Monday, 12 May 2025
Region

ชุมพร – ควบคุมการทำประมงในช่วงประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลาง (ประจวบ ฯ - ชุมพร - สุราษฎร์ธานี)

วันอาทิตย์ ที่ 18 เมษายน 2564 ศรชล.จังหวัดชุมพร บูรณาการร่วมกับ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเล จังหวัดชุมพร ภายใต้การอำนวยการของ นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผวจ./ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร มอบหมายให้ น.อ.กิตติพงษ์ พุ่มสร้าง รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร บูรณาการร่วมกับ นาย พงศ์รันย์ รัตนพรหม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลจังหวัดชุมพร จัดกิจกรรมควบคุมการทำประมงในช่วงประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลาง(ประจวบ ฯ ชุมพร สุราษฎร์ธานี)

นายนุรัตน์ ขาวสอาด เจ้าพนักงานเดินเรือปฏิบัติงาน หัวหน้าชุดปฏิบัติงาน พร้อมเจ้าหน้าที่รวม 6 นาย นำเรือตรวจประมง 113 ออกตรวจพื้นที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ในการนี้ตรวจยึดลอบพับหรือไอ้โง่ จำนวน 59 ลูก โดยมีผู้ลักลอบทำการประมงบริเวณชายทะเล อ่าวทุ่งมะขาม อ่าวทุ่งคา และอ่าวสวี โดยที่ลอบพับและลอบพับปูดังกล่าวเป็นเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 และ พ.ร.ก.การประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 เรื่องห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ ที่มีช่องทางเข้าของสัตว์น้ำสลับซ้ายขาวอยู่ทางด้านข้างใช้สำหรับดักสัตว์น้ำ มีความผิดตามมาตรา 67 มีโทษตามมาตรา 147 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จาการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า แต่ไม่พบผู้กระทำความผิด  เจ้าหน้าที่จึงได้รื้อถอนและทำการยึดเครื่องมือประมงดังกล่าวนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จังหวัดชุมพร จำนวน ลอบพับ (ไอ้โง่ 59 ลูก) ไว้เพื่อเป็นหลักฐาน


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

ปราจีนบุรี - สาวเสริมสวยใฝ่ธรรมะทุ่มเงินส่วนตัวสองล้านสร้างลานธรรมในหมู่บ้าน

วันที่ 20 เมย.64 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีรับแจ้งว่าที่บ้านนาไผ่รส ม.2 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี เจ้าของร้านเสริมสวยบัญชิตา บิวตี้ ซาลอน ควักเงินส่วนตัว 2 ล้านบาทซื้อที่ดินเพื่อสร้างลานธรรมะประจำหมู่บ้านโดยมีเจตนารมณ์เปิดใจใส่ธรรมะให้คนในหมู่บ้านมาสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิ เช้า-เย็น โดยเจ้าตัวยึดธรรมะถือศีลปฏิบัติธรรมมาแล้วหลายปี เมื่อมีโอกาสอยากทำในสิ่งที่คิดไว้

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านเสริมสวยบัญชิตาบิวตี้ซาลอน นส.บัญชิตา บุญพรมอ่อน อายุ 37 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยนส.บัญชิตา หรือ น้องแอม เปิดเผยว่า หลังจากที่เรียนเสริมสวยมา 10 ปี เปิดร้านเสริมสวยครบวงจรและเรียนนวดคลายเส้นมาด้วยต่อมาได้ช่วยเหลือผู้ยากไร้ทำให้คิดได้ว่า คนเราทุกคนเกิดมามีคุณภาพชีวิตไม่เหมือนกันอาจเป็นเพราะว่า"บุญ-บาป "เป็นตัวกำหนด สังเกตดูจากการกระทำของตัวเองแต่ละครั้งที่ได้ทำบุญช่วยเหลือคนจนรู้สึกอิ่มใจ มีโอกาสจะร่วมทำบุญกับผู้ยากไร้ตลอดมาในรอบ 10 ปี

