Thursday, 2 May 2024
Hard News Team

เปิด 10 จังหวัด ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในประเทศไทย

เปิดจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 จาก 77 จังหวัดทั่วไทย รวม 52 ล้านคน

(1) กรุงเทพมหานคร 
-ชาย 2,041,204 คน
-หญิง 2,428,076 คน
-รวม 4,469,280 คน

(2) จังหวัดสมุทรปราการ
-ชาย 504,258 คน
-หญิง 579,799 คน
-รวม 1,084,057 คน

(3) จังหวัดนนทบุรี
-ชาย 474,078 คน
-หญิง 579,719 คน
-รวม 1,053,797 คน
.
(4) จังหวัดปทุมธานี
-ชาย 443,723 คน
-หญิง 515,923 คน
-รวม 959,646 คน
.
(5) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-ชาย 313,936 คน
-หญิง 351,924 คน
-รวม 665,860 คน
.
(6) จังหวัดอ่างทอง
-ชาย 105,959 คน
-หญิง 119,396 คน
-รวม 225,355 คน
.
(7) จังหวัดลพบุรี
-ชาย 295,127 คน
-หญิง 304,626 คน
-รวม 599,753 คน
.
(8) จังหวัดสิงห์บุรี
-ชาย 78,644 คน
-หญิง 90,058 คน
-รวม 168,702 คน

