Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

"การช่วยผู้อื่น หรือการนึกถึงผู้อื่น เป็นโอสถเยียวยาความทุกข์ ที่เกิดจากความเศร้าโศก หรือความทุกข์อย่างอื่นได้มากมาย"

"การช่วยผู้อื่น หรือการนึกถึงผู้อื่น เป็นโอสถเยียวยาความทุกข์ ที่เกิดจากความเศร้าโศก หรือความทุกข์อย่างอื่นได้มากมาย"

- พระไพศาล วิสาโล -

โพลชี้นักธุรกิจชั้นนำเชียร์​ ‘จุรินทร์’ นั่งนายกฯ พร้อมเลือกผู้สมัครปชป.เป็นผู้ว่าฯกทม. ปลื้ม​ ”ประชาธิปัตย์” ซื่อสัตย์สุจริต-มีจุดยืนแก้รธน.ให้เป็นประชาธิปไตย 

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. อินไซท์เอเชีย รีเสิร์ช กรุ๊ป (ประเทศไทย) ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้สำรวจความคิดเห็นกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย จำนวน 444 ราย ที่มีต่อรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลในกรณีถ้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี ตามระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย และมุมมองต่อการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งคำถามที่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดมีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ซึ่งผลสำรวจชี้ชัดว่านักธุรกิจชั้นนำเลือกพรรคประชาธิปัตย์ คิดเป็น 47.7 เปอร์เซ็นต์ มากสุดในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด และเมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตมากที่สุด พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 40.6 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความคิดเห็น หรือไม่ทราบ ขณะที่ 35.1 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์

ต่อคำถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดมีความน่าเชื่อมั่นต่อการบริหารงานที่รับผิดชอบมากที่สุด พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 38.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่เชื่อมั่นพรรคใด แต่ 27 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความน่าเชื่อมั่นมากที่สุด เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลใด สามารถทำตามนโยบายหาเสียงได้มากที่สุด พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 34.4 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าไม่มีความเห็นและไม่ทราบ ขณะที่ 20.7 เปอร์เซ็นต์ เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และโพลนี้สอบถามว่าถ้าสามารถเลือกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรีได้ คิดว่าหัวหน้าพรรคใดควรเป็นนายกฯ ซึ่งนักธุรกิจชั้นนำ 45.05 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ตัดสินใจหรือไม่เลือกใคร แต่ 27.48 เปอร์เซ็นต์ เลือกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ตามด้วย 15.32 เปอร์เซ็นต์ เลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และเมื่อสอบถามเพิ่มเติมถึงสาเหตุ พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 22.17 เปอร์เซ็นต์ เลือกเพราะเล็งเห็นถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน

สำนักงานเลขานุการใน "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ " ร่วมพิธีถวายพานพุ่มเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และ วันชาติ วันพ่อแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๔

ณ โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าโขลง 1 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี "นายุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในหม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) / นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล ผู้ช่วยเลขานุการฯ / นางสาวอรอนงค์ สุดใจ ผู้ช่วยเลขานุการในฯ / นายมนตรี สังข์วิสิทธิ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานเลขานุการฯ พร้อมคณะ เข้าร่วมกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

โดยกิจกรรมในช่วงเช้า เวลา 07.00 น. ได้จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร พระภิกษุสงฆ์ และสามเณรจำนวน 89 รูป เพื่อบำเพ็ญถวายเป็นพระราชกุศล จากนั้นใน เวลา 09.00 น. "นายนิติชัย วิริยานนท์ " นายอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีฯ วางพานพุ่มดอกไม้หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร  

มูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ร่วม สวนนงนุชพัทยา ถวายต้นพระศรีมหาโพธิ์ จากอินเดีย 999 ต้น ปลูกเป็นพุทธบูชา ทุกวัดทั่วแผ่นดิน

ดร.มนัส โนนุช ประธานมูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ฯพร้อมด้วย นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้นำต้นพระศรีมหาโพธิ์ จากประเทศอินเดีย ในโครงการ “หนึ่งใจ..ให้ธรรมะ” ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นพุทธบูชาทุกวัดทั่วแผ่นดิน 999 ต้น ขึ้นถวายเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ตำหนักอรุณ วัดราชบพิชสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ตามที่มูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ  ร่วมกับ สวนนงนุชพัทยา และองค์กรภาคีเครือข่ายขอประทานพระอนุญาตถวายเสนอ โครงการ “หนึ่งใจ..ให้ธรรมะ” ถวายต้นพระศรีมหาโพธิ์ 999 ต้น ปลูกเป็นพุทธบูชาทุกวัดทั่วแผ่นดิน ซึ่งสวนนงนุชพัทยา ได้ทำการขยายพันธุ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ สถานที่ตรัสรู้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย เพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ อีกทั้ง เป็นการขับเคลื่อนโครงการ “หนึ่งใจ..ให้ธรรมะ” ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทั่วประเทศไทย เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ดังกล่าว 