ขณะเดียวกันได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมบ่อย ๆ สวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิ ฟังธรรมะจากหลวงพ่อต่าง ๆ ซาบซึ้งในพุทธคุณเก่งมีแนวคิดที่จะสร้างลานธรรมด้วยตัวเองควักเงินส่วนตัวซื้อที่ 5 ไร่ เพื่อสร้างลานธรรมให้คนเฒ่าคนแก่และ เพื่อน ๆ ที่เป็นกัลยาณมิตรมีใจใฝ่ธรรมะด้วยกันให้มาถือศีลปฏิบัติธรรมที่ลานธรรมที่จะสร้างขึ้นในหมู่บ้าน โดยการเปิดเป็นลานธรรมมีที่นั่งสวดมนต์ไหว้พระ ลานธรรมแห่งนี้จะให้ผู้สูงอายุในหมู่บ้านและใกล้เคียงมาร่วมปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เช้า-เย็นมีโรงทานไว้บริการแก่ผู้มาปฏิบัติธรรมรวมถึงจะสร้างห้องนวดคลายเส้นให้กับผู้ที่มาปฏิบัติธรรมด้วย แรงบันดาลใจที่จะสร้างลานปฏิบัติธรรมในคิดว่าตัวเองสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงนึกถึงหลักความเป็นจริงคนทุกคน หนีการเกิดแก่เจ็บตายไม่พ้น การได้สวดมนต์ไหว้พระและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พ้นจากทุกข์กายทุกข์ใจถือว่าได้สั่งสมบุญแล้ว ได้บริจาคร่างกายกับสภากาชาดไทยเอาไว้แล้วเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ดีกว่าเผาทิ้งซึ่งไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ เลยพอมีแนวคิดที่จะสร้างลานธรรมมีญาติติธรรมหลายคนติดต่อเข้ามาที่จะมาร่วมปฏิบัติธรรมอย่างนี้หลายคนแล้วขออนุโมทนาบุญไว้ล่วงหน้าด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  ลักขณา สีนายกอง

ขอนแก่น - รพ.ศรีนครินทร์ เสริมเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มหลังเตียงผู้ป่วยเต็ม ยืนยันสามารถบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่และครอบคลุมผู้ติดเชื้อทุกระดับ พร้อมนำหุ่นยนต์ทดแทนบุคลากรมาใช้ในการส่งอาหาร

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 เม.ย.2564 ที่ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข.รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข.  เปิดเผยว่า การบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของทางโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในสังกัดชอง มข. ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ที่ในขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องทะลุกว่า 200 ราย ทำให้เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆที่เตรียมสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะเริ่มเต็ม ซึ่ง รพ.ศรีนครินทร์มีห้องความดันลบทั้งหมด 8 ห้อง เตียงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระดับหนัก-วิกฤติ ซึ่งมีเตียงผู้ป่วยอยู่ 5 เตียงขณะนี้ก็เต็มเช่นเดียวกัน

"ในส่วนของเตียงที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในระดับหนักและวิกฤตินั้น ทางโรงพยาบาลได้เพิ่มเตียงอีก 5 เตียง ซึ่งจะเพียงพอในการดูและผู้ป่วยในระดับหนัก-วิกฤติ ในส่วนของผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลาง ภายใต้การบริหารจัดการรับมือสถานการณ์ในระดับสูงสุด ซึ่งในเรื่องของเตียงผู้ป่วยขณะนี้จะสามารถรองรับผู้ป่วยทุกระดับได้ทั้งหมด"

ขณะที่ รศ.นพ.ทรงศักดิ์ เกียรติชูสกุล ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวว่า ในแผนของการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ทางโรงพยาบาลได้มีแผนเตรียมพร้อมรับในทุกระดับตั้งแต่ระดับน้อยไม่แสดงอาการไปจนถึงระดับหนักถึงขั้นวิกฤติ แต่จะเน้นในการรักษาผู้ติดเชื้อภาวะวิกฤติเป็นหลักเหมือนกับที่โรงพยาบาลขอนแก่น เนื่องจากมีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์การแพทย์และบุคลากร ซึ่งการดูแลผู้ป่วยหนักจะแตกต่างจากการดูแลผู้ป่วยระดับอื่น ๆ เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์พิเศษอื่น ๆ เยอะ ทั้งชุดป้องกันที่จะต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยในระดับที่สูง และต้องใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วอย่างดี แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้มีการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โรงพยาบาลจึงต้องช่วยดูแลผู้ป่วยที่มีอาการในระดับน้อยถึงปานกลางด้วย ทำให้มีการแบ่งสัดส่วนของจำนวนเตียงผู้ป่วยให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

