ธรรมะประจำวันอาทิตย์ ที่ 1 พฤษภาคม 2565 : หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ
ให้ดูในหลวงเป็นแบบอย่าง ให้เดินตามที่ท่านสอน
เดินตามรอยท่าน ท่านทำไว้เยอะ
ตรองดูให้ดีเถอะ มีเป็นร้อยเป็นพัน เรื่องดีดีทั้งนั้น
- หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ -

ให้ดูในหลวงเป็นแบบอย่าง ให้เดินตามที่ท่านสอน
เดินตามรอยท่าน ท่านทำไว้เยอะ
ตรองดูให้ดีเถอะ มีเป็นร้อยเป็นพัน เรื่องดีดีทั้งนั้น
- หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ -
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประเด็นเรื่องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าสินไหมทดแทน กรณีดาราชายขับรถชน พร้อมคำพิพากษาศาลฎีกาเทียบเคียง โดยมีเนื้อหาดังนี้
จบมาแล้วอาจจะลืม หรือ อาจจะหัวหมอ แสร้งทำลืมข้อกฎหมาย งั้นพี่ทนายจะเตือนความจำให้...
ที่ขุน บอกว่า ผู้เสียหายควรได้รับเพียง 20,000 บาท เพราะ ค่ารักษาพยาบาล พรบ.รถจักรยานยนต์ ของผู้เสียหาย จ่ายไปแล้ว
แต่ขุน ลืมไปหรือเปล่า ว่า ขุนยังไม่ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับน้องเขาสักบาท ทั้งที่ตัวน้องเขามีหลักฐาน มีใบเสร็จมาแสดง ในรายการ โหนกระแส ที่จ่ายไป เกือบ 30,000 บาท ขุน มาขอต่อรองในรายการ เหลือ 20,000 บาท และแม่เขาก็ยอม แต่เอาตามกฎหมาย แล้ว
ฟังนะขุน
แม้ ค่ารักษาพยาบาล สองหมื่นกว่าบาท พรบ.รถจักยานยนต์ น้องเขาจะเป็นคนจ่ายไป
#แต่ตามกฎหมายเขาก็มีสิทธิ์เรียกค่าใช้จ่ายกับขุน ในฐานะผู้ทำละเมิด ได้อีกทางตามกฎหมายอยู่แล้ว
จบกฎหมาย ต้องรู้จักกฎหมาย ใช้กฎหมายให้เป็น และมีคุณธรรม นะขุน
ไม่ใช่จบมาแบบ นกแก้ว นกขุนทอง และใช้กฎหมายชี้ช่องเอาแต่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว โดยไม่เหลือคุณธรรม นะขุนนะ
คำพิพากศาลฎีกา 2040/2539 #สิทธิของโจทก์ที่ได้รับเงินทดแทนค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกันภัยเป็นสิทธิตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ส่วนสิทธิของโจทก์ที่จะได้รับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์จากจำเลย เป็นสิทธิตาม พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 2533 #เมื่อเป็นสิทธิตามกฎหมายแต่ละฉบับ
โดยโจทก์ด้องเสียเบี้ยประกันภัยและส่งเงินสมทบเข้ากองทุนสมทบแล้วแต่กรณีตามที่กฎหมายแต่ละฉบับกำหนดไว้ ซึ่งต้องชำระทั้ง 2 ทาง และ พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 2533 #ไม่มีบทบัญญัติตัดสิทธิมิให้ได้รับเงินทดแทนตามกฎหมายอื่นมารับเงินทดแทนอีก จำเลยจึงยกเอาเหตุที่โจทก์ได้รับเงินทดแทน ค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกันภัยมา #แล้วมาอ้างเพื่อไม่จ่ายเงินค่าทดแทนตาม พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 2533 ให้แก่โจทก์หาได้ไม่ โจทก์จึงมีสิทธิได้รับเงินทดแทนค่าบริการทางการเเพทย์จากจำเลย
วันนี้ (30 เม.ย.65) ทหาร บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ได้จัดกำลังพล 1 ชุดปฏิบัติการ ออกทำการลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทั้งกลางวัน-กลางคืน ตามนโยบายและข้อสั่งการของ พ.อ.สุทธิ์เขตต์ ศรีนิลทิน ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง สั่งการให้ กองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3
