Wednesday, 2 July 2025
TheStatesTimes

ชลบุรี - กองเรือยุทธการ ร่วมทดสอบการปฏิบัติการของอากาศยานไร้คนขับ MARCUS ที่พัฒนาโดย สวพ.ทร. เตรียมนำมาใช้ในภารกิจรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

พล.ร.อ.สิทธิพร มาศเกษม รองผู้บัญชาการทหารเรือ ชมการสาธิตการปฏิบัติการของอากาศยานไร้คนขับที่ดำเนินการพัฒนาโดยสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพเรือ (สวพ.ทร.) ภายใต้ชื่อโครงการอากาศยานไร้คนขับเพื่อการลาดตระเวนทางทะเล กองทัพเรือ (Maritime Aerial Reconnaissance Craft Unmanned System:MARCUS) โดยมี พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ, พล.ร.ท.โกวิท  อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1, พล.ร.ต.อะดุง  พันธุ์เอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพเรือ, พล.ร.ต.อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ บน ร.ล.อ่างทอง ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดยกำหนดสถานการณ์สมมติเป็นการปฏิบัติของ ศรชล.ภาค 1 สั่งการให้ ร.ล.อ่างทอง ที่กำลังลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ ค้นหา พิสูจน์ทราบ และจับกุมเรือต้องสงสัยว่าจะลักลอบนำเข้าสารอันตรายเพื่อใช้สร้างสถานการณ์ในพื้นที่สำคัญทางภาคตะวันออก ต่อมา ร.ล.อ่างทอง ได้ตรวจพบเรือ 1 ลำ มีพฤติกรรมต้องสงสัย จึงใช้ MARCUS เข้าพิสูจน์ทราบ ก่อนที่จะส่งชุดตรวจค้นเข้าปฏิบัติการต่อไป

จากวัตถุประสงค์ในการวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ MARCUS ตามที่ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ในวงเงิน 10 ล้านบาท ที่ได้ทำการพัฒนาให้มีขีดความสามารถ

             -ขึ้น-ลงในพื้นที่จำกัด (ทางดิ่ง) ที่อากาศยานแบบปีกนิ่งทั่วไปไม่สามารถทำได้

             -พัฒนาระบบควบคุมและสั่งการทางยุทธวิธีทางอากาศ (Tactical-Based Aerial Command Control System:TBACCS) ให้สามารถสั่งการพ้นระยะสายตา หรือในบริเวณจุดอับสัญญาณของการสื่อสารได้

การสาธิตในครั้งนี้ได้นำกล้องตรวจการณ์ของ UAV นารายณ์ ติดตั้งเข้ากับระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับเป้าในทะเลอีกด้วย ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

คุณลักษณะของอากาศยานไร้คนขับ MARCUS ประกอบด้วย

             -ความกว้างปีก 3.4 เมตร

             -น้ำหนักขึ้นบิน 24 กิโลกรัม

             -ความเร็ว ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

             -ระยะเวลาปฏิบัติการบนอากาศ ประมาณ 1 ชั่วโมง

             -ระยะบินไกลสุด 15 กิโลเมตร และกำลังพัฒนาในรุ่นต่อไปให้สามารถบินได้ไกลสุด 40 กิโลเมตร

อากาศยานไร้คนขับ MARCUS ได้ผ่านการทดสอบทดลองจากหน่วยปฏิบัติงานทั้งทัพเรือภาค , ศรชล.เขต และหน่วยบิน ว่าสามารถสนับสนุนการปฏิบัติการตรวจสอบและถ่ายภาพเป้าหมายในทะเล ได้ตามวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตามเพื่อให้ MARCUS มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จำเป็นต้องพัฒนาระยะเวลาในการปฏิบัติงานในอากาศให้ได้มากกว่า 1 ชั่วโมง  ซึ่งคณะวิจัยฯ กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างลำตัว , เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และอื่น ๆ เพื่อให้ MARCUS สามารถตอบสนองความต้องการทางยุทธวิธีได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นต้นแบบงานวิจัยที่จะสามารถนำเข้าสู่สายการผลิตให้แก่กองทัพเรือ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากจะเปรียบเทียบ MARCUS ที่กองทัพเรือวิจัยจนเป็นผลสำเร็จในครั้งนี้สามารถเทียบคุณสมบัติได้ใกล้เคียงกับอากาศยานไร้คนขับแบบ ORBITER-3B ที่กองทัพเรือจัดหาจากประเทศอิสราเอล โดยปล่อยยิงแบบ Launcher ในวงเงิน 50 ล้านบาท ต่อ 1 ชุด (อากาศยาน 1 เครื่อง และชุดควบคุม 1 ชุด) แต่ MARCUS จะใช้งบประมาณในการผลิตเพียงไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อชุด อีกทั้งยังสามารถขึ้นลงทางดิ่งที่จะสามารถตอบสนองการปฏิบัติการร่วมในทะเล ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

