Wednesday, 15 May 2024
PoliticsQUIZ

ปัญหาเรื้อรัง ‘จูรี’ กางโฉนด ‘ชาวชายฝั่งระโนด’ ที่ดินหายกว่าครึ่ง วอนนายกฯ แก้ไข ก่อนชาวบ้านต้องย้ายไปอยู่กลางทะเล

‘จูรี’ ชาติพัฒนากล้าสงขลา อัดคลิปกลางทะเล ร้องนายกดูแลชายฝั่งระโนด หลังโดนมรสุมกัดเซาะที่ดินหายลงทะเลทั้งแปลง ปัญหาเรื้อรังนับ 10 ปี ที่ผ่านมาแก้ปัญหาผิดวิธี

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 นายจูรี นุ่มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สงขลา พรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะเป็น ชาว อ.ระโนด โดยกำเนิด กล่าวว่า ในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ จ.สงขลา รวมถึงตรวจติดตามแนวทางการแก้ปัญหาพื้นที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณ หมู่ที่ 2 ต.นาบอน นั้น อยากให้ท่านดูแลติดตามอย่างจริงจัง เพราะปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อเรื้อรังมานาน ในบางจุด มีศาลาและโกฐบรรจุอัฐิของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ถูกกัดเซาะจนพังทลายได้รับความเสียหายอย่างหนัก บ้านบางหลังพังและจมหายลงไปในทะเล

“ปัญหานี้เรื้อรังมานับสิบปี ไม่มีการแก้ไข ชาวบ้านจ่ายภาษีบำรุงท้องที่ทุกปี แต่พอมาดูโฉนดบางพื้นที่หายไปกว่าครึ่งแปลง บางพื้นที่จมหายไปทั้งแปลงก็มี เหลือแต่โฉนดที่เป็นกระดาษ ปีที่แล้วต่อเนื่องถึงปีนี้หนักมาก และหนักขึ้นทุกปี ขอให้ผู้ที่รับผิดชอบ ตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กรมเจ้าท่า ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยดูแล จัดหาที่อยู่ใหม่ และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย โดยด่วนก่อนที่ชาวบ้านจะต้องย้ายที่อยู่ลงไปในทะเล” นายจูรี กล่าว 

สำหรับปัญหาดังกล่าว ชาวบ้านเชื่อว่าเกิดจากการสร้างกำแพงกันคลื่นของกรมเจ้าท่า ซึ่งเป็นปัญหามานับสิบปี และไม่ได้รับการดูแลแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด 

ขออากาศสะอาด ‘นพดล’ จี้ รบ. แก้ไขพิษฝุ่น PM 2.5 อย่างเข้มงวด ลั่น!! “อย่าปล่อยปัญหาฝุ่น กัดกร่อนสุขภาพคนไทย”

พท.กระทุ้ง รบ.แก้ปัญหาฝุ่นพิษจริงจัง อย่าปล่อยลูกหลานอยู่ตามยถากรรม 

(10 มี.ค. 66) นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องแบบแผ่นเสียงตกร่องแทนพี่น้องคนไทยในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ ที่ทุกข์ยากแสนสาหัสจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่อยู่ในระดับที่เป็นอันตราย เลวร้ายลงทุกวัน 

ซึ่งข้อมูลทางวิชาการชี้ว่าฝุ่นพิษนี้อาจนำไปสู่โรคร้าย กระทบต่อปอด หัวใจ สมอง และอาจมีผลกระทบในระยะยาว และไม่ปรากฏอาการในขณะนี้ ตนเรียกร้องให้รัฐบาลตื่นขึ้นมาแก้ปัญหาให้เป็นระบบและจริงจังกว่านี้ ได้เรียกร้องไปหลายครั้งแต่ยังไม่เห็นความตั้งใจจริงในการออกมาตรการ และระดมสรรพกำลังเพื่อแก้วิกฤต ถ้าไม่เร่งแก้คนไทยนับแสนนับล้านจะได้รับผลกระทบ ประเทศจะสูญเสียทั้งต้นทุนทางสุขภาพ สังคมและการท่องเที่ยว 