กระทั่งเช้ามืด เมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปถึงพื้นที่ป่าเขตบ้านต้นม่วง ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง พบกลุ่มคนต้องสงสัยจำนวนประมาณ 10 คน เดินลัดเลาะมาตามแนวป่าที่เชื่อมต่อมาจากพรมแดนลึกเข้ามาในเขตไทยประมาณ 5 กม. โดยมีผู้ถืออาวุธมาด้วยครบมือและส่วนหนึ่งแบกกระเป๋าเป้าที่เป็นกระสอบฟางบนหลังมาด้วย
เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญานหยุดตรวจ แต่ปรากฎว่ากลุ่มคนดังกล่าวกลับแตกตื่น และใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อเปิดทางหลบหนี ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นนานประมาณ 10 นาที เสียงปืนดังสนั่นป่า
30 เม.ย.2565 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ถึงกระแสข่าวการตั้งนายกรัฐมนตรีคนนอก แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า...ทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่
ผมเป็นคนหนึ่ง ที่คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญบัตรสองใบ เพราะระบบนี้จะทำให้เกิดมุ้งการเมือง ซึ่งมีนายทุนมาคุมต่ออีกทอด และใช้เงินสูงมาก ต่อรองกันมาก โกงกันมาก เผด็จการรัฐสภา สุดท้าย นายทุน จะเป็นคนชี้ว่าใครจะเป็นนายก หรือรัฐมนตรี
หลังจากการแก้รัฐธรรมนูญ มาสู่บัตรสองใบ ก็เกิดมุ้งขึ้นมาจริงๆ แต่มุ้งดังกล่าว แยกพรรคออกไป ล่าสุดก็มีภาพมุ้งต่างๆทยอย ออกมาให้เห็น เช่นกลุ่ม 16 ประกอบกับมีข่าวว่า คนมีอำนาจบางคนพบปะคนแดนไกล ที่ต่างประเทศ
ถัดมามีข่าวนายไพบูลย์ ซึ่งใกล้ชิดคนมีอำนาจ และเคยเป็นประธานกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตรสองใบ แต่ภายหลัง ถูกหักไม่ได้ตำแหน่ง ประธานกรรมาธิการแก้ไขกฏหมายลูก ออกมาพูดว่า การคิดจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องหาร 100 ไม่ใช่ 500 ซึ่งสอดรับกับ ที่พรรคเพื่อไทยต้องการ
วันศุกร์ที่ 29 เม.ย. 65 ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 28 (พสบ.28) ได้จัดเสวนาในหัวข้อ “ประเทศไทยจะอยู่อย่างไร ให้รอดในวิกฤติทั้งภายในและภายนอกประเทศ” ณ หอประชุมเสนาปฏิพัทธ์ กรมยุทธศึกษาทหารบก มีผู้ร่วมเสวนา ดังนี้
1. พันเอก เกียรติชัย โอภาโส รองผู้อำนวยการ ศูนย์พัฒนาหลักนิยม กรมยุทธศึกษาทหารบก
2. คุณชุติเดช ชยุติ Chief Finandal Officer KTC
3. ดร. นน อัครประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลอาวุโส กระทรวงดิจิทัล
4. ดร.พุฒิพงศ์ สุดหล้า
Founder/CEOกลุ่มบริษัท Together
หลังจากนั้น ในเวลา 13.00 น. เจ้ากรมกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก พลโท นิรันดร ศรีคชา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 28 (พสบ.28) โดยให้โอวาทและกล่าวแสดงความยินดีกับผู้เข้ารับการอบรม พร้อมมอบประกาศนียบัตรสำเร็จการอบรม และมอบเข็ม “พสบ.” ให้กับผู้เข้ารับการอบรมฯ ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และภาคเอกชน
30 เม.ย.2565 - ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคก้าวไกลจัดประชุมสามัญประจำปี โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการเริ่มประชุมถึงการตั้งเป้าจำนวนส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า มีตัวเลขในใจอยู่แล้ว โดยจะพยายามพูดคุยเรื่องนี้กันภายใน แต่จะไม่เปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการ ตนไม่อยากใช้ตัวเลขเป็นหลักแล้วให้ว่าที่ผู้สมัครนั่งคิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ เพราะไม่อยากให้เสียกำลังใจ