อากาศยานไร้คนขับ MARUS จะถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของงานวิจัยที่เข้าสู่สายการผลิต ได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปี งบประมาณ 64 ที่มอบให้ว่า “ขับเคลื่อนงานวิจัยของกองทัพเรือให้สามารถนำไปสู่ภาคการผลิต และเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรม”


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ดร.วรัชญ์ ชี้ ประเทศไทย มองการณ์ไกล ปิดดีลผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ได้ตั้งแต่แรก ไม่ต้องรอลุ้น ขณะที่ประเทศอย่างไต้หวันอยากผลิตบ้าง แต่ศักยภาพไม่พอ

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าเห็นข้อดีของไทยหรือยังครับ ที่ดีลกับแอสตราเซเนกาได้ตั้งแต่แรก และเป็นฐานการผลิตในประเทศไทยเราเอง

ไต้หวัน ที่รวยกว่าเรามาก และมีเทคโนโลยีสูงกว่าเรามาก จะขอแอสตราเป็นฐานการผลิต ยังไม่ได้เลยครับ ทาง AZ บอกว่าต้องผลิตอย่างน้อย 300 ล้านโดส ซึ่งไต้หวันบอกว่า "เป็นไปได้ยากและต้องใช้สายการผลิตอย่างเต็มกำลัง" ไต้หวันทำไม่ได้ แต่ไทยทำได้ครับ เพราะไทยมีบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่ ร.9 ทรงก่อตั้งขึ้น และทรงสานต่อโดย ร.10

และแม้ตอนแรกเราจะยังไม่พร้อม เพราะไม่เคยผลิตวัคซีนมาก่อน แต่รัฐบาลไทยก็อนุมัติเงิน 600 ล้านตั้งแต่ปีที่แล้ว ให้ปรับปรุงโรงงาน ซึ่ง SBS ก็จะคืนมาในรูปแบบของวัคซีน (สุดยอดมาก เท่ากับเราไม่ได้เสียอะไรเลย) 

และไทยสั่งซื้อของ AZ แค่ 61 ล้านโดสเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องผลิตให้กับชาติอื่นๆ ในอาเซียนด้วย ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิน 300 ล้านโดสมั้ย 

เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ได้ดีลกับ AZ ไว้ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ก่อนที่วัคซีนจะผลิตสำเร็จ ถ้าเพิ่งมาเจรจาตอนนี้ ผมว่าเราไม่น่าจะได้ดีลนี้แล้วนะครับ 

และใครว่าเราเป็น OEM หรือแค่รับจ้างผลิต แล้วจะมีประโยชน์อะไร ท่านก็ลองดูแล้วกันครับว่า ประเทศอื่นๆ ที่รอเราอยู่ ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมทั้งไต้หวัน โดน AZ เลื่อนหมดเลยอย่างไม่มีกำหนด แต่เราได้รอบแรกตรงเวลา ทันตามกำหนด และรอบที่สองแม้ว่าจะมีข่าวเลื่อน แต่ก็เลื่อนแค่ไม่กี่วัน ยังเป็นไปตามกำหนด Week 3 อยู่ 

แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถพูดหรือเปิดเผยได้ว่าการเลื่อนของประเทศอื่นมีผลมาจากการมีโรงงานในประเทศไทยหรือไม่ แต่ผมคิดว่า common sense ก็น่าจะพอบอกได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งด้วยหรือไม่ 

และนี่ก็คือสาเหตุที่ว่า ข้อมูลจำนวนวัคซีน หรือวันที่จะส่งมอบ นั้นเป็นความลับสุดยอดที่ไม่สามารถเปิดเผยก่อนหน้าได้ เพราะทุกประเทศที่รอจัดส่งรอบแรกแล้วถูกเลื่อนนั้น กำลังจ้องตาไม่กะพริบ! 

