Tuesday, 13 May 2025
Hard News Team

กองทัพภาคที่ 3 ชี้แจงกรณี ปรากฏข่าวในสื่อออนไลน์ เรื่องผู้ป่วยติดเตียงมาเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำพูน

วันที่ 9 เม.ย. 66 พ.อ. รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ รองโฆษก กองทัพภาคที่ 3 ชี้แจงกรณี เรื่องผู้ป่วยติดเตียงมาเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ ในพื้นที่ อ.เมือง จว.ลำพูน ในวันที่ 8 เม.ย.66 

เมื่อประมาณ กลางเดือน ก.พ.66 มีผู้ปกครองของทหารกองเกินมาแจ้งกับ สัสดี อ.เมือง จว.ลำพูน ว่าบุตรชายของตนชื่อ นายธนกฤต วุฒิโรธง เกิด พ.ศ.2545 ภูมิลำเนาทหาร 47/3  ม.7 ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน จว.ลำพูน ได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ป่วยติดเตียง ไม่สามารถที่จะมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ ในวันที่ 8 เม.ย.66 ที่หอประชุมอำเภอเมืองลำพูนได้ มีแนวทางในการดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งสัสดีอ.เมืองลำพูน ได้อธิบายให้ผู้ปกครองทราบถึงข้อกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ ตามภาษาพูดที่จะเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าถ้าผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางมาแสดงตนได้ ให้ผู้ปกครองนำเอกสารประวัติการป่วย และใบรับรองแพทย์ มาแจ้งต่อคณะกรรมการในวันตรวจเลือกฯ ทางคณะกรรมการฯ จะออกเอกสารใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.43) เป็นคนจำพวกที่ 3 (คนซึ่งมีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้เพราะป่วย  ซึ่งจะบำบัดให้หายไม่ได้ภายในกำหนด 30 วัน  กรณีนี้ให้เรียกมาตรวจเลือกในคราวถัดไปเมื่อคณะกรรมการตรวจเลือกฯ ได้ตรวจเลือกแล้วยังคงเป็นคนจำพวกที่ 3 อยู่รวม 3 ครั้ง ให้งดเรียก (การนับครั้งจะนับครั้งให้เฉพาะที่ได้ตัวมาตรวจเลือกถ้าตัวไม่มาตรวจเลือกไม่นับครั้งให้))

ซึ่งทางญาติบอกว่ายุ่งยากไม่สามารถทำได้ สัสดี อ.เมืองลำพูน จึงได้แนะนำว่า ถ้าจะให้ผลการตรวจเลือกฯ จบภายในปีนี้ ให้นำบุตรชายมาแสดงตนเข้ารับการตรวจเลือกฯ โดยขอรับการสนับสนุนรถรับ-ส่ง ผู้ป่วย(EMS)ของเทศบาลเวียงยองนำผู้ป่วยเข้าตรวจเลือกฯ และให้มาจอดรออยู่บริเวณหน้าสถานที่ตรวจเลือกฯ สัสดี อ.เมืองลำพูน จะอำนวยความสะดวก โดยนำเรียนคณะกรรมการตรวจเลือกฯ มาทำการตรวจเป็นกรณีเร่งด่วน เมื่อคณะกรรมการฯ ดำเนินการกำหนดเป็นคนจำพวกแล้ว จะได้รีบนำตัวผู้ป่วยกลับบ้าน ผลการตรวจเลือกฯ จะจบสิ้นในวันตรวจเลือกฯ ซึ่งทางผู้ปกครองเข้าใจและรับปากยืนยันว่าจะนำตัวผู้ป่วยมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ ในวันที่ 8 เม.ย. 66 ที่หอประชุมอำเภอเมืองลำพูน 

เปิดเหตุผล...ทำไม? ‘ลุงตู่’ ต้องอยู่ต่อ!! จากปากคนใกล้ชิด

ทำไม? ถึงตัดสินใจร่วมงานกับ ‘ลุงตู่’ ? นี่คือคำถามที่ THE STATES TIMES ได้สอบถามกับ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตนายทหารชื่อดัง และ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร โดยท่านได้ตอบว่า...

