Monday, 19 May 2025
TheStatesTimes

‘วีริศ’ หารือ ‘ผู้ว่าฯ - นายด่านอรัญประเทศ’ ดึง ‘นักลงทุน’ เพิ่ม!! ในนิคมฯ สระแก้ว

‘วีริศ’ ลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว หารือผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายด่านอรัญประเทศ หวังดึงนักลงทุนในพื้นที่ พร้อมหาแนวทางการบูรณาการความร่วมมือ ให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมร่วมกันอย่างยั่งยืน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (20-21 ม.ค. 65) ว่า ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว อยู่ระหว่างการขอปรับเปลี่ยนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA: Environmental Impact Assessment) โดยเพิ่มหัวข้อประเภทโรงงานอุตสาหกรรมที่มีระบบการระบายออกทางปล่อง (Stack) เข้ามาประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมได้ ซึ่งอุตสาหกรรมในลักษณะเช่นนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูป, ผลผลิตทางการเกษตร เป็นต้น ประกอบกับเป็นการสนับสนุนให้เกิดระบบเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Economy) ซึ่งสามารถสร้างโอกาสทางการแข่งขันให้กับนักลงทุน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ผลิตเดิม เช่น เกษตรกร และชุมชน ให้เป็นผู้ประกอบการที่สามารถผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงได้

ปทุมธานี - ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน วางศิลาฤกษ์ 72 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อคฺคชิโน)

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ​ ปลัดกระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี วางศิลาฤกษ์ อาคาร 72 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(อคฺคชิโน) ณ อนุสรณ์สถานครบรอบ 150 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดบางหลวงหัวป่า(ร้าง) สาขาวัดระฆังฯ ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 

โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน)เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีวางศิลาฤกษ์ ดังกล่าว

 

เพชรบูรณ์ - พาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าตรวจสอบปริมาณสุกรในห้องเย็น ป้องกันการกักตุน หรือฉวยโอกาสขึ้นราคา

24 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. นายสุเมธ ธีรนิติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายสุพล ศรีทับทิม พาณิชย์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่พาณิชย์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบปริมาณเนื้อสุกร และเนื้อสัตว์ ในห้องเย็น บริษัท เบทาโกร ช็อป สาขาอำเภอเมืองเพชรบูรณ์  เพื่อป้องกันการกักตุนหรือฉวยโอกาสขึ้นราคา

นายสุเมธ ธีรนิติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการลงมาตรวจห้องเย็น  บริษัท เบทาโกร ช็อป สาขาอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เป็นห้องเย็นขนาดไม่ใหญ่มาก เก็บกักเนื้อสัตว์ได้ประมาณ 10 ตัน ในส่วนของเนื้อหมูเก็บได้ประมาณ 2 ตัน ตอนนี้ก็มีปริมาณไม่มาก การตรวจวันนี้เพื่อกำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งทางห้องเย็น บริษัท เบทาโกร ช็อป สาขาอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ก็ได้ดำเนินการตามที่ทางราชการกำหนดไว้ หลังจากนี้เราจะเข้าตรวจสอบ ห้องเย็นทุกแห่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ และจากราคาเนื้อหมูในตลาดที่มีราคาสูงขึ้น จังหวัดเพชรบูรณ์โดยพาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 150 บาท ทั่วจังหวัดจำนวน 19 แห่ง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาค่าครองชีพประชาชน  

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้จังหวัดเพชรบูรณ์จะออกตรวจตราเพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้า สำหรับปัญหาเนื้อหมูที่มีราคาแพงในระยะถัดไปหมูจะทยอยออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากฟาร์มใหญ่มีรุ่นหมูที่โตขึ้น ทำให้มีหมูส่งออกมาหาผู้บริโภค ในภาวะที่สินค้ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นแค่ประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นในทั่วโลก เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ประชาชนอาจจะต้องปรับตัว ปลูกพืชผักสวนครัวไว้บริโภคกันเองมากยิ่งขึ้น อะไรที่สามารถเพาะเลี้ยงไว้บริโภคเองได้ ก็เป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว แม้ว่าจะไม่สามารถเพิ่มรายได้ แต่ก็สามารถลดรายจ่ายได้

