Monday, 12 May 2025
Hard News Team

สืบสวนนครบาลขยายผลทลายขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดภาคเหนือเข้าสู่ใจกลางมหานคร

ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายลงสู่ชุมชน ได้ร่วมทำการตรวจยึด ของกลาง 

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 499 กิโลกรัม 
2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 1,000,000 เม็ด  
3. รถยนต์บรรทุก หกล้อยี่ห้อฮีโน่สีขาวหมายเลขทะเบียน 70-8583 ลำปาง จำนวน 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ”
สถานที่ตรวจยึด บริเวณริมถนนสิงหวัฒน์ ตำบลบ้านใหม่สุขเกษม อำเภอกงไกรลาศ  จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 เวลาประมาณ  20.00 น.

ผบ.เด่นสั่งรวบสาวหล่อ อ้างคนสนิทนางเอก ต. คา ด่าน ตม.อรัญประเทศ พฤติกรรมหลอกลวงแฟนคลับ ลงทุนหุ้นเก๊ เสียหายกว่า 40 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งชุด PCT5 ร่วมกับสืบสวนนครบาลลุยกัมพูชา ตามล่า “สาวหล่อ” อ้างเป็นแฟนของนางเอกระดับตำนาน ชื่อ ต. รายการนำเที่ยวหลังก่อวีรกรรมสุดแสบตระเวนฉ้อโกงเหยื่อ โดยเจาะตลาดไปที่กลุ่มผู้เสียหายที่เป็นเหล่าแฟนคลับดาราสาว โดยผู้เสียหายบางรายกล่าวว่า สาวหล่อใช้จิตวิทยาเปิดภาพที่ได้ถ่ายกับดาราก่อนจะเชือดเหยื่อให้ลงทุนหุ้นสิงคโปร์ ซึ่งแท้จริงเป็น “หุ้นเก๊” เบื้องต้นพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งมีความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ได้มาขอความช่วยเหลือกับ ผบ.ตร. คดีนี้เป็นที่ฮือฮาในแวดวงบันเทิงช่วงปี 2565 จนมีผู้เสียหายบางรายตั้งข้อสังเกตุว่า ตัวนางเอกเอง “อาจมีเอี่ยว” กับสาวหล่อรายนี้หรือไม่

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) , พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. / รอง หน. PCT ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์  ทองแพ พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี  , พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 , ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว

น.ส.พาฬ นลินวัชร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ถ.ประชานิมิต ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับกว่า 4 หมายจับ คือ

1.หมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ จ.126/2565 ลงวันที่ 25 พ.ค. 65 ข้อหา “ฉ้อโกง”
2.หมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ จ.127/2565 ลงวันที่ 25 พ.ค. 65 ข้อหา “ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
3.หมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.126/2565 ลงวันที่ 25 ก.พ. 65 ข้อหา “ฉ้อโกง”
4.หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.128/2565 ลงวันที่ 26 ก.พ. 65 ข้อหา “ฉ้อโกง”
โดยกล่าวหาว่า ฉ้อโกง

จับกุมตัวที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2563 ถึงห้วงกลางปี พ.ศ.2564 ได้เกิดเรื่องฉาวในแวดวงบันเทิง เมื่อได้เกิดเหตุหลอกลวงครั้งใหญ่เกิดขึ้น เหล่าผู้เสียหายได้ทยอยเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ถูก “สาวหล่อ” ซึ่งอ้างว่าเป็นอดีตแฟนกับดารานางเอก “ระดับตำนาน” หลอกลวงเงิน โดยแผนประทุษกรรมการหลอกลวงเรียกได้ว่าสุดแสบ โดยสายหล่อรายนี้จะแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแฟนคลับของดาราสาวแล้วทำทีตีสนิท โดยจะโชว์พาวให้กับกลุ่มแฟนคลับว่าตนเองนั้นเป็นแฟนกับดาราสาว 

