Tuesday, 1 July 2025
TheStatesTimes

“หน่วยมั่นคง ทหาร-ตร.” พร้อมเข้าควบคุม พื้นที่โดยเฉพาะในแคมป์คนงานก่อสร้าง ห้ามมีการเคลื่อนย้ายแรงงานไปมาระหว่างแคมป์

พล.ต.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่าในขณะนี้ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้รับมอบหมายจาก ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้ฝ่ายทหารและตำรวจ บูรณาการความร่วมมือในการการจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงดูแลควบคุมการ เข้า-ออก ของคนงานในบริเวณที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่เขตหลักสี่และชุมชนคลองเตย เพื่อเป็นการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานไปมาระหว่างแคมป์ต่างๆ แล้ว

สำหรับ การเข้าไปควบคุมหรือสั่งปิดพื้นที่นั้น อยู่ในดุลยพินิจและอำนาจของเขต หรือจังหวัด โดยหากมีความจำเป็นที่ต้องใช้กำลังในด้านต่างๆ มากขึ้น จะพิจารณาสนธิกำลังทหาร-ตำรวจ เข้าสนับสนุนการปฏิบัติของ ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ในการควบคุมดูแลพื้นที่ที่อาจมีความสุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อต่อไป

พปชร. เย้ยโควิด ยกโขยงประชุมใหญ่ 18 มิ.ย.นี้ จ.ขอนแก่น ยัน! เป็นไปตามมาตรการคุมโควิด-19

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พรรคพปชร. มีมติจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น จ.ขอนแก่น ทั้งนี้เป็นไปตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น อนุญาต ภายใต้มาตรการป้องกันโรคและควบคุมโรคติดต่อโควิด-19 

ตร.จ่อออกหมายจับ 12 รุ่นพี่อุเทนฯ หลังลงโทษโหดเตะน้องดับ

กลายเป็นเรื่องราวขึ้นมาอีกแล้ว สำหรับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถาบันการศึกษา เมื่อนายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือ ปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย รุ่น 89 แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากถูกย้ายจากโรงพยาบาลหัวเฉียวมารักษาที่นครราชสีมา ด้วยอาการช็อกหมดสติ

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ระบุว่ามาจากลิ่มเลือดไปอุดตันเส้นเลือดขั้วปอด ซึ่งสาเหตุในการเสียชีวิตที่แพทย์ลงความเห็นนี้ สร้างความข้องใจให้กับญาติเป็นอย่างมาก เพราะผู้เสียชีวิตเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว

โดยประเด็นนี้ ในรายการโหนกระแสของหนุ่มกรรชัย ได้เผยมูลเหตุการเสียชีวิตจากเพื่อนของน้องผู้เสียชีวิตที่กล่าวในรายการว่า น่าจะมาจากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ลงโทษ ด้วยการยืนล้อมแล้วเตะอกผู้เสียชีวิต 12 คน เตะคนละสองที

ด้าน ผศ.พรชัย อัจฉริยเมธากร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เปิดเผยภายหลังเดินทางมาร่วมงานสวดอภิธรรมศพ นายวีรพัฒน์ หรือ น้องปลื้ม ที่บ้านเกิดในอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยระบุว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้น ได้ทำการสอบสวนหาข้อมูล จนทราบตัวกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่ร่วมกระทำแล้ว มีทั้งหมด 12 คน เบื้องต้น ทั้งหมดให้การรับสารภาพ ซึ่งในกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย ถ้ามีการกระทำรุนแรงขนาดนี้ จะต้องให้ออกสถานเดียว และหากพบผู้กระทำผิดเพิ่มก็จะลงโทษให้ออกเช่นกัน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุดตำรวจสน.ปทุมวันเตรียมออกหมายจับรุ่นพี่อุเทนถวายรับน้องจนเสียชีวิต หลังพบพยานหลักฐานชัดเจนมีผู้หญิงอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ด้านมหาวิทยาลัยยันไม่มีนโยบายรับน้องและอนุญาตให้เข้าไปใช้พื้นที่

