Wednesday, 14 May 2025
WeekendNews

'เทพไท' ยก 'ชวน' เสาหลักประชาธิปัตย์ ยัน สังคมคาดหวังเข้ามาแก้วิกฤตพรรค

อดีตส.ส.เมืองคอนปชป. โพสต์ยก "ชวน หลีกภัย" เสาหลักประชาธิปัตย์ ปูชนียบุคคล เป็นนักการเมืองอมตะ ระบุ สังคมคาดหวังเข้ามาแก้วิกฤตพรรค

วันนี้ (24 เม.ย. 65) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า สวัสดี วันอาทิตย์ โดยปกติทุกวันอาทิตย์ ผมจะโพสต์เพลงใหม่ที่ได้ขับร้องไว้ ลงในเพจเทพไท จับไมค์ร้องเพลง เป็นประจำทุกวันอาทิตย์ แต่ในช่วงหลังจะเปลี่ยนแปลงการโพสต์เป็นวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ เพื่อไม่ให้แฟนแฟนจำเจกับบทเพลงของผมมากเกินไป

สำหรับวันอาทิตย์นี้ ก็ได้โพสต์เพลงพี่ไม่ล็อกแล็ก ซึ่งเป็นเพลงลูกทุ่งภาคใต้ เป็นการอนุรักษ์ภาษาใต้ให้คงอยู่คู่กับพี่น้องคนใต้ตลอดไป แต่สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงนี้ มีการพูดถึงชื่อของนายชวน หลีกภัย กันหนาหูมากที่สุด ทั้งจากบทความในคอลัมน์ของเปลวสีเงิน หรือจากกระแสในสื่อโซเชียลมากมาย ได้แสดงความห่วงใยต่อวิกฤตของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ และมีการเรียกร้องให้นายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ของพรรคเข้ามาแก้ปัญหาให้กับพรรค ถึงขั้นเสนอให้ท่านเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคขัดตาทัพด้วยซ้ำไป

'รมต.คลัง ออสเตรีย' รับไม่สามารถแบนนำเข้าก๊าซรัสเซีย หวั่น กระทบเศรษฐกิจ - ประชาชนเดือดร้อน

ออสเตรียไม่สามารถแบนนำเข้าก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ส่วนหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานมอสโก จากการเปิดเผยของ แมกนุส บรุนเนอร์ รัฐมนตรีคลัง เนื่องจากมันจะกระทบต่อเศรษฐกิจของพวกเขาเอง ที่ต้องพึ่งพิงพลังงานของมอสโกเป็นอย่างมาก

หลายประเทศในตะวันตก ในนั้นรวมถึงบรรดาสมาชิกอียู กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางเล่นงานรัสเซีย ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน

บรุนเนอร์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) ว่า ออสเตรียสนับสนุน "ทุกมาตรการคว่ำบาตร" ที่กำหนดเล่นงานมอสโก "แต่ไม่ขอห้ามนำเข้าก๊าซธรรมชาติ" จากรัสเซีย

'วิโรจน์' นำทีม ส.ก. จัดเวทีปราศรัย Flash meet โชว์กึ๋นหางบประมาณเพิ่มได้อีก 13,000 ล้านต่อปี

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล เปิดเวทีปราศรัยย่อย หรือ ‘Flash meet’ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพ (ส.ก.) ฝั่งธนบุรี ทั้ง 15 เขต ซึ่งเป็นการปราศรัยรูปแบบมาไว ไปไว ไม่ยืดเยื้อ เพื่อให้สอดคล้องไลฟ์สไตล์คนกทม.

