Tuesday, 7 May 2024
TheStatesTimes

1 พ.ค.นี้ ปชช. อีก 33 จังหวัดเตรียมพร้อม นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เดินเครื่อง เฟส 3 ครอบคลุม 45 จังหวัด หมอชลน่านยันสิ้นปีขยายได้ทั้งประเทศ

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามเร่งรัดว่า ขณะนี้การดำเนินการจะเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือเฟส 3 ในวันที่ 1พฤษภาคมที่จะถึงนี้ การให้บริการจะครอบคลุมทุกเฟสจำนวน 45 จังหวัด โดยเพิ่มจาก 12 จังหวัดเพิ่มอีก 33 จังหวัด ครอบคลุมอีก 16 เขตสุขภาพ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท อุทัยธานี สระบุรี นนทบุรี ลพบุรี อ่างทอง นครนายก  พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย  บึงกาฬ ชัยภูมิ  บุรีรัมย์ สุรินทร์ สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า กระทรวงสธ.มีความมั่นใจว่า การขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสินในเฟส 3 จะสามารถยกระดับการบริการ อำนวยความสะดวกประชาชน ไม่ต้องรอคิว รอรับยา ตรวจเสร็จรับยาที่บ้าน Health Rider เหมือนที่เริ่มมาแล้วในเฟส 1 เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 นำร่อง 4 จังหวัด ต่อมาเฟส 2 นำร่องอีก 8 จังหวัด เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้ง 2 เฟส ประชาชนพอใจการได้รับบริการเกือบ 100 % การให้บริการได้เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสธ.ครบทุกแห่งและทุกกองทุนสุขภาพ ปัจจุบันมีหน่วยบริการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสธ. 893 แห่ง จาก 902 แห่งทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 99.7 ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการพัฒนาโครงสร้างเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ มีการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นและไลน์หมอพร้อมทั่วประเทศแล้่วกว่า 40 ล้านคน มีการนัดหมายและดำเนินการบริการระบบการแพทย์ทางไกล 55,446 ครั้ง ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล 81,317ใบ มีการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์โดย Health Rider 55,376 ออร์เดอร์ ซึ่งกว่าร้อยละ 90 ของผู้รับบริการมีความพึงพอใจดีมาก เนื่องจากได้รับบริการที่รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ส่งยาพูดจาสุภาพ ความสมบูรณ์ของพัสดุ ลดระยะเวลาการรอคอย ช่วยลดความแออัดในการรอรับยาที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก ในระยะเฟส 4 จะขยายครอบคลุมทั้งประเทศภายในปี 2567 อย่างแน่นอน

โฆษกกระทรวง สธ.ฝ่ายการเมืองกล่าวทิ้งท้ายว่า จากการสรุปข้อมูลล่าสุดวันที่ 24 เมษายน 2567 พบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ รับ - ส่งยา ( Health Rider) ดังนี้ จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ 39 จังหวัด หน่วยบริการที่เข้าร่วม 301 แห่ง 3. อสม.และบุคลากรสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการฯแล้ว 5,258 คน วิ่งจัดส่งยาแล้วทั้งประเทศ 85,217 ออร์เดอร์ และมีรายได้ของ Health Rider เป็นความภาคภูมิใจของบุคลากรของกระทรวงสธ. และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันเต็มที่และดียิ่งเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล

‘บิ๊กป้อม’ ประกาศ ‘พลังประชารัฐ’ เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย อุดมการณ์แน่วแน่ ‘ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส’

(26 เม.ย. 67) พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2567 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตัวแทนภาค และตัวแทนสาขา และสมาชิกพรรค เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพปชร., ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา, นายสกลธี ภัททิยกุล, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์, นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดการประชุมว่า สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐทุกท่าน วันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญของพรรคพลังประชารัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 43 กำหนดให้พรรคการเมืองต้องจัดทำรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมา เพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองเพื่ออนุมัติภายในเดือนเมษายนของทุกปี ขณะนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้แทนสาขา พรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมือง ประจำจังหวัด สมาชิกพรรค จำนวนทั้งหมด เกินกว่า 250 คนครบองค์ประชุม ตามที่กฎหมายกำหนด

