Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

"นิโรธ" ชี้ ฝ่านค้าน​ จุดเด่น แค่​ "ศิริกัญญา-ทวี" เย้ย ขู่เปิดเเผลมา 3​ ปี​ ยังไม่เห็นอะไรเลย

ที่รัฐสภา​ นายนิโรธ​ สุนทรเลขา​ ส.ส.นครสวรรค์​ พรรคพลังประชารัฐ​(พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล​ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปวันแรกว่า ไม่รู้สึกกังวลกับการอภิปรายของฝ่ายค้าน และเท่าที่มองเห็นผู้อภิปรายที่น่าสนใจมีแค่​ น.ส.ศิริกัญญา​ ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคก้าวไกล และพ.ต.อ.ทวีสอดส่อง​ ส.ส. บัญชีรายชื่อ​ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่น่าติดตาม ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะเปิดแผลรัฐบาลในครั้งนี้เพื่อไปโรยเกลือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน​ พ.ค.นั้น มองว่าเป็นแค่วาทกรรม หวังโจมตีรัฐบาล เพราะเห็นพูดว่าจะเปิดมา 3 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร จึงไม่รู้สึกกังวล ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ​ตั้งทีมกฎหมายและทีมวิชาการขึ้นมานั้น เพื่อติดตามเป็นข้อมูล และชี้แจงทักท้วงในกรณีที่มีการอภิปรายนอกประเด็น

สาวนักกิจกรรมผู้ค้นหาตัวเองจาก ‘ความผิดพลาด’ | Click on Clear THE TOPIC EP. 150

📌เผยเทคนิค ‘ค้นหาตัวเอง’! ไปกับ ‘อรปรียา งามสง่า’ ผู้ประกาศข่าว!!

📌ใน Topic : สาวนักกิจกรรมผู้ค้นหาตัวเองจาก ‘ความผิดพลาด’ !!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

"สุชาติ" เย้ย ฝ่ายค้าน ไร้กึ๋นเขียนญัตติไม่ถูก ท้า ให้อภิปรายเรื่องแรงงาน จะตอกกลับ

ที่รัฐสภา นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมส.ส.พรรคพปชร. ว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมโดยย้ำหลังปิดสมัยประชุมสภาฯ ให้ส.ส.ทุกคน ต้องลงพื้นที่ดูแลพื้นที่ตัวเอง รวมทั้งดูเรื่องผู้สูงอายุ และในเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 นอกจากนี้หัวหน้าขอบคุณนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวพรรค เรื่องสถิติที่ที่ออกมาพบว่าสถิติการโหวตของพรรคพปชร.สูงสุดในสภาฯถึง 89.1 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าพรรคการเมืองอื่น นี้คือสิ่งที่เราได้เห็น

นายสุชาติ กล่าวว่า หัวหน้าพรรค พูดถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ที่จะมีการรายงานงบการเงินของพรรค ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค ไปหารือถึงความเหมาะสมจะเป็นวันไหนเดือนไหน

นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนการประชุมสภาฯ เป็นเรื่องของการอภิปรายทั่วไป มาตรา 152 ที่จะไปกล่าวหารัฐบาลเหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา151 ไม่ได้ อาจจะแค่พูดแนะนำรัฐบาล โดยรัฐบาลจะชี้แจงว่าอันไหนทำแล้ว หรือันไหนที่ยังไม่ได้ทำ เพราะอะไร จะเป็นลักษณะของการถามคณะรัฐมนตรี (ครม.)และนายกรัฐมนตรี มากกว่า 

ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านหวังว่าการอภิปรายฯครั้งนี้ จะเป็นการเปิดแผล เพื่อนำไปสู่การอภิปรายสมัยหน้า โดยหวังให้รัฐบาลยุบสภาก่อน นายสุชาติ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเข้าใจบทบาทผิดหรือเปล่า แต่นี่เป็นการอภิปรายทั่วไป ซึ่งในญัตติที่เขียนมาอย่าง เช่น นักศึกษาจบใหม่ว่างงาน แต่กลับไปให้สัมภาษณ์ว่าส่งแรงงานไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียทำไม งานในประเทศไทยก็เยอะแยะ คนไทยยังไม่พอทำต้องเอาต่างด้าวมาทำแต่ฝ่ายค้านกับเขียนญัตติว่านักศึกษาใหม่ว่างงาน แค่เขียนญัตติยังเขียนไม่ถูกเลย ตนก็งง ฝ่ายค้านต้องตั้งสติหน่อย 

“แรมโบ้” ย้อน “ทักษิณ” ดักทางส.ส.ออกจากคอก อัด ไม่เคยสำนึกบุญคุณใคร ท้า อยากด่า “แรมโบ้” ก็ด่ามาตรงๆ  

ที่รัฐสภา นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระบุ ส.ส.ฝ่ายค้านรับการฉีดวัคซีนจากรัฐบาล 20-30 ล้าน พร้อมรับรายเดือนเดือนละ 2 แสนบาท ว่า นายทักษิณ (โทนี่) รู้ทุกเรื่องในจักรวาล แต่พูดเรื่องไหนก็ผิดเรื่องนั้น ตั้งแต่รัฐบาลไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดสในปี 64 ถ้าฉีดได้ บาทนึงเอาขี้หมากองเดียว แต่พอฉีดได้แล้วไม่เห็นเงินสักบาท ตนอายแทนนายทักษิณ เหมือนคนนั่งเทียน ด้นทุกอย่าง และการพูดดังกล่าวเหมือนดูหมิ่นดูแคลน ส.ส. ถ้าตนเป็นส.ส.เพื่อไทยจะถามกลับว่า ส.ส.ที่ไปนั่งกินกับซีกรัฐบาลคือใคร

ตนก็ไม่รู้ว่ามีอะไรยัดปากส.ส.เพื่อไทยถึงไม่ออกมาพูด และชี้แจง และอยากถามไปที่นายทักษิณ ว่า ส.ส.ที่ว่านั้นชื่ออะไรไม่ใช่มานั่งเทียน เตะตัดหน้าแข้ง นี่ถือเป็นเทคนิคของนายทักษิณ ที่กลัว ส.ส.สมุนในคอกตัวเอง ที่ด้อยค่า และเปรียบเป็นสุนัขจะออกจากคอก หรือเป็นการดักไม่ให้ฝ่ายค้านมาร่วมกับฝ่ายรัฐบาล ที่เป็นพฤติกรรมเดิมๆ เพราะเป็นผู้กำกับ กำหนด บังคับ ขู่เข็ญ เอามติเผด็จการในพรรค เพื่อไม่ให้ทุกคนขยับได้นอกจากตัวเอง นี้คือผู้นำเผด็จการตัวจริงชัดเจน ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีส.ส.ที่ไหนจะมีพฤติกรรมเหมือนที่นายทักษิณกล่าวอ้าง สิ่งที่นายทักษิณพูด ไม่เคยเชื่อว่าเป็นความจริง ดังนั้นควรปิดคลับเฮ้าท์ที่นายทักษิณพูดได้แล้ว อย่าปล่อยให้มาทำลายบ้านเมืองให้เกิดความแตกแยก 

ดราม่า ‘สตาร์บัคส์จีน’ ไล่ตำรวจกินข้าวหน้าร้าน เจอกระแสต่อต้านลามทั่วประเทศ

เพจ ลุยจีน โพสต์ข้อความปมดราม่าพนักงานสตาร์บัคส์ สาขาหนึ่งในนครฉงชิ่ง ประเทศจีน ไล่ตำรวจไม่ให้กินข้าวหน้าร้าน จนบานปลายนำไปสู่กระแสต่อต้านทั่วประเทศ โดยระบุว่า...