ซึ่งแรกเริ่มนั้นเหยื่อต่างยังไม่เชื่ออย่างสนิทใจ ซึ่งผู้เสียหายรายหนึ่งได้กล่าวว่า สาวหล่อรายนี้ใช้จิตวิทยาด้วยการเปิด ภาพ ที่ได้ถ่ายกับดาราสาว นอกจากนั้นบางรายสาวหล่อรายนี้ถึงขนาดเปิดเทปบันทึกเสียงการสนทนาของสาวหล่อกับดาราสาวให้ฟัง ซึ่งทำให้เหล่าผู้เสียหายเชื่ออย่างสนิทใจว่าสาวหล่อรายนี้เป็นแฟนของดาราสาวจริงๆ ซึ่งเมื่อเหยื่อเริ่มหลงกลจิตวิทยาของสาวหล่อแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการหลอกลวง เบื้องต้นพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งมีความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท โดยข้อมูลจากการสืบสวนสอบสวนสาวหล่อรายนี้จะหลอกลวงให้เหยื่อ “ลงทุน” เล่นหุ้นประเทศสิงค์โปโดยจะใช้จิตวิทยาหว่านล้อมว่าตนเองนั้นเล่นให้กับดาราสาว จากเงิน 40 ล้านบาท สามารถเพิ่มมูลค่าเป็น 100 ล้านบาท ได้ ซึ่งเหยื่อต่างหลงเชื่อ “หอบเงิน” มาร่วมลงทุนกับสาวหล่อรายนี้เป็นจำนวนมาก อันเกิดจากการถูกสาวหล่อใช้จิตวิทยาเล่นกับจิตใจของเหล่าผู้เสียหายที่ลุ่มหลงในตัวดาราสาว ซึ่งแท้จริงไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนหุ้นแต่อย่างใด โดยช่วงแรกนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกตัวสาวหล่อรายนี้มาดำเนินคดี เจ้าตัวได้เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนแต่ต่อมาห้วงเดือน ต.ค. 64  ได้หายตัวไป “เข้ากลีบเมฆ” 

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทยอยออกหมายจับสาวหล่อรายนี้ โดยล่าสุดมีหมายจับที่ยัง ACTIVE อยู่ในระบบกว่า 4 หมายจับ ซึ่งผู้เสียหายบางรายได้ตั้งข้อสังเกตุว่า อาจมีเอี่ยวกับคนในวงการหรือไม่ เนื่องจากดาราสาวมีการส่งทนายมาช่วยเหลือสาวหล่อในชั้นการรับทราบข้อกล่าวหา อีกทั้งหลังจากที่สาวหล่อรายนี้หลอกลวงเหล่าแฟนคลับไปแล้ว ดารานางเอกรายนี้มีการซื้อรถ “ลัมโบร์กินี” จึงเป็นที่คลาบแคลงใจของเหล่าผู้เสียหายเป็นอย่างยิ่ง

'กรมการขนส่งทางบก - ปตท.' ลงนามความร่วมมือ โครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV ยกระดับมาตรฐานการตรวจ-ทดสอบที่สถานีบริการ ปตท. ทั่วไทย

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม อาคาร 10 ชั้น 3 กรมการขนส่งทางบก 
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารจากกรมขนส่งทางบกและ ปตท. ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV 

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นในการรณรงค์และเสริมสร้างทัศนคติการตระหนักถึงความปลอดภัย รวมถึงยกระดับมาตรฐานในการตรวจสอบการใช้งานรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง (NGV) เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ตามนโยบายของ รัฐบาล กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบกได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในโครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV กับ ปตท. เพื่อบูรณาการร่วมกันในการเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจและทดสอบรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง (NGV) ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และข้อมูลที่อยู่ในความควบคุมดูแลของกรมการขนส่งทางบก โดยการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อใช้ในการตรวจสอบรถ NGV ที่เข้ามารับบริการเติมก๊าซ NGV ในสถานีบริการ NGV ของ ปตท. ทั่วประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยของผู้ใช้รถก๊าซ NGV

รองโฆษก ตร. เตือน สงกรานต์นี้ต้องระวัง 'ภัยออนไลน์หน้าร้อน' ย้ำมิจฉาชีพมาได้ทุกรูปแบบ ขู่!!! รับจ้างเปิด 'บัญชีม้า – เบอร์ม้า' ติดคุก 3 ปี ปรับ 3 แสน !!!