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ช่วงเวลา 1 ปี ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามอุดมการณ์และเจตจำนงของพรรคทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีสวัสดิการที่ดี มีรายได้ มีความสุข ทุกครอบครัว และเพื่อเร่ง พัฒนาประเทศ ให้เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้พรรคฯ เป็นที่ศรัทธาของพี่น้องประชาชนเพิ่มมากขึ้น พรรคจึงได้เตรียมปรับตัวเองให้สอดรับกับสถานการณ์ และเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับ ของพี่น้องประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มอาชีพ ให้มากยิ่งขึ้น

”วันนี้พรรคพลังประชารัฐจึงขอประกาศตัวเองว่า เราขอเป็นพรรค ‘อนุรักษ์นิยมทันสมัย’ ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ ในการปกป้องสถาบันและบริหารเศรษฐกิจ ที่ทันสมัยเพื่อสร้างชีวิตที่สดใส ให้กับคนไทย ทั้งประเทศ 66 ล้านคน ด้วยสโลแกนใหม่ ที่เห็นอยู่บนเวทีนี้ คือ ‘ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส’ โดยเมื่อถึงเวลา ที่เหมาะสมซึ่งอีกไม่นานนัก พรรคจะได้ประกาศรายละเอียดทั้งหมดอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง”

สำหรับการประชุมดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดให้พรรคการเมืองมีการจัดประชุมเพื่อรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีและงบการเงินของพรรคการเมือง ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณาในหลายประเด็น โดยเฉพาะการแก้ไขข้อบังคับเรื่องระเบียบการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขับเคลื่อนพรรคให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันตามแนวทาง ‘อนุรักษ์นิยมทันสมัย’

จากนั้น นายไพบูลย์ ได้แถลงผลการประชุม ซึ่งในการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีวาระการพิจารณาที่สำคัญ เรื่องการแก้ไขข้อบังคับพรรคให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย แก้ไขข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2566 มีการแก้ไข 9 ข้อ และจากการพิจารณาตรวจสอบงบการเงินประจำปี 2566  ผลการดำเนินงานได้ดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานการดำเนินงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ซึ่งพรรคพปชร. มีรายได้ทั้งสิ้น 321.875 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 328 ล้านบาท ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 60,970 ราย

ERDI-CMU ร่วมกับ บมจ. เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า เดินหน้าต่อเนื่อง นำเสนอโครงการ Platform บริหารจัดการพลังงานสะอาด

หม้อแปลง Low Carbon, Solar, Energy Storage, EV แก้ปัญหา Net Zero, Near Zero, Peak Demand, Demand Response" ต่อคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการส่งเสริมและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร  

“รศ.ดร. สิริชัย และ ผศ.ดร.พฤกษ์” รับรองผลการประหยัด Platform บริหารจัดการ พลังงานสะอาด ประหยัดจริง 9%

รศ.ดร. สิริชัย คุณภาพดีเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์, ผศ.ดร.พฤกษ์ อักกะรังสี และดร. ณัฐวุฒิ จารุวสุพันธุ์ และบริษัท เจริญชัย หม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด นำเสนอโครงการ "Platform บริหารจัดการพลังงานสะอาด หม้อแปลง Low Carbon, Solar, Energy Storage, EV แก้ปัญหา Net Zero, Near Zero, Peak Demand, Demand Response" ต่อ นายซูชัย มุ่งเจริญพร ประธานคณะอนุกรรมาธิการ และ คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการส่งเสริมและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร ณ ประชุมกรรมาธิการ N 408 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา ในวันพุธที่ 24 เมษายน 25567