"ขณะนี้เรามีตั้งแต่ผู้ป่วยที่ต้องสงสัยรอผลตรวจ โดยจัดโซนภายในตึกสามารถรองรับได้จำนวน 14 คน คนไข้ที่มีอาการปานกลางจัดโซนไว้ให้ 2 ตึก สามารถรองรับได้จำนวน 20 คน ส่วนคนไข้ที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้นแล้วเป็นอาการคงที่จะย้ายไปอีกตึกหนึ่งและรอกลับบ้านซึ่งรองรับได้16 คนและกำลังพิจารณาหาหอผู้ป่วยรองรับอีก 12 เตียง ในส่วนของคนไข้หนักซึ่งเป็นภารกิจหลักของเราสามารถรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด 5 คน ขณะนี้จำนวนเตียงเต็มแล้วทั้ง 5 เตียง แต่เร็ว ๆ นี้จะสามารถส่งผู้ติดเชื้ออาการหนักที่ทำการรักษาหายแล้วกลับบ้าน 1 ราย ก็จะทำให้เตียงหนักว่าง 1 เตียง ทำให้ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้ทำการจัดสรรหาหอผู้ป่วยรองรับผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นอีก โดยใช้หอผู้ป่วยจำนวน 1 ตึกซึ่งจะสามารถรองรับผู้ติดเชื้ออาการหนักจนถึงขั้นวิกฤติได้อีก 5 เตียง โดยวันนี้จะเริ่มเข้าไปทำการปรับเปลี่ยนทันทีตามความเหมาะสมและได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข"

ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โรงพยาบาล ได้นำหุ่นยนต์มาช่วยในเรื่องของการส่งอาหารและยาให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระดับสูงสุด ส่วนบุคลากรของ รพ.ศรีนครินทร์ ในช่วงของการระบาดระลอกที่ 3 นี้ภายหลังจากพบแพทย์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 คน ทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงในโรงพยาบาลและตัวผู้ป่วยด้วย เนื่องจากบุคลกรทางการแพทย์นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกันในหลายๆ แผนก ต้องมีการปิดหอผู้ป่วยและตึกผ่าตัดเพื่อทำความสะอาด

ในขณะนั้นมีบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับ แพทย์ที่ติดเชื้อจำนวนเกือบ 600 คน ผู้ป่วยที่แพทย์ที่ติดเชื้อให้การรักษาอีกเกือบ 30 คน แต่ผลตรวจหาเชื้อของทุกคนเป็นลบ ทำให้มีความเข้มงวดมากขึ้นตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยต้องสงสัย และผู้ป่วยที่จะเข้ารับการผ่าตัด จะมีการนำเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์มาเสริมโดยซักประวัติผู้ป่วยผ่านทางวีดีโอคอล การสวอบผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกคนรวมถึงผู้ป่วยต้องสงสัยว่าติดเชื้อจะมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นเพื่อความปลอดภัยต่อบุคลากรทางแพทย์ในระดับสูงสุด พร้อมทั้งจัดทีมแพทย์ให้เข้ากับสถานการณ์หากมีทีมแพทย์ติดเชื้อก็สามารถสับเปลี่ยนทีมแพทย์ยกชุดได้ทันที

นอกจากนี้ยังบริหารจัดการในส่วนของผู้ป่วยโดยการลดการให้บริการบางส่วนภายในโรงพยาบาล แต่จะให้การสอบถามอาการผ่านทางโทรศัพท์และส่งยาไปให้ผู้ป่วยที่บ้านทางไปรษณีย์ ลดระยะเวลาของผู้ป่วยที่จะอยู่ในโรงพยาบาลให้น้อยที่สุด ซึ่งผู้ป่วยที่จะรับยาภายหลังจากยื่นใบสั่งยาแล้วให้ไปที่อื่นทันทีและจะมีข้อความแจ้งมายังผู้ป่วยว่าขณะนี้สามารถรับยาได้แล้วจึงค่อยเดินทางมารับยากลับไป หรือผู้ป่วยบางรายที่กลัวไม่กล้าเดินทางมาโรงพยาบาลก็จะใช้วิธีการสอบถามอาการผ่านทางโทรศัพท์และจัดยาส่งไปให้ทางไปรษณีย์

