Monday, 19 May 2025
Hard News Team

MOSHI ตอบรับกระแสฟีเวอร์ ‘น้องหมูเด้ง’ เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ในราคาย่อมเยาเข้าถึงได้

(3 ก.พ. 68) MOSHI ตอบรับกระแสฟีเวอร์ ‘น้องหมูเด้ง’ เปิดตัวคอลเลกชัน Moshi Moshi x MOO DENG ชูคอนเซ็ปต์สินค้าไลฟ์สไตล์ในราคาย่อมเยาเข้าถึงได้ เอาใจกลุ่มแฟนคลับทั่วประเทศ

‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย ตอบรับกระแสความฟีเวอร์ ‘น้องหมูเด้ง’ เปิดตัวคอลเลกชัน Moshi Moshi x MOO DENG ลิขสิทธิ์แท้จากสวนสัตว์เขาเขียว ชูคอนเซ็ปต์สินค้าไลฟ์สไตล์ในราคาย่อมเยาเข้าถึงได้ เอาใจกลุ่มแฟนคลับทั่วประเทศ พร้อมจัดโปรโมชันพิเศษ เพียงซื้อสินค้าครบ 199 บาทขึ้นไป รับฟรี! พัดหมูเด้ง จำกัด 1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์ พร้อมเดินหน้าดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ผ่านการสมทบทุนโครงการ "หมูเด้ง" ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ฯ จำนวน 500,000 บาท

นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ภายใต้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย (ZPOT)  ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อต่อยอดกระแสความนิยมของ ‘หมูเด้ง’ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ผ่านการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ Moshi Moshi x MOO DENG พัฒนาคาแรคเตอร์น้องหมูเด้ง แบบ Officially เพื่อทำสินค้าไลฟ์สไตล์คาแรคเตอร์น้องหมูเด้งออกมาวางจำหน่ายแบบหลากหลาย ครอบคลุมความเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ในคอนเซ็ปต์ราคาย่อมเยา เข้าถึงได้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทุกช่วงวัย และพร้อมตอกย้ำรับกระแสความโด่งดัง เนื่องจากน้องหมูเด้งเรียกว่าเป็นที่ชื่นชอบของทุกเพศทุกวัย โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาสินค้าขึ้นมาเพื่อเอาใจกลุ่มแฟนคลับทั่วประเทศ

สำหรับ Moshi Moshi x MOO DENG จะมีสินค้าจัดเต็มมากมาย ที่เต็มไปด้วยความน่ารักของน้องหมูเด้ง อาทิ สติ๊กเกอร์ลายสุดคิ้วท์ หมอนไดคัท สายห้อยบัตร กระเป๋านุ่มนิ่ม กระบอกน้ำร้อนเย็น รองเท้าแตะ และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย ในราคาเริ่มต้นเพียง 20 บาท เท่านั้น เหมือนยกน้องหมูเด้งมาไว้ที่นี่ โดยวางเป้าขยายฐานลูกค้าทุกช่วงวัย เริ่มจัดจำหน่ายที่ร้าน Moshi Moshi จำนวน 107 สาขา และช่องทางออนไลน์ของ Moshi Moshi ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Moshi Moshi: https://www.facebook.com/moshimoshi.jp นอกจากนี้ ได้จัดโปรโมชันพิเศษ เพียงซื้อสินค้าครบ 199 บาทขึ้นไป รับฟรี! พัดหมูเด้ง จำกัด 1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์ สินค้ามีจำนวนจำกัด สิ้นสุด 31 มกราคมนี้ หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ที่ร่วมสมทบทุนในโครงการ "หมูเด้ง" ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ เพื่อสนับสนุนในการดูแลชีวิต และสวัสดิภาพของสัตว์ป่านานาชนิด จำนวน 500,000 บาท โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมไทย พร้อมทั้งสนันสนุนการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างยั่งยืนง โดยคำนึงถึงความสำคัญของการช่วยเหลือในทุกภาคส่วน  ทั้งเพื่อนมนุษย์ สิ่งมีชีวิต  และสิ่งแวดล้อม

“บริษัทฯ ต้องการออกสินค้ามาเพื่อตอบโจทย์ตลาดที่กำลังชื่นชอบน้องหมูเด้งอย่างมาก จึงได้ร่วมมือกับทางองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย (ZPOT) เพื่อขออนุญาตในการพัฒนาคาแรคเตอร์น้องหมูเด้งแบบ Officially เพื่อทำสินค้าไลฟ์สไตล์คาแรคเตอร์น้องหมูเด้งออกมาจำหน่าย โดยได้กระแสตอบรับดีมาก เพราะน้องหมูเด้งเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทุกกลุ่มช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็ก กลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือกลุ่มผู้ใหญ่ กลุ่มครอบครัว เรียกได้ว่าเหมาะกับทุกคน แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวก็มาเหมาในสาขาท่องเที่ยว เพราะจุดเด่นของ MOSHI คือการพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์ในคอนเซ็ปต์ราคาย่อมเยาเข้าถึงได้ ยิ่งทำให้ถูกใจกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายสง่า กล่าว

‘วีระศักดิ์ โควสุรัตน์’ ซัดคนบางกลุ่มไร้จิตสำนึก เผาป่า อช.ดอยสอยมาลัยฯ หวังเพียงได้หญ้าใหม่ไว้เลี้ยงวัว

(3 ก.พ. 68) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประธานสภาลมหายใจกรุงเทพ เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าในเขตพื้นที่ภาคเหนือของไทย ว่า ขณะนี้ อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย-ไม้กลายเป็นหิน มีไฟป่ามากที่สุดในประเทศแล้ว เนื่องจากมีการจุดเผา ร่วมสิบกองในเวลาใกล้ ๆ กัน

ถึงแม้ว่า เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ จะสนธิกำลังกัน 75 นาย แต่หน้าผาสูงชันมาก เป็นอุปสรรคที่จะเข้าไปถึงจุดที่ไฟไม้ได้อย่างยากลำบาก

นายวีระศักดิ์ ระบุว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้น ได้รับแจ้งข่าวว่ามาจากการเผาป่าเอาหญ้าใหม่ในหน้าฝน เพื่อนำไปเลี้ยงวัว ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้จิตสำนึก เพราะส่งผลให้ฝุ่นพิษกระจายไปทั่ว เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย แพร่ น่าน รวมถึงจังหวัดในภาคเหนือและอีกหลายจังหวัดในภาคกลาง และขอประณามการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าวที่เลี้ยงวัวบนปอดคน โดยไม่สนใจผลกระทบต่าง ๆ ที่จะตามมา

‘แคนาดา’ สู้ไม่ถอย ตั้งกำแพงภาษีสินค้าตอบโต้ ‘สหรัฐฯ’ พร้อมจ่อฟ้อง ‘ทรัมป์’ ละเมิดกฎหมายการค้าโลก

(3 ก.พ. 68) สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Canada to take legal action against US for tariffs ระบุว่า แคนาดาเตรียมใช้กลไกระหว่างประเทศยื่นฟ้องสหรัฐอเมริกา กรณี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศนโยบายขึ้นภาษีร้อยละ 25 กับสินค้าที่นำเข้าจากแคนาดา โดยเจ้าหน้าที่แคนดาที่ไม่ขอระบุชื่อ ให้ข้อมูลว่า การขึ้นภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ ทำนั้นผิดกฎหมายและไร้เหตุผล นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา จัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) นายกรัฐมนตรีแคนาดา ได้ใช้นโยบาย “ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน” ขึ้นภาษีร้อยละ 25 กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน

