Saturday, 10 May 2025
Region

ศรีสะเกษ - ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึง 38 รายแล้ว ผู้ว่าฯมั่นใจจะฝ่าสถานการณ์นี้ไปได้อย่างราบรื่น ขอให้ทุกคนเป็นทีมเดียวกันคือเป็นทีมศรีสะเกษ ที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกัน

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.64 ที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา   พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ศรีสะเกษ ครั้งที่ 10 /2564 ซึ่ง นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ และคณะได้รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยผู้ติดเชื้อโควิด 19 ระลอก 3 จ.ศรีสะเกษ มีผู้ป่วยระหว่างวันที่ 1 - 16 เม.ย.64 จำนวน 30 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ในวันที่ 17 เม.ย. 64 จำนวน 8 รายรวมเป็นมีผู้ป่วยสะสม จำนวน 38 ราย โดยรายที่ 31 เพศชาย อายุ 45 ปี อ.เมืองศรีสะเกษ พนักงานขับรถ รับผู้ติดเชื้อรายที่ 18 รายที่ 32 เพศหญิง อายุ 29 ปี อ.เมืองศรีสะเกษ บุตร ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 22 รายที่ 33 เพศชาย อายุ 24 ปี อ.เมืองศรีสะเกษ บุตร ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 29 (ไปงานแต่งงาน) รายที่ 34 เพศชาย อายุ 21 ปี อ.เมืองศรีสะเกษ บุตร ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 30 (ไปงานแต่งงาน) รายที่ 35 เพศชาย อายุ 21 ปี อ.เมือง อาชีพ ชกมวย ที่กรุงเทพฯ รายที่ 36 เพศชาย อายุ 24 ปี เดินทางไปกรุงเทพฯ สัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายที่ 30  รายที่ 37 เพศชาย อายุ 19 ปี อ.กันทรลักษ์ เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และรายที่ 38 เพศหญิง อายุ 29 ปี อ.อุทุมพรพิสัย เดินทางไปกรุงเทพฯ ซึ่งเขตพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สีแดงคือ อ.เมืองศรีสะเกษ อ.กันทรารมย์และ อ.วังหิน

โดยมี นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายนพ พงษ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ หน.ส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมประชุม

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ ตนเคยกล่าวเอาไว้ว่าทุกคนต้องเป็นผู้เล่นด้วยกันทั้งหมดเหมือนกับฟุตบอล ทุกคนมีบทบาทอย่างยิ่งคนในสนามฟุตบอล ก็เหมือนกับพี่น้องประชาชน ถ้าพี่น้องประชาชนเล่นฟุตบอลในสนามไม่วิ่งไม่กระตือรือร้นไม่ช่วยกัน โอกาสที่จะทำประตูและมีชัยชนะก็จะเป็นไปไม่ได้

เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งการประพฤติปฏิบัติต่อกันในการดูแลคนที่เข้ามาในพื้นที่ คนในครอบครัวจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะไม่ใช่คนธรรมดาอาจจะมีการเจ็บการป่วยการติดเชื้อม าเราไม่ได้คิดว่าต้องการทำให้หวาดระแวง แต่ว่าอยากให้ตระหนักว่าถ้าสมมุติว่าทุกคนมีสมมุติฐานในการที่จะต้องการให้ปลอดภัยร่วมกันต่างคนต่างกลัวกันไว้ก่อน ในครอบครัวทานข้าวอาจจะแยกกันทานข้าว พูดคุยกันให้น้อยลง ใส่หน้ากากให้มากขึ้นและงดลดการที่จะไปร่วมกับกิจกรรมกับคนอื่นและปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข คิดว่าต้นทางตรงนี้จะสามารถสกัดยับยั้งได้ดี

ผวจ.ศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเตรียมการแนวหลังก็เป็นสิ่งที่คิดว่าเรามีความพร้อมเรามีแผนหนึ่งแผนสองสถานที่หนึ่งสถานที่สองเตรียมไว้แล้ว แต่ก็ไม่อยากให้ถึงขนาดนั้นไม่ต้องการให้คนศรีสะเกษเจ็บไข้ได้ป่วย เพราะฉะนั้นเราจะต้องเป็นทีมเดียวกันไม่ใช่มีเฉพาะทีมหมอทีมพยาบาล ทีมตำรวจทีมปกครอง ประชาชนก็จะต้องเป็นทีมหนึ่งเดียวกันคือเป็นทีมศรีสะเกษที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกันเมื่อต้นทางไม่เกิดขึ้นมาโอกาสที่จะเพิ่มขยายก็ลดน้อยลง