โดยนายวิโรจน์ ปราศรัยว่า หากมองด้วยมาตรฐานของสภาใหญ่ที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ทำไว้ ในเรื่องการตรวจสอบการใช้งบประมาณ คนกทม. ควรเลือก ส.ก. จากพรรคก้าวไกล เข้าไปทำหน้าที่ปกป้องภาษีที่มาจากประชาชน และเพื่อไปผลักดันให้มีการนำภาษีไปใช้เกิดประโยชน์สูงที่สุด เพราะตนเชื่อว่า ส.ก.ก้าวไกลจะสร้างมาตรฐานสภากรุงเทพฯ ให้เทียบเท่ากับสภาผู้แทนราษฎรได้ งบประมาณกรุงเทพฯ รวมแล้วมีมากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี ส.ก. มีหน้าที่ดูแลเงินภาษีของพวกท่าน ถ้า ส.ก. เฮงซวย เงินภาษีของจะถูกใช้ไปแบบเฮงซวย ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่ต้องเลือก ส.ก. จากพรรคก้าวไกล

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า นโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะผู้สมัครผู้ว่าฯ คนไหนโฆษณาไว้อย่างไร ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินจากงบประมาณทั้งสิ้น ผู้ว่าฯ ในฐานะที่เป็นผู้บริหารของเมือง หน้าที่แรกคือ การหาเงินงบประมาณ หากผู้ว่าฯ ไม่บอกวิธีการหาเงิน นโยบายต่างๆ ที่โฆษณาจะไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน การปราศรัยในครั้งนี้จึงต้องการมาบอกว่า กทม. จะหาเงินได้อย่างไร 

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า กรุงเทพฯ จะมีงบประมาณเพิ่มได้จากการเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้าง หรือที่เรียกว่าภาษีโรงเรือน ซึ่งกทม. มีตึกรามบ้านช่องมากมาย แต่ที่ผ่านมาเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้างได้เพียง 5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งความจริงแล้วกทม. สามารถตั้งเป้าหมายการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้มากกว่าเดิมอีก 10,000 ล้านบาทต่อปี แต่ที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะว่าที่ดินบางแห่งย่านใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจจะถูกทำให้เป็นที่ตาบอด เพื่อทำให้ที่ดินตรงนั้นราคาประเมินถูกลง เพื่อทำให้เสียภาษีถูกลง เราจะไม่เห็นสภาพการณ์แบบนี้เกิดกับเมืองดังๆ ทั่วโลกเลย แต่เราเห็นได้ที่กทม. และที่ประเทศไทย ผมคิดว่าผู้ว่าฯ กทม. ต้องกล้าออกข้อบัญญัติหรือระเบียบในการจัดการเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่อ่อนข้อให้นายทุนคนตัวใหญ่ หลบเลี่ยงการจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

'เซเลนสกี' ร้องขอประชุมยุติสงครามร่วมกับ 'ปูติน' ตำหนิ 'เลขาฯ ยูเอ็น' เหตุเดินทางไปรัสเซียก่อนยูเครน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เมื่อวันเสาร์ (23 เม.ย.) เรียกร้องอีกครั้งขอประชุมร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในความพยายามยุติสงคราม พร้อมกับตำหนิ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่เลือกเดินทางเยือนมอสโก แล้วถึงค่อยมุ่งหน้าสู่เคียฟ

"ผมคิดว่าใครก็ตามที่เริ่มสงครามนี้ จะสามารถยุติมันได้" เขากล่าวระหว่างแถลงข่าวที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่ง ในย่านใจกลางกรุงเคียฟ "ผมไม่กลัวที่จะพบปะกับปูติน หากว่ามันจะนำมาซึ่งข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน"

เขากล่าวต่อว่า "ตั้งแต่แรกเริ่ม ผมยืนกรานมาตลอดก่อนการพูดคุยกับประธานาธิบดีรัสเซีย มันไม่ใช่ว่าผมต้องการพบปะกับเขา แต่ผมจำเป็นต้องพบปะกับเขา เพื่อหาทางออกของความขัดแย้งนี้ในหนทางด้านการทูต เราเชื่อมั่นในพันธมิตรของเรา แต่เราไม่เชื่อใจรัสเซีย"

เซเลนสกี เปิดเผยด้วยว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนกรุงเคียฟในวันอาทิตย์ (24 เม.ย.) ซึ่งถือเป็นวันครบรอบ 3 เดือนแห่งการรุกรานยูเครนของรัสเซีย นอกจากนี้ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะเดินทางมาพร้อมกัน ซึ่งจะถือเป็นการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกา นับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อคำกล่าวอ้างของเซเลนสกี