"ดูได้จากผลการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว และผลการเลือกตั้งท้องถิ่นของกลุ่มคณะก้าวหน้า มั่นใจว่าจะเกินกว่าร้อยที่นั่ง ซึ่งเราจะทำงานหนักด้วยข้อมูล และละเอียดมากขึ้น ครั้งที่แล้วที่เป็นพรรคอนาคตใหม่การเตรียมตัวมีค่อนข้างน้อย แต่ตอนนี้เราเริ่มเตรียมการมาเป็นปีแล้วในการเตรียมว่าที่ผู้สมัคร สัมภาษณ์ผู้สมัคร เทรนผู้สมัคร ให้ผู้สมัครได้ทดลองงานซึ่งคิดว่าเป็นการทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้นมากขึ้น ประกอบกับการทำงานในสภาของส.ส. ก็จะเป็นการทำงานที่คู่ขนานกันไป แต่ก็จะเน้นทำงานในพื้นที่มากขึ้น" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า จุดแข็งของพรรคก้าวไกลคือความหลากหลายของว่าที่ผู้สมัครที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนจากหลายกลุ่มจริงๆ ทั้งกลุ่ม LGBTQ กลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองและคนที่ไม่มีประสบการณ์มารวมกันอยู่ โดยประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงได้นั้นความกระจุกจะต้องกระจายออกผ่านการกระจายอํานาจ เชิงเศรษฐกิจต้องเปลี่ยนจากฐานรากขึ้นมาข้างบนโดยการทำลายทุนผูกขาด วิธีการมองต้องเอาจากข้างนอกเข้ามาข้างใน ไม่ใช่เอาความเป็นไทยไปสู่ข้างนอก ถ้าเราเขย่าประเทศกับหัวกลับหางแบบนี้ประเทศไทยก็จะมีทางรอดออกไปได้
เมื่อถามถึงกระแสนายกรัฐมนตรีสำรองที่มีชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายพิธา กล่าวว่า ตั้งระบบรัฐสภานายกรัฐมนตรีควรที่จะเป็นส.ส.และคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ในช่วงการเลือกตั้ง ส่วนนายกรัฐมนตรีจะเหมาะสมหรือไม่ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน อย่างไรก็ตามพล.อ.ประวิตร ก็ยังมีเรื่องที่ค้างคาใจที่ตนคิดว่าประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับข้อชี้แจง ทั้งเรื่องของป่ารอยต่อ และเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งก็ต้องมีการชี้แจง
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลไม้ล่วงหน้าในคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้(30 เม.ย.)ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และการบริหารจัดการตลาดสดของ อ.ต.ก. พร้อมทั้งมอบนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อผลักดันการบริโภคผลไม้และผลผลิตทางการเกษตรของไทย โดยมีนายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. พร้อมด้วยผู้บริหาร อ.ต.ก. ให้การต้อนรับว่า ได้มอบหมายให้ อ.ต.ก. เป็นหน่วยงานกลางผู้ประสานงานระหว่างตลาดสินค้าเกษตรทั้งหมดทั่วประเทศเพื่อส่งเสริม ผลักดันการบริโภคผลไม้ไทย
พร้อมทั้งนำผลไม้ไทยบุกตลาดออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และในส่วนของการทำการตลาดออฟไลน์ให้ดำเนินการเชิงบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐเช่นองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย บริษัทไปรษณีย์ไทย หอการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอี. โมเดิร์นเทรด ตลาดกลางสินค้าเกษตรทั่วประเทศ โปรโมทขายผลไม้ นอกจากนี้ขอให้ อ.ต.ก. พัฒนาและปั้น Brand Ortorkor ให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและระดับสากลเพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรและเป็นแบรนด์การันตีคุณภาพสินค้าเกษตรของไทย รวมทั้งเพิ่ม จุดจำหน่ายและกระจายสินค้าเกษตรเพื่อเป็นช่องทางกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ อ.ต.ก. เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนและสนับสนุนตลาดเกษตรกร( Farmer Market )ในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อมากที่สุดอีกด้วย