แต่สิ่งหนึ่งก็คือเราอย่าไปว่ากันใครติดแล้วติดมา ติดมาจากไหนบอกไปไหนมาบ้าง บอกที่หมอพยาบาลจะเข้าสอบสวนเส้นทางและไทม์ไลน์ต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด และเราก็จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะฉะนั้นเราจะต้องเป็นทีมเดียวกันช่วยกันตนคิดว่าเราจะฝ่าสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น


ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

นครพนม - เร่งตรวจหาเชื้อผู้ไปเที่ยวสถานบันเทิงร่วมกับผู้ป่วยโควิดรายที่ 16

วันที่ 17 เมษายน 2564 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมารับบริการตรวจหาเชื้อโควิด ภายหลังจากที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนมได้มีประกาศให้ผู้ที่ไปใช้บริการสถานบริการ 3 แห่ง ประกอบด้วย AEC PUB นครพนมตะวันนา 2004 และ HOME 108 ระหว่างวันที่ 3-12 เมษายน 2564 ให้มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อรับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิดระหว่างวันที่ 17 - 22 เมษายน 2564

ภายหลังจากที่มีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายที่ 16 ซึ่งเป็นผู้จัดการร้านอาหารชื่อดังในนครพนม ที่หลังปิดร้านอาหารของตนเองแล้วไปสังสรรค์ต่อกับเพื่อนที่สถานบันเทิงดังกล่าว แม้ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จะมีการระดมสรรพกำลังลงพื้นที่เก็บตัวอย่างบุคคลกลุ่มเสี่ยงสูง ที่เป็นพนักงานให้บริการทั้งหมดทันที รวมทั้งสิ้น 207 คน ไปแล้ว อีกทั้งมีการสั่งประกาศปิดร้านเป็นเวลา 14 วัน

แต่เมื่อผลตรวจเริ่มทยอยออกมาพบว่ามีพนักงานติดเชื้อ 8 ราย และประชาชนที่มาเที่ยวสถานบันเทิงเดียวกับผู้ป่วยรายที่ 16 ป่วยติดเชื้อ 1 รายประกอบกับการสอบสวนโรคยังพบว่าพนักงานในสถานบันเทิงระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มีความหย่อนยานในมาตรการป้องกัน เช่น ไม่สวมถุงมือแล้วไปหยิบจับอาหาร หรือรับแก้วเหล้าจากนักเที่ยวมาชงให้แขก และมีการสลับเปลี่ยนโต๊ะทำหน้าที่ ทำให้ผู้ที่เดินทางไปเที่ยวมีโอกาสเสี่ยงสูงในการสัมผัสเชื้อและแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น

นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น สามารถตรวจได้หลังจากได้รับเชื้อมาแล้วประมาณ 5 -7 วัน ซึ่งจากการคำนวณตามหลักระบาดวิทยาจะอยู่ประมาณช่วง 3-12 เมษายน ดังนั้นจึงได้มีการประกาศให้ประชาชนกลุ่มที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิงตามทามไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 16 เข้าตรวจหาเชื้อเพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกัน ส่วนวิธีการตรวจนั้นเจ้าหน้าที่เลือกที่จะใช้การตรวจแบบ RT-PCR (การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส) เนื่องจากมีความไว ความจำเพาะสูง สามารถทราบผลภายใน 3 – 5 ชั่วโมง ที่สำคัญคือสามารถตรวจจับเชื้อไวรัสปริมาณน้อย ๆ ในรูปแบบของสารพันธุกรรมได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเป็นหรือเชื้อตายตรวจจับได้หมด โดยสามารถตรวจได้จากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจส่วนบน ส่วนล่างของผู้สงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นจึงเลือกใช้วิธีนี้เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว เนื่องจากคาดว่าจะมีประชาชนที่อยู่ในกลุ่มนี้จำนวนมากที่มารับบริการ ซึ่งถ้าเราใช้ชุดทดสอบแบบรวดเร็ว หรือ Rapid Test จะทราบผลใน 15 นาที แต่ถ้ามีผลเป็นบวก เราก็ต้องมาตรวจซ้ำอีกครั้งด้วยวิธี RT- PCR เพื่อความแม่นยำอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่หลายรอบอีกทั้งประชาชนที่มารับบริการก็ต้องเสียเวลาเพิ่ม ซึ่งเราพยายามที่จะทำให้จบโดยเร็วเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้ไวที่สุด