 

เพชรบูรณ์ - จัดเวทีวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ผลการดำเนินงานตลาดเกษตรกร

นายอนันต์ ตั่นฉ้วน เกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบหมายให้นายสุภาร อภัยนอก หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร เปิดการจัดเวทีชุมชนเพื่อวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ผลการดำเนินงานตลาดเกษตรกรที่ผ่านมา โครงการพัฒนาระบบตลาดภายในสำหรับสินค้าเกษตร (ตลาดเกษตรกร) กิจกรรมตลาดเกษตรกร ปี 2565 เพื่อให้เห็นผลการดำเนินงานที่ผ่านมา จุดแข็ง จุดอ่อน ปัญหา อุปสรรค พร้อมกำหนดแนวทางแก้ไขปรับปรุงและวางแผนกลยุทธ์อย่างมีทิศทางโดยมีบุคคลเป้าหมายประกอบด้วย เกษตรกรที่จำหน่ายสินค้าตลาดเกษตรกรสุขใจไทหล่มเก่าและตลาดเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ รวม 10 ราย และเจ้าหน้าที่ ผู้รับผิดชอบงานตลาดเกษตรกระดับอำเภอ ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์

ภาพ/ข่าว สำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์

“ผบ.ทบ.” ต้อนรับ ผบ.ทบ.สิงคโปร์ เดินทางเยือนประเทศไทย สานความร่วมมือพัฒนาภูมิภาค

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้การต้อนรับ พล.ต.โก๊ะ ซือ โฮว (Goh Si Hou)  ผู้บัญชาการทหารบกสิงคโปร์ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในโอกาสนี้ หลังการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ผู้บัญชาการทหารบกสิงคโปร์ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ภายในกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ ยุทโธปกรณ์ วิวัฒนาการด้านต่างๆ ของกองทัพบกไทย  จากนั้นได้แลกเปลี่ยนแนวคิดการบริหารงานและหารือความร่วมมืองานด้านความมั่นคง กับ ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก  ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19  

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวขอบคุณกองทัพบกสิงคโปร์ที่ได้ให้การสนับสนุนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับประเทศไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งชื่นชมในการคลี่คลายสถานการณ์โควิดของประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้เชื่อมั่นว่ากองทัพบกทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันทั้งในงานด้านความมั่นคง การร่วมกันแก้ไขปัญหาในทุกวิกฤติ  รวมทั้งการพัฒนาด้านต่างๆทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากลต่อไป 

‘พิธา’ ปลุกชาวจตุจักร-หลักสี่ ส่ง ‘เพชร’ เข้าสภาฯ ให้คำมั่นเปลี่ยนงบฯ กองทัพเป็นสวัสดิการปชช.

ยังไม่ละสายตาจากเป้าหมาย! ‘พิธา’ ลุยโค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อมจตุจักร-หลักสี่ ปลุกทุกองคาพยพช่วยส่ง ‘เพชร กรุณพล’ เข้าสภา - เดินหน้าเปลี่ยนงบฯ กองทัพเป็นสวัสดิการประชาชน

(24 ม.ค. 65) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางรณรงค์หาเสียงให้กับ ‘เพชร - กรุณพล เทียนสุวรรณ’ เบอร์ 6 ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตจตุจักร-หลักสี่ ที่บริเวณตลาดเมืองทองนิเวศน์ (ตลาดริมบึง) ถ.แจ้งวัฒนะ 14 โดยนอกจากจะมีการปราศรัยย่อยบริเวณด้านหน้าตลาดแล้ว ยังเดินพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาดด้วย

พิธา กล่าวถึง กรณีการเปิดตัวแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคก้าวไกลและการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จะมีขึ้นว่า มีความสัมพันธ์เกื้อหนุนไปด้วยกัน และมองว่าผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล คือ ‘เพชร กรุณพล’ จะสามารถชนะใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตจตุจักร-หลักสี่ได้ โดยการร่วมมือทำงานแบบไร้รอยต่อทั้งของแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม., ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อย่าง เพชร กรุณพล จะช่วยส่งให้เขาได้เข้าไปเป็นผู้แทนในสภาได้ และความเชี่ยวชาญในฐานะคนในพื้นที่ของ เพชร กรุณพล เชื่อว่าจะทำให้เขาสามารถนำปัญหาของพี่น้องไปสะท้อนให้เกิดการแก้ไขได้ 

