Sunday, 5 May 2024
TheStatesTimes

‘มธ.’ แจง!! ประเด็นช็อกสังคม ‘นศ.หญิง’ ทำร้าย ‘นศ.ชาย’ สาหัส ชี้ เตรียมประสานฝ่ายวินัยฯ เพื่อดำเนินการสืบข้อเท็จจริงแล้ว

(25 เม.ย.67) เป็นประเด็นช็อกสังคมกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ หลังเพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของนักศึกษาสาวในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยบอกว่า มีนักศึกษาสาวปี 3 ทำร้ายร่างกายแฟนหนุ่มซึ่งเป็น รุ่นน้องปี 1 ด้วยการใช้มีดปาดคอภายในหอพัก อาการสาหัส แถมคนก่อเหตุยังลอยหน้าลอยตาเข้าเรียนตามปกติได้อีก แปลกใจที่เรื่องเงียบ

ล่าสุด วันนี้ 25 เม.ย.67 มีรายงานว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า แถลงการณ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง เหตุการณ์นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำร้ายร่างกายเพื่อนนักศึกษา 

จากเหตุการณ์นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เพื่อนนักศึกษาภายในหอพักนอกมหาวิทยาลัยฯ ที่เป็นข่าวทาง Social Media ในช่วงที่ผ่านมา

ทางฝ่ายวิชาการและกิจการนักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการเข้าดูแลนักศึกษาผู้ประสบเหตุวันเกิดเหตุดังกล่าว และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าวในเบื้องต้นแล้ว

ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการติดตามความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดกับทั้ง 2 ฝ่าย คือ นักศึกษาคู่กรณี และนักศึกษาผู้เสียหาย

รวมถึงประสานงานผู้ปกครองของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เตรียมดำเนินการประสานงานฝ่ายวินัยนักศึกษาเพื่อดำเนินการสืบข้อเท็จจริง

และสอบสวนให้เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยวินัยนักศึกษา และดำเนินการตามวินัยนักศึกษาต่อไป

‘รร.ดัง’ ถูกติง!! เหตุชุดนักเรียนห้อง EP พิเศษกว่าเพื่อน ชาวเน็ตแนะ ควรพิจารณาอีกรอบ หวั่นเกิดการแบ่งแยก

(25 เม.ย. 67) สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้ค่าใช้จ่ายทางการศึกษามีสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ปกครองต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนของบุตรหลาน ไม่ว่าจะเป็นค่าชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ ชุดพละ ค่าอุปกรณ์การเรียน หรือค่าหนังสือเรียน

ซึ่งเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ก็มีกระแสเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง โดยเสนอให้ปรับลดชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ

อย่างไรก็ตาม กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ทันที หลังจากที่เพจ ‘โรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์’ โพสต์ข้อความระบุเกี่ยวกับเครื่องแบบและเครื่องแต่งกายนักเรียนประจำปีการศึกษา 2567 ดังนี้

- ห้องเรียนทั่วไป
- ห้องเรียนส่งเสริมความสามารถพิเศษวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์(Gifted)
- ห้องเรียน English Program (EP)

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะชุดนักเรียนห้อง EP ที่กลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเหตุใดโรงเรียนถึงมีชุดสำหรับห้องเรียน EP ขึ้นมาแบบนี้ จะเป็นการสร้างภาระให้ผู้ปกครองหรือไม่ เพราะต้องเสียเงินซื้อชุดนักเรียนเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ยังตั้งคำถามถึงทรงผมที่โรงเรียนยังมีกฎระเบียบที่ชัดเจน ในขณะที่โรงเรียนอื่น ๆ เริ่มผ่อนคลาย ให้เสรีทรงผมกันบ้างแล้ว และหลายคนตั้งคำถามว่าการกระทำแบบนี้ เป็นการสร้างความเท่าเทียมกันหรือไม่

ซึ่งข้อความของชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น มีดังนี้...

