Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

“โฆษกกองทอ.”  แจงกรณีเครื่องบินกองทัพอากาศประสบอุบัติขณะปฏิบัติภารกิจฝึกบิน

พล.อ.ต.ประภาส  สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 11.00 น. มีรายงานเครื่องบินขับไล่แบบที่ 18 (F-5) สังกัดฝูงบิน 211 กองบิน 21 ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติภารกิจการบินยุทธวิธีประยุกต์ ณ บริเวณสนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี 

จากการตรวจสอบพบว่าเครื่องบินดังกล่าว เป็นหมายเลข 1 ของหมู่บิน 4 ประสบอุบัติเหตุขณะทำการบินเดินทางต่ำด้วยหมู่บินยุทธวิธี มีนักบินทำการบิน จำนวน 1 คน สามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินได้รับบาดเจ็บ อยู่ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลชัยบาดาล

ขณะนี้ผู้บัญชาการทหารอากาศได้รับรายงานแล้ว และมีความห่วงใยนักบินที่ได้รับบาดเจ็บและได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุกองทัพอากาศ เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบความเสียหายและสาเหตุต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุ พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี ประจำปี 2564 ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี เป็นกิจกรรมที่กองทัพอากาศจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยได้พัฒนาปรับปรุงรูปแบบจากการแข่งขันใช้อาวุธทางอากาศในอดีต ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของกองทัพอากาศทั่วโลก เป็นการทดสอบและประเมินขีดความสามารถการใช้อาวุธ และการปฏิบัติภารกิจของนักบิน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นรายบุคคล หมู่บิน ฝูงบิน หรือหน่วยรบ โดยในปัจจุบันได้เพิ่มเติมรูปแบบให้สอดคล้องครอบคลุมภารกิจของกองทัพอากาศมากยิ่งขึ้น ทั้งการปฏิบัติการทางทหาร และการปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากสงคราม 

‘บก.ลายจุด’ เผย!! ความเกลียดชังไม่ใช่มรดก อย่าถ่ายโอนส่งต่อจากรุ่นพ่อถึงรุ่นลูก

‘บก.ลายจุด’ สมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ดูเหมือนจะเป็นอีกคนที่ทนกับพฤติกรรมของกลุ่มคนที่เหยียด ‘น้องลูกหนัง’ ศีตลา วงษ์กระจ่าง ลูกสาวฝาแฝดผู้น้อง ของอดีตพระเอกรุ่นใหญ่ ‘พี่ตั้ว’ ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ผู้ล่วงลับ และเปิ้ล หัทยา โดยโพสต์เฟซบุ๊กยกประสบการณ์ตรงของตัวเองในประเด็น ‘เมื่อศัตรูไล่ล่าลูกสาวผม’ สะท้อนถึงความเลวร้ายจากคนที่ไม่ยอมรับความเห็นต่างทางความคิดไว้ว่า... 

เมื่อศัตรูไล่ล่าลูกสาวของผม

ผมไม่แน่ใจว่าเขาเป็นศัตรูของผมหรือเปล่า แต่พวกเขามองผมเป็นศัตรู เพียงแค่ผมยืนอยู่คนละฝั่งกับความคิดทางการเมืองของพวกเขา ผมคือเป้าหมายที่ต้องถูกทำลาย และไม่เพียงเฉพาะผมแต่หมายถึงองค์กรที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้คนพวกเขาก็ยังอยากเห็นมันล่มสลายไปด้วย (เรื่องนี้ยาวขอยังไม่เล่า)

แต่ผมไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันจะนำไปสู่ความเกลียดชังถึงลูกสาวของผม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเยาวชนคนหนึ่ง 

วันหนึ่งมีคนทำใบปลิวโจมตีลูกสาวผมแจกอยู่ที่หน้าสวนหลวง ร.9 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของลูกสาวที่กรุงเทพ มีจิตแพทย์เด็กที่มีความเห็นต่างทางการเมืองกับผมเขียนบทความตำหนิสั่งสอนลูกสาวผมอย่างเจ็บแสบ และมีอีกหลายกรณีที่ผมขอไม่เอ่ยถึง 