55 ปี วันก่อตั้ง ‘วิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลก’ ซึ่งยกฐานะขึ้นเป็น ‘มหาวิทยาลัยนเรศวร’ ในปัจจุบัน

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2510 ตรงกับวันก่อตั้ง ‘วิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลก’ โดยสาเหตุของการก่อตั้งเกิดจาก วงการการศึกษาได้ประสบปัญหาเข้ามาอีกทั้งภาวะการขาดแคลนครูเป็นอันมากและวุฒิการศึกษาครูสูงที่สุดคือ วุฒิ ป.ม. (ประกาศนียบัตรประโยคครูมัธยม) ซึ่งเทียบเท่ากับอนุปริญญาเท่านั้น ทำให้เกิดความล้าหลังในอาชีพครู

อีกทั้งครู ป.ม. บางคนเมื่อศึกษาเพิ่มเติมสูงขึ้นได้ปริญญาทางด้านอื่นแล้วต่างลาออกไปประกอบอาชีพใหม่ที่เข้าใจว่ามีความก้าวหน้ามากกว่า ผู้บริหารในวงการศึกษาจึงได้มีการปรึกษาหารือและดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาตามลำดับ

โดย 'ดร. สาโรช บัวศรี' ถือเป็นบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้เข้าชี้แจงให้คณะรัฐบาลเข้าใจถึงเหตุและผลที่จะดำเนินการและสิ่งที่เกิดขึ้น หากให้สามารถเปิดสอนครูถึงระดับปริญญา และสามารถชี้แจงจนเข้าใจร่วมกันได้ ซึ่งในที่สุดที่ประชุมจึงได้มีมติยอมรับ และในที่สุดก็ผ่านพระราชบัญญัติวิทยาลัยวิชาการศึกษาได้ในปี พ.ศ. 2497

และได้มีการขยายวิทยาเขตไปสู่ภาคต่างๆ ทุกภาค โดยได้เปิดสอนแห่งเดียวในแต่ละภาค คือ ภาคเหนือเปิดที่พิษณุโลก (25 มกราคม พ.ศ. 2510) ภาคใต้ที่สงขลา (1 ตุลาคม พ.ศ. 2511) ภาคตะวันออกที่ชลบุรี (8 กรกฎาคม พ.ศ. 2498) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มหาสารคาม และกรุงเทพมหานครที่บางเขน (27 มีนาคม พ.ศ. 2512)

หลังจากนั้นในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2517 ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. 2517 ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นการรวมวิทยาลัยเขตทั้งหมด เป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และโอนสถานะไปสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย ซึ่งวิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลกนั้น จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาเขตหนึ่งของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 

โดยมีวิทยาเขตประสานมิตรเป็นศูนย์กลางการบริหารของมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับวิทยาลัยวิชาการการศึกษาอื่นๆ อีก 8 แห่ง การจัดการเรียนการสอนในสมัยนั้นเปิดสอนเพียง 5 คณะ คือ คณะศึกษาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ และบัณฑิตวิทยาลัย โดยสถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลกยังคงใช้สถานที่เดิมของวิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลก

เปิดสาเหตุ 32 ปี ความสัมพันธ์ไทย - ซาอุฯ แตกร้าว สู่มิตรภาพครั้งใหม่!!

