Sunday, 11 May 2025
Region

นราธิวาส - ผก.ฉก.นราธิวาส รุดลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วย และมอบนโยบาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในรอบ 6 เดือนหลัง พร้อมทั้งมอบสิ่งของบำรุงขวัญกำลังพล

พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วย และมอบนโยบาย ข้อสั่งการ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานในรอบ 6 เดือนหลัง ของหน่วยในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 หน่วย ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 10  และ ชุดควบคุมป้องกันชายแดน โดยได้รับฟังบรรยายสรุปการชี้แจงการปฎิบัติที่สำคัญที่ผ่านมา และแผนการปฏิบัติงานที่สำคัญในช่วงต่อไป พร้อมทั้งแนวความคิดการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของหน่วย

โดยผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้มอบนโยบาย ข้อสั่งการ สอบถามข้อขัดข้องในการปฎิบัติงาน  เน้นย้ำผู้บังคับหน่วยต้องคำนึงถึงเรื่องสวัสดิการ สิทธิกำลังพล เป็นสำคัญ โดยการปฏิบัติงานของชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ ต้องอยู่ในความไม่ประมาท ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ พร้อมทั้งมอบแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน การสังเกตุการณ์ และการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่  พร้อมกำชับให้กำลังพลปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID19 อย่างเคร่งครัด  และที่สำคัญต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้พบปะ ให้โอวาทกำลังพล โดยเน้นย้ำกำลังพล ถึงบทบาทหน้าที่ ความสำคัญ ของการเป็นทหาร ต้องเสียสละ อดทน ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด รักษาความปลอดภัยในพื้นที่สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยฝากความห่วงใยแก่กำลังพล ให้ดูแลตนเองและเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID19 อย่างใกล้ชิด ตลอดจนมอบสิ่งของบำรุงขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติงานให้แก่กำลังพลต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

ศรีสะเกษ – นายอำเภอ ศรีรัตนะ สั่งงดจัดงานข้าวโพดหวานภูเขาไฟและของดีศรีรัตนะ ประจำปี 64 ไม่มีกำหนด เลี่ยงโควิด-19

เมื่อวันที่ 19  เมษายน 2564  นายภัทรนันท์ บุญมานัด นายอำเภอศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อำเภอศรีรัตนะ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 143,350 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการเกษตร จำนวน 130,343 ไร่ มีครัวเรือนทั้งหมด 9,141 ครัวเรือน ครัวเรือนทำการเกษตร 7,406 ครัวเรือน ซึ่งอำเภอศรีรัตนะ เป็นหนึ่งในกลุ่มอำเภอที่มีศักยภาพการผลิต ข้าว พืชสวน พืชไร่ โดยเฉพาะข้าวโพดหวาน เป็นพืชที่สำคัญ และปลูกในดินภูเขาไฟ มีพื้นที่ปลูกกว่า 1,300 ไร่/ปี ปริมาณผลผลิตกว่า 3,600 ตัน/ปี คิดเป็นมูลค่า กว่า 16 ล้านบาท

ซึ่งในทุก ๆ ปีทางอำเภอได้มีการจัดกิจกรรมงานข้าวโพดหวานภูเขาไฟและของดีศรีรัตนะ เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์เพิ่มช่องทางตลาด เพื่อเปิดโอกาสในการพบกันโดยตรงระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตและกลุ่มผู้ซื้อสินค้าเกษตร และยังเป็นการสร้างมูลค่า เพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนได้อีกทางหนึ่ง แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ได้กระจายไปในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งการติดเชื้อในประเทศไทยได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้มีการบังคับใช้มาตรการและปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นพื้นที่ควบคุม

เพื่อป้องกันและระงับยับยั้งการระบาดของโรคมิให้แพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง และเพื่อให้การควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น อ.ศรีรัตนะ จึงขอแจ้งเลื่อนการจัดงานข้าวโพดหวานภูเขาไฟและของดีศรีรัตนะ ประจำปี 2564 ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ


ข่าว/ภาพ  บุญทัน ธุศรีวรรณ  ศรีสะเกษ

ชลบุรี - ผุดไอเดีย "เปิดโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ใจกลางเมืองชลบุรี"

จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี และศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ห้องประชุมวิริยกิจจา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 สรุปได้ว่า

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จังหวัดชลบุรี โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี และศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงพิจารณาเตรียมแผนจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ใจกลางเมืองชลบุรี บริเวณชุมชนเทศบาลเมืองบ้านสวน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

โดยจะใช้อาคารหอพักของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี เป็นสถานที่กักตัวและรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ซึ่งสถานที่แห่งนี้อยู่ใจกลางชุมชน แวดล้อมไปด้วยสถานที่ราชการ เช่น โรงเรียนชลราษฎรอำรุง (โรงเรียนชลชาย) ที่มีจำนวนครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษาไม่น้อยกว่าสี่พันคน การประปาส่วนภูมิภาค เขต 1 ที่ต้องมีประชาชนเข้ามาติดต่อใช้บริการในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชลบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 สำนักงานเกษตรจังหวัดชลบุรี ทัณฑสถานหญิงชลบุรี บ้านพักธนารักษ์พื้นที่ชลบุรี ซึ่งห่างจากหอพักของศูนย์ฯ ไม่เกิน 4 เมตร จำนวน 3 ชั้น พักอาศัย 12 ครัวเรือน รวมถึงบุคลากรเจ้าหน้าที่ของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนในพื้นที่ อีก 20 ครัวเรือน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีประชาชนในเขตชุมชนเทศบาลเมืองบ้านสวนไม่ต่ำกว่าเจ็ดหมื่น

โดยไม่ต้องจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของคนในชุมชนแต่อย่างใด เนื่องสาธารณสุขจังหวัดขอให้มั่นใจในระบบการป้องกันโรคที่ได้มาตรฐานว่าเอาอยู่แน่นอน แต่ทั้งนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งและทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ก่อนมีการจัดตั้งศูนย์หรือรพ.สนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) เพื่อไม่ให้มีผลกระทบ  หากพื้นที่ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนไม่สามารถจัดตั้ง โรงพยาบาลสนามได้  ให้จัดหาพื้นที่สำรองในการจัดตั้ง ร.พ.สนาม ให้ห่างจากชุมชน


ภาพ/ข่าว  รุ่งรัตน์ ชลบุรี รายงาน

สุราษฎร์ธานี - ‘ตม.สุราษฎร์ธานี’ขยายผลรวบหัวหน้าแก๊งลอบขนคนเข้าเมืองคาห้องนอน

“ตม.สุราษฎร์ธานี” สนองนโยบาย “ผบช.สตม.-ผบก.ตม.6” บูรณาการ “ตม.สมุทรสาคร-สืบ ตม.6-สืบภาค 8” ขยายผลรวบหัวหน้าแก๊งลอบขนคนเข้าเมืองคาห้องนอน สารภาพรับขนเมียนมาจาก “หาดใหญ่” ส่งสมุทรสาคร แลกค่าหัว

19 เมษายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.ท.ชาตรี ชูแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ อำนาจเจริญยิ่ง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , ร.ต.อ.สิริวัฒน์ สมหวัง รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , ด.ต.พงษ์ศักดิ์ พัฒน์คง และ ด.ต.รังสรรค์ ศรีเมือง ผบ.หมู่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันสืบสวนขยายผล กรณีจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จนกระทั่งสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดไชยาออกหมายจับ Mr.Kyaw Thet OO หรือนายจอเท็ทอู ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวนั้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา ที่ จ.24/2564 ลงวันที่ 16 เมษายน 2564

