Monday, 29 April 2024
PoliticsQUIZ

‘ชูวิทย์’ แซะแรง!! คนดูดบ้องกัญชาหลอน กลางถนนข้าวสาร เหน็บ!! เปลี่ยนชื่อ ‘ถนนกัญชา’ แทน ถาม!! “มาถึงจุดนี้เพราะใคร”

(22 เม.ย.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์คลิปพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า...

ดูดบ้องกัญชาหลอนกลางถนนข้าวสาร

เข้าไส้สายเขียว กัญชาเสรีกลางถนนข้าวสาร โชว์ให้ฝรั่งมั่งค่าเห็นกันไปทั่วว่า

“ไทยแลนด์เป็นแดนกัญชาเสรี”

ถือบ้องกัญชาดูดสด เต้นท่าเพี้ยน เพราะกัญชากินสมอง

‘กกต.’ ลั่น!! ไม่เชิญ ‘ชูวิทย์’ ให้ข้อมูล อสม.เก็บบัตร ปชช. ชี้!! เป็นการสร้างคอนเทนต์ เร่งติดต่อคนปล่อยคลิปให้ข้อมูล

กกต.จับตาโค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้งเดือด ลั่นไม่เชิญ ‘ชูวิทย์ ให้ข้อมูล อสม.เก็บบัตร ปชช. ชี้เป็นการทำคอนเทนต์ เร่งติดต่อคนปล่อยคลิปให้ข้อมูลเพิ่ม

(24 เม.ย.66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงการตรวจสอบจับตาโค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีความเข้มข้นมากในขณะนี้ ว่า พูดเป็นภาพรวมเราบริหารสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยความร่วมมือของหน่วยงานราชการ ฝ่ายความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง ภาคประชาชนที่เข้ามาร่วมกันสอดส่องดูแล แจ้งเหตุทุจริตเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ก็มีศูนย์ข่าวกรอง

ทั้งนี้ เมื่อประชาชนแจ้งข้อมูลก็จะเชิญมาให้ข้อมูลด้วย เช่น หากใครบอกว่ามีการซื้อเสียงกกต.ก็จะเชิญมา เพื่อรวมมือกันทำให้การทำให้การเลือกตั้งมีความสุจริต เมื่อพูดแล้วต้องมีข้อมูล ไม่พูดแล้วผ่าน กกต.จะไม่ยอมให้ผ่าน แต่จะเชิญมาให้ข้อมูลว่าที่พูดมานั้น มีข้อเท็จจริงอย่างไร เพื่อจะได้ดำเนินการตามข้อเท็จจริงที่เสาะได้มา ซึ่งจะทำไปจนถึงวันเลือกตั้ง

นายแสวง กล่าวว่า ส่วนเรื่องเฟคนิวส์ และสื่อโซเชียลมีเดีย ก็จะดำเนินการอีกลักษณะหนึ่ง โดยร่วมกับแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ทั้งกูเกิล ติ๊กต๊อก เฟซบุ๊ก และไลน์ โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ การตรวจข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร้องเรียนการเลือกตั้งไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม

เมื่อถามว่า กกต.จะเชิญ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกมาเปิดเผยว่าอาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เดินเก็บบัตรหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการสอบถามไปยังผู้รับผิดชอบแล้ว เห็นว่ายังไม่ถึงกับต้องเชิญนายชูวิทย์มาให้ข้อมูล เพราะเป็นการสร้างคอนเทนต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามผู้ที่เอาคลิปมาลงในติ๊กต๊อกเพื่อมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ยังติดตามไม่ได้และก็ออกจากพื้นที่ไปแล้ว


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/726411

‘บิ๊กตู่’ เผย ‘ครม.’ เคาะช่วยค่าไฟ 1 เดือนหน้าร้อน 500 หน่วย 150 บาท หวั่น!! พรรคการเมืองหาเสียงประชันลดราคา ชี้!! มีรายละเอียดเยอะ

‘บิ๊กตู่’ เผย ครม.ถกนานกว่าชั่วโมง เคาะช่วยค่าไฟ 1 เดือนหน้าร้อน 500 หน่วย 150 บาท ห่วงพรรคการเมืองหาเสียงลดเท่านั้นเท่านี้ วอนดูข้อเท็จจริงไส้ในมีรายละเอียดเยอะ ยันรัฐช่วยอย่างเป็นธรรมทุกภาคส่วน