สำหรับผม การที่เลือกมาช่วยงานท่านพลเอกประยุทธ์ เนื่องจาก ผมมีความศรัทธาในตัวท่านในหลาย ๆ เรื่อง เพราะว่าผมได้เห็นท่านมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ๆ 

อันดับแรกเลย คือ ท่านเป็นคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ทหารทุกท่าน และประชาชนทุกคน มีความรักดีต่อสถาบันฯ ร่วมกันอยู่แล้ว 

อันดับที่สอง คือ ท่านเป็นคนที่ทำพวกเราเห็นว่า ท่านเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานมากในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนมีผลงานออกมาเป็นรูปธรรมมากมายในสมัยรัฐบาลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสาธารณูปโภค ในเรื่องความก้าวหน้า ในเรื่องของไอที หรือเรื่องของความสำคัญระหว่างประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในรัฐบาลนี้ ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งท่านก็สามารถพื้นความสัมพันธ์ได้ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศอเราย่างมหาศาล

อันดับต่อมา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความซื่อสัตย์สุจริต ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ท่านโดนตรวจสอบไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เพื่อหาประเด็นตรวจสอบเรื่องทุจริตเกี่ยวกับตัวท่าน แต่ก็ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นรูปประธรรมอย่างชัดเจน ที่จะกล่าวหาท่านได้เลย แม้แต่ที่เราเห็นว่าบุคคลใกล้ชิดท่านหรือใกล้เคียงท่าน ที่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตต่าง ๆ นั้น ท่านก็ไม่เคยใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีไปปกป้อง ท่านก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กระบวนการตรวจสอบ และจะเห็นว่าที่ผ่านมานั้น โครงการอะไรก็ตามที่มีปัญหา หรือมีประเด็นร้องเรียนเรื่องการทุจริต ท่านก็จะรับฟัง ตรวจสอบ และรับโครงการ เพื่อให้มีความโปร่งใส มีความชัดเจน ก่อนที่จะให้โครงการนั้นเดินหน้าต่อไป

'สืบนครบาล'จับกุมดร.เอก คนปั้นดิน แอบอ้างรองนายกฝากเข้ารับราชการ ตุ๋นเงินเสียหายกว่า 14 ล้าน

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลร่วมกับชุด PCT 5 ออกลาดตระเวนออนไลน์จนพบความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งเคยถูกคนร้าย  ชื่อ ดร.เอก ฅนปั้นดิน อ้างตนว่าสามารถฝากเข้ารับราชการองค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่นได้ สนิทกับ รองนายกรัฐมนตรีเหยื่อหลงเชื่อจ่ายเงิน 3 แสน แล้วหนีหาย โดยได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนและศาลได้พิจารณาออกหมายจับแล้ว เหตุเกิดวันที่ 3 กันยายน 2560 ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้

จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ทราบว่าคนร้ายคือ  นายวรพนธ์ หรือเอก กุลสืบ มีหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีอยู่ 6 หมายจับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT5 กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ฯรีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว 

ต่อมาวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. (สส) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และ ส.ต.อ.ประกิจ ภูมิวงศ์ ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม

นายวรพนธ์ กุลสืบ อายุ 40 ปี อยู่ที่ บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 1 ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม (เป็นที่รู้จักในนาม ดร.กิตติมศักดิ์ วรพนธ์ กุลสืบ หรือ “ครูเอก ฅนปั้นดิน)ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ.133/2561 ลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์ ”        

โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าตลาดละแมเมืองใหม่ ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร           

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าตนเรียนจบปริญญาตรีคณะครุศาตร์ สาขาโยธา , ปริญญาโทคณะบริหารการศึกษา มีทักษะในการพูดเชิงโน้มน้าว เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำ การทำงานเป็นทีม รับจัดกิจกรรม Team Building , Walk Rail ฝึกอบรมสัมมนาและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ ความสามารถ โดยเน้นจัดสัมมนาในรูปแบบกิจกรรมบันเทิงเชิงสาระตรงตามวัตถุประสงค์และค่านิยมขององค์กรต่างๆ และรับทำพิธีบวงสรวงต่างๆ เช่น พิธีบายศรู่ขวัญ ปฐมนิเทศ ปัจฉิมนิเทศนักเรียน นักศึกษาฯลฯ มีประสบการณ์การทำงานด้านนี้กว่า 15 ปี 