ทรัมป์ใช้มาตรการภาษีนำเข้าร้อยละ 25 กับสินค้าของแคนาดาทั้งหมด ยกเว้นผลิตภัณฑ์พลังงาน เช่น น้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้า ซึ่งจะมีอัตราภาษีร้อยละ 10 เมื่อเข้าสู่สหรัฐฯ ซึ่งมาตรการภาษีร้อยละ 25 นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 2568 เป็นต้นไป ส่วนมาตรการภาษีพลังงานจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. 2568 ขณะที่ฝั่งแคนาดากำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จำนวน 1,256 รายการ หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากสหรัฐฯ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 2568 เช่น   น้ำส้ม เนยถั่ว ไวน์ เบียร์ มอเตอร์ไซค์ เครื่องสำอาง และอื่นๆ ซึ่งจะมีมูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญแคนาดา (ราว 7.2 แสนล้านบาท)

โดยสินค้าที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย มูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญแคนาดา (ราว 8.4 หมื่นล้านบาท) เครื่องใช้ไฟฟ้าและของใช้ในครัวเรือนอื่นๆ มูลค่า 3.4 พันล้านเหรียญแคนาดา (ราว 8.16 หมื่นล้านบาท) ผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษและกระดาษ มูลค่า 3 พันล้านเหรียญแคนาดา (ราว 7.2 หมื่นล้านบาท) นอกจากนั้น รัฐบาลแคนาดา จะประกาศรายการสินค้าเพิ่มเติมในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถบรรทุก รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เหล็กและอลูมิเนียม ผลไม้และผักบางชนิด ผลิตภัณฑ์อากาศยาน ซึ่งการนำเข้าสินค้าเหล่านี้มีมูลค่ารวม 125,000 ล้านเหรียญแคนาดา (ราว 3 ล้านล้านบาท)

แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแคนาดา อธิบายว่า นโยบายของทรัมป์ละเมิดพันธกรณีทางการค้าระหว่างสองประเทศภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีและภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) และหากแคนาดามีทางเลือกทางกฎหมายอื่นก็จะพิจารณาทางเลือกเหล่านั้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ยอมรับว่า ทั้งมาตรการของสหรัฐฯ และของแคนาดา ในการตอบโต้กันครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดา แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 2 ก.พ. 2568 รัฐบาลแคนาดา กล่าวว่า จะจัดเตรียมกลไกให้ธุรกิจในแคนาดาได้รับการผ่อนปรนจากภาษีศุลกากรตอบโต้ ภายใต้กระบวนการที่เรียกว่า “การผ่อนปรน” ธุรกิจในแคนาดาสามารถยื่นขอผ่อนปรนหรือขอคืนเงินภาษีศุลกากรได้ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขบางประการ

ทรัมป์สั่งจัดเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีนเป็นวงกว้าง พร้อมเรียกร้องให้ประเทศเหล่านี้ควบคุมการไหลเข้าของเฟนทานิล และผู้อพยพผิดกฎหมายในกรณีของแคนาดาและเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐอเมริกา การกระทำของทรัมป์ทำให้เกิดสงครามการค้าที่อาจขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกและจุดชนวนให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออีกครั้ง ทั้งนี้ เม็กซิโกและแคนาดาเป็นคู่ค้ารายใหญ่สองรายของสหรัฐฯ

‘ทักษิณ’ สิ้นมนต์ขลัง!! ‘ฝั่งน้ำเงิน’ ขึ้นผงาด ‘ผู้กองธรรมนัส’ เดินเกมพลาด!! ปรากฏการณ์!! สมานฉันท์การเมือง ‘สิงห์บุรีโมเดล’ ด้วยท่าที ‘ถ้อยทีถ้อยอาศัย’

(3 ก.พ. 68) ณ เวลานี้ ถึงแม้ว่า ผลการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายกฯ อบจ. 2568 ทางกกต. ยังไม่ประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการ แต่จากการนับคะแนนนั้น ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า ‘ใครแชมป์ – ใครชวด’ 

การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นที่จับตามองของทางหลายๆ ฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการวัดพลังกัน ระหว่าง บ้านใหญ่,บ้านใหม่,กระแสพรรค,ความกว้างขวางของตัวผู้สมัคร ฯลฯ 

แน่นอนว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น แต่ก็ย่อมจะส่งผลไปยัง การเมืองในระดับชาติ เพราะพรรคการเมืองใหญ่ ทั้งในฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ก็ส่งผู้สมัครกันหลายคน ทั้งแบบอิสระไม่ระบุพรรค แต่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทั้งจังหวัดก็รู้ดีว่า ‘คนนี้ เป็นคนของใคร’ 

และอีกแบบที่ ลงในนามพรรค เปิดหน้าสนับสนุน ถึงขั้นลงทุนเดินทางไปปราศรัยด้วยตัวเอง อย่างเช่นกรณีของท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ขึ้นเดินสายขึ้นเวที ปลุกกระแสมวลชน หวังโกยคะแนน ให้เพื่อไทย แลนด์ไสด์ ในศึกครั้งนี้

แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น ดูเหมือนว่า ‘ทักษิณ’ จะสิ้นมนต์ขลังเสียแล้ว

จากข้อมูลที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รวบรวมไว้ ในจังหวัดที่ ทักษิณ ได้ไปขึ้นเวทีจับไมค์ ปรากฏว่า  

1. เชียงราย   แพ้ (แพ้ตระกูลวันไชยธนวงศ์)

2. เชียงใหม่  ชนะ (ฉิวเฉียด)

3. ลำปาง  ชนะ (เครดิต ตระกูลโล่ห์สุนทร)

4. ลำพูน แพ้ (ส้ม ชนะ ตระกูล วงศ์วรรณ)

5. นครพนม  ชนะ (ชนะตระกูล โพธิ์สุ)

6. บึงกาฬ  แพ้ (แพ้ตระกูล ทองศรี)

7. หนองคาย  ชนะ (ล้มแชมป์เก่าได้)

8. มหาสารคาม  ชนะ (เครดิต ตระกูล จรัสเสถียร ล้มแชมป์เก่า)

9. ศรีสะเกษ  แพ้ (ไล่หนู ตีงูเห่า แต่แพ้ตระกูล ไตรสรณกุล)

10. มุกดาหาร แพ้ (มีกำหนดการหาเสียงแต่ไม่ไป)

สรุป 10 จังหวัด แพ้ 5 จังหวัด ในจังหวัดที่ชนะ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องบารมีนักการเมืองในพื้นที่และบ้านใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ซึ่งติดกับเชียงใหม่ ฐานเสียงหลักของพรรคเพื่อไทย ซึ่ง ‘ทักษิณ’ เองก็หมายมั่นปั้นมือที่จะให้ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตนายกฯ อบจ. ตัวแทนบ้านใหญ่ จากพรรคเพื่อไทย เข้าครองเก้าอี้นี้ อีกหนึ่งสมัย แต่ก็ต้องพ่ายแพ้อย่างยับเยินให้กับ นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้สมัครนายกฯ อบจ. จากพรรคประชาชน

ส่วนที่ ‘เชียงใหม่’ แม้ชนะ  แต่ ‘ส้ม’ ไล่จี้!! หลักสามแสน ‘ชนะแค่สองหมื่น’ ไม่ถือว่าสำเร็จ!! 