(25 เม.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การประชุมวันนี้มีเรื่องพิจารณาน้อย หากมีเรื่องการใช้งบประมาณจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญในช่วงเลือกตั้ง ที่จะต้องใช้งบกลาง ซึ่งทุกคนอยากทราบว่ารัฐบาลดูแลเรื่องพลังงานช่วงนี้หรือเปล่า และดูแลมาอย่างไร ทั้งนี้ ที่ผ่านมาต้องย้อนกลับไปเรื่องการดูแลอยู่ที่ 150 หน่วยอย่างไร 300 หน่วยอย่างไร และวันนี้เพิ่มเป็น 500 หน่วย 150 บาท ไปเพิ่มให้เขา ซึ่งความเป็นมาในเรื่องของพลังงานมีรายละเอียดเยอะมีปลีกย่อยอีกมากมาย ในส่วนพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน ก็อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างทั้งสิ้น ไม่ได้ไปใช้จ่ายตรงนั้นมาบวกลบตรงนี้มันคนละเรื่องกัน เป็นการเตรียมการสู่อนาคตเดี๋ยวจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม รวมความไปถึงส่วนคณะกรรมการกำกับนโยบายพลังงานด้วย

"ขอให้ไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราพยายามจะทำให้ดีที่สุด ก็เป็นข้อกังวลเหมือนกันกรณีที่มีการไปหาเสียงต่างๆ ว่าจะลดลงเท่านั้นเท่านี้ ถ้ามาดูไส้ในแล้วจะรู้ว่ามีรายละเอียดมากมาย มีทั้งเหตุผลและความจำเป็น สิ่งสำคัญที่สุดเราพยายามที่จะทำให้ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางด้านรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ฉะนั้น ที่มีการพูดถึงสิ่งที่เราอนุมัติไป 2 งวดทำให้เกิดภาระ ซึ่งจริงๆ แล้วยังไม่ได้สร้างเลย เป็นการอนุมัติไว้เฉยๆ และที่บอกว่าเกินไป 50 - 60% ไม่ใช่ตัวเลขนั้นหรอก ฉะนั้นต้องเข้าใจกัน อย่าไปหาเสียงทำให้เกิดความตื่นตระหนก หรือไม่เข้าใจ หรือทำให้การบริหารมันทำไม่ได้ รายละเอียดปลีกย่อยเดี๋ยวเขาจะมีการชี้แจงเพิ่มเติม เมื่อกี้ใน ครม.ได้คุยกันเป็นชั่วโมงก็เข้าใจกันดีในขั้นต้นและเห็นชอบในการที่จะอนุมัติเพิ่มเติมให้ 150 บาทต่อ 500 หน่วย เพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้ค่าเฉลี่ยทั้งสองฝ่าย ทั้งด้านอุตสาหกรรมและประชาชนก็เท่ากัน เดิมเสียสละมาเป็น 5 บาท อะไรทำนองนี้ ตอนนี้ก็ลดลงมา ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นภาระของภาคอุตสาหกรรม แต่เราก็ดูแลหมด การดูแลคนส่วนใหญ่มันลำบากเหมือนกัน แต่ละประเภทมีคนจำนวนเท่าไหร่ๆก็มุ่งเป้าตรงนี้ว่าจะแก้ปัญหาให้เขาอย่างไร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการช่วยเหลือค่าไฟใช้งบประมาณเท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้คิดของเดิมที่ใช้จ่ายไปแล้วแสนกว่าล้าน ลดภาษีบ้างอะไร วันนี้ก็ใช้มาอีก 3,500 ล้านบาท ถ้าใช้ต่อไปอีก ทั้งหมดน่าจะประมาณหมื่นกว่าล้านบาท เมื่อถามว่า จะดูแลประมาณกี่เดือน และส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ผ่าน ครม.แล้วก็ต้องนำส่งให้ กกต.พิจารณา ซึ่งสถานการณ์ค่าพลังงานยังไม่แน่นอน ขึ้นๆ ลงๆ อยู่แบบนี้มาโดยตลอด ฉะนั้น ต้องดูว่าจะทำอย่างไร ก็แก้ปัญหาไป แต่ปัญหาของเรางบประมาณจำกัดพอสมควรเหมือนกัน หนี้สินเก่าจากการลดนู่นนี่ให้เขาก็มีอยู่ เพราะเป็นการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจด้วย ขอยืนยันรัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมทุกภาคส่วนที่มีการร่วมกันในการบริหารจัดการพลังงาน เพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะลงทุนทั้งหมดได้ เอกชนได้มาร่วมลงทุนด้วย แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายกติกาที่มีอยู่ทุกประการ สิ่งใดที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ซึ่งเป็นปัญหาทางกฎหมายได้ให้กระทรวงพลังงานส่งสัญญาต่างๆ ไปให้กรมอัยการได้พิจารณาดูแล้ว ในขณะนี้ได้รับรายงานอย่างนั้น ว่าเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมเพราะหลายสัญญาทำมานานพอสมควร

