Tuesday, 3 June 2025
TheStatesTimes

'บก.ลายจุด' เห็นต่าง!! ใช้ศาลทหารตัดสินคดี 'น้องจูน' แนะควรใช้ศาลยุติธรรมพิจารณาคดี

'บก.ลายจุด' ชี้!! กรณีศาลทหารตัดสินคดี 'น้องจูน' ข้อพิพาทเป็นการกระทำของทหารแต่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึงขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย จี้ยกเลิกกฎอัยการศึก ใช้ศาลยุติธรรมเป็นกลไกในการพิจารณาคดี

วันนี้ (17 ธ.ค. 64) จากคดี “น้องจูน” หรือ น.ส.สุกฤตา สุภานิล ถูกอดีตสามีซึ่งเป็นทหาร ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส และศาลทหารเพิ่งมีคำตัดสินคดีเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญา ขณะที่อีก 2 ข้อหายกฟ้อง จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมในขณะนี้

“นายสมบัติ บุญงามอนงค์” หรือ “บก.ลายจุด” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แกนนำกลุ่มคาร์ม็อบ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าว ว่า…

Update กรณีศาลทหารและกฎอัยการศึก กรณีน้องจูน

ผมคิดว่ามีคำตอบในเรื่องนี้แล้ว โดยเราต้องปรับความเข้าใจใหม่อีกครั้ง

1.) พื้นที่สามร้อยยอดเป็นพื้นที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในระดับพื้นที่มานานแล้ว เหมือนกับหลายพื้นที่ในประเทศไทยที่ยังคงมีการประกาศกฎอัยการศึก น่าจะหลายสิบปีแล้วแต่ไม่ได้ยกเลิก

2.) ในธรรมนูญศาลทหาร หากเกิดข้อพิพาทระหว่างทหารด้วยกันต้องขึ้นศาลทหาร และหากเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกจะตัดสินโดยศาลเดียว ไม่มีการอุทธรณ์ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในภาวะสงคราม

3.) คำถามต่อไปคือ ข้อพิพาทดังกล่าวเป็นการกระทำของทหารก็จริง แต่ไม่ใช่กิจการทหารหรือเกี่ยวข้องกับความมั่นคงแต่ประการใด ประกอบกับพื้นที่ไม่มีเหตุภาวะสงครามหรือภาวะฉุกเฉินใด ๆ มานานหลายสิบปีแล้ว การบังคับใช้ พรบ.ธรรมนูญศาลทหาร ในกรณีนี้จึงขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายและขัดต่อข้อเท็จจริงแวดล้อม

“เสธ.ทบ.” ตรวจชายแดน ย้ำ ผบ.ทบ.ห่วงใยขบวนการผิดกฎหมายทั้งลักลอบเข้าเมือง และยาเสพติด ฉวยโอกาสช่วงปีใหม่กระทำผิด สั่งกำลังพลเพิ่มความเข้มข้นเป็น 10 เท่า 

พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดนที่อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบการลอบเข้าเมืองและขนสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติด สินค้า อาวุธร้ายแรง ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้กองทัพบกให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีนโยบายชัดเจนในการสนับสนุนการปฏิบัติการชายแดนให้การเผ้าระวังเป็นด่านหน้าให้ประเทศปลอดภัย ไม่มีการลักลอบเข้าเมือง ขนสินค้าผิดกฎหมาย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดอย่างเต็มกำลัง ให้สกัดกั้นทุกอย่างเพื่อไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาในประเทศ 

ทั้งนี้ นอกจากทหารบกแล้วยังมีการสนธิกำลังกับฝ่ายปกครอง และตำรวจตระเวนชายแดน  โดยในส่วนของกองทัพบกได้ส่งยุทโธปกรณ์เฝ้าระวัง อุปกรณ์เสริมในการร่วมปฏิบัติภารกิจที่ไม่ต้องใช้คน เช่น โดรน และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนสะดวกขึ้น เพราะปฏิบัติงานตลอดงาน 24 ชั่วโมง ด้วยความยากลำบากและเสียสละ 

ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่หยุดยาวต่อเนื่อง การปฏิบัติงานเพิ่มความเข้มงวดอย่างเต็มที่ เพราะในประเทศมีการเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ศบค.เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตการ ในขณะที่ชายแดนให้ความสำคัญในกระบวนการไม่นิ่งนอนใจ มีการกำหนดความถี่ของการเผ้าระวังมากขึ้น นำยุทโธปกรณ์ให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ การลาดตระเวนโดยยานพาหนะ และใช้อุปกรณ์ไร้คนขับ โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญจะทำงานร่วมกับงานการข่าวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างดี

'ไทยรักษา'​ ชี้!! โซเชียลไทยแขวะรถไฟมือสองญี่ปุ่นถี่ แต่อวยรถไฟลาว เพราะหวังแค่ดูถูกประเทศตัวเอง

เฟซบุ๊กเพจ​ ไทยรักษา​ ได้โพสต์ข้อความ​ ระบุว่า... 

