Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

รู้ทันภัยออนไลน์ “ตัดสาย - บล็อกเบอร์” ลดโอกาสเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้วยความห่วงใยจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

(15 ก.พ.65)​ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในห้วงปัจจุบันมิจฉาชีพได้มีการเปลี่ยนแปลงกลโกงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งรวมถึงการปลอมตัวเป็นคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร หรือบริษัทต่าง ๆ บ้างก็ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือปลอมเป็นพนักงานบริษัทรับส่งพัสดุ อ้างว่าพี่น้องประชาชนที่รับสายนั้นมีการส่งของผิดกฎหมาย จนนำไปสู่การโน้มน้าวหลอกลวงให้โอนเงินจนสูญเสียทรัพย์สิน นั้น

ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ว่าหากมีเบอร์โทรศัพท์ที่ท่านไม่รู้จัก ติดต่อเข้ามาหาท่าน แล้วอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือพนักงานจากบริษัทต่าง ๆ แล้วโน้มน้าวให้ท่านโอนเงินให้ ด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ และขอให้ท่านตัดสายเลิกสนทนาทันที หลังจากนั้นขอแนะนำให้บล็อกเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้โทรเข้ามาหาท่าน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสูญเสียทรัพย์สินได้ เพราะการคุยกับมิจฉาชีพต่อไป อาจทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจาก 

มิจฉาชีพจะใช้กลยุทธ์ "ร้อยเรียงเรื่องราว" พูดคุยจนเหยื่อหลงเชื่อ เคลิบเคลิ้มไปตามคำพูด จนยอมบอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลด้านการเงิน อันเป็นความลับ จนกระทั่งถูกหลอกให้โอนเงินไปในที่สุด

ตำรวจไซเบอร์ ทลายรัง แก๊งค์ Call Center & Admin page ชาวไทยกว่า 70 คน หลอกชักชวนลงทุนออนไลน์และพนันออนไลน์ ก่อนเชิดเงินและบล็อคการติดต่อเหยื่อ มีมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุขผบ.ตร. ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็น นโยบายสำคัญที่ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัดกับผู้ระทำความผิดไม่มีละเว้น

จากกรณี เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  ว่าได้ถูกคนร้ายหลอกให้หลงเชื่อเพื่อให้นำเงินไปลงทุนกับคนร้าย โดยคนร้ายอ้างว่าสามารถนำเงินของผู้เสียหายไปลงทุนจนได้กำไรสูง ซึ่งต่อมาคนร้ายได้แจ้งให้ผู้เสียหายว่าได้รับกำไรจากการลงทุนดังกล่าวแล้ว แต่ผู้เสียหายต้องโอนเงินเป็นค่าถอน ค่าธรรมเนียม ค่าภาษี และค่ารหัสผ่านในการถอนเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินให้แก่กลุ่มคนร้ายหลายครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 12,139,000.25 บาท ต่อมาภายหลัง เมื่อผู้เสียหายทราบว่าตนถูกหลอกลวง จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ สั่งการให้ พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 เป็นผู้ควบคุมการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ โดยกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ได้ออกสืบสวนคดีนี้ พบว่ากลุ่มคนร้ายได้เปิดเพจหลอกลงทุนและนำเงินจากการลงทุนมาเล่นพนันออนไลน์

ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวน หาตัวคนร้ายกับกลุ่มที่ร่วมขบวนการ ทราบว่า ได้หลบซ่อนตัวอยู่ที่ หอพักคิตตี้ เลขที่ 601 หมู่ 10 ชั้น 2 ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี จึงได้วางแผนเข้าตรวจค้นจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขออนุญาตศาลจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว

ผลการตรวจค้นพบ สถานที่ทำงาน ใช้ตึกอพาร์ทเม้นท์ 2 ชั้น ดังกล่าว โดยแบ่งเป็นชั้นๆละ 18 ห้อง รวม 36 ห้อง ชั้นบนเป็นที่พักพนักงาน ชั้นล่างเป็นที่ทำงาน ไม่รับบุคคลนอกและไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไป แต่ใช้เป็นที่ทำงาน Call Center & Admin page ในการชักจูงและหลอกให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมลงทุนการพนันผ่านทางช่องทางเฟสบุ๊ค และทางไลน์ ซึ่งการทำงานของกลุ่มคนร้าย มีการแบ่งการทำงานแต่ละห้อง พบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือในการกระทำความผิดและพักอาศัยอยู่ตึกดังกล่าวทั้งหมด