ส่วนทางฝั่ง ‘สีน้ำเงิน’ นั้น หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการปฏิบัติงานด้วยการสวมหมวก ‘มท.1’ นั้น ‘มท.หนู’ ย่อมต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่สามารถออกไปสนับสนุนผู้สมัครคนใดได้ เนื่องจากการปกครองส่วนท้องถิ่น ตามหลักการบริหารราชการแผ่นดินแบบกระจายอำนาจนั้น กระทรวงมหาดไทย จะต้องมีส่วนเข้าไปกำกับดูแล ‘องค์การบริหารส่วนจังหวัด’ หรือพูดกันง่ายๆ ก็คือ ‘มท.หนู’ นั้นจะต้องมีบทบาทเข้าไปเกี่ยวข้องกับ นายกฯ อบจ. ฉะนั้นการวางตัวเป็นกลางของ ‘มท.หนู’ ย่อมเหมาะสมแล้ว

แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ออกตัวสนับสนุนผู้สมัคร แต่ด้วยพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีเครือข่ายมากมาย ในคอนเน็คชั่นบ้านใหญ่หลายจังหวัด จึงทำให้ครองแชมป์ได้ในหลายพื้นที่ ทั้ง บึงกาฬ บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ สตูล เชียงราย ลพบุรี พังงา พัทลุง เป็นต้น ทั้งที่พรรคภูมิใจไทยประกาศไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.ในนามพรรคก็ตาม

ส่วน ‘พรรคกล้าธรรม’ ของ ‘ผู้กองธรรมนัส’ ที่อุตส่าห์ ไปดึงนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว หรือ กำนันศักดิ์ อดีตนายกฯ อบจ.สุราษฎร์ธานี สมัยที่ผ่านมา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ งานนี้ เพราะผู้กองมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีจาก ‘คดีแป้ง’ จึงทำให้ไม่กล้าเปิดหน้า ว่าส่งในนาม ‘พรรคกล้าธรรม’ ซึ่งสุดท้ายแล้ว นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว ก็พ่ายแพ้ให้กับ ‘ป้าโส’ นางโสภา กาญจนะ ภรรยานายชุมพล กาญจนะ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติภาคใต้ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายสมัย ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้นกว่า 205,000 คะแนน 

ซึ่งงานนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ก็ยังมีฐานเสียงที่เหนียวแน่นในภาคใต้ โดยนอกจากที่จ.สุราษฎร์ธานี จะชนะขาดแล้ว ที่จ.พัทลุง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร ก็ยังคว้าแชมป์ ไม่เสียแรงที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีให้กำลังใจ คล้องพวงมาลัย ให้แก่นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร และลูกทีมผู้สมัครสมาชิก อบจ.พัทลุง

มาที่จังหวัดนราธิวาส กับความผิดหวังอีกครั้งของ ‘พรรคกล้าธรรม’ นายอับดุลลักษณ์ สะอิ นักธุรกิจชื่อดัง ที่ได้รับแรงหนุนจาก สองสส.นราธิวาส ‘พรรคกล้าธรรม’ คือสองพี่น้องนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ก็พ่ายแพ้ให้กับ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายกฯ อบจ.ห้าสมัย ไปอย่างขาดลอย ทำให้พรรคกล้าธรรม ผิดหวังไปอีกจังหวัด

มาถึงจังหวัด ‘สิงห์บุรี’ ที่จังหวัดนี้ไม่เน้นบ้านใหญ่ แต่เน้นการเมืองใหม่ สส.หนึ่งเดียวของจังหวัดนี้ได้แก่ นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีพี่ชายเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นั่นก็คือ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ หรือ ‘พี่โอ๋’ นักการเมืองผู้มากด้วยน้ำใจ เข้าถึงได้กับคนทุกกลุ่ม ด้วยท่าทีถ้อยทีถ้อยอาศัย เป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้เสมอ 

นายศุภวัฒน์ เทียนถาวร คือบุคคลที่นายชัยวุฒิ ให้การสนับสนุน ให้ลงเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ในครั้งนี้ เพื่อเข้ามารับใช้พ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้  นายศุภวัฒน์ ก็ได้รับโอกาสเข้ามาทำงาน ในฐานะนายกฯ อบจ. เป็นที่น่าจับตามองว่า การเมืองในจังหวัดสิงห์บุรีนั้น เป็นการเมืองในรูปแบบใหม่ เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่ใช้ความรุนแรง ไร้ซึ่งความขัดแย้ง โดย ‘โอ๋ ชัยวุฒิ’ เป็นผู้เดินหน้าสร้างความสามัคคีในการเมือง สร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ มีผู้สมัครเพียงคนเดียว คือ นายศุภวัฒน์ เทียนถาวร หมายเลข 1 หรือ ‘ตุ้ม’ อดีตนายกฯ อบจ.สิงห์บุรี สมัยที่ผ่านมา โดยไม่มีผู้สมัครรายอื่นลงสมัครร่วมชิงชัย

ซึ่งตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 111 นั้น ผู้สมัครจะได้รับเลือกตั้ง ก็ต่อเมื่อได้รับคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น และมากกว่าคะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใด หากผู้สมัครได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น หรือไม่มากกว่าคะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใด ให้ ผอ.กกต.จังหวัดดำเนินการให้มีการเลือกตั้งใหม่ 

แต่จากผลการเลือกตั้งที่ออกมานั้น นายศุภวัฒน์ เทียนถาวร ก็ได้รับความไว้วางใจอย่างท่วมท้น จากชาวสิงห์บุรี โดยจะปฏิบัติหน้าที่ได้นั้น ก็ต้องรอทางกกต. ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการเสียก่อน 

การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในครั้งนี้ ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่การปฏิบัติหน้าที่ ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ของนายกฯ อบจ. คนใหม่ (ทั้งหน้าเก่าและหน้าเดิม) เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น 

จับตาดูกันต่อไป!! ว่าพวกเขา จะทำงานได้ดี สมกับที่ได้รับความไว้วางใจหรือไม่

อินเตอร์ลิงค์ จัดงานขอบคุณผู้ประกอบการหน้าร้าน พาพักผ่อนริมทะเลชายหาดจอมเทียนสุดหรู พร้อมเดินหน้าสานต่อความเชื่อมั่นให้เหนียวแน่นและยั่งยืน

(3 ก.พ. 68) "INTERLINK THANK YOU VIP 2025" ส่งมอบความสุข แทนคำขอบคุณให้ผู้ประกอบการหน้าร้าน ด้วยการพักผ่อนริมทะเลชายหาดจอมเทียนสุดหรู สานต่อความเชื่อมั่นให้เหนียวแน่น ก้าวพาธุรกิจสู่การเติบโต อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนร่วมกัน