บางคนถามว่า ทำไมไทยไม่เข้าโครงการ COVAX เหมือนประเทศอื่นในอาเซียน คำตอบมีคนตอบไปเยอะแล้ว แต่ผมก็อยากจะถามเหมือนกันว่า ทำไมไม่คิดว่า ไทยเราเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่มองการณ์ไกลสามารถเจรจาให้ผู้ผลิตวัคซีนมาตั้งฐานผลิตได้ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการทดลองวัคซีน และก็โชคดีที่วัคซีนที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูงด้วย และเราก็โชคดีที่มีโรงงานที่มีศักยภาพทำได้พอดี (ถ้าไม่ได้ตั้งมาก่อน ไม่มีทางทำได้แน่) ทำให้ตอนนี้ เราไม่ต้องรอการแบ่งจัดสรรจาก COVAX หรือรอการเจรจาซื้อที่ก็ควบคุมไม่ได้เหมือนหลายประเทศในอาเซียน

เรียกว่างานนี้ไทยแลนด์ "เก่งบวกเฮง" ครับ ???? (หรือใครจะเรียกว่า "มีบุญ" ก็ไม่ว่ากันครับ) 

 

ที่มา : https://tna.mcot.net/world-714339
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4674255965923339&id=100000169455098


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘หมอยง’ เปรียบเทียบผลข้างเคียงวัคซีน Sinovac กับ AstraZeneca ต่างกันชัดเจน แนะหากมีอาการไข้ปวดศีรษะ ให้กินยาพาราเซตามอลได้เลย

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง โควิด-19 วัคซีน อาการข้างเคียง และ อาการไม่พึงประสงค์ โดยระบุว่า

ในช่วงต้นการฉีดวัคซีน วัคซีนที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็น Sinovac และในผู้สูงอายุ จะใช้ AstraZeneca

ปัญหาอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น จะไม่ค่อยพบมาก ขณะนี้การใช้วัคซีนจะเป็น AstraZeneca เป็นหลักและจะต้องมีการใช้ต่อไปอีกเป็นจำนวนมาก Sinovac จะเป็นตัวเสริม

จากการศึกษาของศูนย์ ที่จริงได้ฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ในทุกอายุ ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป อยากจะบอกว่า วัคซีน Sinovac มีอาการข้างเคียง น้อยกว่า AstraZeneca โดยเฉพาะในเรื่องไข้ ปวดบริเวณที่ฉีด เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ ปวดศีรษะ ขนาดการศึกษานี้ผู้ป่วยฉีดวัคซีน AstraZeneca เราแจก พาราเซตามอลกลับบ้านด้วยซ้ำ

รูปข้างล่างแสดงให้เห็นเปรียบเทียบการศึกษาของศูนย์ เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน

อาการที่เกิดขึ้นจากวัคซีน AstraZeneca จะพบว่าอายุน้อย มากกว่าผู้สูงอายุ และผู้หญิงจะมีอาการมากกว่าผู้ชาย ซึ่งเมื่อดูอาการข้างเคียงเปรียบเทียบกับวัคซีนที่ฉีดในต่างประเทศโดยเฉพาะวัคซีนในกลุ่ม mRNA แล้วไม่ต่างกันเลย

ส่วนวัคซีน Sinovac อาการข้างเคียงดังกล่าวน้อยกว่ามาก ดังแสดงในรูป

ดังนั้นผู้ที่ฉีดวัคซีน AstraZeneca ถ้ามีไข้หรือปวดศีรษะ ท้องเสียอาเจียน ปวดเมื่อยตามตัว คล้ายไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นอาการที่พบได้หลังการฉีดวัคซีน ดังนั้น หลังฉีดเมื่อกลับไปถึงบ้านถ้ามีอาการดังกล่าว รับประทานยาพาราเซตามอลได้เลย ไม่ต้องรอให้ไข้ขึ้นสูง หรือปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว และสามารถทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง อาการดังกล่าวจะอยู่ประมาณ 1-2 วัน ก็จะหายเป็นปกติ

นอกจากว่ามีอาการมาก เช่น ไข้สูงติดต่อกันหลายวัน หรือสูงมาก ปวดศีรษะอย่างรุนแรง และรับประทานยาแล้วไม่หาย ก็ควรจะปรึกษาแพทย์

ถ้าทุกคนเข้าใจ จะได้ไม่เกิดวิตกกังวล ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนในกลุ่ม virus Vector หรือ mRNA วัคซีนจะมีอาการข้างเคียงได้มากกว่าวัคซีนชนิดเชื้อตาย ตามหลักฐานเชิงประจักษ์

 

ที่มา : https://www.facebook.com/yong.poovorawan/posts/5817236151652287


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

หมาหรือหมี อลาสกัน มาลามิวท์ | คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.33

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 

.