สำหรับการตรวจในครั้งนี้ผู้ที่มารับบริการจะได้รับบัตรคิว จากนั้นมานั่งรอที่เก้าอี้ภายในเต้นท์ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ เมื่อได้คิวก็เข้ารับการลงทะเบียน ซักประวัติ และเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจหาเชื้อ ซึ่งแต่ละคนจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็จะเสร็จสิ้นขั้นตอน หลังจากนั้นแต่ละคนแยกย้ายกันกับบ้านไปเฝ้าระวังและกักตัวเองรอฟังข่าวผลตรวจ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่โทรไปแจ้งภายหลังผลออกให้ได้ทราบ

ทั้งนี้ในแต่ละวันเจ้าหน้าที่จะสามารถตรวจได้เพียงวันละ 500 คน ณ จุดให้บริการศาลาประชาคมยงใจยุทธ ดังนั้นผู้ที่อยู่ต่างอำเภอ ของจังหวัดนครพนมที่เดินทางไปสถานบันเทิงดังกล่าว สามารถไปตรวจที่โรงพยายาบาลประจำอำเภอได้ด้วยเช่นเดียวกัน


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมและประชุมเพิ่มประสิทธิภาพการปฎิบัติงาน พร้อมทั้งให้กำลังใจกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานในพื้นที่

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย พันเอก เฉลิมพร ขำเขียว รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และคณะฯ ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม และประชุมเพิ่มประสิทธิภาพการปฎิบัติงาน ให้กับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส  จำนวน 4  หน่วย ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 อำเภอระแงะ , หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 อำเภอรือเสาะ, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 อำเภอเจาะไอร้อง และ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อำเภอศรีสาคร

โดยได้รับฟัง สรุปการชี้แจงการปฎิบัติที่สำคัญในห้วงที่ผ่านมา และแผนการปฏิบัติงานที่สำคัญในห้วงต่อไป  พร้อมทั้งแนวความคิดการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานในพื้นที่  โดยผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส มอบนโยบาย ข้อสั่งการสอบถามข้อขัดข้องในการปฎิบัติงาน พร้อมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติงาน ของชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ ต้องอยู่ในความไม่ประมาท การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งการเฝ้าตรวจให้เป็นไปตามสั่งการของ ผอ.รมน.ภาค4 การใช้ระเบียบการนำหน่วย มอบแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน การสังเกตุการณ์ และการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งให้กำลังพล ปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID19 อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เน้นย้ำผู้บังคับหน่วย เรื่องสวัสดิการ สิทธิกำลังพล โดยฝากความห่วงใยแก่กำลังพล ให้ดูแลตนเอง และเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid19 อย่างใกล้ชิด ตลอดจนมอบงบประมาณแก้ไขปัญหาเบื้องต้น และสิ่งของอุปโภค บริโภค เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติงานให้แก่กำลังพลต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส

กระบี่ - โซเชียลแห่แชร์เรื่องราวความน่ารักน่าเอ็นดู ของหนูน้อย 3 ขวบ ขณะว่ากล่าวเตือนพ่อหลังรถมอเตอร์ไซค์ประสบอุบัติเหตุ จนได้รับบาดเจ็บทั้งพ่อทั้งลูก

วันที่ 18 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า โลกโซเชี่ยลฯต่างแสดงความเอ็นดุเด็กชายวัย3 ขวบ และให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม ขณะนั่งปลอบและสั่งพ่อหลังประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้ม บริเวณยูเทิร์น หน้าห้างแม็คโคร ถนนเพชรเกษม  ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่  โดย ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “แพร แพร์” ได้โพสต์ภาพสองพ่อลูก ขณะนั่งอยู่บนรถกู้ภัย พร้อมข้อความบอกเล่าเรื่องราวที่สองพ่อลูกสนทนากันว่า ได้ยินน้องคุยกับพ่อ ถึงเรื่องอุบัติเหตุ ที่ฟังแล้วน่าเอ็นดูเด็กน้อยเป็นอย่างมากที่พยายามที่จะเตือนผู้เป็นพ่อ   พร้อมเล่าเรื่องราวที่พ่อลูกสนทนากันเป็นสำเนียงภาษาใต้ดังนี้

น้อง :  พ่อครับพ่อเจ็บม้าย พ่อเจ็บตรงไหนม้าย เเต่น้องก็เจ็บนะ น้องมีเลือดออกด้วย แต่ว่าน้องเป็นห่วงพ่อมากนะครับ

พ่อ: พ่อไม่เจ็บครับ พ่อขอโทษนะลูกนะ

น้อง: น้องจะไม่ชวนพ่อแหลงแล้วนะเวลาพ่อขับรถ

เมื่อพาน้องขึ้นรถเพื่อไปส่งรพ.ผ่านจุดเกิดเห็น น้องได้ชี้ไปที่เกิดเหตุที่ฟุตบาตที่ชน