- มีห้องเรียน EP คือทางเลือกที่ดี แต่ความเหลื่อมล้ำก็ยังมีอยู่ ชุดควรเป็นไปในทางเดียวกันนะคะ เปลี่ยนแค่ตัวอักษรชื่อที่ปัก ก็เพียงพอแล้ว และเน้นหลักสูตรสื่อการเรียนการสอนที่น่าสนใจแทน ความแตกต่างที่ชุดมันดูแบ่งแยก ทั้ง ๆ ที่มีการรณรงค์เรื่องนี้กันหนักมาก ต้องการสร้างความแตกต่างพอเข้าใจ แต่แบบที่ทำอยู่มันทำให้เกิดการเปรียบเทียบเอาเสียมากกว่านะคะ อยากฝากให้คณะคุณครูพิจารณาอีกครั้ง จากใจศิษย์เก่า ที่อยากให้ รร.ดูดีขึ้นนะคะ

-  เสรีทรงผมได้แล้วครับ กระทรวงเขาบอกเสรีทรงผมนานแล้ว 5555
- หนึ่งเดียวไปไหน? การตั้งห้องเรียนพิเศษนี้ที่การแต่งกายมีความไม่เสมอภาคกันรวมถึงค่าเทอมก็น่าจะเหลื่อมล้ำกัน อยากทราบว่าได้รับตัวอย่างหรืออิทธิพลจากกระทรวงหรือสถานศึกษาใดหรือครับ (อยากให้ทางโรงเรียนมองและให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ ไม่ใช่ตอบกลับแต่กลุ่มคนที่สนใจในโปรแกรมนั้น จากศิษย์เก่า บ.ส.ที่อยากฟังเหตุผลของทางโรงเรียนครับ)

- ความเท่าเทียมจะเกิดกี่โมง ถ้าชุดนักเรียนยังแบ่งแยกอยู่แบบนี้
- ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกแบบนี้เลยค่ะ จากใจศิษย์เก่าค่ะ
- ชุดเด็ก EP น่ารักดี ไม่เถียง แต่ความเท่าเทียมจะเกิดกี่โมง ถ้าชุดนักเรียนยังแบ่งแยกอยู่แบบนี้
- โอ้ว มีห้องเรียน EP แล้ว ชุดก็เปลี่ยน

‘จีน’ เตือน!! ‘สหภาพยุโรป’ ไม่ควรเลือกปฏิบัติกับ บ.ต่างชาติ หลังผู้ประกอบการจีนในยุโรป โดนบุกรุกสำนักงาน-ยึดอุปกรณ์

(25 เม.ย.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ของจีนกระตุ้นเตือนสหภาพยุโรป (EU) สร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้าง ยุติธรรม เที่ยงตรง และไม่เลือกปฏิบัติ สำหรับบริษัทต่างชาติในยุโรป

โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เรียกร้องฝ่ายยุโรปหยุดและแก้ไขการกระทำที่ไม่ถูกต้อง หลังจากฝ่ายยุโรปบุกรุกเข้าสำนักงานของกลุ่มผู้ประกอบการจีนในยุโรปและยึดอุปกรณ์เมื่อวันอังคาร (23 เม.ย.) ที่ผ่านมา

ซึ่งจีนเป็นกังวลและคัดค้านการดำเนินการของสหภาพยุโรปอย่างจริงจัง เนื่องจากละเมิดขั้นตอนอันชอบธรรมตามกฎหมาย ขัดขวางการแข่งขันตามปกติ บั่นทอนความเชื่อมั่นของบริษัทต่างชาติทั้งหมดที่ดำเนินงานในยุโรปอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ จีนจะเฝ้าติดตามการดำเนินการของฝ่ายยุโรปในอนาคตอย่างใกล้ชิด และดำเนินทุกมาตรการอันจำเป็นต่อการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของบริษัทจีน

(สุรินทร์) รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. ติดตามการปฎิบัติงาน พื้นที่ กอ.รมน.สุรินทร์

วันที่ 25 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น. ที่ ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ ชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดสุรินทร์ พันเอก จิตรกร จันทร์สว่าง รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์(ท.) ให้การต้อนรับ พลตรี ถนอม  สบายพร รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และคณะฯ ที่มาติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านพลังงาน ด้านอาหาร และ การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำปีงบประมาณ 2567 ของหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ มี พันตำรวจเอก อิทธิพล พงษ์ธร ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ร่วมให้การต้อนรับ ในการนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้จัดเตรียมข้อมูลผลการปฏิบัติงานในห้วง ปี 2566 - 2567 จำนวน 14 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ ศูนย์ป่าไม้สุรินทร์ ธนารักษ์พื้นที่สุรินทร์ ที่ดินจังหวัดสุรินทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุรินทร์ ท้องถิ่นจังหวัดสุรินทร์ อุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ เกษตรจังหวัดสุรินทร์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์  พลังงานจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ สถิติจังหวัดสุรินทร์ และโครงการชลประทานสุรินทร์ เพื่อนำเสนอในที่ประชุม และร่วมตรวจพื้นที่กับคณะฯติดตามประเมินผลการปฏิบัติงาน ณ พื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสวาย ตำบลนาบัว อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พลตรี ถนอม  สบายพร รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและคณะฯ ได้เน้นย้ำในเรื่องความมั่นคง ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และชื่นชม คณะทำงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ ที่บูรณาการร่วมกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปุรุศักดิ์  แสนกล้า ข่าว/ภาพ

