Saturday, 10 May 2025
Region

ประจวบคีรีขันธ์ - ผวจ.ประจวบฯยันเตียงรองรับผู้ป่วยโควิดพอเพียง หลังยอดติดเชื้อพุ่งทะลุครึ่งพัน

วันที่ 16 เมษายน นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปรับฟังสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.หัวหิน และตรวจสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิดหลังพบคนติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมี นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผอ.รพ.หัวหิน พาเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลสนามภายในโรงเรียนพาณิชยการหัวหิน และที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ซึ่งใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ป่วยโควิด

นายพัลลภ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ใน จ.ประจวบฯ ขณะนี้ยังคงพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 98 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1- 15 เมษายน 64 รวม 525 ราย ที่ อ.หัวหิน มากสุดจำนวน 385 ราย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเป็นวัยหนุ่มสาว ซึ่งทางจังหวัดได้เข้มงวดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการออกประกาศคำสั่งจังหวัดให้ปิดสถานที่เสี่ยง 13 ประเภทกิจการ/กิจกรรม เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ในช่วงสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์จะมีประชาชนใน จ.ประจวบฯที่กลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อได้ ดังนั้นจึงสั่งการให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นในทุกอำเภอในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ วางแนวทางเฝ้าระวังคัดกรองประชาชนในหมู่บ้านชุมชนซึ่งเดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง หากผลการตรวจปรากฏว่ามีไข้สูงตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอพื้นที่ทราบ เพื่อเข้าคัดกรอง สอบสวนโรคและพาเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขณะที่การสั่งล็อกดาวน์จังหวัดหรือไม่ ต้องรอฟังคำสั่งจากหน่วยงานส่วนกลาง

“ขณะนี้โรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดได้มีการเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เต็มศักยภาพของแต่ละโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดได้พิจารณาสถานที่เพื่อจัดทำโรงพยาบาลสนามและประสานผู้ประกอบการโรงแรมหลายแห่งเพื่อขอใช้เป็นสถานที่กักกันผู้ป่วยโควิด-19 เบื้องต้นมีสถานที่รองรับได้อีก 5 แห่งใน 3 อำเภอ คือ อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี และ อ.เมือง มีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้น 456 เตียง ทำให้ขณะนี้ภาพรวมมีเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วยโควิดได้มากกว่า 1,000 เตียง โดยผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลสนามหรือโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักกันจะเป็นผู้ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยและต้องอยู่จนครบ 14 วันนับตั้งแต่วันที่ทราบผลตรวจเป็นบวก ในช่วง 3 - 4 วันที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อดูเหมือนมาก ผู้ที่มาตรวจหาเชื้อมีถึง 6,500 คน เหตุผลที่มีจำนวนมากเพราะว่าเราต้องการที่จะตรวจเชิงรุก เราได้มีการประกาศไปยังผู้ที่มีความเสี่ยง รู้ว่าตัวเองเสี่ยง เช่น ไปสถานบันเทิง ตอนแรกจากที่เราตรวจพบครั้งแรกพบว่าเขาไปสถานบันเทิงมายาผับ แต่หลังจากที่เราพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม มีการสอบสวนโรคแล้วพบว่าบางท่านก็ไม่ได้ไปแค่ที่แห่งเดียว เพราะฉะนั้นตอนนี้เราประกาศให้เกือบทุกสถานบันเทิงใน จ.ประจวบฯที่ได้ไปเที่ยวมา เพราะว่าบางครั้งผู้ที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงไม่ได้ไปเที่ยวที่เดียว วันนี้เที่ยวที่นี่ อีกวันไปเที่ยวที่อื่น เพราะฉะนั้นตอนนี้ตัวเลขจะมาก ตรงนี้ก็จะทำให้เราสามารถค้นหาผู้ที่มีเชื้อได้รวดเร็ว และก็มีดีอยู่อย่างหนึ่งที่ว่าเชื้อตอนนี้เท่าที่พบยังไม่มีผู้ที่มีอาการหนักเลย ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอาการด้วยซ้ำ อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นลักษณะของการพบการติดเชื้อในช่วงนี้ ก็ให้ความมั่นใจว่าเรายังควบคุมสถานการณ์ได้ รวมทั้งเรื่องของโรงพยาบาลสนามต่างๆ เราได้มีการเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว” นายพัลลภ กล่าว