(9) จังหวัดชัยนาท
-ชาย 78,644 คน
-หญิง 90,058 คน
-รวม 168,702 คน

(10) จังหวัดสระบุรี
-ชาย 246,534 คน
-หญิง 263,468 คน
-รวม 510,002 คน

(11) จังหวัดชลบุรี
-ชาย 586,771 คน
-หญิง 644,189 คน
-รวม 1,230,960 คน

(12) จังหวัดระยอง
-ชาย 283,477 คน
-หญิง 303,030 คน
-รวม 586,507 คน

(13) จังหวัดจันทบุรี
-ชาย 206,556 คน
-หญิง 221,724 คน
-รวม 428,280 คน

(14) จังหวัดตราด
-ชาย 85,643 คน
-หญิง 89,557 คน
-รวม 175,200 คน

(15) จังหวัดฉะเชิงเทรา
-ชาย 279,099 คน
-หญิง 298,493 คน
-รวม 577,592 คน

(16) จังหวัดปราจีนบุรี
-ชาย 193,231 คน
-หญิง 202,657 คน
-รวม 395,888 คน

(17) จังหวัดนครนายก
-ชาย 101,740 คน
-หญิง 108,025 คน
-รวม 209,765 คน

(18) จังหวัดสระแก้ว
-ชาย 217,293 คน
-หญิง 221,097 คน
-รวม 438,390 คน

(19) จังหวัดนครราชสีมา
-ชาย 1,028,882 คน
-หญิง 1,095,705 คน
-รวม 2,124,587 คน

(20) จังหวัดบุรีรัมย์
-ชาย 614,203 คน
-หญิง 639,123 คน
-รวม 1,253,326 คน

(21) จังหวัดสุรินทร์
-ชาย 538,514 คน
-หญิง 555,519 คน
-รวม 1,094,033 คน

(22) จังหวัดศรีสะเกษ
-ชาย 575,310 คน
-หญิง 591,577 คน
-รวม 1,166,887 คน

(23) จังหวัดอุบลราชธานี
-ชาย 730,963 คน
-หญิง 746,681 คน
-รวม 1,477,644 คน

(24) จังหวัดยโสธร
-ชาย 214,726 คน
-หญิง 219,878 คน
-รวม 434,604 คน

(25) จังหวัดชัยภูมิ
-ชาย 441,582 คน
-หญิง 463,781 คน
-รวม 905,363 คน

(26) จังหวัดอำนาจเจริญ
-ชาย 149,003 คน
-หญิง 153,358 คน
-รวม 302,361 คน

(27) จังหวัดบึงกาฬ
-ชาย 163,350 คน
-หญิง 165,717 คน
-รวม 329,067 คน

(28) จังหวัดหนองบัวลำภู
-ชาย 201,120 คน
-หญิง 206,281 คน
-รวม 407,401 คน

(29) จังหวัดขอนแก่น
-ชาย 703,629 คน
-หญิง 750,060 คน
-รวม 1,453,689 คน

(30) จังหวัดอุดรธานี
-ชาย 611,774 คน
-หญิง 641,046 คน
-รวม 1,252,820 คน

(31) จังหวัดเลย
-ชาย 251,642 คน
-หญิง 255,126 คน
-รวม 506,768 คน

(32) จังหวัดหนองคาย
-ชาย 202,060 คน
-หญิง 209,791 คน
-รวม 411,851 คน

(33) จังหวัดมหาสารคาม
-ชาย 375,807 คน
-หญิง 400,106 คน
-รวม 775,913 คน

(34) จังหวัดร้อยเอ็ด
-ชาย 519,009 คน
-หญิง 539,834 คน
-รวม 1,058,843 คน

(35) จังหวัดกาฬสินธุ์
-ชาย 385,979 คน
-หญิง 404,236 คน
-รวม 790,215 คน
.
(36) จังหวัดสกลนคร
-ชาย 449,159 คน
-หญิง 463,617 คน
-รวม 912,776 คน

(37) จังหวัดนครพนม
-ชาย 281,138 คน
-หญิง 288,751 คน
-รวม 569,889 คน

(38) จังหวัดมุกดาหาร
-ชาย 137,701 คน
-หญิง 139,989 คน
-รวม 277,690 คน

(39) จังหวัดเชียงใหม่
-ชาย 628,476 คน
-หญิง 704,612 คน
-รวม 1,333,088 คน

ผบ.ฉก.นราธิวาส เปิดกิจกรรม พหุวัฒนธรรม ”ลงแขกเกี่ยวข้าว” สืบสานประเพณีลาซัง รักษ์วิถีถิ่น ร่วมกินข้าวใหม่ บนพื้นฐาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างสัมพันธภาพพี่น้องชายแดนใต้

ที่ แปลงนาข้าว ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธาน เปิดกิจกรรม พหุวัฒนธรรม ”ลงแขกเกี่ยวข้าว” สืบสานประเพณีลาซังรักษ์วิถีถิ่น ร่วมกินข้าวใหม่ บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างสัมพันธภาพพี่น้องชายแดนใต้ โดยมี พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอระแงะ นายอำเภอระแงะ ประธานองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจน พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ และพี่น้องประชาชนไทยพุทธ ไทยมุสลิม เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก 

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว  กล่าวว่า พื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เป็นแหล่งปลูกข้าวของจังหวัด ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ มีการปลูกสืบทอดกันจนเป็นวิถีชีวิต แต่ด้วยสภาพความเปลี่ยนไป ของบริบททั้งด้านสังคมและพื้นที่ ทำให้พื้นที่ในการทำนาลดลง แต่ข้าวเป็นพืช ที่ มีความสำคัญ ในการสร้างความมั่นคงในครัวเรือนและชุมชน กระผมต้องขอชื่นชมท่านทั้งหลาย ที่รวมกลุ่มกันปลูกข้าว ร่วมกันพัฒนาการผลิต และการตลาดสิ่งที่ได้จากกิจกรรมการลงแขกเกี่ยวข้าวในวันนี้

นอกจากจะเป็นการลดต้นทุนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความรัก ความสามัคคี ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความร่วมมือของคนในชุมชน ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งมีความหลากหลายสอดคล้องกับนโยบาย ของ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ที่ต้องการให้พี่น้อง
ประชาชนมีส่วนร่วม ในกระบวนการเสริมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน และพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ก่อเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จนสามารถนำมาสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข บนสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างแท้จริง

'ค่ายดาวสามแฉก' สนั่น!! วันแรก 'มอเตอร์โชว์ 2023' หลัง EQB 250 AMG รถอีวี 100% ถูกจองเต็มโควตา 70 คัน