เกี่ยวกับคดีที่ถูกจับกุม ให้การว่าตนมีพฤติการณ์ชักชวนหาคนที่สนใจเข้ารับราชการซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ หรือผู้ซึ่งเคยเข้ารับการอบรมกับตน ตลอดจนบุคคลที่นับถือศรัทธาตนผ่านการบอกต่อปากต่อปากของคนที่นับถือตน ว่าสามารถฝากบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยต่าง ๆ ได้ เช่น สอบบรรจุนายสิบทหารบก , นายสิบตำรวจ , ข้าราชการครู และหน่วยราชการอื่น ๆ อีกหลายหน่วยงาน โดยเรียกเก็บเงินกับบุคคลที่สนใจต่อหัว รายละ 200,000 – 300,000 บาท โดยอ้างว่าสามารถวิ่งเต้น โดยตนอ้างใช้เส้นสายของนักการเมืองระดับรองนายกรัฐมนตรีฝากเข้ารับราชการ มีผู้ร่วมขบวนการซึ่งอ้างว่าเป็นคนทำหน้าที่ติดต่อกับรองนายกรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงให้ช่วยวิ่งเต็นได้ ชื่อนายเสกสรร โดยมีการแบ่งผลประโยชน์ที่ได้จากเหยื่อแต่ละรายกัน คือตนเองได้ 20 เปอร์เซ็นต์ นายเสกสรร ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัตินายเสกสรร พบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” มาแล้ว เมื่อปี 2562 

สำหรับประวัติ นายวรพนธ์ เป็นที่รู้จักในนาม ดร.กิตติมศักดิ์ วรพนธ์ กุลสืบ หรือ “ครูเอก ฅนปั้นดิน” ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมไทย เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมวิทยากรฅนปั้นดิน, ประธานฝ่ายกิจกรรม สหพันธ์คนดนตรีแห่งประเทศไทย, ผู้ช่วยผู้ตรวจการประจำสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ, เลขานุการองค์กรการมีส่วนร่วมภาคประชาชนตามรัฐธรรมนูญ, คณะกรรมการองค์กรปลูกปัญญาเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเคยได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ด้านอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรม ม.ย่านปทุม , รางวัลธรรมลักษณ์ศิลา คนดีแบบอย่างของชาติ, รางวัลศิษย์ดีเด่น คนดีศรีพอเงิน, รางวัลลูกผู้มีความกตัญญูอย่างสูง, รางวัลผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ, รางวัลบุคคลดีของแผ่นดิน สาขาบุคคลผู้เป็นต้นแบบต่อสังคมดีเด่น จนภายหลังเป็นวิทยากรฝึกอบรม จัดสัมมนา พิธีกร และรับจัดพิธีกรรมตามงานมงคลต่างๆ เช่น พิธีบวงสรวง พิธีบายศรีสู่ขวัญ ทำขวัญนาค ทำขวัญบ่าวสาว

‘สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ’ จับมือ ‘ม.หอการค้าไทย’ เตรียมจัดดีเบต เจาะลึกนโยบายเศรษฐกิจ 9 พรรคการเมือง

สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จับมือมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดซูเปอร์ดีเบต ‘โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 66 เจาะลึก…นโยบายเศรษฐกิจ 9 พรรคการเมือง’ พร้อม MOU ความร่วมมือ อันเป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพสื่อมวลชน

(9 เม.ย. 66) รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พร้อมด้วย นายกฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ ณ วันที่ 4 เมษายน 2566 โดยมีนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ประธานที่ปรึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, ดร.รวิดา วิริยกิจจา คณบดีคณะบริหารธุรกิจ และคณาจารย์มหาวิทยาลัยหอการค้า กรรมการบริหารสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เป็นสักขีพยาน
โดยความร่วมมือแรกที่จะเห็นทันที คือการ ร่วมกันจัดสัมมนาดีเบตใหญ่ ‘โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 66 เจาะลึก…นโยบายเศรษฐกิจ 9 พรรคการเมือง’ ขึ้นในวันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.30-12.00 น. ณ อาคาร 23 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถนนวิภาวดีรังสิต

ซึ่งพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้ส่งผู้เข้าร่วม ในระดับหัวหน้าพรรคฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และผู้ร่วมผลักดันนโยบายเศรษฐกิจของพรรค ร่วมดีเบต เช่น นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ตัวแทนพรรคเพื่อไทย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า, หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร จากพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายอุตตม สาวนายน จากพรรคพลังประชารัฐ, นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล จากพรรคก้าวไกล, นายชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย

โดยภายในงาน จะมีการเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชน จากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในประเด็นนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากเห็น และนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมืองที่แต่ละพรรคจะทำทันที หากได้เป็นรัฐบาล

รศ.ดร.ธนวรรธน์ เปิดเผยว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ร่วมลงนาม MOU ครั้งแรก ระหว่าง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ทั้งในสมาชิกสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน และประโยชน์ต่อสถาบันการศึกษา งานด้านวิชาการจากทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย การถ่ายทอดเทคโนโลยี ประสบการณ์จากทางสมาคมสื่อเศรษฐกิจ เพื่อให้มีความก้าวหน้าสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ พัฒนาภาพลักษณ์และการสื่อสารองค์กร ทั้งภายในและภายนอก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากปี 2566

ผบ.ฉก.นราธิวาส พบปะสานสัมพันธ์ผู้นำศาสนาห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ณ มัสยิดเราฎอตุลญันนะห์

ที่ มัสยิดเราฎอตุลญันนะห์ บ้านบาเละ หมู่ 10 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ร่วมกิจกรรม “รอมฎอนสัมพันธ์” ละศีลอด (เปิดปอซอ) ในเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1444 กับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนไทยมุสลิมในพื้นที่ อำเภอรือเสาะจังหวัดนราธิวาส เพื่อต้อนรับเดือนรอมฏอนอันประเสริฐ สร้างบรรยากาศที่ดีในห้วงของการปฏิบัติศาสนกิจ พร้อมทั้งสร้างสภาวะแวดล้อมให้เอื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนได้มอบสิ่งของเครื่องบริโภค และอินทผาลัม สำหรับละศีลอดให้กับผู้นำศาสนา และ อิหม่านประจำมัสยิดในพื้นที่

พร้อมทั้งร่วมรับประทานอาหารละศีลอดพร้อมกัน โดยมี พันเอก สิทธิชัย บำรุงเขต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 นายอำเภอรือเสาะ,ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรรือเสาะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาในพื้นที่ และพี่น้องประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม 

‘มาเตรัซซี’ เผยความลับแมตช์ ‘อิตาลี-ฝรั่งเศส’ เมื่อ 17 ปีก่อน บอก ‘ซีดาน’ ว่าอยากได้น้องสาว จนเกิดภาพประวัติศาสตร์

เมื่อวันที่ (8 เม.ย. 66) ที่ผ่านมา ‘มาร์โก มาเตรัซซี’ อดีตแนวรับทีมชาติอิตาลี ไปออกรายการของ ‘อิตาเลียน ฟุตบอล ทีวี’ โดยตอบคำถามของพิธีกรในประเด็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลก 2006 ที่เจ้าตัวโดน ‘ซีเนดีน ซีดาน’ ใช้หัวโขกเข้าเต็มหน้าอกจากการไปยั่วยุดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส

เจ้าตัวยอมรับว่าเหตุการณ์เมื่อ 17 ปีก่อน ตนมีการ ‘แทรช ทอล์ค’ หรือพูดจายั่วยุ ซีเนดีน ซีดาน จริง ๆ โดยหน้าที่ของเขาในเกมนั้นคือ การตามประกบเพลย์เมคเกอร์ของทัพ ‘ตราไก่’ ตลอดทั้งเกม จนสุดท้ายมีการปะทะคารมจนคู่แข่งโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

ชื่นชม 'โพนทอง' คุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม ได้รับการรับรองคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation : EHA) จากกรมอนามัยร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ระดับเกียรติบัตร ด้านการจัดการมูลฝอยทั่วไป

วันที่ 9 เมษายน 2566 นายสุดใจ บัวลอย นายกเทศมนตรีตำบลโพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ในการประชุมประจำเดือน ที่ห้องประชุมโสมพะมิตร ชั้น 4 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ตนในนามตัวแทนเทศบาลตำบลโพนทอง ได้เข้ารับใบประกาศการรับรองคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation : EHA) ประจำปี  2566 ระดับเกียรติบัตร ด้านการจัดการมูลฝอยทั่วไป EHA 4001 โดยมีนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้มอบ

นายสุดใจกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เทศบาลตำบลโพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้ผ่านเกณฑ์การประเมิน ระดับเกียรติบัตร และได้รับหนังสือรับรองจากกรมอนามัยร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Environmental Health Accreditation : EHA) และการประเมินประสิทธิภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Local Performance Assessment : LPA) โดยใบประกาศการรับรองคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมดังกล่าว รับรองโดยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ตำรวจไซเบอร์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงก่อนวันหยุดยาวสงกรานต์ จับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณี ตำรวจไซเบอร์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ในห้วงก่อนสงกรานต์ ทำการจับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึกของกลางได้เป็นจำนวนมาก ดังนี้

ตามที่ในช่วงวันที่ 13 - 17 เม.ย.66 เป็นห้วงหยุดยาววันสงกรานต์ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับนโยบายด้านการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศนั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนแล้ว มิจฉาชีพอาจฉวยโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าวเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยจากการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบ ป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามนโยบาย จัดทำแผนหรือมาตรการป้องกันแลปราบปรามอาชญากรรมเพื่อรองรับช่วงวันหยุดยาวให้สอดคล้องกับสถานกาณ์ดังกล่าว รวมถึงดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมไปถึงการสร้างการรับรู้ให้กับภาคประชาชนเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์

โดยในช่วงระหว่างวันที่ 29 มี.ค. - 9 เม.ย 66 บช.สอท. ได้มีการกำหนดเป้าหมายระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไป ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน การสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับ เป็นต้น และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แก่ การหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์ การเผยแพร่ข่าวปลอม คดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรี การค้ามนุษย์ การพนันออนไลน์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้สามารถทำการจับกุมผู้กระทำความผิดได้กว่า 307 คดี ผู้ต้องหากว่า 329 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก มีคดีสำคัญและน่าสนใจ เช่น ปฏิบัติการเหนือเมฆ ตรวจค้น 17 จุด ทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บไซต์เงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท, จับกุมผู้ต้องหาหลอกลวงให้เช่าบูชาพระเครื่องในกลุ่มต่างๆ กว่า 60 กลุ่ม, จับกุมผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์ รวมถึงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าอีกหลายคดี เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว บช.สอท. ยังได้วางมาตรการป้องกัน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงกลโกง หรือแผนประทุษกรรมของมิจฉาชีพ ผ่านทางจอภาพในพื้นที่ต่างๆ หรือผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกด้วย 

‘Soompi’ เผย เพลง LALISA ของ ‘ลิซ่า’ สร้างสถิติใหม่ ทะยานสู่ 600 ล้านวิว!! เร็วที่สุดในศิลปินหญิง K-POP

(9 เม.ย. 66) เรียกว่าฮอตเกินต้านสำหรับ ‘ลิซ่า’ ลลิษา มโนบาล หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ศิลปินหญิงไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย เมื่อล่าสุดเว็บไซต์ Soompi ซึ่งเป็นสื่อเกาหลีใต้ได้รายงานข่าว ช่วง 01.30 น. ตามเวลาประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ว่า ‘LALISA’ เพลงโซโล่ของลิซ่าเป็นซิงเกิล มียอดวิวทะลุ 600 ล้านวิวได้เร็วที่สุดในศิลปินหญิง K-POP โดยมิวสิกวิดีโอเพลง ‘LALISA’ เปิดตัววันแรกเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 13.00 น. (ตามเวลาประเทศเกาหลีใต้)

‘จูรี’ อ้อนชาวชุมพร เลือก ‘ชาติพัฒนากล้า’ กาให้ ‘ทนายลิขิต’ ชู ‘กรณ์’ ทำพรรคนี้เพื่อปากท้อง ไม่ด่าทอ ไม่ทะเลาะกับใคร

‘กรณ์-จูรี’ ลุยชุมพร ช่วย ‘ทนายลิขิต’ หาเสียง อ้อนขอโอกาสลูกชาวบ้าน กาให้ชาติพัฒนากล้า พัฒนาเศรษฐกิจชุมพร