ด้าน นพ.นิรันดร์ กล่าวว่าขณะนี้โรงพยาบาลหัวหินมีความพร้อมทุกด้าน รวมทั้งเตียงรองรับผู้ป่วยโควิดมีความเพียงพอกว่า 400 เตียง ส่วนกรณีมีผู้ป่วยโควิดบางรายหลังทราบผลแล้วและทาง รพ.สั่งให้กักตัวที่บ้านก่อน เนื่องจากต้องรอขั้นตอนความพร้อมด้านเอ็กซเรย์และใช้เวลาซึ่งเจ้าหน้าที่ทำต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนเนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมาก ต้องแยกผู้ป่วยชาย-หญิง รวมทั้งความพร้อมของสถานที่จะเข้ากักตัวว่าผู้ป่วยคนไหนเหมาะสมที่จะพักที่ไหน ขณะนี้ทาง รพ.ทยอยเรียกผู้ป่วยเข้ารักษาตัวแล้ว คนไหนไม่มีรถทาง รพ.ก็จะไปรับให้ คนไหนสะดวกก็มาเองได้ โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลสนาม ภายในโรงเรียนพาณิชยการหัวหิน 3 ชั้น กว่า 120 เตียงพร้อมรับผู้ป่วยแล้ว ล่าสุดผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดรักษาตัวที่ รพ.หัวหินหายสามารถกลับบ้านได้แล้ว 29 ราย และวันพรุ่งนี้น่าจะประมาณอีก 40 รายกลับบ้านได้ ต้องขออภัยในความล่าช้าเพราะมีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมาก


ภาพ/ข่าว นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เชียงใหม่ - ผบช.ภ.5 เป็นประธานการ ประชุมติดตามผลการปฏิบัติงาน ระบบทางไกลผ่านจอภาพ (VDO- Conference)

ผบช.ภ.5 เป็นประธานการประชุมติดตามผลการปฏิบัติในการอำนวยความสะดวกการจราจรห้วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 2564  และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ Covid19 ในพื้นที่ ภ.5

วันที่ 16 เมษายน 2564 เวลา 10.30 น.พล.ต.ท.ประจวบ  วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เป็นประธานการประชุมติดตามผลการปฏิบัติในการอำนวยความสะดวกการจราจรห้วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 2564  และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ Covid19 ในพื้นที่ ภ.5

โดยมี พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.บัณฑิต  ตุงคะเศรณี  รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นพดล  กรึงไกร  ผบก.อก.ภ.5, พล.ต.ต.สุเทพ ฐาปนวรกุล ผบก.กค.ภ.5, ผกก.ฝอ.1 – 6 บก.อก.ภ.5, ข้าราชการตำรวจ ฝอ.บก.อก.ภ.5 และ บก.สส.ภ.5 ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ภ.5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในส่วนหน่วยงานในสังกัด ภ.5 เฝ้าฟังการประชุมระบบทางไกลผ่านจอภาพ (VDO- Conference)  ณ ที่ตั้ง ของหน่วย


ภาพ/ข่าว  นภาพร เชียงใหม่

พังงา - หวั่นเขาตาปูถล่ม...รัฐมนตรีท๊อปสั่งกรมทรัพฯเร่งสำรวจประเมินเสถียรภาพ “เขาตาปู” สัญลักษณ์จังหวัดพังงา

รมว.ทส. 'วราวุธ' ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา ติดตามและมอบนโยบายการปฏิบัติงาน หลังสั่งกรมธรณีเร่งสำรวจและประเมินเสถียรภาพ “เขาตาปู” แลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดพังงา

เมื่อวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมช่ติและสิ่งแวดล้อมและคณะฯ ลงพื้นที่ติดตามและรับฟังการดำเนินงานของกรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) ในการสำรวจธรณีวิทยา ธรณีเทคนิค และประเมินเสถียรภาพบริเวณพื้นที่เขาตาปู ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา เพื่อประเมินเสถียรภาพและความเสี่ยงต่อการพังทลายจากการถูกกัดเซาะของน้ำทะเล โดยมีนายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี พร้อมด้วยนายมนตรี เหลืองอิงคะสุต รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี และเจ้าหน้าที่ รายงานผลการดำเนินงาน และมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.พังงา นางกันตวรรณ ตันเถียร สส.พังงา ให้การต้อนรับและเข้าร่วมรับฟัง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความห่วงใยต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวเขาตาปู ซึ่งเป็นอัตลักษณ์สวยงามและโดดเด่นทางธรณีวิทยาแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีรูปร่างคล้าย "ตาปู" เป้นสัญลักษณ์ของจังหวัดพังงาเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดพังงาและของประเทศไทย หลายคนรู้จักในนามเกาะเจมส์บอน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ปัจจุบันโครงสร้างธรณีวิทยาของเขาตาปูแห่งนี้ อาจมีเสถียรภาพที่เสี่ยงต่อการพังทลายจากหินร่วง ที่ผ่านมาพบเหตุการพังทลายปรากฏเป็นข่าวมาแล้วหลายครั้ง อาทิ บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะทะลุ จังหวัดพังงา และปราสาทหินพันยอด จังหวัดสตูล จึงมอบหมายสั่งการให้กรมทรัพยากรธรณี ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บูรณาการสำรวจอย่างเร่งด่วนเพื่อหาแนวทางอนุรักษ์ต่อไป

ด้านนายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีเปิดเผยว่า กรมทรัพยากรธรณี ได้ส่งทีมปฏิบัติภารกิจ "SAVE เขาตาปู" เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการพังทลาย โดยใช้วิธีการสำรวจธรณีเทคนิค - ธรณีวิศวกรรม (การวัดรอยแตกรอยแตก คำนวณอัตราการกัดเซาะ โดยเครื่อง 3D Scanner) การสำรวจธรณีฟิสิกส์ ธรณีวิทยาโครงสร้างพื้นผิวท้องทะเล โดยเครื่องวัดคลื่นไหวสะเทือน (marine seismic) หยั่งน้ำลึก (echo sounder) และการสำรวจด้านอุทกศาสตร์ เพื่อวัดทิศทางการไหลของกระแสน้ำและความสูงคลื่น เป็นต้น

สำหรับมาตรการและแนวทางการดำเนินงานของกรมทรัพยากรธรณีเมื่อได้ข้อมูลแล้วจะวิเคราะห์หาหาแนวทางการอนุรักษ์ซึ่งอาจเป็นการเสริมความแข็งแรง เพิ่มเสถียรภาพของฐานราก โดยไม่ให้เสียทัศนียภาพ การใช้หลักเทคนิควิศวกรรมฐานราก ลดความรุนแรงของคลื่นที่จะเข้าปะทะหรือส่งผลต่อฐานราก ทั้งนี้ การดำเนินการจะเป็นแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังติดตามการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต


ภาพ/ข่าว  อโนทัย  งานดี

นราธิวาส - แม่ทัพภาคที่ 4 เยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ อำเภอสุไหงโกลก ยกระดับมาตรการป้องกัน covid 19 อย่างเข้มงวด พร้อมสร้างความเชื่อมั่น ทุกขั้นตอนแก่ประชาชน