พลันที่เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล ได้เผยแพร่กำหนดการการเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระหว่างวันที่ 25 - 26 ม.ค. ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีช อัลซะอูด (His Royal  Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย

ขณะที่สถานีโทรทัศน์อัล-อราบียา ของซาอุดีอาระเบีย รายงานว่านายกรัฐมนตรีของไทยจะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ในฐานะพระราชอาคันตุกะของมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย โดยพระองค์พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าเฝ้าฯ ในวันอังคารที่ 25 มกราคมนี้

ข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจทันที ทั้งในสังคมไทยและในเวทีโลก เพราะความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ซาอุดีอาระเบีย อยู่ในภาวะแตกร้าวยาวนานกว่า 30 ปี 

ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย เป็นภารกิจที่รัฐบาลหลายชุดของไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด

แต่ทว่า ไม่มีผลที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากนัก จนกระทั่งการดำเนินการเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมภายหลังการพบหารือ 3 ฝ่าย ในช่วงการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9-10 ตุลาคม 2559 ที่กรุงเทพระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เจ้าชายเคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลีฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรนในขณะนั้น และนายอาดิล บิน อะหมัด อัลณูบีร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียในขณะนั้น

หลังจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ยังได้พบกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ในช่วงการประชุมผู้นำจี 20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562

ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย ได้มีการพบหารือกันเป็นระยะๆ เพื่อหารือรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียตามคำเชิญของเจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนมกราคม 2563

การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของพล.อ.ประยุทธ์ในครั้งนี้ นับเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ หลังเกิดเหตุการกระทบความสัมพันธ์หลังเกิดกรณีคดีเพชรซาอุฯ สังหารนักการทูต และนักธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2532 ต่อเนื่องมาถึงปี2533 ทำให้ซาอุดีอาระเบีย ลดระดับความสัมพันธ์กับไทย โดยลดระดับตัวแทนทางการทูตเหลือแค่ระดับอุปทูต ห้ามชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาไทย และ ไม่ตรวจลงตราให้คนไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการไปมาหาสู่ระหว่างกัน และความร่วมมือที่สองประเทศมีอยู่เดิม โดยเฉพาะในด้านแรงงาน และการค้าและการลงทุน

ลุงกร้าว!! กำชับทำคดีบิ๊กไบค์ตรงไปตรงมา ยัน!!เรื่องนี้อยู่ที่คนไม่ใช่อยู่ที่กฎหมาย

(24 ม.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมาย กรณีนายกฯ มีความคิดเห็นอย่างไรต่อกรณีที่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ชนคุณหมอเสียชีวิต และในทางคดีได้กำชับตำรวจอย่างไรนั้น 

"บิ๊กตู่" ห่วงเฟกนิวส์โควิด-19 พุ่งสร้างความสับสนให้ประชาชน “เผย” ดีอีเอสเดินหน้าตรวจสอบรายวัน แก้ไขปัญหาจริงจัง เตือนประชาชน เลือกเชื่อ เลือกแชร์ และร่วมแจ้งเบาะแสข่าวปลอม  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ข่าวปลอม ซึ่งอาจสร้างความสับสน เข้าใจผิดให้กับสังคมกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยล่าสุด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ทำการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอม (ประจำสัปดาห์) ระหว่างวันที่ 14-20 ม.ค. 65 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมมีข้อความที่เข้ามาทั้งสิ้น 11,540,617 ข้อความ จากการคัดกรองมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 231 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 116 เรื่อง โดยเป็นข่าวเกี่ยวกับโควิด 21 เรื่อง ขณะที่ภาพรวมทั้ง แบ่งเป็น 4 กลุ่มข่าว ได้แก่ 1) กลุ่มนโยบายรัฐบาล/ข่าวสารทางราชการ 74 เรื่อง 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายอื่นๆ  29 เรื่อง 3) กลุ่มภัยพิบัติ 6 เรื่อง และ 4) กลุ่มเศรษฐกิจ 7 เรื่อง โดยในภาพรวมได้รับการตรวจสอบแล้ว 66 เรื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข่าวปลอมพบว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้รับผลตรวจสอบข่าวปลอมแล้ว 66 เรื่อง ซึ่งจำนวนกว่า 30 เรื่องเป็นข่าวจริง ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่จากการรณรงค์สร้างการรับรู้ของศูนย์ข่าวปลอม ทำให้ประชาชนรู้เท่าทันข่าวปลอมที่เผยแพร่บนโซเชียลมากขึ้น และตื่นตัวที่จะแจ้งเบาะแสมาให้เกิดการตรวจสอบ ทำให้สัดส่วนของข่าวจริงมีแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top