น้อง: พ่อจำไว้เลยนะ พ่อไม่ชนตรงนี้แล้วนะ พ่อไม่ขับรถเร็วแล้วนะทีนี้ น้องเจ็บน้องกลัวเลือด

พ่อ: ครับลูก 

เครติด#สาวกู้ภัยมิราเคิลออฟไลฟ์กระบี่

ภายหลังเผยแพร่เรืองราวดังกล่าวออกไป ปรากฏว่ามีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห้นและชื่นชมในความน่ารักน่าเอ็นดูของหนูน้อยคนดังกล่าว และแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.รัตนมณี  สายนุ้ย  "น้องแพร" นามเรียกขาน มิราเคิล32 อายุ 19  ปี เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกูู้ชีพมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ จ.กระบีี่ ในสังกัดรพ. สต.บ้านไสไทย ที่ออกช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ  ทราบว่า  เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา ประมาณ2ทุ่มเศษ หลังรับแจ้งจาก ศูนย์นพรัตน์  ออกตรวจสอบเหตุ ว.40 รถจยย. ล้มเอง บริเวณยูเทรินห้างแมคโคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เป็นพ่อลูกกัน   โดยผู้เป็นพ่อ อายุ 33 ปี มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณ หัวแม่เท้าด้านซ้าย มีแผลถลอกทั่วไปตามร่างกาย รายที่ 2 เป็นลูกสาว อายุ 12 ปี ปวดข้อแขนด้านซ้าย แผลถลอกทั่วไปตามร่างกาย และรายที่3 ลูกชาย อายุ 3 ขวบ  มีแผลถลอกทั่วไปตามร่างกาย.มีรอยฟกช้ำที่หน้าผาก จนท.ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลก่อน นำส่ง รพ.กระบี่ ซึ่งระหว่างที่จนท.หามผู้เป้นพ่อขึ้นบนรถกู้ภัย ลูกชาย3ขวบที่นั่งข้างๆ ก็พูดกับพ่อในลักษณะดังกล่าว ได้ยินแล้วรูู้สึกเอ็นดูในความน่ารักของน้อง  3 ขวบ ที่พยายามที่จะเตือนพ่อขณะที่ตัวเองด้วยความเป็นห่วงทั้งที่ตัวเองในขณะทีี่ตัวเองก็เจ็บจากอุบัติเหตุเช่นกัน 


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

เชียงราย - นรข. รวบคนไทยแอบข้ามน้ำโขงหลังลอบไปทำงานคาสิโนฝั่งลาว

ค่ำวันที่ 17 18 เม.ย.64 น.อ.จิรัฏฐ์ ผูกทอง ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสมาน ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ร่วมกันทำการจับกุม นายอาซ่า หย่าจา อายุ 20 ปี ชาว ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน นายภานุวัฒน์ ถิรรัตนภาคิน อายุ 25 ปี ชาว ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน นายพงษ์เดช แซ่หล่อ อายุ 22 ปี ชาว ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน นายวุฒิชัย เป้พินิจ อายุ 22 ปี ชาว ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ น.ส. อมรรัตน์  แซ่หลี่ อายุ 23 ปี ชาว ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ น.ส. นิชา วงศ์โท๊ะ อายุ 32 ปี ชาว ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และ น.ส. ธัญลักษณ์ ดิษกุลธาดา อายุ 26 ปี ชาว 3 ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ในข้อกล่าวหา "เข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งมิใช่ช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่และตามกำหนดเวลาตามที่รัฐมนตรีประกาศ ข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตามมาตรา 35 (1) พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 "

โดยการจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.)เขตเชียงราย  สถานีเรือเชียงของ   ได้ออกตรวจตราตามริมฝั่งแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งถึงบริเวณช่องทางธรรมชาติเขตหมู่บ้านดอนมหาวัน หมู่ 9 ต.เวียง อ.เชียงของ ได้สังเกตเห็นเรือกาบจำนวน 2 ลำ แล่นมาจากฝั่งลาวเข้ามาเทียบท่าในฝังไทย โดยมีผู้โดยสารมาด้วยจากนั้นได้แล่นกลับออกไป เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 7 คนกำลังจะเดินจากแม่น้ำโขงเข้ามายังประเทศไทย จึงได้ทำการควบคุมตัวเอาไว้ ก่อนจะนำส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาจากโครงการคิงส์โรมัน  ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยได้ลักลอบข้ามแดนจากฝั่งไทยไปทำงานที่คาสิโนดังกล่าว มื่อช่วงเดือน พ.ย.2563 เมื่อถึงวันพักก็จะพากันเดินทางกลับโดยเดินทางไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ ก่อนเพื่อจะได้หาเรือข้ามฟากขึ้นฝั่งที่ อ.เชียงของ ก่อนจะได้เดินทางด้วยรถยนต์กลับภูมิลำเนาแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน  โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีพร้อมทั้งปฏิบัติการตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ เชียงราย