วันนี้ (8 เม.ย.66) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพใช้โอกาสเทศกาลสงกรานต์ออกอุบายหลอกลวงออนไลน์

รองโฆษกฯ เปิดเผยสถิติคดีอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนร้องเรียนผ่านแจ้งความออนไลน์ เว็บไซต์ thaipoliceonline.com ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวนถึง 22,486 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 1,842 ล้านบาท โดย 5 ลำดับสูงสุด ได้แก่ 1) หลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นขบวนการ 2) หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 3) หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานฯ 4) ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) และ 5) หลอกให้กู้เงิน

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโจรออนไลน์มักจะออกอุบายตามเทศกาลวันสำคัญตามประเพณี ในช่วงฤดูร้อนนี้ จึงขอแจ้งเตือนถึงรูปแบบอาชญากรรมออนไลน์ที่โจรอาจใช้ในการหลอกลวง ดังนี้

ผบ.ฉก.นราธิวาส เป็นผู้แทน ผอ.รมน.ภาค 4 ร่วมกิจกรรมรอมฎอนสัมพันธ์เสริมสร้างสันติสุข คืนความสุขสู่ชายแดนใต้ ประจำปีอิจเราะห์ศักราช 1444 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ณ มัสยิดบ้านบูกิตปาลัส

ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ มัสยิดบ้านบูกิตปาลัส ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เป็นผู้แทน พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางลงพื้นที่ร่วมกิจกรรม 'รอมฎอนสัมพันธ์' ละศีลอด (เปิดปอซอ) ในเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1444 กับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนไทยมุสลิมในพื้นที่ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เพื่อต้อนรับเดือนรอมฏอนอันประเสริฐ 

สร้างบรรยากาศที่ดีในห้วงของการปฏิบัติศาสนกิจ ตลอดจนสร้างสภาวะแวดล้อมให้เอื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้  พร้อมทั้งเพื่อสนับสนุน และส่งเสริมการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในห้วงเดือนรอมฎอน เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานรัฐกับผู้นำหมู่บ้าน, ผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนาในพื้นที่ โดยก่อนละศีลอด พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และ หัวหน้าส่วนราชการได้พบปะ พูดคุยกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งร่วมกันขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า (ขอดุอาร์) ให้ความสันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น

'เฉลิมชัย'มอบฟรุ้ทบอร์ดเร่งเดินหน้า 23 มาตรการเชิงรุกภายใต้แผนบริหารจัดการผลไม้ฤดูกาลผลิตปี 2566 'อลงกรณ์' ย้ำนโยบายรักษาคุณภาพมาตรฐานมุ่งสร้างแบรนด์ยกระดับราคาผลไม้ไทย กำชับใช้มาตรการเด็ดขาดป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อนทุเรียนสวมสิทธิ์

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board)ว่า ได้มอบนโยบายต่อที่ประชุมดังนี้