ขอนแก่น - เร่งระบายน้ำบึงหนองโคตร รับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาอย่างต่อเนื่องเพื่อ ป้องกันน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจของเมือง ผู้ว่าฯ คาดปีนี้ฝนตกชุก เร่งเตรียมรับน้ำในทุกพื้นที่อย่างเข้มงวด

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 20 เม.ย 2564 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอนแก่น, เทศบาลนครขอนแก่น และเทศบาลตำบลบ้านเป็ด ลงพื้นที่ตรวจสภาพปริมาณน้ำเก็บกักและการบริหารจัดการน้ำที่สถานีสูบน้ำพลังงานไฟฟ้าบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด  หลังจากที่ได้เริ่มพร่องน้ำลงสู่คลองร่องเหมือง มานานกว่า 1 สัปดาห์

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในปีนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าขอนแก่น จะมีปริมาณฝนที่จะชุกกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ในขณะนี้จังหวัดได้มีการประสานไปยังเทศบาลตำบลบ้านเป็ด เดินเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำในบึงหนองโคตรลงอีก 3 เมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการรองรับน้ำ ในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง

" บึงหนองโคตรเป็นบึงขนาดใหญ่กว่า 800 ไร่ เป็นแก้มลิงในการรับน้ำจากชุมชนเมือง,ท่าอากาศยานขอนแก่น และกรมทหารราบที่ 8 ดังนั้น เมื่อพร่องน้ำได้ระดับ 3 เมตร จะทำให้รองรับน้ำได้ปริมาณมาก ซึ่งจะทำให้พื้นที่เศรษฐกิจไม่มีปัญหาน้ำท่วมขังอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันได้สั่งการไปให้ทุกอำเภอ ได้มีการสำรวจ และวางแผนในการเฝ้าระวังน้ำท่วมเช่นกัน"

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า เขตพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น ได้วางแผนให้มีการพร่องน้ำออกจากคลองร่องเหมือง เพื่อให้น้ำไหลลงสู่บึงทุ่งสร้าง ก่อนที่จะมีการระบายต่อไปยังหนองอีเลิง และไหลลงสู่ห้วยพระคือ และแม่น้ำชี ในเขต ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป ขณะเดียวกันสำนักงานชลประทานที่ 6 เตรียมวางเครื่องสูบน้ำจำนวน 8 จุด รวม 9 เครื่อง  ตามพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง เพื่อช่วยในกรระบายน้ำที่ท่วมขังผิวจราจร และพื้นที่ลุ่มต่ำที่จะส่งผลน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน    

 

อย่างไรก็ตามสำหรับถนนมลิวรรณ ที่จะเริ่มมีการขยายผิวจราจร ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น จนถึงทางเข้าท่าอากาศยานขอนแก่น แขวงทางหลวงที่ 1 ได่มีการมีการวางท่อระบายที่จะระบายจากชุมชนค่ายกรมทหารราบที่ 8 เพื่อให้น้ำไหลลงสู่บึงหนองโคตร จำนวน 3 จุด ซึ่งหากการก่อสร้างโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะทำให้การระบายน้ำที่เคยท่วมขังชุมชนทางเข้ากรมทหารราบที่ 8 จะมีประสิทธิภาพการระบายน้ำได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย

สตูล - กอ.รมน.จังหวัดสตูลร่วมกับ สนง.สสจ.สตูล, ป้องกันจังหวัดสตูล, สภ.เมืองสตูล และ ฝ่ายปกครอง อ.เมืองสตูล ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนผ่านช่องทางสายด่วนความมั่นคง 1374 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตรวจพบร้านนวดแผนโบราณ