สมุทรปราการ-“อำนวย บุญริ้ว”นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่” รวมพลังประชาชนน้อมรำลึก ทำความดีเพื่อพ่อ ถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 

นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่  พร้อมด้วย นางสาวศิริพร ทับคล้าย รองนายกเทศมนตรี นายไพรัตน์ จั่นมุ้ย รองประธานสภา สมาชิกสภา เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ตลอดจนพี่น้องประชาชนร่วมลงพื้นที่ทำความสะอาดภายในซอยศรีสัมพันธ์ หมู่ที่ 6 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ  เพื่อร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

ด้าน นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ กล่าวว่า ในวันนี้ทางเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ได้นำรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นล้างทำความสะอาด โดยได้ร่วมกับพี่น้องประชาชน หมู่ที่ 6 จัดกิจกรรมจิตอาสา ทำความดีเพื่อพ่อ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกทั้ง ยังเป็นวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมพัฒนาล้างทำความสะอาดภายในซอยศรีสัมพันธ์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 

“โฆษกรัฐบาล” เผย ทุนสำรองระหว่างประเทศไทย มั่นคง อยู่อันดับ 12 ของโลก ด้าน “นายกฯ" เร่ง เสริมเม็ดเงินเข้าระบบผ่านโครงสร้างพื้นฐาน-อุตสาหกรรมใหม่  ดึงภาคเอกชนร่วมลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจปี65

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงฐานะการเงินของประเทศไทย ว่ายังคงแข็งแกร่ง โดยธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผย เดือนต.ค.2564 ทุนสำรองระหว่างประเทศรวม (gross reserves) ของไทย อยู่ที่ 2.46 แสนล้านดอลลาร์ สรอ. หรือคิดเป็นเงินบาทที่ 8.17 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลกและถือว่าอยู่ในระดับมั่นคง โดยคิดเป็นประมาณ 3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ทั้งนี้ประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนื้ จะขยายตัวร้อยละ 1.2 ตามคาดการณ์ และ จะขยายตัวร้อยละ 3.5 – 4.5 ไทยปี 2565 ภายใต้สถานการณ์โควิด 19 ยังคงอยู่และปรับตัวดีขึ้น

นายธนกร กล่าวว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศ มีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ เป็นกันชนให้ระบบเศรษฐกิจไทยในการรองรับความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน จนส่งผลกระทบต่อการนำเข้าส่งออกและราคาสินค้าซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่แท้จริงของประเทศได้  รวมทั้งยังเป็นเครื่องชี้สำคัญที่ต่างชาติใช้ประเมินความมั่นคงและเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของประเทศด้วย

 

“ราเมศ” เผย ปชป. พร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่าตามกำหนดห้วงระยะเวลาการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ซึ่งคาดการณ์ว่าประมาณช่วงเดือน มี.ค.65 นั้น ในส่วนของพรรค ยืนยันพร้อมส่งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ในนามพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เตรียมการอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของนโยบาย พร้อมทั้งว่าที่ ส.ก. และผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มีการลงพื้นที่พบปะดูแลปัญหาของพี่น้องประชาชนชาวกทม. ตลอดมา การเลือกตั้งในส่วนกทม.ครั้งนี้ เรามั่นใจพี่น้องชาวกทม. จะไว้วางใจให้ผู้สมัครในนามพรรคได้เข้าไปทำหน้าที่ทั้ง ส.ก. และผู้ว่าฯ กทม. อย่างแน่นอน 
       

“นายกฯ” ชวน คนไทยเช็คอินท่องเที่ยวไทย ชม รัฐ-เอกชน โปรโมททท.โดนใจคนรุ่นใหม่ เผย “เราเที่ยวด้วยกัน” ยังเหลือที่พัก 1.2 แสนห้อง

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพราะนำไปสู่การกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการทุกขนาด การจ้างงานภาคประชาชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะนี้ได้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยงต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว ดังนั้น การส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทยจึงเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประมาณการณ์ว่า สิ้นปี 2564 จะมีคนไทยเที่ยวไทย รวม 100 ล้านครั้ง 

