Tuesday, 13 May 2025
Hard News Team

เปิดเหตุผล...ทำไม? ‘ลุงตู่’ ต้องอยู่ต่อ!!  จากปากคนใกล้ชิด 'ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ'

ทำไม? ถึงตัดสินใจร่วมงานกับ ‘ลุงตู่’? นี่คือคำถามที่ THE STATES TIMES ได้สอบถามกับ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตนายทหารชื่อดัง และ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร โดยท่านได้ตอบว่า...

สำหรับผม การที่เลือกมาช่วยงานท่านพลเอกประยุทธ์ เนื่องจาก ผมมีความศรัทธาในตัวท่านในหลาย ๆ เรื่อง เพราะว่าผมได้เห็นท่านมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ๆ 

อันดับแรกเลย คือ ท่านเป็นคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ทหารทุกท่าน และประชาชนทุกคน มีความรักดีต่อสถาบันฯ ร่วมกันอยู่แล้ว 

อันดับที่สอง คือ ท่านเป็นคนที่ทำพวกเราเห็นว่า ท่านเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานมากในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนมีผลงานออกมาเป็นรูปธรรมมากมายในสมัยรัฐบาลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสาธารณูปโภค ในเรื่องความก้าวหน้า ในเรื่องของไอที หรือเรื่องของความสำคัญระหว่างประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในรัฐบาลนี้ ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งท่านก็สามารถพื้นความสัมพันธ์ได้ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศอเราย่างมหาศาล

อันดับต่อมา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความซื่อสัตย์สุจริต ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ท่านโดนตรวจสอบไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เพื่อหาประเด็นตรวจสอบเรื่องทุจริตเกี่ยวกับตัวท่าน แต่ก็ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นรูปประธรรมอย่างชัดเจน ที่จะกล่าวหาท่านได้เลย แม้แต่ที่เราเห็นว่าบุคคลใกล้ชิดท่านหรือใกล้เคียงท่าน ที่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตต่าง ๆ นั้น ท่านก็ไม่เคยใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีไปปกป้อง ท่านก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กระบวนการตรวจสอบ และจะเห็นว่าที่ผ่านมานั้น โครงการอะไรก็ตามที่มีปัญหา หรือมีประเด็นร้องเรียนเรื่องการทุจริต ท่านก็จะรับฟัง ตรวจสอบ และรับโครงการ เพื่อให้มีความโปร่งใส มีความชัดเจน ก่อนที่จะให้โครงการนั้นเดินหน้าต่อไป

อันดับที่สี่ ผมยังเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของ ‘ลุงตู่’ อย่างมาก เห็นชัดเจนได้จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา คือ ท่านกล้าที่จะตั้ง ศปค. และสิ่งที่ท่านทำถือเป็นสิ่งใหม่ของประเทศ นั่นคือการที่ท่านนำเอาอาจารย์หมอทั้งหลาย มาเป็นผู้นำของ ศปค. ข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ นักการเมือง มาเป็นผู้สนับสนุนการทำงานของ ศปค. โดยที่มีอาจารย์หมอเป็นผู้นำ สิ่งที่ท่านทำนั้นเป็นผลประจักษ์ ทำให้ WHO นั้น นำไปยกย่องเป็นต้นแบบของการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศชาติ

‘ธนาธร’ ซัด ‘สุชาติ’ หลังเคลมว่างงานลดลงเป็นผลงานรัฐบาล อัดนักการเมือง ถูก ปชช.เลือกมาแท้ๆ แต่ไม่เคารพประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 66 ระหว่างการประชันวิสัยทัศน์ระหว่างตัวแทนพรรคการเมือง 8 พรรค ในรายการสด ‘DEBATE ประเทศไทย เปิดเวทีภาคตะวันออก’ โดยสำนักข่าว Nation ในช่วงหนึ่ง สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และตัวแทนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กล่าวถึงผลงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่าช่วงที่เกิดโควิด รัฐบาลได้เป็นผู้ประคับประคองอุตสาหกรรมส่งออกและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จนสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในการควบคุม

ทำให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สภายานยนต์แห่งประเทศไทยได้ตกลงโบนัสพนักงานในระดับที่น่าพอใจ เช่น อิซุสุ ให้ 8.5 เท่า บวกเงินอีก 3.5 หมื่นบาท โตโยต้า ให้ 7.5 เท่าบวกเงินอีก 3.8 หมื่นบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ เกิดจากโครงการ Factory Sandbox ที่ตรวจโควิดฟรี เช่าโรงแรมให้กักตัว ฉีดวัคซีนให้หมด 100% และห้ามปิดโรงงาน ทำให้บริษัทต่าง ๆ ยังคงผลิตตามออเดอร์ส่งออกได้ตลอดเวลา จนบริษัทในไทยหลายบริษัท ยังคงทำกำไรและรักษาการจ้างงานเอาไว้ได้ และทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราว่างงานต่ำที่สุดในโลก อยู่ที่แค่กว่า 1% เกิดจากรัฐบาลรักษาการจ้างงานเอาไว้ได้

ซึ่งในช่วงต่อมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้ใช้โอกาสแจกแจงข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยระบุว่า ตนไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะบริษัท โตโยต้า และอิซุสุ จ่ายโบนัสระดับ 8 - 10 เดือนให้พนักงานมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว อีกทั้งการว่างงานก็ยืนอยู่ที่ระดับ 0.75 -1.5% เป็นสิบ ๆ ปีมาแล้วเช่นกัน ไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่งแน่ ๆ

ทำให้นายสุชาติ ใช้สิทธิพาดพิงลุกขึ้นตอบโต้ โดยระบุว่า นายธนาธรไม่ได้อยู่แบบตน อาจจะฟังมาผิด เพราะถ้ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาโควิด ไม่รักษาการจ้างงาน ไม่รักษาออเดอร์ส่งออก ก็ไม่มีวันนี้

ขณะที่นายธนาธรเอง ก็ตอบโต้อย่างทันควันเช่นกัน โดยระบุว่า ตนอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 20 ปี นายสุชาติไม่รู้สู้ตนแน่ ๆ ส่วนอัตราการว่างงานของประเทศไทย ต้องย้ำอีกครั้งยืนอยู่ระดับนี้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วที่ 0.75 - 1.5% แม้แต่ช่วงโควิดก็เพิ่มขึ้นไปไม่ถึง 2% แล้ววันนี้ตกมาสู่ระดับเดิมแล้ว ทั้งนี้ไม่ต้องเชื่อตนก็ได้ ทุกคนสามารถไปหาดูเองได้จากเว็บไซต์หน่วยงานรัฐทั่วไป

หลังจากนั้น ในช่วงท้ายของการดีเบต พิธีกรได้ให้ตัวแทนแต่ละพรรคการเมืองได้พูดทิ้งท้ายสั้น ๆ ซึ่งหลายพรรคการเมืองได้เน้นย้ำถึงการไม่ทะเลาะขัดแย้งกัน ทว่าในส่วนของนายธนาธร ได้กล่าวในช่วงของตนว่าอนาคตของประเทศไม่ใช่เรื่องของการที่ใครจะทะเลาะกับใครหรือไม่ แต่คือการยืนยันเรื่องพื้นฐานที่สุด นั่นคือการที่ประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตย ให้ไม่มีการรัฐประหารอีกในอนาคต จะทะเลาะกันหรือไม่ต้องยืนยันหลักการพื้นฐานเหล่านี้

“แต่ที่ประเทศไทยมีประชาธิปไตยไม่ได้ มีรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็เพราะมีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งยังฝักใฝ่รับใช้เผด็จการ ถ้าไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เป็นนั่งร้านหรือรับใช้พวกเขาตรงๆ  การมีนักการเมืองอย่างนี้ทำให้เผด็จการไม่สูญหายไปจากประเทศไทยเสียที” นายธนาธร กล่าว

'ปิยบุตร' ลุยหาเสียงขอโอกาสพี่น้องชาวบึงกาฬ กา ‘ก้าวไกล’ ลั่น!! มีจุดยืนชัดเจน อภิปรายในสภาได้เต็มที่ไม่เกรงใจใคร

วันนี้ (8 เมษายน 2566) ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เดินหน้าหาเสียงให้แก่ผู้สมัครสมาชิกผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ เขต 2 (สำรวย ศรีทิน) และเขต 3 (ณัฐพงษ์ ป้องปิ่น) โดยมีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก

ปิยบุตร เริ่มด้วยการเสนอนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องชาวอีสานและบึงกาฬ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ, การปลดหนี้ ธ.ก.ส. เกษตรกรสูงวัย, การเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก ให้เป็นโฉนด, การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร และการปฏิรูปตำรวจ

"นโยบายแต่ละตัวที่พรรคก้าวไกลประกาศ เป็นนโยบายที่เล็งเห็นผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ก่อนทั้งสิ้น"

