ดร.วรัชญ์ ชี้ ประเทศไทย มองการณ์ไกล ปิดดีลผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ได้ตั้งแต่แรก ไม่ต้องรอลุ้น ขณะที่ประเทศอย่างไต้หวันอยากผลิตบ้าง แต่ศักยภาพไม่พอ
ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าเห็นข้อดีของไทยหรือยังครับ ที่ดีลกับแอสตราเซเนกาได้ตั้งแต่แรก และเป็นฐานการผลิตในประเทศไทยเราเอง
ไต้หวัน ที่รวยกว่าเรามาก และมีเทคโนโลยีสูงกว่าเรามาก จะขอแอสตราเป็นฐานการผลิต ยังไม่ได้เลยครับ ทาง AZ บอกว่าต้องผลิตอย่างน้อย 300 ล้านโดส ซึ่งไต้หวันบอกว่า "เป็นไปได้ยากและต้องใช้สายการผลิตอย่างเต็มกำลัง" ไต้หวันทำไม่ได้ แต่ไทยทำได้ครับ เพราะไทยมีบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่ ร.9 ทรงก่อตั้งขึ้น และทรงสานต่อโดย ร.10
และแม้ตอนแรกเราจะยังไม่พร้อม เพราะไม่เคยผลิตวัคซีนมาก่อน แต่รัฐบาลไทยก็อนุมัติเงิน 600 ล้านตั้งแต่ปีที่แล้ว ให้ปรับปรุงโรงงาน ซึ่ง SBS ก็จะคืนมาในรูปแบบของวัคซีน (สุดยอดมาก เท่ากับเราไม่ได้เสียอะไรเลย)
และไทยสั่งซื้อของ AZ แค่ 61 ล้านโดสเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องผลิตให้กับชาติอื่นๆ ในอาเซียนด้วย ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิน 300 ล้านโดสมั้ย
เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ได้ดีลกับ AZ ไว้ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ก่อนที่วัคซีนจะผลิตสำเร็จ ถ้าเพิ่งมาเจรจาตอนนี้ ผมว่าเราไม่น่าจะได้ดีลนี้แล้วนะครับ
และใครว่าเราเป็น OEM หรือแค่รับจ้างผลิต แล้วจะมีประโยชน์อะไร ท่านก็ลองดูแล้วกันครับว่า ประเทศอื่นๆ ที่รอเราอยู่ ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมทั้งไต้หวัน โดน AZ เลื่อนหมดเลยอย่างไม่มีกำหนด แต่เราได้รอบแรกตรงเวลา ทันตามกำหนด และรอบที่สองแม้ว่าจะมีข่าวเลื่อน แต่ก็เลื่อนแค่ไม่กี่วัน ยังเป็นไปตามกำหนด Week 3 อยู่
แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถพูดหรือเปิดเผยได้ว่าการเลื่อนของประเทศอื่นมีผลมาจากการมีโรงงานในประเทศไทยหรือไม่ แต่ผมคิดว่า common sense ก็น่าจะพอบอกได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งด้วยหรือไม่
และนี่ก็คือสาเหตุที่ว่า ข้อมูลจำนวนวัคซีน หรือวันที่จะส่งมอบ นั้นเป็นความลับสุดยอดที่ไม่สามารถเปิดเผยก่อนหน้าได้ เพราะทุกประเทศที่รอจัดส่งรอบแรกแล้วถูกเลื่อนนั้น กำลังจ้องตาไม่กะพริบ!
บางคนถามว่า ทำไมไทยไม่เข้าโครงการ COVAX เหมือนประเทศอื่นในอาเซียน คำตอบมีคนตอบไปเยอะแล้ว แต่ผมก็อยากจะถามเหมือนกันว่า ทำไมไม่คิดว่า ไทยเราเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่มองการณ์ไกลสามารถเจรจาให้ผู้ผลิตวัคซีนมาตั้งฐานผลิตได้ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการทดลองวัคซีน และก็โชคดีที่วัคซีนที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูงด้วย และเราก็โชคดีที่มีโรงงานที่มีศักยภาพทำได้พอดี (ถ้าไม่ได้ตั้งมาก่อน ไม่มีทางทำได้แน่) ทำให้ตอนนี้ เราไม่ต้องรอการแบ่งจัดสรรจาก COVAX หรือรอการเจรจาซื้อที่ก็ควบคุมไม่ได้เหมือนหลายประเทศในอาเซียน
เรียกว่างานนี้ไทยแลนด์ "เก่งบวกเฮง" ครับ ???? (หรือใครจะเรียกว่า "มีบุญ" ก็ไม่ว่ากันครับ)
ที่มา : https://tna.mcot.net/world-714339
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4674255965923339&id=100000169455098
โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9