‘ก.แรงงาน’ แย้ม!! จ่อขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 ทุกประเภทธุรกิจ คาด!! 1 ต.ค.67 สามารถประกาศภาพรวมทั้งประเทศได้

(25 เม.ย. 67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันถึงการประกาศบิ๊กเซอร์ไพรส์ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ว่า…

จากการประชุมของคณะกรรมการไตรภาคี เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการไตรภาคี ได้หารือกับคณะกรรมการว่า ในปีนี้จะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจากการหารือมีนโยบายทําตามนโยบายของรัฐบาล คือจะมีการขึ้นค่าแรงที่ 400 บาท โดยในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง และคาดว่าจะประกาศในวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งตนเองไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงคณะกรรมการไตรภาคี เพราะเป็นคณะกรรมการที่เป็นอิสระในการพิจารณา

“ถามว่าเราประกาศเลยได้ไหมในวันที่ 1 พฤษภาคม เราสามารถประกาศให้รับรู้ได้ว่า เราจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป หลังจากนำร่องไปแล้ว ตรงนี้ถือเป็นนโยบายรัฐบาลที่ต้องทําตาม จากการหารือไม่น่าจะมีอะไรที่ขัดข้อง เพราะว่าส่วนหนึ่งในเรื่องค่าใช้จ่าย หรือสิ่งของที่เป็นอุปโภค บริโภค ก็มีการขึ้นไปล่วงหน้าแล้ว หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะมีการประกาศค่าแรงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เรามีการนําร่องในวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา วันที่ 1 ตุลาคม เราสามารถประกาศได้ในภาพรวมทั้งประเทศ 400 บาทในทุกประเภทธุรกิจ” นายพิพัฒน์ กล่าว

‘นก สินจัย’ เคลียร์ดรามา คอมเมนต์ด้านลบ ‘ดวงใจเทวพรหม’ เหตุแก่เกินบท ‘เพียงขวัญ’ รุ่นพ่อแม่ รับ!! บั่นทอนแต่ต้องเข้มแข็ง

(25 เม.ย.67) ว่างงานไปนานถึง 4 ปี แต่บทจะมีก็มีผลงานติด ๆ กัน โดยในปีนี้ 2567 ‘นก สินจัย เปล่งพานิช’ ที่มาร่วมบวงสรวงภาพยนตร์ นาคบรรพ์ ที่เมเจอร์รัชโยธิน ก็เผยว่ามีทั้งภาพยนตร์ ละครถึง 3 เรื่องด้วยกัน ซึ่งตนก็แฮปปี้มาก ก่อนขอเคลียร์ดรามา ถูกวิจารณ์แหลก ไม่เหมาะกับบท ‘เพียงขวัญ’ รุ่นพ่อแม่ในซีรีส์ดวงใจเทวพรหม เพราะอายุมากเกินที่จะเป็นสะใภ้คนเล็ก

“ว่างไป 4 ปีนะคะ ไม่มีงานเลย ก็มีปีนี้ที่มีทั้งละคร และก็หนัง เป็นงานที่มาปีนี้หมดเลย และเปิดกล้องปีนี้ทั้งหมดก็มีละคร 2 เรื่อง มีภาพยนตร์ 1 เรื่อง

สำหรับวิธีการเลือกรับงาน เราก็ดูบทว่าเราเหมาะสมไหม ช่วงเวลาของการทำงานเป็นยังไง ส่วนใหญ่ก็เป็นทีมที่เรารู้จัก อย่างละครก็เป็นของช่อง ONE พี่ปุ๊ย เป็นผู้จัด พี่เหมียว เป็นผู้กำกับ เราแฮปปี้มากกับการที่เราได้กลับมาเล่นละครกับช่อง ONE อย่างหนังเรื่องนี้ก็คุ้นเคยกัน แล้วก็เป็นทีมงานของหม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) ทั้งหมดเลยค่ะ ตั้มก็เป็นผู้ช่วยของพี่น้อยมาเกือบ 20 ปี ยังบอกตั้มเลยว่า ต้องลุกขึ้นมากำกับได้แล้ว พอเขาติดต่อมา ก็ดีใจที่เขานึกถึงเรา”