นายนพดล กล่าวต่อว่า จิตใจผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทำด้วยอะไร คิดถึงหัวใจ ปอด สมอง สุขภาพของเด็กแรกเกิดจนถึงคนชราที่ต้องเผชิญฝุ่นพิษตามยถากรรมวันแล้ววันเล่าบ้างไหม เรื่องนี้เป็นวิกฤตครั้งใหญ่ เป็นโศกนาฏกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่รัฐบาลต้องแก้ไข ต้องระดมหน่วยงานทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นเร่งแก้ปัญหาการเผาไร่ข้าวโพด ไร่อ้อย แก้ปัญหาการเผาป่าหน้าแล้ง ร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควบคุมไซต์ก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม รถควันดำ โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เข้มงวดผู้ปล่อยมลภาวะ นอกจากนั้นรัฐบาลได้เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นข้ามแดนไปอย่างไรบ้าง

บทเรียนสอนใจ 'แรมโบ้' ยก ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ กรณีศึกษาสอน 'เศรษฐา' ย้อนถาม!! กินข้าวกับชาวนาเพื่อรับฟัง หรือเห็นประโยชน์

'แรมโบ้' ตอกกลับ 'เศรษฐา' ไปกินข้าว รับฟังความเห็นชาวนา จริงใจหรือประโยชน์การเมืองกันแน่ ย้ำนโยบายช่วยชาวนาของรัฐบาล มุ่งสร้างความเข้มแข็ง เพิ่มผลผลิตสร้างรายได้เพิ่ม ตามโครงการข้าวรักษ์โลก BCG ให้กับชาวนา ไม่เหมือนนโยบายโกงจำนำข้าวที่ทำชาวนาจนผูกคอตายไปหลายราย เตือนนักธุรกิจที่เคยค้าความร่ำรวยจากประชาชน เข้ามาบริหารประเทศ ให้ดูชะตากรรมนายทักษิณ ยิ่งลักษณ์เป็นบทเรียนสอนใจ

(11 มี.ค. 66) - นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยาฟังปัญหาชาวนาวิจารณ์ 8 ปีอยู่ในหลุมดำรายได้ต่ำ ราคาข้าวไม่ดี มีแต่น้ำท่วม-แล้ง โดยนายเสกสกลยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาล นายกฯประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับเกษตรกร และชาวนามาโดยตลอด และมีหลายนโยบายออกมาให้ความช่วยเหลือ มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีรายได้เพียงพอและอยู่ดีมีสุข และอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งทำควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำของประเทศอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันการส่งออกข้าวกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการชี้แจงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดปี 2565 การส่งออกทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7.5 ล้านตัน มีผู้ส่งออกขอใบอนุญาตส่งออกแล้ว 8.58 ล้านตัน และคาดการณ์ปี 66 ปริมาณการส่งออกจะสูงกว่าปี 65 แน่นอน

“นโยบายการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ นายเศรษฐา อาจจะมองว่าไม่หวือหวาหรือช่วยชาวนาให้อยู่ดีกินดีได้ทันที แต่เป็นนโยบายที่สร้างความมั่นคงให้กับชาวนาได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน เพิ่มมูลค่าการผลิต โครงการข้าวรักษ์โลก BCG ที่เดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องเป็นที่ถูกใจของชาวนามาก ไม่เหมือนกับนโยบายโกงจำนำข้าวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอดีต ที่สร้างปัญหาส่งผลให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ต้องเข้ามาแก้ไขตามใช้หนี้จนทุกวันนี้ยังไม่หมด อีกทั้งนโยบายโกงจำนำข้าวของเพื่อไทยนี้ยังสร้างความเจ็บปวดให้กับชาวนาเป็นอย่างมาก ผูกคอตายไปหลายคน ครอบครัวเดือดร้อนสิ้นเนื้อประดา นี่คือผลงานของเพื่อไทยมิใช่หรือ

เฉไฉไปเรื่อย!! ‘ศุภชัย’ ฉะ ‘ชูวิทย์’ ลั่น!! ทำตัวเหมือน ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ หลังไร้เอกสารโอน 3 หมื่นล้าน ไปสิงคโปร์ ปมรถไฟฟ้าสีส้ม

‘ศุภชัย’ ซัด ‘ชูวิทย์’ อย่าทำตัวเป็น ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ หลังผ่านมาจะ 2 สัปดาห์ ยังไม่ปรากฏเอกสารโอนเงินไปธนาคาร สิงคโปร์ กรณีรถไฟฟ้าสีส้ม