วันนี้ 16 เมษายน 2564 เวลา 11.00 น. ที่ทำการอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส พลโทเกรียงไกรศรีรักษ์แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางตรวจเยี่ยม หน่วยคัดเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ประจำปี 2564 ของอำเภอ สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยทั้งด้านสถานที่ และความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลอดจนเน้นย้ำการทำงานที่โปร่งใสของเจ้าหน้าที่ในการตรวจเลือกบุคคล และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มาทำหน้าที่คัดกรองบุคคล เข้ารายงานตัวเพื่อคัดเลือกทหารกองเกินประจำหน่วย ให้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพบก และให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยทหาร สร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีชายไทยที่มีหมายเรียกตามเกณฑ์เข้ารับคัดเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการทยอยมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับหน่วยคัดเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาสนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบได้มีการคุมเข้ม ยกระดับมาตรการในการระวังป้องกันอย่างเคร่งครัด ทุกคนที่เข้ามายังหน่วยคัดเลือกจะต้องสวมหน้ากากอนามัย Check In ผ่าน App ไทยชนะทุกครั้ง ตรวจวัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง และแจ้งข้อมูลการเดินทางอย่างละเอียดแก่เจ้าหน้าที่ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำสั่งคุมเข้มเข้ม และยกระดับมาตรการป้องกันโควิด 19 ในทุกขั้นตอนของการตรวจคัดเลือกทหาร โดยทำความเข้าใจชี้แจงต่อผู้ที่มาตรวจคัดเลือกให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้มีการแยกสถานที่ออกจากผู้มาตรวจคัดเลือกปกติ รวมถึงผู้ที่ขอยื่นผ่อนผันก็จะใช้มาตรการเดียวกัน เพื่อให้การตรวจคัดเลือกทหารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และปลอดภัยจากโควิด-19


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

เชียงใหม่ - ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564

วันที่​ 16 เม.ย.​ 2564 สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ โดย นางวราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564​  ณ​ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 1, 2 และ 3  โดยจัดเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบความพร้อมของตัวรถ และอุปกรณ์ส่วนควบ ด้านความปลอดภัยของรถโดยสาร​ ตามแบบ Checklist  ได้แก่ ล้อและยาง กระจกกันลม ระบบไฟฟ้า ประตูฉุกเฉิน เข็มขัดนิรภัย และค้อนทุบกระจก ตรวจสอบรถ จำนวน 90 คัน พบว่ารถโดยสารมีความพร้อมทุกคัน ไม่พบข้อบกพร่อง

นอกจากนี้ได้ทำการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ จำนวน 90 ราย พบว่าพนักงานขับรถมีความพร้อมทุกราย ไม่พบการกระทำความผิดกฎหมาย

ในการนี้ได้ให้คำแนะนำ แก่ผู้โดยสารบนรถโดยสารประจำทาง  เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง​ ได้แก่ การคาดเข็มขัดนิรภัย​ การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน​ ประชาสัมพันธ์การแจ้งร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ ทางสายด่วน 1584 

ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำชับพนักงานขับรถและผู้โดยสารให้ปฎิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID19 อย่างเคร่งครัด  โดยจัดให้มีการวัดอุณหภูมิพนักงานขับรถ  ผู้บริการ และผู้โดยสารทุกคนเพื่อคัดกรอง ,   พนักงานขับรถ  ผู้บริการ และผู้โดยสารทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  ,จัดให้มีเจลหรือแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือก่อนขึ้นรถ และทุกครั้งที่มีการสัมผัส ,ทำความสะอาดรถด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังการใช้งาน และต้องเข้มงวดการให้ผู้โดยสารทุกคนต้องลงทะเบียนข้อมูลการเดินทางและสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ  และรถขาเข้าทุกคันต้องให้ผู้โดยสารทุกคนสแกนคิวอาร์โค้ด CM - CHANA ก่อนเข้าเชียงใหม่ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคนในการติดตามตัว หากพบผู้ติดเชื้อโควิดด้วย


