Tuesday, 3 June 2025
TheStatesTimes

‘นรข.มุกดาหาร’ สนธิกำลัง!! เข้ายึดยานรกข้ามน้ำโขง เกือบ 2 แสนเม็ด!!

สถานีเรือมุกดาหาร จ.มุกดาหาร นายบุญเรือง เมฆฉิม รองผู้ว่าราชการจังหวัด พ.อ.วรพรต แก้ววิจิตร รอง ผอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร และ น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร หน.สน.เรือมุกดาหาร แถลงข่าวตรวจยึดยาบ้าจากขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติได้ร่วมสองแสนเม็ด

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข. ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบ สน.เรือมุกดาหาร บริเวณบ้านส้มป่อย ต.นาสีนวน อ.มุกดาหาร จ.มุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร หน.สน.เรือมุกดาหาร จัดชุดลาดตระเวนชุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบดังกล่าว

ตามข่าวที่ได้รับแจ้งมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ซุ่มอยู่ได้ตรวจพบว่ามีเรือกีบแล่นมาจากทางฝั่งแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เข้ามาจอดฝั่งประเทศไทย บริเวณริมตลิ่งบ้านส้มปอย ต.นาสีนวน ซึ่งอยู่ห่างจากจนท.ชุดปฏิบัติการที่ชุ่มอยู่ประมาณ 50 เมตร จากนั้นก็ได้โยนถุงกระสอบบรรจุสิ่งของขึ้นมาบนตลิ่งริมน้ำเสร็จแล้วก็รีบหันหัวเรือกลับขับไปฝั่งสปป.ลาว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้เฝ้าสังเกตต่อไปว่าจะมีใครมารับวัตถุสิ่งของดังกล่าวหรือไม่ จนกระทั่งเวลา 04.30 น. ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดแสดงตัวเข้ามาเอาถุงกระสอบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว

 

'พิมรี่พาย' แจ้งความ ถูกสาวปลอมใบวิชาชีพ สมัครเป็นหมอในคลินิกเสริมความงาม

จากกรณี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 ธ.ค. 64 แฟนเพจ Drama-addict โพสต์ข้อความอ้างว่า "พิมรี่พาย งานเข้ารอดูข่าวค่ำ ๆ คืนนี้ครับ เรื่องใหญ่มาก" ทั้งนี้ ทำให้ประเด็นดังกล่าวถูกพูดถึงเป็นจำนวนมากในโลกออนไลน์

ต่อมาในโลกออนไลน์ มีการแชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โดยระบุข้อความว่า "ขอชี้แจงนะคะ ดิฉัน นางสาวปิยนุช รัตนโกเศศ ชื่อเล่น หยก เลขประกอบวิชาชีพ...ไม่เคยทำงานที่ Est Cute clinic ของพิมรี่พาย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ตามที่โดนแอบอ้างชื่อไปใช้ในคลินิก ปัจจุบันอยู่ต่างประเทศมาเกือบ 7 เดือนแล้ว หากมีข้อผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นภายใต้การถูกแอบอ้างชื่อ ไม่ใช่ตัวดิฉันแน่นอนค่ะ"

ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ Aesthetics by Galderma Thailand โพสต์ข้อชี้แจงจากบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Restylane ในประเทศไทย ระบุว่า บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีชื่อทางการค้าว่า Restylane แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งทางบริษัทได้รับการสอบถามจากลูกค้าเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า บริษัท อิสคิวท์คลินิก สาขาห้วยขวาง ได้ดำเนินการซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด หรือไม่นั้น

ทางบริษัท ขอเรียนชี้แจงต่อท่านว่า บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบฐานข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และขอยืนยันว่า คลินิกที่ชื่อว่า อิสคิวท์คลินิก สาขาห้วยขวาง นั้น ไม่ได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านทางบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด แต่อย่างใด

'ราเมศ' แจง 'ปชป' คิดดีทำดีเพื่อชาวกรุงเทพ ทุกฝ่ายควรคิดเพื่อบ้านเมือง หยุดสร้างวาทะนำขัดแย้ง 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึง กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้ออกมากล่าวถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้ผู้สมัครในนามพรรคทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานครยาวนานที่สุด ระยะเวลาและผลงานคือคำตอบที่ดีที่สุด ทุกครั้งพรรคจะเตรียมความพร้อมในทุกเรื่องอย่างเต็มที่ เรื่มต้นที่นโยบายที่คิดและทำเพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร การคัดเลือกผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถและเข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างลึกซึ้งแท้จริง คือสาระสำคัญที่สุด 