เมื่อวานนี้ (22 มี.ค.66) เป็นวันแรกของการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 หรือ มอเตอร์โชว์ 2023 (Motor Show 2023) บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประกาศหยุดรับจองรถยนต์รุ่น EQB 250 AMG Line รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 และเปิดรับจองวันแรกภายในงาน มอเตอร์โชว์ 2023 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566

ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังกล่าวมี โควตาการนำเข้าและจำหน่ายอยู่ที่ 70 คัน และมีผู้สนใจจองเต็มจำนวนดควตาดังกล่าวแล้ว กระทั่งต้องประกาศหยุดรับจอง

สำหรับ EQB 250 AMG Line เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) ขนาด 5 ที่นั่ง ด้วยการนำเข้าแบบรถยนต์สำเร็จรูปทั้งคัน (CBU) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 66.5 kWh ซึ่งมีระยะทางการวิ่งสูงสุด 460 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)

‘รัฐบาล’ เผย โพลการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ไทยขยับขึ้นติดอันดับ 60 จาก 137 ประเทศทั่วโลก

(23 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้รับทราบ รายงานความสุขโลก ประจำปี 2566 โดยในปีนี้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 60 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ซึ่งมีอันดับที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลการจัดอันดับรายงานความสุขโลก (World Happiness Report) ประจำปี 2023 นี้ จัดทำโดย เครือข่ายวิชาการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Solutions Network) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งได้เผยแพร่ ในวันที่ 20 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันความสุขสากล (International Day of Happiness) โดยรายงานนี้มีการรวบรวมข้อมูล จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น Gallup World Poll บริษัทสำรวจข้อมูลระดับโลก ที่ทำการสำรวจและประเมินชีวิตโดยเฉลี่ยของประชาชนทั่วโลก ในช่วง 2563-2565 และการสัมภาษณ์ผู้คนมากกว่า 1 แสนคนใน 137 ประเทศ โดยการจัดอันดับนี้ใช้ปัจจัยสำคัญ 6 ประการในการสำรวจและให้คะแนน ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม รายได้ สุขภาพ เสรีภาพ ความเอื้ออาทร และมุมมองต่อการทุจริต ควบคู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งในปีนี้ ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 60 ของประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ขยับขึ้นมา 1 อันดับ จากการจัดอันดับในปีที่แล้ว และประเทศฟินแลนด์ยังคงครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 

‘เพื่อไทย’ ชื่นมื่น!! ต้อนรับ ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ คืนถิ่น เชื่อ!! ช่วยเติมเต็มโอกาส ‘แลนด์สไลด์’ ให้พรรค

(23 มี.ค.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรค พท.นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหน้าหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรค พท. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค พท.ให้การต้อนรับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.อุตสาหกรรม รวมทั้ง นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยานายสมศักดิ์ เพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค พท.

จากนั้น นพ.ชลน่าน แถลงว่า วันนี้ถือเป็นวันดียิ่ง ดีกว่าวันที่ 20 มี.ค.ที่ผู้มีอำนาจคืนอำนาจให้ประชาชนขอต้อนรับผู้ใหญ่ทั้ง 3 ท่าน คือ นายสุริยะ, นายสมศักดิ์ และนางอนงค์วรรณ เรามีผู้ที่เคยทำงาน มีอุดมการณ์ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ซึ่งไม่ใช่คนใหม่ แต่เป็นคนที่สร้างสรรค์ผลงานกับพรรคมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย นายสุริยะเคยเป็นเลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ และนางอนงค์วรรณ ก็เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง

ทั้งนี้ ด้วยมิติทางการเมืองที่ผันผวน เป็นเหตุให้พวกท่านต้องไปทำงานการเมืองกับพรรคอื่นๆ ประชาชนรู้ซึ้งได้ว่าท่านต้องดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเช่นนั้นเพื่อรักษาสภาพ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีทั้งสามท่านบนเวทีวันนี้ และในอนาคตข้างหน้าหวังว่าจะไม่มีมิติทางการเมืองที่บีบคั้นเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ เป้าหมายของเราคือทำงานเพื่อประชาชน เป้าหมายเด็ดขาดคือแลนด์สไลด์ 310 เสียง ปลดล็อกสิ่งที่เขียนในรัฐรรมนูญ ด้วยความสามารถของพวกท่านจะมาผนึกกำลังกับเราได้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ผมมีความสุขและความหวัง ต้องขอบคุณพรรค พท.ที่เปิดโอกาสให้ตนเข้ามาช่วยงานให้สมบูรณ์แบบ เป็นที่พึ่งที่หวังให้ประชาชน 100% วันนี้เราต้องแลนด์สไลด์ ตนจะเข้ามาเสริมเติมเต็มเพื่อให้สำเร็จ ที่ผ่านมาตนพอใจการทำงานของพรรค พท.

"วันนี้ฟ้าเปิด เมฆหมองจางหายสู่บรรยากาศประชาธิปไตย ผมประทับใจทีมเพื่อไทยที่เข้าใจ เป็นกลุ่มคนธรรมดาไม่ใช่คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ที่พูดกับชาวบ้านแล้วไม่เข้าใจ ซึ่งพรรค พท.สามารถทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและมีทีมงานที่คอยสนับสนุน ซึ่งในอดีตนโยบายพรรคไทยรักไทยสมัย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บรรลุเป้าหมายเด่นชัด นำไปสู่การปฏิบัติได้ ไม่แลนด์สไลด์ก็เกือบแลนด์สไลด์โดยไม่ต้องมีพวกผมเลย ต้องขอขอบคุณพี่น้องสมาชิกพรรค พท.ที่ต้อนรับ โทรมาให้กำลังใจ ซึ่งผมพร้อมเดินหน้าทำงานให่พรรคอย่างเต็มที่" นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวว่า ต้องขอบขอบคุณผู้บริหารพรรค พท.ที่ได้ให้โอกาสพวกตนได้กลับเข้ามาทำงานร่วมกับพรรค พท.มีการต้อนรับที่อบอุ่น ที่ผ่านมามีผู้สื่อข่าวสอบถามตนมาตลอดว่าทำไมตัดสินใจมาเป็นสมาชิกพรรค พท.นั้น ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมาที่มีการทำรัฐประหาร ทำโครงสร้างเศรษฐกิจพลังทลาย จนนักลงทุนไม่กล้าเข้ามา 4 ปีหลังพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นรัฐบาลแต่เสียงไม่มากพอ ทำให้กระทรวงเศรษฐกิจไปอยู่พรรคอื่น ทำให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ และตนมีโอกาสไปพบกับประธานหอการค้า ช่วงหลังทุกคนบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เลย ถ้าเกิดอยู่ต่อไปคงทุกข์ยากลำบากมาก บางคนที่สนิทกันก็มากระซิบว่าท่านย้ายพรรคเถอะ และตนลงพื้นที่เจอเพื่อนฝูง ไม่มีใครเชียร์ให้อยู่พรรคพลังประชารัฐเลย ดังนั้นจึงต้องย้ายพรรค และต้องได้ ส.ส.แลนด์สไลด์เพื่อผลักดันนโยบายตามสโลแกนคิดใหญ่ ทำเป็น

‘รทสช.’ ไม่หวั่น หลังสมาชิกบางคนย้ายซบพรรคอื่น เผย ช่วงนี้พรรคเนื้อหอม มีผู้สนใจแห่ลงสมัครเพียบ

(23 มี.ค. 66) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ แกนนำและคณะทำงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มีผู้ที่สนใจมาสมัครเป็นสมาชิกจำนวนมากในแต่ละวัน ล่าสุดมีสมาชิกมากกว่า 5 หมื่นรายแล้ว กรณีของนายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล ที่ไปสมัครเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองบางพรรค แล้วระบุว่า เคยเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติมาก่อน ทางพรรคได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคจริง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 แต่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเมื่อใดไม่ทราบ เพราะตามรายชื่อที่ กกต.แจ้งมายังพรรคเพื่อแจ้งบุคคลลาออกจากสมาชิก เมื่อวันที่ 7-10 มีนาคม ที่ผ่านมา ยังไม่ปรากฏชื่อของนายพิศณุพงศ์ แต่อย่างใด