1. การรักษามาตรฐานคุณภาพการผลิต การแปรรูป การส่งออกผลไม้ ตามมาตรฐาน GAP GMP และCovid Freeรวมทั้งต้องป้องกันและปราบปรามการ สวมสิทธิทุเรียน และทุเรียนอ่อนอย่างเด็ดขาด(2) สร้างแบรนด์ผลไม้ โดยมอบหมายกระทรวงพาณิชย์สนับสนุนการสร้างแบรนด์ทั้ง Product Brand และ Farm Brand เพื่อส่งเสริมมูลค่าการค้าและการตลาด (3) สนับสนุนการแปรรูปผลผลิตผลไม้เศรษฐกิจของไทย มอบหมายผู้แทนกระทรวงอุตสากรรม นำเสนอแผนการแปรรูปผลผลิตทางเกษตร โดยเฉพาะผลไม้ แก่คณะกรรมการ Fruit Board ในการประชุมคราวหน้า (4) การพัฒนาและการบริหารโลจิสติกส์ เพื่อการส่งออกผลไม้ และ (5) มอบหมายฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ Fruit Board ประสานคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน จัดการประชุมติดตามสถานณ์การผลิตผลไม้ เพื่อรองรับสถานการณ์ผลิตผลไม้ ในฤดูปีผลิต 2566 โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้ ทั้งนี้ ได้มอบหมายคณะอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการ Fruit Board ประชุมร่วมกับคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด และให้คณะอนุกรรมการ ฯ นำเสนอผลงานความก้าวหน้าการดำเนินงาน ต่อคณะกรรมการ Fruit Board ในการประชุมครั้งต่อไป

ในการนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ ใน 4 แผนงานดังนี้ 1) “แผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก (ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง) ปี 2566” ตามแผนการบริหารจัดการผลไม้ แบบเบ็ดเสร็จด้วยตัวเอง ในเชิงคุณภาพสอดคล้องตามยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ.2565 - 2570 และในเชิงปริมาณโดยจัดสมดุลอุปสงค์ อุปทาน สรุปได้ดังนี้ 1.1) การบริหารจัดการเพื่อบริหารจัดการผลผลิต -ทุเรียน 758,438 ตัน -มังคุด 170,046ตัน -เงาะ 194,915ตัน -ลองกอง 16,981ตัน ให้เป็นไปตามกลไกตลาดปกติ รวมทั้งสิ้น 1,140,380 ตัน และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ปรับสัดส่วนข้อมูลแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2566 อีกครั้ง หลังการจากการประชุมจัดทำข้อมูลเอกภาพ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 31 มีนาคม 2566 และแจ้งเวียนคณะกรรมการทราบอีกครั้ง 1.2) เสนอให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) เป็นแกนหลักบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่ ปี 2566 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  1.3) กรณีที่การบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่มีปัญหา มอบหมายให้จังหวัดประสานกับฝ่ายเลขานุการคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ และหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาใช้มาตรการที่เกี่ยวข้องมาดาเนินการช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

2) “แผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ (ลิ้นจี่) ปี 2566” ประกอบด้วย 2.1) แผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ (ลิ้นจี่) ปี 2566 จำนวน 34,620 ตัน 2.2) มอบหมายให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) เป็นแกนหลักบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่ ปี 2566 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และ 2.3) กรณีที่การบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่มีปัญหา มอบหมายให้จังหวัดประสานกับฝ่ายเลขานุการคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ และ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาใช้มาตรการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

3) คณะกรรมการ ได้มีมติรับทราบ ผลการดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ปี 2565 จำนวน 18 มาตรการ ของกระทรวงพาณิชย์ และมีมติเห็นชอบ “โครงการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2566”โดย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ใช้งบประมาณจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร วงเงิน 895.56 ล้านบาท ประกอบด้วย 5 กิจกรรมหลัก และ 10 กิจกรรมย่อย ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 : เสริมสร้างประสิทธิภาพการรวบรวมรับซื้อผลไม้จากเกษตรกร กิจกรรมที่ 2 : เชื่อมโยงกระจายผลไม้ออกนอกแหล่งผลิตและเพิ่มช่องทางการจาหน่ายผลไม้ กิจกรรมที่ 3 : ส่งเสริมการจาหน่ายผลไม้ กิจกรรมที่ 4 : ส่งเสริมการแปรรูปเพื่อการส่งออก กิจกรรมที่ 5 : ประชาสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นผลไม้ไทยปลอดภัยจากโควิด-19 