คนไทย...ไม่ได้โง่!! ประสบการณ์ช่วงรัฐประหารจาก 'พิธา' ต่างกันแค่ช่วงเวลา..แต่เรื่องเดียวกัน

(25 เม.ย.66) โลกโซเชียลจับโป๊ะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หลังถูกขุดบทสัมภาษณ์ กับสองพิธีกร ในสองช่วงเวลาที่ต่างกันกับประเด็นที่เจ้าตัวได้กลับมาเมืองไทยช่วงรัฐประหารปี 49 ซึ่งมีถ้อยความที่ดูจะต่างกันพอสมควร จนเริ่มถูกตั้งคำถามจากสังคมถึงการดูถูกผู้คนทั้งฝ่ายตนและฝ่ายตรงข้าม ซึ่งอาจจะเพราะบทบาทที่แตกต่างกันด้วยหรือไม่ คงต้องลองไปพิจารณากันดู...

(2566)
Q: สรยุทธ ถาม “คุณยังไม่เคยมีประสบการณ์การถูกจับ” 
A: พิธา โต้กลับ “ผมเคยมี เมื่อปี 49 ผมเรียนหนังสือ ที่บอสตัน คุณทักษิณ ประชุม UN กับคุณปานปรีย์ และดร.สุรเกียรติ ที่ยังเป็นเลขา UN อยู่ในสมัยนั้น ซึ่งพ่อผมเสีย 19 กันยา 2549 ผมบินมาที่นิวยอร์ก CNN รถถังออก ผมบินกลับมากับคุณทักษิณ ส่งที่ลอนดอน กลับมาที่กองทัพอากาศ คืนแรกผมไปไม่ได้ เขารื้อคอมผม เขาทำผมทุกอย่าง” 

Q: สรยุทธ ถามต่อว่า “แต่คุณไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาลคุณทักษิณนะ” 
A: พิธา จึงได้เล่าต่อว่า “ผมทำงานให้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในฐานะข้าราชการการเมืองในตอนนั้น”

Q: สรยุทธ ได้ตั้งคำถามต่อไปอีกว่า “คุณกลับมาถึงแล้ว คุณถูกบล็อก แล้วคุณไปไหน” 
A: พิธา ตอบ “อยู่ที่กองทัพอากาศ”  
Q: สรยุทธ ได้ยิงคำถามไปอีกว่า “โดนคุมตัวนานเท่าไหร่” 
A: พิธา ตอบกลับว่า “เหตุการณ์ตั้งแต่ปี 49 นานมาแล้ว แต่ผมยังจำได้ว่า ไปงานศพพ่อไม่ทัน และไม่ใช่แค่ถูกควบคุมตัว แต่ถูกควบคุมเรื่องการเงิน 2-3 เดือนที่ผมหาเงินมาใช้งานศพคุณพ่อไม่ได้” 

หลังจากคลิปที่พิธาได้ให้สัมภาษณ์กับ สรยุทธ จบ ก็ได้มีการตัดคลิปไปที่ การให้สัมภาษณ์ระหว่าง พิธา และหนูแหม่ม โดยมีการพูดคุยกันดังนี้...