>> ไม่บล็อกคนด่า ไม่อยากเก็บดรามาเป็นอารมณ์

“เป็นธรรมดา นกว่าป้าแจ๋ว (ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์) เข้าไปตอบใน x (ทวิตเตอร์) อยู่ตลอดเวลา อัปเดตเรื่องราวของละครอยู่ตลอดเวลา นกว่ามันขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคนมากกว่า ว่าแบบไหน เหมาะไม่เหมาะ เชื่อว่าทุกคนอยากทำงานออกมาให้ดีที่สุด ก็เข้าไปเช็กฟีดแบ็กบ้าง อ่านที่ดีๆ ค่ะ อันที่ไม่ดี อันที่ไม่มีเหตุผลเลย เราก็จะข้ามไป ไม่อยากเอามาเป็นทุกข์ แต่ก็ไม่บล็อกนะ เราเลี่ยงอ่านอยู่แล้ว แต่ก็จะอ่านบ้างที่มันมีผลต่อการทำงาน คอมเมนต์นี้มันมีส่วนในการสร้างสรรค์งานเราก็จะอ่าน เอากลับมาปรับปรุง

บางอันที่เรารู้ว่าเข้ามาเพื่อจุดประสงค์อะไร ไม่ได้สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับคนทำงาน เราก็จะข้าม ๆ ไป ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอ่าน จะมีคนมาบอก หรือแคปส่งมาให้มากกว่า เราก็คงต้องเลือกเอาค่ะ

ป้าแจ๋วก็คอยอัปเดตตลอด แกก็จะคอยเข้าไปอัปเดตใน x ป้าแจ๋วทันสมัยมาก เขาจะคอยอัปเดตว่า ขวัญฤทัย ในแต่ละวีกมีอะไรบ้าง เผื่อใครมีคำถาม ซึ่งมันดี ทำให้เราใกล้ชิดกับผู้ชมมากขึ้น หรือว่าผู้ชมมีปัญหา หรือคำถามเรื่องต่าง ๆ ป้าแจ๋วก็จะเข้าไปตอบให้ มันเป็นละครที่ทุกคนจับตา ป้าแจ๋วก็คอยจัดการให้หมด มีทั้งขอบคุณ ตอบกลับ กัดเล็ก ๆ ซึ่งป้าแจ๋วทำได้คนเดียว ส่วนเราก็รอฟังค่ะ ป้าแจ๋วจัดการไปเลย”

>> รับบั่นทอนนิดหน่อย แต่เข้าใจ ไม่มีอะไรเพอร์เฟกต์ วิจารณ์มีเหตุผล ตนก็ยอมรับ

“มีผลอยู่แล้วนิด ๆ หน่อย ๆ สุดท้ายแล้วมันก็ต้องเข้มแข็ง มันไม่มีทางที่ทุกอย่างจะเพอร์เฟกต์หรือว่าถูกใจทุกคน นกเข้าใจ แต่ว่าอันไหนมีเหตุมีผลเราก็ยอมรับ แต่อันไหนที่แบบจะด่าเพื่อ เราก็ข้าม ๆ ไป เรารู้ว่าทุกคนอ่อนไหว คนทำงานกว่าจะทำละครมาเรื่องหนึ่งมันไม่ได้ทำง่าย ๆ เขาต้องคิดถึงเหตุผลว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ถึงได้เลือกนักแสดงคนนี้ ดังนั้นต้องเลือกที่จะฟัง และเลือกที่จะบอกเราด้วยค่ะ”

‘สาว’ อึ้ง!! เจอบิลค่าไฟพุ่ง 77 ล้านบาท คาด!! เจ้าหน้าที่กรอกตัวเลขผิด

(25 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจ ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว’ โพสต์ข้อความระบุว่า สาวช็อก! ใบแจ้งหนี้ค่าไฟประจำเดือน เมษายน ทะลุ 77 ล้านบาท คาดเจ้าหน้าที่กรอกตัวเลขผิด

ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า…“ใช้ไฟทั้งจังหวัดเลยมั้ง หัวจะปวด“

โดยพบว่า อัตราค่าไฟของเธอนั้นแปลกมาตั้งแต่เดือน มีนาคม (03) แล้ว โดยจะเห็นว่า ค่าไฟเดือนกุมภาพันธ์ เธอเสียประมาณ 2,503 บาท แต่เมื่อเดือนมีนาคม เธอเสียค่าไฟมากกว่า 11,524 บาท เพิ่มกว่า 8,000 บาท