โดย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เมธี นักพันธุ์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน นำชุดสืบสวนสน.ปทุมวันกก.สส.บก.น.6 และ บก.สส.บช.น. เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อุเทนถวาย เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน กรณีการเสียชีวิตของน้องปลื้ม ที่ถูกรุ่นพี่รุ่น 88 ลงโทษด้วยการทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต และประชุมหารือกับทางมหาวิทยาลัย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ได้ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยลงพื้นประชุมหารือกันแล้ว เชื่อว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับผู้ก่อเหตุรวม 12 คน ซึ่งหลักฐานประกอบด้วยรถยนต์ที่รุ่นพี่ใช้ กล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบสภาพแวดล้อมจากจุดเกิดเหตุ

โดยตอนนี้เหลือเพียงสอบปากคำพยานบางส่วนเพื่อมาประกอบสำนวนการสืบสวน โดยต้องดูว่าใครมีหน้าที่บทบาทอย่างไร ใครเป็นผู้สั่งการ ใครเป็นผู้ลงมือกระทำ โดยพฤติการณ์เบื้องต้นพบว่า เป็นการที่รุ่นพี่ปี 3 เรียกรุ่นน้องปี 2 มาประชุมเพื่อจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ที่กำลังจะเข้าศึกษาปี 1 และได้ลงโทษให้รุ่นน้องนั่งเรียงกัน และรุ่นพี่หมุนเวียนใช้เท้าเตะ ซึ่งมีรุ่นพี่ผู้หญิงอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าลงมือกระทำหรือไม่ ส่วนการแจ้งข้อหาจะแบ่งเป็นคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินและพ.ร.บ.โรคติดต่อ และหากรุ่นพี่คนใดที่มีพยานหลักฐานว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง ก็จะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตเพิ่มเติมด้วย

 

ที่มา: https://www.posttoday.com/social/general/655076

https://news.ch7.com/detail/491605

‘บิ๊กป้อม’ สั่งเร่งฟื้น คลองแสนแสบ มุ่งอนุรักษ์-พัฒนาสิ่งแวดล้อม-ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมสั่งการเตรียมรองรับฤดูฝนที่กำลังจะมา

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟู คลองแสนแสบ ครั้งที่ 3/2564 โดยที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าแผนปฏิบัติการ พัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อม คลองแสนแสบ จำนวน 84 โครงการ โดยกทม.จะเสนอครม.พิจารณาภายในเดือนมิ.ย.ต่อไป พร้อมรับทราบแนวทางการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจและเห็นความสำคัญของการร่วมพัฒนา โดยขอให้ทุกหน่วยงาน สร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะชุมชนริมคลอง ซึ่งอาจได้รับผลกระทบโดยตรง ให้มีความเข้าใจ และเห็นประโยชน์ร่วมกัน มีความภาคภูมิใจที่จะได้ร่วมพัฒนาเชิงอนุรักษ์คลองแสนแสบให้มีความสวยงามและใช้ประโยชน์ เพื่อการสัญจรได้อย่างปลอดภัยต่อไป

นอกจากนั้น รับทราบแผนเตรียมการรองรับน้ำฤดูฝนในพื้นที่คลองแสนแสบ ตามที่กรมชลประทาน วางแผนร่วมกับ กทม.ในการแก้ไขคุณภาพน้ำ และบริหารจัดการน้ำหลาก ให้มีแผนเผชิญเหตุและแนวทางการป้องกันอุทกภัยและน้ำท่วมในพื้นที่กทม. ที่มีพื้นที่เสี่ยงบริเวณเขตหนองจอก โดยกทม. มีแผนปรับลดระดับน้ำในคลองแสนแสบ เพื่อใช้เป็นแก้มลิงรองรับน้ำฝน หากเกิดมวลน้ำจำนวนมาก เพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยให้หน่วยงานรับผิดชอบหลัก อาทิ กทม. กรมธนารักษ์ กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรมกรมเจ้าท่า กรมชลประทาน และกรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งรัดแผนงาน โครงการ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้เสร็จโดยเร็ว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลฯ" ทำความดี_ช่วยเหลือคนพิการและผู้ป่วยติดเตียง