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายและมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2566 มีเป้าหมาย เป็นสินค้าผลไม้เศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลาไย ลิ้นจี่ ลองกอง มะม่วง สับปะรด ฯลฯ และผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ เกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการค้าผลไม้ ผู้รวบรวม ผู้แปรรูป และผู้ส่งออก ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ได้รับมอบหมาย กรมการค้าภายใน ได้จัดประชุมผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้แก่ ภาคราชการ เอกชน และเกษตรกร เพื่อประเมินแนวโน้มสถานการณ์ด้านการผลิตการตลาดผลไม้ฤดูกาลผลิต ปี 2566 รวมถึงสภาพปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูการผลิตผลไม้ ปี 2566 และได้ร่วมกันกำหนดมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2566 
รวม 4 ด้าน 22 มาตรการ ได้แก่ (1) ด้านการผลิต (2) ด้านตลาดในประเทศ (3) ด้านตลาดต่างประเทศ และ (4) ด้านกฎหมาย ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำ และปลายน้ำ 

4) ฝ่ายเลขานุการ ได้ขอเพิ่มวาระพิจารณา แนวทางการกระจายผลไม้สถาบันเกษตรกร นำเสนอโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะกรรมการได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ “โครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้เพื่อยกระดับราคาของสถาบันเกษตรกร” มีสหกรณ์จำนวน 49 แห่ง ประกอบด้วยสหกรณ์ผู้กระจายสินค้าจำนวน 500 แห่ง สหกรณ์ระดับอำเภอ เครือข่ายสหกรณ์นอกภาคการเกษตรคู่ค้าทั่วไปทั้งภาครัฐและภาคเอกชน สมาชิกสหกรณ์จำนวน 87,536 ราย เป้าหมายกระจายสินค้า 2,100 ตัน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นชอบเป็นมาตรการที่ 23 และมอบหมายกรมส่งเสริมสหกรณ์นำเสนอขอรับงบประมาณสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ 6.594 ล้าน จากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

‘นักข่าวอาวุโส’ โวย!! ราคาจริงตั๋วเครื่องบินวันนี้ ‘สุดแพง’ วอน!! รัฐอย่าชี้ราคาผิดเพี้ยน โปรดเอาความจริงมาพูดกัน

(8 เม.ย. 66) นายเฉลียว คงตุก นักข่าวอาวุโส ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

นายกฯ สั่งแก้ไขด่วน ‘ตั๋วเครื่องบินแพง’ หลังผู้โดยสารร้องเรียนเข้ามาเพียบ กระทบ ปชช. - การท่องเที่ยวในประเทศ จี้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมมากขึ้น

นายอธิรัช รัตนเศรษฐ์ รมช.คมนาคม รายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่า อัตราค่าโดยสาร (ต่อเที่ยว) ในเส้นทางบินกรุงเทพฯ-ภูเก็ต เป็นเส้นทางที่ได้รับการร้องเรียนว่าค่าโดยสารราคาแพงมากที่สุด พบว่าอัตราค่าโดยสารเฉลี่ย ซึ่งต่ำกว่าราคา 2,500 บาท คิดเป็น 82.5% ของตั๋วโดยสารทั้งหมด ในขณะที่ราคาสูงกว่า 2,500 บาท คิดเป็น 17.5% โดยราคาบัตรโดยสาร จะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาล

ตำรวจภูธรภาค 5 จัดไหว้ครูมวยไทยยิ่งใหญ่ พร้อมยกระดับมวยไทยให้เป็น Soft Power

เมื่อวันที่ (7 เม.ย. 66) ที่ ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับบัญชา ตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานพิธีไหว้ครูมวยไทย ตำรวจภูธรภาค 5 โดยมี ร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว) และครูมวยค่ายบัญชาเมฆ ร่วมพิธีไหว้ครูมวยไทยดังกล่าว 