ด้วยสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับบริษัท เจริญชัย          หม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด ได้ร่วมวิจัยและได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ให้ดำเนินงานวิจัยหม้อแปลง IoT และระบบบริหารจัดการพลังงานทดแทน Solar กับ Energy Storage ด้วยโปรแกรม Sustainable Green Energy Management System ภายใต้โครงการ “Low Carbon Transformer ระบบจัดการหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อรองรับพลังงานสะอาดอย่างมั่นคง Net Zero, Near Zero, Peak Demand และ Demand Response” ซึ่งจากการดำเนินงานพบว่าหม้อแปลงที่ใช้ในการดำเนินโครงการที่กล่าวในข้างต้น ตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน ในภาคอุตสาหกรรม Smart Factory, Smart Building ในด้าน Net Zero & Near Zero, Peak Demand, Demand Response การประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน โดยสามารถลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และมีระยะเวลาคืนทุนภายในเวลา  2 – 5  ปี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สังคม ประชาชนและผู้ประกอบการ ด้านความมั่นคงระบบไฟฟ้าพลังงานสะอาด

หม้อแปลง Low Carbon เป็นหม้อแปลงบริหารระบบจัดการพลังงานที่บริหารจัดการการสิ้นเปลืองให้เกิดประสิทธิภาพและมีความเสถียรภาพกับการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและยั่งยืน ทำให้โรงงานอุตสาหกรรม, อาคาร สถานประกอบการ ลดค่าไฟฟ้า 5-20% (Energy Saving) ลดคาร์บอน 5-20% (Low Carbon) มากกว่า 100 ล้านตัน ลดมลพิษ (Low Emission) ทำให้อุปกรณ์อายุการใช้งานยาวนานขึ้น (Long Life Equipment) เพื่อเป็นการตอบโจทย์ให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม สถานประกอบการ เจ้าของอาคาร ตามนโยบายของรัฐบาลในการลดก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อน และลดอุณหภูมิโลก

‘พระองค์เจ้าขุนเณร’ ผู้นำหน่วยทะลวงฟันแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ | THE STATES TIMES Story EP.146

เรื่องราวของ ‘พระองค์เจ้าขุนเณร’ มีการจดบันทึกไว้ไม่มากนัก แต่ที่มีให้ได้อ่าน ได้เห็นก็ระบุไว้ว่า เป็นพระโอรสของ ‘พระเจ้าขุนรามณรงค์’ แต่มีชาติกำเนิดเป็นสามัญชน เนื่องจากเกิดจากอนุภรรยา นับว่าเป็นเจ้านายนอกราชวงศ์จักรี แต่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นเจ้านายในพระราชวงศ์จักรีในชั้นพระองค์เจ้า เนื่องจากทรงพระเมตตาและทรงเล็งเห็นว่าเจ้านายพระองค์นี้จะเป็นกำลังสำคัญต่อกองทัพของกรุงรัตนโกสินทร์

‘ไทย’ ครองอันดับ 1 ประเทศน่าไปเยือนที่สุดในโลกปี 2024 ชนะขาดด้วยคะแนน 72.15 จากผลสำรวจของ CEOWORLD

(26 เม.ย. 67) ถือเป็นเรื่องราวน่ายินดีสำหรับคนไทย เมื่อเว็บไซต์นิตยสารชื่อดังอย่าง CEOWORLD Magazine จัดอันดับประเทศในโลกที่ควรเยี่ยมชมที่สุดในชีวิตปี 2024

นิตยสาร CEOWORLD รวบรวมรายชื่อประเทศในโลกที่ควรไปเยือนในช่วงชีวิต โดยการจัดอันดับอิงตามความคิดเห็นจากผู้อ่านมากกว่า 295,000 ราย ถือเป็นระดับการมีส่วนร่วมสูงสุดในประวัติศาสตร์ของนิตยสาร