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 "นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในหม่อมเจ้าอุทัยกัญ ญาภาณุพันธุ์ ร่วมกับ "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร" (จิตอาสา) ลงพื้นที่มอบ "ที่นอนลม" และเบาะเจลรองนั่ง ให้คนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง โครงการในอุปถัมภ์ "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" โดยได้รับมอบมาจาก "นายสายันต์ ดีเลิศ" นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพและช่วยเหลือรถเข็นเพื่อคนพิการ (ปทุมธานี) มาส่งต่อให้ถึงมือชาวบ้านโดยมี "นายนิพนธ์ แก้วธรรม" รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม "นางสาวรุ่งนภา แก้วธรรม" ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่16 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และทีมงานจิตอาสา ร่วมกันลงพื้นที่ ไปยังบ้านคนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง ที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ อุปกรณ์ช่วยเหลือ

ทั้งนี้นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย เลขานุการในหม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ยังได้นำกระแสรับสั่ง ความห่วงใยคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ มายังผู้พิการ และขอขอบคุณน้ำใจที่งดงาม ที่ท่านนายกสมาคมฯทั้ง 2 ท่าน และจิตอาสา ได้ร่วมกันทำความดีช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้เกิดประโยชน์ ความสุข ความเป็นอยู่ที่ดี และความสามัคคีของประชาชนคนไทย เพื่อประเทศชาติและบ้านเมืองสืบไป ในการนี้ขอน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ "พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) ซึ่งตรงกับวันที่ 9 มิถุนายน "วันอานันทมหิดล"

FWB Zone | คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.32

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 

.

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สมุทรปราการ - ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “รวมใจภักดิ์ อนุรักษ์พันธุ์ปลา รักษาป่าชายเลน” ในมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

วันที่ 9 มิ.ย.64 พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “รวมใจภักดิ์ อนุรักษ์พันธุ์ปลา รักษาป่าชายเลน” ในมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้งที่ 3/2564 ณ หมวดเรือที่ 3 กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และ พล.ร.ต.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือ นำคณะอุปนายก และผู้บริหารสมาคมภริยาทหารเรือ ร่วมในพิธี

มูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองพระดำริ ที่ทรงมีเจตนารมณ์ในการอนุรักษ์แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย และเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการอนุรักษ์ แนวปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริ ให้แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ได้อย่างมีความสมดุลและยั่งยืน กองทัพเรือ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานสนองพระดำริ จึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และพระประสงค์ของพระองค์ ที่ผ่านมา ชายฝั่งบริเวณพื้นที่ด้านทิศใต้ของหมวดเรือที่ 3 กองเรือทุ่นระเบิด ประสบปัญหาการกัดเซาะของแม่น้ำเจ้าพระยา และปัญหาน้ำท่วมสูงตามฤดูกาล ทำให้ชายฝั่งเกิดการพังทลายเป็นบริเวณกว้าง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 0.6 ไร่ หรือ 25 % ของพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด ทั้งนี้ หากปล่อยให้เกิดการพังทลายต่อไป จะเกิดผลกระทบต่อพื้นที่ที่ตั้งหน่วยแห่งนี้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาดังกล่าว กองเรือยุทธการ จึงได้มอบหมายให้กองเรือทุ่นระเบิด จัดกิจกรรม “รวมใจภักดิ์ อนุรักษ์พันธุ์ปลา รักษาป่าชายเลน” ในมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยฯ ครั้งที่ 3/2564 โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ การรักษาระบบนิเวศ และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย อนุรักษ์ป่าชายเลนให้มีความสมบูรณ์ พร้อมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งศึกษาทางนิเวศวิทยา พัฒนาแนวชายฝั่ง และป้องกันการพังทลายของหน้าดินในพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งหน่วย โดยมีการดำเนินการ กิจกรรมย่อย 3 กิจกรรม ประกอบด้วย