กลายเป็นมหกรรมทัวร์ลง Starbucks China ที่เบรกไม่อยู่แล้วววว ปีนี้เป็นปีแห่งวิบากกรรมของสตาร์บัคส์ในจีนแน่ครับ ลองอ่านและวิเคราะห์กันดู ส่วนตัวคิดว่ารอบนี้ แบรนด์อเมริกาในจีนอาจเจอหนักกว่าทุกๆ แบรนด์เพราะไปแตะ “ตำรวจจีน” ที่คนจีนเค้าจะเรียกว่า “ตำรวจของประชาชน” 民警

สรุปไทม์ไลน์เรื่องราวดังนี้

1.) วันที่ 13 ก.พ. 2022 ช่วงเย็นๆ ที่เมืองฉงชิ่ง ย่านท่องเที่ยวฉือชี่โข่ว Ciqikou 磁器口 ตำรวจ 4 นายที่ลาดตระเวนพื้นที่ไปขอใช้พื้นที่หน้าร้านสตาร์บัคส์สาขาหนึ่งตั้งโต๊ะกินข้าวกล่องมื้อเย็น สักพักพนักงานในร้านออกมาแจ้งว่าขอให้ย้ายไปกินที่อื่นโดยให้เหตุผลว่ากระทบภาพลักษณ์ของแบรนด์ 影响品牌形象 แล้วยังมีการถ่ายรูปตำรวจที่กินข้าวอยู่ (ภาพปกคอนเทนต์นี้) พร้อมแจ้งเรื่องไปยัง สน.ในพื้นที่ร้องเรียนพฤติกรรมดังกล่าว

2.) ช่วงคืนวันนั้น หนึ่งในตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์โพสต์ข้อความลงเวยป๋อตัวเองเล่าเหตุการณ์ในข้อ 1 พร้อมเขียนตัดพ้อว่า “ก็ไม่รู้ว่าต้องคนระดับไหนเหรอครับถึงจะคู่ควรกับแบรนด์สตาร์บัคส์ที่แสน High ของคุณ?” 不知道什么水平的公安能配得上这高大上的星巴克。ซึ่งข้อความโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจและแชร์ต่อในเวยป๋อจากชาวเน็ตทั่วจีน เกิดเป็นกระแสดราม่าเรียกร้องให้สตาร์บัคส์ออกมาชี้แจงและขอโทษในเหตุการณ์ดังกล่าวในชั่วข้ามคืน 

3.) กระแสเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ในเช้าวันถัดมา 14 ก.พ. มีการรุมประณามสตาร์บัคส์ออกสื่อทั้งจากสำนักข่าวใหญ่ๆ ของจีน, แอ็กเคานต์หน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะ สนง.ตำรวจท้องที่ต่างๆ, Influencer จีนแทบทุกแพลตฟอร์มก็กระโดดเข้ามาเล่นเรื่องนี้กันอย่างครึกโครม เกิดแคมเปญ “ประเทศจีนไม่มีสตาร์บัคส์ได้ แต่จะไม่มีตำรวจไม่ได้” 中国可以没有星巴克,但不能没有民警 

4.) รวมถึงแอ็กเคานต์ใหญ่ๆ มีการโพสต์ให้กำลังใจเหล่าตำรวจทั่วจีนที่ต้องลาดตระเวนพื้นที่ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอุ่นใจ และประณามสตาร์บัคส์ว่า “ใจดำ”, “หลงตัวเอง” วางตัว High เหมือนเป็นแบรนด์หรูแต่จริงๆ แค่ร้านกาแฟธรรมดาๆ จากอเมริกา ลามไปถึงการเหยียดลูกค้าที่ไปใช้บริการสตาร์บัคส์ว่า ลูกค้าที่คู่ควรกับแบรนด์แบบนี้คือต้องถือ iPad, นั่งเคาะ McBook ในร้านเท่านั้นใช่มั้ย? ซึ่งจากประเด็นที่ร้านไม่ยอมเสียสละพื้นที่กินข้าวให้ตำรวจ...ก็มีแคมเปญโพสต์ภาพ “ตำรวจเองก็ลำบาก” ของตำรวจท้องที่ต่างๆ ที่ต้องกินข้าวกล่องข้างถนน, ตามที่จอดรถ หรือแม้แต่กินกลางแดด แสดงให้เห็นถึงความเสียสละความสุขส่วนตัวของ “ตำรวจของประชาชน” 民警 เพื่อประโยชน์สุขและความปลอดภัยในชีวิตประชาชนชาวจีน