น้ำท่วม-น้ำมันแพง ทำเงินเฟ้อ พ.ย.พุ่ง 2.71% จับตาโอไมครอนปลายปี

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ เดือนพ.ย.2564 ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือเงินเฟ้อทั่วไป เดือนพ.ย 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น 2.71 จาก 2.38% ในเดือนก่อน ตามการสูงขึ้นของราคาน้ำมัน รวมถึงราคาผักสด ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่นเดียวกับเนื้อสุกร อาหารบริโภคในบ้าน-นอกบ้าน และเครื่องประกอบอาหาร ราคาปรับสูงขึ้นตามต้นทุน สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง อาทิ ข้าวสาร ไก่สด ผลไม้สด เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (น้ำดื่มบริสุทธิ์ กาแฟผงสำเร็จรูป) และเสื้อผ้า ส่วนสินค้าอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ปกติ สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและกลไกของตลาดในปัจจุบัน

“เงินเฟ้อในเดือนนี้ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งมาตรการด้านการท่องเที่ยว และมาตรการสนับสนุนให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ในประเทศ ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมและกำลังซื้อของประชาชนปรับตัวดีขึ้น”

ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อในเดือนธ.ค. 2564 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูงและมีทิศทางเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและค่าขนส่ง ส่วนราคาสินค้าในกลุ่มอาหารมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการ ปริมาณผลผลิต ต้นทุนและวัตถุดิบ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในหลากหลายรูปแบบที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และระบบเศรษฐกิจในภาพรวม

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ จัดพิธีบำเพ็ญกุศล ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้และเพื่อเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดี และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

พลตำรวจเอก สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน และพิธีตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ (5 ธ.ค. 64)

ประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ร่วมงาน"วันคนพิการสากล" 3 ธันวาคม ของทุกปี

ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) "อาจารย์ชูศักดิ์ จันทยานนท์ " เป็นตัวแทนคนพิการประเทศไทย อ่านสาสน์งาน "วันคนพิการสากล" ประจำปี 2564 มีใจความว่า

ขอขอบคุณ  "นายจุติ ไกรฤกษ์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะที่มุ่งมั่นตั้งใจ ขับเคลื่อนงานคนพิการโดยเฉพาะในช่วงภาวะวิกฤติโควิต เราทำงานเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นจุดเน้นที่ "องค์การสหประชาติ" กำหนดว่างานด้านคนพิการขอให้คนพิการร่วมนำการเปลี่ยนแปลงเพื่อการเข้าถึงโดยสะดวกถ้วนหน้า หลังโลกใหม่หลัง โควิด 19   โดยเฉพาะประเด็น ร่วมนำ (leadership ) การมีส่วนร่วม (paticipation) การเป็นหุ้นส่วน (Inclusive) การเข้าถึง (acceibility)และความยั่งยืน ( substanable)ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับประเทศไทย เพราะ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กับองค์กรคนพิการทำงานร่วมมือกันเป็นอย่างดี มีการออกมาตราต่างๆในการช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาคนพิการอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี “สวัสดิการเบี้ยความพิการถ้วนหน้า” อีกด้วย

ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
ชูศักดิ์ จันทยานนท์
นายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย

อนาคต ‘หัวลำโพง’!! ต้องเดินหน้าด้วยการแปลง ‘คุณค่า’ เป็น ‘มูลค่า’ และเข้าใจผู้ใช้บริการ

กรณีที่สังคมไทยวิพากษ์เรื่องทิศทางในอนาคตของหัวลำโพง ค่อนข้างจะเป็นประเด็นร้อน แต่ทั้งนี้เราอาจสรุปสั้น ๆ ได้ว่า “ไม่ทุบ แต่ปิดตัว” คือไม่มีการทุบทำลายหัวลำโพงตามที่มีข่าวลือออกมา

แต่อีกด้านคือ มีการยุติการเดินรถไฟเข้าที่สถานีหัวลำโพง และจะปรับหัวลำโพงเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่ทราบว่าหัวลำโพงที่ถูกปรับเป็นพิพิธภัณฑ์จะมีหน้าตาอย่างไร