‘รฟท.’ อัปเดตความคืบหน้า รถไฟทางคู่สายใต้ หัวหิน-ประจวบฯ งานโยธาเสร็จ 100% เตรียมเปิดปี 67 พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยว

(23 มี.ค. 66) การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. มูลค่า 5,807 ล้านบาท ซึ่งเป็น 1 ใน 5 โครงการรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 1 ได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาเสร็จสิ้นครบ 100% แล้ว และพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2567 นี้ 

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีระยะทางก่อสร้าง 84 กิโลเมตร เป็นการก่อสร้างทางวิ่งรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม เป็นโครงสร้างทางรถไฟวิ่งระดับพื้นดินทั้งหมด ประกอบด้วย สะพาน 2 แห่ง สถานีรถไฟ 12 แห่ง ป้ายหยุดรถ 1 แห่ง ย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) จำนวน 2 แห่งที่สถานีสามร้อยยอด และสถานีทุ่งมะเม่า และงานก่อสร้างอื่นๆ เช่น งานระบบระบายน้ำ สะพานลอยคนเดินข้าม งานรั้ว งานก่อสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ ถนนกลับรถยกระดับรูปตัวยู ถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟ เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟกับรถยนต์ 

ที่สำคัญการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ การรถไฟฯ ยังได้คำนึงคงความเป็นเอกลักษณ์ ความสวยงาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยรอบในพื้นที่ มีไฮไลต์สำคัญ เช่น สถานีรถไฟหัวหิน ได้ออกแบบสถานีให้เป็นแบบผสมผสานนำเอกลักษณ์และความสวยงามของสถานีรถไฟหัวหินเดิมมาไว้ที่สถานีหัวหินใหม่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยเมื่อสถานีแห่งใหม่เปิดให้บริการ สถานีหลังเดิมจะยังคงเปิดให้บริการควบคู่ไปด้วย

'อลงกรณ์' ขานรับข้อเสนอภาคเอกชนร่วมเดินหน้า 'ก้าวใหม่ประเทศไทย ก้าวใหม่ประชาธิปัตย์' ชูธง 12 แนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจและการพัฒนาสร้างศักยภาพใหม่ตอบโจทย์อนาคตประเทศไทยภายใต้ยุทธศาสตร์ 'สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ'

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคฯ และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเห็น และข้อเสนอแนะของภาคเอกชน ที่มีต่อความคาดหวังในนโยบายของพรรคการเมืองวันนี้(23 มีนาคม 2566)ว่า

พรรคประชาธิปัตย์เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนรวมทั้งมุมมองวิสัยทัศน์ของภาคเอกชนล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาประชาธิปไตย การพัฒนาประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์บนหลักการ 3 ประการคือ อุดมการณ์ประชาธิปไตย นโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยมและแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจในความคาดหวังของภาคเอกชนที่มีต่อนโยบายของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งในส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางนโยบายอย่างน้อย 12 ประการ เสมือนคานงัดในการสร้างจุดเปลี่ยนประเทศไทย สู่ก้าวใหม่ ไทยแลนด์ โดยพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคเอกชน ได้แก่

1. การพัฒนาการเมืองโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย
2. การขจัดคอร์รัปชั่น โดยการสร้างระบบธรรมาภิบาล
3. การส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เสรี และเป็นธรรม ลดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ และพลัง
งาน

4. การปฏิรูประบบราชการโดยลดอำนาจรัฐ ลดขนาดภาครัฐ 

▪มุ่งกระจายอำนาจและทรัพยากรสู่ท้องถิ่นและชุมชน (Community Empowerment) 
▪การเพิ่มบทบาทภาคเอกชนและชุมชนท้องถิ่นทางเศรษฐกิจ
▪การพัฒนาเมือง และชนบท