5.) ตกบ่ายสตาร์บัคส์ประเทศจีนได้โพสต์แถลงผ่าน Weibo Official – Starbuck China 星巴克中国 ชี้แจงและขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็เป็นเหมือนหนังอีกม้วนหนึ่ง คือในแถลงแจ้งว่าจากการสอบสวนพนักงานร้านสาขาดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด คือขณะนั้นมีลูกค้าที่เข้ามาในร้านอยากได้โต๊ะข้างนอกที่ตำรวจ 4 นายกำลังทานข้าวอยู่ พนักงานร้านเลยไปบอกตำรวจให้ขอเปลี่ยนที่ แต่ตำรวจเข้าใจผิดเองว่าโดนไล่ และไม่มีการโทรไปร้องเรียนยัง สน. พื้นที่ตามที่เป็นกระแสใหญ่โตแต่อย่างใด สตาร์บัคส์ประเทศจีนเคารพตำรวจและสนับสนุนการทำงานของตำรวจเสมอมาเช่นเดียวกับที่เคารพลูกค้าทุกท่าน 

โต้งานวิจัย! “บุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยเลิกบุหรี่” มั่วนิ่ม!! ยกตัวอย่างอังกฤษและผู้ใช้ตัวจริงในไทย หยุดสูบบุหรี่ได้จริง เพราะบุหรี่ไฟฟ้า!!

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ECST โต้ผลการศึกษาจากการสังเกตการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกาที่ตีพิมพ์ในวารสาร บีเอ็มเจ มีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด ทำให้ข้อสรุปไม่ถูกต้อง ชี้อังกฤษยังยืนยันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยเลิกบุหรี่ไฟฟ้า แนะการให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่างานวิจัยชิ้นเดียว

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนกลุ่มลาขาดควันยาสูบ หรือ ECST (Ends Cigarette Smoke Thailand) และแอดมินเพจ บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไรที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เผยว่า “ผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งอังกฤษออกมาชี้แจงว่างานวิจัยสถาบันมะเร็งมอเรส มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ได้น้อยกว่าการใช้นิโคตินทดแทนมีวิธีทำการวิจัยที่ยังไม่ถูกต้อง ทำให้ได้ข้อสรุปขัดแย้งกับการศึกษาในผู้ใช้จริง (การศึกษาทางคลินิก) ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยสำหรับผู้อยากเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือ เอฟเฟกต์ทีฟ ควิทติ้ง เอด (effective quitting aids) และทางหน่วยงานสุขภาพระดับชาติของอังกฤษก็รับรองผลและชี้แนะว่าควรนำไปใช้ด้วย”

คำชี้แจงดังกล่าวของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ จอห์น บริตตัน จากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสารทางการแพทย์ Science Medical Centre โดยระบุว่า “ผลการศึกษาจากการสังเกตการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าและการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกามีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด เพราะเป็นการพิจารณาตัวแปรที่สุดโต่ง คือในผู้สูบบุหรี่ที่เสพติดขั้นรุนแรง และผู้สูบบุหรี่ที่ขาดแรงจูงใจในการพยายามเลิกหรือลดการเสพติดบุหรี่มวน หรือผู้ที่เคยล้มเหลวจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนเพื่อเลิกบุหรี่มาก่อนแล้ว จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลวิจัยไม่เห็นความสำเร็จในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ ซึ่งแตกต่างจากงานวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก (clinical trials) ที่มีการออกแบบการทดลองอย่างรอบคอบ ภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบคำถามว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้ผู้เสพติดบุหรี่ที่มีสารอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าได้จริงหรือไม่