กระชับความสัมพันธ์ คืนกำไรด้วยความสุข บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงาน "INTERLINK THANK YOU VIP 2025" ให้คู่ค้าผู้ประกอบการหน้าร้าน มอบประสบการณ์พักผ่อนให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ ร่วมเติมเต็มเก็บเป็นความทรงจำสุดพิเศษ ท่ามกลางธรรมชาติริมทะเลสุดหรู ในบรรยากาศสุดชิล ชมวิวริมทะเลแบบพาโนรามา เพื่อตอบแทนความไว้วางใจ และขอบคุณลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ให้การสนับสนุน และร่วมเดินทางมาทั้งปีด้วยดีเสมอมา ตั้งใจมอบความสุขเหนือระดับที่เต็มไปด้วยความประทับใจ และความสุขแบบไม่รู้ลืม ณ Ocean Marina Hotel Pattaya เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา

ภายในงาน เริ่มต้นด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทีมงานอินเตอร์ลิ้งค์ฯ โดยได้ต้อนรับด้วยเครื่องดื่มแสนสดชื่น เพื่อเตรียมความพร้อมให้ทุกท่านได้ไปดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างเต็มที่ สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศสุดหรูของชายหาดจอมเทียน ท่ามกลางทิวทัศน์เวิ้งน้ำที่งดงาม มองเห็นท่าเรือยอร์ชที่จอดเทียบท่าเรียงรายอย่างตระการตา อีกทั้งทุกท่านยังจะได้ดื่มด่ำกับ Exclusive Dinner สุดพิเศษแห่งค่ำคืน ในธีมแคมป์ปิ้ง พร้อมแต่งกายสบาย ๆ สไตล์ชิล ๆ ริมทะเล ภายใต้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย และเป็นกันเอง 

นำโดย นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ได้ขึ้นกล่าวขอบคุณลูกค้า และพันธมิตรทุกท่าน พร้อมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทาง และนวัตกรรมโซลูชันล้ำสมัยแห่งปี 2025 นอกจากนี้ ยังมีการอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลที่พร้อมรองรับการพัฒนาระบบโครงข่ายพื้นฐานในปีนี้ ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก LINK AMERICAN & 19" GERMANY EXPORT RACK อีกทั้ง ยังเผยข่าวดีเกี่ยวกับความก้าวหน้าของบริษัทฯ ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ LINK AMERICAN CABLING ให้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน และยังได้นำโซลูชันมาจัดแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญอย่างทรางประสิทธิภาพ ที่มาพร้อมกับสินค้า และอุปกรณ์มากด้วยคุณภาพอย่างครบวงจรให้ลูกค้าทุกท่านได้เห็นที่งานนี้อีกด้วย ไฮไลต์สำคัญของงาน มีโซนกิจกรรมร่วมทำของที่ระลึกสุดพิเศษ เทียนหอม ที่อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ได้จัดเตรียมไว้ให้แขกคนสำคัญโดยเฉพาะ เพื่อบันทึกเป็นความทรงจำอันแสนอบอุ่นร่วมกัน 

งานนี้ ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากคู่ค้าหน้าร้านกว่า 120 ท่าน ที่มาร่วมสังสรรค์ และแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกัน เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าคนสำคัญนั้น อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ได้เนรมิต จัดสรรค์ประสบการณ์พักผ่อนอย่างมีระดับ ทุกท่านจะได้ลิ้มรสอาหารระดับพรีเมียม ดื่มด่ำกับอาหารเลิศรสที่คัดสรรมาอย่างดี ชมวิวริมทะเลแบบพาโนรามา 360 องศา พร้อมมองเห็นพระอาทิตย์อัสดงที่สะท้อนประกายระยิบระยับบนผืนน้ำ ภายใต้สายลมเย็นที่พัดผ่านให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และในค่ำคืน ทุกท่านยังได้มองเห็นท้องฟ้าที่ เคียงคู่กับพระจันทร์เต็ม โอบล้อมด้วยดวงดาวพร่างพราว พร้อมเพลิดเพลินกับเสียงดนตรีอันครื้นเครงที่ได้มาร่วมสร้างสีสันให้ตลอดทั้งค่ำคืน เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษที่เต็มอิ่มไปด้วยความสนุกสนาน และความประทับใจ

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมมากมาย เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมสนุก เพื่อลุ้นรับแจกของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เตรียมไว้เซอร์ไพรส์แทนคำขอบคุณให้กับลูกค้าคนสำคัญตลอดทั้งงาน พร้อมกันนี้ยังมีการแสดงมายากลสุดตื่นตาตื่นใจจากนักแสดงมืออาชีพ ที่มาร่วมสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะตลอดทั้งคืน

เช้าวันถัดมา ลูกค้าคนสำคัญได้ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เพื่อเสริมสิริมงคล และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข บรรยากาศของพิธีเป็นไปอย่างสงบ อบอวลด้วยความอบอุ่น และความปรารถนาดีต่อกัน นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ช่วยเติมเต็มความทรงจำดี ๆ และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอินเตอร์ลิ้งค์ และลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

งาน INTERLINK THANK YOU VIP 2025 ไม่เพียงเป็นการตอบแทนคำขอบคุณ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ และแสดงความซาบซึ้งต่อการสนับสนุนที่ดีจากลูกค้า และพันธมิตร อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จึงขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ และพร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างประสบการณ์พิเศษ พร้อมนำนวัตกรรมที่ดีที่สุดมาตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้า เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ประเทศไทย...ยังคงห่างไกลจากความเป็น ‘รัฐล้มเหลว’ ชี้ การเมือง – เศรษฐกิจ – สังคม ยังมั่นคงแข็งแรง

(3 ก.พ. 68) เร็ว ๆ นี้มีบทความเศรษฐกิจของสื่อแห่งหนึ่งได้ตั้งประเด็นว่า “ประเทศไทยใกล้จะเป็น Failed State ?” โดยมีการหยิบยกเอาเกณฑ์หรือตัววัดความเป็นรัฐล้มเหลว 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) การเมือง (2) เศรษฐกิจ และ (3) สังคม แล้ว ประเทศไทยเข้าสู่สถานการณ์เช่นที่ว่า “จริงหรือไม่”

นิยามความหมายของ ‘รัฐล้มเหลว’ คือ ประเทศที่สูญเสียการควบคุมตนเอง อันเนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความไม่มั่นคงทางการเมือง ความไม่สงบทางการเมือง และไม่มีการปกครอง ทั้งนี้ “รัฐล้มเหลว” ไม่ใช่คำศัพท์อย่างเป็นทางการที่ใช้ในกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่ได้หมายความว่า “รัฐบาลที่มีสภาพดังกล่าวได้ล่มสลายโดยสมบูรณ์”

อย่างไรก็ตาม คำว่า "รัฐล้มเหลว" บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า “รัฐนั้นกำลังเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความไม่มั่นคงอย่างรุนแรง และมีความเสี่ยงที่จะปกครองไม่ได้เลย” ซึ่งในบางกรณีมีการใช้คำว่า “รัฐเปราะบาง” โดยทั่วไป คำว่า “รัฐล้มเหลว” หมายความถึง “รัฐชาติที่มีอำนาจอธิปไตย แต่สูญเสียความสามารถหลักสองประการ ได้แก่ ความสามารถในการรักษาอำนาจเหนือประชาชนและดินแดนของตนเอง และความสามารถในการปกป้องพรมแดนของประเทศตนเอง”