ปิยบุตรกล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้พิสูจน์แล้วว่า แม้ก้าวไกลจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ก็สามารถทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง แต่กระนั้นก็แก้ไขได้อย่างจำกัดเพราะยังมีอำนาจไม่มากพอ เช่นนี้หากได้เป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งที่จะถึง พรรคก้าวไกลก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น

ทั้งนี้ ปิยบุตรชี้ว่า ทุกพรรคการเมืองต่างก็แข่งกันนำเสนอนโยบายที่ต่างฝ่ายต่างคิดว่าดี แต่ถึงอย่างนั้น หากการเมืองยังไม่ดี นโยบายที่ดีทั้งหมดนั้นก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ หรือเกิดขึ้นได้แต่ก็ไม่ยั่งยืน เพราะนโยบายจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการเมืองดี

"ที่ผ่านมาพี่น้องเลือกพรรคการเมือง แล้วทหารออกมายึดอำนาจ ยึดเสร็จแล้วก็เลือกตั้งใหม่ เลือกตั้งเสร็จก็โดนยึดใหม่ วนเวียนแบบนี้มาเรื่อยๆ นโยบายแก้ปัญหาปากท้องอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ มันต้องแก้โครงสร้างให้การเมืองดี เป็นประชาธิปไตย ให้ทหารเป็นทหารอาชีพ ไม่ใช่ตั้งตัวเป็นใหญ่อย่างที่ผ่านมา โดยพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเดียวที่ประกาศชัดเจนว่า ถ้ามีการรัฐประหารเมื่อไหร่ จะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับคนที่ออกมายึดอำนาจทันที เพื่อไม่ให้การรัฐประหารและการนิรโทษกรรมความผิดของตัวเองทำได้ง่ายๆ อีกต่อไป"

ต่อประเด็นคำถามว่า หากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกในอนาคต ส.ส. ก้าวไกล จะทำอย่างไร ปิยบุตรกล่าวว่า ผู้แทนจากพรรคก้าวไกลก็จะเป็นแถวหน้าต่อต้านการรัฐประหาร ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนสู้อย่างโดดเดี่ยวอย่างที่เป็นมา

ปิยบุตร ยังย้ำถึงความโดดเด่นของผู้แทนจากก้าวไกลว่า จะทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงไปอภิปรายในสภาให้ประชาชนอย่างแข็งขัน ไม่ใช่พอได้ตำแหน่งแล้ว ไม่เคยพูดในสภาเลยแม้แต่คำเดียวอย่างที่เป็นอยู่ ก่อนจะย้ำข้อแตกต่างระหว่างก้าวไกลกับพรรคการเมืองอื่นๆ

‘สมศักดิ์’ นำทีมหาเสียงพี่น้องชาวม้ง จ.ตาก ชู นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ยกระดับคุณภาพชีวิต

(8 เม.ย.66) สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย สุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบาย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หมู่บ้านชิบาโบ ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อพบปะกับพี่น้องชาวม้ง กว่า 300 คน พร้อมเดินเยี่ยมชมวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน พร้อมกับแนะนำ เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดตาก เขต 2 เบอร์ 4 ของพรรคเพื่อไทย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก

สมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมา เนื่องจากอยากมาเยี่ยมพี่น้องชาวม้งนานแล้ว เพราะพี่น้องประชาชนมีประเพณีชนวัว ที่ตนก็ชื่นชอบและเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐ อาจยังไม่เข้าใจ แต่ตนก็พยายามผลักดันกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ เพราะรู้ดีว่า การทำให้วัวมีคุณภาพ มีราคาสูงนั้นมีความสำคัญมาก พรรคเพื่อไทย จึงส่งเสริมเรื่องวัว เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของชุมชน อีกทั้งยังจะส่งเสริมให้การชนวัวถูกกฎหมาย ลดขั้นตอนการขออนุญาตตามกฎหมาย รวมถึงเป็นการสนับสนุนการเลี้ยง การดูแลรักษา ตลอดจนใช้วิชาการเข้ามาส่งเสริมให้วัวมีคุณภาพได้ราคาสูง รวมทั้งจะส่งเสริมการชนวัวเพื่อสร้างราคาวัวชน และวัวพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ให้ได้ราคาดีด้วย

นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเติมเงินในกระเป๋าดิจิทัล คนละ 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน อย่างในหมู่บ้านชิบาโบ มีประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 พันคน เมื่อคูณกับเงินดิจิทัลคนละ 1 หมื่นบาท จะเป็นเงินถึง 10 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่า จะมีเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจในหมู่บ้านนี้ถึง 10 ล้านบาท จะช่วยทำให้พี่น้องประชาชน อยู่ดีกินดีขึ้น รวมถึงพรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายพักหนี้เกษตรกรทั้งต้นและดอก เป็นเวลา 3 ปี พร้อมส่งเสริมที่ดินทำกินแบบถูกกฎหมายด้วย ส่วนเรื่องไฟฟ้า ตนเข้าใจว่า บางพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งการขอไฟฟ้า ก็ต้องใช้เงิน และใช้เวลารอนานหลายปี แต่ถ้าพี่น้องประชาชน มีผู้แทนฯที่ประสานงานกับรัฐบาลได้ การขอไฟฟ้า ก็จะง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลา เพราะเรื่องนี้ สามารถเร่งรัดได้ เนื่องจากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนโดยตรง

‘จีน’ เปิดปฏิบัติการทางทหาร 3 วันรอบไต้หวัน ลั่น!! เป็นการเตือน  ล่าสุด ไต้หวันตรวจพบเรือรบจีน 8 ลำ-เครื่องบิน 42 ลำ

จีนเปิดฉากการฝึกซ้อมทางทหารในช่องแคบไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน ย้ำเป็นการเตือนอย่างจริงจังต่อรัฐบาลไต้หวัน หลังจากปธน."ไช่ อิงเหวิน"พบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ล่าสุดพบจีนส่งเรือรบ 8 ลำ เครื่องบินรบ 42 ลำล้อมเกาะไต้หวันแล้ว

(8 เม.ย.66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนหรือพีแอลเอ (PLA) แถลงว่า การฝึกซ้อมทางทหารที่มีชื่อว่ายูไนเต็ดชาร์ปซอร์ด (United Sharp Sword) จะดำเนินไปตั้งแต่วันนี้จนถึงวันจันทร์

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างโฆษกพีแอลเอว่า การฝึกซ้อมทางทหารจะเกิดขึ้นทั้งในน่านน้ำและน่านฟ้าของช่องแคบไต้หวัน นอกชายฝั่งทางเหนือและทางใต้ของไต้หวัน และทางตะวันออกของไต้หวัน เพื่อเป็นการเตือนอย่างจริงจังต่อการที่กองกำลังแยกดินแดนหาทางแยกไต้หวันเป็นเอกราชคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ และการดำเนินกิจกรรมยั่วยุ การฝึกซ้อมนี้จำเป็นต่อการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนแห่งชาติของจีน ด้านหน่วยงานทางทะเลของมณฑลฝูเจี้ยนที่อยู่ตรงข้ามกับไต้หวันแจ้งว่า จะมีการฝึกซ้อมทางทหารด้วยกระสุนจริงในน่านน้ำนอกชายฝั่งในวันจันทร์ ขอให้เรือต่าง ๆ หลีกเลี่ยง

ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ตรวจพบเรือรบของจีน 8 ลำ เครื่องบินขับไล่ของจีน 42 ลำ อยู่รอบไต้หวันในช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้ หลังจากจีนประกาศฝึกซ้อมทางทหารรอบไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน

28 มหาเศรษฐี รวยสุดในไทย ปี 2023

นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) สื่อชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ประกาศการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลก หรือ 'The World’s Billionaires' หรือผู้มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประจำปี 2023

โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศส 'เบอร์นาร์ด อาโนลด์' เจ้าของอาณาจักร LVMH ขึ้นแท่นเป็นบุคคลที่ 'รวยที่สุดในโลก' ปี 2023 แทนที่แชมป์เก่าอย่าง 'อีลอน มัสก์' เจ้าของ Tesla และ SpaceX

ในส่วนของประเทศไทยมี 28 มหาเศรษฐีไทยที่ติดอันดับมหาเศรษฐีโลก ในปี 2023 ดังนี้

>>อันดับ 1
'เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์' ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) หรือ ซีพี ติดอันดับที่ 116 ของโลก มีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งหมด 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ รวยเพิ่มขึ้นกว่าการจัดอันดับในปี 2022 (ในปี 2022 ติดอันดับที่ 137 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

>>อันดับ 2
'เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี' ไทยเบฟเวอเรจ มีทรัพย์สิน รวมทั้งหมด 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับ 118 ของโลก รวยเพิ่มขึ้นกว่าการจัดอันดับในปี 2022 (ในปี 2022 ติดอันดับที่ 156 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