เราจะอวยรถไฟลาว เพื่อมาดูถูกประเทศตัวเองไปเพื่ออะไร ?

ขอถามคนไทยทุกคนว่า ถ้าวันนี้!! ไทยไม่รับบริจาครถไฟมือสองของญี่ปุ่น แล้วเรามีรถไฟเหมือนที่ลาวใช้ คนไทยจะโอเคมั้ย .... 

รถไฟความเร็วสูงอะไร ! วิ่งได้แค่ 160 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ซึ่งมาตรฐานของรถไฟความเร็วสูงจริง ๆ​ คือ ใช้ความเร็วได้ตั้งแต่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป 

ถ้ารถไฟความเร็วสูงของไทย วิ่งได้แค่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแค่นี้ วันนี้คนไทยจะว่ายังไง ?  

การมีรถไฟของลาว ทำให้ลาวต้องกู้เงินจากจีนมาลงทุน จีนถือหุ้นกว่า 70% ส่วนลาวที่เป็นเจ้าของประเทศ กลับถือหุ้นแค่ 30% แถมยังต้องเอาเหมืองทอง 5 แห่ง ที่เป็นสมบัติของชาติ ไปค้ำประกันจีนไว้ด้วย

จับสัญญาณ ‘อุตตม’ พบปะ ‘สนธิรัตน์’ หลังยกความหวังอนาคตไทยมาถก

(17 ธ.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ภาพขณะนั่งจิบกาแฟแบบสบาย ๆ พูดคุยกับนายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมโพสต์ข้อความว่า “คุยกันหลายเรื่องครับ มุมมองของเราทั้ง 2 ยังคงเป็นเรื่องอนาคตประเทศไทย แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อ ๆ ไปนะครับ” #สนธิรัตน์

ต่อมา กลางดึกของวันที่ 16 ธ.ค. นายอุตตม ได้โพสต์ภาพอีกมุมหนึ่งที่มีการพูดคุยกับนายสนธิรัตน์ในวันนั้น พร้อมโพสต์ข้อความว่า “มาจิบกาแฟกันครับ... ก็ได้พูดคุยเรื่องอนาคตของประเทศ ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยคงคิดถึงเรื่องนี้กันมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ใกล้จะหมดปีแล้ว คิดว่าคนไทยต้องการเห็นโอกาสใหม่ ๆ ต้องการมีความหวัง และเมื่อมีความหวัง ทุกคนก็จะสามารถร่วมกันสร้างความหวังนั้นให้เป็นความจริง ผมคงมีเรื่องมาแลกเปลี่ยนกันหลังปีใหม่อย่างแน่นอนครับ”

นราธิวาส - “นิพนธ์” ร่วมคณะนายกฯ ลงยะลา - ปัตตานี ติดตามงานพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้ พร้อมประสาน ก.เกษตรฯ ขยายพันธุ์ปูทะเล

นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย , นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมคณะลงพื้นที่ติดตามงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในมิติงานสำคัญ

ได้แก่ การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ผ่านโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” การบริหารจัดการด้านความมั่นคง และชายแดน การบริหารจัดการนำการดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 และการเตรียมการภายหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมเชิงพื้นที่ในพื้นที่ รวมทั้งการติดตามการปฏิบัติราชการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ในโครงการ “การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” ภายใต้กรอบแนวทาง “1 ข้าราชการ ศอ.บต. 1 ครัวเรือนยากจน” พร้อมกันนี้ ได้มีการประชุมเกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ อีกด้วย 

ช่วงบ่ายลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการโครงการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมืองปูทะเลโลก ณ กลุ่มเลี้ยงปูดำทะล อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ตามกรอบแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดย ศอ.บต. ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรในพื้นที่ ในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาและส่งเสริมการเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่ ร่วมกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนรวมทั้งมีการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่

ในการนี้ นายนิพนธ์ ได้ประสานงานให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ได้ทำความตกลงกับท่านอธิการบดี มอ. ในการตกลงร่วมมือกันเพิ่มพันธุ์ปูทะเล ให้มากขึ้นกว่าปัจจุบันโดยกระทรวงเกษตรฯ พร้อมสนับสนุนงบประมาณ ในการขยายพันธุ์ปูทะเล