ปรากฎว่าประเทศไทยติดอันดับ 1 จาก 67 ประเทศทั่วโลก ด้วยคะแนน 72.15 ตามมาด้วย ประเทศกรีซ คะแนน 67.22, ประเทศอินโดนีเซีย คะแนน 65.15, โปรตุเกส คะแนน 64.32, ศรีลังกา คะแนน 60.53

ทั้งนี้ เว็บนิตยสารดังกล่าวระบุไว้ว่า ประเทศไทยประกอบด้วยความหลากหลาย เช่น สถานบันเทิงยามค่ำคืน, อาหารอร่อย, ศิลปะและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา, แหล่งช็อปปิ้งที่ดีเยี่ยม, แม่น้ำลำคลองที่คดเคี้ยวอย่างสวยงาม, วัดวาอาราม, ตลาดกลางคืน

หากมองหาความสงบในช่วงวันหยุดควรไปเกาะบางกระเจ้า ที่ตั้งอยู่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งห่างจากความวุ่นวายของเมืองที่มีวัด ตลาดน้ำ สวนสาธารณะสุดพิเศษ รวมถึงบ้านที่มีเรื่องราว

เรียนสาขาไหนดี? จบมา มีงานทำ แถม ‘รายได้สูง’

(26 เม.ย. 67) ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก ‘Sompob Pordi’ โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ ‘เรียนอะไรได้ตังค์เยอะสุด?’ โดยระบุว่า…

โพสต์ที่แชร์มาเป็นของฝรั่ง ในบ้านเขา ปริญญาตรีที่ทำงานได้เงินมากที่สุด 3 สาขา คือ วิศวะคอมพิวเตอร์ ($80,000/ปี) วิศวะเคมี และคอมพิวเตอร์ซายเอนซ์ ($75,000 /ปี) โดยผู้ที่เรียนจบสามสาขานี้จะมีรายได้สูงกว่าผู้ที่เรียนจบสาขาสังคมสองเท่า

ใน 16 สาขาที่ทำเงินสูงสุด เกือบทั้งหมดเป็นวิศวกรรมศาสตร์ แทรกด้วย คณิตศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เภสัชศาสตร์ การเงิน วิเคราะห์ธุรกิจ

ส่วนสาขาวิชาที่รายได้ต่ำสุดก็ยังเป็นพวก liberal art หรือสายสังคม ประเภท มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ สังคมศาสตร์, เทววิทยา และ สาขาที่เกี่ยวกับการแสดง

ทั้งหมดนี้เป็นของฝรั่ง แต่ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะฝรั่ง จีน แขก ไทย ก็ไม่ต่างกันแต่อย่างใด

เพราะเหตุนี้ หากประเทศเล็ก ๆ จน ๆ อย่างเราไม่ต้องการเป็นประเทศเล็ก ๆ จน ๆ ตลอดไป ก็ควรรีบปิดคณะ/มหาวิทยาลัยสายสังคมทิ้งซัก 90% ของปัจจุบัน แล้วเอางบประมาณ ทรัพยากร มาทุ่มให้กับสายอื่นที่มีประโยชน์ ที่คุณค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า รวมทั้งสายอาชีวะด้วย

ถ้าทำตามนี้ นอกจากประเทศจะมีความสามารถ มีศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ประชากรที่ฉลาดเท่ากับควาย ที่มีค่าแรงขั้นต่ำเป็นเป้าหมายในชีวิต ที่มีความฝันจะเป็นกาฝากสังคม เกาะกินสวัสดิการ จะลดลงด้วย

30 เมษายน ของทุกปี กำหนดให้เป็น ‘วันคุ้มครองผู้บริโภคไทย’ ปกป้องผู้บริโภคจากการฉ้อฉลของผู้ประกอบการ