การเมืองยุคนี้ควรหยุดวาทะที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ทางที่ดีที่สุดคือ ผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทำหน้าแทนประชาชนกรุงเทพ ควรแสดงให้เห็นถึงสาระของนโยบายว่าจะทำสิ่งใดให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

นายราเมศกล่าวต่อว่า การที่พรรคได้เลือก ดร สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ เชื่อว่าปัจจุบันนี้ด้วยวิวัฒนาการทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยี การได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้กรุงเทพมหานครมีความเจริญรุ่งเรื่องในทุกด้าน ย่อมเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องชาวกรุงเทพอย่างแน่นอน และพรรคประชาธิปัตย์ก็คือคำตอบที่ทำให้ ดร สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เลือกลงในนามพรรค 

'ศ.ดร.กนก' บี้ 'สตง.' ปรับบทบาท สอบบัญชี-งบการเงิน คู่ขนาน สอบยุทธศาสตร์หน่วยงาน บรรลุผลหรือไม่  ยก กสทช. ยังไม่ชัด วางบทบาทไทยไว้ตรงไหน ท่ามกลางเทคโนโลยีใหม่ หวั่น กระทบความมั่นคงชาติ 

ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังรับทราบผลการตรวจสอบงบการเงินของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ที่ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ที่รายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร พบว่า สตง.ยังไม่ได้วางแนวทางการประเมินที่ตรงกับยุทธศาสตร์หน้าที่ของ กสทช. เนื่องจากผลการปฏิบัติงานของ กสทช.อาจยังไม่ตอบโจทย์หน้าที่ที่พึงทำทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาผลประโยชน์ประเทศด้านความมั่นคงและผลประโยชน์ของประชาชนด้านบริการ ที่สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น ขณะที่เทคโนโลยีสื่อสารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เข้าสู่ 5 จี วีอาร์ เมตาเวิร์ส ต้องใช้เทคโนโลยีดาวเทียมต่ำ หรือระยะสั้น

ส่วนดาวเทียมระยะไกล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในอดีตนั้น กำลังค่อย ๆ ลดบทบาทลง ดังนั้นเพื่อความมั่นคงของชาติ เทคโนโลยีระยะใกล้นี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า กสทช.จะวางตำแหน่งของไทยไว้ตรงไหน ถ้าไม่ชัดเจนประเทศจะอยู่ในความมืด มองไม่เห็นว่าสุดท้าย 5 จีจะเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ สตง.ต้องตั้งคำถามเพื่อให้ กสทช.ตอบ เพราะจะกระทบกับการทำงานของ กสทช.โดยตรงต่ออนาคตของกสทช. เช่น สัมปทานดาวเทียมระยะไกล ระยะใกล้ จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการแข่งขันมากขึ้น ไม่ใช่การผูกขาด สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่าการปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบ กติกา

เปิดใจ ‘เอ้ สุชัชวีร์’ ศึกชิงผู้ว่ากทม.! | Click on Clear THE TOPIC EP.110

📌เปิดอกหมดเปลือก!! ไปกับ ‘ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์’ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์!!

📌ใน Topic : เปิดใจ ‘เอ้ สุชัชวีร์’ ศึกชิงผู้ว่ากทม.!

จับประเด็น เน้นความรู้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

“ดร.พิสิฐ” ติง "สตง" ตรวจงบรายงานงบการเงิน กสทช. ล่าช้าถึง 3 ปี แนะให้องค์กรต้องโปร่งใส  หลังพบจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีตกลงราคาเป็นส่วนใหญ่

ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในวาระรับทราบการแจ้งผลการตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 และการตรวจสอบการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินสำหรับปี 2561 ของ สนง. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 

โดยระบุว่า ขอบคุณ สตง. ที่รับเป็นเจ้าภาพในการชี้แจง ซึ่งการมาชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ตนอยากให้ คกก. กสทช. ซึ่งควรเป็นผู้รับผิดชอบผลการดำเนินงานกสทชเป็นผู้มาชี้แจงมากกว่า เพราะงบการเงินนี้เป็นเรื่องของหน่วยงาน และ สตง. ทำหน้าที่เป็นผู้ประเมิน แต่งานเป็นของ คกก. กสทช. ทั้ง 7 ท่าน ดังนั้นในครั้งต่อไปขอเสนอให้มี คกก. กสทช. มาร่วมเป็นผู้ชี้แจงด้วย 