กอ.รมน.จังหวัด ส.ต. ได้รับการร้องเรียนร้องทุกข์ผ่านช่องทางสายด่วนความมั่นคง 1374 กอ.รมน. รับแจ้งเหตุความมั่นคง (Coll center 1374 กอ.รมน. รับแจ้งเหตุความมั่นคง) จากพลเมืองดี ว่ามีบุคคลชายไทย อายุ ประมาณ 65 ปี รูปร่างสันทัด ผิวขาว ผมสั้น เปิดร้านนวดแผนโบราณชื่อ “อาเสียน แดนใต้”ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 95/88 ถ.สฤษดิ์ภูมินารถ ซ.12 ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล มีพฤติกรรมน่าสงสัย ซึ่งอาจจะเข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน และประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนผู้มาใช้บริการสถานประกอบการดังกล่าว

กอ.รมน.จังหวัดสตูล ร่วมกับ สนง.สสจ.สตูล, ป้องกันจังหวัดสตูล, สภ.เมืองสตูล และ ฝ่ายปกครอง อ.เมืองสตูล  ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนผ่านช่องทางสายด่วนความมั่นคง 1374 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตรวจพบร้านนวดแผนโบราณชื่อ “เสียน แดนใต้”  ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 95/88 ถนนสฤษดิ์ภูมินารถ ซอย 12 ต.พิมาน อ.เมืองสตูล  จ.สตูล ผลการตรวจสอบภายในบ้านดังกล่าวพบ  นายอาคม วันนา อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ถ.ภูมินารถภักดี 2 ต.พิมาน อ.เมืองสตูล จ.สตูล และ นางไหมกาญจณ์  แก้วประมูล  อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/61 ถ.สฤษดิ์ภูมินารถ ต.พิมาน อ.เมืองสตูล  จ.สตูล โดยมี นายอาคม วันนา รับเป็นเจ้าของกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับตรวจพบสิ่งของอุปกรณ์ซึ่งตกเป็นของกลาง จำนวน 7 รายการ ยาสมุนไพรสีน้ำตาล จำนวน 11 ห่อ, ยาแผนปัจจุบันจัดเป็นชุด ประกอบด้วย สีเหลืองกลม 2 เม็ด  สีเหลืองห้าเหลี่ยม 1 เม็ด สีเขียวกลมรีรูปไข่ 1 เม็ด สีเหลืองนวล 1 เม็ด รวมจำนวน 1,924 ชุด, ยาแผนปัจจุบันจัดเป็นชุด ประกอบด้วย สีเหลืองกลม 2 เม็ด สีเหลืองห้าเหลี่ยม 1 เม็ด และสีขาว 1 เม็ด 3 ชุด รวมจำนวน 19 ชุด,ยาแผนปัจจุบันจัดเป็นชุด ประกอบด้วยสีเหลืองกลม 2 เม็ด สีเหลืองห้าเหลี่ยม 1 เม็ด และเม็ดขาวกลม ๑ เม็ด รวมจำนวน 3 ชุด, ปืนพกสั้นยี่ห้อ colt ขนาด 11 มม.  จำนวน 1 กระบอก ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน, เครื่องกระสุนขนาด 11 มม.  จำนวน 13 นัด,ซองกระสุน จำนวน 1 ซอง

เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบได้นำตัว นายอาคม วันนา และ นางไหมกาญจณ์  แก้วประมูล พร้อมด้วยของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล ข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันกระทำความผิด จำนวน 8 กระทง ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืน ม.16 ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ,ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตฝ่าผืน ม.24 ตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ.2541,ประกอบโรคศิลปะโดยไม่ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาต ฝ่าฝืน ม.30 ตาม พ.ร.บ. การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542,ขายยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืน ม.12 ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510, ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยไม่ได้รับอนุญาตฝ่าฝืน ม.๑๗ ตาม พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 2562,ฝ่าฝืน ม.75 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดขายยาบรรจุเสร็จหลายขนาน โดยจัดเป็นชุด  ในคราวเดียวกัน โดยเจตนาให้ผู้ซื้อใช้รวมกันเพื่อบำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรืออาการของโรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะ (พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ),มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่, ฝ่าฝืนคำสั่ง จ.สตูล ที่ 726/2564 ลงวันที่ 17 เมษายน 2564  เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) จ.สตูล

จากการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนร้องทุกข์ พฤติกรรมของบุคคลดังกล่าว ได้ขออนุญาตเปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ แต่กลับมีการดำเนินการประกอบสถานพยาบาล, การประกอบโรคศิลปะโดยไม่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาต ตลอดจนการจำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่รับอนุญาต ซึ่งอาจจะส่งผลให้ผู้ป่วยหรือผู้ที่มาใช้บริการดังกล่าว ได้รับอันตรายต่อสุขภาพอนามัย และความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนอาจจะเข้าข่ายการร่วมกันหลอกลวงประชาชน ให้เกิดความหลงเชื่ออันจะส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

กระบี่ - นายก อบจ.กระบี่นำทีม ฉก.โควิด-19 พ่นยาฆ่าเชื้อย่านการค้าชุมชนกลางเมือง"โครงการท้องถิ่นรวมใจสู้ภัยโควิด19 สร้างความมั่นใจให้ประชาชน

นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายสัจพร จันทร์ศรีนวล ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ และคณะผู้บริหาร ได้นำชุดเฉพาะกิจปราบปรามไวรัสโควิด-19 กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ระดมกำลังกวาดล้างทำลายเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้โครงการท้องถิ่นรวมใจสู้ภัยโควิด-19 โดยนำรถยนต์บรรทุกน้ำยาฆ่าเชื้อขนาดบรรจุ 600 ลิตร และกำลังเดินเท้า 22 คน ออกทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสภายในตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ ตลาดซิตี้ ตลาดลานปูดำหน้าเมืองกระบี่ ย่านการค้ามหาราชทั้ง 15 ซอย บนถนนมหาราชตั้งแต่ทางขึ้นวัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวงจังหวัดกระบี่ ไปจนถึงสี่แยกเสือเขี้ยวดาบ และถนนอุตรกิจตั้งแต่สามแยกด่านศุลกากรไปจนถึง สามแยกลานประติมากรรมปูดำหน้าเมืองกระบี่ รวมพื้นที่ออกทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส ระยะทาง 3 กิโลเมตร รวมน้ำยาฆ่าเชื้อ 5,000 ลิตร

ทั้งนี้เพื่อการการเฝ้าระวังและป้องกันพร้อมทำลายการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่รอบสาม ไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปในวงกว้างของพื้นที่จังหวัดกระบี่ และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ ว่าจังหวัดสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวไม่ให้ขยายออกไปในวงกว้างทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดกระบี่ เกิดความมั่นใจว่ามาเที่ยวกระบี่แล้วมีความปลอดภัยจากเชื้อโรคดังกล่าวอบย่างแน่นอน

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่รอบสามในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 1 – 19 เมษายน 2564 มีผู้ป่วยสะสมยืนยันรวม 33 คน แยกเป็นคนไทย 30 คน ชาวต่างชาติ 3 คน รักษาตัวในโรงพยาบาลจังหวัดกระบี่ 22 คน โรงพยาบาลอำเภอลำทับ 3 คน โรงพยาบาลอำเภอปลายพระยา 1 คน โรงพยาบาลอำเภอเหนือคลอง 1 คน โรงพยาบาลเอกชน 2 คน และโรงพยาบาลสนาม 4 คน มีผู้สัมผัสและมีความเสียงสูงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ 231 คน ไม่พบเชื้อ 14 คน พบเชื้อ 4 คน รองลการตรวจ 213 คน


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง 

อยุธยา - วัดตะโก ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนที่เดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อรวย

เมื่อเวลา 16.00น.วันนี้ 19 เมษายน 2564  ที่ วัดตะโก อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังทางวัดตะโกได้ทำการปิดวัดในวันที่ 17-19 เมษายน 2564 เพื่อที่จะทำความสะอาดฆ่าเชื้อโควิด-19 หลังมีประชาชนได้เข้ามาทำบุญกราบไหว้หลวงพ่อรวยช่วงเทศกาลจำนวนมาก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะเดินทางมา และจะเปิดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้หลวงพ่อรวยอีกครั้งเร็ว ๆ นี้

วันนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมกันทำความสะอาดภายในวัด โดยได้รับความร่วมมือจากเอกชน นำน้ำยาฆ่าเชื้อ มาฉีดพ้นภายในพระมหาธาตุเจดีย์ โบสถ์ วิหาร อาคารสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นสถานที่ รวมจำนวนคนมากในช่วงที่ผ่านมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพุทธศาสนิกชน ที่จะเดินทางมาวัดตะโก  ส่วนทำความสะอาดทั่วไป วัดเองทำทุกวัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับพุทธศาสนิกชนที่จะเดินทางมาวัดตะโก

หลังจากที่เปิดแล้วขอความร่วมมือทุกคนที่เดินทางมาที่วัดตะโก ขอให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย มีการเว้นระยะห่าง ผ่านจุดคัดกรอง ลงทะเบียนตามคำแนะนำ  ซึ่งจะเปิดให้เข้าเพียงแค่ประตูเดียวเพื่อความเข้มในการคัดกรองเช่นเดิมไว้ตามระเบียบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะเดินทางมา กราบไหว้หลวงพ่อรวย ต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุจินดา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าฯสุราษฎร์ ชื่นชมภาคเอกชน จิตอาสานำสิ่งของช่วยผู้เดือดร้อนโควิด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 เมษายน ที่ลานหน้าโรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายสุธี สุขานนท์สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมไดมอนด์พลาซ่า พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ได้นำไข่ไก่ 10,000 ฟองมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด- 19 ระลอกใหม่ ตลอดทั้งวันประมาณ 1,000 ชุด ภายใต้มาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดให้จองคิวล่วงหน้าผ่านอินบ็อกเฟซบุ๊กโรงแรมเข้ารับได้รอบละ 5 คนต้องผ่านตรวจวัดอุณหูมิ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รักษาระยะห่าง และไม่มีการสัมผัสระหว่างผู้ที่มารับของกับพนักงาน 

นายสุธี กล่าวว่า โรงแรมได้จัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวสุราษฎร์ที่ได้รับผลกระทบ และคิดว่าหากผู้ประกอบการหรือประชาชนที่ยังพอมีแรงเหลือลุกขึ้นมาช่วยเหลือซึ่งกัน และกันจะสามารถช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถฝ่าฟันวิกฤติการแพร่ระบาดระลอกใหม่ไปได้แน่นอน                                  

ด้านพระธรรมวิมลโมลี ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 16 เจ้าอาวาสวัดไตรธรรมาราม พระอารามหลวง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้มอบให้ตัวแทนนำสิ่งของ และข้าวสาร อาหารแห้งที่ได้รับถวายออกบิณฑบาตจากญาติโยม นำไปเติมที่ตู้ปันสุขข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ตั้งมากว่า 1 ปีอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนนำข้าวสาร ไข่ไก่มาร่วมเติมด้วย               

                                           

ขณะที่ น.ส.อภิชญาฎา เพชรรัตน์ จิตอาสาและผู้สื่อข่าว ร่วมกับเพื่อนและบุคคลที่รู้จักได้ตั้งกลุ่มไลน์ช่วยโควิด19 สฎ นำเงินส่วนตัวและที่มีผู้ร่วมสมทบจัดทำอาหารกล่อง และข้าวสาร อาหารแห้งเป็นชุด พร้อมสิ่งของอุปโภคไปส่งมอบให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโควิด -19 และต้องกักตัวเอง 14 วันตามบ้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้โดยขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนไว้แล้วกว่า 100 คน               

                                                                                                                                              

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า กราบขอบพระคุณผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 16 ขอขอบคุณผู้ประกอบการ จิตอาสาและประชาชน พร้อมขอแสดงความชื่นชมในความมีน้ำใจที่มีความห่วงใยร่วมกันช่วยเหลือประชาชนชาวสุราษฎร์ธานีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งเชื่อว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยความมีวินัยสวมใส่หน้ากากอนามัย 100เปอร์เซ็นต์ก่อนออกจากบ้านและความมีน้ำใจในการช่วยเหลือกัน

อำนาจเจริญ - สร้างขวัญกำลังใจ เป็นสิริมงคงในยามวิกฤต โรคระบาดโควิด-19 สรงน้ำพระบวงสรวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปัดเป่าให้อยู่ดีมีสุขลูกหลานไร่ภูย่านางในวงครอบครัว