จากการตรวจค้นพบผู้กระทำความผิด 66 คน, เงินสด 1,300,000 บาท, ทองคำ 20 บาท, รถยนต์ 3 คัน, คอมพิวเตอร์ 87 เครื่อง,​โทรศัพท์มือถือ 23 เครื่อง, อาวุธปืน ขนาด .45 ยี่ห้อ CZ จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน .45 จำนวน 25 นัด, บัญชีธนาคาร 50 เล่ม ซึ่งพบเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท

จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ได้รับการว่าจ้างจากนายทุน ให้เงินเดือนเดือนละหมื่นต้นๆ โดยอาศัยที่ดังกล่าว รวมถึงมีอาหารไว้ให้พนักงานที่ร่วมกระบวนการโดย การชักจูงให้โอนมาลงทุน เมื่อได้รับเงินก็จะหลอกหลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินมาเพิ่มเรื่อยๆ​ และเมื่อผู้เสียหายเริ่มรู้ก็ทำการบล็อคหนี

ซึ่งในเบื้องต้น จะควบคุมผู้ต้องหา ทั้ง 66 ราย ส่ง พงส.สภ.ศรีมหาโพธิจว.ปราจีนบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น อุบายประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.การพนัน” และ ดำเนินคดีกับ ผู้ที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อม ดำเนินการขยายผลในความผิดฐานฟอกเงิน และ การกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชนต่อไป

ทัศนะ! ‘ความหลากหลายทางเพศ’ ใน ‘สังคมทำงาน’ เป็นอย่างไร? | Click on Clear THE TOPIC EP.149

📌 มุมมองต่อ ‘LGBTQ’ ของคุณเป็นแบบไหน...?? พบกับ ‘อาจารย์เคท ครั้งพิบูลย์’ อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

📌 ใน Topic : ทัศนะ! ‘ความหลากหลายทางเพศ’ ใน ‘สังคมทำงาน’...เป็นอย่างไร?

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

‘นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย’ ทำบุญเนื่องในวันมาฆบูชา พร้อมกราบนมัสการ ‘พระอโสโกภิกฺขฺ’ พระเอกหนังโรงศรีลังกา บทเจ้าชายสิทธัตถะ!

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ณ วัดธาตุทอง พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร เวลา 08.00 น. "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการ และ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรเข้ากราบนมัสการ และ ร่วมถวายภัตตาหารเช้า "พระอโสโกภิกฺขฺ" (นายกากัน มาลิก) นักแสดงพระเอกหนังโรงของศรีลังกา เรื่อง "ศรีสิทธัตถะโคตมะ" โดยรับบทเป็น "เจ้าชายสิทธัตถะ" 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ลงทุนสร้างโดยมูลนิธิ The Light of Asia ออกฉายในประเทศอเมริกาเมื่อปี 2013 มีหลายภาษารวมทั้งภาษาไทยด้วย

'นายกฯ' ตั้งเป้าพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ เพิ่มการมีส่วนร่วมและผู้นำหญิง 'รัชดา' ประเดิมงานกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ขับเคลื่อนงานด้านสตรี

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ด้านประสานการมีส่วนร่วม เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ อ.เมือง อ.ปะนาเระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี  อ.จะนะ จ.สงขลา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และอ.เมือง จ.ยะลา เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการด้านเด็กและสตรี (ศป.ดส.) นักวิจัย เครือข่ายภาคประชาสังคม ผู้นำท้องที่และท้องถิ่น เกี่ยวกับการขับเคลื่อนงานด้านสตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เน้นย้ำการทำงานของภาครัฐต้องให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม 

โดยเฉพาะการกำหนดยุทธศาสตร์ของสตรี ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างสูงสุด ภายใต้แนวทางที่สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมของพื้นที่ และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนทั้งพุทธและมุสลิมในทุกๆมิติ ทั้งนี้  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมและสร้างการมีส่วนร่วมจากพลังสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ระยะ 6 ปี) เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมี กลุ่ม/องค์กร/เครือข่ายการปฏิบัติงานด้านสตรี 64 องค์กร ร่วมหารือให้ความคิดเห็น และเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป 