‘อุ๊งอิ๊ง’ โชว์ 5 นโยบาย หากมีอำนาจ พร้อมทำทันที มั่นใจ!! จะไม่มีใครอยากย้ายประเทศ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ขอใช้โอกาสในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย 2565 ส่งการบ้าน หลังจากที่ได้เริ่มเข้ามาทำงานการเมืองอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันได้ทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ในพรรคและคนรุ่นใหม่ เพื่อหาแนวทางพัฒนา แก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน ยืนยันว่า จะไม่ทิ้งคนรากหญ้า ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ พรรคเพื่อไทยจะใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาประเทศ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าชีวิตจะดีขึ้น ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคใดๆ ที่เข้ามา โดยเฉพาะการกอบโกยหาผลประโยชน์ที่กำลังดำเนินการกันอยู่อย่างมากมายเพื่อพวกพ้องของตัวเอง โดยไม่คำนึงความต้องการและชีวิตของประชาชน

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ยากจนลง จากที่เคยลืมตาอ้าปากได้ เพราะนโยบายที่กินได้ของไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย คนไทยส่วนใหญ่ ยังต้องการพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง อนาคตของลูกหลานที่ไม่มีหนี้ และมีเงินเหลือเฟือ จากนโยบายและการบริหารของผู้มีประสบการณ์จากพรรคเพื่อไทย ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรลุไปสู่เป้าหมายนั้น จึงขอส่งการบ้าน 5 ข้อ ได้แก่

1.) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจสู่ระดับประชาชน พรรคไทยรักไทยเคยทำมาแล้ว โดยการจัดงบประมาณภาคประชาชน ลงไปในระดับหมู่บ้านให้ประชาชนตัดสินใจร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาส่วนรวมของหมู่บ้าน รวมทั้งกระจายอำนาจทางการศึกษา การสาธารณสุข การเกษตร และการปกครองท้องถิ่น ให้ตัดสินใจในระดับจังหวัด ไม่ต้องขึ้นกับส่วนกลาง โดยจะทำให้กระทรวงต่างๆ เล็กลง ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนในปัจจุบัน รวมทั้งจัดให้มีการรายงานปัญหาของประชาชน และรับฟังข้อเสนอแนะ ผ่านแอปพลิเคชัน แบบ real time เพื่อจะได้วิเคราะห์และแก้ปัญหาให้ถูกทาง และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด

2.) ดึงศักยภาพคนไทยด้วยการใช้ soft power 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ซึ่งถูกกดให้ไม่มีโอกาสและพัฒนาศักยภาพมานาน จึงไม่มีโอกาสทำรายได้ให้สูงขึ้น จัดให้มีระบบค้นหาศักยภาพของคนไทยให้ได้อย่างน้อย 1 คน ต่อ1 ครอบครัว ประมาณ 16 ล้านครอบครัว เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพ มีส่วนร่วมและหาโอกาสทั้งระดับท้องถิ่น หัวเมืองใหญ่ในกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ตามศักยภาพหลังการฝึกฝนและพัฒนา เมื่อได้รับการฝึกฝนมีงานทำที่มีระดับค่าแรงงานที่สูงขึ้น คนเหล่านี้จะเป็นหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวให้หายจน มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเทรนด์โลกสมัยใหม่ คือการต่อสู้กันด้วยอำนาจของวัฒนธรรม soft power คือพลังหรืออำนาจ ที่ทำให้คนทั่วโลกโอบรับวัฒนธรรมอื่นๆ หากเกิดพลังนี้ขึ้นกับวัฒนธรรมใด จะนำมาซึ่งมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

3.) ใช้เทคโนโลยี Ai เพื่อการเกษตร เพื่อเกิดการวิเคราะห์แม่นยำ และผลผลิตสูง โดยการศึกษาดิน น้ำ ลมฟ้าอากาศ ด้วยเทคโนโลยี Ai ปลูกพืชตามฤดูกาลที่เหมาะสม ลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ระบบวิเคราะห์ข้อมูลและวิทยาศาสตร์การเกษตร ตลอดจนการถนอมผลิตภัณฑ์ และการกระจายการจัดจำหน่ายที่รวดเร็ว จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้ พรรคเพื่อไทยจะไม่ยอมให้ การเกษตรแบบวิถีชีวิต เกิดขึ้นอีกต่อไป