นอกจากนี้ ศ.กิตติคุณ บริตตัน ยังระบุว่าข้อสรุปจากการวิจัยทางคลินิกที่แสดงผลชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือช่วยบำบัดผู้อยากเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพนำไปสู่การปรับนโยบายสาธารณสุขของทางฝั่งอังกฤษ ที่ได้รับรองการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และมีคำแนะนำการใช้ที่เหมาะสมไว้ใน คู่มือการเลิกบุหรี่ หรือไกด์ไลน์ฉบับล่าสุดปี 2021 ของสถาบันสุขภาพและการดูแลสุขภาพแห่งชาติ ของสหราชอาณาจักร หรือ NICE  (UK National Institute for Health and Care Excellence)

 

สื่อดังเผย 'ผู้หญิง' คนแรกของโลก! รักษาหายขาดจากโรค HIV

17 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักข่าว BBC ได้รายงานข่าวน่าสนใจว่า มีการรักษาผู้ป่วยเอชไอวี (HIV) ได้สำเร็จ

รายงานดังกล่าวระบุถึงการเชื่อกันว่าผู้ป่วยในสหรัฐฯ เป็นบุคคลรายที่ 3 และเป็นผู้หญิงคนแรกที่หายจากการเชื้อเอชไอวี

สำหรับผู้ป่วยรายดังกล่าว เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเมื่อเธอได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากผู้ที่มีภูมิต้านทานตามธรรมชาติต่อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ จากนั้นหญิงรายนี้ปลอดจากไวรัสมา 14 เดือนแล้ว

แต่ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า วิธีการปลูกถ่ายที่ใช้ซึ่งเกี่ยวข้องกับเลือดจากสายสะดือนั้นมีความเสี่ยงเกินกว่าจะเหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั่วโลกราว 37 ล้านคน

กรณีของผู้ป่วยรายดังกล่าว ถูกนำเสนอในการประชุมทางการแพทย์ในเดนเวอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่ทราบว่า วิธีนี้ใช้เป็นยารักษาเอชไอวี โดยผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายเลือดจากสายสะดือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรักษามะเร็งของเธอ และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษาเอชไอวี อีกต่อไป

เริ่มแล้ว! ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาล “หมอชลน่าน” ซัด “บิ๊กตู่” ตัวปัญหา ทำประเทศ “แพง จน พัง” ทั้งแผ่นดิน แนะ ยุบสภา – ลาออก หยุดทรมานประชาชน

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่การอภิปราย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) ชี้เเจง ข้อตกลงการประชุมทั้ง 2 วัน คือ วันที่ 17-18 ก.พ.นี้ ว่า จะประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 - 00.00 น. โดยจะใช้เวลาอภิปราย 15 ชม. ในวันแรก ส่วนวันที่ 2 จะเริ่มเวลา 09.00 - 00.00 น.เช่นกัน สัดส่วนเวลาพรรคร่วมฝ่ายค้าน มี 22 ชม. พรรคร่วมรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.)  8 ชม. ส่วนการแบ่งเวลาอภิปรายของฝ่ายค้านแต่ละพรรคมีการแบ่งเวลาที่ชัดเจนแล้ว

ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ชี้เเจงว่า โควต้าพรรคร่วมรัฐบาล ได้เวลาอภิปราย 8 ชม. จะแบ่งวันละ 4 ชม. เเบ่งเป็นของพลังประชารัฐ 44 นาที ภูมิใจไทย 27 นาที ประชาธิปัตย์ 23 นาที พรรคเล็กที่เกินกว่า 1 คน พรรคละ 6 นาที และพรรคเล็กที่มีพรรคละ1 คน ได้ 4 นาที

จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเปิดญัตติว่าด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง ข้าวของแพง ค่าแรงถูก อันสืบเนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลงผิดพลาดทุกด้านของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ยึดอำนาจมาจนถึงรัฐบาลปัจจุบันซึ่งเป็นรัฐบาลเดียวกัน มีการก่อหนี้สาธารณะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หนี้ครัวเรือนของประชาชน และอัตราการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่สูงขึ้น เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด - 19 มาตรการแก้ปัญหากลับไม่มีความชัดเจน

ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศดิ่งเหว การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง นอกจากนี้ การจัดการจัดหาวัคซีนยังล่าช้าไร้ประสิทธิภาพ ต่อมาเกิดการแพร่ระบาดของโรคระบาดในสัตว์ และเกิดเชื้อแอฟริกาในสุกร ทำให้สุกรขาดตลาด เนื้อสุกรราคาสูงขึ้นมาก แต่รัฐบาลกลับปกปิดข้อมูลการระบาดของโรคจนทำให้การะบาดกระจายไปทั่วประเทศ เกษตรกรได้รับความเสียหายเดือดร้อนในวงกว้าง แต่กลับมีข้อมูลเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนรายใหญ่ การแก้ปัญหาโรคระบาดทั้งคน และสัตว์ขาดความรู้ภูมิปัญญา 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันยิ่งทวีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยประชาชน แม้เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี แต่รัฐบาลไม่มีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม มีการนำงบประมาณไปแลกเปลี่ยนใช้จ่ายแก้ปัญหาในการกระทำที่ผิดพลาดของนายกรัฐมนตรี กรณีเหมืองทองอัครา การแก้ปัญหาประมงที่ล้มเหลว การปฏิรูปการเมืองที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ และยุทธศาสตร์ชาติ ไม่มีความคืบหน้า เหตุเพราะรัฐบาลขาดความจริงใจ วิสัยทัศน์ผู้นำที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้ไทยต้องสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาล และสูญเสียโอกาสที่จะได้จากความร่วมมือในกลุ่มเอเปค การบริหารราชการแผ่นดินส่อในทางทุจริต หลายเรื่องส่งผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจากรายงานของวุฒิสภา

และหน่วยงานภายนอกพบว่า รัฐบาลนี้มีการทุจริตสูงมาก ส่งผลให้การทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศสูงขึ้น รวมถึงปัญหายาเสพติดขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ และเป็นแหล่งส่งออกไปต่างประเทศทำให้ประเทศเสียหาย ถือได้ว่าขณะนี้เป็นวิกฤตของประเทศ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นกรณีจำเป็นที่ ส.ส.ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ต้องสอบถามข้อเท็จจริงต่อครม. ในการแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ และหาข้อสรุปเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตรงเป้าหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ญัตตินี้ไม่ต้องมีมติ มีลักษณะเหมือนกระทู้ แต่ไม่ใช่กระทู้ เป็นการซักถามข้อเท็จจริง และเสนอต่อครม. ไม่ได้มุ่งหมายต่อรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่ต้องการรู้ว่าทำไมถึงตอนนี้พวกเขามีความทุกข์ลำบากยากแค้น ถือเป็นญัตติแพงทั้งแผ่นดิน จนพังทั้งแผ่นดิน นี่คือการทำงานร่วมกันเพื่อบ้านเมือง เพราะเราจะเสนอแนะรัฐบาลเพื่อนำไปแก้ไขให้กับประชาชน เราจะบอกปัญหาที่รัฐมนตรีไม่รู้ว่าเป็นปัญหา และไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร เพื่อประโยชน์ของประชาชนให้เร็วที่สุด