>> แผนลงทุนและปลดหนี้ของการรถไฟ
หากเรานำแผนการพัฒนาระบบคมนาคมมากางดู จะเห็นว่ารัฐบาลได้ย้ายศูนย์กลางคมนาคมทางราง จากหัวลำโพงไปยังสถานีบางซื่อ ซึ่งจะเป็นจุดที่มีทั้งรถไฟชานเมือง (Commuter) รถไฟในเมือง (Metro) และรถไฟทางไกล/เชื่อมเมือง (Long Distance / Intercity) และรถไฟความเร็วสูง (High Speed Train) ในขณะที่หัวลำโพงจะกลายเป็นแค่สถานีหนึ่งในโครงข่ายทั้งหมดเท่านั้น 

และเนื่องจากการรถไฟฯ เป็นหนึ่งในองค์กรภาครัฐที่มีหนี้สินจากการให้บริการสาธารณะมากที่สุด โดยภาระหนี้ของรถไฟที่ขาดทุนสะสมต่อเนื่องอยู่ที่ 150,000 - 160,000 ล้านบาท ทำให้เมื่อกันยายน ปี 2563 การรถไฟฯ ได้ตั้งบริษัทบริหารลูกมาเพื่อทรัพย์สิน ด้วยเหตุนี้ การรถไฟฯ จึงมีแผนจะนำเอาหัวลำโพงไปทำเป็นพิพิธภัณฑ์ และนำพื้นที่ของการรถไฟบางส่วน ให้เอกชนมาลงทุนเชิงพาณิชย์ เพื่อหาเงินเข้าการรถไฟฯ

โดยตามแผนภายใน 30 ปี พบว่า จะมีรายได้เข้ามารวม 800,000 ล้านบาท โดยในปีแรกจะอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท และปีที่ 5 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาการขาดทุนสะสมต่อเนื่องได้

ซึ่งก็ถือเป็นแผนที่ดี ที่หน่วยงานภาครัฐตั้งใจจะแก้ไขปัญหาขาดทุนสะสม และหาเงินสำหรับมาใช้พัฒนาองค์กรและบริการสาธารณะให้ดีขึ้นในอนาคต และก็คงไม่มีใครคัดค้าน หากว่าการรถไฟไม่มีแผนจะมีการหยุดการเดินรถเข้ามาที่สถานีหัวลำโพง

>> ความเดือดร้อนของประชาชน
ตามแผนพัฒนาระบบคมนาคม สถานีรถไฟบางซื่อ-หัวลำโพง จะมีการเชื่อมกันอย่างแน่นอน โดยจะวิ่งผ่านสามเสนลงมายังหัวลำโพง แต่ปัจจุบันแม้จะใกล้สิ้นปี 2564 แล้ว โครงการนี้ยังอยู่ในช่วงของการเริ่มประมูลเท่านั้น กว่าจะประมูลจบและเริ่มก่อสร้างก็คงใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 4-5 ปี

ในขณะที่ถ้ายกเลิกการเดินรถเข้าหัวลำโพง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้โดยสารเดิมที่จะเข้ามาที่หัวลำโพง ต้องลงที่สถานีบางซื่อ แล้วต่อรถเข้าไปแถวหัวลำโพงอีก หากเดินทางด้วย MRT อย่างน้อยก็ 42 บาท หรือต้องต่อรถเมล์-รถตู้ ซึ่งจะทำให้พวกเขามีค่าใช้จ่ายประจำวันเพิ่มขึ้น และคนที่ใช้บริการรถไฟแบบเช้า-เย็น ส่วนมากเป็น ‘ผู้มีรายได้น้อย’ ที่อาจมีการเพิ่มต้นทุนชีวิตเข้ามาอีกเกือบ 90 บาทต่อวันสำหรับพวกเขาถือเป็นเรื่องที่หนักหนามาก 

