปิดกั้นแก๊สระหว่างรอยต่อในจรวดไม่สามารถยืดหยุ่นได้ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็น ทำให้เกิดการรั่วไหลของแก๊สที่ไปกระทบกับถังเชื้อเพลิงระหว่างจรวดขับดัน ซึ่งส่งผลให้เกิดการระเบิดฉีกตัวยานและจรวดออกเป็นชิ้นๆ

โศกนาฏกรรมยานชาเลนเจอร์ถือเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในโครงการขนส่งอวกาศของสหรัฐฯ และส่งผลให้สหรัฐฯ ต้องหยุดโครงการขนส่งอวกาศไปนานเกือบ 3 ปี แม้เวลาจะผ่านไปแล้วกว่า 35 ปี แต่ความสูญเสียในครั้งนั้นยังคงฝังอยู่ในความทรงจำของผู้คนเสมอมา

ผู้นำโคลอมเบียถอย ยอมรับผู้อพยพกลับ หลังทรัมป์ขู่ลงดาบคว่ำบาตร-ขึ้นภาษี

(27 ม.ค. 68) ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคมว่า โคลอมเบียได้ตกลงรับผู้อพยพที่เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาโดยผิดกฎหมายกลับประเทศโดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ โดยข้อตกลงนี้ยังระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่เรียกเก็บภาษี 25% จากโคลอมเบีย ตราบใดที่รัฐบาลโคลอมเบียปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว

คาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า "รัฐบาลโคลอมเบียได้ยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการรับผู้อพยพที่ถูกส่งกลับจากสหรัฐอย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์หรือเครื่องบินทหาร โดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมหรือความล่าช้า"

เลวิตต์เสริมว่า มาตรการภาษีและการคว่ำบาตรต่าง ๆ ที่เคยเตรียมไว้จะถูกระงับไว้ก่อน ตราบใดที่โคลอมเบียยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรด้านวีซ่าต่อเจ้าหน้าที่โคลอมเบีย รวมถึงการตรวจสอบศุลกากรที่เข้มงวดต่อสินค้าจากโคลอมเบีย จะยังคงมีผลจนกว่าการส่งตัวผู้ถูกเนรเทศชุดแรกสำเร็จ และเครื่องบินลำดังกล่าวเดินทางกลับถึงสหรัฐ

การบรรลุข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร ของโคลอมเบีย มีการตอบโต้ทางการทูตเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวก่อนหน้านี้ โดยก่อนหน้านี้ นายเปโตร ได้สั่งระงับการลงจอดของเครื่องบินทหารสหรัฐ 2 ลำ ที่มีแผนขนส่งผู้อพยพชาวโคลอมเบียกลับประเทศ ซึ่งนำไปสู่คำขู่จากทรัมป์ว่าจะเพิ่มภาษีศุลกากร หากโคลอมเบียไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้

‘สกลธี’ ยก ‘ปักกิ่งโมเดล’ เป็นแนวทางแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ชี้ ต้องทำทันที พร้อมมีแผนงานชัดเจน – เข้มงวด – ต่อเนื่อง

(27 ม.ค. 68) นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า ปักกิ่งโมเดล 

ช่วงนี้เมื่อสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 รุนแรงมากโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เป็นเมืองใหญ่ หลายท่านอาจจะเคยได้ยินการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แบบ “ปักกิ่งโมเดล” แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร ผมจะเล่าคร่าวๆ ให้ฟังครับว่าก่อนหน้านี้กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเคยประสบปัญหา PM 2.5 อย่างรุนแรงพอๆ กับกรุงเทพฯ ช่วงนี้ แต่ทางเมือง + รัฐบาล ได้มีแผนและเริ่มบังคับใช้อย่างจริงจังประมาณช่วงปี ค.ศ 2013 เชื่อไหมครับว่าใช้เวลา 4-5 ปี พอหลังปี ค.ศ . 2017 ค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มลดลงได้ถึงประมาณ 35 % และยังเข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เค้าไม่ได้ทำแค่ 1-2 ปีครับ ช่วงแรกที่เริ่มจะเห็นผลใช้เวลา 4-5 ปี และมีแผนระยะยาวพร้อมกวดขันและเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นเค้าก็รู้เหมือนเราแหละครับว่าสาเหตุของฝุ่น PM 2.5 มาจากอะไรเป็นหลัก คือ การเผา มลพิษอุตสาหกรรม การสันดาปของเครื่องยนต์เมื่อการจราจรติดขัด แต่ที่ต่างคือมีการวางแผนและบังคับใช้อย่างเข้มงวดสไตล์พี่จีนครับ 