            -กิจกรรมปลูกต้นโกงกาง จำนวน 350 ต้น

            -กิจกรรมปล่อยพันธุ์ปูจำนวน 918 ตัว พันธุ์ปลา 9,918 ตัว

            -กิจกรรมเก็บขยะโดยรอบพื้นที่

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสนับสนุนการดำเนินโครงการตามพระดำริแล้วยังเป็นการพัฒนาแนวชายฝั่ง และป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งการป้องกันการกัดเซาะ โดยการปลูกต้นโกงกาง นับได้ว่าเป็นวิธีการตามธรรมชาติและประหยัดงบประมาณ ซึ่งนอกจากจะสามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้แล้ว ยังส่งผลประโยชน์ในการเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นที่หลบภัยและที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศ และเป็นการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดี ให้กับข้าราชการและประชาชน ในการร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสามารถเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานต่าง ๆ นำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการป้องกันปัญหาการกัดเซาะและการพังทลายของหน้าดินได้

การปลูกต้นโกงกางในครั้งนี้ได้ใช้แนวทางตามโครงการปลูกต้นโกงกางในท่อใยหิน ซึ่งเป็นแนวทางที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วย SEAL) คิดค้น และพัฒนาขึ้น โดยเริ่มดำเนินการทดลองปลูกเพื่อแก้ปัญหาการอยู่รอดของต้นโกงกาง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 จนเป็นที่มาของการปลูกต้นโกงกางรูปแบบใหม่คือ “การปลูกต้นโกงกางในท่อใยหิน” ซึ่งหน่วย SEAL เริ่มทดลองปลูกบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งทะเล พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย จนพบว่ามีอัตราการรอดชีวิตของต้นโกงกางถึง 98.5% คิดเป็นจำนวน 2,524 ต้น นับว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่งผลให้เกิดระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากขึ้น


ภาพ/ข่าว สมนึก เชื้อสนุก

นครราชสีมา - ตำรวจทางหลวงโคราช นำคาราวานปันสุข รุดช่วยเหลือน้องเก้า เด็กสู้ชีวิตลำพัง เก็บของเก่าขาย มอบทุนการศึกษา สิ่งของ รวมถึงส่งกำลังใจ หมอ-พยาบาล 4 โรงพยาบาล สู้โควิดไปด้วยกัน รวมแล้ว 25 โรงพยาบาลทั่วโคราช

วันนี้ 10 มิถุนายน เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา เป็นตัวแทน พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.ร่วมกับ จิตอาสา 904 ร่วมกับ จิตอาสาตำรวจทางหลวงนครราชสีมา กรรมการหอการค้าโคราช ชมรมฮักเขาใหญ่ และชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอวังน้ำเขียว 

ร่วมกันจัดกิจกรรม คาราวานปันสุข เติมพลังใจ หมอ-พยาบาล 4 โรงพยาบาล ครั้งที่ 5 โดยเริ่มมอบสิ่งของให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลประทาย โรงพยาบาลสีดา โรงพยาบาลบัวลาย และโรงพยาบาลแก้งสนามนาง รวม 4 โรงพยาบาล 4 อำเภอ

โดยมีการนำอาหารกล่อง น้ำดื่ม ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผลไม้ ทยอยมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นกำลังใจปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสโควิด สำหรับกิจกรรมคาราวานครั้งนี้ ได้ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลไปแล้ว 21 โรงพยาบาล โดยรวมทั้งวันนี้ 25 โรงพยาบาลแล้ว