สงขลา - สีสัน..ไปดูภารกิจของสามเณรน้อยน้ำมนต์ วัย 5 ขวบ เริงร่าหลังบวชมา 8 วัน พรุ่งนี้ก็จะสึก เป็นที่รักของพระพี่เลี้ยงและสามเณรทุกคน

สีสัน วันที่ 8 ของโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนวัดไทรงาม จังหวัดสงขลา ซึ่งในครั้งนี้มีสามเณรน้อยรุ่นเล็กที่สุดอายุน้อยที่สุด ร่วมบรรพชาด้วย 1 รูป พร้อมพี่ ๆ สามเณร 60 รูป มาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2564 จนถึงขณะนี้ ย่างเข้าวันที่ 8 คือ สามเณรน้ำมนต์ ซึ่งทุกเช้าจะมาช่วยพระพี่เลี้ยง ในการจัดเตรียมพื้นที่ในการฉันเช้าทุกวัน โดยวางรองบาตร จัดน้ำดื่มวางใกล้กับที่รองบาตร รวมทั้งปูพรมที่นั่งของ พระครูปลัดยอดโดมสิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดไทรงามและพระพี่เลี้ยง ในศาลาการเปรียญ ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว รวดเร็วและแข็งแรง เมื่อเสร็จจากการจัดสถานที่แล้ว ก็ออดอ้อนพระพี่เลี้ยงให้อุ้มเพื่อไปรับบาตร เตรียมบิณฑบาต ญาติโยมที่เดินทางมารอ ในช่วง 7:00 น ของทุกวัน

เมื่อพร้อมแล้ว ขบวนสามเณร 61 รูปก็ออกเดินรับบิณฑบาตจากญาติโยมที่นำอาหารหวานคาวมาใส่บาตรให้กับสามเณร 61 รูปและพระพี่เลี้ยง ที่คอยดูแลสามเณรน้อยน้ำมนต์ ที่เดินรับบิณฑบาตรอยู่ภายในวัด ผ่านมา 8 วัน สามเณรน้อยคล่องแคล่วขึ้นมาก เมื่อบิณฑบาตเสร็จแล้ว ก็จะอุ้มบาตรเข้าไปฉันอาหารที่ญาติโยม ใส่บาตรให้มา โดย สามเณรทั้ง 61 รูป จะร่วมกันฉันภัตตาหารในบาตรในศาลาการเปรียญร่วมกับเจ้าอาวาสวัดไทรงามและพระพี่เลี้ยง

หลังจากฉันอาหารในบาตรเสร็จแล้วสามเณรทุกรูป ก็จะต้องไปล้างบาตรด้วยตนเองรวมทั้งสามเณรน้อยน้ำมนต์ด้วย โดยมี แม่ครัว ของวัดไทรงาม มาช่วย บริการอำนวยความสะดวกให้  ช่วงที่ล้างบาตร สามเณรทุกคนชอบตรงที่ว่า ได้หมุนบาตรเล่นอยู่ในน้ำกันอย่างสนุกสนาน รวมทั้งสามเณรน้ำมนต์ด้วย ก็หมุนบาตรเล่นอยู่ในน้ำเช่นเดียวกัน เนื่องจากเห็นสามเณรพี่ ๆ ทำ สนุกดีก็ทำตามจนพระพี่เลี้ยงบอกว่า อันนี้ไม่ได้ล้างบาตรแล้ว อันนี้เล่นบาตรแล้วล่ะ

ล้างบาตรเสร็จ ก็จะนำไปคว่ำตากแดด บริเวณแคร่ไม้ ใกล้กับเต็นท์นอนที่พักของสามเณร ที่กางไว้ทั้งหมด 6 เต็นท์ ที่ใช้สำหรับจำวัดในช่วงกลางคืน ตั้งแต่เริ่มบรรพชาวันแรก ก็นอนอยู่ในเต็นท์นี้เรื่อยมา

สามเณรน้ำมนต์พาไปดูเต็นท์ที่นอนอยู่ทุกคืน ซึ่งยังไม่ได้พับผ้าห่มสามเณรพี่ ๆ เข้าไปช่วยพับให้จนเต็มเต็นท์