โดยปัญหาเศรษฐกิจพี่น้องคนไทยทุกข์ระทมกับของแพงทั้งแผ่นดิน ส่วนรายได้แสนจะถูก ชีวิตความเป็นอยู่ยุ่งยากซับซ้อน จนเกิดปัญหาสังคมตามมา รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริหารงานล้มเหลว และปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน จนหนี้ท่วมประชาชน นอกจากนี้ ยังมีวิกฤตการใช้งบเงินกู้ และการจัดสรรงบประมาณปี 65 ที่ไม่เหมาะสม รัฐบาลบริหารล้มเหลวจนเกิดเงินเฟ้อของแพง ที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่น เพราะเป็นเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตที่สูง ค่าแรงถูก และคนตกงานทั้งแผ่นดิน เป็นความผิดพลาดจากนายกฯ และครม. ที่ใช้มาตราการผิดพลาดบกพร่อง สิ่งที่จะต้องขุดต่อคือ เรื่องความสามารถในการแข่งขันของไทย ที่มีความสามารถที่ย่ำแย่ ระบบการเงินที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน ผู้ประกอบการรายย่อยล้มหายตายจาก

ขณะที่การพัฒนาประเทศในยุคดิจิตอล ประเทศเราสูญเสียโอกาสมากในการบริหารงานด้านนี้ ซ้ำร้ายที่สุดคือมีกลไกการโกงการหาประโยชน์จากระบบนี้ด้วย รายได้จากภาคการท่องเที่ยวก็ล้มเหลวหดตัว เข้าใจได้ว่าเกิดสถานการณ์โควิด - 19 แต่เมื่อเปรียบเทียบประเทศอื่นๆทำไมเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ต้องถามคือทำไมการระบาดของโควิด – 19 ยังอยู่ถึงปัจจุบัน ท่านอาจจะโชคช่วยเพราะเกาะโรคเพื่อให้ท่านดำรงอยู่ ท่านจึงเลี้ยงโรคเลี้ยงไข้ ซึ่งโชคดีที่โอมิครอนเข้ามาช่วยชีวิตท่านไว้ 

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ความล้มเหลววิกฤตทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นภาพการสร้างธุรกิจการเมือง สภาเสื่อม มีทั้งกล้วยทั้งฉีดวัคซีน 20 – 30 ล้าน ที่มีข่าวอยู่ในสังคมขณะนี้เป็นข้อสงสัยที่ท่านต้องตอบ ฝากถามนายกฯว่าทำไมจึงยอมให้เกิดภาพอย่างนี้ ทำไมต้องแจกกล้วย เพราะทำให้การปฏิรูปการเมืองล้มเหลว ส่งผลกระทบไปทุกเรื่อง

ข้อผิดพลาดอีกเรื่องที่ต้องพูดคือทำไมท่านต้องออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ.2558 ท่านบอกออกเพื่อแก้ใบเหลืองจากเรื่องไอยูยู หรือ ประมงที่ทำผิดกฎหมาย แต่กลับก่อเกิดปัญหาอย่างมากมาย เพราะไร้การรายงานควบคุมตรวจสอบ ผู้ประกอบการได้รับความเสียหายปีละ 2 แสนล้านบาท ถ้าใช้สมองสติปัญญาอย่างรอบคอบคิดว่าท่านคงไม่กล้าออกพ.ร.ก.นี้ เพราะไม่คุ้มแต่ยังส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าพี่น้องสมาคมชาวประมงจะขอแก้กฎหมาย แต่ถูกตีตกทั้งหมด นายกฯไม่ยอมเซ็นเข้าสู่สภา ทั้งหมดนี้ก่อให้ประเทศเกิดปัญหาแพงทั้งแผ่นดิน จนทั้งแผ่นดิน พังทั้งแผ่นดิน จนเกิดจากวิกฤตทางการเมือง 

