Wednesday, 2 July 2025
TheStatesTimes

“พอเพียงสู่ความยั่งยืน” (ตอนที่ 3) กลยุทธ์ ของผู้ประกอบการยุคใหม่ ในมุมมองของครูบัญชี

การขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระยะ 20 ปีข้างหน้า จำเป็นต้องสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็นผู้ประกอบการใหม่ (New entrepreneur) ที่ก้าวทันและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Micro, Small and Medium-Size Enterprises หรือ MSME) เนื่องจากการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการมีบทบาทสำคัญต่อการกระตุ้นให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตและความเข้มแข็งของผู้ประกอบการจะช่วยให้ประเทศสามารถแข่งขันในระดับเวทีการค้าโลกได้โดยผู้ประกอบการใหม่จะต้องมีทักษะแห่งอนาคตที่มีความพร้อมทางด้านทัศนคติ ทักษะความสามารถและความรู้สำหรับการรับมือกับการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี

แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ (พ.ศ. 2561-2580) มีการขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะ 20 ปีข้างหน้า จำเป็นต้องสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็น “ผู้ประกอบการยุคใหม่” ซึ่งหมายถึง ผู้ประกอบการที่มีทักษะและจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการที่มีอัตลักษณ์ชัดเจน มีความสามารถในการแข่งขันและมีนวัตกรรมในการสร้างรูปแบบธุรกิจ นวัตกรรมของสินค้าและบริการ และนวัตกรรมในกระบวนการผลิตสินค้าและการให้บริการ ตลอดจนมีทักษะในการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลเพื่อการดำเนินธุรกิจ และมีความสามารถในการเข้าถึงตลาดทั้งในและต่างประเทศ อันครอบคลุมถึงผู้ประกอบการทุกระดับ รวมถึงวิสาหกิจรูปแบบต่าง ๆ ทั้งวิสาหกิจระยะเริ่มต้น วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม และเกษตรกรทั้งรายเดิมและรายใหม่ที่ต้องการขยายกิจกรรมหรือธุรกิจ (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2564)

แล้วจะเริ่มต้นธุรกิจอย่างไรดี คงเป็นคำถามในใจสำหรับผู้ประกอบการใหม่เกือบทุกคนที่มองว่าเป็นเรื่องที่ยากในการเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี แล้วเมื่อเริ่มต้นแล้วจะทำอย่างไรต่อไป ธุรกิจจึงจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แนวทางในการเริ่มต้นธุรกิจหากผู้ประกอบการนำแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้และผู้เขียนได้อัญเชิญมาเขียนอธิบายไว้ในตอนที่ 2 ในเรื่องของความพอประมาณ คือ ความพอดีที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่พอประมาณ ความมีเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ รวมถึงการมีภูมิคุ้มกันในการเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว มาใช้เป็นแนวทางและข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์สภาพปัญหาของผู้ประกอบการใหม่โดยพิจารณากำลังของตนเองเพื่อประเมินว่ามีคุณสมบัติที่จะประกอบธุรกิจนั้นได้หรือไม่ เช่น การเลือกประเภทธุรกิจที่เหมาะสม การสำรวจฐานะทางการเงิน ทำเลที่ตั้ง เป็นต้น พิจารณาตลาดลูกค้าและคู่แข่งขันในธุรกิจเดียวกัน รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งองค์กรต่อไป

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการใหม่ อาจมีการพิจารณานำเครื่องมือในการประเมินสถานการณ์สำหรับองค์การเพื่อวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการกำหนดจุดแข็งและจุดอ่อนจากสภาพแวดล้อมภายใน โอกาสและอุปสรรคจากสภาพแวดล้อมภายนอก ตลอดจนผลกระทบที่มีศักยภาพจากปัจจัยเหล่านี้ต่อการทำงานขององค์การ โดยการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อม หรือ SWOT analysis 

ซึ่งอัลเบิร์ต ฮัมฟรี (Albert Humphrey) ได้พัฒนาขึ้นมาในระหว่างปี ค.ศ. 1960 - 1970 ในโครงการวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) เพื่อเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ประเมินแผนกลยุทธ์และค้นหาสาเหตุที่การวางแผนขององค์การในยุคนั้นมักจะล้มเหลวและในปัจจุบัน SWOT analysis ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือวางแผนกลยุทธ์ที่ดีที่สุด และใช้กันแพร่หลายมากที่สุดประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ 4 ส่วน คือ

1.) จุดเด่นหรือจุดแข็ง (Strengths) 

เป็นสิ่งที่มีอยู่ภายในองค์การและสามารถทำได้ดีเป็นพิเศษสร้างความได้เปรียบเหนือองค์การอื่น ๆ ทำให้องค์การมีความแตกต่างและองค์การสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ฐานะการเงินที่แข็งแรง เทคโนโลยี สิทธิบัตร บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ แรงจูงใจในการทำงานของพนักงาน ข้อได้เปรียบในการเข้าถึงวัสดุหรือกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น