และค่าไฟเดือนเมษายนกลับพุ่งถึง 77 ล้านบาท

หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ไปมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น

- “ค่าไฟทั้งประเทศหรือค่ะ”
- “หนาวแบบเฉียบพลันเลยถ้าเจอแบบนี้ไป”
- “เปิดแอร์เป็นแม่คะนิ้ง กะเล่นเป็นดรีมเวิร์ลป่ะเนี่ย 555”
- “5555555 ได้ใช้ไฟแทนทุกคนในประเทศแล้ว”
- “นี่จดผิดแล้วรู้ว่าผิดเพราะมันเยอะเกิน แต่ถ้าจดผิดแค่จำเงินเงินหลัก 100 หลัก 1000 เราจะรู้ได้อย่างไร”
- “ทั้งจังหวัด”
- “มันมีข้อหาทำให้ตกใจ ทำให้เสียเวลา เสียสุขภาพจิตใจมั้ยครับ? ทำงานชุ่ย ๆ ก็ต้องรับผิดชอบนะ”
- “บ้านน่าจะติดกะดวงอาทิตย์เลยเปิดแอร์ 1 พันตัว555”
- “ที่บ้านฉันขึ้นมาครึ่งต่อครึ่งเลย”

‘สิงคโปร์’ ทำพิธีปล่อย ‘เรือดำน้ำ’ ลำที่ 4 สุดทันสมัย พร้อมปฏิบัติการในพื้นที่น้ำตื้นของทะเลเขตร้อน

(25 เม.ย.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘Thaifighterclub’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ เรือดำน้ำ Type 218SG ลำล่าสุดของ ทร.สิงคโปร์ โดยระบุว่า…

“พิธีปล่อยเรือดำน้ำลำล่าสุดของ ทร.สิงคโปร์ ซึ่งเป็นลำสุดท้ายจากจำนวนทั้งหมด 4 ลำของเรือดำน้ำชั้น Invincible ที่ทางสิงคโปร์สั่งต่อจากเยอรมนี

ป.ล.มองประเทศเขาแล้วก็ถอนหายใจ เฮ้อเบา ๆ”

โดยมีชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิ

- ประเทศเรากำลังเป็นกองทัพเรือประมงครับ
- ที่ 1 ในใจเลยของเยอรมนี ตั้งแต่เป็นช่างซ่อมเครื่องจักรมาเกือบ 20 ปี ทุก ๆ อย่าง ของค่ายนี้สุด ๆ ทุก ๆ ด้านจริง ๆ
- ผู้นำเขายอดเยี่ยมจริง ๆ
- แสดงว่าเรือดำน้ำสำคัญ ที่ทุกประเทศอยากมี

ทั้งนี้ เรือดำน้ำชั้น Invincible ลำนี้ ได้รับการปรับปรุงพิเศษด้วยความร่วมมือระหว่าง เรือดำน้ำ Inimitable ของสิงคโปร์ อีกทั้งยังได้รับการออกแบบร่วมกันโดยกองทัพเรือสาธารณรัฐสิงคโปร์, สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (DSTA) และ Thyssenkrupp Marine Systems ของเยอรมนี

ทำให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการในพื้นที่น้ำตื้น ที่มีการสัญจรทางทะเลเขตร้อนที่แออัดของสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นเรือที่มีความทันสมัยระดับต้น ๆ ของโลก และนับเป็นเรือดำน้ำลำใหญ่ที่สุดที่สร้างขึ้นในเยอรมนีอีกด้วย

บุรีรัมย์-วัดพุทธบูชา โคกปราสาทจัดพิธีพุทธาภิเษก "ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช"เข้มขลัง ยิ่งใหญ่มีสาธุชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