(2552)
พิธา เริ่มเล่า “ผมเรียนที่บอสตัน แต่บอสตันไม่มีเที่ยวบินที่บินตรงจากบอสตัน มาที่กรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นผมเลยต้องแวะที่นิวยอร์ก” 

Q: คุณหนูแหม่ม ถามว่า “พอมาถึงนิวยอร์กแล้ว มีไฟลท์บินทันทีมาถึงที่ไทยไหมคะ” 
A: พิธา ตอบ “ไม่มีครับ ก็ต้องรอ แต่พอกลับมาที่ประเทศไทยเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีรัฐประหารพอดี ก็เลยล่าช้าไปหน่อย พอมาถึงก็เป็นคนไทยที่มาจากนิวยอร์ก เขาเลยกักตัวไว้พักหนึ่ง ก็ทำให้ไปงานศพคุณพ่อช้า”

Q: หนูแหม่ม ได้ถามเพิ่มเติมว่า “กลับมายังไงคะ ถึงถูกกักตัว” 
A: พิธา ได้ตอบกลับว่า “บินของรัฐบาลไทยตอนนั้น เครื่องบินไทยของรัฐบาลที่มีคนของรัฐบาลไปประชุม UN ซึ่งถ้าผมไม่กลับเที่ยวบินนั้น ก็ต้องรอไปอีก 2-3 วัน ก็เลยตัดสินใจกลับมา”

Q: หนูแหม่ม ได้ถามเสริมว่า “ถ้าเดาไม่ผิด น้องทิมอยู่ในเครื่องนั้นที่ส่งกลับมาจากนิวยอร์ก เพื่อที่จะกลับมาเมืองไทย คุณอยู่ในเครื่องนั้นกี่คน” 
A: พิธา ตอบว่า “น่าจะประมาณ 20-30 คน ก็คือข้าราชการ” 

Q: หนูแหม่ม ได้ถามไปอีกว่า “ทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าราชการ ยกเว้นคุณเป็นเด็กคนหนึ่ง ที่ถูกฝากกลับมาในเครื่องบินนั้น” พร้อมกับถามเพิ่มไปอีกว่า “เครื่องลงที่ไหนคะ สุวรรณภูมิ หรือดอนเมือง” 
A: พิธา ตอบว่า “ที่กองทัพอากาศ”

Q: หนูแหม่ม ได้ถามย้ำไปว่า “เกิดอะไรขึ้น ถึงถูกกักตัว”
A: พิธา ได้อธิบายไปว่า “พอมันมีเหตุรัฐประหาร ประเทศเขาก็ต้องคัดกรองเป็นธรรมดา เขาก็ถามว่าทำไมเป็นนักเรียน แล้วกลับมากับไฟล์ทนี้ได้ ซึ่งได้อธิบายไปว่า คุณพ่อเสีย ตั้งใจจะกลับมางานศพท่านให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นเขาก็ไม่ว่าอะไร”

Q: หนูแหม่ม ได้ถามว่า “กักตัวนานไหมคะ” 
A: พิธา ได้บอกไปว่า “4-5 ชั่วโมง สายนิดหน่อยแต่ก็ยังทัน”

หลังคลิปเปรียบเทียบการให้สัมภาษณ์ของพิธาระหว่าง สรยุทธ และหนูแหม่มเสร็จ ก็มีการนำมาเปรียบเทียบได้ว่า “นี่คือมนุษย์คนเดียวกัน แต่ 2 เวอร์ชัน และมีประเด็นที่ถูกจับผิด ดังนี้...

‘จุรินทร์’ กราบเท้าลาพ่อ ที่จากไปเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างกลับพังงา พระราชทานเพลิง 10 พ.ค.

จุรินทร์ กราบเท้าพ่อ ครั้งสุดท้าย ที่รพ.ศิริราช ด้วยความอาลัยยิ่ง ก่อนนำร่างกลับไปที่ จ.พังงา สวด 7 วัน พระราชทานเพลิงศพ 10 พ.ค.นี้

(1 พ.ค.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมารับร่างของคุณพ่อวีระ ลักษณวิศิษฏ์ ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยเมื่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้นำร่างคุณพ่อวีระออกมา นายจุรินทร์ได้เข้าไปกราบลาที่เท้าร่างคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้ายอยู่นานด้วยความอาลัยรักยิ่ง ก่อนที่จะได้นำร่างขึ้นรถเพื่อเดินทางไปบำเพ็ญกุศลที่อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

โดยมีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายเกียรติ สิทธีอมร นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ คณะกรรมการบริหารพรรค ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และคณะข้าราชการได้เดินทางมาร่วมด้วย

ทั้งนี้กำหนดการพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ นายวีระ ลักษณวิศิษฏ์ จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 2 พ.ค. และมีพิธีสวดพระอภิธรรม 7 วัน (3-9 พ.ค.) (งดวันที่ 4 พ.ค.) ที่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 5 บ้านท่าซอ ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา และในวันที่ 10 พ.ค. จะมีพิธีพระราชเพลิงศพ ณ เมรุ วัดเหมืองประชารวม ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ต่อไป