4.) ปรับเปลี่ยนภาครัฐและภาคเอกชนด้วยระบบ Digital Transformation ครั้งใหญ่ ด้วยการสร้างรัฐบาลดิจิทัล (Platform digital Government) ที่ใช้ได้จริง เพื่อแก้ปัญหาระบบราชการใหญ่โตและคอร์รัปชันมากมาย และขาดประสิทธิภาพ ระบบราชการไทยต้องเป็นใช้กระดาษลดลง (paperless) ให้บริการประชาชนผ่านระบบแอปพลิเคชัน เช่น การขอใช้บริการสาธารณสุขในโครงการ 30 บาท ประชาชนสามารถขอเวลานัดหมายทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องรอคิว จะใช้เทคโนโลยีการออกแบบและการทำโมลผลิตจากระบบเครื่องพิมพ์สามมิติ และการตลาดแบบ E-Commerce มาฟื้นคืนชีวิตให้กับสินค้า OTOP กลับมามีคุณภาพที่เป็นสากลมากกว่าเดิม ขายดีกว่าเดิมยิ่งกว่าสมัยไทยรักไทย

5.) เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค Metaverse โลกเสมือนจริงจะนำโลกที่เป็นจริง ซึ่งจะประกอบด้วย NFT (Non-Fungible Token) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่แสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ รวมถึง Games และ E-Sports เพื่อพัฒนาทักษะให้กับเด็กและเยาวชน ตลอดจนเทคโนโลยี AR (Augmented reality) หรือเทคโนโลยีผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและความเสมือนจริงเข้าด้วยกัน รวมถึง VR (Virtual reality) หรือ การจำลองสภาพแวดล้อมจริงให้เสมือนจริง โดยผ่านการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัส

'ศาลรวันดา' สั่งจำคุก ผู้จัดการเหมืองชาวจีน 20 ปี เหตุ เฆี่ยนตี-ทารุณ คนงานผิวดำ

กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เมื่ออาเจ๊ก ผู้จัดการเหมืองชาวจีนวัย 43 ปี คนหนึ่งในรวันดาในสัปดาห์นี้ถูกพิพากษาถึงขั้นถูกลงโทษจำคุก 20 ปี ข้อหาทรมานหลังเขาถูกแอบถ่ายคลิปกำลังเฆี่ยนคนงานเหมืองผิวดำคนหนึ่งที่ถูกผูกอยู่กับเสา

เน็กซ์ชาร์ก (Nextshark) สื่อสหรัฐฯ รายงานวันศุกร์ (22 เม.ย.) ว่า ในวิดีโอคลิปความยาว 45 วินาที อ้างอิงจาก The China Africa Project ในการรายงานของหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ ที่กลายเป็นหลักฐานเล่นงาน ซุน ชูจุน (Sun Shujun) วัย 43 ปี ผู้จัดการเหมืองแห่งหนึ่งทางตะวันตกของรวันดา ถูกแอบถ่ายไว้เมื่อปีที่แล้วขณะที่เขากำลังดุด่าคนงานเหมืองผิวดำรายหนึ่งที่ถูกผูกไว้กับเสา และทำการเฆี่ยนตีด้วยเชือกอย่างหนักเพื่อลงโทษระหว่างที่มีคนงานเหมืองคนอื่นๆ ในเสื้อกั๊กสีส้มกำลังเฝ้ามอง

ทั้งนี้ พบว่าซุน ถูกตำรวจรวันดาจับกุมหลังจากที่คลิปเผยแพร่ไปทั่วเดือนกันยายนปีที่แล้ว และในภายหลังเขาถูกปล่อยตัวภายใต้วงประกัน