.

.

วิษณุ ยัน ไม่มียุบสภา บอก ไม่เคยได้ยินนายกฯ พูด ปัดตอบ 3 พรรคร่วม จ่อ แก้รธน. ชี้ ปล่อยให้ตกผนึกก่อน 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องการยุบสภาว่า ตนไม่เคยได้ยิน เมื่อถามว่าในที่ประชุมครม.นายกฯ ได้เอยถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า "ไม่มีๆ แต่ถ้ามี เขาก็ไม่พูด" 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ 3 พรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคชาติไทยพัฒนาเตรียมเสนอร่างแก่ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา นายวิษณุกล่าวว่า ปล่อยให้มันตกผลึกก่อน 

เมื่อถามถึงกรณีที่ได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9  มิ.ย.ว่า เป็นการพูดคุยถึงพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งเข้าเข้าสู่การประชุมสภาฯในวันที่ 9 มิ.ย. 
 

กาฬสินธุ์ – เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่ให้กับโรงพยาบาลสหัสขันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ สู้วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์  เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องต่อสู้กับวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019

ที่วัดพุทธาวาสภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ,ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม และประธานกรรมการอบรมประชาชนกลาง (อ.ป.ก.) มอบหมายให้พระครูสิริพัฒนนิเทศก์ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยนายแพทย์คมกฤษ วิเศษ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสหัสขันธ์ เข้ารับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมด ทั้งนี้ จะนำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่สู้กับวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ระลอกใหม่

ในการนี้เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลสหัสขันธ์ จำนวน 6 รายการ  ประกอบด้วย สเปรย์แอลกอฮอล์ 53 ขวด  แอลกอฮอล์สำหรับเติม  24 ขวด เจลแอลกอฮอล์ 18 ขวด ทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์ 100 ห่อ ชุด PPE 120 ชุด และหน้ากากอนามัย 10,000 ชิ้น ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ให้เต็มกำลัง ซึ่งเมตตานุเคราะห์ของเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ยังจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด

สำหรับอำเภอสหัสขันธ์ มี 8 ตำบล 85 หมู่บ้าน ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แล้ว 6 ตำบล ประกอบด้วย ต.นิคม ต.สหัสขันธ์ ต.นามะเขือ ต.โนนน้ำเกลี้ยง ต.โนนแหลมทอง และต.โนนศิลา มีผู้ติดเชื้อสะสมที่ 21 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

“สิระ” หนุน กมธ.กฎหมาย ดันแก้ ให้เซ็กส์ทอยถูกกฎหมาย เพื่อควบคุมสินค้าที่ได้มาตรฐานลดปัญหา ฆ่าข่มขืน

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พปชร. ประธานกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงปัญหาการลักลอบนำเข้าเซ็กส์ทอยไร้คุณภาพและเกิดเหตุไฟฟ้าช๊อตผู้ใช้งานปางตายว่า ส่วนตัวสนับสนุนให้มีการนำเข้า เพื่อจำหน่ายเซ็กส์ทอยอย่างถูกกฎหมาย เพื่อให้มีกฎหมายเข้ามาควบคุมว่าจะใช้ เซ็กส์ทอยกับบุคคลกลุ่มใดได้บ้าง และสามารถควบคุมสินค้าให้ได้มาตรฐาน

โดยเฉพาะ ศคบ.ที่จะเข้าไปดูแลได้ และยังทำให้รัฐจัดเก็บภาษีส่วนนี้ได้อีกด้วยเหมือนที่หลายๆประเทศทำกัน แต่กฎหมายไทยยังไม่อนุญาต ทั้งที่เรื่องนี้ถือเป็นเสรีภาพส่วนบุคคล ส่วนตัวสนับสนุนให้มีการแก้ไขกฎหมายเพราะจะเกิดประโยชน์ในหลายด้านลดปัญหาอาชญากรรม การฆ่าข่มขืน ลดปัญหาการหย่าร้างและปัญหาในครอบครัวได้ จากปัญหาความต้องการทางเพศที่ไม่สมดุล