ภาพ/ข่าว นภาพร เชียงใหม่

แม่ฮ่องสอน – เกิดพายุฝนกระหน่ำพื้นที่แม่ฮ่องสอน ไฟฟ้าดับทั้งคืน

จากเมื่อเย็นของค่ำวันที่ 16 เมษายน 2564 เวลา  18.30 น.ที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองลมแรงในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบในหลายอำเภอ ต้นไม้ล้มปิดทับเส้นทางหลวงหมายเลข 108 ระหว่างอำเภอแม่ลาน้อย – อำเภอแม่สะเรียง ทำให้การจราจรติดขัดรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้เจ้าหน้าที่หมวดการทางแม่สะเรียงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรแม่ลาน้อย ตลอดทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงระดมช่วยกันตัดกิ่งไม้เพื่อเปิดช่องทางจราจรใช้เวลาประมาณ 30 นาทีสามารถเปิดการจราจรได้ และที่บ้านแม่แลบ หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ลาน้อย ถูกแรงพายุพักกระหน่ำเอาซู้มประตูทางเข้าหมู่บ้านพังล้มระเนระนาด ที่บ้านท่าผาปุ้ม หมู่ที่ 3 ตำบลท่าผาปุ้ม อำเภอแม่ลาน้อยพายุได้พัดเอาเต็นฑ์ที่กางไว้เพื่อจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์หอบขึ้นไปไว้บนหลังคาบ้านตลอดจนสิ่งของพังระเนระนาดเช่นกัน

ที่บริเวณหมู่บ้านห้วยโป่งกาน ตำบลผาบ่อง ถนนสาย 108 มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มพาดใส่สายไฟฟ้า  ทำให้เสาไฟฟ้าหักล้มจำนวน 7 ต้น ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่อำเภอขุนยวม ทำให้อำเภอขุนยวมทุกหมู่บ้าน และหน่วยราชการไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดแม่ฮ่องสอนทั้งสองอำเภอต่างระดมช่วยกันแก้ไขปัญหาจนสำเร็จลุล่วงสามารถทำการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ในเวลา 06.00 น.ของเช้าวันที่ 7 เมษายน 2564


ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดแม่ฮ่องอน ได้เกิดต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้านของ นายนิติธร  วิไจยา เลขที่ 71 ถนนนิเวชพิศาล  ตำบลจองคำ  อำเภอเมือง ได้รับความเสียหาย ทาง พ.อ.สุจินต์  ทรัพย์สิน  ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหาราบที่ 7 ม่อนตะแลง จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัย นำโดย ร.ท.พิษณุ  ต๊ะนางอย  หัวหน้าชุด ร่วมกับเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าทำการช่วยเหลือตัดกิ่งไม้ชักลากต้นไม้ออกจากหลังคาบ้าน สามารถให้เจ้าของบ้านเข้าพักอาศัยได้ตามปกติ

ภาพ/ข่าว  เกียรติศักดิ์  รักสัตย์  / เกียรติยศ  รักสัตย์ / ทีมข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน

นราธิวาส-เปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 จำนวน 186 เตียงดูแลผู้ป่วย COVID19 ที่ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติด พร้อมรับผู้ป่วยวันแรก 65 ราย

วันนี้ (17 เม.ย. 64) ที่ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ของจังหวัดนราธิวาส โดยมีนางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส นาวาเอก วิชชา พรหมคีรี รอง ผอ.รมน.จ.นราธิวาส (ฝ่ายทหาร) นายชินวุฒิ ขาวสำลี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและคณะได้ตัดริบบิ้นเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมภายในอาคารที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 186 เตียง ซึ่งการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับการให้บริการผู้ป่วย COVID19 เพื่อทำหน้าที่ในการคัดกรองและแยกผู้ป่วยโดยใช้ระดับความรุนแรงของโรค จัดลำดับความสำคัญในการรักษาผู้ป่วยและจัดระบบบริการ สำหรับในวันนี้จะรองรับผู้ป่วย COVID19 ซึ่งเป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำชั่วคราวโคกยามูและผู้พ้นโทษ จำนวน 65 ราย ส่วนในผู้ป่วยกลุ่มอื่น ๆ จะทยอยเข้ารับการรักษาจนเต็มจำนวนเตียง โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย แพทย์และพยาบาลอยู่ประจำทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การรักษาและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID19