“ขณะเดียวกัน กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมต่อยอดการเสริมบทบาทผู้หญิงและความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยจะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมพลังสตรี ระหว่างวันที่ 17 – 18 ก.พ. นี้ ที่ จ.ปัตตานี แก่กลุ่มเครือข่ายสตรีในจังหวัดชายแดนใต้ โดยเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิและโอกาสในการเข้าถึงสิทธิ รวมถึงแนวทางและช่องทางการให้ความช่วยเหลือให้กับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านสตรีในพื้นที่ เพื่อให้สตรีเป็นพลังในการพัฒนาตนเอง ชุมชน และสังคม อีกทั้งจะอบรมเรื่องการเขียนโครงการและจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ (Gender Responsive Budgeting: GRB) ซึ่งเป็นไปตามมติครม.ที่เพิ่งเห็นชอบเมื่อ ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรมและเหมาะสมตามความจําเพาะของผู้หญิง ซึ่งการผลักดันโครงการทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ตอบสนองต่อความต้องการกลุ่มสตรี จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ”รัชดากล่าว

"เทพไท" เตือนครม. เปลี่ยนชื่อ "Bangkok" เป็น "Krung Thep Maha Nakhon" อย่าหาทำ พร้อมมองไม่จำเป็นชื่อเดิมคนติดหูทั่วโลก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานราชบัณฑิตยสภาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติ ที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานราชบัณฑิตยสภา ประกาศเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงของ "ประเทศไทย" จาก "Bangkok" เป็น "Krung Thep Maha Nakhon" นั้น

ส่วนตัว ไม่ทราบถึงความจำเป็น หรือหลักวิชาการในการเปลี่ยนชื่อ เมืองหลวงของประเทศไทย จาก "Bangkok" เป็น "Krung Thep Maha Nakhon" ว่า มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน เพราะชื่อ Bangkok เป็นชื่อที่มีมานานแล้ว คนทั่วโลกรู้จัก คุ้นเคย เป็นชื่อที่ติดหูคนทั่วโลกมาแล้ว การจะเปลี่ยนชื่อเป็น Krung Thep Maha Nakorn เป็นชื่อที่ยาว จำได้ยาก เขียนก็ยาก คนต่างชาติยิ่งออกเสียงได้ยากกว่าอีก อาจจะทำให้ชาวโลกเกิดความสับสนได้ ผมเห็นว่าไม่ควรจะเปลี่ยนแปลงใดๆ ในชื่อเมืองหลวงของเรา

ผมเกิดมาก็ได้ยินคำว่า บางกอก แล้ว สมัยก่อนคนบ้านนอก หรือคนต่างจังหวัด จะเข้ากรุงเทพ ก็ต้องพูดว่า ไปบางกอก กันทั้งนั้น แม้แต่ตอนนี้ผมก็ยังใช้ คำว่า”บางกอก” ในการแต่งเพลงอยู่เป็นประจำ และเพลงในสมัยก่อน ก็พูดถึงชื่อเมืองบางกอกกันทั้งนั้น เช่น เพลงอย่าไปเลยบางกอก เพลงบางกอกหลอกลวง เพลงสุดคลองบางกอกน้อย เพลงอย่าหลงบางกอก เพลง บางกอกเมืองสวรรค์ ฯลฯ คำว่า บางกอก จึงเป็นคำที่มีมา ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นประวัติศาสตร์ เป็นตำนานที่น่าภาคภูมิใจของชนชาติไทย

“บิ๊กป๊อก” สั่งศปถ.ทุกจังหวัดคิกออฟ! ลดอุบัติเหตุทางข้าม 21 – 25 ก.พ. พร้อมรณรงค์สร้างความปลอดภัยทุกวันที่ 21 ของเดือน เข้มเอาผิดใครฝ่าฝืนรับโทษสูงสุด