>>อันดับ 3
'สารัชถ์ รัตนาวะดี' กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ มีทรัพย์สิน รวม 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับที่ 141 ของโลก รวยเพิ่มขึ้นกว่าการจัดอันดับในปี 2022 (ในปี 2022 ติดอันดับที่ 161 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

>>อันดับ 4 
'สุเมธ เจียรวนนท์' เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ทรัพย์สิน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับที่ 425 ของโลก

>>อันดับ 5
'จรัญ เจียรวนนท์' เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มูลค่าทรัพย์สิน 5.9 พันล้านดอลลาร์ ติดอันดับที่ 437 ของโลก

>>อันดับ 6 มี 2 คน
'วานิช ไชยวรรณ' ไทยประกันชีวิต ติดอันดับที่ 721 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

'สมอุไร จารุพนิช' ลูกสาวคุณมนตรี เจียรวนนท์ ติดอันดับที่ 721 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 7
'นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ' กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ติดอันดับที่ 818 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 8
'สมโภชน์ อาหุนัย' พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ติดอันดับที่ 852 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 9
'ประยุทธ์ มหากิจศิริ' เจ้าพ่อเนสกาแฟ กลุ่มธุรกิจแบรนด์ P 80 และการขนส่งสินค้าทางเรือ ติดอันดับที่ 1,217 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 10 
'ฮาราลด์ ลิงค์' ผู้บริหารบี.กริม. ประเทศไทย ติดอันดับที่ 1,368 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 11 
'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ติดอันดับที่ 1,434 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวยเพิ่มขึ้นกว่าการจัดอันดับในปี 2022 (ในปี 2022 ติดอันดับที่ 1,512 มูลค่าทรัพย์สิน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

‘อุ๊งอิ๊ง’ โพสต์ โมเมนต์คุณตาโทนี่จูงมือหลานสาว ขณะเดินเล่นที่สิงคโปร์ งานนี้ชาวเน็ตแห่ชมความน่ารัก

(8 เม.ย.66) ทำโซเชียลยิ้มแก้มปริกันเป็นแถวๆ สำหรับ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในอินสตาแกรม เผยโมเมนต์น่ารัก ระหว่างหลานสาวและคุณตาโทนี่ ที่เดินจูงมือหลานสาวสุดน่ารักเดินเล่น

 

‘พิธา-วิโรจน์’ ถกเสวนา อ่านโลกแล้วหันมองไทย  ประเทศนี้อนุญาตให้เราฝันไกลได้แค่ไหน?

‘พิธา-วิโรจน์’ เสวนางานสัปดาห์หนังสือ ‘ประเทศนี้อนุญาตให้เราฝันไกลแค่ไหน’ ยกตัวอย่างหนังสือ ‘Downtown Ayutthaya-ลาร์มินูตา’ ถอดประเด็นไทยต้องคว้าโอกาสจากโลกาภิวัตน์ สร้างรัฐสวัสดิการให้คนไทยมีพื้นฐานชีวิตเท่าเทียม

(8 เม.ย.66) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมเสวนา ‘อนาคตใหม่ทอล์ค: อ่านโลกแล้วหันมองไทย ประเทศนี้อนุญาตให้เราฝันไกลแค่ไหน’ โดยพิธายกตัวอย่างหนังสือ ‘Downtown Ayutthaya’ ที่สะท้อนภาพประเทศไทยในปัจจุบันโดยอ่านประสบการณ์จากยุคอยุธยา พร้อมระบุว่าการบริหารราชการแผ่นดินในสมัยอยุธยาน่าสนใจมาก ใช้โอกาสจากโลกาภิวัตน์ จากการเข้ามาของต่างชาติให้เกิดประโยชน์ ขณะที่ประเทศไทยปัจจุบัน เราไม่สามารถคว้าโอกาสจากโลกาภิวัตน์ได้อย่างที่ควรเป็น

พิธา ยังกล่าวถึงโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยหรือสตาร์ตอัปไทยว่า การที่ประเทศไทยจะมีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นยูนิคอร์นได้ นอกจากต้องอาศัยความสามารถของผู้ประกอบการ หลายคนยังต้องต่อสู้กับเสือนอนกินและอุปสรรคในระบบราชการ ที่ทำให้เกิดช่องโหว่เรียกรับผลประโยชน์ เช่น การส่งส่วย เรื่องเหล่านี้หากนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหา จะเป็นประโยชน์ ช่วยสร้างความโปร่งใสและความเท่าเทียมระหว่างผู้ประกอบการทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ แต่การจะแก้ปัญหานี้ สิ่งสำคัญคือต้องมีคนที่กล้าพูดถึงปัญหาและกล้าเข้าไปแก้ที่ต้นตอ ดังนั้น หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราพร้อมกิโยตินหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคและล้าหลังลงถึง 50%