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวว่า สำหรับข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีความพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการของรัฐบาลทุกประการ ซึ่งผมเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถื่นและอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งทั้งสองกรม มีงบประมาณส่วนหนึ่งและบุคลากรเต็มที่ทุกตำบลทั่วประเทศสามารถสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดี โดยเฉพาะกรมการพัฒนาชุมชน มีตั้งแต่พัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอำเภอ และพัฒนากรตามอัตราครบทุกตำบลในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ อำเภอเทพา อำเภอจะนะ อำเภอสะบ้าย้อย พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน

 

'หมอยง' มอบทนายแจ้งหมิ่นประมาท หญิงลงคลิป วิจารณ์วัคซีนสูตรไขว้

“หมอยง” มอบทนายแจ้งหมิ่นประมาท!! หญิงลงคลิป วิจารณ์วัคซีนสูตรไขว้ ลง TikTok

จากกรณีมีหญิงอายุ 27 ปี ได้โพสต์คลิป TikTok พูดเสนอความเห็นในลักษณะหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือให้ข้อมูลอันเป็นที่กล่าวหาใส่ร้าย ศ.นพ.ยง จำนวน 2 คลิป

ล่าสุด “ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ” หรือ “หมอยง” ผู้เสียหาย ได้ตรวจสอบพบว่าคลิปที่โพสต์ใน TikTok พูดเสนอความเห็นในลักษณะหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือให้ข้อมูลอันเป็นที่กล่าวหาใส่ร้าย ศ.นพ.ยง จำนวน 2 คลิป จึงได้มอบอำนาจให้ นายพยง โชคชัยเสรี มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี

>> โดยคลิปที่ 1 เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 หลังจากที่มีการนำเสนอข่าว นพ.ยง รับอาสาสมัครฉีดไฟเซอร์-โมเดอร์นา เข็ม 3 แบบครึ่งโดสและเต็มโดส โดยหญิงวัย 27 ปี ได้โพสต์คลิปลง TikTok และวิพากษ์วิจารณ์ถึงสูตรใหม่ดังกล่าว ว่าคนใกล้ตัวเพิ่งเสียชีวิตจากวัคซีนสูตรไขว้ที่ ศ.นพ.ยง เป็นคนคิด พร้อมทั้งระบุว่าให้หยุดคิดวัคซีนสูตรไขว้ เนื่องจากได้รางวัลเยอะแล้ว

ทัพเรือมะกัน เดินตามกองทัพอากาศ เตรียมปลดทหาร ดื้อฉีดวัคซีน

กองทัพเรือสหรัฐฯ เตรียมปลดประจำการทหารที่ปฏิเสธฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไม่นานหลังจากกองทัพอากาศเพิ่งแถลงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่า จะไล่ออกกำลังพลที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

เมื่อวันพุธ (15 ธ.ค.) กองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุในอัปเดตคำแนะนำ ว่า ทหารเรือรายใดที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับฉีดวัคซีนจะถูกแยกตัวออกมา แต่กำลังพลรายใดที่เคยปฏิเสธฉีดวัคซีนก่อนหน้านี้ แต่เกิดเปลี่ยนใจจะสามารถประจำการในกองทัพได้ต่อไป

"เพื่อรับประกันฉีดวัคซีนเต็มรูปแบบ นโยบายของกองทัพเรือคือ ลำดับแรกเลยกองกำลังพลของกองทัพเรือทุกนายต้องฉีดวัคซีนตามคำสั่ง และกำลังพลรายใดก็ตามที่ปฏิเสธฉีดวัคซีนจะถูกดำเนินการแยกตัวออกมาในโอกาสที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พล.ร.ท.จอห์น บี โนเวลล์ จูเนียร์ หัวหน้าฝ่ายบุคลากรของกองทัพระบุ

จนถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพเรือยังมีกำลังพลที่ไม่ฉีดวัคซีน 5,731 นาย ในนั้น 2,705 นายได้ยื่นขอยกเว้นด้วยเหตุผลทางศาสนา แต่กองทัพยังไม่ได้อนุมัติคำร้องขอทบทวนข้อเรียกร้องขอยกเว้นด้วยเหตุผลทางศาสนาใด ๆ อย่างไรก็ตาม กำลังพลเหล่านี้จะยังไม่ถูกปลดประจำการระหว่างการยื่นคำร้อง

จากข้อมูลล่าสุด พบว่า กำลังพลของกองทัพเรือฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วหรือบางเข็มคิดเป็นสัดส่วนถึง 98% กองทัพเรืออนุมัติคำขอยกเว้นทางการแพทย์ไม่ฉีดวัคซีนแบบถาวรจำนวน 7 นาย ข้อยกเว้นทางการแพทย์แบบชั่วคราว 326 นาย และขอยกเว้นทางกฎหมาย 124 นาย