สาธุชนกว่า 500 คน แห่ร่วมพิธีพุทธาภิเษกศักดิ์สิทธิ์"ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช" เป็นจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567ที่ผ่านมาที่วัดพุทธบูชาป่าโคกประสาท ตำบล หนองปล่องอำเภอ ชำนิ จังหวัด บุรีรัมย์ พระครูปลัดวิชาญ ธัมมะโซโต เจ้าอาวาสวัด) จัดพิธีพุทธาภิเษก "ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช" โดยมี คุณ โกสินธ์  จินาอ่อน  คุณ จุฬาลักษณ์ สยมชัย ประธาน ดำเนินการสร้างถวาย โดยมี นายโชคไชย สว่างรัตน์ นายอำเภอชำนิ ร่วมเป็นประธานเปิดธูปเทียนแพ เบิกเนตรท้าวเวสสุวรรณจันทราพร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ผู้มีความศรัทธาในครูบาอาจารย์ นาย ธนโชติ ธนะกิจมงคลกุลเป็นเจ้าภาพนำลิเก มาเล่นถวายท้าวเวสสุวรรณจันทราพร้อมด้วยร้านสมพรการยางนำภาพยนตร์มาฉาย 2 จอในคืนเดียวกันด้วยความศรัทธาในองค์ปู่เวชสุวรรณจันทราในพิธีทางวัด ตั้งเครื่องบวงสรวงเทพเทวดาพร้อมพ่อพราหมณ์ สิทธิพันธ์ กล่อมเกลี้ยง กล่าวโองการ จากนั้นได้ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยพระเกจิ 5 รูป อธิษฐานจิต 4 ทิศ ประกอบด้วย พระครู ธวัชปรียาจารย์

พระครสังฆการปรีชา ศิษย์หลวงปู่หงษ์
พระครูภาวนาสุตตาภิรมย์ศิษย์หลวงปู่ฤทธิ์
พระครูปลัดวิชาญ ธรรมโชโต ศิษย์หลวงปู่เอี่ยม
พระครูปลัดธรรมทัต
ศิษย์หลวงปู่เหมือนประสาทพร

พระครูปลัดวิชาญ ธัมมะโซโต เจ้าอาวาสวัด(กล่าวว่า)
ประวัติตำนานท้าวเวสสุวรรณ
ตามตำนานทางพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในอดีตชาติ ท้าวเวสสุวรรณ เคยเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย ด้วยความใจบุญจึงได้นำเงินทองไปบริจาคให้ผู้ยากไร้ และด้วยกุศลผลบุญที่ ท้าวเวสสุวรรณ บำเพ็ญมานับหลายพันปี พระพรหม และ พระอิศวร จึงให้พรแก่ ท้าวเวสสุวรรณ ให้เป็นอมตะ และเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั่วปฐพี เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ดังนั้นผู้คนจึงนิยมนำรูป ท้าวเวสสุวรรณ ไว้เคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกหนึ่งประการ ตรงตามความหมายของชื่อ "ท้าวเวสสุวรรณ" คือ คำว่า "เวส" แปลว่า พ่อค้า  จึงหมายถึงพ่อค้าอันมีทรัพย์ ได้แก่ ทองคำ

นอกจากนี้อีกหนึ่งตำนานในพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในชาติหนึ่ง ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเดิมชื่อ กุเวรพราหมณ์ ได้ทำบุญกุศลมาก จนชาติต่อมา ได้เป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์ พระนามว่า พระเจ้าพิมพิสาร และทรงเป็นพระสหายกับเจ้าชายสิทธัตถะ ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จมาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร จนบรรลุเป็นโสดาบัน และได้ถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร ให้พระพุทธเจ้าได้เข้าประทับ จึงเป็นอานิสงส์ให้ได้วิมานอันสวยงาม และการที่พระเจ้าพิมพิสารถวายทานบ่อย ๆ จึงเป็นปัจจัยให้มีทิพยสมบัติมากมาย เมื่อได้เป็นเทวดาก็ทรงมีอำนาจมาก ท้าวเวสสุวรรณทั้งสององค์นี้ประทับอยู่ ณ.บัลลังก์วัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท มี2กาย2องค์หน้าเทพสีทองและกายองค์ยักษ์สีแก้วมรกต ด้วยความเชื่อที่ประสบผลสำเร็จในการอธิษฐานท้าวเวสสุวรรณจันทรากายทองเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า.พระคุณ.เชื่อว่าบุคคลใดใครก็ตามที่จะอธิษฐานเรื่องเกี่ยวกับการค้าขายมหานิยมทำมาค้าขายนายหน้าที่ดินอื่นๆติดต่อการงาน.จะสำเร็จผลสมปรารถนา กายที่ 2 สีแก้วมรกตท้าวเวสสุวรรณจันทรา(พระเดช) อธิษฐานว่าบุคคลใดใครก็ตามมีเรื่องเกี่ยวกับคดีขึ้นโรงขึ้นศาลเมื่อมาขอพรท่านแล้วจะสัมฤทธิ์ผลไปทางที่ดีเสมอไป
 

‘กทม.’ ยกระดับสร้าง ‘ทางเท้า’ มาตรฐานใหม่ 16 เส้นทาง เน้นความแข็งแรงทนทาน - ลุยนำศิลปะมาใช้กับฝาท่อ