30 เมษายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันคุ้มครองผู้บริโภคไทย’ ประกอบกับมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองผู้บริโภคในปี พ.ศ.2522 เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจากพฤติกรรมที่ไม่ตรงไปตรงมา หรือมีการโฆษณาเชิญชวนให้ซื้อสินค้าหรือบริการไม่ถูกต้องเหมาะสม ทำให้ผู้บริโภคไม่ทราบข้อมูลทางการตลาดที่แท้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพสินค้าและราคา รวมทั้งยังระบุถึงสิทธิของผู้บริโภคที่จะได้รับความคุ้มครอง 5 ข้อ ดังนี้

1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสาร รวมทั้ง โฆษณา แสดงฉลาก คำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ไม่หลงผิดซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม
2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ โดยความสมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม
3. สิทธิที่จะใช้สินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน 
4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญาโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ
5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหายเมื่อผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิยังคงปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ การพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคในประเทศไทยมุ่งเน้นเพียงแก้ไขปัญหาส่วนบุคคลมากกว่าการแก้ไขเชิงโครงสร้างหรือเชิงระบบ อีกทั้งหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคแม้จะมีจำนวนมาก แต่ก็มีเพียงองค์กรของรัฐ ส่งผลให้ผู้บริโภคไม่มีผู้แทนโดยตรงที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้ในการสะท้อนปัญหาของตนเองแก่รัฐ ดังนั้น จะต้องยกระดับปัญหาปัจเจกขึ้นเป็นการแก้ไขเชิงโครงสร้าง เพื่อส่งเสริมให้การคุ้มครองผู้บริโภคเป็นไปอย่างยั่งยืน

ที่ผ่านมา จึงมีความพยายามจัดตั้งหน่วยงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจากภาคประชาชน ที่จะทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคต่อหน่วยงานของรัฐ ตรวจสอบ ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ปัญหาสินค้าและบริการ เตือนภัยเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่อาจกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภค

รวมถึงมีตัวแทนผู้บริโภคทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ทำหน้าที่เป็นหู เป็นตา เป็นปาก เป็นเสียงให้ผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดเผยข้อมูลสินค้า ตรวจสอบสินค้า ตรวจสอบการกระทำที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภค และสนับสนุนความเข้มแข็งขององค์กรผู้บริโภคให้สามารถแก้ปัญหาผู้บริโภคด้านต่าง ๆ ได้

ประกาศจัดตั้ง ‘สภาองค์กรของผู้บริโภค หรือ ‘สภาผู้บริโภค’ ที่เกิดจากการรวมตัวองค์กรของผู้บริโภคทั่วประเทศ เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคได้อย่างเบ็ดเสร็จ ครบ จบ ในที่เดียว (One-stop Service)

ไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่มีสภาองค์กรของผู้บริโภค ที่ทำหน้าที่ช่วยให้การคุ้มครองผู้บริโภคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยทำงาน 8 ด้านและอีก 1 คณะทำงาน ได้แก่ ด้านการเงินการธนาคาร ด้านการขนส่งและยานพาหนะ ด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย ด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ด้านบริการสุขภาพ ด้านสินค้าและบริการทั่วไป ด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม และคณะทำงานด้านการศึกษา

ผู้ที่ประสบปัญหา ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อขายสินค้าหรือบริการสามารถยื่นเรื่องต่อสภาองค์กรของผู้บริโภคได้โดยตรง เพื่อให้ช่วยไกล่เกลี่ยหรือฟ้องคดีแทนผู้บริโภค พร้อมดำเนินการอื่น ๆ จนกว่าจะสิ้นสุด 

สภาผู้บริโภคเป็นตัวแทนของผู้บริโภคทุกด้าน เพื่อคุณภาพชีวิตของทุกคน รวมทั้งเป็นตัวแทนผู้บริโภคในการให้ความคิดเห็น เสนอแนะนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคน ‘เพราะทุกคน คือ ผู้บริโภค’