ต่อมาจากการสืบสวนทราบเบาะแสว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จึงได้สนธิกำลังร่วมกับ ตม.จว.สมุทรสาคร, กก.สส.บก.ตม.6 และ บก.สส.ภ.8 ร่วมกันจับกุมตัวนายจอเท็ทอู อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนมา ได้ภายในห้องนอนของบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 พร้อมทั้งตรวจยึดโทรศัพท์ 2 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายจอเท็ทอู รับสารภาพว่า เมื่อประมาณวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีนายโทน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง สัญชาติเมียนมา มาหาตนเพื่อว่าจ้างให้ไปรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปส่งยังพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จำนวน 6 คน โดยตกลงค่าจ้างรายละ 5,000 บาท ตนจึงโทร.ไปหานายเดชา หรืออ๋า ให้ไปรับคนต่างด้าวจำนวน 6 คนดังกล่าว โดยตกลงให้ค่าจ้าง รายละ 5,000 บาท จนกระทั่งมาทราบว่านายเดชา พร้อมพวก และคนต่างด้าวถูกจับกุม

พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การจับกุมกรณีดังกล่าวในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 โดยพฤติการณ์ผู้ต้องหา เป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการให้ที่พักพิง ช่วยเหลือคนต่างด้าวในการกระทำความผิด และแรงงานงานต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นภัยอีกรูปแบบหนึ่ง ที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยจะต้องเร่งตรวจตราจับกุมเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป หากประชนพบเห็นหรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งได้ที่สายด่วน 1178 หรือที่ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ทุกจุดทันที

ชลบุรี - ร้านนวดยื่นหนังสือ ผวจ. ผ่อนปรนให้เปิดกิจการได้ ผู้ประกอบการร้านนวดยื่นหนังสือต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อผ่อนปรนให้เปิดกิจการได้

ในวันนี้ 19 เม.ย.64 ที่บริเวณหน้าอาคาร ศาลากลางจังหวัดชลบุรี มีผู้ประกอบการและผู้ให้บริการในสถานประกอบการ เพื่อสุขภาพ แพทย์แผนไทย (ร้านนวดสปา) ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อผ่อนปรนให้เปิดกิจการได้ อีกครั้ง

โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ พันจ่าเอก ชยพล รัตนวิสุทธิกุล ป้องกันจังหวัดชลบุรี เป็นผู้รับหนังสือกับทางตัวแทนผู้ประกอบการและผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ แพทย์แผนไทยฯ (ร้านนวดสปา)

นางมณีณัฏฐา พงศ์ธนฐิติ ผู้ดำเนินการสปา ร้านบุหงา นวดไทย แอนด์ สปา ตัวแทนที่มายื่นหนัง เผยว่าขณะนี้เดือดร้อนหนัก รายได้ไม่มี และหากอนุญาตให้เปิดได้ยินดีทำตามมาตรการป้องกัน โควิด-19

ภายหลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี มีคำสั่งปิดสถานบริการชั่วคราว ทำให้ผู้ประกอบการร้านนวด สปา ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการและพนักงานไม่มีรายได้ โดยอยากให้ นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พิจารณาอนุญาตให้สามารถกลับมาเปิดกิจการร้านนวดอีกครั้ง และตนไม่เข้าใจมาตรการว่าทำไมถึงต้องสั่งปิดร้านนวด ในขณะที่ร้านอาหารยังอนุญาตให้นั่งทานที่ร้านได้ แต่พนักงานร้านนวดให้บริการลูกค้าไม่เกิน 5-6 คนต่อวัน ไม่ได้แออัดเหมือนการนั่งทานอาหารในร้าน จึงอยากให้ทบทวนมาตรการอีกครั้ง

วันนี้ จึงได้มีการรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการร้านนวดกว่า 50 คน มาเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ ในจังหวัดชลบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิด ซึ่งตอนนี้รายได้เท่ากับศูนย์และตอนนี้ติดลบด้วย เพราะค่าเช่าร้านก็ยังต้องจ่ายเต็มทุกเดือน ลูกจ้างก็ต้องหยุดงาน จึงอยากวิงวอนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ทบทวนมาตรการอีกครั้ง หากอนุญาตให้กลับมาเปิดได้ตนยินดีที่จะทำตามมาตรการทุกอย่าง


