Friday, 25 April 2025
Hard News Team

12 เมษายน พ.ศ. 1839 'พญามังราย' พระมหากษัตริย์แห่งล้านนา ทรงสถาปนาเมือง ‘นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่’

วันนี้ เมื่อ 729  ปีก่อน ‘พญามังราย’ พระมหากษัตริย์แห่งล้านนา ทรงสถาปนากรุงเวียงเชียงใหม่ (เชียงใหม่ในปัจจุบัน) เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา

‘พญามังราย’ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย ทรงเริ่มต้นรวบรวมเมืองหรือแคว้นขนาดเล็กที่กระจัดกระจายและเป็นอิสระต่อกัน ให้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนพัฒนาเป็นรัฐขนาดใหญ่ขึ้น โดยในระยะแรกพญามังรายทรงรวมแคว้นโยนกก่อน แล้วพยายามขยายอำนาจสู่หัวเมืองขนาดเล็กอื่น ๆ เป็นบริเวณกว้าง จากนั้นเริ่มขยายอำนาจสู่แคว้นหริภุญไชยที่มีความเจริญรุ่งเรืองในดินแดนแถบนี้

เมื่อพญามังรายยึดเมืองหริภุญไชยแล้วได้ผนวกเข้ากับแคว้นโยนก หลังจากนั้นได้เข้ายึดเมืองเขลางค์นคร พญามังรายจึงครอบครองดินแดนส่วนใหญ่ของภาคเหนือ และสถาปนาขึ้นเป็นอาณาจักรล้านนา นอกจากนี้ ทรงได้ทำสัญญาระหว่างพญางำเมืองและพ่อขุนรามคำแหง ใน พ.ศ. 1830 เพื่อสร้างความมั่นใจว่าในการขยายอำนาจสู่แม่น้ำปิงนั้นจะไม่ถูกพญางำเมืองและพ่อขุนรามคำแหงขัดขวาง

หลังจากยึดเมืองหริภุญไชยได้แล้ว ทรงครองแคว้นอยู่ระยะหนึ่ง แล้วย้ายมาสร้างอีกเมืองหนึ่ง คือ เวียงกุมกาม โดยมีพระประสงค์ให้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักร แต่ที่ตั้งของเวียงกุมกามเป็นที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก พญามังรายจึงพยายามหาชัยภูมิเพื่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ จนพบพื้นที่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง ตอนเหนือของเวียงกุมกาม บริเวณเชิงดอยสุเทพ เป็นบริเวณที่มีชัยภูมิดีเหมาะแก่การสร้างราชธานีถาวรและเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา พระองค์ได้เชิญพระสหาย คือ พญางำเมืองและพ่อขุนรามคำแหง มาร่วมพิจารณาการสร้างเมือง พญามังรายทรงสร้างเมืองแห่งใหม่นี้โดยให้ชื่อว่า “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” ใน พ.ศ. 1839 ซึ่งถือเป็นปีแห่งการสถาปนาเมืองเชียงใหม่อย่างเป็นทางการ โดยวันสร้างเมืองเชียงใหม่ได้กำหนดฤกษ์ยามดวงเมืองไว้ คำนวณตามปีสุริยคติ ตรงกับวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 1839

สี จิ้นผิง ลั่น! จีนไม่หวั่นสงครามการค้า ไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดดันจากสหรัฐฯ

(11 เม.ย. 68) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ออกแถลงการณ์ตอบโต้ความตึงเครียดจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ โดยย้ำว่า จีนจะไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร และจะไม่ยอมถอยท่ามกลางแรงกดดัน

“จีนไม่เคยพึ่งพาความช่วยเหลือจากผู้อื่นในการพัฒนาประเทศตลอด 70 กว่าปีที่ผ่านมา เราฝ่าฟันทุกอย่างด้วยความพยายามของตัวเอง” สี จิ้นผิงกล่าว พร้อมเน้นว่าจีนจะไม่ยอมอ่อนข้อ หรือ 'กะพริบตา' ให้กับความไม่ยุติธรรม

แม้สงครามการค้าจะยังร้อนแรง แต่ผู้นำจีนยืนยันว่า จีนจะยังคงมุ่งมั่นบริหารประเทศอย่างมั่นคงและพึ่งพาตนเอง พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงจากภายนอก

สำหรับ คำกล่าวของประธานาธิบดีจีนมีขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดกับสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากมาตรการภาษีนำเข้าและข้อพิพาทด้านเทคโนโลยีที่กำลังปะทุอย่างต่อเนื่อง

‘ไล่ ชิงเต๋อ’ เผยไต้หวันอยู่ในกลุ่มเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ล็อตแรก ภาคธุรกิจชู ‘เราจะเป็นพันธมิตรที่ดี’ หวังขยายตลาดในอเมริกา