ในการทำหน้าที่ของ สตง. ตามมาตรา 69 นั้น ตนยอมรับว่า สตง. ทำหน้าที่เป็นนักบัญชี และตรวจการใช้เงินตามตัวหนังสือ แต่เจตนารมณ์ของผู้ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการให้วิเคราะห์ประสิทธิผล กสทช นั้น น่าจะมองมากไปกว่านั้น และควรต้องการให้ดูว่า เมื่อมีการตั้ง กสทช. ขึ้นแล้ว ได้ทำประโยชน์ให้ประเทศอย่างไรในเรื่องการเสริมสร้างให้มีเทคโนโลยี ดิจิทัลเกิดขึ้นในประเทศ โดยเฉพาะการดูแลตลาดให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง อีกด้านหนึ่งคือดูแลให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะในที่ห่างไกลสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ดังนั้นตนจึงอยากให้มีการประเมินว่า กสทช. ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์เหล่านี้หรือไม่ จะได้มีการทุ่มเทการทำงานให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้

ด้วยเหตุนี้ ดร.พิสิฐ จึงอยากเห็นเอกสารฉบับนี้รายงานถึงเทคโนโลยี ดิจิทัล ทางด้านสื่อสารว่า ประเทศไทยทุกวันนี้มีความก้าวหน้า หรือล้าหลังตรงไหนอย่างไรบ้าง อยากให้มีการประเมินว่า สิ่งที่ กสทช. ทำไปแล้วประชาชนได้ประโยชน์อย่างไรโดยตรง มีกี่หมู่บ้าน กี่ครัวเรือน ประชาชนกี่คนมีโอกาสได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต เข้าถึงระบบโทรคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียน และสถานศึกษา

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่กฎหมายฉบับนี้ตราขึ้นมา 10 ปีเศษ ได้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดโควิด ทำให้ต้องเวิร์คฟรอมโฮม หรือทำงานจากบ้าน และจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หรือการสื่อสารมาช่วย  จึงอยากให้มีรายงานในเรื่องดังกล่าว ในการเขียนรายงาน ขอให้ดูตัวอย่างรายงานของ สสส. เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน การใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีอย่างไร ซึ่งเป็นการทำรายงานที่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นไปตามเป้าหมายของกฎหมาย สสส

“ดร.พิสิฐ” ขอให้คลังจัดหมวดหมู่กองทุนหมุนเวียนให้รวมเฉพาะส่วนที่เป็นงานของราชการ เพื่อความโปร่งใสทางการคลัง

ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในวาระรับทราบรายงานผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562 ว่า กองทุนต่างๆ ที่มีอยู่ 115 กองทุนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบการคลัง และเป็นส่วนเสริมของระบบงบประมาณแผ่นดิน  ซึ่งมีวงเงินประมาณ 3 ล้านล้านบาทต่อปี แต่ยอดรวมกองทุนที่รวบรวมมานำเสนอนี้ มีตัวเลขที่สูงถึงกว่า4 ล้านล้านบาท ดูประหนึ่งว่าเงินในกองทุนเหล่านี้มีมากมายมหาศาล และเป็นที่เพ่งเล็งกันว่าน่าจะนำมาใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ทางการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่านี้ 

ดร.พิสิฐ ชี้ว่า ตัวเลขที่ได้รวบรวมมาเสนอต่อสภานี้ แม้ได้ทำไปตามกฎหมายกองทุน ที่จะต้องนำเสนอภาพรวมต่อครมและสภา แต่หากทำในลักษณะนี้จะทำให้เกิดความไขว้เขวว่าเรามีเงินเยอะ ความจริงแล้วในบรรดา 4 ล้านล้านบาทที่ปรากฎในรายงาน กว่าครึ่งหนึ่งเป็นของกองทุนประกันสังคม ซึ่งเงินกองทุนประกันสังคมก็เป็นเงินของลูกจ้างที่ได้จ่ายสะสมและนายจ้าง กับรัฐได้จ่ายสมทบให้ทำให้เงินกว่าครึ่งหนึ่งหรือสองล้านล้านบาทเราจะไปแตะต้องไม่ได้ และไม่ควรนำมารวมอยู่ในรูปของกองทุนณ ที่นี้ นอกจากนี้ยังเงิน กองทุน กบข. ก็เป็นเงินออมของข้าราชการที่สะสมเก็บเพื่อใช้ยามเกษียณ มียอดเกือบ1 ล้านล้านบาท ก็เป็นอีกก้อนหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า จากยอด 4 ล้านล้านบาทที่ได้รวบรวมมา มีถึง 3 ใน 4 ที่ไม่ใช่เงินของรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นเงินที่มีกฎหมายรองรับอยู่ว่าเป็นของผู้อื่น ยังมีเงินกองทุนที่มีจำนวนเงินไม่มาก ตัวอย่างเช่นกองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาเป็นต้นก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน

แม้กระทั่งเงินที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลต่างๆเช่น เงินกองทุนน้ำมัน ที่มีกว่า 4 หมื่นล้านบาท ที่ฝากไว้ที่กระทรวงการคลัง และกระทรวงการคลังเก็บเป็นส่วนหนึ่งของเงินคงคลัง ก็เป็นอีกก้อนหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ เพราะมีกฎหมายบังคับเฉพาะอยู่แล้วว่าไม่อาจใช้เพื่อการอื่นได้ แต่ใช้เพื่อพยุงราคาน้ำมันเท่านั้น 

ดังนั้น ดร.พิสิฐ จึงได้เน้นถึงเรื่องการแยะแยะเงินเหล่านี้ โดยจัดหมวดหมู่ของกองทุนต่างๆให้ชัดเจน 
แต่ที่คลังได้จัดหมวดหมู่มา 5-6 ประเภทในรายงานนั้น ไม่น่าจะเกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์ หรือประเมินภาพรวมเงินกองทุนตามเจตนารมย์ของกฎหมายกองทุนควรเลือกเฉพาะกองทุนที่มีลักษณะคล้ายกับงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินคือมีแหล่งรายได้หลักมาจากรัฐบาล หรือเป็นรายได้ที่รัฐบาลกำหนดให้ และเป็นงานที่มีลักษณะส่งเสริมสนับสนุนนโยบายส่วนกองทุนอย่าง กองทุนประกันสังคม กองทุน กบข. ที่มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว มีเจ้าของเงินชัดเจนก็จะต้องจัดไว้อีกหมวดหมู่หนึ่ง เพราะถือว่ามีลักษณะเชานเดียวกับรัฐวิสาหกิจที่มีเงินมาก แต่แยกตัวออกไปไม่ใช่กองทุน ซึ่งหากได้จะจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจนตามที่เสนอนี้ เราก็จะได้ประโยชน์ มีความชัดเจนโปร่งใส ได้ข้อมูลเงินนอกงบประมาณที่ช่วยนำมาใช้วิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายและหนี้สินทรัพย์สินในะบบการคลังได้

ทุกวันนี้มีปัญหาว่า จะมีความพยายามใช้เงินในระบบงบประมาณแผ่นดิน แต่เมื่อจ่ายไปแล้ว เงินอาจไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่อาจจะไปจมอยู่ในกองทุนต่างๆ และไม่ออกไปนอกระบบการคลังทำให้กองทุนเหล่านี้กลายเป็นบ่อพักของเงินงบประมาณแผ่นดิน และไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการใช้จ่ายของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน หากจะวิเคราะห์ลึกลงไป ก็พบว่ายังมีเงินอีกหลายประเภทที่มีลักษณะคล้ายเงินกองทุนดังกล่าว เช่น เงินทุนหมุนเวียนในหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมๆว่าเงินนอกงบประมาณ จะมีวิธีการใดหรือไม่ที่จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ให้มาแสดงภาพรวมด้วยกัน เพื่อจะได้เห็นว่าเงินแผ่นดินเหล่านั้นมีจำนวนเท่าใด  เช่น เงินที่เกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยต่างๆ โรงเรียนต่างๆ ของรัฐได้จากค่าเล่าเรียนที่เป็นเงินนอกงบประมาณ ซึ่งต้องถือว่าเป็นบัญชีเงินทุนหมุนเวียนเช่นกัน 

โฆษกรัฐบาล เผย ตร. รับลูกข้อสั่งการ “นายกฯ” จัดกำลังตำรวจอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินช่วงเทศกาลปีใหม่ กว่า 80,000 นายทั่วประเทศ คาดมีรถเข้า-ออก กทม. ช่วงสิ้นปีกว่า 7 ล้านคัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีดำริให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ กว่า 80,000 นาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีปริมาณรถเข้า-ออก กทม.ในช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 64 – 4 ม.ค. 65 เป็นจำนวนมากกว่า 7 ล้านคัน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เตรียมความพร้อมกำหนดนโยบายด้านการจราจรอาทิ 1.การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร จัดทำแผนที่แสดงเส้นทางสำรอง เส้นทางเลี่ยง และเส้นทางลัด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งคืนพื้นผิวจราจรให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 25 ธ.ค. 64 