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า โครงการ ‘มวยไทย ตำรวจไทย มรดกไทย ตำรวจภูธรภาค 5’ ประจำปี 2566 จัดขึ้นตามโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้มีแนวคิดยกระดับมวยไทยให้เป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศไทย โดยมีแนวคิดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับมวยไทยในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศและระดับสากลทั่วโลก และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดดำเนินการให้ได้ผลอย่างจริงจังในทุกตำรวจภูธรภาค

‘กรณ์’ ควง ‘จูรี’ บุกสุราษฎร์ ช่วยผู้สมัคร ‘ชพก.’ หาเสียง ชาวบ้านแห่ต้อนรับ เผย นโยบายโดนใจ แก้ปัญหาปากท้องได้จริง

(8 เม.ย. 66) ในระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายจูรี นุ่มแก้ว ร่างทรงชาวบ้าน ดาวติ๊กตอกขวัญใจคนใต้ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสงขลา เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า และทีมงานลงพื้นที่ ช่วยผู้สมัครทั้ง 4 คนของพรรคได้แก่ นายอนุวัตร์ รจิตานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 4, นางพงศ์ศรี นาคเมือง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 8, นายสุพจน์ บานเย็น ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 เบอร์ 9 และนายวศุธน เรืองขนาบ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 เบอร์ 4  พร้อมทีมงาน เดินขอเสียงประชาชนบริเวณ ตลาดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และร้านค้าถนนหน้าเมือง โดยมีพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการร้านทอง พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจและมีเสียงตอบรับเป็นอย่างมากตลอดเส้นทาง พร้อมขอถ่ายรูปเซลฟีกับ นายจูรีและนายกรณ์อย่างคึกคัก สร้างสีสันให้กับพรรคเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้เปิดเวทีปราศรัย บริเวณสะพานนริศ ริมแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีด้วย

โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ตนกับนายจูรี มาช่วยเพื่อนผู้สมัครหาเสียง โดยก่อนหน้านี้เคยมาพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีบ่อยเช่นกัน แต่การลง จ.สุราษฎร์ธานีครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีดีมาก ทุกคนที่พบปะขานรับในนโยบายพรรค และเชื่อว่าจะได้รับการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจในตัวผู้สมัครที่ส่งทั้ง 4 คน 4 เขต และการนำเสนอนโยบายที่จะช่วยแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ก็ทราบว่าโดนใจประชาชนเป็นอย่างมาก ทำให้รู้สึกมีกำลังใจ สำหรับในพื้นที่ภาคใต้พรรคชาติพัฒนากล้าเราส่ง 20 เขตเลือกตั้ง ทั้งนี้ก็อยู่ที่พี่น้องประชาชนที่จะให้โอกาสกับพรรคชาติพัฒนากล้าได้มีโอกาสเข้าไปทำงาน

นายกรณ์ กล่าวว่า ทุกคนรอคอยการแข่งขันทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน เราคิดนโยบายมาเป็นปี ด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นมาก ไม่เพียงแต่จะมาปักหมุดให้ผู้สมัครทุกคนเป็น ส.ส.เท่านั้น แต่มองไปไกลกว่านั้นคือ มองเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจของสุราษฎร์ธานี มีโอกาสมากมาย แต่ขาดการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าต้องการมาแก้ไข พรรคเราเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานสร้างสรรค์เอานโยบายดี ๆ มาขาย นโยบายของเราเป็นที่ยอมรับโดยสื่อและประชาชน ว่ามุ่งเป้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ที่มีเป้าหมายสรุปง่าย คือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง เราชนเรื่องพลังงาน เพื่อให้ราคาน้ำมันถูกลง ไม่ใช่ตัวเลขกำไรที่เพิ่มขึ้นของบริษัทผลิตน้ำมัน ในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักโดยที่รัฐมนตรีที่กำกับดูแลไม่ทำอะไร เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้า ก็ประกาศออกมาว่าจะขึ้นค่าไฟฟ้าในวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นการซ้ำเติมในช่วงที่ประชาชนใช้ไฟสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว แต่กลับไปลดให้กับภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงต้องรื้อโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่