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ยะลา – แรงงานไทยติดค้างในมาเลเซียที่อยู่แบบผิดกฎหมายทยอยเดินทางกลับประเทศ ก่อนทางการขีดเส้นตายวันที่21 เม.ย.นี้

แรงงานไทยและคนไทยที่ติดค้างในประเทศมาเลเซียที่วีซ่าขาดหรืออยู่แบบผิดกฎหมายจำนวน30 คนทยอยเดินทางกลับประเทศทางด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา โดยจะเปิดรับคนไทย 2 กลุ่มนี้  2 วันตั้งแต่วันที่19เม.ย.และวันที่ 21เม.ย.64 โดยจะมีการคัดกรองโควิดชั้นสูงสุดและผู้ที่เดินทางเข้ามาจะต้องกักตัว14วัน หลังจากที่มาเลเซียขีดเส้นตายให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศเกินระยะเวลาที่กำหนดต้องเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียให้หมดภายในวันที่ 21 เมษายนนี้จากมาตรการป้องกันโควิด-19 ของประเทศมาเลเซีย

เมื่อเวลา 08.00น.วันที่ 19 เม.ย.64 ที่ด่านพรมแดนเบตง  อ.เบตง จ.ยะลา  ภายหลังเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศเปิดประตูด่านพรมแดนเพื่อเปิดรับกลุ่มคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียและวีซ่าขาดหรืออยู่เกินระยะเวลาที่กำหนดรวมถึงกรณีอาศัยแบบผิดกฏหมาย ทยอยเดินทางกลับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นวันแรกที่คนไทยกลุ่มนี้จำนวน 30 คน

โดยทางการทั้งสองประเทศจะเปิดให้เดินทางกลับประเทศ 2 วันคือ วันที่ 19 และวันที่ 21 เมษายน โดยเฉพาะวันนี้มีคนไทยเดินทางกลับจำนวน30 คน ผ่านพรมแดนเบตง ซึ่งมาจากที่ประเทศมาเลเซียจะทำการประกาศขีดเส้นตายให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศที่มีอายุเกินระยะเวลาที่กำหนดต้องเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียให้หมดภายในวันที่ 21 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นมาตรการที่มีผลพวงมาจากการระบาดของโควิด-19 ในมาเลเซีย อย่างต่อเนื่องและก่อนหน้านี้ได้มีการผ่อนผันมาหลายครั้งและให้คนแจ้งความจำนงค์เดินทางกลับประเทศไทยก่อนที่จะทำการผลักดันคนไทยกลับประเทศภายในวันที่ 21 เมษายนนี้

สำหรับกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซียทุกคนจะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่มาเลเซีย ส่วนกรณีกลุ่มเสี่ยงเป็นไข้จะถูกคัดแยกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลทันทีซึ่งมีรถพยาบาลฉุกเฉินมาเตรียมพร้อมที่ด่าน  ส่วนอาการปกติก็จะส่งไปกักตัวที่ศูนย์กักกัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่รัฐจัดให้

สำหรับคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียอย่างถูกต้อง  นอกเหนือจากกลุ่ม 2 นี้ ยังคงสามารถลงทะเบียนเดินทางกลับประเทศทางด่านพรมแดนเบตงได้สัปดาห์ละ3 วัน คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง  

ชลบุรี - ตำรวจพัทยาติดโควิด 1 นาย กักตัว 10 นาย หลังตรวจเชิงรุก

รองผู้กำกับพัทยาฯ เผย มีตำรวจในสังกัด ติดโควิด 1 นาย ส่วนอีก 10 นาย เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ต้องกักตัว แจงพี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกยังเปิดให้บริการตามปกติ ภายใต้มาตรการควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19

