Wednesday, 25 June 2025
Hard News Team

ผู้แทนทรัมป์เผยเคียฟตกลงเลือกตั้งใหม่ พร้อมอ้างว่าผู้นำยูเครนยอมรับ ไม่เป็นสมาชิกนาโต

(24 มี.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สตีฟ วิตคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ผู้พัฒนาและนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์ก ที่ดำรงตำแหน่งผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ ทัคเกอร์ คาร์ลสัน นักข่าวชาวสหรัฐฯ 

โดยเปิดเผยว่า เคียฟตกลงที่จะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยูเครน และเสริมว่าผู้นำของประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะสงครามแห่งนี้ (ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี) ก็ตกลงกับเรื่องนี้แล้ว เนื่องจากกำลังตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากมาก เพราะรัสเซียมีประชากรและมีอาวุธนิวเคลียร์ที่มากกว่า

วิตคอฟฟ์เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี และอันดรีย์ เยอร์มัก หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครน ได้ยอมรับเกือบทั้งหมดแล้วว่า ยูเครนจะไม่ได้เป็นสมาชิกของ นาโต (NATO) ในอนาคตอันใกล้

การให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้สะท้อนถึงท่าทีที่เปลี่ยนแปลงจากผู้นำยูเครน ซึ่งในอดีตเคยหวังที่จะเข้าร่วมกลุ่มนาโตอย่างเต็มที่ เพื่อต่อสู้กับความท้าทายด้านความมั่นคงจากรัสเซียที่ขยายอิทธิพลในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีและเยอร์มักได้ยืนยันว่า ยูเครนจะไม่สามารถเข้าเป็นสมาชิกของนาโตได้ตามที่เคยตั้งใจไว้

“พวกเขา (เซเลนสกีและเยอร์มัก) ได้ยอมรับเกือบทั้งหมดว่า ยูเครนจะไม่ได้เป็นสมาชิกของนาโตในตอนนี้ และการเปลี่ยนแปลงในเชิงกลยุทธ์นี้เป็นการยอมรับสถานการณ์ปัจจุบัน” วิทคอฟฟ์กล่าวในระหว่างการสัมภาษณ์กับคาร์ลสัน

การยอมรับนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ยูเครนต้องเผชิญกับความท้าทายจากการรุกรานของรัสเซีย และการทำงานร่วมกับนาโตในหลายๆ ด้าน เช่น การสนับสนุนทางทหารและเศรษฐกิจ ถึงแม้ยูเครนจะยังคงคาดหวังการสนับสนุนจากนาโตในด้านอื่นๆ แต่การเข้าร่วมเป็นสมาชิกเต็มตัวอาจเป็นเรื่องที่ยากในสถานการณ์ปัจจุบัน

สถานการณ์ในยูเครนยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง และการเปลี่ยนแปลงท่าทีนี้อาจมีผลต่อการเจรจาทางการเมืองในอนาคตระหว่างยูเครนและนาโต รวมถึงความสัมพันธ์กับรัสเซียและประเทศพันธมิตรต่าง ๆ

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้เติบโตไม่หยุด กวาดรายได้ปี 2567 แตะ 576,000 ล้านหยวน

(24 มี.ค. 68) สำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า เซี่ยงไฮ้สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2567 สูงเป็นประวัติการณ์ โดยแตะระดับ 576,000 ล้านหยวน (ราว 2.67 ล้านล้านบาท) สะท้อนถึงการฟื้นตัวและเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างแข็งแกร่ง

รายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้เดินทางมาเยือนเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของจีน ซึ่งขึ้นชื่อด้านสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น หอไข่มุกตะวันออก (Oriental Pearl Tower), ถนนนานจิง (Nanjing Road), ย่านเดอะบันด์ (The Bund), และสวนสนุกเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์

นอกจากนี้ นโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของทางการจีน รวมถึงมาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับบางประเทศ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ยังช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

ข้อมูลระบุว่าในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่เซี่ยงไฮ้มากกว่า 300 ล้านคน ทั้งจากภายในประเทศและจากนานาชาติ 

โดยรายงานจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระบุว่า การเติบโตของการท่องเที่ยวเรือสำราญในจีนยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2567 ที่ผ่านมา การขยายตัวของการท่องเที่ยวทางเรือสำราญได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 

ส่งผลให้เซี่ยงไฮ้และฮ่องกงยังคงเป็นเมืองที่มีความสำคัญในวงการการท่องเที่ยวทางเรือ และคาดว่าในอนาคตท่าเรือสำราญในจีนจะได้รับการพัฒนาและขยายเพิ่มขึ้น เพื่อตอบรับกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าแนวโน้มการเติบโตของการท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้จะดำเนินต่อไปในปี 2568 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการพัฒนาโครงการท่องเที่ยวใหม่ๆ และการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนยังคงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองหลักๆ ของประเทศ โดยเซี่ยงไฮ้ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก ด้วยความลงตัวของวัฒนธรรมดั้งเดิมและความทันสมัยที่โดดเด่น