(11 เม.ย. 68) ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน เปิดเผยระหว่างการพบปะผู้นำภาคธุรกิจว่า ไต้หวันได้รับการจัดให้อยู่ใน 'กลุ่มแรก' ที่จะได้เปิดเจรจาด้านมาตรการภาษีกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า

“เราอยู่ในกลุ่มเจรจากลุ่มแรก และรัฐบาลจะเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี” ประธานาธิบดีไต้หวันกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าการหารือครั้งนี้เป็นโอกาสทองสำหรับไต้หวันในการสร้างความใกล้ชิดกับเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 เมษายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) เป็นเวลา 90 วัน ซึ่งรวมถึงไต้หวันที่ก่อนหน้านี้ต้องเผชิญภาษีนำเข้าสูงถึง 32%

ขณะเดียวกัน เดวิด ชวง (David Chuang) ประธานสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลไต้หวัน (TAMI) กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมเครื่องจักรของไต้หวันจะร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการ 'เปลี่ยนประเทศต้นทาง' ผ่านประเทศที่สาม เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราภาษีที่สูง ซึ่งเป็นประเด็นที่กำลังอยู่ในความสนใจของสหรัฐ

ชวงยังเสริมอีกว่า ซัพพลายเออร์ชาวไต้หวันยินดีที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในอเมริกาในการผลิตเครื่องมือเครื่องจักร โดยระบุว่า “เราจะเป็นพันธมิตรที่ดี”

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวระบุว่ามีมากกว่า 70 ประเทศที่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเปิดการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเวทีการค้าระหว่างประเทศกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ

‘สีจิ้นผิง’ เตรียมเยือน ‘เวียดนาม-มาเลเซีย-กัมพูชา’ สัปดาห์หน้า หวังขยายความร่วมมือท่ามกลางสงครามการค้ากับ ‘สหรัฐฯ’

(11 เม.ย. 68) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เตรียมเดินทางเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ระหว่างวันที่ 14-18 เมษายนนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างพันธมิตรในภูมิภาค ท่ามกลางความตึงเครียดจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

การเยือนเวียดนามจะมีขึ้นในวันที่ 14-15 เมษายน ตามด้วยการเยือนมาเลเซียและกัมพูชาในช่วงวันที่ 15-18 เมษายน ทั้งนี้กระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า นี่คือการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำจีนในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่จีนให้ต่อประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศระงับภาษีนำเข้าจากเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชาเป็นเวลา 90 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 พร้อมกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 145% ขณะที่เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชาถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 46%, 24% และ 49% ตามลำดับ

ทั้งนี้ เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซีย ต่างได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนในช่วงสงครามการค้ารอบก่อน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 ประเทศก็เริ่มตกอยู่ในความสนใจของสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาต่าง ๆ เช่น การลักลอบนำชิป, ความร่วมมือทางทหาร และข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

‘ร้านอาหารจีน’ ขึ้นป้ายเก็บ ‘ค่าบริการ 104%’ ลูกค้าอเมริกัน ลั่น หากมีปัญหากรุณากลับไปถามสถานทูตสหรัฐฯ

ร้านเด็ดแดนมังกรขึ้นป้ายสุดปั่น! เก็บ 'ค่าบริการ 104%' สำหรับลูกค้าอเมริกัน — งงให้ไปถามสถานทูตเอง

งานนี้เรียกว่าเผ็ดไม่แพ้หมาล่า เมื่อร้านอาหารแห่งหนึ่งในจีนติดป้ายประกาศกลางร้านแบบไม่แคร์ลุงแซมว่า “ตั้งแต่วันนี้ ทางร้านจะคิดค่าบริการ 104% สำหรับลูกค้าสัญชาติอเมริกัน หากมีข้อสงสัย กรุณาสอบถามสถานทูตสหรัฐฯ”

แค่เห็นตัวเลขก็สะดุ้งแล้ว ค่าบริการแรงกว่าราคากับข้าว! ชาวเน็ตจีนพากันแชร์ภาพนี้รัว ๆ บ้างก็แซวว่า “ถ้าเป็นอเมริกันจริงๆ คงต้องพกนักการทูตมาด้วย” ขณะที่ฝั่งต่างชาติบางคนถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ถามว่า “นี่ล้อเล่นหรือจริง?”