2.) จุดด้อยหรือจุดอ่อน (Weaknesses)

เป็นปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดจากภายในองค์การ เช่น ความสามารถเชิงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความสามารถทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ความสามารถในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด ศักยภาพของแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ ข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เป็นต้น

3.) โอกาส (Opportunities)

เป็นผลจากการที่สภาพแวดล้อมภายนอกองค์การเอื้อประโยชน์หรือส่งเสริมต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการใหม่ เช่น นโยบายของรัฐบาลในการให้ความสำคัญและสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเนื่องจากมีบทบาทที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ การขยายตัวของตลาดส่งออกสินค้าจากการทำข้อตกลงการค้าเสรี แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงรสนิยมและรูปแบบการบริโภคของลูกค้าที่หันมานิยมสินค้าที่เป็นภูมิปัญญาไทยมากขึ้น การเคลื่อนย้ายแหล่งเงินลงทุนระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นมีการสนับสนุนให้เกิดการใช้แหล่งเงินทุนร่วมกัน เป็นต้น

4.) อุปสรรคหรือภัยคุกคาม (Threats)

เป็นปัจจัยภายนอกที่องค์การไม่สามารถกำหนดหรือควบคุมได้รวมถึงสิ่งที่อาจจะส่งผลเสียต่อธุรกิจได้ เช่น ปัญหาของห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) การเปลี่ยนแปลงความต้องการของตลาด การขาดแคลนแรงงานฝีมือ เป็นต้น องค์การจะต้องคาดการณ์สิ่งที่จะเป็นภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นและดำเนินการป้องกันก่อนที่จะเกิดความเสียหายที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจ

จากการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อม หรือ SWOT analysis แล้วผู้ประกอบการใหม่คงมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ว่าจะเริ่มต้นดำเนินธุรกิจได้อย่างไร ธุรกิจมีจุดแข็งหรือจุดอ่อนอะไรบ้าง และหากดำเนินธุรกิจไปแล้วมีช่องทางหรือโอกาสใดบ้างในการที่จะทำให้ธุรกิจมีการเติบโต รวมถึงปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้ธุรกิจไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในการเริ่มต้นการเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม ความพร้อม ความรู้ ความสามารถ เงินทุน และโอกาส เช่น

1.) การเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่มีอยู่เดิมของครอบครัว (Family business) 

เป็นกิจการที่ความเป็นเจ้าของส่วนใหญ่จำกัดภายในวงศ์ตระกูลมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยเนื่องจากเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศและยังมีบทบาทในการเชื่อมโยงการผลิตกับผู้ผลิตและคู่ค้าอื่น ๆ ขณะเดียวกันธุรกิจครอบครัวยังมีความสามารถในการปรับตัวได้ดีกว่าธุรกิจโดยทั่วไป จากการสำรวจเหตุผลการทำธุรกิจวิสาหกิจรายย่อยและวิสาหกิจขนาดย่อม พบว่า วิสาหกิจรายย่อยและวิสาหกิจขนาดย่อมทั้ง 3 ภาคธุรกิจ (ภาคการผลิต ภาคการค้า ภาคการบริการ) มีเหตุผลหลักการทำธุรกิจ คือ เป็นแหล่งรายได้หลัก ส่วนเหตุผลรองลงมาสำหรับวิสาหกิจรายย่อย คือการทำธุรกิจเป็นการหารายได้เสริม ขณะที่วิสาหกิจขนาดย่อมมีเหตุผลรองในการทำธุรกิจเพราะต้องการสืบทอดธุรกิจเดิมของครอบครัวและมีแนวโน้มในการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจของครอบครัวเพื่อให้เกิดการเติบโตต่อไปในอนาคต (สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, 2563)  

2. การเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ (New entrepreneurship)  

การเริ่มต้นธุรกิจใหม่เป็นวิธีการที่ผู้ประกอบการจะต้องใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าเสี่ยง กล้าตัดสินใจ และพยายามที่จะก่อตั้งธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีที่มีความอิสระในการเลือกองค์ประกอบของธุรกิจให้เป็นไปตามแนวคิดของผู้ประกอบการได้ การเป็นผู้ประกอบการใหม่ อาจทำได้โดยการนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่และวางขายในตลาดอื่นอยู่แล้วมาเข้าสู่ตลาดใหม่ (New market) หรือการนำผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด หรือนำผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมที่มีอยู่เดิมมาปรับปรุงให้มีคุณภาพดีกว่าเดิมเข้ามาขายในตลาดเดิม เป็นต้น