OR เปิด Café Amazon Concept Store แห่งแรกในกัมพูชา ปักหมุดขยายธุรกิจนอนออยล์ในต่างประเทศ

(24 มี.ค. 68) OR เปิด Café Amazon Concept Store แห่งแรกในประเทศกัมพูชา ณ ย่านตวลโก๊ก (Toul Kork) ซึ่งเป็นย่านธุรกิจในกรุงพนมเปญ นำเสนอประสบการณ์ด้วยรูปแบบร้านที่โดดเด่น พร้อมเมนูเครื่องดื่มและอาหารที่รังสรรค์มาเป็นพิเศษให้แก่ผู้บริโภคชาวกัมพูชา อีกทั้งยังได้เปิดสถานีบริการ PTT Station Neak Vorn (พีทีที สเตชั่น เนียกกะวอน) ซึ่งเป็นสถานีบริการในรูปแบบ Flagship ครบวงจร ใจกลางกรุงพนมเปญ ต่อยอดการดำเนินธุรกิจในกัมพูชาด้วยแนวคิด “They Grow – We Grow”

หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และ นายตุลย์ ไตรโสรัส เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ร่วมพิธีเปิดร้าน Café Amazon Concept Store สาขาตวลโก๊ก (Toul Kork) ซึ่งถือเป็น Café Amazon ในรูปแบบ Concept Store แห่งแรกในประเทศกัมพูชา พร้อมก้าวสู่การเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงพนมเปญ นอกจากนี้ คณะผู้บริหาร OR ยังได้เดินทางไปร่วมพิธีเปิดสถานีบริการ PTT Station Neak Vorn (เนียกกะวอน) หนึ่งในสาขาสถานีบริการ Flagship ครบวงจรซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองพนมเปญอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก นายเฉียบ ซาว (Cheap Sour) ผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกัมพูชา ร่วมงานด้วย

หม่อมหลวงปีกทอง เปิดเผยว่า OR เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศกัมพูชา ทั้งด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและโอกาสทางธุรกิจ OR จึงวางกลยุทธ์ให้ประเทศกัมพูชาเป็น “บ้านหลังที่สอง” (Second Homebase) ด้วยการนำธุรกิจของ OR จากประเทศไทยสู่ตลาดกัมพูชา โดยดำเนินธุรกิจที่ประเทศกัมพูชาภายใต้บริษัท PTT Cambodia Limited (PTTCL) พร้อมเสริมสร้างความเจริญเติบโตที่ยั่งยืนร่วมกับประเทศกัมพูชาตามแนวคิด "They Grow - We Grow" ซึ่งเป็นแนวทางที่ OR ยึดถือในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ สำหรับ Café Amazon Concept Store สาขาตวลโก๊ก (Toul Kork) เป็นร้านรูปแบบ Concept Store ร้านแรกในประเทศกัมพูชา โดยใช้แนวคิด People Concept ที่ต้องการให้ Café Amazon ที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นตามพื้นที่ต่างๆ สามารถเป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราว โดยได้นำไอเดียและความหลากหลายทาง Lifestyle ของคนแต่ละวัย รวมถึงที่ตั้งของร้านมาผสานกับการดำเนินธุรกิจ และออกแบบพื้นที่นั่งหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับทุกกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงครอบครัว

ทั้งนี้ Café Amazon Concept Store จะมีเมนูพิเศษประจำร้านที่แตกต่างกันออกไป โดยจะเป็นเครื่องดื่มแนวผสมผสาน (Fusion) ที่หยิบยกวัฒนธรรมท้องถิ่นขึ้นมาเป็นจุดเด่น มีเครื่องดื่มสูตรพิเศษ (Signature Menu) ที่นำเอาวัตถุดิบจากชุมชนที่ตั้งของร้านมารังสรรค์เป็นเมนูพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะสาขานั้นๆ  โดย Café Amazon สาขา ตวลโก๊ก (Toul Kork) ได้หยิบเอาวัตถุดิบจากชุมชนที่ตั้งของร้านมารังสรรค์เป็นเมนูพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ได้แก่ "Komlos Srok Yerng" (กัมเลาะ สรก เยิง) เมนูที่ได้แรงบันดาลใจจากข้าวต้มมัดกล้วยซึ่งเป็นขนมประจำงานมงคลของกัมพูชา โดยใช้กาแฟ Amazon House Blend ผสมผสานกับไซรัปกล้วย และท็อปปิ้งด้วยข้าวต้มมัดกล้วย และ "Nary Smai Thmey" (นารี สมัย ทไม) เมนูปั่นที่ใช้ฝรั่งชมพูซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของกัมพูชาเป็นส่วนประกอบ โรยด้วยผงบ๊วย ทานแล้วได้ความเปรี้ยวหวานและสดชื่น ที่นี่ยังมี Concept Bar ให้บริการกาแฟจากเมล็ดคัดพิเศษและเมล็ดกาแฟเฉพาะฤดูกาล ซึ่งจะให้บริการเฉพาะร้านรูปแบบ Concept Store เท่านั้น นอกจากเมนูเครื่องดื่มแล้ว Café Amazon สาขาตวลโก๊ก (Toul Kork) ยังมีบริการอาหารหลากหลาย ตอบโจทย์ต่อผู้ทำงานย่าน Toul Kork ทั้งอาหารพื้นเมือง เช่น Lok Lak (ลกลัก) เนื้อ Bay Sach Chrok (เบ แซค ชุก) อาหารไทย เช่น ผัดไทย ผัดกระเพรา รวมทั้ง Light Meal และเบเกอรี นอกจากนี้ สาขานี้ยังเป็นสาขาแรกในกัมพูชาที่มีไอศกรีม Soft Serve อีกด้วย ส่วนการตกแต่งร้าน เน้นความร่มรื่นแบบ Lifestyle Oasis ที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของธรรมชาติ ที่สำคัญคือ เฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งภายในร้านเป็นวัสดุ ใช้วัสดุ Upcycling ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งคาเฟ่ อเมซอนใส่ใจเสมอ ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน “เพื่อโลกที่ดีกว่าเดิม” สะท้อนความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจทั้งสิ่งแวดล้อม 