ถึงแม้จะยังไม่ชัวร์ว่าร้านนี้อยู่เมืองไหน แต่ดูจากสไตล์ร้านแล้วน่าจะเป็นร้านหม้อไฟหรือร้านแนวสตรีทฟู้ดยอดนิยมในเมืองใหญ่ของจีน แถมการตั้งราคานี้ก็สะท้อนอะไรบางอย่างเกี่ยวกับบรรยากาศทางการเมืองระหว่างสองประเทศได้แบบแสบ ๆ คัน ๆ

ใครจะกินก็คิดดี ๆ ล่ะครับ ถ้าเกิดถือพาสปอร์ตอเมริกันขึ้นมา อาจจะได้กินหม้อไฟหมื่นหยวนไม่รู้ตัว

พิษณุโลก แม่ทัพภาคที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจุดบริการประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568

(11 เม.ย.68) เวลา 15.00 นาฬิกา พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบสิ่งของสร้างขวัญ และกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดบริการประชาชน บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ศรีสุธาออยล์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พลตรี ปฐวี ศรีสุข ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 และผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ ให้การต้อนรับ

โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนนในการเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน สูงกว่าช่วงเวลาปกติ จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ขึ้น โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน ร่วมปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้รับฟังผลการปฏิบัติด้านการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทาง ถนนของหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมตรวจเยี่ยม การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการประชาชนวัดพระยืน ที่หน่วยงานต่างๆในจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้บูรณาการจัดตั้งขึ้น เพื่อบริการและช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง มีการจัดเตรียมยานพาหนะ พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือ สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ

นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ยังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่เสียสละในการทำหน้าที่ดูแล และอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน และผู้ใช้เส้นทาง รวมทั้งได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องให้กวดขัน เรื่องการปฏิบัติตามกฎจราจร

‘สรรเพชญ’ ชี้ เหตุตึกสตง. ถล่ม เป็นบทเรียนราคาแพง ลั่น การใช้งบประมาณ ต้องคุ้มค่า - ปลอดภัย

เมื่อวันที่ (10 เม.ย.68) นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา ในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งมีวาระสำคัญในการติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบการใช้งบประมาณในโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ที่เกิดเหตุพังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568

การประชุมครั้งนี้มีผู้แทนจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน อาทิ ผู้แทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อธิบดีกรมบัญชีกลาง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายกสภาวิศวกร นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

นายสรรเพชญ ระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า 'ความคุ้มค่า' จากการใช้งบประมาณ ต้องไม่ละเลย 'ความปลอดภัย' ในทุกขั้นตอนของกระบวนการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การควบคุมมาตรฐานทางวิศวกรรม การตรวจสอบคุณภาพวัสดุ การควบคุมผู้รับจ้าง รวมถึงการบริหารจัดการโครงการโดยรวม ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อความมั่นคงของโครงสร้างและความปลอดภัยของประชาชน

“บทเรียนจากการใช้งบประมาณครั้งนี้ คือเสียงเตือนสำคัญถึงทุกภาคส่วนว่า ความคุ้มค่าและความปลอดภัย ต้องเดินเคียงข้างกันเสมอ ตนในฐานะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และผลักดันให้เกิดการปรับปรุงแนวทางการบริหารโครงการภาครัฐในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับทั้งประสิทธิภาพของงบประมาณและมาตรการความปลอดภัยอย่างแท้จริง” นายสรรเพชญกล่าว

สมุทรปราการ-เทศบาลตำบลแพรกษา สืบสานประเพณีจัดโครงการ 'แพรกษาประสานใจ ห่วงใยผู้สูงอายุ' รดน้ำดำหัวขอพรเนื่องในวันสงกรานต์

เทศบาลตำบลแพรกษา จัดกิจกรรม แพรกษาประสานใจ ห่วงใยผู้สูงอายุ ประจำปี 2568 ณ เทศบาลตำบลแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ

นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ สมัยที่ 25 และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา และนายเมธากุล สุวรรณบุตร ประธานมูลนิธิแพรกษาเพื่อการศึกษา จัดโครงการ แพรกษาประสานใจ ห่วงใยผู้สูงอายุ ประจำปี 2568 

โดยมี นายวรรณวุฒิ มาสุข รองปลัดเทศบาล ปฎิบัติหน้าที่ปลัดเทศบาลตำบลแพรกษา กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการในครั้งนี้ โดยมี คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ พนักงาน ตลอดจนกลุ่มผู้สูงอายุจากชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเทศบาลตำบลแพรกษา จัดให้มีกิจกรรมการประกวดร้องเพลงโดยผู้สูงอายุจากชุมชนต่างๆ ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 7 ทีมด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีซุ้มอาหารต่างๆ นำอาหารมาแจกจ่ายให้ผู้สูงอายุและผู้ที่เดินทางมาร่วมในงานได้รับประทานฟรีอีกด้วย