‘ก.พลังงาน’ สั่ง ‘กกพ.’ บี้ ‘ปตท.’ คืนค่าชอร์ตฟอล 4,700 ลบ. เล็งดึงเงินลดค่าไฟงวดสุดท้ายปี 67 ได้ 7.8 สต./หน่วย

(26 เม.ย. 67) แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสั่งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ตรวจสอบการส่งผ่านราคาก๊าซธรรมชาติ 

กรณีผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบก๊าซฯ ได้ตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ (ชอร์ตฟอล) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพิ่มเติมจากงวดแรก 4,300 ล้านบาท มีช่วงเวลาอื่นอีกหรือไม่ว่า ล่าสุดทาง กกพ. ได้รายงานผลการตรวจสอบราคาจัดหาก๊าซธรรมชาติของปตท. ระหว่างปี 56-63 พบตัวเลขส่วนต่างราคาชอร์ตฟอลที่ปตท. ซื้อก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย แต่ยังไม่ได้สะท้อนไปเป็นส่วนลดในราคาพูลแก๊สหรือราคารวม อีก 4,700 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ปตท. ต้องส่งคืน เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน หลังจากก่อนหน้านี้คณะกรรมการ หรือบอร์ดปตท. มีมติยอมส่งคืนราคาชอร์ตฟอล ระหว่างต.ค. 63 - ธ.ค. 65 เป็นมูลค่า 4,300 ล้านบาท เพื่อนำมาลดต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. ที่ผ่านมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 เม.ย. คณะอนุกรรมการตรวจสอบการส่งผ่านราคาก๊าซธรรมชาติ กรณีผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบก๊าซได้ตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ (ชอร์ตฟอล) จะประชุมพิจารณาตัวเลขส่วนต่างราคาชอร์ตฟอลรอบสอง มูลค่า 4,700 ล้านบาท

ก่อนเสนอให้กกพ.มีมติ และแจ้งไปยังปตท.ให้ดำเนินการต่อไป หากปตท.ยอมรับตัวเลขส่วนต่างราคาชอร์ตฟอล จะสามารถนำมาลดค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปี 67 (ก.ย. - ธ.ค. 67) ได้ประมาณ 0.078 บาทต่อหน่วย หรือ 7.8 สตางค์

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 67 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน มีหนังสือถึงกกพ. สั่งให้ตรวจสอบชอร์ตฟอลเพิ่มเติมจากงวดแรก และให้ดำเนินงานการอย่างเร่งด่วน เมื่อได้ผลอย่างไรให้รายงานความคืบหน้าต่อรมว.พลังงานทุก 30 วัน

ซึ่ง กกพ.ได้ส่งหนังสือรายงานรมว.พลังงานเป็นระยะ จนพบข้อมูลตัวเลขล่าสุด โดยงวดแรกปตท.ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของกกพ. เนื่องจากมองว่า ปตท.คำนวณถูกต้องมาตลอด ตามการบริหารสัญญาซื้อขายก๊าซ 

แต่ทาง กกพ. ได้พิจารณายกอุทธรณ์ ทำให้ปตท.ต้องคืนค่าชอร์ตฟอลตามคำสั่ง ซึ่งครั้งนี้หากปตท.ไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง สามารถยื่นอุทธรณ์ และชี้แจงข้อเท็จจริงได้อีกเช่นกัน

‘นักเต้นทีมชาติไทย’ ผงาดคว้าแชมป์เต้นฮิปฮอปคู่ จากการแข่งขัน ICU Worlds 2024 ที่สหรัฐอเมริกา

(26 เม.ย.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘มนตรี มกราเจริญมงคล’ เจ้าของกิจการ, ครูสอนเต้น และ Dancer ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับนักกีฬาทีมชาติไทย หลังคว้าแชมป์ฮิปฮอปคู่ ที่ 1 ของโลก ในการแข่งขันกีฬาเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมป์โลก ที่ประเทศสหรัฐฯ โดยระบุว่า…