วันที่ 19 เมษายน 2564ตามที่ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง สภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.ท.สมพล นาคขำพันธุ์ รอง ผกก.ส.รรท.ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้ทำหนังสือชี้แจง กรณีข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้รับผลตรวจยืนยันจาก โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ซึ่งขณะนี้เป็นผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมสำรวจข้าราชการตำรวจที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะได้รับเชื้อจากผู้ป่วย เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ เบื้องต้นพบว่า มีผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยประมาณ 40 ราย โดยสั่งการให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกักตัว และไปตรวจหาเชื้อไวรัส พร้อมเฝ้าดูอาการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด จากการสัมภาษณ์ พ.ต.ท.สุรเดช นามโยธา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยเปิดเผยว่า เบื้องต้นให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 10 นาย ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมรายงานผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่และกักตัว เฝ้าดูอาการที่บ้านพักของตนเอง หรือบ้านพักของทางราชการ เว้นระยะห่างใส่หน้าการอนามัย สังเกตอาการ 14 วัน โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเคร่งครัด ให้สามารถติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ ทางไลน์ หรือช่องทางอื่น ๆ ได้ตลอดเวลา หากจะต้องสอบถามงานที่ตนเองปฏิบัติหน้าที่ประจำ ทั้งนี้หากตรวจพบข้าราชการตำรวจกลุ่มเสี่ยงสูงทั้ง 10 นาย ที่ต้องกักตัว ไม่ปฏิบัติตามมาตรการการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 จะพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป

ในส่วนของโรงพักพัทยา ได้ทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว 2 รอบ ทุกซอกทุกมุม ทุกพื้นที่ที่ให้บริการประชาชน จึงฝากถึงพี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก โรงพักพัทยายังเปิดให้บริการตามปกติ เพราะได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของโควิด-19 อย่างดีอยู่แล้ว สามารถเชื่อมั่นและมาใช้บริการได้ตามปกติ


ภาพ/ข่าว  อนันต์ สุขวัฒนะ เอกชัย สุขวัฒนะ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา จ.ชลบุรี

ปทุมธานี - มรภ.วไลยอลงกรณ์ เปิดครัว ส่งข้าวกล่องแทนความห่วงใย บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย รพ.สนาม มธ. 400 กล่องต่อวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดทำอาหารส่งโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ ทรายแก้ว อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (มรวอ.) กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลจึงไม่เพียงพอ ทำให้ต้องมีโรงพยาบาลสนามเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณที่ใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัยก็คือ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ซึ่งตอนนี้มีจำนวนผู้ป่วย เต็มพื้นที่ ทำให้ขาดแคลน สิ่งของอุปโภค บริโภคหลายอย่าง ซึ่ง มรภ.วไลยอลงกรณ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้รีบจัดตั้งโรงครัวขึ้น ภายในชื่อ “ด้วยความห่วงใยจากใจวไลยอลงกรณ์ เราจะสู่ covid19 ไปด้วยกัน”  โดยได้จัดทำข้าวกล่อง วันละ 400 กล่อง จัดส่งถึง 30 เมษายน (เบื้องต้น) ส่งมอบให้ที่ รพ. สนามธรรมศาสตร์ เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ และ ผู้ป่วยที่มาพักรักษาอาการ ทั้งนี้หากท่านใดมีความประสงค์ จะร่วมบริจาค น้ำดื่ม นม น้ำผลไม้ ขนมขบเคี้ยว ทิชชู หรือของอุปโภคอื่น ๆ สามารถนำมามอบได้ที่อาคารศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ (โรงแรมของมหาวิทยาลัย) ได้ โดยทางมหาวิทยาลัยจะได้รวบรวมและส่งมอบไปยัง รพ.สนามธรรมศาสตร์ ต่อไป อธิการบดีกล่าว


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ  ขาวขำ รายงาน

นราธิวาส - ผู้ว่าฯนราธิวาส พร้อมนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส รับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์สู้ภัย COVID 19 จากภาคเอกชน