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนเดินข้ามถนนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตบริเวณทางข้ามเมื่อช่วงปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธาน ได้มีมติให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดทั่วประเทศ เร่งสร้างกระแสการรับรู้และสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ให้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขับรถที่ไม่มีวินัย และไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เกิดการสร้างกระแสการรับรู้ สร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด จัดกิจกรรมสัปดาห์การรณรงค์ภายใต้ชื่อ “การรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม” ระหว่างวันที่ 21 - 25 ก.พ.ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้ได้รับโทษสูงสุด เพื่อให้ผู้ขับขี่เคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎหมาย และเร่งปรับปรุงบริเวณทางข้ามให้มีความปลอดภัย อาทิ การตีเส้นชะลอความเร็วก่อนถึงทางข้าม การจัดทำเครื่องหมายจราจรบนพื้นผิวถนนให้มีความชัดเจน จัดทำป้ายเตือนและป้ายสัญลักษณ์ให้ผู้ขับขี่และผู้ข้ามถนนเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ให้จัดกิจกรรมรณรงค์ในสถานศึกษาเพื่อให้มีความปลอดภัย โดยเฉพาะทางข้ามบริเวณโรงเรียน รณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วในเขตชุมชน สถานศึกษา สถานพยาบาล ด้วยการชะลอความเร็วในที่คับขันที่มีการจราจรพลุกพล่านหรือมีสิ่งกีดขวาง ทางร่วม ทางแยก ทางข้ามหรือทางม้าลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยุดให้คนข้ามในทางข้ามหรือทางม้าลาย ทั้งนี้ ให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องทุกเดือน กำหนดให้วันที่ 21 ของทุกเดือนเป็นเป้าหมายในการรณรงค์

'โฆษกรัฐบาล' เผย 'นายกฯ' สั่งการเร่งพัฒนาระบบ Thailand Pass พร้อมเชื่อมโยงเข้ารูปแบบ Thailand Pass Hotel & Swab System (TPHS) รองรับผู้ลงทะเบียนเดินทางเข้าประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเข้าลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass ให้นำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงระบบ และพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ โดยในการดำเนินการเพื่อพัฒนานั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขานรับแนวทางจากนายกรัฐมนตรีมาปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ได้ดำเนินการในส่วนของการดูแลและพัฒนาระบบ Thailand Pass ซึ่งได้เร่งพิจารณาและทยอยอนุมัติ QR code อย่างต่อเนื่องให้แก่ผู้ลงทะเบียนภายใน 7 วันตามข้อตกลงการให้บริการ (SLA : Service Level Agreement)

ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการท่องเที่ยวและกีฬา (ศปก.กก) ได้เร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ใช้ทั้งจากโรงแรม/ที่พักที่ให้บริการ และผู้เดินทางเข้าประเทศ โดยเฉพาะการเพิ่มระบบ Thailand Pass Hotel ซึ่งจะปรับปรุงให้มีศักยภาพในการอนุมัติ (approve) โดยจะนำระบบอนุมัติอัตโนมัติ (auto approve) มาใช้ เพื่อลดงานของระบบ และจะขยายเซิร์ฟเวอร์ต่อให้รองรับการทำงานด้วยข้อมูลจำนวนมากให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ ททท. ได้ประสานงานกับทีมตลาดในประเทศในการสื่อสารกับกลุ่มโรงแรมที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบให้เข้าระบบ พร้อมทั้งจัดทำอีเมล์แจ้งเตือนเมื่อมีบุ๊คกิ้งเข้ามา เพื่อความรวดเร็วในการอัพเดตข้อมูลข่าวสาร

โฆษกรัฐบาล เผย “นายกฯ” ติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนและเกษตรกร  ขณะที่ ธ.ก.ส. รับไม้ส่งผู้แทนสาขาลงพื้นที่ ตรวจสุขภาพหนี้เกษตรกร พร้อมวางแนวทางช่วยเหลือฝ่าวิกฤต 

นายธนกร  วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำหนดนโยบายให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ราคาผลผลิตตกต่ำ ภัยธรรมชาติ

ล่าสุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในฐานะธนาคารของรัฐ ได้ดำเนินการให้ผู้แทนแต่ละสาขาเข้าพบลูกค้าทุกรายเพื่อสอบถามข้อมูลการประกอบอาชีพและรายได้ พร้อมกำหนดแนวทางบริหารจัดการหนี้ให้เหมาะสมกับศักยภาพของลูกค้าแต่ละราย ควบคู่การเติมสินเชื่อใหม่ ในการฟื้นฟูอาชีพอย่างยั่งยืน พร้อมช่วยเหลือลูกค้าเงินกู้ ทั้งเกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีเกษตรกรที่ใช้บริการสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. จำนวน 4.83 ล้านราย การให้พนักงานของ ธ.ก.ส. ลงพื้นที่พบลูกค้าเพื่อสอบถามข้อมูลการประกอบอาชีพ ที่มาของรายได้มาประเมิน โดยวิเคราะห์ศักยภาพสมรรถนะและความสามารถในการประกอบอาชีพ ความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อทำการบริหารจัดการหนี้ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย  