3.) การเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ซื้อต่อจากผู้ประกอบการอื่น (Takeover)

เป็นการเริ่มต้นธุรกิจโดยใช้วิธีรุก เข้าซื้อกิจการอื่นเพื่อความเป็นเจ้าของแล้วนำธุรกิจนั้น ๆ มาเป็นของตนเอง มีการควบคุมการบริหารงานต่าง ๆ รวมถึงใช้ประโยชน์จากความสามารถหลักของธุรกิจที่ซื้อมา เช่น ทรัพย์สิน ทักษะการดำเนินงาน เทคโนโลยี ขอบข่ายทางการตลาด สายสัมพันธ์ทางธุรกิจ รวมถึงชื่อเสียงของสินค้าและบริการที่มีอยู่เดิม การเริ่มต้นธุรกิจด้วยวิธีนี้จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เวลาหรือความสามารถมากในการพัฒนาขีดความสามารถและทรัพยากรหลัก ๆ ขณะเดียวกันหากผู้ประกอบการเลือกการเริ่มต้นธุรกิจด้วยวิธีนี้อาจจะส่งผลให้สูญเสียความเป็นผู้ประกอบการที่แท้จริงไปส่วนหนึ่งเนื่องจากขาดการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ด้วยตนเอง แต่ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจและมีต้นทุนในการเริ่มต้นธุรกิจน้อยกว่าธุรกิจที่สร้างขึ้นใหม่

4.) การเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้วยการขอรับสิทธิทางการค้าจากเจ้าของสิทธิหรือธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise)

เป็นการประกอบธุรกิจที่เจ้าของสิทธิ (Franchisor) ตกลงอนุญาตให้ผู้รับสิทธิ (Franchisee) ดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อการค้า การบริหาร และระบบธุรกิจของเจ้าของสิทธิ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาขึ้น ผู้รับสิทธิจะต้องดำเนินธุรกิจตามรูปแบบและระบบธุรกิจของเจ้าของสิทธิ และจ่ายค่าตอบแทนแก่เจ้าของสิทธิ เจ้าของสิทธิจะให้ความช่วยเหลือผู้รับสิทธิในการดำเนินงาน เลือกทำเลที่ตั้ง อบรมวิธีปฏิบัติงาน สร้างระบบการเงินช่วยเหลือในการจัดตั้งธุรกิจ เป็นต้น

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นหากผู้ประกอบการมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเริ่มต้นสำหรับการเป็นผู้ประกอบการแล้วก็จะสามารถเลือกธุรกิจที่เหมาะสมในการดำเนินงานได้ไม่ยากนัก ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมกับตนเองด้วยความพอประมาณ คือ ความพอดีที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นให้เดือดร้อนก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จหรือเกิดปัญหาน้อยกว่าผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจที่ไม่ถนัด ไม่มีความชำนาญ หรือไม่เหมาะสมกับข้อจำกัดที่มีอยู่

ในคราวหน้าซึ่งจะเป็นตอนที่ 4 ผู้เขียนจะกล่าวถึงปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องมีองค์ประกอบใดบ้าง ที่จะทำให้ภารกิจขององค์การสำเร็จตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป

 

เอกสารอ้างอิง

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม.  (2563).  รายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี 2563.  กรุงเทพฯ : สำนักงาน
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2564) แผนแม่บทประเด็นผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2564, จากเว็บไซต์ : http://nscr.nesdb.go.th/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

คอบอลชาวไทยเฮ!! หลัง 'รองเท้าแอร์โร่ซอฟ' ทุ่ม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ยิงสด NBT2HD SPORT ครบ 51 นัด เริ่มคิกออฟคู่แรก อิตาลี VS ตุรกี คืนนี้ (ศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564)

หลังจากมีคำถามกันหนาหูในหมู่คนไทยว่า 'ยูโร 2020' รอบนี้จะมีโอกาสได้รับชมกันทางฟรีทีวีหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการประกาศอย่างชัดเจนจากหน่วยงานใดๆ ว่าจะมีการนำลิขสิทธิ์สัญญาณการถ่ายทอดสด 'ฟุตบอลยูโร 2020' มาเผยแพร่

แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเพราะในสถานการณ์นี้ ทางภาครัฐบาลอาจจะไม่สามารถนำงบภาษีที่เก็บจากประชาชนมาคืนความสุข ด้วยการไปร่วมประมูลซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทีวีพูล) หรือผ่านช่องทางอื่นได้ ต้องเป็นช่องทีวีเอกชนเท่านั้น ถึงจะสามารถประมูลฟุตบอลยูโร มาถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ดูกัน เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมาก็ยังไม่มีเอกชนรายใดขอซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาถ่ายทอด จนคนไทยส่วนใหญ่น่าจะไปหวังพึ่งลิงก์เถื่อนที่ดูไปสะดุดไป อย่างไร้อรรถรส