ขณะที่ยอดนักท่องเที่ยวชาวไทยถึงสิ้นเดือนพ.ย. อยู่ที่ 92 ล้านครั้ง มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมประมาณ 6.5 แสนล้านบาท สำหรับมาตรการของรัฐบาล เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ขณะนี้ จำนวนสิทธิที่พักเหลือ 120,273 แสนห้อง จึงขอเชิญชวนประชาชน รีบจองที่พัก ก่อนจะสิ้นสุดสิทธิในวันที่ 23 ม.ค.2565 และสามารถใช้สิทธิ์เข้าพักได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้จัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยว และจุดสนใจ โดยมีเนื้อหาและรูปแบบที่น่าสนใจ สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น เว็ปไซต์ชิลไปไหน คลิปภาพยนตร์โฆษณาในรูปแบบ Musical Story ชุด “มาเที่ยวเถอะนะอยากเจอ” ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย” มีมิติแหล่งท่องเที่ยวที่งดงาม วิถีชีวิตผู้คน และการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และแอปพลิเคชัน “เที่ยวเท่ๆ เสน่ห์เมืองไทย”

ด้านกระทรวงวัฒนธรรม รวบรวมข้อมูลของ 10 สุดยอดต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี”  แสดงข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาทิ วัด ศาสนสถาน โบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่สำคัญ และโดดเด่นของท้องถิ่น ร้านอาหารยอดนิยม ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม สินค้าเกษตร และที่พักแบบโฮมเสตย์ รวมถึงจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น ไหว้พระ นั่งรถสามล้อชมสวนเกษตร ล่องแพและแล่นเรือชมธรรมชาติ

“นายกฯ” ชม ทางหลวง ตั้งจุดเช็คอินรับปีใหม่ ”คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” หนุน ปลูกต้นไม้ประจำถิ่น ปรับภูมิทัศน์สร้างความประทับใจ นทท.

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมโครงการเตรียมความพร้อมจุดเช็คอินรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ตามนโยบาย “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” โดยให้หน่วยงานในสังกัด พิจารณาพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นจุดพักรถและให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวปลายปี อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน และส่งเสริมทัศนียภาพระหว่างการเดินทาง กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมทางหลวง เริ่มตกแต่ง ปรับปรุงป้าย จัดเตรียมจุดเช็คอินให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่ 2565 ใน 11 จังหวัด จำนวน 11 จุด เช่น ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ บนทางหลวงหมายเลข 1009 ตอน จอมทอง – ดอยอินทนนท์ บริเวณ กม.ที่ 30 – 31 แยกไดโนเสาร์ จ.ขอนแก่น บนทางหลวงหมายเลข 12 ตอน ขอนแก่น – พรหมนิมิตร บริเวณ กม.ที่ 562 จุดพักสูดอากาศบริสุทธ์เขาช้างสี จ.นครศรีธรรมราช บนทางหลวงหมายเลข 4238 ตอน ลานสกา – ไม้หลา บริเวณ กม.ที่ 10 เป็นต้น

'รมว.เฮ้ง' สลด 'สาวก่อสร้าง' พลัดตกอาคารเสียชีวิต แสดงความเสียใจส่งเจ้าหน้าที่รุดช่วยเหลือตรวจสอบ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต กรณีคนงานก่อสร้างหญิงพลัดตกจากที่สูงซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบริษัทแห่งหนึ่ง ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ จากรายงานในเบื้องตนพบว่าผู้เสียชีวิตชื่อนางสาวบุญออน ทาสีฟู อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ก่อนเสียชีวิตปฏิบัติหน้าที่ผูกเหล็ก ซึ่งการก่อสร้างอยู่ระหว่างการเทคานด้านบน

ช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาที่คนงานส่วนใหญ่เลิกงานแล้ว แต่จะมีบางคนยังทำงานล่วงเวลา ผู้เสียชีวิตกำลังเดินลงจากอาคารเพื่อจะกลับที่พัก ได้เดินเหยียบแผ่นไม้ที่วางแบบไว้ด้านบนและพลัดตกลงมาถูกเหล็กเสียบที่ลำคอ และตามลำตัว 5 แห่ง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  ตนเองรู้สึกกังวลใจและห่วงใยจึงได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม เข้าตรวจสอบดูแลให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ที่ญาติผู้เสียชีวิตพึงได้กรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน จากกองทุนเงินทดแทนอย่างเต็มที่ อันได้แก่ เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต ค่าทำศพ 50,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ พร้อมทั้งมอบให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าตรวจสอบการดำเนินงานตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ว่านายจ้างปฏิบัติถูกต้องหรือไม่อย่างไร

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top