ภายหลัง พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา พร้อมคณะคาราวาน เป็นตัวแทน พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.ร่วมกับ จิตอาสา 904 เดินทางไปเยี่ยม นายตะวัน มุสิกา หรือน้องเก้า อายุ 16 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 9849/1 ถนนหัวหนอง 5 ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่สู้ชีวิตเพียงลำพังด้วยการเก็บของเก่าขาย หลังจากพ่อกับแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว น้องเก้า ก็อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ สภาพทรุดโทรม มานานกว่า 1 ปี ปัจจุบันนี้ น้องเก้า ได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคบัวใหญ่ ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างยนต์ อาศัยออกเก็บของเก่าขายเลี้ยงตัวเองตามที่เสนอข่าวในโลกโซเชี่ยล

โดยน้องเก้า รู้สึกดีใจ พร้อมกล่าวขอบคุณ ทุกคนที่ได้ช่วยเหลือตนเอง โดยน้องเก้าได้ยกมือไหว้ขอบคุณ นอกจากนี้ ยังมีผู้บริจาคเงินช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษาให้น้องเก้าแล้ว จำนวน 300,000 บาท ซึ่งน้องเก้าสัญญาว่า จะตั้งใจเรียน เป็นคนดี และจะใช้จ่ายเงินที่บริจาคให้อย่างประหยัด เพื่อเป็นทุนในการเรียนต่อจนจบ หากใครที่ต้องการจะสนับสนุนช่วยเหลือน้องเก้า สามารถโทรศัพท์สอบถามเพื่อนบ้านของน้องเก้าได้ที่เบอร์ 062-369-4639

กรุงเทพฯ - กองทัพเรือ เปิดฌาปนสถานกองทัพเรือพื้นที่แห่งใหม่ วัดสารอด เขตราษฏร์บูรณะ

วันนี้ (10 มิถุนายน 2564) พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานฌาปนสถานกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพฯ (วัดสารอด) ณ วัดสารอดเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ปลูกต้นพระเจ้าห้าพระองค์  เป็นที่ระลึก

จากนโยบายของ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2564 ด้านการสวัสดิการ ให้กองทัพเรือดำเนินการพัฒนาด้านสวัสดิการเพิ่มเติม เพื่อให้กำลังพลกองทัพเรือ และครอบครัวมีสวัสดิการที่ดีมากยิ่งขึ้นอย่างเหมาะสม โดยมีเป้าหมายประการหนึ่งคือ การจัดหาฌาปนสถานกองทัพเรือ เพิ่มอีก 1 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับกำลังพลกองทัพเรือ และครอบครัวในทุกระดับ โดยมีสวัสดิการฌาปนสถานกองทัพเรือ และกรมสวัสดิการทหารเรือ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ

จากการดำเนินการของหน่วยรับผิดชอบตามที่กล่าวข้างต้น กองทัพเรือได้รับความเมตตาจากพระศรีธีรพงศ์ เจ้าคณะเขตราษฎร์บูรณะ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสารอด และคณะสงฆ์วัดสารอด ให้กองทัพเรือได้ใช้พื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวก และฌาปนสถานของวัดสารอด เพื่อจัดสวัสดิการด้านการฌาปนสถานของกองทัพเรือ และจัดตั้งสำนักงานฌาปนสถานกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพ ณ วัดสารอด แห่งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ และวัดสารอดในการร่วมพัฒนาพื้นที่ และการฌาปนสถาน อันเป็นประโยชน์แก่กำลังพลกองทัพเรือ ครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ต่อไป โดยฌาปนสถานกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพ (วัดสารอด) โดยได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 26 เมษายน 2564 เป็นต้นมา และเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่กำลังพลกองทัพเรือในช่วงแรกของการให้บริการ ได้จัดให้มีโครงการ “กองทัพเรือร่วมไว้อาลัย จ่ายให้ในคืนแรก”  โดยจะสงเคราะห์ค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าใช้จ่ายหลักให้กับเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมคืนแรก ประกอบด้วย ค่าศาลา ค่าเครื่องไทยธรรม และปัจจัยถวายพระสงฆ์ รวมทั้งส่วนลดค่าหีบศพ และดอกไม้ประดับหน้าหีบศพ จากผู้ประกอบการ ที่กำหนดถึงวันที่ 30 กันยายน 2564  