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 มิถุนายน 2564 ที่สังเวียนแข้งยูโร 2020 พร้อมคิกออฟนั้น คอบอลชาวไทยก็ยิ้มได้ถ้วนหน้า หลังจากมีการประกาศชัดถึงการถ่ายทอดบอลยูโร2020 ลงหน้าจอฟรีทีวีเมืองไทยเป็นที่แน่นอนแล้ว

ทั้งนี้การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 ตลอด 51 นัดในครั้งนี้ เกิดขึ้นได้จากผู้สนับสนุนหลักอย่างบริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้ายี่ห้อ 'แอร์โร่ซอฟ' ภายใต้ ‘นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานกรรมการ ผู้ที่ตั้งใจจะมอบความสุขให้แก่คนไทยในยามโรคระบาดยังไม่จางหาย ได้รับชมกันเต็มอิ่มทุกนัดแบบไม่สะดุด

ในส่วนของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในครั้งนี้ ทางแอร์โร่ซอฟ เป็นภาคเอกชนรายเดียวในการทุ่มงบ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ 'ยูฟ่า' เพื่อให้คนไทยได้รับชมการถ่ายทอดสดฟรีทุกนัดตลอด 1 เดือน (11 มิ.ย. - 11 ก.ค.64) ทางช่อง NBT2HD SPORT

สำหรับ ‘นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้ายี่ห้อ 'แอร์โร่ซอฟ' ถือเป็นอีกผู้ใหญ่ใจดีของสังคมไทย และเป็นบุคคลที่มักเข้ามาช่วยเหลือเรื่องใหญ่ๆ ในสังคมไทยแบบไม่ออกหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้บริจาคเงิน จำนวน 100 ล้านบาท พร้อมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ประกอบด้วย อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและตา (Face Shield) จำนวน 3,000 ชิ้น และเครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์ (Airvo 2) จำนวน 10 ชิ้น ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช เพื่อสนับสนุนการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้ในการรักษา


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“แรมโบ้” ยัน ไร้สัญญาณยุบสภาฯ แย้ม เงื่อนไขเดียวแยกทาง “พรรคร่วมทำงานไม่ได้” 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวยุบสภาว่า ยืนยันว่ายังไม่มีสัญญาณยุบสภาฯจากนายกรัฐมนตรี ตามที่มีกระแสข่าวแน่นอน และการทำงานในสภาฯ ยังเป็นไปได้ด้วยดี เห็นได้จากสภาฯ เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 65 วาระแรกและพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่ฝ่ายค้านบางส่วนโหวตเห็นชอบด้วย และเวลา 1 ปีที่เหลือของรัฐบาลยังต้องเร่งรัดทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน หากไม่มีผลงานประชาชนจะไม่ไว้วางใจ และมั่นใจว่านายกฯจะไม่ทำอย่างนั้น เพราะสภาฯ ไม่ได้มีความผิด และพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีสัญญาณถอนตัว ทุกนโยบายของพรรคร่วมที่หาเสียงไว้ หากเป็นนโยบายที่ดีประชาชนได้ประโยชน์ก็ผลักดันเป็นนโยบายรัฐบาล

นายเสกสกล กล่าวว่า เงื่อนไขเดียวหากจะยุบสภาฯคือพรรคร่วมทำงานร่วมกันไม่ได้ เพราะมองแต่ผลประโยชน์ของตนเองหรือพรรค มากกว่าประชาชน แต่ตอนนี้ทำงานร่วมกันได้ดีมีเอกภาพ ความคิดเห็นที่แตกต่างถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่รัฐมนตรีทุกคนของพรรคร่วมรัฐบาล คิดถึงแต่ประชาชนและประเทศชาติ เหมือนกับฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลยังทำงานร่วมกันได้ สามารถเสนอแนะรัฐบาลผ่านเวทีสภาฯ หรือกรรมาธิการได้ แต่อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือโจมตีใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ และครม. ทำลายขัดขวางการทำงานของรัฐบาล มากเกินไปเพราะประชาชนอาจจะเสียโอกาสได้

“ประยุทธ์” หารือเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย เร่งยกระดับการค้าและการลงทุน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19

ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายรัคมัต บูดีมัน (H.E. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิด มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นมาอย่างต่อเนื่อง มีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ หวังว่าความรู้และประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย จะช่วยกระชับความสัมพันธ์และยกระดับความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และภริยา พร้อมขอบคุณรัฐบาลอินโดนีเซียที่ให้การสนับสนุนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ในการอำนวยความสะดวกในการนำคนไทยกลับประเทศไทยตลอดช่วงสถานการณ์โควิด-19 

เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย กล่าวแสดงความรู้สึกยินดีที่ได้มาดำรงตำแหน่งในไทย พร้อมยืนยันจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-อินโดนีเซีย ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทั้งในระดับทวิภาคีและอาเซียน โดยใช้ประโยชน์จากกลไกทวิภาคีและกรอบความร่วมมือในอาเซียนและพหุภาคีให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย ทั้งความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความร่วมมือด้านการประมง ความมั่นคง การศึกษา รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรมและดนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยต่างเห็นพ้องว่า ทั้งสองประเทศมีศักยภาพที่จะต่อยอดจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ และขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนให้เพิ่มขึ้นด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพื่อสนับสนุนให้เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ผ่านการส่งเสริมการค้า และหาแนวทางลดอุปสรรคทางการค้าในสาขาที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน อาทิ สินค้าเกษตร และประมง โดยนายกรัฐมนตรียินดีสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนไทยในอินโดนีเซีย และขอให้อินโดนีเซียช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนไทยในอินโดนีเซีย ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยเชิญชวนให้มีการลงทุนในไทย เพิ่มเติม ซึ่งเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียกล่าวว่ายินดีสนับสนุนการลงทุนในไทย และมีภาคเอกชนของอินโดนีเซียหลายแห่งสนใจ 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ยังหารือถึงความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยหวังว่าเมื่อสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลาย ทั้งสองฝ่ายจะขับเคลื่อนกิจกรรมและความร่วมมือต่าง ๆ เช่น การประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การศึกษาและการฝึกอบรมด้านความมั่นคงและป้องกันประเทศ รวมทั้งการปราบปรามยาเสพติด ให้มีความคืบหน้าต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังยืนยันความร่วมมือกับอินโดนีเซียและอาเซียนในการแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา โดยไทยสนับสนุนฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน และหวังว่าปัญหาในเมียนมาจะสามารถแก้ไขด้วยสันติวิธี

"ชัยวุฒิ" จับตาพนันออนไลน์ช่วงฟุตบอลยูโร-โคปาฯ ลั่นเอาจริงจับทุกเว็บ ฮึ่ม “พริตตี้-คอลัมนิสต์-เน็ตไอดอล” โฆษณาแอบแฝงโดนด้วย

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ตนได้ประสานงานศูนย์ปราบการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อดำเนินการปราบปรามการกระทำผิด ลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ทุกประเภท โดยเฉพาะการเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ ซึ่งเป็นที่นิยม และพบว่ามีการเปิดเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนเข้าไปเล่นการพนันแพร่ระบาดอย่างหนัก ที่ผ่านมากระทรวงดีอีเอส และ ศปอส.ตร.ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดเป็นจำนวนมาก ตลอดจนการประสานกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปยังโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายในการร่วมมือกันเฝ้าระวังและรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์พนันต่างๆ

“ผมกำชับให้ทุกหน่วยงานร่วมกันปราบปรามการพนันทุกรูปแบบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการพนันถือเป็นปัญหาระดับชาติ และส่งผลไปสู่ปัญหาในครอบครัว เนื่องจากมีการมอมเมาประชาชนทั้งผู้ใหญ่ และเยาวชน สร้างความเสียหายมากมายทั้งในแง่เศรษฐกิจ และสังคม” นายชัยวุฒิ กล่าว

รมว.ดีอีเอส กล่าวด้วยว่า จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า ยอดการเล่นพนันทั้งออฟไลน์ และออนไลน์จะสูงมากขึ้นในช่วงที่มีการแข่งขันทัวนาเมนทร์สำคัญ ดังนั้นช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ รวมถึงรายการโกปาอาเมริกา 2021 หรือฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ ที่จะเริ่มในช่วงไล่เลี่ยกัน ตนจึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบ และค้นหาเว็บไซต์ที่กระทำผิดทั้งในลักษณะการพนัน หรือการแอบแฝงโดยการทายผลการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งหากพบการกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินปิดทุกเว็บไซต์

“ผมไม่ได้ขู่ ผมทำจริง เพราะมีสถิติบ่งบอกว่าในช่วงที่มีมหกรรมการกีฬาใหญ่ๆ จะมีพวกที่อาศัยจังหวะมอมเมาประชาชนด้วยการจัดให้มีการทายผลการแข่งขัน เรื่องนี้ผมจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะต้องการให้ใช้โลกโซเชียล สังคมออนไลน์ กันอย่างสร้างสรรค์ และมีประโยชน์ให้มากที่สุด" นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า ขอเตือนไปยังผู้ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียโฆษณาให้ประชาชนเข้าไปเล่นการพนัน ไม่ว่าจะเป็นพริตตี้ คอลัมนิสต์ หรืออินฟูลเอนเซอร์ทั้งหลาย หากพบว่าเข้าข่ายเชิญชวนให้เล่นการพนัน ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน จึงขอให้งดการกระทำที่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อในทุกประเภท ทั้งนี้ผู้ที่มีเบาะแสพนันออนไลน์สามารถแจ้งได้ที่เพจกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม https://www.facebook.com/prmdes.official/ และสายด่วนกระทรวงดีอีเอส 1212 ตลอด 24 ชม. โดยข้อมูลจะถูกปกปิดเป็นความลับ