จากนั้น นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยที่ 25 นายเมธากุล สุวรรณบุตร ประธานมูลนิธิแพรกษาเพื่อการศึกษา นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้สูงอายุเพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทย ประจำปี 2568

โดยทางด้าน นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่า เทศบาลตำบลแพรกษาให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมให้แก่ผู้สูงอายุ รวมถึงการประกวดความสามารถของผู้สูงอายุ “สูงวัยคอนเทส” เพื่อสนับสนุนผู้สูงอายุในชุมชนได้ร่วมกลุ่มทำกิจกรรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันและก่อให้เกิดการสร้างสัมพันธภาพอันดี

ทั้งนี้ ยังเป็นห้วงเวลาใกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ซึ่งมีการรถน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุเพื่อความเป็นสิริมงคล และยังเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่มีมาช้านานให้คงอยู่สืบไป

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทุ่มงบกว่า 1 ล้านบาท ลงพื้นที่ 'สร้างสุข ใส่ใจ ผู้สูงวัย' ในสถานสงเคราะห์  พร้อมแจกจ่าย 'ชุดของขวัญคลายร้อน' แก่ประชาชนที่สัญจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ระหว่างวันที่ 9 - 11 เมษายน พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุข ห่วงใยประชาชนที่สัญจร เดินทางกลับภูมิลำเนา-ท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นการเดินทางในช่วงสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน - ร้อนมาก รวมถึง ใส่ใจผู้สูงวัยในสถานสงเคราะห์ ฯลฯ จึงมอบหมายให้คณะกรรมการ นำโดย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ กรรมการ นายชูเดช เตชะไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการ และนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่ จัดทีมแผนกสาธารณภัย แผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และแผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ แผนกอาสาสมัคร ฝ่ายปฏิบัติการ นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (บางซื่อ) สถานีรถไฟนครปฐม และสถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัย แจกจ่ายชุดของขวัญคลายร้อน ประกอบด้วย สเปรย์เย็น แป้งเย็น ยาดม หน้ากากอนามัย พัดสปริงมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และน้ำดื่มตรามูลนิธิฯ บรรจุถุงพลาสติก PVC รวมจำนวน 2,000 ชุด ให้แก่ประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 339,000 บาท (สามแสนสามหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) ในโครงการ 'ป่อเต็กตึ๊ง คลายร้อน' ครั้งที่ 3 โดยมี อาสาสมัครศิลปิน นำโดย นางสาวอธิชา เทศขำ (เมย์-อธิชา) นายภัทรพล แก้วสกุณี (เค-ภัทรพล) นางสาวพัชรมัย บุญเลิศกุล (แพรว-พัชรมัย) นายขวัญชัย เย็นพายัพ (เจี๊ยวจ๊าว เชิญยิ้ม) นางสาวพิมพ์ลภัส เทียนรุ่งเรือง (นุ้ย) นายกวิน ชาตะวนิช (วิน) ร่วมสร้างความสุขให้กับประชาชน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น

พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังได้ลงพื้นที่มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ในโครงการ 'ป่อเต็กตึ๊ง สร้างสุข ใส่ใจ ผู้สูงวัย' ประจำปี 2568 ประกอบด้วย ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แผ่นรองซับ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ผงซักฟอก และปิโตรเลียม เจลลี่ (สำหรับผู้ป่วยติดเตียง) ให้แก่ผู้สูงวัยในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี จ.นนทบุรี ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุปทุมธานี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี จ.ปทุมธานี ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จ.พระนครศรีอยุธยา สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์ (วัดม่วง) และสถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์ (โพธิ์กลาง) จ.นครราชสีมา สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อลำใยอุปถัมภ์) จ.กาญจนบุรี และสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) จ.นครปฐม รวม 10 แห่ง รวมมูลค่าทั้งสิ้น 749,520 บาท (เจ็ดแสนสี่หมื่นเก้าพันห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2568

รวมมูลค่าการดำเนินการโครงการ 'ป่อเต็กตึ๊ง คลายร้อน' และ โครงการ 'ป่อเต็กตึ๊ง สร้างสุข ใส่ใจ ผู้สูงวัย' เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 เป็นเงินทั้งสิ้น 1,088,520 บาท (หนึ่งล้านแปดหมื่นแปดพันห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน)

เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอให้ทุกท่านเดินทางขับขี่ปลอดภัย ท่องเที่ยวโดยสวัสดิภาพตลอดช่วงเทศกาล ทั้งนี้ หากท่านพบ ประสบเหตุฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วนและแอปพลิเคชัน ป่อเต็กตึ๊ง 1418 ทุกที่ ทั่วประเทศ ดาวน์โหลดฟรีได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบ Play Store และ App Store 

ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung หรือสายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top