ซึ่งการแก้กฎหมายเรื่องนี้ เชื่อว่าสามารถทำได้เพราะไม่ได้ไปขัดต่อความสงบสุขของประชาชน ต่างจากการแก้กฎหมายเพื่อการพนันหรืออบายมุขอื่นๆ และยังลดปัญหาการลักลอบนำเข้า เซ็กส์ทอยที่ไม่ได้มาตรฐาน และเป็นอันตรายแก่ชีวิตประชาชนได้ โดยกรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎรพร้อมที่จะศึกษาการแก้กฎหมายเรื่องนี้ หากมีการร้องเรียนเข้ามา เพราะถือเป็นเรื่องสิทธิของประชาชนที่กรรมาธิการมีหน้าที่ 

ส่วนที่คนบางกลุ่มมองว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ นายสิระ กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นเมืองพุทธเช่นกันควรคำนึงถึงผลประโยชน์ ทางสังคมมากกว่าซึ่งจะต้องมาศึกษากัน

ศรีสุวรรณ ร้อง ป.ป.ช. สอบ อบต.ราชาเทวะ ปมเสาไฟกินรี ชี้ พิรุธอื้อ

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้สอบสวนการจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรีพลังงานโชล่าเซลล์ ของ อบต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ที่อาจส่อไปในทางทุจริต และไม่มีความคุ้มค่าต่อการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน เนื่องจากบางส่วนมีการติดตั้งในซอยที่เป็นป่าหญ้ารกทึบ มีระยะเสาแต่ละต้นถี่เกินไป และอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางราย

เมื่อตรวจสอบการดำเนินโครงการดังกล่าวพบว่า เสาไฟกินรีแต่ละต้นมีราคาเฉลี่ยต้นละ 95,485 บาท โดยมีการประมูลติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันกว่า 8 ปีแล้ว ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 12 สัญญา มูลค่า 1,079,291,000 บาท โดยมีเสาไฟกินรีระบบโซล่าเชลล์ติดตั้งแล้วกว่า 11,339 ต้น ในขณะที่ อบต.ราชาเทวะมีพื้นที่เพียง 31 ตร.กม.คิดเป็น 19,375 ไร่ (ในจำนวนนี้ใช้เป็นพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 9,451 ไร่) ซึ่งจะเหลือเป็นพื้นที่เหลือเพียง 9,924 ไร่เท่านั้น มีครัวเรือนเพียง 15,185 หลังคาเรือนเท่านั้น หากจะเปรียบเทียบให้เห็นชัดเสาไฟกินรี 1 ต้นจะเท่ากับ 1 ครัวเรือนเลยทีเดียว ซึ่งเป็นกรณีที่ผิดปกติอย่างมาก

นอกจากนั้น ในการประมูลงานดังกล่าวตลอด 8 ปีที่ผ่านมา มีเพียงบริษัทเดียวที่สามารถประมูลงานดังกล่าวได้ แม้จะมีคู่แข่งขันที่เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเกือบครึ่งแต่ก็ถูกปัดตกด้านคุณสมบัติ อันชี้ให้เห็นถึงข้อพิรุธ ที่สำคัญการกำหนดราคากลาง ไม่มีความเสถียรจะเปลี่ยนแปรไปตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดสังเกต ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 หรือกฎหมายฮั้วประมูลได้ แม้จะอ้างว่าการประมูลดำเนินการตามกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 แล้วก็ตาม

เมื่อสมาคมฯลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพข้อเท็จจริง พบว่าในพื้นที่ของ อบต.ราชาเทวะ ทุกตรอก ซอก ซอย ซึ่งแม้เป็นซอยแคบๆจะเต็มไปด้วยเสาไฟประติมากรรมกินรีพลังงานโชล่าเซลล์เต็มไปหมดทั้งสองฝั่งซอย บางจุดมีระยะห่างประมาณ 5-10 เมตรก็มี และบางซอยแทบจะเป็นซอยร้างมีหญ้าขึ้นรกชัฏ บางซอยถนนหนทางเป็นหลุมเป็นบ่อน้ำขังใช้สัญจรแทบไม่ได้ แต่ก็ยังมีเสาไฟกินรีไปติดตั้งอย่างมากมาย และยังมีติดตั้งรอบสระน้ำก็ยังมีอีกด้วย