นายกรณ์ กล่าวว่า เกษตรกรภาคใต้มีปัญหาเดือดร้อนเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรมาโดยตลอด รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ปีแล้วปีเล่า ประชาชนก็ยังจนเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือราคาพืชผลดีอย่างยั่งยืน ซึ่งวิธีเดียวที่เกษตรกรจะมีราคาที่ดีอย่างยั่งยืนคือ เขาต้องแข่งขันได้ และการจะสู้ราคากับนายทุนได้เพราะเขาไม่มีอำนาจต่อรอง วิธีที่เขาจะต่อสู้ได้ คือ เกษตรกรต้องเป็นนายทุนเอง ซึ่งมันต้องเกิดการรวมตัวโดยมีรัฐบาลเป็นผู้ออกกฎหมาย เปิดทางและจัดสรรทุนให้ เกษตรกรต้องรวมตัวกันเป็นเพื่อให้มีพลัง ซึ่งตนเรียกว่า ‘บริษัทสหกรณ์มหาชน จำกัด’ ชาวสวนยางจะกลายเป็นนายทุน ผู้ถือหุ้นบริษัทสวนยางของพี่น้องชาวใต้ จะสามารถเจรจาต่อรองโดยตรงกับผู้ใช้ยาง กำหนดราคาได้ ไม่ต้องให้คนกลางมาทอนกำไรลง ซึ่งเรื่องนี้ต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมด พรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคเดียวที่พูดเรื่องนี้

ด้านนายจูรี กล่าวว่า จากการเดินขอเสียงในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี อารมณ์ไม่ต่างจากเดินที่ จ.สงขลา บ้านของตนเอง ทุกคนออกมาต้อนรับ ทั้งร้านทอง ร้านค้าต่าง ๆ ออกมาให้กำลังใจ ขานรับในนโยบายที่จับต้องได้ เช่น นโยบาย 1 คำขอ พูดง่าย ๆ คือ สามารถติดต่อกับราชการจบในที่เดียว ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ ไม่ต้องไปตระเวณไปหลายหน่วยงาน ในยุคออนไลน์มันสามารถทำได้ง่ายขึ้น ราชการต้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชนต้อง ไม่ใช่เอาความลำบากมาให้ ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าเราตั้งใจที่จะช่วยเหลือชาวบ้านจริง ๆ

นอกจากนี้ ตนยังขอให้พี่น้องชาวใต้ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง เรียกศักดิ์ศรีคนใต้ซื้อไม่ได้กลับคืนมา ดังนั้น ในวันที่ 14 พฤษภาคม ก็ขอให้พี่น้องประชาชนกาผู้สมัครของเขตนั้น ๆ และถ้าพื้นที่ไหนในภาคใต้ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.เขต ขอให้กา เบอร์ 14 คือเบอร์พรรค จะได้นายกรณ์ ไปบริหารประเทศด้านเศรษฐกิจ ช่วยแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนได้

‘ตร.นครพนม’ รวบ ‘นักบินข้ามโขง’ วัย 56 พร้อมเมียเด็กท้อง 3 เดือน ขนยาบ้ากว่าล้านเม็ด อ้างตกงาน หวังรวยทางลัดหาเลี้ยงครอบครัว

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ที่หน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (กก.สส.ภ.จว.ฯ) พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.ฯ) มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ฯ, พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภาค 4, พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานฯ, พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะประกร รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด แถลงการณ์จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ คือ นายอุดมสิน (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เจ้าของฉายา ‘นักบินข้ามโขง’ ชาวอำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี พร้อมภรรยา นางเจนจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พร้อมตรวจยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กทม. ตรวจค้นภายในรถยนต์พบกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวน 6 กระสอบ ตรวจนับได้จำนวนทั้งสิ้น 1,012,000 เม็ด โดยบรรจุแยกเป็นแพ็กเกจกันชื้น มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ สีเขียว Y1