ปัจจุบัน Café Amazon มีสาขารวมกว่า 4,879 สาขาใน 11 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศกัมพูชามีจำนวนสาขามากเป็นอันดับ 1 มีจำนวนสาขารวม 254 สาขา และสาขานี้ถือเป็นลำดับที่ 254 การเปิด Concept Store แห่งแรกในกัมพูชานี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OR ในการนำพาแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล มุ่งสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำระดับโลกอย่างเต็มภาคภูมิ

สำหรับสถานีบริการ PTT Station Neak Vorn (เนียกกะวอน) เป็นสถานีบริการในรูปแบบ Flagship ครบวงจร ตั้งอยู่ใจกลางกรุงพนมเปญ ที่นอกเหนือจากการให้บริการน้ำมันคุณภาพสูงตามมาตรฐาน Euro 5 แล้ว ยังได้รวมธุรกิจที่หลากหลายไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ Café Amazon ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ร้านสะดวกซัก Otteri และร้านอาหารต่าง ๆ เพื่อให้บริการที่ครบครันแก่ผู้บริโภคชาวกัมพูชา โดยปัจจุบันมีสถานีบริการ PTT Station ในกัมพูชาทั้งสิ้น 186  สาขา

ร้านอาหารชื่อดังญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังลูกค้าพบ ‘หนู’ ลอยอยู่ในถ้วยน้ำซุปมิโซะ

(24 มี.ค. 68) ร้าน ซูกิยะ (Sukiya) ร้านข้าวหน้าเนื้อชื่อดัง  ที่มีสาขามากกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น และหลายสาขาในเอเชีย 

ร้านซูกิยะ แถลงของโทษ และ ยอมรับ ว่าพบหนูลอยอยู่ในชามซุปมิโซะที่ร้านแห่งหนึ่งในเมืองทตโตริ ประเทศญี่ปุ่น

กระแสไวรัล และ ถกเถียงในสื่อออนไลน์  หลังจาก ลูกค้ารายหนึ่งโพสต์รูปถ่ายถ้วยซุปมีหนู บน Google Reviews โดยอ้างว่าพบหนูตัวดังกล่าวขณะรับประทานอาหารเมื่อ  21 มกราคม  ที่ผ่านมา 

หลายคนแสดงความเห็นว่าเป็น ภาพตัดต่อ  หรือทำขึ้นจากเอไอ โพสต์ถ้วยซุปถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวาง ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และผู้โพสต์ยังใช้วันที่  21/1/2028 ซึ่งเป็นปีอนาคต  ผู้คนจึงตั้งคำถาม จริง หรือ เท็จ 

วันที่ 22 มีนาคม ร้านซูกิยะ ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชนเพื่อยืนยัน เหตุการณ์ดังกล่าว โดยบริษัทแจ้งว่าลูกค้ารายหนึ่งได้แจ้งว่าพบสิ่งแปลกปลอมในถ้วยซุปมิโซะเมื่อวันที่ 21 มกราคม หลังจากการตรวจสอบภายใน พบว่าอาจมีหนูเข้าไปอยู่ในซุปโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากพนักงานไม่ได้ตรวจสอบด้วยสายตาระหว่างการเตรียมอาหาร   

ร้านซูกิยะ ยืนยันว่าว่าไม่มีการเสิร์ฟอาหารปนเปื้อนในลักษณะเดียวกันให้กับลูกค้าท่านอื่น  และได้ปิดร้านที่เกิดเหตุเป็นเวลา 2  วัน เพื่อทำความสะอาด ทบทวนมาตรการ ฝึกอบรมพนักงาน 

ร้านซูกิยะ  ยังแจ้งทุกสาขาต้องตรวจสอบอาหารอย่างละเอียดก่อนเสิร์ฟให้ลูกค้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต

บุรีรัมย์ – วัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาทจัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบสร้างพระอุโบสถพร้อมมอบโลงศพแก่ผู้ยากไร้