“เหตุของปัญหาอยู่ที่การเมือง ท่านยึดอำนาจเข้ามาสู่อำนาจ มุ่งสืบทอดอำนาจด้วยการวางโครงสร้างรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจหลังได้อำนาจก็ไม่ชอบธรรม เอื้อประโยชน์ ไม่เห็นหัวประชาชน ถ้าท่านใช้อำนาจถูกต้อง แพง จน พัง จะไม่เกิดขึ้น ประชาชนจะไม่เดือดร้อนขนาดนี้ ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจบิดเบี้ยว บิดเบือน โดยเฉพาะสภาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินก็ทำงานได้ยากลำบาก ทั้งที่การตรวจสอบการควบคุมการบริหารเป็นหน้าที่ของสภา" นพ.ชลน่าน กล่าว 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ตัวเลขการเลือกตั้งปี 62 ท่านได้ 255 เสียง ท่านก็ใช้กลไกที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญจัดการรวบรวมทุกวิถีทางทำให้ท่านได้เสียงถึง 275 เสียง รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสบัตรใบเดียวให้พรรคขนาดเล็กเข้ามาในสภา ท่านก็เชื้อเชิญเข้ามาด้วยกลไกทำให้หลายพรรคเล็กต้องจำยอม แต่นั่นคือกับดักของการเข้าสู่อำนาจ เสมือนดีแต่คือการทำลายล้างประชาธิปไตย เพราะการที่ท่านพยายามรวบรวมเข้ามา และการยุบพรรคที่เขาได้ส.ส.เยอะ ถ้าไม่เรียกว่าทำลายล้างจะเรียกว่าอะไร สิ่งเหล่านี้คือต้นเหตุของปัญหา

'ดร.ไตรรงค์' เฉ่งการเมืองไทย เลวลงทุกวันเพราะติดกิเลส เตือนสติ!! สิ่งที่จะอยู่ได้นานที่สุดคือประเทศไทย

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส. หลายสมัย เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กวิจารณ์กรณีการนับองค์ประชุมของฝ่ายค้านเพื่อกดดันให้รัฐบาลรักษาองค์ประชุม จนสภาล่ม ว่าเป็นวิธีที่ป่าเถื่อนประเทศเจริญแล้วไม่ทำกัน โดยระบุว่า..

#เลวเสมอต้นเสมอปลาย

เมื่อคนอื่นขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ที่เป็นบุคคลที่ตนเองสั่งไม่ได้ เอาชนะเขาโดยใช้คะแนนในสภาผู้แทนราษฎรตามกติกาสากลไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีให้ #ลิ่วล้อเผาบ้านเผาเมือง ชาติเสียหายช่างหัวมัน

ปัจจุบันคนอื่นขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีถูกต้องตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนส่วนใหญ่รับรอง แต่เป็นบุคคลที่ตนเองสั่งไม่ได้เช่นเดียวกัน จะเอาชนะเขาโดยใช้คะแนนในสภาผู้แทนราษฎรตามกติกาสากลไม่ได้ (อาจเพราะขี้เหนียวกว่าเขาหรืออาจจะเพราะลูกน้องมองไม่เห็นอนาคต) จึงต้องหันมาใช้วิธี #ทำให้สภาฯ ล่ม ประชุมอะไรกันไม่ได้ ชาติเสียหายช่างหัวมัน

“บิ๊กตู่” สั่งทุกหน่วยงานดันส่งออก ปีนี้โตต่อเนื่อง 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานของทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับสถานการณ์การส่งออกในภาพรวมทั้งในส่วนข้อมูลปี 2564 ที่มูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์  271,173.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโตที่ 17.1% และการประเมินการเติบโตในปี 2565 ที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.0 – 4.0%  

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการส่งออกที่ขณะนี้กำลังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอุตสาหกรรมของหลายประเทศกำลังฟื้นตัว ความตกลง RCEP ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ซึ่งความต่อเนื่องของการส่งออกจะสร้างความความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในภาพรวม เพราะเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ และส่งผลไปถึงการจ้างงานทั้งในอุตสาหกรรมหลักและเอสเอ็มอีที่เกี่ยวเนื่องในห่วงโซ่การผลิต  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top