นอกจากนี้นายอลงกรณ์และคณะได้ลงพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. พบปะพูดคุยกับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการผู้ค้าทุเรียน มังคุด เงาะ ลำไย ชมพู่ มะม่วง มะพร้าว แตงโม พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนบริโภคผลไม้ไทยเพิ่มขึ้นเพื่ออุดหนุนและสนับสนุนเกษตรกรไทยในช่วงฤดูกาลผลไม้ปีนี้
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊กว่า ช่วงนี้มีการพูดถึงกระแสข่าวนายกฯสำรองให้ได้ยินกันอย่างหนาหู หลังจากที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ได้เปิดประเด็นเสนอ ให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นนายกฯขัดตาทัพ แทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นไปได้ และความเหมาะสม รวมทั้งการเปิดรายชื่อนายกฯสำรองกันหลายคน
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ถ้าหากพล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีอันเป็นไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลใดก็ตาม บุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป อันดับแรก ต้องมาจากรายชื่อแคนดิเดตของพรรคการเมืองต่างๆก่อน เช่น พรรคภูมิใจไทยมีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคประชาธิปัตย์มีชื่อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่วนพรรคเพื่อไทย มีชื่อของนายชัยเกษม นิติสิริ ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ไปตั้งพรรคไทยสร้างไทยแล้ว และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ลาออกจากพรรคเพื่อไทยออกไปผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.อยู่ในขณะนี้
“การเปิดประเด็นเสนอชื่อของพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นบุคคลนอกบัญชีของพรรคการเมือง ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนพล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้เงื่อนไขตามมาตรา 272 วรรค 2 นั้น น่าจะเป็นการโยนหินถามทาง หยั่งกระแสของสังคม หรือสร้างความหวาดระแวงกันในหมู่พี่น้อง 3 ป.มากกว่า อาจจะเป็นการหวังดีประสงค์ร้ายต่อพล.อ.ประวิตร เพราะถ้าหากพล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนพล.อ.ประยุทธ์จริง โอกาสที่จะถูกโจมตี โค่นล้มรัฐบาลจากฝ่ายตรงข้ามง่ายกว่า เพราะต้นทุนทางสังคมของพล.อ.ประวิตร ต่ำกว่าพล.อ.ประยุทธ์ พอสมควร” นายเทพไท กล่าว
เพจ “ลึกชัดกับผิงผิง” สื่อที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีน โพสต์ข้อความระบุว่า ปี 2021 นักลงทุนหุ้นสหรัฐฯ หลายคนยื่นฟ้องกลุ่มอาลีบาบาต่อศาลเขตภาคใต้นครนิวยอร์ก ด้วยสาเหตุที่ราคาหุ้นอาลีบาบาตกหนัก ทำให้พวกเขาสูญเสียมหาศาล แต่ไม่เป็นผล
วันที่ 22 เมษายน 2022 นักลงทุนดังกล่าวแก้ไขหนังสือฟ้องร้อง โดยมีเป้าหมายที่นายแจ็ค หม่าผู้ก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา ทั้งๆ ที่นายแจ็ค หม่าลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการอาลีบาบาตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2019 แล้ว
เป็นเรื่องน่าขำยิ่ง เพราะตอนที่ค่าหุ้นอาลีบาบาพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก บรรดานักลงทุนพากันดีใจใหญ่ ปัจจุบันราคาหุ้นตกอย่างหนัก จึงรู้สึกไม่พอใจก็เลยไปฟ้องร้อง ตลาดหุ้นมีกติกาแบบนี้หรือ?