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมายื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 เพื่อเอาผิดผู้บริหารและที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

สุโขทัย – เทียน “ตะคันดินเผา” สืบสานความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรมดั้งเดิมของสุโขทัย

พิธีเผาเทียนนั้นถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในค่ำคืนวันเพ็ญเดือน 12 โดยใช้  “ตะคัน” หรือถ้วยเทียนบูชา ที่เป็นภาชนะดินเผาบรรจุขี้ผึ้งไขเปรียง มีไส้เชื้อเพลิง จุดแล้วมีแสงสว่าง คนโบราณจึงเรียกว่า “เผาเทียน” เมื่อนำไปวางตามฐาน หรือระเบียงโบสถ์ วิหาร เจดีย์ เกิดเป็นแสงระยิบระยับนับร้อยนับพัน ถือเป็นบุญกุศลที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมศรัทธา

“บ้านตะคัน คุณจูคุณจิต” ที่ชุมชนบ้านใหม่ตะพังทอง ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย โดยมีคุณชัยรัตน์ ภุมราเศวต หรือลุงจู อายุ 59 ปี เล่าให้ฟังว่า “ตะคัน” หรือ “ตะคันดินเผา” มีลักษณะคล้ายจานขนาดเล็กที่ทำมาจากดินโดยการนำไปปั้นให้เป็นรูปทรงแล้วนำไปเผา บางบ้านใช้สำหรับวางเทียนอบ วางกำยาน แต่บางบ้านก็นำตะคันมาใส่น้ำมันหรือเทียนขี้ผึ้งและใส่ไส้เส้นด้ายใช้เพื่อจุดไฟ นำไปตกแต่งสถานที่ก็มี อาทิ รีสอร์ท โรงแรม ร้านกาแฟ หรือนำไปประกอบการแสดงร่ายรำก็มี

ปัจจุบันที่นี่เปิดเป็น “ศูนย์การเรียนรู้บ้านตะคัน” โดยจะมีผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้การทำตะคันดินเผากันมากมาย จึงรู้สึกภูมิใจได้เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดสุโขทัยต่อการสืบสานการทำตะคันดินเผา และเพิ่มบรรยากาศความสวยงามให้กับงานลอยกระทงสุโขทัยมาทุกปี

“ประวิตร” เร่ง "แก้น้ำท่วมเมืองพัทยา" ช่วยปชช.เดือดร้อน ชูการท่องเที่ยว-อีอีซี

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานการประชุม คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 3/2564 โดยขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามแผนงานโครงการฯที่ผ่านความเห็นชอบ นำไปสู่การปฏิบัติเพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ปัญหาน้ำทุกมิติและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำแล้ง น้ำท่วม และน้ำเค็ม กักเก็บ สำรองน้ำบนดินใต้ดิน ไว้ใช้อย่างเพียงพอและทั่วถึง

ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระยะที่ 1โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะรองรับน้ำฝนครอบคลุมพื้นที่ 15.39 ตร.กม. มีผู้ได้รับประโยชน์ 38,740 ครัวเรือน ลดความเสียหายทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 600 ล้านบาทปี สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยว และเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

รับทราบความคืบหน้าโครงการขนาดใหญ่ ที่ผ่านคณะกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติ (กนช.) เพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี 4 โครงการ ได้แก่

1.) อ่างเก็บน้ำ แม่ตาช้าง จ.เชียงราย

2.) อ่างเก็บน้ำ คลองโพล้ จ.ระยอง

3.) อ่างเก็บน้ำ บ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา และ

4.) สถานีสูบน้ำดิบ พร้อมระบบท่อส่งน้ำ เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี และรับทราบผลการติดตามการขอใช้พื้นที่ป่า สำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำ 26 โครงการ ให้กรมชลประทาน เร่งจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อมให้เป็นฉบับสมบูรณ์ นอกจากนั้นรับทราบความก้าวหน้าโครงการแก้มลิงทุ่งหิน จ.สมุทรสงคราม พื้นที่ 2,623 ไร่ เพื่อใช้ชะลอน้ำหลาก ผลิตน้ำประปา และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างเศรษฐกิจให้กับจังหวัด ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top