5. การปฏิรูปภาคเกษตร ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม 

▪การส่งเสริมเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ 
▪การยกระดับเกษตรรายย่อยเป็นเกษตรแปลงใหญ่ 
▪การพัฒนาระบบสหกรณ์ 
▪การส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตรและ เอสเอ็มอี.เกษตร 
▪การส่งเสริมอาหารแห่งอนาคต
▪และการทำตลาดเชิงรุก ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

6. การพัฒนาโลจิสติกส์ เชื่อมไทย-เชื่อมโลก 

▪การเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ

7. การสร้างฐานการผลิต การแปรรูปการตลาด และกระจายการลงทุนสู่ทุกภูมิภาค

▪ภายใต้ฐานใหม่ 18 กลุ่มจังหวัดโดยเฉพาะคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเกษตร (Agroindustry)

8. การสร้างคนและการ Reskill- Upskill ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน

▪โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ (12  S-Curves)
▪การส่งเสริมMSMEและStartup ด้วยกองทุนเอสเอ็มอี
▪และการทำงานแบบสร้างสรรค์

9. สร้างระบบธนาคาร และระบบการเงินของเศรษฐกิจฐานรากด้วย

▪ธนาคารหมู่บ้าน 
▪ธนาคารชุมชน 80,000 หมู่บ้าน และชุมชน 77 จังหวัด 
▪รวมทั้งส่งเสริมธนาคารเพื่อการลงทุนและเวนเจอร์แคปิตอล

10. ขับเคลื่อนภาคการผลิต (Real Sector) ภาคบริการภาคการท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี นวัต
กรรมและซอล์ฟพาวเวอร์(Soft Power)

11. การปฏิรูปการบริการภาครัฐ

▪โดยปรับปรุง และยกเลิกกฎหมาย กฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรค และภาระทางการค้าธุรกิจและการบริการประชาชน

12. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าการลงทุนเสรี (FTA) และกลยุทธ์มินิ เอฟ
ทีเอ.(Mini FTA)ที่มีอยู่เดิมและข้อตกลงใหม่

▪ปูทางสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการของไทยในเวทีแข่งขันระหว่างประเทศ
▪พร้อมกับการใช้กองทุน เอฟทีเอ.รองรับผลกระทบทุกด้าน

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า นโยบายเหล่านี้เป็นการสานงานต่อ ก่องานใหม่ อย่างต่อเนื่อง ของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น 

▪การจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัด และศูนย์ความเป็นเลิฟเฉพาะด้าน 23 ศูนย์

▪เป็นโครงสร้างทางเทคโนโลยี และองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (R&D) 
ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2563 

▪เกิดเทคโนโลยีใหม่ 800 นวัตกรรมถ่ายทอดสู่เกษตรกรและฟาร์มเกษตร

▪การส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารใน 18 กลุ่มจังหวัดบนความร่วมมือกับสภาอุตสาห
กรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) 

▪การยกระดับเกษตรรายย่อยเป็น เกษตรแปลงใหญ่ 1 หมื่นกลุ่ม 

▪การพัฒนาอาหารแห่งอนาคต เช่น โปรตีนจากพืช จากแมลงมีกว่า 1 แสนฟาร์ม 

▪การขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) 

▪ปฏิรูปกระทรวงเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน และการบริการประชาชนจากอนาล็อค เป็นดิจิตอล

▪การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลบิ๊กดาต้า เกษตรแห่งชาติ (National Big Data Center:NABC) ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 

▪การพัฒนาโลจิสติกส์ด้วยรถไฟจีน-ลาว เปิดบริการขนส่งสินค้าได้ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2565 

▪การปฏิรูประบบบริหารจัดการผลไม้ จนส่งออกทุเรียนผลสดสร้างรายได้ทะลุ 1 แสนล้านเป็นครั้งแรกในปี 2564 

การประกันรายได้เกษตรกรพืชเศรษฐกิจหลัก ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และปาล์มน้ำมัน