Gigafactory ฐานผลิตแบตฯ ใหญ่สุดในอาเซียน ภายใต้อภิมหาโปรเจกต์ล่าสุดของ EA

“วันนี้ประเทศไทยของเรา กำลังจะมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่าโรงงานแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา ถึง 1.4 เท่า ด้วยเงินลงทุนที่ถูกกว่า ก็ทำให้เราสามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ในราคาที่ถูกกว่า นั่นหมายความว่าเราก็จะส่งออกแบตเตอรี่นี้ออกไปต่างประเทศได้ ถ้าคนไทยทำได้จริง ๆ ทำไมคนไทยจะเป็นผู้ชนะบ้างไม่ได้”

นี่คือคำกล่าวของ ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้บุกเบิกและพัฒนาการนำ ‘พลังงานสะอาด’ หรือ ‘พลังงานทดแทน’ มาใช้ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายในประเทศไทย ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยพัฒนาแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย MINE Mobility ด้วยสโลแกน MISSION NO EMISSION ซึ่งไม่ได้มีแค่รถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ในปี 2564 นี้ แบรนด์ MINE ได้เปิดตัว MINE Smart Ferry เรือโดยสารไฟฟ้า สายแรกแห่งลำน้ำเจ้าพระยา ที่เป็นนวัตกรรมฝีมือคนไทย 100%

...และวันนี้ เขากำลังจะพาประเทศไทยเข้าไปสู่โอกาสใหม่แห่งอนาคต ภายใต้ Gigafactory โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ทันสมัย มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน!!

>> อนาคตประเทศไทย ภายใต้โรงงานผลิตแบตฯ สุดยิ่งใหญ่แห่งอาเซียน

12-12-2021 หรือวันที่ 12 เดือน 12 ที่ผ่านมา ได้กลายเป็นอีกหนึ่งวันที่ประเทศไทยต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อ EA ประกาศตอบสนอง New S-Curve ของประเทศไทย ด้วยการเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ทันสมัย มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ ‘อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย)’ ซึ่งจะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ (Bluetech City) กิจการของ EA ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา 

สมโภชน์ เล่าให้ฟังถึงเหตุผลของการตั้งโรงงานแห่งนี้ว่า...

โลกเราทุกวันนี้ ร้อนจนกระทั่งไม่รู้ว่ามนุษยชาติจะอยู่บนโลกนี้ได้หรือไม่ แต่บางคนก็ยังพูดว่าตอนนี้ น้ำมันถูก มีความจำเป็นอะไรที่เราต้องไปซื้อพลังงานทดแทนมาใช้ 

ฉะนั้นผมว่า วันนี้ไม่ใช่เรื่องของอะไรถูก อะไรแพง แต่มันจะเป็นเรื่องที่บอกว่า มนุษย์เราจะอยู่ต่อไปบนโลกนี้ได้อย่างไร

ปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ถูกลงเรื่อย ๆ ถูกจนกระทั่งสามารถผลิตออกมาได้ถูกกว่าการใช้น้ำมัน การใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งถ่านหินเสียอีก

แต่ปัญหามันมีอยู่ข้อเดียว คือ พลังงานทดแทน เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เวลาไม่มีแดด โซลาร์เซลล์ ก็ไม่ผลิตกระแสไฟฟ้า เวลาไม่มีลม กังหันลม ก็ไม่ผลิตกระแสไฟฟ้าเช่นกัน

แต่มนุษย์เรา ต้องการไฟฟ้าในเวลาที่เราต้องการ เมื่อกลับถึงบ้าน รู้สึกร้อน ใคร ๆ ก็อยากเปิดแอร์ เวลากลางคืน ทุกคนก็อยากมีไฟฟ้าใช้ แบตเตอรี่ก็จะทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าเวลาที่เราไม่ได้ใช้ และจะจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาเวลาที่เราต้องการ ถ้าเราสามารถทำขั้นตอนนี้ได้ถูกลง นั่นคือ เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งถ่านหิน

แน่นอนว่า บางคนบอกอาจจะบอกว่า แบตเตอรี่ ราคายังแพงอยู่ ไว้เดี๋ยวเวลาพลังงานชนิดนี้ถูก ค่อยไปผลิตเอามาใช้ก็ได้ รอก่อน แต่ผมมองว่าความคิดแบบนี้ทำให้เราเป็นผู้ตามเรื่อยไป และประเทศไทย ถ้ายังคิดแบบนี้ เราก็ยังต้องเป็นผู้ซื้อตลอดไป