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโรค COVID19 เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ต้องขัง ผู้พ้นโทษ และกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามเรือนจำจังหวัดนราธิวาสแห่งแรกอาจรองรับผู้ป่วยได้ไม่เพียงพอ และมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ จึงได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 เพื่อรองรับผู้ป่วย COVID19 เพิ่มเติม สำหรับในด้านการบริหารจัดการระดับพื้นที่ขอให้นายอำเภอเป็นผู้นำ ซึ่งถ้าทุกคนช่วยกันก็มั่นใจว่าจะสร้างความมั่นใจให้ชาวนราธิวาส รวมทั้งลดการแพร่กระจายของโรค COVID19 ในจังหวัดนราธิวาสได้ เพื่อให้สามารถระงับยับยั้งโรคได้ภายใน 28 วัน

ทั้งนี้ ศบค. ได้แถลงสถานการณ์การติดเชื้อ COVID19 ในจังหวัดนราธิวาส วันนี้ (17 เมษายน 2564) มีผู้ป่วยใหม่ จำนวน 18 ราย และผู้ป่วยยืนยันสะสม จำนวน 348 ราย


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

กาฬสินธุ์ - ช็อคคลัสเตอร์ผับตากอากาศนศ.ติดโควิดเพิ่ม 1 ราย ไม่รอผลไทม์ไลน์ทั่วเมือง

จังหวัดกาฬสินธุ์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นนักศึกษาสาววิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์วัย 18 ปี ชาวตำบลกลางหมื่น อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พบเป็นคลัสเตอร์คอนเสิร์ต “ซองดูฮี” สถานบันเทิงตากอากาศ และเข้าตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงแต่ไม่รอผลและไม่กักตัว ตรวจสอบไทม์ไลน์พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงซื้อของทั่วเมือง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อของจังหวัดกาฬสินธุ์รวม 16 ราย พร้อมออกประกาศคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 เมษายน 2564 นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามสถานการณ์และปรับแผนวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย เป็นคลัสเตอร์จากคอนเสิร์ต “ซองดูฮี”สถานบันเทิงตากอากาศ ทำให้ จ.กาฬสินธุ์ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 16 ราย โดยรายล่าสุดนั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเที่ยวสถานบันเทิงและได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ แต่ระหว่างรอผลการตรวจกลับพบว่าไม่ได้กักตัวเอง และได้เดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในตัวเมืองกาฬสินธุ์หลายแห่ง

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 16 ล่าสุดนั้น เป็นนักศึกษาหญิงของวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ อายุ 18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.กลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์  ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อจากคอนเสิร์ตซองดูฮีสถานบันเทิงตากอากาศ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เริ่มมีอาการป่วย 13 เมษายน 2564 ด้วยอาการไอ ปวดศีรษะ หายใจเหนื่อย