(22 มี.ค. 68)  ที่ผ่านมาพระครูปลัดวิชาญ ธัมมโชโต (เจ้าอาวาส)วัดวัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท พร้อมด้วยคณะสงฆ์เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบสร้างอุโบสถ โดยมี คุณ นิมิต สงค์สุข / คุณอำไพ สงค์สุขและ ครอบครัว สงค์สุข คุณ ณพล (สัมภาษณ์)บริบูรณ์ โฆษกพรรค ไทยชนะ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ การเงิน การคลัง สภาผู้แทนราษฎร, ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร  น.ส.นภชนก เหมือนนามอญ ที่ปรึกษา กมธ คุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร และที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ การเงิน การคลัง บริษัท ซินเทคคอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)  บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เออีเอเซีย consultant จำกัด ว่าที่ร้อยตรี ธนิตศักดิ์ ดารามั่น อดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ และครอบครัว และเพื่อนกัลยาณมิตร คุณอนันต์  กิ่งสร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวช่อง3 ภาคตะวันออก นางสาว สุชาดา แก้วเก้า   คุณ โกสินธ์ จินาอ่อน บรรณาธิการข่าว รายการเปิดฟ้า ช่อง5 คณะทำงานที่ปรึกษา/สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายสมหมาย จุฬาลักษณ์  สยมชัย  รองบรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ สยามโฟกัสไทม์ ภัทรวสุ ลักษณะหิริ ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ สยามโฟกัสไทม์ร่วมเป็นประธานดำเนินการทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดพุทธป่าโคกปราสาท ทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบสร้างอุโบสถ ยอดเงินผ้าป่า 374,502 บาท  โดยกิจกรรมในครั้งนี้คุณอำไพ สงค์สุขและ ครอบครัว สงค์สุข นายณพล (สัมภาษณ์)บริบูรณ์ โฆษกพรรค ไทยชนะ กิตติภพ โพธิ์ทอง ผู้ใหญ่อ๊อด ร่วมบริจาคโลงศพจำนวน 6 โลงมอบให้สมาคมกู้ภัยนางรองสัจธรรม ร่วมกับชมรมแสงธรรมนำทางวัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาทโดยมีพระครูปลัดวิชาญ ธัมมโชโต เป็นจ้าอาวาสวัดวัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท พร้อมด้วยคณะกรรมการเป็นผู้รับมอบเพื่อส่งต่อบุญไปให้กับโครงการศพผู้ยากไร้ต่อไป

พระครูปลัดวิชาญ ธัมมโชโต เจ้าอาวาสวัดวัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาทวัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท (กล่าวว่า)วัดพุทธป่าโคกปราสาท ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์กำลังก่อสร้างอุโบสถซึ่งสร้างแล้วเสร็จประมาณ 70  เปอร์เซ็นต์ ยังรอเพียงการ ตีฝ่าเพดาน ประดับลวดลาย  เดินสายไฟภายในอุโบสถ  ปรับระดับทางเดินรอบอุโบสถ จึงขอเจริญพรบอกบุญมายังท่านเพื่อร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อรวบรวมจตุปัจจัยร่วมก่อสร้างอุโบสถให้แล้วตามวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาฝากชื่อไว้ในพระพุทธศาสนาให้ดำรงถาวรสืบต่อไปชั่วกาลนาน ตามกำลังทรัพย์ศรัทธา

เนื่องจากวัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท เริ่มก่อสร้างปี พ.ศ. 2538 เพื่อเป็นวัดสถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่ออนุรักษ์ป่าไว้ ทั้งนี้มีแต่ละปี กิจกรรมจัดงานปริวาสกรรมเป็นประจำ ตั้งแต่ วันที่ 20 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกๆ ปี ปัจจุบันมีพระสงฆ์อยู่ ๑๒รูป ทั้งเป็นศูนย์อบรมจัดค่ายคุณธรรมจริยะธรรม แด่เยาวชน เป็นสถานรายงานตัวผู้กระทำความผิดและบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดทำ mou ร่วมกับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดบุรีรัมย์ (สาขานางรอง)ขออานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัยและกุศลบุญครั้งนี้ จงอำนวยอวยชัยให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาจงประสพด้วย จตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ คือ  อายุ  วรรณ สุขะพละ เทอญ  ฯ
 

นายกฯ แคนาดาประกาศเลือกตั้ง 28 เม.ย. หวังเสียงสนับสนุนต้านแรงกดดันจากสหรัฐฯ

(24 มี.ค. 68) นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ (Mark Carney) ของแคนาดา ประกาศยุบสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) และเตรียมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 28 เมษายน โดยระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อขออาณัติที่หนักแน่นจากประชาชน ในการรับมือกับภัยคุกคามจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

คาร์นีย์กล่าวว่า ทรัมป์พยายาม “ทำลายเรา เพื่อที่อเมริกาจะได้เป็นเจ้าของเรา” ซึ่งหมายถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สหรัฐฯ กำลังกระทำต่อชาวแคนาดา เขาย้ำว่ารัฐบาลแคนาดาต้องการเสียงสนับสนุนที่ชัดเจนจากประชาชน เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศและรักษาผลประโยชน์ของชาวแคนาดาทุกคน