โฆษกก้าวไกล แนะ รมว.ศธ. นำงบ 5 แสนล้านที่เพิ่งผ่านสภา มาปรับใช้ในการเยียวยาสถานศึกษา-ผู้ปกครอง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม 14 มิถุนายนนี้

นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึง การเปิดภาคเรียนของสถานศึกษาในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการออกประกาศ โดยก่อนหน้านี้ 27 พฤษภาคม คุณตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ.ออกประกาศกำหนดแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดหรือในกำกับของ ศธ. ถือปฏิบัตินั้น ตนมองว่าภาระไปตกอยู่กับโรงเรียนเอกชนขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งรับภาระค่าใช้จ่ายหนัก คุณตรีนุชต้องดูด้วยว่าต้นทุนที่จะลดได้มาจากไหน ไม่ใช่ประกาศลดแล้วสั่งให้โรงเรียนปฏิบัติตามคำสั่งของคุณเท่านั้น ในสถานการณ์ภายใต้สภาวะวิกฤตเช่นนี้ เราต้องการรัฐที่มีประสิทธิภาพและรับผิดชอบชีวิตของประชาชนในทุกมิติ 

นาวสาวสุทธวรรณ ระบุอีกว่า แน่นอนว่าเราเห็นด้วยกับการคืนเงินบำรุงการศึกษาให้กับผู้ปกครองในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด แต่ในอีกมิตินึงท่านไม่ควรโยนภาระในแก่สถานศึกษามากจนเกินไป เพราะโรงเรียนทุกโรงเรียน ไม่ว่าจะรัฐหรือเอกชน ก็มีค่าใช้จ่ายที่เป็น fixed cost กันอยู่แล้วทุกเดือน ทั้งเงินเดือนครู แม่บ้าน รปภ. ธุรการ ที่ต้องจ่าย ส่วนภาครัฐที่เป็นข้าราชการอาจไม่เท่าไหร่ แต่คนที่เป็นสัญญาจ้างต่าง ๆ ถ้าลดต้นทุนออกตรงนี้ไปจะลำบากทันที ส่วนเอกชนไม่ว่าจะขยับส่วนไหนทุกอย่างเป็นค่าใช้จ่ายหมด เงินเดือนบุคลากร ค่าบำรุงรักษาสถานที่ ค่าบริหารจัดการ ค่าสาธารณูปโภค ในส่วนนี้ไม่ได้ลดลง ถ้าโรงเรียนไหนกู้เงินมาลงทุนปรับปรุงพื้นที่ ดอกเบี้ยที่กู้มาก็ยังคงวิ่งไปอยู่ ที่ผ่านมารัฐไม่ได้มีมาตรการช่วยเรื่องการพักเงินต้นและดอกเบี้ยอย่างเป็นรูปธรรมเลย ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่ท่านคิดจะนำมาเป็นส่วนลดให้ผู้ปกครองได้ในความเป็นจริงจึงไม่มากนัก 

ทั้งนี้นางสาวสุทธวรรณยังให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนมาตรการที่ออกมาในทุกมิติอีกครั้ง ท่านควรจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองแทนโรงเรียนเหล่านั้น โดยการใช้ก้อนเงินกู้ 500,000 ล้าน ที่เพิ่งผ่านสภาไปมาบริหารจัดการ นอกจากนี้ ศธ.ยังควรกำหนดมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองให้ชัดเจน เช่น ชุดนักเรียน ยังไม่จำเป็นต้องให้ซื้อใหม่ เรียนออนไลน์ยิ่งไม่ต้องใช้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย วันที่นักเรียนต้องไปโรงเรียนควรอนุโลมเรื่องการแต่งกาย ไม่ต้องใส่ชุดนักเรียนก็ได้ ให้ใส่ชุดไปรเวทที่สุภาพแทน นี่เป็นพื้นฐานที่เรียบง่ายที่สุดที่กระทรวงศึกษาธิการจะสามารถลดภาระผู้ปกครองและสถานศึกษาได้