ยิ่งไปกว่านั้น หากเราต้องการจะหลุดพ้นจาก Middle Income Trap เราไม่มีทางเลือกหรอกครับที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเราเองขึ้นมาให้ได้ เราต้องมีแรงของตัวเอง เพื่อเพิ่ม Value added หรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ เพื่อให้ประชาชน พี่น้องชาวไทย มีรายได้ที่ดีขึ้น ทำให้ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศหายไปได้

'สุริยะ' สั่งทบทวนกฎหมายโรงงาน เพิ่มโทษจำคุก!! ลักลอบทิ้งกาก ปล่อยน้ำเสีย ไม่ผ่านการบำบัด

กรมโรงงานอุตสาหกรรม ขานรับนโยบายรัฐมนตรีอุตฯ ยันเดินหน้าดูแลประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ ใครแอบลักลอบทิ้ง ถือเป็นอาชญากรทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ต้องได้รับโทษหนัก

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ทบทวนกฎหมายโรงงาน โดยให้เพิ่มโทษจำคุกพวกลักลอบทิ้งกากของเสียและแอบลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำลำคลองสาธารณะ ซึ่งเดิมมีเพียงแค่โทษปรับ ทำให้ผู้กระทำความผิดกล้าที่จะเสี่ยงทำโดยไม่ยำเกรงกฎหมาย ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อทั้งคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมทั่วบริเวณที่มีการลักลอบทิ้ง

นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรอ. ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องการลักลอบทิ้งกากของเสียและการปล่อยน้ำเสียโดยไม่ผ่านการบำบัดถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง แต่กฎหมายกำหนดโทษปรับสถานเดียวไม่เกิน 200,000 บาท ส่งผลให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย ประกอบกับโทษปรับมีอายุความในการดำเนินคดีเพียง 1 ปี กว่าจะมีการพิสูจน์หรือหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษบางครั้งก็ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากขาดอายุความ กรอ. จึงเร่งปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน โดยเพิ่มโทษผู้กระทำความผิด จากเดิมมีบทลงโทษเฉพาะโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท จะเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปีหน้า หลังจากผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และขั้นตอนทางกฎหมาย

‘ก.อุตฯ’ เปิดโรงงานผลิตแบตฯ ใหญ่สุดในอาเซียน เตรียมดันไทยสู่สังคมพลังงานสะอาดยั่งยืน

ไม่นานมานี้ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานพิธี เปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ทันสมัย มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุด ในภูมิภาคอาเซียน โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน, นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายกวิน ทังสุพานิช เลขานุการรัฐมนตรีพลังงาน, รองศาสตราจารย์ คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา, นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฉะเชิงเทรา พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธี

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียน-พลังงานไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงาน จะเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) และการนำพลังงานหมุนเวียนที่มีเสถียรภาพเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยได้ออกแบบให้โรงงานแห่งนี้ใช้ระบบที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังสามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการผลิตได้ง่ายขึ้น เพื่อตอบโจทย์เทคโนโลยีในอนาคต อีกทั้งโรงงานยังเน้นแนวคิดที่ใช้พลังงานในการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต มุ่งเน้นการรีไซเคิลในกระบวนการผลิตให้มากที่สุด โดยได้รับความร่วมมือจาก บริษัท อมิตา เทคโนโลยี อิงค์ (ไต้หวัน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในไต้หวันมากว่า 20 ปี

ทั้งนี้ กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ได้เข้าร่วมทุน ถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีในการสร้างโรงงานจนเป็นผลสำเร็จ ผ่านบริษัทย่อยภายใต้ ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่มากขึ้นในระดับ World Class เพื่อผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ชนิด Pouch Cell ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และวัสดุที่มีความปลอดภัยสูงในการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ให้สามารถจุพลังงานได้สูง มีน้ำหนักเบา มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่มีส่วนประกอบของสารที่เป็นอันตราย เช่น กรดหรือตะกั่ว และใช้เทคนิคพิเศษในการผลิตเซลล์ เมื่อหมดอายุการใช้งาน นำไปรีไซเคิล ด้วยการคัดแยกแผ่นขั้วบวกและขั้วลบได้ง่าย เพราะเป็นแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แบตเตอรี่ของอมิตายังออกแบบให้เข้ากันกับเทคโนโลยีแบบ Ultra-Fast Charge ที่รองรับการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ภายในเวลาเพียง 15 นาที พร้อมรองรับการชาร์จได้สูงถึง 3,000 รอบ ที่จะเป็นจุดเด่นสำหรับรองรับการใช้งานของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจัยเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top