เมื่อวานนี้ (25 เม.ย. 67) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายณัฐพล นาคพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนก่อสร้างและบูรณะ 1 สำนักงานก่อสร้างและบูรณะ สำนักการโยธา นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน นำคณะสื่อมวลชนสำรวจทางเท้าบริเวณถนนราชดำริและถนนเพลินจิต และชมการปรับปรุงฝาท่อที่ออกแบบให้มีความโดดเด่นและแสดงออกถึงอัตลักษณ์ประจำย่านราชดำริ-เพลินจิต โดยทางเท้าบริเวณนี้ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางนำร่องในการใช้มาตรฐานทางเท้าใหม่ที่จะมีความมั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น มีความเป็น Universal Design มากขึ้น และมีการปรับให้ทางเข้าออกอาคารกับทางเท้ามีความสูงที่ใกล้เคียงกัน

โดยโฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีเป้าหมายในการพัฒนาทางเท้าของกรุงเทพมหานครให้เดินได้ เดินดี และน่าเดิน โดยในระยะแรกตั้งเป้าไว้ 1,000 กิโลเมตร ผ่าน 3 วิธี คือ การทำใหม่ทั้งเส้นทาง การปรับปรุงซ่อมแซมจุดที่ชำรุดเป็นการเร่งด่วน และการปรับใช้นวัตกรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่

>> มุ่งเป้าทำทางเท้ามาตรฐานใหม่ 16 เส้นทาง

โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการทำใหม่ทั้งเส้นทางมีการดำเนินการ 2 รูปแบบ โดยในส่วนพื้นที่ชั้นในและเส้นทางที่มีผู้คนสัญจรหนาแน่นจะปูโดยใช้กระเบื้องตามมาตรทางเท้าใหม่ ซึ่งฐานรากจะต้องเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 10 เซนติเมตร ที่จะสามารถเพิ่มความแข็งแรงของทางเท้าได้ ปัจจุบันทางเท้าของ กทม. ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงทั้งเส้นทางด้วยมาตรฐานทางเท้าใหม่มี 16 เส้นทาง ยกตัวอย่างเช่น ถนนราชดำริ เพลินจิต อุดมสุข เป็นต้น และมีภายในปี 2567 นี้มีแผนจะดำเนินการตามมาตรฐานทางเท้าใหม่ในลำดับต่อไปอีก 38 เส้นทาง และ 22 เส้นทางในปี 2568

ในส่วนพื้นที่ชานเมืองบางเส้นทางซึ่งการสัญจรไม่หนาแน่นจะใช้วิธีปูด้วยแอสฟัลต์ ขณะนี้ได้ดำเนินการเส้นทางนำร่องแล้วที่ถนนพุทธบูชา (เขตทุ่งครุ) และทั้งสองฝั่งของถนนคุ้มเกล้า (เขตลาดกระบัง) และกำลังขยายไปยังถนนทางรถไฟสายเก่า (ปากน้ำ) ถนนพุทธมณฑลสาย 1 และถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ด้วย

โดยการปรับปรุงแต่ละเส้นทางก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างออกไป เช่น ถนนเพลินจิตและราชดำริ มีการนำศิลปะมาใช้กับฝาท่อ ผ่านการออกแบบให้มีความโดดเด่นและแสดงออกถึงอัตลักษณ์ประจำย่านราชดำริ-เพลินจิต ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง รวมทั้งจะพัฒนาในเส้นทางอื่น ๆ ให้กลายเป็น 1 ในสัญลักษณ์ของเมืองเหมือนกับญี่ปุ่นที่มีการดึงเอาฝาท่อกับสัญลักษณ์ประจำเมืองมาผสมผสานกัน

นอกจากนี้ ยังปรับรางระบายน้ำตลอดแนวถนน จากรูปแบบเดิมที่เป็นช่องระบายน้ำติดกับฟุตบาท มาเป็นรางระบายน้ำตลอดแนวถนน เพื่อช่วยระบายน้ำท่วมขังบนถนนได้เร็วขึ้น