(11 มี.ค.66)  นายศุภชัย ใจสมุทร  ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวทวงถามนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่บอกว่ามีเอกสารการโอนเงิน หรือบอกว่ามีเงินทอน 3 หมื่นล้าน โอนจากประเทศไทยไปสิงคโปร์ ธนาคาร HSBC ว่าสิ่งที่นายชูวิทย์ ออกมาพูดไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่า ขณะนี้เป็นเวลานานแล้ว หากมีเอกสารจริง ควรจะได้นำออกมาให้สาธารณชนได้รับทราบ แต่พอกระทรวงคมนาคมถามไปว่าใครเป็นคนโอน ใครเป็นคนรับโอน ก็เฉไฉไปเรื่อย ๆ และไม่ยอมตอบ

รักทั้งคู่ ‘นิโรธ’ เลือกแล้ว!! ยื่นลาออก ‘พปชร.’ หันหา ‘บิ๊กตู่’ ชี้!! ‘พปชร.’ มีคนเก่งอยู่เยอะ ขอช่วย ‘รทสช.’

‘นิโรธ’ เลือกแล้ว! ยื่นใบลาออก ทิ้งพปชร. ช่วย ‘บิ๊กตู่’ ที่รทสช. ยัน ยังรักทั้งคู่

(11 มี.ค.66) นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจที่จะย้ายพรรค ไปทำงานและช่วยงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพื่อช่วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช. และว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค รทสช. ในพื้นที่จ.นครสวรรค์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยพื้นที่ดังกล่าวพรรค รทสช.ต้องการกำลังเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งเพื่อให้ได้ สส.มากที่สุด โดยได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา และเตรียมเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.ต่อไป
 

อย่างเหงาเลยครับจารย์!! ‘ชยพล’ แฉ ‘Hawker Center’ ของ ชัชชาติ’ หลังเพิ่งเปิดไม่นาน ไร้เงาคน เหลือแต่วงดูดบุหรี่

ว่าที่ผู้สมัครส.ส.หลักสี่ ก้าวไกล เปิดศึกเพื่อไทย แฉ Hawker Center ของ ‘ชัชชาติ’ เหลือแต่วงดูดบุหรี่ ไร้เงาคนขายของ ทั้งที่กทม.เพิ่งเปิดตังไปไม่กี่วัน

จากกรณีกรุงเทพมหานคร ได้เปิด Hawk Center ที่ซอยวิภาวดีรังสิต 62 เขตหลักสี่ ตามนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เพื่อจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ซึ่งนำโมเดล Hawker Center มาจากสิงคโปร์ แต่ถูกประชาชนวิจารณ์อย่างหนักว่า นายชัชชาติก็อบปี้มาไม่หมด เพราะ Hawker Center ของกรุงเทพมหานคร แตกต่างจากต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง

ล่าสุดนายชยพล สะท้อนดี ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตหลังสี่ พรรคก้าวไกล ได้ทวิตภาพการลงพื้นที่บริเวณ Hawker Center หลักสี่ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งกรุงเทพมหานครเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามาของ ทำให้นายชยพลทวิตข้อความว่า “เห็นมีคนโพสต์ว่าหลักสี่เราทำศูนย์อาหารแบบสตรีทฟู้ด จัดระเบียบการขายของริมทาง เพิ่งเปิดงานทำข่าวกันไปวันก่อน เลยลองแวะมาดูเหงาอีกแล้วครับจารย์ เจอแต่วงดูดบุหรี่ 5555555

อวยกันหนัก!! ‘เศรษฐา’ โพสต์รูปภาพคู่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ พร้อมอวย "เธอสง่างาม ออร่าพุ่ง"

12 มี.ค.2566 - นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย โพสต์รูปภาพคู่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า "เธอสง่างาม ออร่าพุ่ง…"

สำหรับนายเศรษฐา และนางสาวแพทองธาร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย


ที่มา : https://www.thaipost.net/x-cite-news/339985/ 

‘จตุพร’ ซัด ‘เพื่อไทย’ 310 เสียง เพ้อเจ้อทางการเมือง เย้ย!! ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ต้องใช้ 376 เสียง