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7640359

'เสี่ยเฮ้ง' กร้าว!! ถึงม็อบ 'ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ' 'แรงงานต่างชาติ' ทำผิด 112 ถูกเพิกถอนใบอนุญาตทำงาน

(3 พ.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงประเด็น ม็อบแรงงานต่างชาติเคลื่อนไหวเรียกร้อง ‘ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ’ โดยระบุว่า

ย้ำและ #เตือน อีกทีนะครับ... 
ถึง ม็อบ “ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ”

'แรงงานต่างชาติ' ทำผิด เข้าข่าย ม.112 
ถูกเพิกถอนใบอนุญาตทำงาน นะครับ 

ม็อบแรงงานต่างชาติเคลื่อนไหวเรียกร้อง “ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ” เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ทางกรมการจัดหางาน ได้เตือน ไปยังแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยทุกเชื้อชาติแล้ว

'อ.แก้วสรร' ถอดรหัส 'เศรษฐกิจอธิปไตยเพื่อมาตุภูมิ' ขจัดวังวน 'นักปลุกระดม-หลอกชาวชนบท-ปั่นหัวเยาวชน'

(4 พ.ค.66) นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง 'คำตอบจากรัสเซีย' มีเนื้อหาดังนี้

เลือกตั้งคราวนี้ โจทย์หลักยังเป็นเหมือนเดิมว่า 'จะเกลียดใครดี' ถ้าเกลียดอำมาตย์ เกลียดทหาร  ก็เลือกส้มหรือแดง เกลียดส้มหรือแดง ก็เลือกลุง พอยุพอหาเสียงให้เกลียดกันหนัก ๆ เข้า เลือกตั้งเสร็จ ก็ไม่พ้นลงถนนกันอีกแน่ๆ  

หีบเลือกตั้งวันที่ ๑๔ นี้ จึงมีไฟโหมในหีบเห็นอยู่ชัดๆ หลังเลือกตั้งแล้ว ก็ลุกลามกระพือเป็นความจงเกลียดจงชังเผาผลาญบ้านเมืองได้อีกครั้งไม่ยากเลย

วงจรอุบาทว์นี้ เกิดขึ้นอย่างไร ? นี่คือคำถามที่ผมหมกมุ่นหาคำตอบมาตลอด จนวันนี้หลังจากติดตามขบคิดกับเพื่อนสำนักคิดรัสเซียในวิกฤตยูเครนมาปีกว่า ก็พอจะเห็นวิธีคิดวิธีทำจากการปฏิรูปรัสเซีย โดยการนำของปูตินว่า น่าจะช่วยชี้แนะได้มากทีเดียว ดังจะขอรายงานไปโดยลำดับ ดังนี้

'เศรษฐกิจอธิปไตย'

ถาม 'เศรษฐกิจอธิปไตย' ของปูตินคือ ไม่ยอมใช้ดอลลาร์อย่างนั้นหรือ

ตอบ คือเศรษฐกิจที่ปลดแอกจากโลกาภิวัตน์ตะวันตกแล้ว เพราะรัสเซียเขาไม่ยอมเป็นแค่แหล่งน้ำมันและแร่ธาตุราคาถูกให้เศรษฐกิจตะวันตกดูดกินอีกต่อไป  เขาจึงร่วมมือกับพันธมิตร สร้างโลกการค้าใหม่ที่เสมอภาคและยุติธรรมขึ้นมาให้ได้

'เศรษฐกิจอธิปไตยเพื่อมาตุภูมิ'

ถาม ทำไมความนิยมปูตินในหมู่ชาวบ้าน จึงมั่นคงไม่ต่ำกว่า 80%  มาตลอด

ตอบ 23 ปีที่ครองตำแหน่งมา นอกจากความเชื่อถือในตัวบุคคลแล้ว ก็คือแนวคิดมาตุภูมิที่ปูตินยึดมั่นร่วมกับชาวรัสเซียอย่างเหนียวแน่น เสาเอกหนึ่งของแนวคิดนี้คือการมีอนาคตที่ดีของคนรัสเซียทุกคน ที่ปูตินอธิบายว่า

“อนาคตของตนที่ทุกคนเห็นได้” จะไม่ทำให้คนชั้นล่างและเยาวชนหงุดหงิดจนเป็นโอกาสให้ความโกรธเกลียดเข้าสิงสู่ได้ง่าย มาตุภูมิก็จะสงบสุข