“เพจ เรือดำน้ำไทย” โพสต์คลิป ขนขุนพลลูกประดู่แจงเหตุจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ เสริมมิติปฏิบัติการใต้น้ำ ชี้อาจดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่อยากให้เข้าใจว่ามีความจำเป็น ไม่อยากกลายเป็นจำเลยอีกต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “เพจ เรือดำน้ำไทย Thai Submarines” ของกองทัพเรือ ได้เผยแพร่สารคดีกองทัพเรือ โดยโพสต์ข้อความระบุว่า “ความคิด ความเข้าใจ และความจริงใจในการบอกเล่าครั้งใหม่ถึงเรื่องราวของ "เรือดำน้ำ" ...อย่าให้การทำหน้าที่เป็นจำเลยอีกต่อไป” พร้อมคลิปวิดีโอ ซึ่งมีตอนหนึ่งชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นการมีเรือดำน้ำ โดยพล.ร.ต.นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ แต่สิ่งสำคัญภารกิจหลักกองทัพเรือต้องเตรียมความพร้อมในการปกป้อง รักษา อธิปไตยของชาติและความมั่นคงทางทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย กองทัพเรือจำเป็นต้องมีเครื่องมือเหล่านี้ปฏิบัติการในลักษณะผสมผสานร่วมกัน ทั้งบนอากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำ ซึ่งเรือดำน้ำของกองทัพเรือถูกปลดประจำการไปแล้ว และไม่ได้รับการจัดหาอีกเลย  ทำให้เราขาดการปฏิบัติการมิติใต้น้ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และกองทัพเรือพยายามปรับลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วยการใช้เครื่องมืออื่นๆ แต่ก็ยังเกิดความเสี่ยงที่สูงอยู่ 

ด้านพล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เรื่องราวระหว่างหลักประกันความมั่นคงของชาติทางทะเลกับการช่วยเหลือประชาชนในเวลาที่ชาติประสบภาวะวิกฤต กองทัพเรือเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ตั้งใจทำทุกอย่างอย่างสุดกำลัง โดยเฉพาะวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ เราได้ทุ่มเทกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ตลอดจนการปรับงบประมาณทุกภาคส่วนมารองรับ สำหรับการสร้างการรับรู้เรื่องกำลังรบอันเป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติทางทะเล อาจดูเป็นเรื่องไกลตัว ในภาวะการณ์เช่นนี้ แต่อยากให้เข้าใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องสร้างการรับรู้ร่วมกัน เพียงแต่อยากบอกถึงการทำหน้าที่ของเราโดยตระหนักถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน อย่าให้การทำหน้าที่นี้ของเรากลายเป็นจำเลยอีกต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงาน ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการเผยแพร่คลิปดังกล่าวนั้น คาดว่าเพื่อต้องการสร้างความรับรู้และความเข้าใจกับประชาชน เพราะในช่วงนี้ทางสภาฯ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2565 กำลังมีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปีพ.ศ.2565 อยู่ในขณะนี้

แนะดันไทยสู่สังคมไร้เงินสด รัฐยังต้องพัฒนาอีกเพียบ

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือเนชั่นแนล อี-เพย์เมนต์ ว่า การทำธุรกรรมไร้เงินสดของไทยยังมีมูลค่าที่ไม่สูงมากนักหากไทยต้องการยกระดับให้เป็น สังคมไร้เงินสดมากขึ้น จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาขึ้นอีก แต่ก็ยังพบว่ามีช่องว่างหรือข้อจำกัดในทางปฏิบัติ เช่น ทักษะด้านดิจิทัลของคนไทยอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มประชากรผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ เห็นได้จากจำนวนคนไม่น้อยที่ต้องเดินทางมาลงทะเบียนรับสิทธิ์ช่วยเหลือของรัฐที่ธนาคารเอง 

ขณะเดียวกันยังพบอีกว่า ในด้านโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม และมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับรายได้ของกลุ่มผู้รายได้น้อย จึงเป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยี รวมถึงอาจนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่อการถูกหลอกและการสูญเสียทางการเงินได้อีกด้วย 

ทั้งนี้ สศช. มีข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริม และแก้ไขข้อจำกัดเพื่อนำไปสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด คือ ภาครัฐควรสนับสนุนให้มีโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงที่ครอบคลุมและมีคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงอาจมีการอุดหนุนช่วยเหลือการเข้าถึง อุปกรณ์และสัญญาณอินเทอร์เน็ตของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และการเสริมสร้างการมีทักษะความรู้ด้านการเงินและ ความรู้ดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่อาจเข้าไม่ถึงองค์ความรู้และตามไม่ทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เท่าทันและปูองกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากภัยคุกคามทางดิจิทัล 

รวมทั้งการสนับสนุนและส่งเสริมให้มี ระบบธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลอย่างทั่วถึงและครอบคลุม โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อยให้มีบริการ รับชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปสู่การใช้งานที่แพร่หลายของบริการทางการเงินรูปแบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น  เช่นเดียวกับการมีกลไกติดตามดูแลรักษาฐานข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีความรัดกุมทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในการใช้บริการ และการนำข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ประโยชน์ต่อยอด ทั้ง การพัฒนาเครื่องมือทางการเงินในการให้กู้ยืม รวมทั้งการนำข้อมูล มาใช้ประกอบการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ เพื่อลดการตกหล่นและคัดกรองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