หลายท่านที่เคยไปปักกิ่งจะทราบครับว่าปักกิ่งก็คล้ายๆ กรุงเทพฯ คือมีโรงงานอุตสาหกรรมทั้งในเขตกรุงปักกิ่งเองและวงรอบนอก แต่ที่ยิ่งกว่าเราคือเค้ามีโรงไฟฟ้าถ่านหินซึ่งหนักกว่าเราอีกครับ เค้าทำยังไงครับ ??? ก็ปิดเลยสิครับ โรงไฟฟ้าถ่านหิน 4 แห่งทยอยปิดใน 4 ปี ปิดโรงงานก่อมลพิษหลายร้อยโรง โรงงานที่ยังเหลืออีกหลายพันโรงต้องปรับปรุงให้ผ่านมาตรฐานไม่ปล่อยมลพิษถึงจะอยู่ได้

ยังไม่พอครับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งเพิ่มสวนสาธารณะกว่า 30 แห่ง ทำให้ปัจจุบันประชาชนปักกิ่งมีค่าเฉลี่ยพื้นที่สีเขียว 1 คน ประมาณ 17 ตร.ม. (ในขณะที่คนกรุงเทพฯ ประมาณ 7 ตร.ม.) และยังคงมีแผนเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลและกรุงปักกิ่งยังได้ทยอยเปลี่ยนรถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ และรถที่เป็นของหน่วยงานราชการเป็นพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (EV) และเพิ่มโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมทั่วถึงสร้างความสะดวกสบายและเข้าถึงง่ายให้ประชาชน

ส่วนเรื่องเผา สไตล์จีนเรื่องเข้มงวดไม่เป็นสองรอใครอยู่แล้วครับ มีการดำเนินการกวดขันและจับกุมอย่างเข้มงวดจริงจัง มีการตั้งตำรวจสิ่งแวดล้อมขึ้นมาเพื่อดูแลในเรื่องนี้

ในเรื่องของการจราจร มีการใช้ทั้งการควบคุมมลพิษจากรถยนต์โดยการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า EV และผลักดันสถานีชาร์จใช้ครอบคลุมเมืองอย่างทั่วถึง รวมถึงการเน้นขนส่งทางรางและทางน้ำมากขึ้น (ซึ่งอันนี้ของเราผมงงมากเพราะผู้บริหาร กทม. ชุดปัจจุบันพยายามเลิกและผลักภาระในส่วนนี้ไปให้รัฐบาลทำแทน ) 

หรือเข้มขนาดที่ว่ากำหนดวันใช้รถเลขคู่เลขคี่ ซึ่งอันนี้บ้านเราคัดค้านกันมากแต่ถ้าถึงเวลาจำเป็นก็ต้องทำครับ นี่ยังไม่นับการเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรเป็นระบบอัจฉริยะใช้ AI ทำให้การปล่อยสัญญาณจราจรลื่นไหลไม่ตามอำเภอใจของมนุษย์ 

จะเห็นได้ว่าเมืองปักกิ่งและรัฐบาลจีนได้ใช้ทุกกระบวนท่า ในการที่จะทำให้ค่าฝุ่น PM 2.5 ลดลงอย่างจริงจัง ที่สำคัญที่สุดคือเค้ามีแผนและเริ่มลงมือทำอย่างจริงจัง โดยใช้เวลาหลายปีถึงจะดีขึ้น แต่ของเราแค่มาแอคชั่นกันตามฤดูกาลพอฝุ่นหมดก็จบกัน 

เห็นด้วยครับว่าเรื่องฝุ่นต้องเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกหน่วยงานทั้งท้องถิ่นและส่วนกลางต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่น เช่น กทม. กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง…แต่ต้อง “ทำเลย” ครับ อย่ารอให้ถึงปีหน้า แล้วมาบ้ากันอีกที