ได้ที่ 1 ของโลก กลับเมืองไทยแล้ว ที่สุดของความภูมิใจคือ เราไปฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย
คือมันยิ่งใหญ่มาก ๆ สำหรับตัวเราและเด็ก ๆ มันคือการแบกรับความหวังของชาติที่จะต้องทำให้ได้

วันแรกคะแนนนำอันดับ 1 แต่ต้องเต้นเป็นทีมแรก แล้วคือประมาทไม่ได้เลย ต้องมาซ้อมเปลี่ยนบางพาร์ท ตรงไหนเต้นไม่ชัดแก้ใหม่ ทำให้โชว์สมบูรณ์ที่สุด เพราะเต้นทีมแรก กลัวมาก ๆ กลัวว่าจะตกอันดับลงมา เพราะญี่ปุ่นเป็นแชมป์มาตลอด ปีที่แล้วจากที่ 3 ดันมาได้อันดับ 2 ปีนี้เลยต้องรัดกุมประมาทไม่ได้ เด็ก ๆ เครียดมาก ๆ แต่ต้องทำให้เต็มที่มากที่สุด เพราะคำว่านักกีฬาทีมชาติไทย

เราทำได้แล้ว ตอนร้องเพลงชาติคือความรู้สึกที่ออกมาเต็มที่ ถึงเสียงจะไม่ถึง แต่มันเป็นความภูมิใจที่ร้อง ให้ออกมาดังที่สุด

รักเจส โน่ มาก ๆ ที่สู้สุดใจ ไม่บ่นเลยตรงไหนที่ไม่ดีคือแก้และทำ มันทำให้เราภูมิใจ
ที่ทำเหรียญทองให้กับประเทศไทย

Hiphop นักกีฬาทีมชาติไทย
- ครูโน่ - นักกีฬาทีมชาติไทย Stefanos Koukas
- ครูเจส - นักกีฬาทีมชาติไทย เจส 'สล้อต
- ครูบอส - โค้ชทีมชาติไทย

การแข่งขันกีฬาเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมป์โลก 2024 ICU JUNIOR WORLD AND WORLD CHEERLEADING CHAMPIONSHIPS ระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2567 ที่ ESPN WIDE WORLD OF SPORTS, WALT DISNEY WORLD เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

Boss Dance Studio สถาบันสอนเต้นอันดับ 1 ภาคตะวันออก ทีมงานครูสอนเต้นดีกรีระดับโลก ‘เราสอนให้คุณเต้นเป็นไม่ใช่เต้นได้’

ชวนร่วมงาน ‘Design Perspectives x Golden Pin Salon Bangkok 2024’ แชร์ความรู้จากนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญชื่อดังชาวไทยและไต้หวัน 16 พ.ค. นี้

ขอเชิญทุกท่านร่วมรับฟังแนวคิดการออกแบบจากนักออกแบบชื่อดังชาวไต้หวันและไทย เตรียมพบกับงาน ‘Design Perspectives x Golden Pin Salon Bangkok 2024’ โดย Golden Pin Design Award ในวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 เวลา 17.00 - 21.00 น. ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 4 อาคาร AUA Language Center ราชดำริ จัดโดยสถาบันวิจัยการออกแบบไต้หวัน (Taiwan Design Research Institute) เจ้าของเวทีประกวดการออกแบบชื่อดัง Golden Pin Design Award และร่วมจัดโดย art4d 

‘Design Perspectives x Golden Pin Salon’ ก่อตั้งโดย Golden Pin Design Award ของไต้หวันในปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญชวนนักออกแบบที่ชนะการประกวด Golden Pin Design Award มาแบ่งปันแนวคิดการออกแบบและประสบการณ์จากวิชาชีพของพวกเขาให้แก่บุคคลที่มีความชื่นชอบและสนใจในการออกแบบสาขาต่าง ๆ โดยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา Salon ได้ออกทัวร์ไปแล้ว 21 เมืองทั่วเอเชีย อาทิ เซี่ยงไฮ้ มาเก๊า กัวลาลัมเปอร์ ฮ่องกง และไทเป จนถึงปัจจุบัน Salon ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบที่โด่งดังที่สุดในเอเชียมาบรรยายเพื่อแบ่งปันแนวคิดการออกแบบในงานนี้มาแล้วกว่า 100 คน