‘จตุพร’ ถาม 310 เสียงตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้อย่างไร เหตุฝ่าด่านแรกเลือกนายกฯ ไม่ได้ ต้องใช้เสียงถึง 376 บอกเพื่อไทยประเมินตามความจริง เกลี่ยเสียงทุกภาคอย่างเก่งแค่ 270 เสียงแย่งชิงจากพรรคพันธมิตร แนะประกาศใหม่ขอ 376 เสียงให้สอดคล้องความอยากจะได้สบายใจ
.
(15 มี.ค.66) ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน ‘อดทนและรอคอย’ โดยประเมินเป้าหมายย้อนแย้งพรรคเพื่อไทย กับตรรกะ 310 เสียงเพื่ออยากตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่จับมือใคร จึงเป็นความเพ้อเจ้อทางการเมือง และเป็นไปไม่ได้ตามกติกา รธน. 2560 ต้องฝ่าด่านเลือกนายกฯ ที่ต้องใช้ถึง 376 เสียง พร้อมแนะให้ประกาศตัวเลขใหม่ เพื่อจะได้ผ่านด่านนายกฯให้ได้ก่อน
.
นายจตุพร กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2544 ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาถึงขณะนี้รวมเวลากว่า 22 ปี ในช่วงเวลานั้นพรรคถูกยุบ แล้วตั้งพรรคใหม่เป็นพลังประชาชนแล้วมาเป็นเพื่อไทยในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองในสายสกุลทักษิณ ได้เป็นรัฐบาลรวมแค่ 8 ปี ไม่ได้เป็นรัฐบาลถึง 14 ปี
.
กรณีสมศักดิ์ เทพสุทิน กับสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะย้ายมาเพื่อไทย นายจตุพร กล่าวว่า ทั้งที่เพื่อไทยจะถูกยุบพรรคสูงยิ่ง แต่แกนนำกลุ่มสามมิตรสองคนนี้ยังแยกมาเพื่อไทย ถ้าพิจารณาสมาชิกทั้งกลุ่มนี้แล้ว เหมือนเป็นการกระจายความเสี่ยง เพราะแยกกันไปสังกัดพรรคอื่นด้วย โดยอนุชา นาคาศัย กับสุชาติ ชมกลิ่น และธนกร บุญคงชนะ แยกไปรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แล้วอีกส่วนหนึ่งมาที่เพื่อไทย
.
อีกทั้งเห็นว่า อุดมการณ์หลักของสมศักดิ์คือ ไม่เคยเป็นฝ่ายค้านต้องการเป็นรัฐบาล ดังนั้น การมาเพื่อไทยจึงแสดงถึงแนวโน้มจะได้เป็นรัฐบาล แต่ถ้าเกิดการยุบพรรคหลังการเลือกตั้งและรอตั้งรัฐบาล ย่อมเกิดการแตกกระจายไปอยู่พรรคอื่นเหมือนที่เกิดกับการยุบพลังประชาชนมาแล้ว
.
"ผมเชื่อว่า เมื่อแต่ละฝ่ายต่างมีบทเรียน เขาจะรอให้เลือกตั้งเสร็จ กระทั่งเพื่อไทยไปจับมือกับพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้เสร็จสิ้น จากนั้นการยุบพรรคจะบังเกิดขึ้น พร้อมกับความเสื่อมของเพื่อไทยที่ไปจับมือกับฝ่ายเผด็จการ กระทั่งการแตกตัวจะเกิดขึ้นตามมา โดยไม่ไปสังกัดพรรคใหม่ที่สำรองไว้"
.
นายจตุพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกล่าวอ้างแนวทางการเมืองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย รังเกียจและประณามนักการเมืองยกมือหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นฝ่ายเผด็จการ เป็นพวกทรยศประชาชน แต่ขณะนี้นักการเมืองฝ่ายเผด็จการได้เข้ามาสังกัดพรรคจำนวนมาก แล้วถูกฟอกกลายเป็นนักประชาธิปไตยผู้ซื่อสัตย์ต่อประชาชนไปโดยฉับพลัน
.
อย่างไรก็ตาม หากประเมินว่า เมื่อกระแสแลนด์สไลด์ถูกสร้างขึ้นอย่างทวนกระแสความจริงแล้ว ถ้าพิจารณาพื้นที่ภาคใต้มี ส.ส.เขต 60 คน แล้วเพื่อไทยมีความยากลำบากมากจะได้ ส.ส.สักเขต ดังนั้น เมื่อเสียพื้นที่ไป 60 เสียง ย่อมเหลือ ส.ส.เขตอยู่ 340 เสียงที่ต้องแย่งชิงกับพรรคการเมืองอื่นและฝ่ายประชาธิปไตยเดียวกัน
.
พร้อมทั้งระบุว่า ในเสียง ส.ส.เขตที่เหลือ 340 เสียง ถ้าเพื่อไทยต้องการ 310 เสียงแล้ว โอกาสเป็นไปได้อย่างน้อยมีเพียง 270 เขตเท่านั้น แล้วส่วนที่เหลือให้พรรคภูมิใจไทย ก้าวไกล รทสช.ไทยสร้างไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ ชิงกันใน 70 เขต ดังนั้น ในเชิงตัวเลขทางการเมือง ย่อมสะท้อนถึงตรรกะเพื่อไทย 310 เสียงเป็นไปไม่ได้เลย