“เรากำลังเผชิญกับวิกฤตที่ใหญ่หลวงที่สุดในช่วงชีวิตของพวกเรา สืบเนื่องจากแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรมของประธานาธิบดีทรัมป์ และภัยคุกคามของเขาต่ออธิปไตยของเรา” คาร์นีย์กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังยื่นคำร้องขอยุบสภา

อย่างที่ทราบกันดีว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ของแคนาดาเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ซึ่งมีนโยบายที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของแคนาดา อาทิ

ประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาจาก 25% เป็น 50% เพื่อตอบโต้การที่มณฑลออนแทรีโอของแคนาดาประกาศขึ้นค่าไฟฟ้าสำหรับลูกค้าชาวอเมริกัน 25%

พร้อมทั้งขู่ว่าจะปรับขึ้นอัตราภาษีสำหรับนำเข้ารถยนต์จากแคนาดา หากแคนาดาไม่ยกเลิกอัตราภาษีนำเข้าสินค้านมเนยจากสหรัฐฯ ที่สูงถึง 250%-390%

“การตอบโต้ของเราต้องเป็นการสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและแคนาดาที่มั่นคงกว่าเดิม ประธานาธิบดีทรัมป์อ้างว่าแคนาดาไม่ใช่ประเทศที่แท้จริง เขาต้องการทำลายเรา เพื่ออเมริกาจะได้เป็นเจ้าของเรา เราจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น” นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวอย่างหนักแน่น

นอกจากนี้ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันความตั้งใจในการผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โดยอ้างว่าสหรัฐฯ ต้องสูญเสียเงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในการสนับสนุนแคนาดา ซึ่งมาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ โดยกล่าวว่า “เราจะไม่มีวันเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะในแนวทางไหนหรือรูปแบบใดก็ตาม”

อย่างไรก็ดี รัฐบาลแคนาดาประกาศปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นต่ำสุดลง 1% โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ประกาศงดเก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST/HST) เป็นระยะเวลา 2 เดือน ในช่วงระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันหยุด

โดยมาตรการเหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลแคนาดาในการปกป้องเศรษฐกิจและประชาชนของตนเองจากผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ 

ด้านนักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจของคาร์นีย์เป็นการเดิมพันทางการเมืองครั้งสำคัญ โดยเขาหวังใช้กระแสชาตินิยมและความกังวลของประชาชนต่อการแทรกแซงจากสหรัฐฯ เพื่อคว้าชัยชนะและสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลชุดต่อไป

ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดระบุว่า ‘พรรคลิเบอรัล’ ของคาร์นีย์ ซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2015 สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้นำในคะแนนนิยมเหนือ ‘พรรคคอนเซอร์เวทีฟ’ ซึ่งเคยมีคะแนนนำในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

‘รถถัง’ น็อก ‘ทาเครุ’ ดับฝันเจ้าถิ่น ประกาศแบ่งโบนัสช่วยชาวมุสลิมที่ยากไร้

(24 มี.ค. 68) รถถัง จิตรเมืองนนท์ นักชกชาวไทย วัย 27 ปี สร้างผลงานยอดเยี่ยมในศึก ONE 172 ที่ไซตามะ ซูเปอร์ อารีนา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 โดยสามารถเอาชนะน็อก ทาเครุ เซกาวา นักชกเจ้าถิ่น วัย 33 ปี ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ซูเปอร์ไฟต์

การชกเริ่มขึ้นเพียงไม่นาน รถถังได้ปล่อยหมัดซ้ายเข้าเต็มหน้าของทาเครุ ส่งผลให้นักชกญี่ปุ่นล้มลงไปนั่ง กรรมการจึงยุติการชกทันที ทำให้รถถังชนะน็อกในเวลาเพียง 1 นาที 14 วินาทีของยกแรก

ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้กับแฟนมวยชาวไทยและญี่ปุ่น แต่ยังทำให้รถถังได้รับโบนัสพิเศษจาก ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธาน ONE Championship เป็นจำนวนเงิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านบาท)

โดยเงินโบนัสส่วนหนึ่ง ‘รถถัง’ ประกาศจะมอบให้กับพี่ชาวมุสลิมที่ยากไร้ “ต้องขอบคุณพี่ชาตรี (ศิษย์ยอดธง) มาก เขาไม่ใช่แค่บอส เขาคือพี่ชายของผม ส่วนเงินโบนัสที่ได้ในครั้งนี้ แบ่งสัดส่วนแล้ว ผมจะเอาส่วนหนึ่งมอบให้พี่น้องชาวมุสลิมที่ยากไร้ แล้วก็ขาดแคลนครับผม”

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ‘บอสชาตรี’ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ซีอีโอ วัน แชมเปียนชิพ เตรียมให้รถถังขึ้นชกกับ โจนาธาน แฮกเกอร์ตี นักชกชาวอังกฤษ ซึ่งคาดกันว่าจะชกกันที่รุ่นแบนตัมเวต เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่แฮกเกอร์ตีจะทำน้ำหนักลงมาเล่นในรุ่นฟลายเวต