ทรัมป์ส่งสัญญาณคืนดี WHO ถ้ารับปากปรับปรุงองค์กรใหม่

(27 ม.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอาจพิจารณากลับเข้าร่วมองค์การอนามัยโลก (WHO) หากองค์กรสามารถปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น พร้อมแสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ ต้องจ่ายเงินสนับสนุน WHO ในสัดส่วนที่สูงกว่าจีน แม้จีนจะมีประชากรมากกว่าสหรัฐฯ หลายเท่า

ทรัมป์ได้กล่าวระหว่างการปราศรัยที่นครลาสเวกัสว่า สหรัฐฯ อาจพิจารณากลับเข้าร่วม WHO อีกครั้ง แต่การตัดสินใจนี้จะขึ้นอยู่กับการปรับปรุงภายในองค์กรก่อน ขณะเดียวกัน เขายังกล่าวถึงความไม่เป็นธรรมที่สหรัฐฯ ต้องจ่ายเงินสนับสนุน WHO มากกว่าจีน แม้ว่าจีนจะเป็นประเทศที่สนับสนุน WHO สูงสุดในปัจจุบัน โดยการสนับสนุนของจีนคิดเป็นราว 18% ของงบประมาณทั้งหมด ซึ่ง WHO มีงบประมาณ 2 ปีล่าสุดอยู่ที่ 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ประกาศออกจากการเป็นสมาชิก WHO อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มกราคม 2569 โดยทรัมป์แถลงในวันที่ 20 มกราคม หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง โดยอ้างว่า WHO ล้มเหลวในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 และวิกฤตสุขภาพระดับโลกอื่นๆ

ตม.สหรัฐลุยขับไล่ผู้อพยพในชิคาโก เจอคนไทยถูกรวบ พบมีประวัติอาชญากรรม

(27 ม.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ของสหรัฐฯ เริ่มปฏิบัติการขับไล่ผู้อพยพในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งเน้นการขับไล่ผู้ที่อยู่อาศัยผิดกฎหมายออกจากประเทศ โดยหนึ่งในผู้ถูกจับกุมเปิดเผยว่าเขามีพื้นเพมาจากประเทศไทย

โฆษกของ ICE กล่าวว่า ปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองและเสริมสร้างความมั่นคงในชุมชน โดยเฉพาะการขจัดบุคคลที่มีประวัติอาชญากรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยสาธารณะ

เอมิล โบฟ รองอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า “เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ชุมชนของเรามีความปลอดภัย และจะไม่หยุดจนกว่าภารกิจนี้จะสำเร็จ”

การจับกุมครั้งนี้ได้สร้างความวิตกกังวลในชุมชนผู้อพยพในชิคาโก โดยมีการรายงานจากกลุ่มองค์กรสนับสนุนผู้อพยพว่า มีผู้ถูกจับกุมจากหลายพื้นที่ในเมือง รวมถึงย่านอัลบานีพาร์กและเฮอร์โมซา

ในระหว่างการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ได้ร่วมมือกับดร.ฟิล แม็กกรอว์ นักจัดรายการสื่อฝ่ายขวาในการถ่ายทอดสดบางส่วนของการจับกุมทาง Merit TV โดยมีการถ่ายทำภาพชายคนหนึ่งที่ถูกควบคุมตัวพร้อมกับคำสัมภาษณ์จากดร.ฟิล

ชายผู้นั้นบอกว่าเขามีสัญชาติไทย และเกิดที่ประเทศไทย เมื่อถูกถามว่าเคยถูกตั้งข้อหาหรือไม่ เขาตอบว่า “ผมไม่อยากพูดอะไร ผมต้องการคุยกับทนายความ” พร้อมกับยืนยันว่าแม่ของเขาคือพลเมืองสหรัฐฯ แต่เขาไม่ได้รับสัญชาติ