.
นายจตุพร ย้ำว่า เมื่อเพื่อไทยสร้างกระแสแลนด์สไลด์ขึ้นมาจากที่ไม่มีความจริงหรือปรากฎการณ์บ่งบอกความเป็นไปได้ จึงเป็นอาการที่น่าเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมาพรรคการเมืองสายนี้เคยได้เสียงเกินครึ่ง 2 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกในชื่อพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2548 ที่ควบรวมพรรคอื่นมาสังกัดด้วยจึงได้เสียงถึง 377 เสียง และอีกครั้งในชื่อพรรคเพื่อไทยเมื่อเลือกตั้งปี 2554 ไม่มีพรรคฝ่ายเดียวกันมาแข่งขันด้วย จึงได้เสียง 265 เสียงเกินครึ่งจากทั้งหมด 500 เสียง แล้วเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
.
สิ่งสำคัญ เห็นว่า การเมืองในวันนี้ แม้เพื่อไทยทำได้ 310 เสียงจริงตามเป้าหมายความอยาก จึงแสดงว่าพรรคฝ่ายเดียวกันอย่างก้าวไกล และ ไทยสร้างไทย อาจได้เสียงไม่เกิน 2-3 เสียงเท่านั้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้กับสถานการณ์ที่เป็นจริงทางการเมืองขณะนี้
.
"เมื่อประกาศแลนด์สไลด์เพื่อสร้างอุปทานหมู่ แต่ไม่อธิบายที่มาของเสียงจากพื้นที่ไหน ยิ่งภาคเหนือตอนบนในพื้นที่จังหวัดพะเยา คงเบียดแย่งชิงได้ยาก แล้วมาเหนือตอนล่างก็ลำบากอยู่ดี ส่วนภาคกลางเป็นพื้นที่บอดของเพื่อไทย และกรุงเทพก็ยังชิงกับพรรคก้าวไกล และพรรคอื่น ๆ อีก ขณะที่ภาคอีสานเป็นพื้นที่หมายมั่นนั้น ยังมีภูมิใจไทย ไทยสร้างไทย ขวางอยู่ ดังนั้น ถ้ารวมเสียงทุกภูมิภาคแล้ว อาจได้เสียงเป็นที่หนึ่งค่อนข้างแน่ แต่ไม่มีวันจะได้ 310 เสียงเด็ดขาด"
.
นายจตุพร ประเมินว่า ถ้าเชื่อเพื่อไทยจะได้ 310 เสียงจริง ต้องได้คะแนนเลือกเกือบ 18 ล้านเสียง แต่เมื่อเลือกตั้งปี 2554 ได้ 8 ล้านจึงต้องหาเพิ่มอีก 10 ล้านเสียง ดังนั้นการเดินทางหาเสียงไปสู่ตัวเลข 310 เสียงจึงหาความจริงไม่เจอ แต่หาความสบายใจได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อหวังปลุกอุปทานหมู่ให้เป็นกระแสฟีเวอร์ไปสู่เสียงแลนด์สไลด์นั้น จึงขนคนมาฟังปราศรัยให้แน่นหนาจำนวนมากเข้าไว้ จึงวัดอะไรไม่ได้ที่จะได้เสียง 310 เสียง
.
อีกทั้ง เน้นว่า ภายใต้กฎกติกาตาม รธน. 2560 การได้ 310 เสียงก็ยังไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ เพราะ รธน.ต้องให้ฝ่าด่านเลือกนายกฯ ก่อน ดังนั้น เสียงเกินครึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภาคือ 376 เสียง (จาก ส.ว. บวก ส.ส. รวม 750 เสียง) เพื่อไทยยังขาดอีก 66 เสียง จะเอามาจากไหน หวังเอาเสียงจากฝ่ายประชาธิปไตย ก็ไม่ได้อยู่ดี เพราะเพื่อไทยชิงไปครอบครองไว้หมดแล้ว ดังนั้น จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้อย่างไร
.
"จะไปหวังให้เสียง ส.ว.มาหนุนช่วย โหวตให้ได้นายกฯ แล้ว ส.ว.จะโหวตให้หรือไม่? ถ้าสุดท้ายโหวตเลือกนายกฯ ไม่ได้ แล้วใครละจะเป็นนายกฯ ให้ จะเป็นลุงรักสงบ ก้าวข้ามขัดแย้ง (พล.อ.ประวิตร) หรือไม่? ดังนั้น หลักทางการเมืองของเพื่อไทยทั้งกวาดเรียบ 310 เสียงและตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่จับมือใคร จึงอธิบายให้เป็นจริงอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ไม่ได้เลย"
.
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อเพื่อไทยหลงจินตนาการในตัวเลข 310 เสียง แล้วยังเลยเถิดไปถึงความเพ้อฝันการเมืองไม่จับมือใครตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะไม่ร่วมมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ช่วงหลังกลับเสียงแผ่วเบาอ้ำอึ้ง ว่า ถ้าไม่ได้ 310 เสียง ต้องไปรอผลเลือกตั้งของประชาชนที่ครั้งจึงตัดสินใจ