‘ทักษิณ’ ติวการบ้าน ‘อุ๊งอิ๊ง’ บอก ตอบได้ทุกเรื่อง ตรงไปตรงมา ตอก ปชน. อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ ลั่น ไม่มีใครมีสิทธิ์แลกประเทศ

‘ทักษิณ’ ติวการบ้าน ‘อุ๊งอิ๊ง’ บอก ตอบได้ทุกเรื่อง ตรงไปตรงมา ตอก ปชน. อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ ลั่น ไม่มีใครมีสิทธิ์แลกประเทศ บอก มอนิเตอร์ซักฟอกแน่นอน ด่ามาได้ยิน รับ “ยิ่งลักษณ์” ยังไม่ได้กลับสงกรานต์นี้ เหตุยังไม่เหมาะสม ระบุ ยังไม่คิดจับมือพรรคส้มตอนนี้ เป็นเรื่องอนาคต

(24 มี.ค. 68) เมื่อเวลา 18.30 น. ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ให้คำแนะนำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง ว่า นายกฯคงตอบได้ และคงตอบได้ทุกเรื่อง อะไรที่อยู่ในกติกาก็ตอบได้หมด ส่วนเป้าใหญ่ที่เป็นตัวนายกฯกับนายทักษิณนั้น คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก อะไรตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็ต้องบอกให้รู้ว่ามันไม่อยู่ในกติกา

ผู้สื่อข่าวถามว่า  คิดว่าจะเก็งข้อสอบถูกหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า หากเราอยู่ในโลกความเป็นจริง เขาถามอะไรมาเราก็ตอบตามนั้นได้ หากเขาไม่มีคำถามที่พิสดาร ถามตรงไปตรงมา เราก็ตอบได้ นายกฯเป็นคนรุ่นใหม่ คงต้องพูดอะไรตรงไปตรงมา

เมื่อถามถึงกรณีที่  น.ส.แพทองธาร ไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 มี.ค. คิดว่าจะเป็นกำลังใจหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ได้เจอนายกฯเมื่อสักครู่ก็ยังเห็นว่าอารมณ์ดีอยู่ เมื่อสักครู่ได้นั่งคุยกันและทำการบ้านนิดหน่อย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นขึ้น เมื่อถามว่า คืนนี้นายกฯจะนอนหลับหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า หลับสบายเลย ไม่น่ามีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า ประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาคือ การดีลแลกประเทศ และดีลหลังจากนี้คือการดีลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นวาทกรรม เป็นพรรคคนรุ่นใหม่อย่าไปใช้วาทกรรมเยอะ ดูแล้วมันไม่เหมาะ ใครจะเอาประเทศไปแลก ใครมีสิทธิ์แลกประเทศ อย่าไปใช้วาทกรรมมันเลอะเทอะ หมดสภาพ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณเคยระบุว่าอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมาเล่นน้ำสงกรานต์ในปี 68 ตอนนี้ใกล้จะถึงสงกรานต์แล้วติดขัดอะไร นายทักษิณ กล่าวว่า ความอยากกับความเป็นจริงอาจจะไม่ตรงกัน อยากให้มาแต่ยังมาไม่ได้ จังหวะเหมาะเมื่อไหร่ค่อยมา เมื่อถามย้ำว่า เงื่อนไขอะไรบ้างที่ทำให้ยังมาไม่ได้ นายทักษิณ กล่าวว่า ความเหมาะสม ซึ่งมีคำจำกัดความของมันอยู่ ความเหมาะสมยังไม่ใช่เวลานี้ 

เมื่อถามว่า ในวันที่ 24 มี.ค. จะมีการมอนิเตอร์ช่วยนายกฯหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมมอนิเตอร์แน่นอน หากอยากด่าผม ผมได้ยิน ด่าได้เลย ผมได้ยินนะ” เมื่อถามอีกว่า หากมีประเด็นที่แตะนายทักษิณ แต่นายทักษิณไม่มีโอกาสได้ชี้แจง นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ขอให้ใจเย็นๆ ขอกันกินมากกว่านี้อีก

เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์กับชนชั้นนำของบ้านเรายังดีอยู่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขาเลย มีแต่คนมีปัญหากับตน แต่ตนไม่มีปัญหาอะไรกับใครเลย หากใครอยากมีปัญหากับตน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่ได้ไปตีรันฟันแทงด้วย เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้ผลงานยังเข้าตาชนชั้นนำอยู่ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้หากทุกคนช่วยกันคิดถึงบ้านเมืองในภาพรวม ก็จะเห็นว่าสิ่งที่มันหมักหมมมานาน ความพยายามในการแก้ปัญหานั้นมันต้องใช้เวลา มันไม่เร็ว แต่ก็อยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่าจะมียุทธการโรยเกลือ น่ากลัวหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เอาเกลือที่ไหนมาโรย เมื่อถามย้ำว่า ฝ่ายค้านระบุว่าจะยื่นต่อ ป.ป.ช. นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวตนจะโรยน้ำตาล เขาโรยเกลือ ตนโรยน้ำตาล เมื่อถามว่า ดูเหมือนนายทักษิณจะชิลกับศึกซักฟอกของฝ่ายค้านในครั้งนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนอยู่ในการเมืองมา 50 ปี ตั้งแต่อายุ 25 ปี เห็นพวกนี้มาเยอะแล้ว ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรแล้ว