วันที่ 20 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดจากเจ้าของไร่ภูย่านาง ว่าทุก ๆ ปีจะนำพาลูกหลานและคนทำสวนร่วม ทำพิธี ทำบุญไหว้บวงสรวงในห่วงเทศการสงกรานต์ให้ เจ้าที่พระภูมิเจ้าที่ แม่นางธรณี เจ้าป่าเจ้าเขาตามความเชื่อได้มาปกปักป้องคุ้มครองรักษา ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข โดยเฉพาะในยามนี้ที่โรคระบาด covid19 จึงทำพิธี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้มาปกป้องคุ้มครอง ในพิธีเล็ก ๆ แต่ก็มีความสำคัญในความเชื่อกับสิ่งนี้โดยหมอสูตรพรามห์ ได้ป่าวสักเคเทวดา ได้มาคุ้มครองให้ ลูกหลานชาวไร่ ภููย่านาง ได้มีความสุขความอุดมสมบูรณ์ ก็ยังมีแม่พุทธรักษา เจ้าของในได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่าไร่ภูย่านางแห่งนี่ยังได้ปลูกไม้พยุงเป็นไม้มงคลเพื่อพยุง ชีวิตพยุงครอบครัวพยุงบ้านเมือง ให้อยู่อุดมสมบูรณ์ และยังมีพืชเศรษฐกิจ ซึ่งทำรายได้คือไร่มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็น ผลไม้ปลูกง่ายสร้างรายไดได้ด้วยนำมาแปรรูปแล้วดื่มกินเพื่อ สุขภาพ กระปี้กระเป่า

เจ้าของสวนยังได้กล่าวผ่าน ผู้สื่อข่าวในตอนท้ายว่าเชิญชวนผู้ที่สนใจในด้านการปลูก ไร่มะม่วงหาวมะนาวโห่สามารถที่จะมาดูชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ


ภาพ /ข่าว  ประวัติ นิธตชะยศสกุล

ปราจีนบุรี – เกิดเหตุไฟไหม้สายสัญญาณโทรศัพท์บนเสาไฟฟ้ าเจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด

ช่วงเที่ยงของวันที่ 20 เม.ย. 64 ได้เกิดเหตุไฟไหม้สายสัญญาณโทรศัพท์บนเสาไฟฟ้า ที่อยู่หน้าร้านขายกาแฟ เจ้าของร้านต้องทิ้งร้านหนี ก่อนที่ชาวบ้านจะแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และหน่วยดับเพลิงจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรี โดยที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากแยกสัญญาณไฟปราจีนตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรีเพียงเล็กน้อย ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี ได้พยายามนำถังดับเพลิงเคมีเข้าฉีดสกัดไฟ แต่เนื่องจากต้นเพลิงที่เกิดเหตุอยู่บนเสาไฟ ทำให้ไม่สามารถฉีดถึง ได้แต่คอยฉีดสกัดเพลิงที่อยู่ด้านล่างไม่ให้ลุกลาม จากนั้นรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรีได้มาถึง และใช้น้ำฉีดดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

สำหรับความเสียหายนั้น มีป้ายร้านค้าที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุถูกไฟไหม้เสียหาย สายโทรศัพท์จำนวนมากก็ถูกไฟไหม้เสียหายเช่นกัน ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องจัดการจราจรไม่ให้รถยนต์ผ่านในจุดที่เกิดเหตุ เนื่องจากมีสายสัญญาณโทรศัพท์หล่นลงมาขวางทางเดินรถทั้ง 2 ฝั่ง และเนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายจากกระแสฟ้า จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯทำการตรวจสอบ และตัดกระแสไฟเสียก่อน

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องทำการตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ โดยชาวบ้านละแวกดังกล่าวต่างให้ความเห็นว่า บนเสาไฟฟ้ามีสายสัญญาณโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก ไม่มีระเบียบ อาจทำให้เกิดการเสียดสีหรือทำให้เกิดความร้อนจนเป็นสาเหตุให้ไฟไหม้ได้


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top