นายทรงพล กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีผู้ป่วยรายที่ 16 หรือประชาชนทั่วไปที่รู้ตัวเองว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและเข้ารับการตรวจคัดกรอง ซึ่งระหว่างการรอผลตรวจนั้น อยากฝากเตือนจะต้องปฏิบัติตัวรับผิดชอบต่อสังคมด้วย โดยการกักตัว สังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ไม่ออกไปในสถานที่ต่างๆหรือพบปะผู้คนจำนวนมาก ที่จะทำให้บุคคลอื่นเสี่ยงติดเชื้อไปด้วย ซึ่งต่อไปหากพบว่ามีกรณีบุคคลอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงและเข้าตรวจเชื้อแล้ว อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ แต่ไม่ยอมกักตัวเอง และยังเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆอีกทางเจ้าหน้าที่อาจจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าสาธารณสุข พบไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 16 นักศึกษาอายุ 18 ปี โดยมีพื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงดังนี้ วันที่ 10 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 14.00-14.15 น.ตลาดสดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ (หน้าสภ.เมืองกาฬสินธุ์) ช่วงเวลา 23.00-24.00 น.ร้านตากอากาศ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์, วันที่ 12 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 11.40-11.50 น.ร้านนุชไก่สด ตลาดเกษตร อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ช่วงเวลา 12.00-12.05 น.ร้านอี้เหวินชาปั่น ตลาดเกษตร ช่วงเวลา 12.34-12.50 ร้าน KFC สาขากาฬสินธุ์พลาซ่า ช่วงเวลา 13.30-13.40 น.ร้านก๋วยเตี๋ยวแก่งนาขาม ต.นาจารย์ อ.เมืองกาฬสินธุ์, วันที่ 14 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 16.10-16.20 น.ร้านห้องเย็นโอเล่ ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์, วันที่ 15 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 13.00-13.30 น.ร้านโกเหลียงก๋วยเตี๋ยว (วงเวียนน้ำพุ) อ.เมืองกาฬสินธุ์

ซึ่งหากประชาชนท่านใดมีประวัติเดินทางเข้าไปในพื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงตามที่ได้แจ้งนี้ ให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านและแจ้งประวัติเพื่อประเมินความเสี่ยง หรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 043-019760 ต่อ 107 (กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์)

นายทรงพล กล่าวอีกว่า ล่าสุด จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ออกคำสั่งฉบับที่ 24 การห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมหรือที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เช่น การปิดสถานบริการ หรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยให้ยกเลิกคำสั่งฉบับที่ 23 ที่เดิมกำหนด ไว้ 13-26 เมษายน นอกจากนี้ ยังห้าม การใช้อาคาร หรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก งานประชุม งานสัมมนา ที่มีจำนวนประชาชนเข้าร่วมงานเกินกว่า 50 คน ขอให้เลื่อนไปก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ งานบวช งานแต่ง ทำได้ตามประเพณีแต่ต้องไม่มีการจัดแสดงกิจกรรมหรือมหรสพ ส่วนการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม สามารถทำได้จนถึงเวลา 23.00 น โดยงดจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการห้ามบริโภคในร้าน


ภาพ/ข่าว ณับพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

ปทุมธานี – ไม่มีวันหยุด คำรณวิทย์ สนับสนุนมูลนิธิครอบครัวพอเพียงส่งเสริมเยาวชนปทุมธานี

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ให้การต้อนรับ นางสาวอริยสิริ พิพัฒน์นารา ประธานคณะกรรมการมูลนิธิครอบครัวพอเพียง พร้อมด้วยนายสมนึก  เกกีงาม  ประธานมูลนิธิครอบครัวพอเพียง สาขาปทุมธานี พร้อมคณะเพื่อขอช่วยเหลือและข้อเสนอแนะความคิดเห็นในการทำงานของมูลนิธิครอบครัวพอเพียง ที่เป็นองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษย์ชนและสภาวิชาชีพ

นางสาวอริยสิริ พิพัฒน์นารา กล่าวถึงวัตถุประสงค์มูลนิธิครอบครัวพอเพียงว่า เพื่อปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนและครอบครัวมีความรัก ความกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เยาวชนและครอบครัวมีคุณธรรมมีจริยธรรม รังเกียจการทุจริตและถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญให้ความช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาแนะนำ จัดฝึกอบรมดูงาน ผลิตเอกสารและเผยแพร่เรื่องเกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่เยาวชนและครอบครัว เพื่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันตลอดจนในการบริหารองค์กร ห้างร้าน ชุมชนและประเทศชาติ