เมื่อถามว่า มองการเมืองของพรรคประชาชนอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า อยากให้พรรคประชาชนเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่จริงๆ อายุน่ะใช่ อยากให้เป็นรุ่นใหม่จริงๆ คนรุ่นใหม่เขาตรงไปตรงมา ไม่ใช้วาทกรรม มีอะไรก็ถามกันตรงๆ ตอบกันตรงๆ แล้วก็จบ คนรุ่นใหม่เขาจะไม่ยืดเยื้อ เมื่อถามอีกว่า แต่ตอนนี้เห็นมีการสาดวาทกรรมใส่กัน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่ตื่นเต้น เมื่อถามย้ำว่า การสาดวาทกรรมใส่กัน ในอนาคตพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนจะกลับมาจับมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของอนาคต ฉะนั้น วันนี้พูดไม่ได้ ตอนนี้บทบาทอยู่คนละฟาก ก็ต้องว่ากันไป บทบาทตอนนี้คือฝ่ายค้านกับรัฐบาล ต่อข้อถามว่า หากจะจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน ชนชั้นนำจะว่าอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่มีความคิด ต้องไปถามพรรคเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทยก็น่าจะยังไม่มีความคิดในเรื่องนี้

ทั้งนี้ นายทักษิณ เปิดเผยด้วยว่า จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 13 -14 เม.ย. 

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เล็งควบรวม!! ‘แคนาดา’ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา อ้าง!! จะดีกว่าเดิม ถ้ารวมชาติกัน นายกฯ แคนาดา ลั่น!! ‘ไม่มีวัน’

(23 มี.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำอีกครั้งว่า เขาจริงจังเกี่ยวกับการผนวกแคนาดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา ระหว่างให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ความเห็นล่าสุดนี้มีขึ้นท่ามกลางสงครามการค้าที่ลุกลามบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเพื่อนบ้าน 2 ชาติ และมีขึ้นตามหลังความเห็นหลายต่อหลายรอบของทรัมป์ ที่อ้างว่า แคนาดา จะดีกว่าเดิม หากเข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ในวันศุกร์ (21 มี.ค.) ทรัมป์ เน้นย้ำคำกล่าวอ้างของเขาก่อนหน้านี้ ที่ว่าสหรัฐฯ อุดหนุนเพื่อนบ้านทางเหนือแห่งนี้หลายแสนล้านดอลลาร์ในแต่ละปี โดยชี้ถึงการค้าทวิภาคีอันมหาศาล ที่ไม่มีความสมดุลกันระหว่าง 2 ชาติ

"เราต้องสูญเสียเงินไปมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในการอุดหนุนเพื่อพยุงไม่ให้แคนาดาล้มลง" เขากล่าว พร้อมระบุว่าความจริงแล้ว สหรัฐฯ ไม่ต้องการสินค้าส่งออกต่างๆ ของแคนาดา อย่างเช่นรถยนต์ ไม้แปรรูป และพลังงาน

มาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ซึ่งก้าวเข้ามาทำหน้าที่แทน จัสติน ทรูโด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง ระบุว่าแคนาดาจะไม่มีวันกลายเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ "เราจะไม่มีวันเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะในแนวทางไหนหรือรูปแบบใดก็ตาม" พร้อมระบุตัวตนความเป็นชาติของแคนาดาและเศรษฐกิจ ทำให้แนวคิดของทรัมป์ ไม่มีความสมเหตุสมผล

อดีตนายธนาคารกลางรายนี้ประกาศว่าแคนาดาจะเป็นฝ่ายชนะในสงครามการค้ากับสหรัฐฯ และเน้นย้ำว่าแคนาดาจำเป็นต้องเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและเสาะหาคู่หูทางการค้าทางเลือก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ออตตาวา กำหนดมาตรการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าเกือบ 30,000 ล้านดอลาร์ ตอบโต้มาตรการรีดภาษี 25% ที่ประกาศโดยทรัมป์ ทั้งนี้ ทรัมป์ ถอยกลับจากการกำหนดมาตรการรีดภาษีระดับ 25% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจาก แคนาดา ยกเลิกแผนปรับเพิ่มภาษีพลังงานนำเข้าจากสหรัฐฯ 25% เช่นกัน

คาร์นีย์ เน้นย้ำในถ้อยแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) ว่าออตตาวาพร้อมนั่งลงและหารือเกี่ยวกับสงครามการค้ากับวอชิงตัน "เมื่อมีการแสดงออกถึงความเคารพต่อแคนาดา ในฐานะชาติอธิปไตยหนึ่งๆ"

‘หมอเดชา’ สูญที่ดิน 6 ไร่ ดับฝัน!! รพ.ทางเลือก ถาม ‘แอ๊ด คาราบาว’ เงินบริจาค 5 ล้าน อยู่ไหน