ในหลาย ๆ กรณีที่รัฐบาลของ “รัฐล้มเหลว” สูญเสียความสามารถในการให้บริการสาธารณะพื้นฐาน บังคับใช้กฎหมาย หรือปกป้องพลเมืองจากความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอก กรณีร้ายแรงของ “รัฐล้มเหลว” อาจประสบกับสงครามกลางเมือง ความอดอยาก หรือการอพยพประชาชนจำนวนมาก โดย “รัฐที่ล้มเหลว” มักตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเครือข่ายอาชญากร องค์กรก่อการร้าย และมหาอำนาจระหว่างประเทศ ซึ่งใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคงของรัฐเหล่านี้

มีสาเหตุที่เป็นไปได้หลายประการของรัฐที่ล้มเหลว ตั้งแต่ความไม่มั่นคงทางการเมือง ไปจนถึงการละเลยทางเศรษฐกิจและการขาดการปกครอง สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดบางประการของรัฐที่ล้มเหลว ได้แก่ :

1. ความไม่มั่นคงทางการเมือง : การขาดรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจปกครองที่มีประสิทธิภาพอาจนำไปสู่ความไม่มั่นคงทางการเมืองและความวุ่นวาย ซึ่งอาจรุนแรงขึ้นได้จากการทุจริต การบริหารจัดการทรัพยากรที่ไม่เหมาะสม หรือความขัดแย้งภายใน

2. การบริหารจัดการเศรษฐกิจที่ผิดพลาด : รัฐที่ล้มเหลวมักมีประวัติการบริหารจัดการเศรษฐกิจที่ผิดพลาดและการละเลย ส่งผลให้เกิดความยากจน การว่างงาน และปัญหาอื่น ๆ

3. ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม : การเข้าถึงทรัพยากร การศึกษา และสุขภาพที่ไม่เท่าเทียมกันกระทั่งสร้างความแตกแยกอย่างมากมายขึ้นภายในประเทศ และนำไปสู่ความขัดแย้งจนเกิดความไม่สงบขึ้น

4. ความขัดแย้งในภูมิภาค : สงคราม การก่อความไม่สงบ และความขัดแย้งอื่น ๆ ระหว่างรัฐหรือกลุ่มต่างๆ สามารถทำให้ภูมิภาคไม่มั่นคงและนำไปสู่รัฐที่ล้มเหลว เกิดสงครามกลางเมืองที่ร้ายแรงมาก จนกระทั่งสามารถทำลายรัฐบาลและโครงสร้างทางสังคมของประเทศได้

5. การแทรกแซงจากต่างประเทศ : บางครั้งรัฐที่ล้มเหลวอาจเป็นผลจากการแทรกแซงจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ซึ่งอาจรวมถึงการแทรกแซงทางทหาร การคว่ำบาตร และการแทรกแซงทางการเมืองภายในประเทศในรูปแบบอื่น ๆ

6. แรงกดดันจากต่างประเทศ : การแทรกแซงจากต่างประเทศในวงกว้าง เช่น การคว่ำบาตรทางการค้าหรือการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ อาจทำให้เกิดความยากลำบากทางเศรษฐกิจและนำไปสู่ความไม่มั่นคงในประเทศ

7. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : ประเทศที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติอย่างมากในการดำรงชีพอาจมีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมือง

ทั้งนี้ ด้วยเกณฑ์หรือตัววัดที่บทความ “ประเทศไทยใกล้จะเป็น Failed State ?” ได้หยิบยกมานั้น แม้จะเป็นไปตามสาเหตุข้อ 1 -3 ของการนำไปสู่ความเป็น “รัฐล้มเหลว” ก็ตาม แต่ก็สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยนั้น ยังคงห่างไกลจากความเป็น “รัฐล้มเหลว” อย่างมากมาย สิ่งที่เห็นเป็นเรื่องแรกคือ “การพ้นจากตำแหน่งของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 30” ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 จากกรณีทูลเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง ๆ ที่นายพิชิตเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 

สำหรับการตรวจสอบและดำเนินการบังคับใช้กฎหมายนั้น ยังคงมีการดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ แต่คดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยทุกวันนี้ส่วนหนึ่งมีความซับซ้อนและยุ่งยากกว่าในอดีตมาก ทั้งหลายคดียังเกี่ยวข้องกับบุคคลและองค์กรนอกประเทศอีกด้วย การดำเนินการจึงเป็นไปด้วยความล่าช้า แต่ไม่ใช่ว่า ไม่มีการดำเนินการใด ๆ เลย สำหรับ สาเหตุจากการบริหารจัดการเศรษฐกิจที่ผิดพลาดนั้น ที่สุดแล้วหลังจากความจริงปรากฎจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ดังเช่น “กรณีการรับจำนำข้าว ซึ่งแม้แต่อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี และอดีตข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องต้องถูกตัดสินจำคุก” สำหรับสาเหตุจากความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมนั้น เป็นเรื่องที่ย้อนแย้งกับบริบททางสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง ไทยเราเป็นประเทศแรก ๆ ของทวีปเอเชียที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม มีระบบดูแลสุขภาพที่ดีติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก แต่การกระทำความผิดตามกฎหมายอย่างชัดเจน แล้วอ้างความชอบธรรมว่าเป็นสิทธิเสรีภาพนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง และตลอด 93 ปีในระบอบประชาธิปไตยของไทยนั้น รัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ไม่ครบเทอม และด้วยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ผู้ที่ประพฤติหรือมีพฤติการณ์ทุจริตและประพฤติมิชอบนั้นจะอยู่ในตำแหน่งได้ยาก เพราะในที่สุดแล้วจะต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดีตามโทษานุโทษที่ได้ก่อกรรมทำขี้น

TCL ยกทัพสินค้า โชว์ความยิ่งใหญ่ในงาน CES 2025: ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เผยโฉมนวัตกรรมจอแสดงผล – เปิดตัว AI สุดล้ำในผลิตภัณฑ์ใหม่

TCL Electronics แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคชั้นนำและแบรนด์ผู้ผลิตทีวีอันดับ 2 ของโลก ยกทัพสินค้าบุกงาน CES 2025 ณ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เผยโฉมนวัตกรรมใหม่ เทคโนโลยีจอแสดงผลหลากหลายประเภท เปิดตัว AI สุดล้ำในผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมระบบนิเวศบ้านอัจฉริยะแบบครบวงจร สะท้อนความมุ่งมั่นการมอบไลฟ์สไตล์ที่ชาญฉลาด สร้างสุขภาวะที่ดี และสร้างแรงบันดาลใจสู่ความยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก

บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) ประกาศแต่งตั้ง นายแกรี่ จ้าว ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ในช่วงต้นปี 2025 ทั้งนี้ นายแกรี่ ถือเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศของ TCL Thailand การันตีด้วยยอดขายที่เติบโตเป็นอย่างมากในปี 2024 ที่ผ่านมา

นายแกรี่ จ้าว กล่าวว่า “ในปีนี้ TCL มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ และ AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน และเป็นฟังก์ชันที่ช่วยปกป้องผู้บริโภคจากสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนไป อาทิ เครื่องปรับอากาศที่มีนวัตกรรมฟอกกลิ่น ลดฝุ่น ลดการใช้พลังงาน