ซุน กล่าวว่า เขาจำเป็นต้องโบยคนงานเหมืองเหล่านี้เพราะรู้สึกเหนื่อยอ่อนใจที่พวกเขามักจะขโมยแร่ออกไปเสมอ ซึ่งเขาถูกผู้พิพากษาศาลรวันดา แจ็กเกอส์ เคนยารูคิกา (Jacques Kanyarukiga) ในวันอังคาร พิพากษาว่า ผู้จัดการเหมืองชาวจีนทรมานเหยื่อคนงานเหมืองผิวดำ และออกคำสั่งลงโทษทางร่างกายด้วยเจตนาร้าย และนี่ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ทางอาญา

ซึ่งขณะที่อัยการกล่าวหาซุน ทำร้ายคนอื่นอีก 4 คน แต่เขากลับยอมรับว่าทำร้ายคนงานเหมือง 2 คนเท่านั้น พร้อมกับให้เหตุผลอ้างว่า คนเหล่านี้ขโมยแร่ในเหมืองออกไปซ้ำหลายครั้ง

พยานขึ้นให้การในศาลว่า คนงานเหมืองต้องสงสัยถูกผูกไว้และโดนโบยตี

'สนธิรัตน์' ฟุ้ง มีผู้สนใจเข้าร่วม ‘สร้างอนาคตไทย’ เพียบ!! แง้ม ‘สมคิด’ ยินดีรับแคนดิเดตนายกฯ

24 เม.ย. 65 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์รายการ ThePaperTalk ทางวิทยุ ส.ทร. FM 106 MHz ถึงการขับเคลื่อนพรรคสร้างอนาคตไทยว่า ขณะนี้พรรคสร้างอนาคตไทยมีความพร้อมในด้านบุคลากร ทั้งกรรมการบริหารพรรค โครงสร้างพรรค โดยหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความพร้อม ว่าพรรคสร้างอนาคตไทยจะทำการเมืองอย่างเต็มรูปแบบ และจากนี้ไป ก็จะมีการขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมาถึง

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้เริ่มก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ก็พบว่ามีผู้สนใจร่วมงานกับพรรคค่อนข้างมาก โดยก่อนหน้านี้ตนและผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ได้มีการเดินสายเพื่อพบปะพูดคุยกับผู้คนมากมายหลายวงการ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสนใจเข้ามาทำงานการเมืองร่วมกัน จนถึงขณะนี้พรรคมีความพร้อมในส่วนของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แล้วระดับหนึ่ง และนับจากนี้ไป ตนและพรรคสร้างอนาคตไทย จะเร่งเดินหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การเลือกตั้ง ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ โดยตั้งเป้าจะส่ง ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ

“การกลับมาทำงานการเมืองครั้งนี้ เป็นเพราะสถานการณ์บ้านเมืองที่เห็นว่าประชาชนประสบปัญหาอย่างมาก จึงจะต้องมีทางเลือกให้กับประชาชน โดยการกลับมาครั้งนี้เราเห็นว่าประเทศไทยต้องไปต่อ และคิดว่าแนวคิดต่างๆ ของบุคลากรในพรรคสร้างอนาคตไทยนั้น ยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศ”

“สนธิรัตน์” ปลื้ม คนเมืองกาญจน์ตั้งกลุ่ม “คนรักสนธิรัตน์” หนุนลุยเลือกตั้งสมัยหน้า

วันนี้ (24 เม.ย.65) ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วยนายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทยในฐานะประธานกลุ่มการเมืองภาคกลาง พบปะผู้นำท้องถิ่น กลุ่มสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง (ท.ม.ร) ตัวแทนกลุ่มคนรักสนธิรัตน์ประมาณ 30 คน ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ทางการเมืองและรับฟังข้อเสนอเชิงนโยบายจากคนในพื้นที่ ด้วยบรรยากาศชื่นมื่นและคึกคัก ด้านตัวแทนกลุ่มคนรักสนธิรัตน์ ดีใจตั้งพรรคการเมืองน้ำดี ฝากความหวังกลับมาพัฒนาบ้านเกิด ประกาศหนุนเต็มที่ เลือกตั้งสมัยหน้าต้องยกจังหวัด