โฆษกกรุงเทพมหานคร ยังกล่าวอีกว่า กทม.จะยึด 5 แนวทางในการพัฒนาปรับปรุงทางเท้า คือ 1.แก้ไขตามประเด็นเรื่องร้องใน Traffy Fondue 2.พัฒนาปรับปรุงตามแนว BKK Trail 500 กม. 3.ภายในรัศมี 500 เมตรรอบสถานีรถไฟฟ้า ทางเท้าต้องดี 4.ปรับปรุงในเส้นทางที่มีคนสัญจรหนาแน่น ตามข้อมูล Heatmap ที่เก็บได้นอกเหนือจากรัศมีรถไฟฟ้า 5.คืนสภาพจากหน่วยงานสาธารณูปโภค โดยติดตามเร่งรัดการจัดการสาธารณูปโภคที่ทำให้เกิดผลกับพื้นผิวจราจรและทางเท้า อาทิ ประปา ไฟฟ้า การนำสายไฟลงดิน

>> มาตรฐานใหม่ 10 ข้อ เริ่มนำร่องกับ 16 เส้นทางในกรุงเทพฯ

นายณัฐพล นาคพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนก่อสร้างและบูรณะ 1 กล่าวถึงมาตรฐานใหม่ของทางเท้ากรุงเทพฯ 10 ข้อ คือ

1. ลดระดับความสูงคันหินทางเท้า เป็นแบบรางตื้นสูง 10 เซนติเมตร
2. ลดระดับความสูงคันหินทางเท้าบริเวณทางเข้าออกอาคารหรือซอยต่าง ๆ ให้สูง 10 เซนติเมตร จากเดิม 18.50 เซนติเมตร
3. เปลี่ยนพื้นทางเท้าเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ด้วยคอนกรีตหนา 10 เซนติเมตร และเสริมเหล็ก 6 มิลลิเมตร
4. ปรับทางเข้า-ออกอาคารให้มีระดับเสมอกับทางเท้า เพื่อให้ผู้ใช้ทางเท้าทุกคนสามารถผ่านได้อย่างต่อเนื่อง สะดวกสบาย
5. ปรับทุกทางเชื่อมและทางลาดให้มีความลาดเอียง 1:12 ตามมาตรฐานสากล
6. เพิ่มรูปแบบทางเลือกวัสดุปูทางเท้า เป็นแอสฟัลต์คอนกรีตพิมพ์ลาย
7. เปลี่ยนช่องรับน้ำจากแนวตั้งให้เป็นแนวนอน เพื่อเพิ่มอัตราการไหลของน้ำ
8. วางแนวทางการจัดตำแหน่งระบบสาธารณูปโภคบนทางเท้า เพื่อไม่ให้กีดขวางผู้ใช้ทางเท้า
9. วางอิฐนำทาง (Braille Block) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการทางสายตา
10. ปรับปรุงแบบคอกต้นไม้ด้วยวัสดุพอรัสแอสฟัลต์ เพื่อขยายพื้นที่ทางเท้าให้กว้างขึ้น

>> ทางเท้าชำรุด เน้นรู้ไว ซ่อมเร็ว สภาพดี เพื่อความปลอดภัย

นายณัฐพล กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการปรับปรุงและซ่อมแซมทางเท้าที่ชำรุด กทม. โดยสำนักการโยธาและสำนักงานเขตที่รับผิดชอบแต่ละพื้นที่จะใช้หน่วยเคลื่อนที่เร็ว (BEST) ออกดำเนินการซ่อมแซมให้เร็วที่สุด และให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย หากจุดไหนสามารถทำเป็นทางเท้ามาตรฐานใหม่ได้จะมีการปรับปรุงด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาในการแจ้งผ่าน Traffy Fondue เมื่อพบเห็นจุดที่ชำรุดหรือเสี่ยงต่ออันตราย ทำให้เขตรับทราบปัญหาอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการลงพื้นที่สำรวจด้วยตนเอง

สำหรับเส้นทางที่ไม่เหมาะสมในการทำทางเท้าขึ้นมา หรือ เช่น ในตรอกซอกซอย หรือในพื้นที่ที่มีทางเท้าแคบ ได้มีการรื้อย้ายสิ่งกีดขวางทางเท้า และใช้หลากหลายวิธีให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ เช่น การขีดสีตีเส้นช่วยแบ่งแนวให้คนเดินเท้า การนำพอรัสแอสฟัลต์ซึ่งน้ำซึมทะลุได้มาล้อมคอกต้นไม้เพื่อเพิ่มความกว้างของทางเท้าให้มากยิ่งขึ้น เป็นต้น

ทั้งนี้ สำหรับการดูแลทางเท้าใหม่ นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด เจ้าหน้าที่เทศกิจกวดขันหาบเร่แผงลอย และตรวจจับรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่บนทางเท้า เพื่อรักษาทางเท้าให้มีสภาพสมบูรณ์มากที่สุด 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top