จากข้อมูลพบว่าเป็นสัญลักษณ์ยาบ้าเกรดต่ำ ราคาเม็ดละประมาณ 10 บาท ลักษณะยาบ้าเป็นเม็ดสีส้ม มีตัวอักษร WY คาดว่า กลุ่มผู้ผลิตใช้สารฆ่าแมลงผสมเป็นสารตั้งต้นแทนแอมเฟตามีน เพื่อลดต้นทุน และกำลังระบาดทะลักมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งขายในพื้นที่ตอนในอีสาน อาศัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ลำเลียง โดยจะใช้กองทัพมดลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงมาทางเรือหางยาว ก่อนนำมาพักไว้ตามแนวชายแดนพื้นที่อีสาน รวมถึงจังหวัดนครพนม

การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนขยายผลจากผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ว่า ชาวลาวชื่อ ท้าวบัวพา อายุ 25 ปี ร่วมกับเพื่อนชื่อท้าวอ้วน อายุ 26 ปี มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครพนม จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลทั้งสองอย่างใกล้ชิด โดยมี พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ สว.กก.สส.จวฯ เป็นหัวหน้าชุดวางกำลังไว้ตามจุดต่าง ๆ กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 6 เมษายน สายสืบรายงานว่าพบกระสอบปุ๋ย จำนวน 6 กระสอบ คาดว่าภายในบรรจุยาบ้าซุกซ่อนไว้ในป่าหญ้าริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) จึงซุ่มเฝ้าเพื่อรอว่าจะมีใครมาขนกระสอบปุ๋ยต้องสงสัย

เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ก็มีรถยนต์กระบะสีเทายี่ห้อมิตซูบิชิขับเข้ามาจอด และชายคนขับคือท้าวอ้วน ได้ลงมาแบกกระสอบปุ๋ยใส่ท้ายกระบะ ชุดเฝ้าซุ่มจึงจู่โจมล็อกตัวจับกุม ท้าวอ้วนจำนนต่อหลักฐานจึงรับสารภาพว่า ได้รับท้าวบัวพา โพทิลาด ใช้ให้ขับรถมาขนกระสอบบรรจุยาบ้า จากบริเวณดังกล่าว เพื่อนำไปไว้ที่ท่าทรายร้างแห่งหนึ่งอยู่ บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน ระหว่างนั้นเองท้าวบัวพาได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ามาจอดเทียบรถยนต์ของท้าวอ้วน เพื่อจะสอบถามถึงผลการทำงานลุล่วงหรือไม่ จึงถูกจับกุมตัวได้โดยละม่อม

จากนั้นชุดปฏิบัติการ กก.สส.จว.นครพนม ได้ซ้อนแผนให้ผู้ต้องหาทั้งสองคน นำของกลางยาบ้าที่อยู่ท้ายรถกระบะท้าวอ้วนมาจอดที่ท่าทรายร้าง เพื่อรอผู้ที่จะมารับยาบ้าตามที่นัดหมายกันไว้ ต่อมามีรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ขับเข้ามาที่ท่าทรายดังกล่าว ชายคนขับเดินลงมาเปิดฝาท้ายแล้วตรงดิ่งไปที่ท้ายรถกระบะขนกระสอบยาบ้าใส่ฝาท้ายรถเก๋ง ตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงเข้าจับกุมทันที ทราบว่าชายดังกล่าวชื่อนายอุดมสิน ส่วนภายในรถเก๋งพบนางเจนจิรา ภรรยาของนายอุดมสินนั่งรออยู่ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 4 คนไปสอบสวนขยายผล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top