 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่รู้ว่าคนบ้านเกิดให้ความไว้วางใจต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอมา และรู้สึกซาบซึ้งที่รู้ว่ามีการตั้งกลุ่มคนรักสนธิรัตน์ขึ้นมาในอำเภอท่าม่วง วันนี้จึงได้มาพบปะเพื่อแสดงความขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน ซึ่งในฐานะที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นบ้านเกิด มีความตั้งใจอย่างมากที่จะเข้ามาพัฒนาและทำประโยชน์เพื่อคนเมืองกาญจน์ ต้องการเข้ามาผลักดันให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตและมีความเชื่อมโยงการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต

'องลงกรณ์' ชี้ 'รถไฟลาว-จีน' มีประโยชน์ต่อไทย ร่นเวลาขนส่งไปจีนใช้เวลาเพียง 1 วันครึ่ง 

เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยว่า วันนี้ขอแสดงความชื่นชมต่อความสำเร็จในการส่งออกทุเรียนไทยล็อตใหญ่ที่สุด 500 ตัน 27 ตู้คอนเทนเนอร์ของฤดูกาลผลิตผลไม้ปี 2565 ที่ขนส่งบนเส้นทางรถไฟสายลาว-จีนตามนโยบายอีสานเกตเวย์และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการขนส่งผลไม้ไทยด้วยระบบรางภายใต้พิธีสารการนำเข้าส่งออกผลไม้ระหว่างไทย-จีนโดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของไทย-ลาวและจีนหลังจากทดสอบการส่งออกทุเรียน 2 ตู้คอนเทนเนอร์และมะพร้าวน้ำหอม 1 ตู้คอนเทนเนอร์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

จากนี้จะขยายไปสู่การขนส่งผลไม้และสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น มังคุด ลำไย ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง น้ำตาล มะม่วง เป็นต้น เพื่อเร่งสร้างรายได้เข้าประเทศ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานของคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) กล่าวว่า ทุเรียนล็อตใหญ่ล็อตแรกมาจากจังหวัดจันทบุรี จำนวน 27 ตู้ ซึ่งเป็นการขนส่งระบบผสมผสาน “ราง-รถ” โดยรถบรรทุกคอนเทนเนอร์รุ่นใหม่บรรทุกทุเรียนที่ผ่านการตรวจสอบโรคพืช ไม่มีทุเรียนอ่อนและปลอดการปนเปื้อนโควิดเดินทางจากภาคตะวันออกถึงจังหวัดหนองคายข้ามแม่น้ำโขงที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 ไปถ่ายตู้ที่ท่าบกท่านาแล้งก่อนลำเลียงไปขึ้นแคร่รถไฟที่สถานีเวียงจันทน์ใต้ แล้วเดินทางไปยังสถานีรถไฟนาเตยในแขวงหลวงน้ำทาก่อนยกขึ้นรถบรรทุกคอนเทนเนอร์เดินทางต่อไปด่านบ่อเต็นข้ามพรมแดน “ลาว-จีน” ไปตรวจโรคพืชและโควิดที่ด่านโมฮ่านในมณฑลยูนนาน

‘ชัชชาติ’ ลุยหาเสียง 'บางกะปิ-สะพานสูง' ชูนโยบาย 'ปชช. ร่วมประเมินผลงาน ผู้ว่าฯ-ผอ.เขต'

24 เม.ย. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่เขตบางกะปิและเขตสะพานสูง พบปะผู้ค้าและประชาชนที่ตลาดเช้าแฟลตคลองจั่น ตลาดหมู่บ้านสหกรณ์เคหสถาน ตลาดสัมมากร และตลาดตะวันนา พร้อมรับฟังปัญหาจากผู้นำชุมชนต่างๆ

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาในแต่ละชุมชนมีหลากหลาย การแก้ไขปัญหาของชุมชนจะต้องให้ประชาชนเข้ามาร่วมตัดสินใจ เนื่องจากประชาชนรู้ดีที่สุดว่าเกิดปัญหาอะไร และต้องการวิธีไหนในการแก้ไข เสนอนโยบายให้ประชาชนมีส่วนร่วมจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่างๆ ตั้งแต่ในระดับเขตจนไปถึงระดับ กทม. 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top