(9 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างวันที่ 5-9 เมษายน 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กตอกขวัญใจคนใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดสงขลา และทีมงาน ได้ตระเวนช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่สุดท้ายคือที่จังหวัดชุมพร โดยนายกรณ์ และนายจูรี ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อช่วยทนายลิขิต ศรีชาติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดชุมพร หาเสียง โดยพบปะพี่น้องประชาชนบริเวณ บริเวณหลาดเล อำเภอท่าแซะ และจัดเวทีปราศรัยที่ถนนคนเดินสะพลี อำเภอปะทิว โดยมีประชาชนให้ความสนใจและให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก และอบอุ่น

นายกรณ์ กล่าวว่า จ.ชุมพร ถึงเวลาต้องมีการเขย่าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ๆ ได้เข้ามาทำการเมืองสร้างสรรค์ พรรคชาติพัฒนาเราส่งผู้แทนคุณภาพที่เป็นลูกชาวบ้าน คือ ทนายลิขิต ศรีชาติ เป็นอดีตรองนายก อบจ.ที่ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมากว่า 3 ปี แล้ว ไม่ได้เพิ่งมาตอนจะมีการเลือกตั้ง และนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้าเอง ก็ได้รับการยอมรับว่า แหลมคมที่สุดในด้านเศรษฐกิจ และสามารถสรุปได้ง่าย ๆ แค่ 3 คำคือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง เพราะเรารู้ว่านี่คือสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศต้องการ เราต่อสู้มาตลอดตั้งแต่ราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ยกเลิกแบล็กลิสต์ ฯลฯ ที่เอาเปรียบประชาชน เอื้อนายทุน 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พวกเราเลือกที่อยู่พรรคเล็ก ๆ และยืนหยัดต่อสู้กับนายทุน เพราะเราไม่ได้พึ่งพาปัจจัยการสนับสนุนจากทุนใหญ่เลย เราจึงกล้าที่จะพูดและกล้าที่จะทำในสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ในฐานะที่อดีต รมว.คลัง และอดีตนายธนาคาร ขอยืนยันนโยบายทุกนโยบายเป็นไปได้ โดยเฉพาะภาคการเกษตร นโยบายประกันรายได้ ตนเป็นคนคิดเอง แต่เป็นการออกแบบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่เอามาใช้ปีแล้วปีเล่า แต่ชาวบ้านก็ยังจนเหมือนเดิม ถ้าจะดีราคาสินค้าทางการเกษตรต้องดีอย่างยั่งยืน เกษตรกรต้องเป็นนายทุน กำหนดราคาสินค้าเอง ขอเพียงโอกาสให้ตนได้เข้าไปทำงาน ตนจะทำให้ดู 

“หากพี่น้องประชาชนต้องการสร้างโอกาสให้ลูกหลาน ผู้สูงอายุได้รับการดูแล ความเดือดร้อนทางด้านปากท้องของพี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไข ก็ต้องกาเบอร์ 6 เลือกทนายลิขิต ไปเป็นผู้แทน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และกาเบอร์ 14 เพื่อให้ผมเข้าไปทำงาน” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว 

นายจูรี กล่าวระหว่างขึ้นเวทีปราศรัย ว่า ดูจากจำนวนคนที่เข้าร่วมฟังเวทีปราศรัยในครั้งนี้ รู้ทันทีว่าเงินซื้อชาวบ้านไม่ได้ เพราะเป็นพลังเสียงที่บริสุทธิ์ ทำให้เห็นความหวัง และได้กลิ่นความเจริญของชุมพรกำลังลอยมาแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้ง ที่มี่การใช้เงินครั้งมโหฬารที่สุด พวกเขาเห็นประชาชนเป็นปลา จึงเอาเหยื่อมาล่อ ให้ชาวบ้านไปกินเหยื่อเขา เราต้องให้บทเรียนพวกนั้นว่า คนชุมพร กินเหยื่อ แต่ไม่กินเบ็ด ให้คนตกปลามันกลัวไปเลย ขอให้ชาวบ้านมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กัน โดยการให้โอกาสลูกชาวบ้านเข้าไปเป็นผู้แทน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top