เหตุใดที่ทำให้ราคาหุ้นบริษัทนิวไฮเทคจีนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯตกลงอย่างฮวบฮาบ
ช่วงรัฐบาลทรัมป์ จีนกับสหรัฐฯเกิดข้อขัดแย้งทางการค้า สหรัฐฯออกมาตรการจำนวนหนึ่งเพื่อทำลายล้างบริษัทจีน ปี 2020 วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่าน “กฎหมายสืบสวนความรับผิดชอบบริษัทต่างประเทศ” โดยพุ่งเป้าต่อบริษัทจีนอย่างชัดเจน หลังจากนั้น ราคาหุ้นบริษัทนิวไฮเทคจีนที่มีอาลีบาบาเป็นตัวแทนตกลงอย่างอวบฮาบต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
แต่นักลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่ฟ้องร้องนายแจ๊ค หม่าไม่ได้เอ่ยถึงเบื้องหลังสำคัญนี้ในหนังสือร้องเรียนดังกล่าว
ต้นเดือนมีนาคมปีนี้ คณะกรรมการแลกเปลี่ยนพันธบัตรสหรัฐฯ หรือ SEC จัดบริษัทจีน 5 บริษัทเข้าไว้ในบัญชี “รายชื่อบริษัทที่จะไล่ออก” วันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา รายชื่อนี้ได้เพิ่มบริษัทจีนอีก 19 บริษัท คาดว่าในอนาคตบริษัททุนจีน 191 บริษัทจะถูกขึ้นบัญชีดำทั้งหมด ทำให้นักลงทุนพากันเทขายหรือไม่ซื้อหุ้นบริษัทจีนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.เวลา 09.30 น. ที่ ห้องวายุภักษ์ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราบาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ พรรคกล้า ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิกาพรรคกล้า และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงาน โดยไฮไลน์การประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดตัวนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคกล้า
โดยนายกรณ์ กล่าวในหัวข้อ ฟื้นเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปากท้องว่า ในการประชุมครั้งนี้เท่ากับเวลาที่เราได้มาทำงานครอบ2ปีพอดี ซึ่งเป็น2ปีที่ประชาชนมีความเดือดร้อนหนักหนาสาหัส เพราะประสบกับสถานการณ์โควิด และปัญหาทางเศรษฐกิจ และที่หนักที่สุดที่ทำให้ประชาชนคนไทยมีความทุกข์มากที่สุดคือการที่เขามองไม่เห็นอนาคตว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ได้อย่างไร พรรคกล้าเราตั้งใจเสนอว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องสร้างโอกาสสร้างรายได้ เราต้องชัดเจนว่าจะสร้างกลับคืนมาให้ประชาชนได้อย่าไร
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า โดยพรรคกล้าขอเสนอ 4 แนวทางและการสร้างรายได้ สร้างโอกาส คือ 1.สร้างอุตสาหกรรมใหม่ จะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ ที่เรียกว่ากล้า Green Deal, 2.ยกเลิกสิ่งที่อยู่ใต้ดินให้มาอยู่บนดิน สิ่งที่อยู่ในที่มืดมาอยู่ในแสงสว่าง เพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้รัฐบาล โดยเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี, 3. ผลักดันเศรษฐกิจดิจิตอล สร้างช่องทางการค้าขายออนไลน์ให้กับประชาชน และ4. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งทั้ง 4 แนวทางหลักนี้ จะนำไปสู่แหล่งรายได้หลักของไทย แต่ทั้งหมดจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ มี 2 คำ คือเทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างได้ด้วยวิธีคิด และทัศนคติที่ปรับใหม่ ทั้งเรื่องการศึกษา ระบบราชการที่จะต้องปฏิรูปสู่เทคโนโลยี ถ้ายังไม่มีการปฏิรูประบบราชการจะกลายเป็นคอขวดและตัวถ่วงของประชาชนและภาคเอกชน ดังนั้นต้องปฏิรูปนำระบบราชการให้เข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่าง 100 เปอร์เซนต์ นำระบบราชการเข้าสู่โทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความฝัน เพราะตอนนนี้คนไทย 30 กว่าล้านคนที่ให้แอปเป๋าตังค์