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการออกแบบและเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากความมุ่งมั่นในการยกระดับเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่ง TCL ได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปจัดแสดง ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์จริงในงาน CES 2025 ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Consumer Technology Association (CTA)”

ทั้งนี้ TCL ประกาศศักดาความเลิศทางเทคโนโลยี ด้านนวัตกรรมจอแสดงผล และ โซลูชันสมาร์ทโฮม โดยมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ได้แก่ สมาร์ทโฟน TCL 50 PRO NXTPAPER 5G ซึ่งได้รับรางวัลนวัตกรรม CES 2025 อันทรงเกียรติในประเภทอุปกรณ์พกพา อุปกรณ์เสริม และ แอป พร้อมด้วย 6 รางวัลจากงาน Global Top Brands Awards Ceremony (GTB) ประจำปี 2024-2025 โดย International Data Group (IDG) ซึ่งจัดโดย Asia Digital Group และ Europe Digital Group ร่วมกับ TWICE โดยได้รับการสนับสนุนจาก IDC ถือเป็นรางวัลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีสินค้าที่ได้รับรางวัลตั้งแต่ ทีวีและเครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงเครื่องซักผ้า TCL Premium QD-Mini LED TV X11K ได้รับรางวัล "Mini LED Display Technology Innovation Award" จากรายละเอียดภาพ ความคมชัด และความลึกที่ไม่มีใครเทียบได้  , เครื่องปรับอากาศรุ่น FreshIN ได้รับรางวัล "Smart Fresh Air Technology Innovation Award", เครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่น Super Drum ของ TCL ได้รับรางวัล "Clean Technology Innovation Gold Award" 

นอกจากนี้ TCL ยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน "10 แบรนด์ยอดนิยมแห่งยุโรป 2024-2025" และ "10 แบรนด์ทีวีระดับโลก 2024-2025" ซึ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำและมีอิทธิพลในอุตสาหกรรม ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ เช่น สมาร์ทล็อค แว่น AR RayNeo และ เราเตอร์เคลื่อนที่ ยังได้รับรางวัล "Best of CES 2025" จากสื่อต่างประเทศหลายรางวัล, รางวัล “CES Picks Award” ประจำปี 2025 ในประเภท TechRadar Pro ในผลิตภัณฑ์ TCL LINKPORT IK511 ซึ่งเป็นดองเกิล 5G RedCap ของ TCL พร้อมด้วย TCL 50 PRO NXTPAPER 5G และ ท้ายสุดกับรางวัล “Circana Consumer Electronics Performance” Award ประจำปี 2025 สำหรับส่วนแบ่งการตลาดทีวีที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในอเมริกาเหนือ

>> ปฏิวัติเทคโนโลยีจอแสดงผล 
TCL ผู้นำด้านนวัตกรรมจอแสดงผล โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง TCL X11K QD-Mini LED TV ที่มาพร้อมนิยามความบันเทิงภายในบ้านรูปแบบใหม่ ด้วยโซนหรี่แสงเฉพาะจุดกว่า 14,000 โซน ซึ่งให้ความคมชัดและความแม่นยำในการแสดงภาพ ยกระดับด้วยเทคโนโลยี All-domain Halo Control ให้ประสบการณ์การรับชมเสมือนจริง 

พร้อมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Bang & Olufsen แบรนด์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ เพื่อนำเสนอโซลูชันเสียงเฉพาะตัวให้แก่ผู้ใช้งาน รวมถึง TCL A300 Series TV ดีไซน์บางเฉียบและสไตล์โดดเด่น พร้อมประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียม 

ภายในงานยังมีการจัดแสดง TV QD-Mini LED ขนาด 115 นิ้ว รุ่น QM891G ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วย Q85 Soundbar คู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับทีวีขนาดใหญ่พร้อมประสิทธิภาพเสียงที่สมจริง และ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม R83 Professional Monitor Series ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การรับชมภาพที่มีความแม่นยำสูงระดับพิกเซล

>> เทคโนโลยี NXTPAPER 4.0 และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
นอกจากนี้ TCL ยังได้นำเสนอ NXTPAPER 4.0 เทคโนโลยีจอแสดงผลกระดาษอิเล็กทรอนิกส์สี ซึ่งได้รับรางวัลด้านการออกแบบ ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานหน้าจอในระยะยาว โดยเปิดตัวใน TCL NXTPAPER 11 Plus Tablet และ มีแผนขยายไปยังสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ 

อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ แว่นตาอัจฉริยะ RayNeo X3 Pro ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AR ด้วยพลังการประมวลผลในตัว ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ภายนอก และมาในรูปแบบของดีไซน์ที่กะทัดรัด และ PLAYCUBE Projector โปรเจกเตอร์พกพาที่มาพร้อมสไตล์และความอเนกประสงค์ ยิ่งไปกว่านั้น TCL ยังจัดแสดงนวัตกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ด้วยโซลูชันห้องนักบินและการขับขี่อัจฉริยะ

>> ผู้บุกเบิกคุณสมบัติ AI และการเชื่อมต่ออัจฉริยะ 
ภายในงาน CES 2025 ยังได้เปิดตัว TCL Ai Me หุ่นยนต์ AI โมดูลาร์รุ่นแรกของโลก มาตรฐานทรงแคปซูลที่สามารถถอดประกอบได้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ผสมผสานให้เข้ากับการใช้ชีวิตอัจฉริยะได้อย่างลงตัว ยกระดับชีวิตประจำวันด้วยการโต้ตอบอย่างเป็นธรรมชาติ มอบประสบการณ์ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคลได้ 

อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ ทีวีรุ่นเรือธงต่างๆ ของ TCL ที่ผนวกโมเดล Gemini ของ Google และมีแผนเปิดตัว Google TV รุ่นใหม่ที่มีความสามารถของ Gemini ในปี 2025 โดยมุ่งปฏิวัติความบันเทิงภายในบ้านที่สามารถโต้ตอบได้อย่างสมจริงมากขึ้น

ด้านการเชื่อมต่อเครื่องเราเตอร์ TCL LINKHUB HH516 5G AI CPE ที่มาพร้อมความเสถียรของเครือข่ายอัจฉริยะด้วยปริมาณข้อมูลที่สูงขึ้น ความหน่วงต่ำลง และใช้พลังงานน้อยลง และยังจัดแสดง Smart Lock D1 Series รวมถึง D1 Pro ที่มาพร้อมการจดจำเส้นเลือดในฝ่ามือด้วย AI รุ่นใหม่ และ D1 Ultra กลอนประตูอัจฉริยะ 4-in-1 รุ่นแรกของโลกที่รวมกุญแจอัจฉริยะ กล้องรักษาความปลอดภัย กริ่งประตูวิดีโอ และ จอแสดงผลนวัตกรรมขนาด 3.5 นิ้วเข้าไว้ด้วยกัน

>> เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและการออกแบบ
ภายในบูธของ TCL ได้นำเสนอความมุ่งมั่นในการออกแบบที่ตระหนักถึงผู้ใช้งานและนวัตกรรมด้วยบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ มีสไตล์ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยไฮไลท์เป็นรีโมทคอนโทรลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำจากใบชารีไซเคิลและเฟอร์นิเจอร์กระดาษแข็ง เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ต่อแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนของ TCL ในการใช้ชีวิตอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ TCL ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมพร้อมโซลูชันบ้านอัจฉริยะและยั่งยืนอีกด้วย