พระปลัดจักรพรรดิ ปัญญาวโร หัวหน้าพระวิทยากร โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน วัดไทรงามปี 2564 กล่าวถึงสามเณรน้ำมนต์ ที่เข้าร่วมโครงการฯด้วยวัย 5 ขวบ สามารถที่อยู่จนครบ 9 วันได้ ในวันนี้เป็นวันที่ 8 และพรุ่งนี้ก็จะทำการลาสิกขาบท สามเณรน้ำมนต์ถือว่า เป็นสามเณรที่มีอายุน้อยที่สุด ตัวเล็กที่สุดแต่ก็ มีความเข้มแข็งไม่งอแงเหมือนเด็กทั่วไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ฉะเชิงเทรา - หยุดไม่อยู่ทะลุ 100 ผู้ติดเชื้อโควิค -19 ระลอก 3 จังหวัดเตรียมเปิดใช้ รพ.สนาม

วันนี้ 18 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 ของจังหวัดจังหวัดฉะเชิงเทราล่าสุดวันนี้ครบ 100 ราย พอดีขณะที่นายไมตรี  ไตรติลานันท์ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราขอให้พี่น้องประชาชน การ์ดอย่าตก เพิ่มความเข้มในการดูแลตัวเองให้มากขึ้น ใส่แมสตลอดเวลาที่ออกจากบ้านไปไหนมาไหนหมั่นล้างมือบ่อย ๆ อย่าลืมเว้นระยะห่างกันด้วย

ขณะนี้ จังหวัดฉะเชิงเทราเตรียมความพร้อมสำหรับเปิดโรงพยาบาลสนาม 90 เตียง ที่จะเปิดในวันที่19 เมษายนนี้ เป็นศูนย์พุทธโสธรประชารักษ์โดยรพ.พุทธโสธร ณ.ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชา การทหารพัฒนา อ.พนมสารคามซึ่งได้มีการซักซ้อมแผนขั้นตอนการปฏิบัติในการรับตัวผู้ป่วยโควิด -19 เข้ามาพักรักษาตัวภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ถูกจัดเตรียมไว้โดยแยก เป็นชายหญิงอย่างชัด เจนซึ่งจะมีทีมแพทย์พยา บาลคอยเฝ้าดูอาการ ผ่านระบบ Intercom เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดในโรงพยา บาลหลัก  เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น​อย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทางจังหวัดจึงได้จัดเตรียมสถานที่และพร้อมเปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับการเข้ารับการรักษาตัวของผู้ป่วยโควิด-19

และก่อนหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดยังใด้เซ็นต์คำสั่งงดกิจกรรมทุกชนิดให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เรื่องมาตรา การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ในสถานที่ทำงานและกิจกรรมของหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง

ให้หัวหน้าส่วนราชการ/ผู้บริหารหน่วยงานมอบหมายให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงาน ณ ที่พัก (Work from Home) และส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตในการปฏิบัติงานทุกชนิด โดยให้เปิดเครื่องมือสื่อสารเพื่อให้สามารถติดต่อประสานงานได้ตลอดเวลา และให้ทุกหน่วยงานพิจารณาจัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงาน ณ. สถานที่ทำงาน ในแต่ละวันทำการโดยให้คำ นึงถึงบุคลากรที่จำเป็นสำ  หรับการให้บริการแก่ประชาชนเป็นสำคัญให้ทุกส่วนราชการ/หน่วยงาน งดกิจกรรมการจัดประชุม การฝึกอบรม การศึกษาดูงาน การสัมมนาต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีการรวมตัวของคนเป็นจำนวนมากเว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ควรมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน  50 คน และให้ควบ คุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด และควรจัดในสถานที่เปิดโล่งมีระบบระ บายอากาศถ่ายเทได้ดี พร้อมดำเนินการตามมาตรา การป้องกันโรคของกระ   ทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการตรวจเช็ตในแต่ละอำเภอที่เป็นเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหรืออำเภอที่มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากสำหรับพนักงานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา(ต่างจังหวัด)หรือพนักงานที่ไปปฏิบัติหน้าที่ต่างจังหวัดในช่วงเทศการสงกานต์และเดินทางกลับมาพร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปรกติในวันจันทร์ที่19เมษายนนี้พบว่ายังไม่มีการกักตัวหรือราย งานตัวต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่ออำเภอ โดยเฉพาะที่บางปะกง  ที่มีรอยต่อจ.ชลบุรี และสมุทรปราการเกรงว่าจะมีการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก


ภาพ/ข่าว  สัมฤทธิ์ ล้ำเลิศ

ประจวบคิรีขันธ์ - หวาดเสียว กองทัพเรือช่วยเหลือลูกเรือประมง ถูกแทงกลางทะเล

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 เวลา 18.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับแจ้งจาก นายฉัตรชัย ดีล้วน นามเรียกขาน มดดำนาวี 152 ว่าลูกเรือประมง จ.ธีรเจริญชัย 5  (เรืออวนลากคู่) ทะเลาะวิวาทแล้วแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณ แลต 12 องศา 35 ลิปดา เหนือ ลอง 100 องศา 09 ลิปดา ตะวันออก (แบริ่ง 222 ระยะ 14.1 ไมล์ จากปากน้ำปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคิรีขันธ์ จึงขอความช่วยเหลือมายัง ทัพเรือภาคที่ 1 ให้ส่งเรือไปรับผู้บาดเจ็บที่กลางทะเลกลับเข้าฝั่ง เพื่อนำส่งโรงพยาบาล

ในการนี้ พลเรือโท โกวิท  อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้ สั่งการให้ เรือ ต.264 ซึ่งจอดเรือเฝ้าตรวจอยู่ที่ ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำปราณบุรี ออกทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บยังมีสติ สามารถพูดคุยได้ปกติ จึงได้ทำการกดปิดบาดแผลเพื่อห้ามเลือด และนำตัวลูกเรือประมงที่ได้รับบาดเจ็บ มาขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำปราณบุรี พร้อมประสานรถกู้ชีพ มารับตัวนำส่งยังโรงพยาบาลปราณบุรี ส่วนผู้ที่ก่อเหตุได้จับกุมตัวส่ง สภ.หัวหิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลที่ให้การช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ประสบเหตุในครั้งนี้ส่งโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที สมกับที่เป็น  “กองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ"


ภาพ/ข่าว : กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 / นิราช /นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

เชียงราย - ผู้ป่วยโควิด เพิ่ม 17 ราย ยอดรวม 140 รายแล้ว เริ่มทยอยส่งผู้ป่วยเข้าศูนย์การแพทย์ ม.แม่ฟ้าหลวง

วันที่ 18 เม.ย.64  สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในจังหวัดเชียงราย พบว่ามีผู้ป่วยรวม 140 รายแล้ว โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 17 ราย แยกเป็น อ.เมือง 71 ราย แม่สาย 36 ราย เชียงของ 5 ราย เชียงแสน 4 ราย เทิง 4 ราย แม่สรวย 3 ราย แม่ลาว 3 ราย พาน 3 ราย แม่จัน 3 ราย เวียงป่าเป้า 2 ราย พญาเม็งราย 2 ราย ขุนตาล 2 ราย เวียงชัย 1 ราย แม่ฟ้าหลวง 1 ราย โดยเวลา 08.30 น. พญ.สุดานี บูรณเบญจเสถียร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และสอบถามปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่เวรที่ขึ้นปฏิบัติงานหมุนเวียนดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19  จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหอผู้ป่วยรวม (cohort ward) อาคารผู้ป่วยใน โรงพยาบาลศูนย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อตรวจความพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ บุคลากร รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19

โดยในวันนี้ได้มีการประสานไปยังทางโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจำนวน 11 ราย จากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ไว้จำนวน 200 เตียง โดยแบ่งเป็นโซนละ 7 -8 เตียง มีห้องน้ำเฉพาะโซน แยกหอผู้ป่วย หญิง ชาย โดยมีอุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์เตรียมพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ป่วยทีจะเขารับการรักษา

นอกจากนี้ทางสำนักงานสาธารณะสุขจงหวัดเชียงราย ได้ประกาศให้ผู้ที่ไปตามจุดดังกล่าวที่อยู่ในไทม์ไลน์ผู้ป่วยสังเกตอาการตัวเอง โดย 1.ให้สังเกตอาการ และงดเดินทางไปในสถานที่ชุมชน โรงมหรสพ ห้างสรรพสินค้า งานบุญประเพณี หรือสถานที่อื่นใดที่มี ลักษณะเดียวกันสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ เป็นเวลา 14 วัน   2.ผู้ที่ไปสถานที่ในวันและเวลาดังกล่าวภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ไข้ ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ ตาแดง ผื่น ถ่ายเหลว ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ใกล้บ้าน  โดยสถานที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไป ในพื้นที่ อ.เมือง คือ

วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 18.00 น. - 03.00 น. รถโดยสาาร บขส. พิษณุโลก - เชียงราย  วันที่ 6 เม.ย.64 ร้านฟ้อน วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 14.00 น.-15.55 น. บ้านสวนภูเพียง วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 16.00 น.-17.00 น. ส้มตำปูม้าเจ็ดยอด วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 19.00 น.-20.00 น.เซ็นทรัลพลาซาเชียงราย วันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 18.00 น.-19.00 น.โฮมโปรเชียงราย วันที่ 9,11,12 เม.ย.64 เวลา 17.00 น. -19.00 น.กาดหลวง  วันที่ 10 เม.ย.64 00.00 น.ร้าน Super Karaoke   วันที่ 8,9 เม.ย.64 โรงแรม NAP Hotel วันที่ 7-8 เม.ย. เวลา 17.20 น.-20.20 น. ร้านตูบสิงห์ วันที่ 7-16 เม.ย.64 หอพักจีเกสเฮ้าส์ วันที่ 10 เม.ย.64 ช่วงเช้า คลินิกหมออัจฉรา วันที่ 11 เม.ย.64 เวลา 16.30 น.-16.50 น.ร้านชาบู 77 วันที่ 11-13 เม.ย.64 บ้านงานศพ ม.5 ต.ป่าอ้อดอนชัย วันที่ 14 เม.ย.64 20.00 น. - 21.00 น. ร้าน 7-11 ศรีทรายมูล     ในส่วนของ อ.แม่สาย   วันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 15.00 น.-15.30 น. ที่ว่าการอำเภอแม่สาย  วันที่ 10 เม.ย.64 เวลา 11.00 น.-14.00 น. งานแต่งงานบ้านป่าเหมือด ซอย 5  วันที่ 11 เม.ย.64 เวลา 10.30 น. - 12.00 น. คริสตจักรบ้านถ้ำ    ส่วนของ อ.แม่จัน วันที่ 9 เม.ย.64 เวลา 14.00 น. ร้านมองดอยคาเฟ่   ส่วนของ  อ.เชียงของ  วันที่ 11-22 เม.ย.64 20.00 น.-07.30 น. รถทัวร์ กรุงเทพฯ -เชียงของ นั่งแว 9B-9C ทะเบียนรถ 96242 หากพบว่มีอาการข้างต้นให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

ยะลา - เบตง ยกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ อ.เบตง ณ ด่าน กม 23 หลังจากที่ขณะนี้ จ.ยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 5 ราย

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 ที่ด่าน กม.23 อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง  เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่เข้าประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ในการกำหนดเพื่อยกระดับการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาด โรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ภาย หลังจังหวัดยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย อ.เมืองยะลา 2 ราย อ.เบตง 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 5 ราย โดยมี ตำรวจ ฉก.ตชด.44 ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ รพ.เบตง ผอ.รพ.สต. นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบล ท้องถิ่นอำเภอเบตง ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วม

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ในครั้งนี้ ตนได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมบูรณาการในหมู่บ้านเพื่อดำเนินการในการ ตั้งจุดตรวจ/จุดคัดกรอง ในการการเข้า-ออกหมู่บ้านโดย ให้ทุกฝ่ายจัดเตรียมความพร้อมสถานที่กักตัวสำรองเพื่อรองรับผู้เข้าสังเกตการณ์อาการเริ่มป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมเน้นย้ำศูนย์ปฏิบัติการตำบล (ศปก.ต.) ร่วมค้นหาและคัดกรองคนในหมู่บ้านที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเชิงรุก และประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ยกระดับปฏิบัติการการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยกระดับการปฏิบัติคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอเบตง ณ ด่าน กม 23

โดยสถานการณ์ COVID19 ในจังหวัด ยะลา ระลอกเดือนเมษายน 2564 " (เริ่ม 1 เม.ย. 2564 วันที่ 18 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย โดยพบในพื้นที่ อ.เมืองยะลา 2 ราย และอำเภอเบตง 1 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 5 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต  โดยที่ประชาชนทุกคน ต้องให้ความร่วมมือ สวมหน้ากากอนามัย ร้านอาหาร ยังไม่ปิด แต่ให้มีการจัดการตามรูปแบบที่เคยปฏิบัติ มีแอลกอฮอล์ล้างมือ เว้นระยะห่างในการเข้าใช้บริการ ปิดสถานบริการ/สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ/อาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID19 เป็นการชั่วคราวเวลา 14 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 – 23 เมษายน 2564 การจัดงานแต่งงาน ต้องจัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือ/จุดล้างมือ เว้นระยะห่างในการนั่ง สวมแมส ตลอดยกเว้นช่วงทานอาหาร พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจล แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย เว้นระยะห่าง หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น หลีกเลียงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ติดตั้งและสแกน Application "ไทยชนะ" หรือลงทะเบียนในการเข้าออกสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการปกป้องดูแลสุขอนามัย ของประชาชนจากการแพร่ระบาดของโรคฯ และหากผู้ใดไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเมื่อออกนอกเคหสถานมีความผิดตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top