วัดสารอด ตั้งอยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 44 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร มีระยะห่างจากอาคารที่พักส่วนกลาง พื้นที่สุขสวัสดิ์ 26 เพียง 3.4 กิโลเมตร  และมีระยะทางที่ไม่ห่างจากกองบัญชาการกองทัพเรือ และหน่วยงานกองทัพเรือส่วนกลางในพื้นที่กรุงเทพมากนัก การเดินทางสะดวกสามารถเข้า - ออก ได้ 2 เส้นทาง คือ ทางถนนสุขสวัสดิ์ และ ถนนประชาอุทิศ สำหรับรายละเอียดในการขอรับบริการสามารถติดต่อได้ที่ สวัสดิการฌาปนสถานกองทัพเรือพื้นที่กรุงเทพ หมายเลขโทรศัพท์ 0898936912 หรือหมายเลขโทรศัพท์กองทัพเรือ 024753219 และ 024755162 


ภาพ/ข่าว กองประชาสัมพันธ์

สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

กองทัพบกพร้อมหนุนทุกส่วน ร่วมคลี่คลายโควิดระยะต่อไป หลังผลสำรวจชี้ประชาชน พอใจบทบาททหารช่วยโควิด

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามที่สวนดุสิตโพลได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อบทบาทของกองทัพบกในสถานการณ์ COVID-19 ช่วง 26 พ.ค.-4 มิ.ย. 2564 ซึ่งผลสำรวจระบุว่าประชาชนรับรู้ในบทบาทของกองทัพบกที่ได้มีการตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ติดเชื้อ, ภารกิจสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง ผิดกฎหมาย และการส่งกำลังพลช่วยสร้างโรงพยาบาลสนามให้กับรัฐบาล

นอกจากนี้โพลยังระบุว่าประชาชนพึงพอใจเรื่องการบริจาคโลหิตของหน่วยทหาร ที่ช่วยแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนโลหิต และบทบาทในการช่วยสร้างโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลประชาชน

ซึ่งถือว่าผลการสำรวจดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจหรือความรู้สึกของประชาชน รวมถึงมุมมองที่มีต่อกองทัพบกในสถานการณ์วิกฤตของประเทศได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามบทบาทและการนำศักยภาพของกองทัพบกเข้าไปดำเนินการเรื่อง COVID-19 นี้เป็นไปตามนโยบายและเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ รวมทั้งการทุ่มเทเสียสละของกำลังพลในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ภายใต้การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ มุ่งหวังให้ประชาชนได้บรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งนี้กองทัพบกจะได้นำผลสรุปความคิดเห็นประชาชนดังกล่าวไปปรับเพิ่มแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อใช้สนับสนุนการคลี่คลายสถานการณ์ COVID-19 ในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตาม การใช้ศักยภาพของกองทัพบกในการดูแลช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนทุกภาคส่วนในสถานการณ์ COVID-19 ได้ดำเนินการในทุกมิติ ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรค การบรรเทาผลกระทบที่เกิดกับประชาชน เกษตรกร การมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อการดำรงชีวิต และการมอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ และล่าสุดคือการรณรงค์ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนเรื่องการฉีดวัคซีน สิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกภารกิจดังกล่าวมีประสิทธิภาพคือ ความเข้มงวดและดูแลให้กำลังพลให้มีสภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีการติดเชื้อ ภายใต้มาตรการพิทักษ์พลเพื่อดำรง ความพร้อมในการดูแลช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ COVID-19 ได้โดยต่อเนื่อง จนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top