ตามข้อมูลจาก Merit TV ชายคนนี้ถูกระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีล่วงละเมิดทางเพศและการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทย แต่รายละเอียดนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางการสหรัฐฯ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหารฯ ครบรอบปีที่ 67 และรับรางวัลงานเกียรติยศจักรดาว ยกย่องเชิดชูศิษย์เก่าเตรียมทหารดีเด่น

(27 ม.ค. 68) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ครบรอบ 67 ปี และรับมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาวประจำปี 2568 ที่โรงเรียนเตรียมทหาร อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารร่วมกิจกรรม โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร เข้าร่วมงานเพื่อร่วมแสดงมุทิตาจิตแด่อดีตผู้บังคับบัญชาและครูอาจารย์ 

นอกจากนี้ มีพิธีมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2568 แก่ศิษย์เก่าเตรียมทหารดีเด่น เพื่อเชิดชูและยกย่องศิษย์เก่าเตรียมทหารที่มีความรู้ความสามารถ ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมให้เป็นที่ประจักษ์ และสร้างชื่อเสียงให้แก่สถาบัน จำนวน 7 ท่าน ได้แก่
1. พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 23 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ
2. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 24 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ
3. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ
4. พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ
5. พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 27 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ
6. พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 27 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาการทหาร
7. น.อ.ภาณุพงศ ขุมสิน ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนา สำนักงานวิจัยและและพัฒนาทางทหารกองทัพเรือ นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 31 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาการวิจัย

ทั้งนี้ การจัดงานสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหารฯ และมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาว เป็นพิธีที่จัดต่อเนื่องทุกปี เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีระหว่างศิษย์เก่าเตรียมทหารทุกรุ่น ตามเจตนารมณ์ของสถาบันในการผลิตทหาร-ตำรวจ ให้พร้อมเป็นกำลังสำคัญของกองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สวนนงนุชพัทยา  จัดใหญ่จัดเต็มขบวนคาร์นิวัลช้างเชิดสิงโต อวยพรต้อนรับเทศกาลตรุษจีนให้นักท่องเที่ยว

(27 ม.ค. 68) เวลา 09.30 น. สวนนงนุชพัทยาโดยคุณกัมพล  ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา   จัดใหญ่จัดเต็มขบวนคาร์นิวัลช้างเชิดสิงโต บรรยากาศศึกคักต้องรับการท่องเที่ยวอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้ร่วมขบวนมากกว่า 70 ชีวิต   ประกอบไปด้วยน้องช้างและเหล่าบรรดานางฟ้า  นางสวรรค์ออกมาร่ายรำอำนวยอวยพร ให้นักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองพร้อมน้องช้างร่วมแจกส้มต้อนรับเทศกาลตรุษจีน กันอย่างสนุกสนาน

โดยกิจกรรมดังกล่าว จัดเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ และชาวไทยเชื้อสายจีน นักท่องเที่ยวจะได้กราบไหว้ขอพรพระสังกัจจายน์ เป็นเทพเจ้าแห่งความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยมั่งคั่ง,พระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ,เจ้าแม่กวนอิมเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตา, พระพรหมเป็นเทพผู้ประทานพร และใหม่ล่าสุดรูปปั้น 12 นักษัตรจีน  เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลตรุษจีน

ภายในสวนนงนุชพัทยามีการแสดงดนตรี แจกของรางวัลสร้างบรรยากาศความสนุกสนานครึกครื้น ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมาก  ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 27-29 ม.ค. 2568 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 น.- 18.00น.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.nongnoochpattaya.com

พนง.'Nokia' ผวา 'iPhone' เปิดตัวมือถือจอสัมผัส เตือนผู้บริหารรับมือยุคตกต่ำหากไม่รีบปรับตัว

(27 ม.ค. 68) เว็บไซต์ Fahad X ได้เผยแพร่ไฟล์เอกสารพาวเวอร์พอยต์ เมื่อปี 2007 ที่เป็นความลับของบริษัท Nokia โดยข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยจากเอกสารภายในของ Nokia ซึ่งจัดเก็บอยู่ในโครงการ Nokia Design Archive ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย Aalto ประเทศฟินแลนด์