สำหรับงาน ‘Design Perspectives x Golden Pin Salon Bangkok 2024’ ที่กำลังจะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯในครั้งนี้ ได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสาขาต่าง ๆ ทั้งชาวไต้หวันและไทยที่ชนะการประกวด Golden Pin Design Award มาบรรยายและแบ่งปันแนวคิดการออกแบบภายใต้หัวข้อ ‘Unlocking Creative Potential: Values, ideas and attitudes that shape a new design territory for a better world’ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การประกวด Golden Pin Design Award ให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักออกแบบอย่างทั่วถึงในทวีปเอเชีย

โดยงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนักออกแบบทั้ง 4 ท่าน ได้แก่ 

-Chen Wei สถาปนิกผู้และผู้จัดการโครงการ จาก Metahouse Architects & Associates ประเทศไต้หวัน
-Johnason Lo ผู้ก่อตั้ง JL DESIGN สตูดิโอออกแบบที่เชี่ยวชาญในด้านการสร้างกลยุทธ์แบรนด์จากไต้หวัน
-ฉัตรพงศ์ ชื่นฤดีมล ผู้ก่อตั้ง CHAT Architects และเจ้าของรางวัลศิลปาธรสาขาสถาปัตยกรรมจากประเทศไทย 
-กฤษณ์ พุฒพิมพ์ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอออกแบบผลิตภัณฑ์ Dots Design Studio จากประเทศไทย 

ทั้งนี้งาน ‘Design Perspectives x Golden Pin Salon Bangkok 2024’ จะจัดขึ้นในวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เวลา 17.00 - 21.00 น. (เริ่มลงทะเบียนเข้างาน 17:00) ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 4 อาคาร AUA Language Center ราชดำริ กรุงเทพมหานครฯ 

จึงขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมรับฟังนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับรางวัลทั้งสาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน การออกแบบสถาปัตยกรรม และการออกแบบกราฟิก มาแบ่งปันประสบการณ์การออกแบบทั้งวิธีการคิดและการปฏิบัติ

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อสำรองที่นั่งได้ที่: https://www.eventpop.me/e/27814 

*พิเศษสำหรับผู้เข้าฟังสัมมนา* 
ผู้ที่ลงทะเบียนและเข้าร่วมฟังสัมมนาในวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่ AUA ราชดำริ สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านแบบฟอร์มลงทะเบียนหากคุณต้องการส่งผลงานของคุณร่วมประกวดในเวที The Golden Pin Design Award 2024 โดยผู้โชคดี 15 ท่านจะได้รับ Promotion code สำหรับส่งผลงานเข้าประกวดฟรี!

*หมายเหตุ: เข้าร่วมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และมีบริการหูฟังแปลภาษา

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/art4dMagazine
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Email: [email protected] 
เกี่ยวกับ Golden Pin Design Award 2024

Golden Pin Design Award กำลังเปิดรับสมัครผลงานในปีนี้ โดยผู้สนใจสามารถส่งผลในรอบการลงทะเบียนล่วงหน้า (Early Bird) ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 7 มิถุนายน 2567 และรอบปกติตั้งแต่ 7 มิถุนายน ถึง 26 มิถุนายน 2567 โดยเปิดรับผลงานจากนักออกแบบและบริษัททั่วโลก ทั้งผลงานออกแบบหรือผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์  ผลงานออกแบบเชิงพื้นที่หรือเชิงบูรณาการที่สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว 

สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Golden Pin Design Award เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับการประกวดเพิ่มเติมได้ที่: https://www.goldenpin.org.tw/en


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top