วันนี้ (19 เม.ย. 64) ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส นายชินวุฒิ ขาวสำลี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาสร่วมรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์จากนายเอกนรินทร์ ศรเรือง นักวิชาการศึกษา สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส ตัวแทนกลุ่มไม้จิ้มฟันกู้โลก ซึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ได้รวบรวมเงินเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ประกอบด้วย ชุดป้องกันเชื้อ PPE จำนวน 40 ชุด และหน้ากาก N95 จำนวน 50 ชิ้น มอบให้แก่จังหวัดนราธิวาสเพื่อสู้ภัย COVID19

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขอขอบคุณภาคเอกชนและทุกภาคส่วนที่ร่วมใจนำอุปกรณ์ทางการแพทย์มามอบให้ศูนย์นรารวมใจต้านภัยโควิด-19 ซึ่งยินดีรับความช่วยเหลือจากผู้ที่ต้องการบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือสิ่งของต่าง ๆ สามารถนำมามอบได้ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส หรือที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาสจะได้รวบรวมและส่งมอบให้กับโรงพยาบาล หน่วยงานสาธารณสุข หรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถบริจาคเงินสมทบทุนผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขานราธิวาส ชื่อบัญชี : COVID19 คนนราไม่ทิ้งกัน เลขที่บัญชี : 905-3-29568-2 ได้อีกด้วย

ด้านนายเอกนรินทร์ ศรเรือง กล่าวว่า ได้เป็นสื่อกลางของกลุ่มไม้จิ้มฟันกู้โลกส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้จังหวัดนราธิวาส ซึ่งทางกลุ่มมีความห่วงใยผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID19 จึงได้รวบรวมเงินจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งมอบให้จังหวัดนราธิวาสเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาล หรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีความต้องการ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประโยชน์ในการรักษาและระงับยับยั้งโรค COVID19

นอกจากนี้ ศูนย์นรารวมใจต้านภัยโควิด-19 ยังได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย สเปรย์แอลกอฮอล์ ชุดถุงผ้า COVID19 และสิ่งของที่ได้รับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธามามอบให้เหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส เพื่อส่งมอบให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีความต้องการต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส

ฉะเชิงเทรา - นายกไก่ นำทีมบริหาร อบจ.ช่วยชาวบ้าน ณ ธรณีประตูส่งน้ำ คลองสัมปทวน-โพรงอากาศ -ตกระทุ่ม

วันที่ 19 เม.ย. 2564 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายไพศาล ช้างพลายแก้ว เลขานุการนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา นายสุนทร พานแก้ว นายสุเทพ ศิริจำรัส สมาชิกสภา อบจ.ฉะเชิงเทรา นายธนภัทร ศรีอุไร กำนันตำบลโพรงอากาศ และผู้นำท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ณ ธรณีประตูส่งน้ำ คลองสัมปทวน-โพรงอากาศ -ตกระทุ่ม ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

ซึ่งการตรวจสอบพบว่า ไม่สามารถส่งน้ำให้ไหลผ่านได้ จึงส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ หมู่ 7 ,8 ,9 ,10 ,11 ,12 ,13 และหมู่ 14 ตำบลโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว เชื่อมตำบลบางแก้ว และตำบลบางขวัญ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเดือดร้อน รวม 11,415.5 ไร่

นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า กรณีปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของชลประทาน หลังจากลงพื้นที่รับทราบปัญหาความเดือดร้อนแล้ว ตนและคณะได้เดินทางเข้าพบนายสมศักดิ์ ธิมา ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อปรึกษาหารือ และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในครั้งนี้

นายสมศักดิ์ ธิมา ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต และนายสรยุทธ์ กสินธุ์มานะวาท หน.จัดสรรน้ำโครงการพระองค์ไชยานุชิต ได้ชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหา โดยในเบื้องต้นจะเข้าดำเนินการแก้ไขระดับธรณีประตูส่งน้ำ และจะนำเครื่องสูบน้ำไปดำเนินการสูบน้ำทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ต้องการใช้น้ำทำการเกษตรต่อไป


ภาพ/ข่าว  สัมฤทธิ์ ล้ำเลิศ / ฉะเชิงเทรา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top