เครื่องปรับอากาศ TCL FreshIN 3.0 นิยามใหม่ของเครื่องปรับอากาศที่ส่งเสริมสุขภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและความสะดวกสบาย โดยมีช่องรับอากาศบริสุทธิ์แบบยกได้ ทำหน้าที่นำอากาศจากภายนอกเข้ามา กำจัดกลิ่น เพิ่มระดับออกซิเจนภายในห้อง และยังใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน สามารถปรับความถี่ในการทำงานได้อย่างชาญฉลาด อีกทั้งสามารถสั่งการควบคุมด้วยเสียงอัจฉริยะยังช่วยให้ใช้งานแบบแฮนด์ฟรีได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ตู้เย็น TCL FREE BUILT-IN ที่มีดีไซน์บางเฉียบ ประหยัดพื้นที่และใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยถนอมอาหารได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับชุดเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า P680 ที่ออกแบบมาให้สามารถวางซ้อนได้สำหรับพื้นที่จำกัด มาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันรอยยับและมีรอบการทำงานอัจฉริยะเพื่อการดูแลเสื้อผ้าที่ดีที่สุด

หัวใจสำคัญในความพยายามด้านสิ่งแวดล้อมของ TCL คือ ระบบจัดการพลังงานบ้านอัจฉริยะ (Smart Home Energy Management Solution - HEMS) ที่ผสานแผงโซลาร์เซลล์ การกักเก็บพลังงาน และฮีตปั๊มเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

>> ความเป็นเลิศด้านการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก 
ด้วยการเป็นพันธมิตรกับทรัพย์สินทางปัญญาด้านกีฬาและความบันเทิงชั้นนำทั่วโลก ได้แสดงพลังแห่งนวัตกรรมให้กับคนรุ่นใหม่ในงาน CES 2025 TCL ได้ร่วมมือกับ NFL ลีกกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในอเมริกาเหนือ โดยมี Mr. Charles Woodson สมาชิก NFL Hall of Fame ร่วมพบปะกับแฟนๆ ที่งานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง TCL กับผู้ชม

การมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดของ TCL กับชุมชนท้องถิ่นและพันธมิตรระดับโลกได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากผลงานในปี 2024 จากการที่ TCL ครองอันดับ 2ของโลกในด้านการจัดส่งทีวีและในอเมริกาเหนือในด้านปริมาณการขายปลีกทีวีในช่วงสามไตรมาสแรกของปี

สำหรับ TCL Electronics (1070.HK) ถือเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคชั้นนำที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทีวีระดับโลก ก่อตั้งในปี 2524 ปัจจุบัน TCL ดำเนินงานในตลาดมากกว่า 160 แห่งทั่วโลก บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย พัฒนา และผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภค ตั้งแต่ทีวี เครื่องเสียงไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอัจฉริยะ อุปกรณ์เคลื่อนที่ แว่นตาอัจฉริย

‘ดร.สุชัชวีร์’ ยกความมหัศจรรย์ AI พลิกโลกของ DeepSeek ชี้ เป็นความมุ่งมั่นของ "คนจีน" ที่ไม่ยอมแพ้ต่อทุกข้อจำกัด

(3 ก.พ. 68) ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกสภามหาวิทยาลัย CMKL มหาวิทยาลัย AI แห่งแรกของไทย  โพสต์เฟซบุ๊กว่า  "DeepSeek AI กระบี่อยู่ที่ใจ" ทำไม AI จีนถึงเก่งได้ แล้วไทยจะอยู่อย่างไร

"ความมหัศจรรย์" และ "ความน่าสงสัย" ของ "แฟลตฟอร์ม AI" สะท้านโลก "DeepSeek" จากแดนมังกร คืออะไร ผมมีคำตอบ พยายามอธิบายเรื่อง "ยากมาก" แบบง่ายๆครับ

การพัฒนา AI  ระดับสูง จำเป็นต้องใช้ปัจจัย 3 ด้าน และทำไม "DeepSeek" ถึง "มหัศจรรย์" ปนความ "น่าสงสัย"

1. "พลังการคำนวน" จาก "ฮาร์ดแวร์" เครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ AI  ซึ่ง "Nvidia" คือ ผู้นำในการผลิต "GPU" หรือ หน่วยประมวลผลข้อมูล ยิ่งมี GPU เยอะ ก็ยิ่งมี "ประสิทธิภาพ" หรือ "ความเร็ว" ในการคำนวนมากยิ่งขึ้นตาม

มักใช้หน่วย "ความเร็ว PetaFLOPS (PFLOPS)" ซึ่งเป็นหน่วยวัดประสิทธิภาพของการคำนวณ โดย 1 PFLOPS = 1,000 ล้านล้าน (10¹⁵) เลขทศนิยมต่อวินาที

ปัจจุบัน "อีลอน มัสก์" กำลังจะติดตั้งซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ของบริษัท xAI ที่รัฐเทนเนสซี โดยซื้อ GPU รุ่นล่าสุด "ทันสมัยสุด" B200 จาก Nvidia ของ "เจนเซ่น หวง"  ถึง 200,000 ชุด มากที่สุดในโลก โดยมีความเร็วในการคำนวน หลายแสน PetaFLOPS คือ "โคตรเร็ว"

แต่ "DeepSeek" ใช้ "ฮาร์ดแวร์" GPU รุ่นเก่า H800 ของ Nvidia เพียง 2,000 ชุด แถมยัง "ถูกลดสเปค" เพราะโดนกีดกันจากรัฐบาลสหรัฐ ความเร็วน้อยกว่าเครื่องของ "อีลอน มัสก์" เป็นร้อยๆเท่า

นี่จึงเป็น "ความมหัศจรรย์เรื่องแรก"  ที่ "ค่าย AI จีน" ใช้ทรัพยากรน้อยกว่านับร้อยเท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ "ค่าย AI อเมริกัน"

2. "โมเดล" หรือ "ซอฟต์แวร์" ที่ใช้เป็นชุดคำสั่งการคำนวน AI มีความสำคัญมาก เพราะยิ่งมีอัลกอริทึมที่มี "ตัวแปร" เยอะก็ครอบคลุมการคำนวณข้อมูลที่ "ละเอียด" ได้มากกว่า

โมเดลที่นิยมสำหรับการคำนวณ Generative AI ที่เราใช้กันอยู่หรือที่เรียกกันว่า LLM (Large Language Model) หรือ GPT (Generative Pre-trained Transformer) คือ โมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่มาก ที่ได้รับการฝึกฝนบนข้อมูลข้อความจำนวนมหาศาล เพื่อตอบสนองข้อความ ได้อย่างซับซ้อนและเป็นธรรมชาติ