อีกทั้ง เสนอว่า แม้เพื่อไทยจะอธิบายที่มาของเสียงแลนด์สไลด์และตั้งรัฐบาลพรรคเดียวไม่ได้ แต่ทำไมคนจึงเชื่อกัน ดังนั้น พรรคคงต้องอธิบายให้ประชาชนมั่นใจในความเชื่อตัวเลข 310 เสียงจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวอย่างไร ช่วยชี้แจงตรรกะย้อนแย้งเช่นนี้ด้วย

ยิ่งกว่านั้น นายจตุพร คาดว่า เมื่อสมศักดิ์กับสุริยะ เข้าพรรคเพื่อไทย ย่อมกระทบกับลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องไปเบียดขับลำดับของนักการเมืองประชาธิปไตยใหญ่ให้ถูกร่นขยับลงมาอย่างเห็นๆ กันอยู่แล้ว จากนั้นนักการเมืองใหญ่คงต้องกล้ำกลืนพูดถึงประชาธิปไตย แลนด์สไลด์ และเผด็จการกันต่อไป ส่วนประชาชนเมื่อได้ยินคำขานเลข 310 เสียง ยิ่งสะใจ แล้วลืมตรึกตรองถึงความจริงและความเป็นไปได้

รวมทั้ง เห็นว่า ในตรรกะทางการเมืองแล้ว ยังมีชุดความจริงอยู่อย่างเดียวคือ ความอยากได้ 310 เสียงย่อมไม่แตกต่างจากตัวเลข 251 เสียงที่เกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร (ทั้งหมด 500 เสียง) ดังนั้น เพื่อไทยต้องการอะไร ใครเอาความคิดที่แหลมคมเช่นนี้มาหลอกให้เดินหน้าหาเสียงปลุกปั่นอุปทานหมู่จากประชาชน แต่ทำให้เป็นจริงไม่ได้ และหวังดึง ส.ว.มาโหวตให้ยิ่งยาก

นายจตุพร มั่นใจ เสียง ส.ว.นั้น คงไม่แตกแถวการลงมติเลือกนายกฯ โดยส่วนแรกต้องโหวต พล.อ.ประยุทธ์ แล้วต่อมาลงมติเลือก พล.อ.ประวิตร นอกจากจากสองคนนี้ ส.ว.ไม่โหวตให้อยู่แล้ว ดังนั้น การประเมินทางการเมืองใน รธน. 2560 จึงต้องอยู่กันด้วยความจริง เพราะนายกฯ มาจากการโหวตของสองสภาที่มีเสียง 750 เสียง เกินครึ่งคือ 376 เสียง สิ่งนี้เป็นตัวเลขความเป็นจริง ไม่ใช่ 310 เสียงและได้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวตามเพื่อไทยประกาศ เนื่องจากต้องผ่านด่านเลือกนายกฯ ก่อน