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการปครอง ต้องมีการกระจายอำนาจ หมดยุคการรวมศูนย์อำนาจแล้ว เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด สร้างวัฒนธรรมสตาร์ทอัพ พร้อมที่จะผิดพาด พร้อมที่จะเรียนรู้ และเปลี่นแปลงโดยเร็ว ซึ่งเชื่อว่าถ้าในอนาตเรามีโอกาสทำเรื่องแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความครึกคัก ขวัญกำลังใจ ความหวังของประชาชนจะกลับมา เพราะเราอยู่ได้ด้วยความหวัง และความหวังต้องมาจากการที่ประชาชนสามารถมองเห็นผู้นำที่เชื่อใจ สนใจใส่ใจ เข้าใจแก้ปัญหาดร้อนของเขาได้อย่างไร ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเราชาวพรรคกล้า และเป็นภารกิจของพรรคกล้า ที่จะต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนมีความเชื่อว่าปัญหาที่เป็นอยู่มันแก้ไม่ได้ ทั้งปัญหาทุจริต ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาด้านการศึกษา ฝุ่น PM 2.5 ปัญหาการปฏิรูปตำรวจ ทั้งนี้แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไข แต่ตนเชื่อว่าทุกเรื่องแก้ได้ โดยต้องอาศัยความกล้า นี่คือยุคของโอกาสนิยม ไม่ใช่ประชานิยม ต้องสร้างรายได้สร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน ทุนใหญ่ต้องโตได้ทุนเล็กต้องมีที่ยืน รัฐบาลต้องร่วมมือกับเอกชน
“ตลอด 2ปีที่ผ่านมาเราสัมผัสได้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่คำตอบให้กับสังคม เราลงเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งและเห็นว่าประชาชนให้โอกาสกับเรามากขึ้น และเราต้องทำงานอย่างหนักก่อนจะถึงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ภายในอีก 10 เดือนข้างนี้ ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือการเมืองแบบใหม่ การเมืองที่มีความสร้างสรรค์ การเมืองที่ทำด้วยคนที่เป็นมืออาชีพ พวกเราจะไม่ป่าวประกาศในฐานะพรรคใหม่ว่าเราจะได้ ส.ส.กี่คน หรือจะแลนด์ไสลด์ เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้เราเป็นพรรคใหม่ยังมีการบ้านที่ต้องทำอีกมาก แต่ที่อยากจะบอกคือเราพร้อมทำงานหนัก พร้อมรับฟังประชาชน และพร้อมที่จะเสียสละ และสำหรับพรรคกล้าประชาชนต้องมาก่อน” นายกรณ์กล่าว
จากนั้นนายกรณ์ ได้เปิดตัวคณะกรรมการเศรษฐกิจ โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ จะเข้ามาทำหน้าที่ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคฯ โดยมีตน และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคฯ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจต่อไป ส่วนนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค ฯ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจคนตัวเล็ก และนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษานาคารแห่งประเทศไทย มาเป็นที่ปรึกษานโยบายด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจดิจิตอล ของพรรคฯ มาช่วยงานด้านเศรษฐกิจดิจิตอล รวมทั้งยังมี ร.อ.หญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และอดีตคณะทำงานพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ามาดูแลงานด้านท่องเที่ยว โดยเฉพาะเศรษฐกิจท่องเที่ยวภาคล้านนา