2. บริการห้องพักฟรีทั่วไทย จากตำรวจทางหลวง สำหรับให้ประชาชนแวะพัก บริการเครื่องดื่มและขนม ห้องน้ำ 
3.การออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร 2 ฉบับ ได้แก่ ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดช่อง หรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่อง ขาออก กทม. 9 เส้นทาง และข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนนบางสาย
4. การบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน โดยจะใช้วิธีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามมาตรฐาน (Standard Operation Procedure) รวมถึงการใช้ชุดสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือมีสถิติการกระทำผิดบ่อยครั้ง และ5.มาตรการเพื่อป้องกันก่อนเกิดเหตุ โดยให้ทุกสถานีตำรวจจัดทำฐานข้อมูลบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ ได้แก่ บัญชีบุคคลเสี่ยง บัญชีร้านค้าเสี่ยง และ บัญชีกิจกรรมเสี่ยง

 “ราเมศ”แจงปชป.เลือก “ดร.เอ้”ลงผู้ว่าฯกทม.เหมาะสมที่สุด ชี้ทุกฝ่ายควรคิดเพื่อบ้านเมือง หมดเวลาสร้างวาทะโจมตีกันแล้ว เชื่อคนกรุงอยากเห็นการต่อสู้ด้วยนโยบาย 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมากล่าวถึงการเปิดตัวนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ว่านโยบายดีแต่อยู่ผิดพรรค ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้ผู้สมัครในนามพรรคทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ยาวนานที่สุด ระยะเวลาและผลงานคือคำตอบที่ดีที่สุด ทุกครั้งพรรคจะเตรียมความพร้อมในทุกเรื่องอย่างเต็มที่ เริ่มต้นที่นโยบายที่คิดและทำเพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ การคัดเลือกผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถและเข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างลึกซึ้งแท้จริง คือสาระสำคัญที่สุด ดังนั้นการเมืองยุคนี้ควรหยุดวาทะที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ทางที่ดีที่สุดคือ ผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทำหน้าแทนประชาชนกรุงเทพฯ ควรแสดงให้เห็นถึงสาระของนโยบายว่าจะทำสิ่งใดให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

นายราเมศกล่าวต่อว่า การที่พรรคได้เลือก นายสุชัชวีร์ เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ เชื่อว่าปัจจุบันนี้ด้วยวิวัฒนาการทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยี การได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้กรุงเทพฯมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน ย่อมเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯอย่างแน่นอน และพรรคประชาธิปัตย์ก็คือคำตอบที่ทำให้ นายสุชัชวีร์ เลือกลงในนามพรรค และพี่น้องชาวกทม.จะเป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อได้รับทราบถึงแนวคิด นโยบาย ความรู้ความสามารถและสามารถมองเห็นความหวังได้ในวันข้างหน้าประชาชนจะเป็นคนตอบผ่านกระบวนการเลือกตั้ง

รัฐชง​ครม. เยียวยาคนกลางคืน​ รายละ 5 พัน 1.2​ แสนคน​ ลุ้น!! เห็นชอบ พร้อมโอน 29 ธ.ค.นี้ 

"คนกลางคืน-อาชีพอิสระ" เฮ! "ประกันสังคม" เตรียมจ่ายเยียวยา "ม.40" รายละ 5 พัน รอบแรก 1.2 แสนคน ชง “ครม.” เห็นชอบ พร้อมโอน 29 ธ.ค.นี้ ฉลองปีใหม่

เมื่อ​ 16 ธ.ค. 64 ที่อาคารอเนกประสงค์ สำนักงานประกันสังคม (สำนักงานใหญ่) จ.นนทบุรี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พร้อมด้วย นางสุดา ชื่นบาน อุปนายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย นายฝอยทอง เชิญยิ้ม นายกสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย นางนัฐชา นาโค เลขาชมรมศิลปินและบันเทิง และผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม เข้าร่วมงานแถลงข่าวมาตราการเยียวยาประกันสังคมมาตรา 40 (ม.40) อาชีพอิสระ คนกลางคืน

นายบุญสงค์ กล่าวว่า การประชุมหารือในวันนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของรัฐบาล โดยกระทรวงแรงงาน ที่เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้อง ผู้ที่ทำงานในกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับจากมาตรการของรัฐในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top