รวมถึงการเติมสินเชื่อใหม่เพื่อฟื้นฟูอาชีพ รวมถึงพิจารณาช่วยเหลือลูกค้าที่มีหนี้สินเป็นภาระหนัก เนื่องจากรายได้ครัวเรือนลดลงหรือไม่ได้มีรายได้เพียงพอเพราะเหตุผิดปกติ เช่น เสียชีวิต เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ชราภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังเสริมสภาพคล่องในการลงทุนและการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ผ่านโครงการชำระดีมีคืน วงเงินงบประมาณ 1,200 ล้านบาท ให้กับลูกค้าที่นำเงินมาชำระหนี้

'แรมโบ้' ฟาดแรง 'โทนี่' ยกย่องเจ้าแม๊กซ์เป็นหมาฉลาดกัดเจ้าของเพราะรู้ว่าเป็นคนไม่ดี  เผยหากเปรียบตนเป็นกิ้งกือ ใส้เดือน แต่ก็ทำให้ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก จนได้เป็นนายกฯ ยันตั้งพรรคร่วมไทยสร้างชาติ ไม่เกี่ยวข้อง 'บิ๊กตู่' เพราะท่านไม่ได้สั่งให้ไปตั้งพรรค 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ อดีตนายกรัฐมนตรี พูดถึงตนเองและเล่าเรื่องเลี้ยงสุนัข 50 ตัวในบ้าน ผ่านเพจแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ในหัวข้อ “จุดสิ้นสุดรัฐบาลตู่ พลิกเกมสู้ของแพง” โดยตนเองอยากจะชี้แจงข้อเท็จจริงว่าไม่มีใครรู้จักนายโทนี่เท่ากับตนเองแล้ว เพราะเป็นคนที่ทำให้นายโทนี่ ได้เป็น ส.ส.สมัยแรกในปี 2538  ในนามพรรคพลังธรรม เพราะนายโทนี่ ให้อดีผบทบ.คนหนึ่โทรตามตนเองให้เข้ามาช่วยในการเลือกตั้ง ดังนั้นไม่ควรที่จะเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับสุนัขที่บ้านว่าไม่รู้จักบุญคุณคน 

และตั้งแต่ตนเองได้ทำงานร่วมกับนายโทนี่และครอบครัวชินวัตร เป็นเวลากว่า 20 ปี ต้องยอมรับว่าผิดหวัง เพราะคิดว่านายโทนี่ เป็นหัวหน้า คนที่จะมาบริหารประเทศเป็นคนดี ทุ่มเททำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่แสวงหาประโยชน์ ซื่อสัตย์ แต่เวลาผ่านไปกลับพบว่าตนเองอยู่กับหัวหน้าโจร ที่ทุจริตคอรัปชั่น มีแต่ญาติพี่น้องเข้ามาครอบงำในเรื่องของงบประมาณ ซึ่งคนในพรรคทราบเรื่องนี้ดี 

ส่วนที่นายโทนี่ กล่าวหาตนเองเป็นกิ้งกือ ใส้เดือน หรือเล่าเรื่องสุนัขที่บ้านชื่อแม็กซ์ ชอบมากัดเจ้าของตลอด มีลักษณะเปรียบเทียบเป็นตนเองนั้น นายเสกสกล ชี้แจงว่าหากเจ้าของหมาเป็นคนดี ประวัติดี ไม่เป็นหัวหน้าโจร เจ้าแม็กซ์ เป็นสุนัขฉลาดก็คงไม่กัด 

“ตนเองต้องขอยกย่องชื่นชมเจ้าแม็กซ์สุนัขตัวนี้ด้วยซ้ำที่มันฉลาดรู้ว่าเจ้าของเป็นขี้โกง และยังมองว่านายโทนี่ไม่ควรที่จะด้อยค่า ส.ส.ในเครือข่ายของตัวเองเปรียบเทียบเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ของคุณโทนี่เช่นเดียวกัน  และบรรดา ส.ส. พรรคเพื่อไทย หรือคนในพรรคน่าจะคิดได้แล้วว่าถูกมองอย่างไร้ค่า ส.ส.จะยอมเสียศักดิ์ศรีให้กับคนที่มาดูถูกดูแคลนเช่นนี้ได้อย่างไร ซึ่งตนเองอายแทนพี่น้องประชาชน”