ข้อมูลในไฟล์ดังกล่าวเป็นการหารือภายในของพนักงาน Nokia ที่มองการเปิดตัว iPhone 2G ที่เปิดตัวเมื่อปี 2007 โดยไฟล์ดังกล่าวเป็นการนำเสนอของพนักงาน Nokia เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปี 2007 ในรูปแบบของสไลด์ โดยพนักงาน Nokia ทั้งหมด 9 คน นำเสนอผู้บริหารระดับสูงว่า “iPhone” คือภัยคุกคามของ Nokia

สไลด์ดังกล่าวมีทั้งหมด 22 หน้า โดยเนื้อหาในสไลด์ชี้ว่า “iPhone” ของ Apple ซึ่งเปิดตัวในปีเดียวกันนั้น เป็นภัยคุกคามที่อาจส่งผลกระทบต่อ Nokia  

หัวข้อสไลด์เริ่มต้นด้วยข้อความว่า “Apple เพิ่งเปิดตัว iPhone” โดยยืนยันว่า Apple สามารถใช้ชื่อ "iPhone" ได้หลังการเจรจากับ Cisco ซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อพิพาทเรื่องสิทธิในชื่อดังกล่าว  

ในขณะนั้น Nokia ครองส่วนแบ่งตลาดมือถือโลกกว่า 50% และมีความมั่นใจในว่ายังคงสามารถรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดได้ จนกระทั่ง 'สตีฟ จ็อบส์' ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ได้ประกาศเป้าหมายไว้ในงานเปิดตัว iPhone ว่า Apple ขอเพียง 1% ของตลาดมือถือ หรือยอดขาย 10 ล้านเครื่องในปี 2008 เท่านั้น แม้ผู้บริหาร Nokia จะยังไม่เห็นถึงความร้ายแรงของ iPhone ในทันที แต่ทีมงาน Nokia กลับมองเห็นจุดเด่นหลายประการที่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่  

จุดเด่นของ iPhone ที่พนักงาน Nokia ในเวลานั้น นำเสอนต่อผู้บริหารมีหลายประเด็น อาทิ UI แบบจอสัมผัส ที่ไม่มีคีย์บอร์ดหรือปุ่มกดตัวเลข ซึ่งเป็นจุดเด่นใหม่ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ของ Nokia  

การเจาะตลาดไฮเอนด์ ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ทำให้ iPhone กลายเป็นสินค้า "ที่ต้องมี" และอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ตระกูล N-Series ของ Nokia และภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูด ซึ่งช่วยให้ iPhone สร้างความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานอย่างรวดเร็ว  

เอกสารนี้ยังพูดถึงฟีเจอร์เด่นของ iPhone เช่น การใช้งานเบราว์เซอร์ที่ง่ายขึ้น, ฟังก์ชันการสไลด์เพื่อปลดล็อกหน้าจอ, แอปพลิเคชันรูปภาพที่ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวก และความสามารถในการเชื่อมต่อกับ iPod เพื่อฟังเพลงทุกที่ทุกเวลา  

แม้ Nokia จะมีมุมมองที่รอบคอบต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด แต่ท้ายที่สุด iPhone กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน ซึ่ง Nokia เองไม่สามารถปรับตัวได้ทัน  

เอกสารนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการมองเห็นโอกาสและความท้าทาย แต่ยังขาดการลงมือปรับตัวอย่างทันท่วงที

รู้จัก 'DeepSeek' แอป AI ต้นทุนต่ำของจีน ผงาดดาวน์โหลดสูงสุดในสหรัฐฯ ท้าชน ChatGPT

(27 ม.ค. 68) เมื่อสองสัปดาห์ก่อนมีแอปพลิเคชัน AI ตัวใหม่ที่ชื่อว่า DeepSeek ได้เปิดตัวบน App Store และได้รับความสนใจอย่างมาก จนสามารถทำยอดดาวน์โหลดแซงหน้า ChatGPT ขึ้นเป็นแอปอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างความฮือฮาในวงการเทคโนโลยีและ AI

DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพจากจีน โดยบริษัทเพิ่งเปิดตัวโมเดล AI ชื่อว่า 'R1' ซึ่งได้รับการยอมรับในวงการ AI ด้วยการพัฒนาโมเดลที่มีขนาดเล็กเพียง 1.5B แต่มีความสามารถสูงกว่าโมเดล AI อื่นๆ อย่าง OpenAI o1-mini และที่สำคัญคือต้นทุนในการฝึกฝนโมเดลนั้นต่ำมากเพียงแค่ 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

บริษัทนี้ก่อตั้งโดย Liang Wenfeng ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์และนักธุรกิจชื่อดังในวงการ AI ของจีน ความน่าสนใจของ DeepSeek ไม่ได้เพิ่งมี เพราะก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม 2023 บริษัทเริ่มเส้นทาง AI ด้วยการพัฒนาเจเนอเรทีฟเอไอโมเดล สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับการให้เหตุผล (Reasoning Tasks) ซึ่งสามารถแข่งขันกับโมเดลของ OpenAI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2023 DeepSeek ได้เปิดตัว DeepSeek Coder โมเดล Open-Source สำหรับการเขียนโค้ด ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และในปีเดียวกันยังเปิดตัวโมเดล DeepSeek LLM ที่มีเป้าหมายแข่งขันกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่

ในปี 2024, DeepSeek ได้เปิดตัว DeepSeek-V2 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเนื่องจากประสิทธิภาพที่สูงและต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งทำให้เกิดสงครามราคากับบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ AI ของจีน เช่น ByteDance, Tencent, Baidu และ Alibaba ที่ต้องลดราคาลงเพื่อให้สามารถแข่งขันได้

ในปี 2024 เดียวกันนี้ DeepSeek ยังได้เปิดตัวโมเดล DeepSeek-Coder-V2 ที่รองรับการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน และยังสามารถใช้งานผ่าน API ในราคาประหยัด โดยค่าบริการคิดเป็น 0.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อโทเคนสำหรับข้อมูลนำเข้า และ 0.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อโทเคนสำหรับผลลัพธ์

ขณะที่โมเดลล่าสุดอย่าง DeepSeek-R1 ได้ช่วยยกระดับความสำเร็จของ DeepSeek ในวงการ AI ด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะโมเดล DeepSeek-R1 ที่เน้นงานด้านการให้เหตุผล ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของโมเดลของ OpenAI

โมเดล R1 ของ DeepSeek มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือเหนือกว่าโมเดล o1 ของ OpenAI ในการทดสอบตามเกณฑ์มาตรฐาน AI บางรายการ โดยบริษัทอ้างว่าโมเดลของตนมีต้นทุนการฝึกฝนเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแตกต่างจากบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ที่ต้องใช้เงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐในการฝึกฝนโมเดลของตนเอง

กระแสข่าวที่ออกมาทำให้ DeepSeek ตอนนี้ขึ้นอันดับ 1 แอปยอดนิยมของ App Store ในสหรัฐอเมริกา แซงหน้า ChatGPT ไปเรียบร้อย

แม้ว่าจะมีคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของต้นทุนที่ต่ำขนาดนี้ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าหาก DeepSeek สามารถทำได้จริง จะเป็นประโยชน์ต่อวงการ AI และช่วยให้บริษัทขนาดเล็กสามารถพัฒนาโมเดลใหม่ๆ ได้เร็วขึ้นและมีต้นทุนต่ำ

Yann LeCun หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ AI ของ Meta ได้กล่าวว่า โมเดล Open-Source อย่าง DeepSeek สามารถแซงหน้าโมเดลแบบปิดได้ และช่วยให้ทุกคนในวงการได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าครั้งนี้ ขณะที่นักลงทุนชื่อดังอย่าง มาร์ก แอนเดรียสเซน กล่าวชมว่า DeepSeek เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าที่น่าทึ่งที่สุดในวงการ AI เพราะเนื่องจากที่ถูกรัฐบาลสหรัฐกีดกันไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยี AI จนสุดท้ายจีนก็สามารถพัฒนา AI ของตนเองขึ้นมาได้เองแถมยังมีต้นทุนต่ำ ขณะที่บางผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ความสำเร็จของ DeepSeek อาจเป็นภัยคุกคามต่อการแข่งขันของสหรัฐฯ ในตลาด AI  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top