พสบ.28 รับน้อง พสบ.29 เสริมสร้างความสัมพันธ์รุ่นพี่รุ่นน้อง ให้เกิดความรักความสามัคคี เพื่อร่วมพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป

วันพุธที่ 22 มีนาคม 2566 ณ ห้องเทวกรรมรังรักษ์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี-รังสิต พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร (พสบ.) รุ่นที่ 28 โรงเรียนกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก โดยนายสกนธ์ นันท์ปิติพงศ์ เป็นประธานจัดงานรับน้อง พสบ.รุ่นที่ 29 
  
โดยมีพลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา และ พล.ท.จิรัฎฐ์ สุตาสุข เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ให้เกียรติเข้าร่วมงาน

การจัดงานดังกล่าว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และมิตรไมตรีอันดีระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ให้มีความรักใคร่กลมเกลียว และเกิดความรักความสามัคคี อันจะนำไปสู่การ ขับเคลื่อนกิจกรรมร่วมกันในอนาคตต่อไป 

'ชัยวุฒิ' ยัน!! ‘ลุงป้อม-ลุงตู่’ อยู่ฝั่งเดียวกัน ลั่น!! พร้อมจับมือทุกพรรค หากนโยบายตรงกัน

(23 มี.ค.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างพรรค พปชร. นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นําโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.ว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก ก็กินข้าวกันประจำอยู่แล้ว ส.ส.และนักการเมือง ก็เข้าออกกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วงทานข้าวเมื่อวันที่ 22 มี.ค.อาจเป็นประเด็น เพราะนายอนุทินมา และเขาเป็นพรรคใหญ่ ก็มีการพูดคุยกันเรื่องการเมือง คุยกันประจำ แต่ยืนยันว่ามากินข้าวกันทุกพรรคอยู่แล้ว ยกเว้นพรรคฝ่ายค้าน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวงกินข้าวมีการพูดถึงการจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้คุยขนาดนั้น เพียงแต่บอกว่าเรื่องนี้ต้องรอหลังการเลือกตั้งก่อนว่าใครจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ ค่อยมาดูกัน เมื่อถามว่า ถือเป็นการส่งสัญญาณการจับมือกันในอนาคตหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนว่าสัญญาณชัดอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็อยากทำงานร่วมกันต่อ เพราะทํางานร่วมกันมาก็ราบรื่นดี สามารถประสานงานกันได้ด้วยดี ก็ไม่อยากเปลี่ยนหรอก เมื่อถามว่า การจับมือในอนาคต จะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ด้วยหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ความจริงพรรค รทสช. ก็ถือเป็นพรรครัฐบาล ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ

"พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปจับมือกับใครถ้าไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ ความจริงทุกพรรคการเมืองจับมือกันได้หมด ถ้านโยบายหรือแนวคิดตรงกัน แต่สุดท้ายก็อยู่ที่การเลือกตั้ง เราต้องเอาความจริงมาคุยกัน พรรคร่วมรัฐบาลถ้าจะทำงานกันต่อ ก็ต้องอยู่ด้วยกันนั่นแหละ มันไม่มีใครได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรอก ก็ต้องอยู่ด้วยกันหมดแหละ" นายชัยวุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่า ตามข่าวที่ออกมา พรรค พปชร.ตั้งเป้าว่าจะได้ 70 เสียง เป็นไปตามนั้นหรือไม่ กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ต้องทําโพล ซึ่งตัวเลข 70 ที่ออกมาเป็นการคาดการณ์ของบางคนที่มีการประเมินกัน บางคนก็ประเมิน 100 บางคนประเมิน 70 บางคนประเมิน 40 บางคนก็ประเมิน 150 ซึ่งเราอาจจะถึง 150 เสียงก็ได้ เพราะมีผู้สมัครเกรดเอ ตั้งเป้าไว้ 150 เสียง

"เป้า 150 ยังอยู่ ที่เราเคยพูดมาตลอดเพราะเรามี ส.ส.เกรดเอ 150 แต่ก็ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะชนะทุกคน มันก็อาจจะมีพลาดบ้าง" นายชัยวุฒิ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top