นายเสกสกล ยังเปิดเผยว่าในขณะที่ตนเองอยู่พรรคไทยรักไทย ได้เห็นพฤติกรรมของนายโทนี่เป็นหัวหน้าโจร เอาครอบครัวมาแสวงหาผลประโยชน์ ในประมาณปี2546-2547 มีตัวแทนภาคประชาชนมาร้องเรียนกับตัวเองซึ่งขณะนั้นเป็นสส.ด้วย ถึงความไม่ชอบมาพากลโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่อาจจะมีการทุจริตเสียหายต่อรัฐประมาณ 500 ล้านบาท ตนเองจึงเข้าพบนายทักษิณสมัยนั้นเป็นนายกฯ ชี้แจงเรื่องราวต่างๆพร้อมเอกสารแต่นายทักษิณกลับบอกให้เลขาส่วนตัวรับไปจัดการเรื่องนี้  สุดท้ายโครงการก็ผ่านไปได้โดยที่ไม่มีการตรวจสอบ และยังให้เลขาส่วนตัวโทรมาบอกตนเองว่าอย่าเข้าไปยุ่ง ปล่อยไปให้เขาทำไป

นอกจากนี้ยังมีโครงการมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท ในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเสี่ย ป. เดินทางไปพบนายโทนี่ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันที่ตนเองไปพบนายโทนี่ พูดคุยเรื่องงานบ้านเมือง แต่ปรากฎว่าตนเองไม่ได้คุยเรื่องงานเลยนายโทนี่ไม่มีเวลาให้  เพราะนายโทนี่มีแต่เวลาคุยเรื่องผลประโยชน์ใต้โต๊ะ กับเจ้าของบริษัทต่างๆ หลายบริษัท ขากลับตนมีโอกาสเดินทางกลับมาพร้อมเสี่ย ป. โดยเครื่องบินส่วนตัวของเสี่ย ป.และเสี่ย ป.ได้เล่าข้อมูลให้ฟังว่าไปพบนายทักษิณ พูดคุยเรื่องผลประโยชน์ ส่วนแบ่ง ค่าคอมมิชชั่น และเรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดอีกคนคือเพื่อนรักนายทักษิณ ที่มีอักษรย่อ ช. อยู่ปักกิ่งเป็นคนวางแผนเดินเกมให้นายทักษิณในการจัดการเรื่องเงินทอน 

นายเสกสกล ยังระบุถึงกรณีที่นายโทนี่ กล่าวหาว่านายกฯประยุทธ์ ให้ตนเองไปตั้งพรรคการเมืองและบอกว่านายกฯประยุทธ์ ทำตัวเหมือนพญาหงส์ไม่กล้าลงหนองน้ำเล็ก ปล่อยให้กิ้งกือไส้เดือนอย่างตนเองไป ยืนยันว่าการไปตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ นายกฯประยุทธ์ไม่ได้เป็นผู้สั่งการ เป็นการคิดและดำเนินการด้วยตนเอง 
ตนเห็นว่า ชื่อพรรคดีมีความหมายดี ตนจึงสนับสนุนพรรคนี้ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับนายกฯเพราะท่านนายกฯไม่ได้ยุ่งเกี่ยวสั่งการตนกับเรื่องพรรคนี้ 

“ไม่เหมือนในอดีตที่นายทักษิณได้เป็นสส.และเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรมเพราะพลตรีจำลอง ศรีเมือง และตอนหลังตามกระทืบตามกัด พลตรีจำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม แบบเอาเป็นเอาตาย จนพลตรีจำลองต้องเอามวลชนมาขับไล่ คนที่เนรคุณพลตรีจำลองที่อุตส่าห์สนับสนุนให้ลงสู่ถนนการเมืองแบบนี้ใช้ได้หรือไม่ ตัวอย่างผู้นำที่เนรคุณผู้มีพระคุณ ทำกับพลตรีจำลองเช่นนี้ใช้ได้หรือไม่ ทั้งนี้ตนเองยังมีข้อมูลของนายทักษิณอีกมากมายที่ยังไม่อยากเอามาพูดในตอนนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top