ช่วงหนึ่ง พิธา ได้กล่าวถึงประเด็นทางการเมืองว่า พรรคก้าวไกลตั้งใจให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นความหวังของประชาชน เราเสนอนโยบายเพื่อสร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมดภายใน 100 วัน ผลักดันหวยใบเสร็จเพื่อเพิ่มแต้มต่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยในการแข่งขันกับทุนใหญ่ รวมถึงสร้างงานซ่อมประเทศ ให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีของตัวเอง สร้างอุตสาหกรรมที่สร้างงานแก่คนไทยในระยะยาว โดยยืนยันว่าพรรคก้าวไกลต้องการทำการเมืองที่ ‘เชื่อถือได้’ หมายถึงการมีอุดมการณ์ชัดเจน ไม่ใช่ข้ามขั้วไปมา และ ‘จับต้องได้’ หมายถึงมีประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะหากพรรคก้าวไกลขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ประชาชนก็คงไม่เลือกเรา

“เลือกก้าวไกลให้ถล่มทลาย ไม่ใช่แค่เพื่อให้ พิธาเป็นนายกฯ หรือให้ วิโรจน์เป็นรัฐมนตรี แต่เพื่อให้เราเป็นรัฐบาลผลักดันกฎหมายก้าวหน้าให้สำเร็จ ทั้งสมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า ยกเลิกเกณฑ์ทหาร” พิธากล่าว

พิธา ยังอธิบายถึงแนวคิดการจัดลำดับผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคก้าวไกลว่า การจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เป็นกระจกสะท้อน 2 เรื่อง ได้แก่ (1) สะท้อนคุณค่าภายในที่พรรคยึดถือ ว่าพรรคให้ความสำคัญกับระบบอาวุโสหรือให้ความสำคัญกับนายทุน แต่สำหรับพรรคก้าวไกล คุณค่าที่ยึดถือคือความหลากหลายและความเป็นมืออาชีพ เราต้องการให้คนที่ทำงานในด้านนั้นๆ มาขับเคลื่อนประเทศในด้านที่เขาทำอยู่ และ (2) สะท้อนออกไปภายนอก ว่าพรรคมองเห็นโอกาสและความท้าทายของประเทศอย่างไร สำหรับพรรคก้าวไกล โอกาสที่เรามองเห็นคือเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจดิจิทัล ส่วนความท้าทายของประเทศนั้นเช่น สังคมสูงวัย ความปลอดภัยไซเบอร์ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น

'ปฏิรูปกองทัพ-งบประมาณ-รัฐทหาร' เอาบุคคลไปรวมองค์กร วิบัติ!!

ถ้าจะมองว่า "ปลาเน่าตัวเดียวทำเหม็นท้้งข้อง" ก็คงไม่ผิด!! แต่ถ้ามองว่าปลาเน่าตัวเดียว จะทำให้ปลาทั้งหมดเน่าไปด้วย...มันก็แลดูใจร้ายเกินไปไม่น้อย...
 

ผีค่ายลูกเสือ | TIME TO BELIEVE EP.13

TIMETOBELIEVE
💀 TIME TO BELIEVE ถึงเวลาหลอน EP.13
จะพาไปหลอนกับเรื่องราวของ คุณบุ๊ค พบศิลป์ โตสกุล นักแสดงละครดาราจักรๆ วงศ์ๆ ทางช่อง 7 HD เล่าเรื่องราวเมื่อครั้งเป็นนักเรียน กับประสบการณ์สุดหลอนในค่ายลูกเสือ หลังจากเข้าห้องน้ำที่ค่าย แล้วใครอยู่ห้องข้างๆ ติดตามเรื่องเล่าสุดสะพรึงนี้ได้ในคลิปนี้ รับรองขนหัวลุก…

ดำเนินรายการโดย 'วายุ เอี่ยมรัมย์' ที่จะพาคุณไปพบเจอกับความหลอนจนนอนไม่หลับ

แขกรับเชิญที่จะผ่านไปหลอนกับ คุณบุ๊ค พบศิลป์ โตสกุล 
นักแสดงช่อง 7 HD

หลอนกับ TIME TO BELIEVE ตอนอื่น ๆ ก่อนได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyKp57Sp4n4g0w3Klvpe1SiT

🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIMES PODCAST


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top