ถาม ถ้าไทยเราทำ 'อนาคต' นี้ได้จริง พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล คงแลนด์สไลด์ไม่ได้แน่ๆ

ตอบ ถูกต้องครับ สองพรรคนี้หากินจากความหงุดหงิดนี้ทั้งคู่ ปูตินมองออกว่า 'มาตุภูมิ' นั้น จะมีแต่ต้นทุนทางประวัติศาสตร์เท่านั้นไม่ได้ ต้องมีความสุข ร่วมกันด้วย   

ถาม ปูติน จัดการอย่างไรให้ 'อนาคตที่เห็นได้ทุกคน' นี้เกิดขึ้น

ตอบ ผมขอตอบเป็นรายงานข่าวจาก วงรัสเซียเลยดีกว่า ลองขบคิดตามดูนะครับว่าเขาคิดเขาลงมือปฏิรูปกันอย่างไร มันเกี่ยวอะไรกับเลือกตั้งผู้ว่าทั้งประเทศ อย่างที่ธนาธรเสนอหรือไม่

“วันนี้ในด้านความคิดความรู้นั้น รัสเซียกำลังอธิบาย 'เศรษฐกิจอธิปไตย' ในประสบการณ์และความคิดของตนไปยังสำนักคิดต่าง ๆ ในฟากพันธมิตรอย่างเข้มข้นว่า

รัสเซียถือเป็นหลักก่อนว่า ทุกรัฐต้องวางเป้าของอำนาจเพื่อมวลชน มีเสาเอกสำคัญอยู่ที่ “การอยู่กินของประชาชน” เริ่มจากการสำรวจตามวิธีวิจัยและการปรึกษาหารือกับชาวบ้านที่ครอบคลุมทั่วถึง  จนสรุปได้ว่า เงินเดือนที่ชาวบ้านเขาอยู่ได้คือเท่าใด ในครอบครัวลูกสองคน ซึ่งรัสเซียวันนี้ได้คำตอบแล้วว่า อยู่ที่ ๓๐๐๐๐ – ๙๐๐๐๐ บาท

‘สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ’ แจ้งข่าวดีชาวสุไหงโก-ลก  ดันสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสำเร็จ

(10 ก.ค. 66) นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่าพี่น้องประชาชนใน อ.สุไหงโก-ลก นราธิวาส และพี่น้องชาวรันเตาปันยัง ประเทศมาเลเซีย ได้รับข่าวที่ทางรัฐบาลไทยสามารถผลักดันสร้างโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 สุไหงโก-ลก - รันเตาปันยัง เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการขนส่งสินค้า และบุคคลข้ามพรมแดน ซึ่งถือว่าเป็นการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยมีแผนการดำเนินงานโครงการดังกล่าวนี้ตามแผนระยะเวลา 5 ปี คือ พ.ศ. 2565 - 2569 ทั้งนี้ ตนพร้อมจะสนับสนุน ผลักดันทุกๆ โครงการ และต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาวนราธิวาส 

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า อีกหนี่งโครงการที่จะสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ก็คือ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มหัตถกรรม หรือเย็บปักถักร้อย ล้วนแล้วแต่สร้างรายได้ ซึ่งผมให้ความสำคัญกับสตรี และเยาวชน เพราะสตรีคือลมใต้ปีกของทุกๆ องค์กรที่สามารถขับเคลื่อนองค์กรนั้นๆไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โดยตนพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนและทุกครัวเรือน

“ทุกข์เสียงจากพี่น้อง ผมเองก็เป็นทุกข์เช่นกัน การพัฒนามนุษย์ที่ยั่งยืน คือการให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผมเองพยายามผลักดันทุกๆ โครงการในขณะที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อคลายความทุกข์ร้อนของพี่น้องอยู่เสมอๆ และหลังจากนี้ ผมพร้อมที่จะเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องทุกๆ ท่าน เพื่อให้สมกับเจตนารมณ์ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวนราธิวาสต่อไป”

‘ชัยวุฒิ’ โพสต์ข้อความสุดซึ้งถึง ‘บิ๊กตู่’ พร้อมขอบคุณที่ให้โอกาสทำงานรับใช้ ปชช.