"DeepSeek" เป็น LLM ที่มีตัวแปรมากถึง "685,000 ล้าน!" ตัวแปร ซึ่งมากกว่าตัวแปรของ LLM Opensource ตัวอื่น แต่ที่แตกต่างคือ DeepSeek เป็นโมเดลรุ่นแรกที่ฝึกด้วย 8-bit floating point (FP8) ที่ช่วยลดปริมาณการใช้ GPU แต่ยังสามารถมีตัวแปรจำนวนมาก ในขณะที่โมเดลก่อนหน้านี้ใช้ FP16 ซึ่งทำให้ต้องใช้ GPU ที่มีหน่วยความจำสูงกว่า DeepSeek กว่า 2 เท่า

นี่คือ "ความมหัศจรรย์เรื่องที่สอง" ที่ทำให้ "DeepSeek" มีประสิทธิภาพสูงในต้นทุนที่ต่ำกว่าค่ายอื่น 

3. "ข้อมูลขนาดมหึมา" หรือ Big Data ให้อัลกอรึทึม AI ได้ "เรียนรู้" เพื่อสร้างความฉลาดล้ำเมื่อถูกใช้งาน ซึ่งการได้มาของข้อมูลขนาดมหึมานี้ เป็นความ "น่าสงสัย" ในตัว "DeepSeek" และ แพลตฟอร์ม AI แทบทุกสำนัก เพราะแหล่งข้อมูลมีทั้งจากข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลเฉพาะ ข้อมูลบุคคคล ข้อมูลธุรกิจ ข้อมูลมีลิขสิทธิ์ และข้อมูลที่ AI   สร้างเอง ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพการคำนวนทั้งสิ้น

นี่คือ "ความมหัศจรรย์เรื่องที่สาม" ว่า "DeepSeek" ได้ข้อมูลขนาดมหึมานี้ ในเวลาสั้นๆ จากแหล่งใด 

ดังนั้น "การไขความลับ" แห่งความสำเร็จของ "DeepSeek" จึงยังคงเป็นปริศนา และยังมีเรื่อง "งบประมาณ" ที่ใช้ซึ่งน้อยมากจนเหลือเชื่อ 

กระนั้นต้อง "ยอมรับ" ชื่นชมในความสามารถและความมุ่งมั่นของ "คนจีน" ที่ไม่ยอมแพ้ต่อข้อจำกัด #จะทำก็ทำได้ แล้ว "คนไทย" เราจะศิโรราบต่อ "ชะตา" เชียวหรือ ทิ้งท้ายไว้ให้คิดนะครับ

มจธ. บางมด จัดงานใหญ่ มหกรรมหุ่นยนต์ที่สุดแห่งปี ฉลอง 30 ปี FIBO ชวนสัมผัสเทคโนโลยีงานเดียว ครบ จบทุกเรื่องหุ่นยนต์และ AI

(3 ก.พ. 68) ผศ. ดร.สุภชัย วงศ์บุณย์ยง ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปีแห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัยฯ และครบรอบ 30 ปีแห่งการก่อตั้งสถาบันฯ ทางมหาวิทยาลัยฯ จึงได้จัดงานใหญ่ด้านหุ่นยนต์ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยและผู้ที่สนใจ ร่วมสัมผัสประสบการณ์ สุดล้ำกับโลกแห่งหุ่นยนต์และ AI ที่มางานเดียว ได้ครบทุกมิติ

โดยภายในงาน จะมีไฮไลต์สำคัญ อาทิ การแสดงผลงานที่ผสานเทคโนโลยีหุ่นยนต์และ AI - สัมผัสเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนแปลงอนาคต, นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต - แนวคิดหุ่นยนต์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน, การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ - ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญ, เปิดตัวโครงการเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย - โครงการที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของธุรกิจ และการแสดงเทคโนโลยีสุดล้ำจากบริษัทชั้นนำ - อัปเดตเทรนด์ล่าสุดจากผู้นำในวงการ

นอกจากนี้ ยังมีโซนพิเศษ โรโบติกส์ ไทยแทร่ - สนุกกับนิทรรศการรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟที่จะนำเสนอเทคโนโลยีผ่านความเชื่อและวิถีแบบไทย ๆ , คลินิกให้คำปรึกษา - แนะนำบริการ การศึกษาต่อ และกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย

โดยจัดเต็มตลอด 3 วัน! ระหว่างวันที่ 6 - 8 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.
ณ อาคาร ฟีโบ้ (N9) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ. บางมด) มาร่วมเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ พร้อมชมผลงานที่สร้างสรรค์โดยนักพัฒนาไทยและพันธมิตรระดับโลก
★ รายละเอียดกิจกรรม 👉 https://fiboevent.com/fibo30th 
★ ลงทะเบียนเข้าร่วมงานและสำรองที่นั่ง 👉 https://fiboevent.com/register 


 

 

ปมกล่าวหาส่งกลุ่มต้านกลับไปถูกฆ่า ยันมีเสรีภาพนับถือศาสนา พร้อมย้ำชัด การรื้ออัลกุรอาน-ภาษาอาหรับ ไม่เป็นจริง

สถานทูตจีน สวนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โกหกใส่ร้ายจีนรื้ออัลกุรอาน-ฆ่ากลุ่มต้านลั่นพลเมืองมีเสรีภาพนับถือศาสนา กล่าวหารื้ออัลกุรอาน-ภาษาอาหรับ ไม่จริง

เมื่อวันที่ (1 ก.พ. 68) เพจ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน (Chinese embassy in Bangkok) ได้โพสต์ถึงกรณีกรรมการสิทธิมนุษยชนไทย ได้มีการพาดพิงถึงประเทศจีน มีเนื้อหาดังนี้

คำกล่าวของโฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย

ตามรายงานของสื่อไทยเมื่อวันที่ 29 มกราคม มีกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย ได้มีคำกล่าวอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาในซินเจียงของจีน และการส่งผู้ที่เข้าออกประเทศโดยผิดกฎหมายกลับประเทศจีน สถานทูตจีนประจำประเทศไทยจึงต้องคัดค้านอย่างหนักและแสดงจุดยืนดังต่อไปนี้:

1. “ทางประเทศเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชน” “พลเมืองจีนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา” และ “ทางประเทศปกป้องกิจกรรมทางศาสนาตามปกติ” สิ่งเหล่านี้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญจีนและเป็นนโยบายของรัฐบาลจีนด้วย เสรีภาพในการนับถือศาสนาของชาวมุสลิมในซินเจียงของจีนได้รับการรับประกันอย่างสมบูรณ์ คำกล่าวที่ว่า “ปัจจุบันรัฐบาลจีนรื้ออัลกุรอานและภาษาอาหรับออกทั้งหมด” นั้นไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงอย่างเด็ดขาด

2. เมื่อ 10 กว่าปีก่อน มีพลเมืองจีนบางส่วนถูกยุยงและหลอกลวงโดยกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มกำลังต่อต้านจีนในต่างชาติ และลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ถูกส่งกลับประเทศจีนนั้นได้รับการจัดการตามกฎหมาย สิทธิตามกฎหมายของพวกเขา ได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างสมบูรณ์ และพวกเขาส่วนใหญ่ก็ได้กลับคืนสู่สังคม และดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข คำกล่าวที่ว่า “ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของพวกเขา เชื่อว่าถูกฆ่าตายไปแล้วทั้งหมด” เป็นการกลับเท็จเป็นจริง ปั้นน้ำเป็นตัว และเป็นคำโกหกอันชั่วร้ายและน่าอับอาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top