(23 มี.ค. 68)  เฟซบุ๊ก Deycha Siripatra ของ อาจารย์เดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) เพื่อใช้ทางการแพทย์ โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผมและตัวแทนผู้บริจาคฯ ได้ไปทำพิธีอำลา ที่ดิน 6 ไร่ ที่ดินผืนนี้ (มีรั้ว ระบบน้ำ อาคารสำนักงาน) ใช้เงินบริจาค 5 ล้านบาท แต่ถูกยืดครองไปโดยใช้กระบวนการกฏหมาย และผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น จนกลายเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ผมทำได้เพียงแจ้งความจริงให้ผู้บริจาค ผู้ป่วย และผู้รอคอยโรงพยาบาลฯ ได้รับทราบ และขอโทษที่มีส่วนทำให้ผู้บริจาคคาดหวัง และเชื่อมั่นว่าเงินบริจาคจะใช้เป็นประโยชน์ แต่กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งยักย้ายเอาสิ่งที่เกิดจากเงินบริจาคไปเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล จึงต้องยอมรับถึงความไม่รู้เท่าทัน ความไว้วางใจนำคนกลุ่มนี้มาร่วมงานด้วยตั้งแต่แรก

วันนี้ ผมขอแสดงความเสียใจ และขอโทษเป็นอย่างยิ่ง ต่อคุณ สมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เอเชี่ยน ซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้บริจาคเงินร่วมสร้างโรงพยาบาลทางเลือก ที่อำเภอด่านช้าง จำนวนเงิน 5 ล้านบาท คุณรสนา โตสิตระกูล ได้แนะนำให้คุณสมศักดิ์ฯ บริจาคในครั้งนี้ และร่วมกันถ่ายภาพไว้ ในภาพจะเห็นคุณ รสนาฯ ผม คุณสมศักดิ์ฯ และคุณแอ๊ดฯ (นายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว) ยืนอยู่ด้วยกัน โดยคุณสมศักดิ์ฯ ได้ให้สัมภาษณ์ลงในหนังสือพิมพ์กรุงเทพฯธุรกิจ

ที่ผมต้องแสดงความเสียใจ และขอโทษคุณสมศักดิ์ฯ (และคุณรสนาฯ) เป็นอย่างยิ่ง เพราะเงินบริจาคของคุณสมศักดิ์ฯ 5 ล้านบาทนั้น ผมนำมาใช้ตามความประสงค์ฯ ไม่ได้ เนื่องจากเงินบริจาคนี้ คุณสมศักดิ์ฯ ได้มอบให้คุณแอ๊ดฯ โดยตรง ผมไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด อาจจะไม่ได้นำเข้าบัญชีธนาคารฯ ที่ผมเปิดร่วมกับคุณแอ๊ดฯ ก็ได้ (ยังตรวจสอบไม่ได้) หรือนำเข้าบัญชีธนาคารฯ นั้นจริง ก็ถูกนำมาใช้ในที่ดิน 6 ไร่ (ที่ถูกยึดครอง) ไปหมดแล้ว เงินบริจาคที่คุณสมศักดิ์ฯ ตั้งใจมอบให้ใช้สร้างโรงพยาบาลทางเลือกจึงไม่เกิดขึ้นจริง

ผมคงไม่ทราบได้เลยว่า เงินบริจาค 5 ล้านบาทของคุณสมศักดิ์ฯ นั้น ไปอยู่ที่ใหนกันแน่ ผู้ที่จะให้คำตอบได้ คือ คุณแอ๊ด คาราบาว ผู้รับมอบเงินก้อนนี้ เพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งผมพยายามติดต่ออย่างไรก็ไม่สำเร็จ (เช่น ขอให้มาปิดบัญชีธนาคารฯ ที่เปิดร่วมกัน) ดังนั้น คุณสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ในฐานะผู้บริจาคเงิน 5 ล้านบาทนี้ จึงควรเป็นผู้ถาม หรือ คุณรสนา โตสิตระกูล ผู้แนะนำให้คุณสมศักดิ์ฯ บริจาคเงินครั้งนี้ ก็มีสิทธิ์เป็นผู้ถาม เชื่อว่าผู้บริจาครายอื่นๆ อีกนับหมื่นราย คงอยากทราบคำตอบนี้ ... จากคุณ แอ็ดฯ ด้วย"

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2567 อาจารย์เดชาโพสต์ข้อความพาดพิงถึงนายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ว่า ขาดการติดต่อจากแอ๊ด คาราบาว หลังจากมีข่าวว่านายยืนยงไม่สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ และไม่สนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลทางเลือก ที่ทำร่วมกันตั้งแต่ปี 2562 โดยยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยและโปร่งใสอยู่อีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องบัญชีธนาคารที่เปิดร่วมกันกับอาจารย์เดชาเพื่อรับเงินบริจาค (ในลักษณะบัญชี "และ") โดยได้เรียกร้องให้นายยืนยงไปปิดบัญชี และนำเงินทั้งหมดมอบให้คณะกรรมการฯ แต่ถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top