หมายความว่าพวกเขาต้องรออีก 4-5 ปีให้ส่วน missing link บางซื่อ-สามเสน-หัวลำโพง เสร็จสิ้น แถมเมื่อเสร็จแล้วก็ไม่รู้ว่าค่าเดินทางจะเป็นเท่าไร ซึ่งถ้าเทียบกับรถไฟชั้น 2-3 ซึ่งมีค่าเดินทางที่ประหยัดกว่า ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนัก

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่กระทบต่อประชาชนโดยตรง และทำให้มีแรงต้านจากสังคมอย่างรุนแรง จนทำให้นายกรัฐมนตรีต้องออกคำสั่งให้มีการทบทวนแนวทางของการรถไฟ ที่จะยุติการเดินรถเข้ามาที่สถานีหัวลำโพงเสียใหม่ โดยให้มีการฟังเสียงสะท้อนของประชาชนให้รอบด้านเสียก่อน

>> แนวทางการพัฒนาที่สังคมคาดหวัง
นอกจากประเด็นเรื่องการคมนาคมแล้ว ปัญหาอีกอย่างที่ทำให้สังคมวิจารณ์กันมากในเรื่องหัวลำโพงก็คือ ภาพจำลอง 3 มิติที่ถูกเผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็นถึงตึกสูงซึ่งถูกสร้างในที่ดินด้านหลังอาคารหัวลำโพง ที่การเลือกมุมภาพ ทำให้รู้สึกเหมือนตึกที่ถูกสร้างใหม่นั้นไปข่มความสำคัญของอาคารหัวลำโพงเดิมลง

ในขณะที่เมื่อลองดูกรณีศึกษาในต่างประเทศที่มีการนำสถานีรถไฟเก่าไปปรับปรุงหรือเปลี่ยนการใช้งานเป็นพิพิธภัณฑ์ เช่น กรณี Musée d'Orsay ที่อยู่ในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีเปลี่ยนสถานีรถไฟเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี (เช่นเดียวกับหัวลำโพง) ไปเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ หรือ Art Gallery

ภาพสถานีรถไฟ Orsay ในอดีต ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น Art Gallery ในปัจจุบัน

โดยในพิพิธภัณฑ์นั้นมีการเก็บศิลปะในอดีตไว้ ในขณะเดียวกันก็มีพื้นที่งานศิลปะสมัยใหม่และพื้นที่กิจกรรม ให้ศิลปินได้มาปล่อยของ แสดงฝีมือ เรียกว่าทั้งรักษารากวัฒนธรรมเดิม และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ไปพร้อมกัน ในขณะที่ด้านนอกก็ทำเป็นพื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่สีเขียวให้ผู้คนได้เข้าไปใช้งาน

บรรยากาศการแสดงงานศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์ Orsay

ด้วยความน่าสนใจดังกล่าว ได้เปลี่ยนให้สถานีรถไฟเก่า กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียง และสามารถหารายได้จากร้านค้า ร้านอาหาร พื้นที่กิจกรรมภายในอาคาร โดยที่ยังรักษาคุณลักษณะ (Character) ที่แสดงถึงความเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ได้อย่างชัดเจน และกลายมาเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ Art Gallery แห่งนี้ต่างจากที่อื่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการมองเห็นความสำคัญของอาคารประวัติศาสตร์ และเข้าใจคุณค่า (Cultural & Social Value) ที่สามารถนำไปสร้างเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ (Economic Value) ได้ 

Café ในพิพิธภัณฑ์ Orsay ที่ใช้คุณลักษณะของอาคารเก่ามาเป็นจุดขาย

ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ สนองนโยบายนายกรัฐมนตรี - ผบ.ตร.- ผบช.สตม. คุมเข้มพื้นที่สั่งตรวจเชิงรุกสกัด!! ‘โอไมครอน’ แพร่ระบาด

วันนี้ (3 ธันวาคม 2564) พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ออกบูรณาการร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และฝ่ายปกครอง ออกตรวจสอบพร้อมให้คำแนะนำข้อกำหนดและวิธีการปฏิบัติตัว แก่คนต่างชาติกลุ่มดังกล่าวในพื้นที่รับผิดชอบ ผลการปฏิบัติคนต่างชาติกลุ่มดังกล่าวให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามคำแนะนำเป็นอย่างดี เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ

พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายตามนโยบายของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.โดย พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช.สตม. และ พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3 ให้ดำเนินการตรวจสอบคนชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สายพันธุ์โอไมครอน และสั่งเพิ่มมาตรการคัดกรองตรวจเข้มงวด พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยในสังกัด ตรวจตราพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดเข้ามาภายในประเทศ

 

ดร.นิว สงสัยใครใช้วิธีสกปรกปิดกั้นเฟซบุ๊ก หลังโดนทักไม่เห็นความเคลื่อนไหว ทั้งที่โพสต์ปกติ

เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ระบุว่า ใครกันแน่ที่ปิดกั้นเสรีภาพด้วยวิธีการที่สกปรก?

ช่วงนี้เฟซบุ๊กของผมเหมือนกำลังถูกปิดกั้นการมองเห็นครับ มีหลาย ๆ ท่านหลังไมค์เข้ามาบ่นว่าไม่ค่อยเห็นความเคลื่อนไหวเลย จนต้องตามเข้ามาดูที่หน้าเฟซบุ๊กของผมโดยตรง แล้วจึงได้เห็นว่าผมยังมีการโพสต์เฟซบุ๊กตามปกติ

'ทิพานัน' โชว์ผลงาน 'บิ๊กตู่' สารพัดโปรเจกต์ แนะเปิดใจกว้าง อย่าโดนการเมืองบิดเบือน

'ทิพานัน' โชว์ผลงานนายกฯ พัฒนาอุดรธานีสารพัดโปรเจกต์ เห็นใจ 'สาวอุดร' โดนบรรยากาศการเมืองบิดเบือน หวังพึ่ง ส.ส. ในพื้นที่ไม่ได้

3 ธ.ค. 64 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีหญิงสาวอุดรธานีกล่าวกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ว่า “หากพัฒนาไม่ได้ก็ให้เกษียณเร็ว ๆ ให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน” ว่า จุดประสงค์ในการลงพื้นที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ คือการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม นำมาดำเนินการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงการพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้ตรงจุด ซึ่งที่ผ่านมานายกฯ มีนโยบายในการพัฒนาประเทศในทุกจังหวัดอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเฉพาะในส่วนของ จ.อุดรธานี

นอกจากการลงพื้นที่ไปเพื่อเตรียมความพร้อมและส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่แลนด์มาร์กสำคัญที่วังนาคินทร์ คำชะโนดซึ่งอยู่ในแผนพัฒนาจังหวัดอุดรธานีปี 61-65 แล้ว นายกฯ ได้อนุมัติแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมและการขนส่ง เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจและการเดินทางให้มีความสะดวกต่าง ๆ มากมาย ที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว เช่น โครงการขยายผิวจราจร ทางหลวงหมายเลข 2 อุดรธานี - หนองคาย, โครงการขยายผิวจราจร ทางหลวงหมายเลข 216 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุดรธานี ด้านทิศตะวันออก, โครงการขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 2 - พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์

รู้จัก COVID 5 สายพันธุ์ เฝ้าระวัง! รู้ทันป้องกันได้!!

สถานการณ์โควิดในบ้านเราตอนนี้แม้เริ่มมีการผ่อนปรนกันมากขึ้นในมาตรการต่าง ๆ แต่อย่าลืมว่า เจ้าโควิดตัวร้ายยังไม่หายไปไหน!! 

วันนี้ THE STATES TIMES จะพาทุกคนมารู้จักกับ ‘โควิด 5 สายพันธุ์’ ที่ควรต้องรู้จัก! พร้อมบอกสูตรยาแรง ที่ปราบโควิดอยู่หมัดแน่นอนหากปฏิบัติตาม! จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยยย

>> โควิด 5 สายพันธุ์
1.) BETA สายพันธุ์เบตา
2.) ALPHA สายพันธุ์แอลฟา
3.) DELTA สายพันธุ์เดลตา
4.) OMICRON สายพันธุ์โอไมครอน
5.) GAMMA สายพันธุ์แกมมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top