มูลนิธิครอบครัวพอเพียงได้เปิดสาขาที่จังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดลำดับที่ 16 จากประชาชนที่มีจิตอาสาและเสียสละเพื่อเพื่อปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนและครอบครัวมีความรักโดยมุ่งเน้นไปที่เยาวชนตามโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ มูลนิธิครอบครัวพอเพียงจึงอยากให้ อบจ.ปทุมธานีช่วยสนับสนุนงบประมาณในการจัดฝึกอบรมเยาวชนปทุมธานีเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวว่า ยินดีให้การสนับสนุนกับทางมูลนิธิครอบครัวพอเพียงที่มองเห็นประโยชน์ของเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของประเทศชาติ ซึ่งทางอบจ.ปทุมธานีได้ทำ MOU กลับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ผอ. เขตการศึกษาระดับมัธยม และอธิการบดี มทร.เพื่อจะต่อยอดให้เด็กระดับมัธยมซึ่งมีทั้งหมด 22 โรงเรียน โดยได้ขอความร่วมมือไปยังภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดปทุมธานี เช่น อุตสาหกรรมนวนครอุตสาหกรรมบางกะดี อุตสาหกรรมลาดหลุมแก้ว เป็นต้นโดยมีแนวคิดเด็กที่จบการศึกษา ถ้าทางโรงงานเรานั้นจะรับคนงานในแต่ละปีก็ขอให้คนปทุมธานี 50% เพื่อให้คนปทุมธานีได้มีงานทำในส่วนของนโยบายที่ออกไปทั้งหมดนั้นเริ่มดำเนินการทำตามขั้นตอนทั้งหมด จะเห็นว่า อบจ.ปทุมธานีทำงานไม่มีวันหยุดเพื่อคนปทุมโดยแท้จริง รวมทั้งการตรวจโควิด-19 ซึ่งเราจะรอไม่ได้ เพราะเชื้อไวรัสโควิด ไม่มีวันหยุด  ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมกันในการนำพาประเทศให้ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ / รายงาน

อุบลราชธานี - เอาไม่อยู่ ตรวจพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 7 ราย รวมเป็น 102 ราย ส่วนใหญ่มีไทม์ไลน์เกี่ยวเนื่องกับสถานบันเทิง

วันที่ 17 เม.ย.64 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี แถลงข่าวสถานการณ์โควิด - 19 จังหวัดอุบลราชธานี พบผู้ป่วยเพิ่ม 7 ราย รวมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด - 19 รอบใหม่ 102 คน พื้นที่ที่พบผู้ป่วยรายใหม่อยู่ในอำเภอบุณฑริก อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ อำเภอเขมราฐ และอำเภอม่วงสามสิบ ส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และมีประวัติเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกับสถานบันเทิงในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทั้งหมดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและมีอาการไม่รุนแรง 

ผวจ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดอุบลราชธานีได้กำหนดมาตรการป้องกันควบคุมโรคและปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ได้แก่ การห้ามการดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่าห้าสิบคนขึ้นไป  ปิดสถานบริการ  ผับบาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบอบนวด ออกไปจนถึงวันที่ 24 เมษายน 2564 การกำหนดให้ทุกพื้นที่อำเภอและตำบลของจังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่ควบคุม การจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มและบริการบริโภคในร้านอาหารทั่วไป ร้านอาหารทั่วไป ร้านข้าวต้ม รถเข็นแผงลอยจำหน่ายอาหารเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. การจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามไม่ให้มีการบริโภคในร้าน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดได้จนถึงเวลา  21.00 น. และให้จำกัดจำนวนผู้เข้ารับบริการ

ขอความร่วมมือประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะการเดินทางไปในพื้นที่ควบคุม งดการจัดกิจกรรมสังสรรค์ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำหรือแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่าง  ตรวจวัดอุณหภูมิ สำหรับมาตรการคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่ให้ผู้ที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ ตาก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระยอง สงขลา สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณบุรี และอุดรธานี กักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน และสแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะและฮักอุบลเมื่อเข้าพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี


ภาพ/ข่าว  กิตติภณ  เรืองแสน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top