(12 ก.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ได้ประกาศวางมือทางการเมือง โดยระบุว่า สำหรับผมขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้โอกาสผมได้เข้ามาทำงาน... 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ และความเป็นคนจิตใจดีของท่านนายก ฯ ท่านอาจจะพูดไม่หวาน เป็นคนตรงไปตรงมา แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความจริงใจ ความตั้งใจ พลังศรัทธา ความเสียสละ ที่มีต่อชาติ เเละบ้านเมืองของเรา ทำให้ 9 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยของเรา พัฒนาและก้าวหน้าไปในทุก ๆ ด้าน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะเกิดวิกฤติที่เข้ามาทั้งสถานการณ์โควิด 19 และสถานการณ์การเมืองบนความขัดแย้ง 

“ความขัดแย้ง” ทำให้สิ่งที่ผมพูดวันนี้ บางคนอาจจะยังมองไม่เห็น หรือ ไม่เข้าใจ เเต่ถ้าวันที่ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนนี้เเล้ว ผมเชื่อว่าในที่สุดทุกคนจะมองเห็นและเข้าใจครับ 

ผมอยากฝากเพลงนี้ถึงท่านเป็นเพลงที่ผมชอบ เป็นเพลงที่ผมคิดถึง เพลง ของลุงตู่ครับ …คนดีไม่มีวันตาย 

ขอบคุณคลิปจาก PMOC

‘ชนนพัฒฐ์’ เร่งแก้น้ำแล้งน้ำเค็ม - สินค้าเกษตรตกต่ำ หวังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตชาวสงขลา

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ส.ส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า  หลังจากที่ได้รับทำหน้าที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมบูรณ์แล้ว พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และจะตั้งใจเป็นปากเป็นเสียง ผลักดันการพัฒนา และแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนชาวสงขลา เขต 4 อย่างเต็มที่ และขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ที่ให้โอกาสและสนับสนุนคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งถือเป็นเกียรติครั้งที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการใน 3 เรื่องหลัก ในพื้นที่เขต 4  ซึ่งเป็นปัญหาของคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง   คือ 1.ปัญหาน้ำแล้งและน้ำเค็มที่รุกล้ำ โดยจะมีการเสนอสร้างแก้มลิงขนาดใหญ่ในทะลสาบในพื้นที่ ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ เพื่อใช้ในการกักเก็บน้ำจืด เพื่อการเกษตรในหน้าแล้ง เพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดปีในการทำการเกษตรแล้ว ยังเป็นการป้องกันน้ำเค็มไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน ซึ่งโครงการแก้มลิงอยู่ระหว่างการตั้งงบประมาณเพื่อการศึกษา ซึ่งหากโครงการสำเร็จ เกษตรกรในคาบสมุทรสทิงพระ จะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแล้งและ น้ำท่วมอีกต่อไป 2. ปัญหาประมง ต้องมีการพัฒนารายได้เสริมให้กับชาวประมง ที่ต้องหยุดการทำประมงเวลา 6 เดือน ในช่วงฤดูมรสุม  และ 3. แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรพืชผล โดยการตั้งตลาดกลางรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรโดยตรง โดยตลาดกลางจะคิดราคาที่เป็นธรรม และบริหารจัดการราคาเพื่อไม่แสวงหากำไร เป็นการป้องกันพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบเกษตรกร โดยอาศัยจากประสบการณ์ การทำธุรกิจ รู้เส้นทางการค้าขาย  ซึ่งใน 3 เรื่องนี้ เป็นปัญหาหลัก ที่ต้องผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ของชาวสงขลา 

“แม้ผมจะไม่เคยเล่นการเมือง ไม่ว่าจะระดับไหน แต่ผมมีความรู้ มีความเข้าใจ ในปัญหาของประชาชน และที่สำคัญคือ ผมมีความตั้งใจที่จะเป็นนักการเมือง ที่จะเข้ามารับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ผมยังประสบความสำเร็จในเรื่องกีฬา ในฐานะที่เคยเป็นประธานสโมสรฟุตบอลนครศรี ยูไนเต็ด จ.นครศรีธรรมราช ก็จะใช้ประโยชน์ในเรื่องนี้ผลักดันให้เด็ก ๆ และเยาวชนในพื้นที่ใช้เวลาว่างไปกับการออกกำลังกายกับกีฬา ดีกว่าหันหน้าเข้าสู่ยาเสพติด" นายชนนพัฒฐ์ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top