คลังฟันร้านค้าหัวหมอโกงเราชนะอีกเป็นร้อยราย

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ตรวจพบธุรกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการเราชนะ จึงได้ทำการระงับสิทธิ์ชั่วคราวการเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการเพิ่มเติม จำนวน 120 ราย และขอให้ผู้ประกอบการที่ถูกระงับสิทธิ์ชั่วคราวดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงมายังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ภายในวันที่ 25 มิ.ย.2564 ตามข้อความแนะนำที่ปรากฏขึ้นในแอปพลิเคชันถุงเงิน หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว กระทรวงการคลังจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะเข้มงวดในการติดตามตรวจสอบประชาชนและผู้ประกอบการที่กระทำการเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของกระทรวงการคลังปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการหรือมาตรการอื่นของรัฐในอนาคต และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 11 มิ.ย. 2564 พบว่า มีมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 267,113 ล้านบาท และมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราชนะที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 22.3 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ประจวบคีรีขันธ์ – ส่งทีมบุคลากรทางการแพทย์ 5 คน เป็นตัวแทนประจวบฯ ช่วยชาวเพชรบุรีสู้โควิด

วันที่ 11 มิ.ย. 64 นายศราวุธ จิระพิทักษ์กุล นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายแพทย์พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ นายเรวัฒน์ สุขหอม สาธารณสุขอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย ผู้บริหารและบุคลากรโรงพยาบาลประจวบฯ ร่วมกันส่งมอบกำลังใจให้กับทีมบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลประจวบฯ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นางอังศนา ทัพไชย นางนุจรี กลิ่นหอม น.ส.ธมลวรรณ ใยยินดี น.ส.อรุณโรจน์ ฤทธิ์เลิศ และ นายดาวรุ่ง อยู่หนุน พนักงานขับรถ ที่บริเวณลานกิจกรรมหน้าหอพระ โรงพยาบาลประจวบฯ เพื่อเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงพยาบาลสนาม จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 10 - 20 มิถุนายน 64 คอยดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อเสร็จภารกิจจาก จ.เพชรบุรีแล้วจะเดินทางกลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโดยการกักตัวและตรวจหาเชื้อต่อไป

นายศราวุธ จิระพิทักษ์กุล นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้กล่าวให้กำลังใจบุคลากรทั้ง 5 คน คือตัวแทนของชาว จ.ประจวบฯที่น่าภาคภูมิใจและสมควรได้รับความชื่นชม ขอให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดด้วยพลังกายพลังใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น ช่วยเหลือผู้ป่วยให้หายปลอดภัยกลับสู่ครอบครัวด้วยความสุข และจะรอต้อนรับทุกคนกลับบ้านอีกครั้งเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น

นายแพทย์พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบฯ กล่าวว่า ในนามตัวแทนโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ขอขอบคุณทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนที่ได้เสียสละ และเป็นตัวแทนไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่จังหวัดเพชรบุรีในครั้งนี้ อันเนื่องจากมีการระบาดในวงกว้าง มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยต่อเนื่อง จำเป็นต้องเสริมกำลังเจ้าหน้าที่จากจังหวัดใกล้เคียงเข้าไปร่วมปฏิบัติงานเพื่อช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งการส่งทีมสนับสนุนปฏิบัติการนี้เจ้าหน้าที่จะได้เรียนรู้เพิ่มพูนทักษะการดูแลผู้ป่วยโรงพยาบาลสนามและสถานการณ์จริงมากขึ้น เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนางานต่อไป

ด้าน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ว่าขอสนับสนุนให้ อปท.ในจังหวัดจัดซื้อวัคซีทางเลือกอย่างน้อย 1 แสนโดส เพื่อนำวัคซีนกระจายให้กับประชาชนทุกกลุ่มได้รับวัคซีนเร็วขึ้น พร้อมกับการฉีดวัคซีนตามยอดที่รัฐจัดสรรให้ในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งขณะนี้มีผู้จองคิวผ่านแอพพ์หมอประจวบพร้อมมากกว่า 4 หมื่นคน หาก อปท.จัดซื้อขั้นตอนการขนส่งหรือจัดเก็บวัคซีนจำนวนมาก ไม่มีปัญหาในการควบคุมคุณภาพ ทุกโรงพยาบาลมีความพร้อม ส่วนการกระจายวัคซีนที่ท้องถิ่นซื้อไปฉีดให้ประชาชน จะใช้บุคลากรของโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยขอให้เจ้าหน้าที่ อปท.ทำหน้าที่จิตอาสาเพื่อช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4 เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top