"เมื่อ 310 เสียงไม่มีความเป็นไปได้แล้ว ผมเรียกร้องให้ประกาศใหม่เป็น 376 เสียง ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และสามารถอธิบายด้วยตรรกะที่เป็นวิทยาศาสตร์ น่าเชื่อถือด้วยหลายศาสตร์ได้ชัดเจน แต่ 310 เสียงจะไม่จับมือกับใคร และตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้อย่างไร ช่วยอธิบาย โดยจะลากเอาทางรัฐศาสตร์ กฎหมาย การเมืองศาสตร์ คณิตศาสตร์ และไสยศาสตร์มาตอบก็ได้กับการไม่จับมือใคร แล้วยังตั้งรัฐบาลพรรคเดียวอีก"

พร้อมย้ำว่า ไม่เข้าใจว่า เพื่อไทยพูดเน้นแต่ตัวเลข 310 เสียงกับการตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และไม่จับมือกับใครไปทำไม เพราะความจริงเป็นไปไม่ได้ทั้งด้วยหลักคณิตศาสตร์และ กติกา รธน. ดังนั้นทางการเมืองต้องมีความตรงไปตรงมาและให้ความจริงกับประชาชน

นายจตุพร กล่าวว่า ตลอดเวลา 22 ปีของพรรคสายสกุลทักษิณ มีช่วงสูญเปล่าเวลาไปถึง 14 ปี แล้ววันนี้ ยังไม่รู้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) จะเปิดคดีอะไรมาเล่นงานอีก ยิ่งคดีถือครองที่ดิน สปก. ที่นักการเมืองหลายพรรคพัวพันอยู่ อีกทั้งยังมีคดีอื่นที่ทำเสร็จแล้ว แต่รอเวลาประกาศ ซึ่งจะทำให้กิดวิกฤตจริยธรรมร้ายแรงทางการเมืองอีก นอกจากนี้ การยื่นบัญชีให้ ปปช. เพียงแค่ตรวจสอบก็สามารถเล่นงานในคดีความผิดที่ลงโทษจริยธรรมนักการเมืองไปแล้ว 2 รายเป็นมาตรฐานคดีอยู่แล้ว

‘พี่ศรี’ ไม่ทน!! โร่ฟ้องกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์ หลังปราศรัยพิษณุโลกพาดพิงถึงสถาบัน ชี้!! มีผลยุบพรรค

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์’ ส.ส.ก้าวไกล ปราศรัยพาดพิงสถาบันระหว่างหาเสียงที่พิษณุโลก มีผลยุบพรรค

(20 มี.ค. 66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางยื่นคำร้องต่อกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบถ้อยคำปราศรัยของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่ได้ปราศรัยหาเสียงพาดพิงสถาบัน ที่จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นคลิปคำปราศรัยของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดยในคำปราศรัยล้วนแล้วพูดถึงแต่สถาบัน บางถ้อยคำปรากฏชัดเจนว่าเป็นการพาดพิงไปถึงโครงการพระราชดำริมากมาย มีการคอร์รัปชัน ซึ่งคำพูดดังกล่าวตนคิดว่าเป็นการให้ร้ายต่อสถาบัน โดยโครงการพระราชดำริเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานให้กับพสกนิกร ประชาชน เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปของประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งมีมากกว่า 4,700 โครงการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาให้กับคนทั้งประเทศ

‘บิ๊กป้อม’ ลุย ‘กระบี่-พังงา’ หาแนวทาง รับมือน้ำท่วม-ภัยแล้ง พร้อมหนุน ‘ศูนย์กลางผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ’

‘บิ๊กป้อม’ โหมงาน ลุยกระบี่-พังงา ติดตามพัฒนาแหล่งน้ำ-เมืองท่องเที่ยว-ดัน พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมัน ชู ไทย ‘ศูนย์กลางผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ’ และมีหน่วยงานรองรับตรง 

(20 มี.ค. 66) เมื่อเวลา 09.30. น.ที่ จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กระบี่ และพังงา โดยจุดแรก ติดตามความคืบหน้าโครงการฝายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการอนุรักษ์แหล่งน้ำในพื้นที่ มี ผวจ.กระบี่และพังงา เลขา สทนช. อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ อธิบดีกรมชลประทาน และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ให้การต้อนรับ 

โดยรับฟังการบรรยายสรุปในพื้นที่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองไหล ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จว.กระบี่ พร้อมพบปะรับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ ภาพรวมสถานการณ์น้ำของ จว.กระบี่ปัจจุบัน ปี 61 - 65 ดำเนินการแล้ว 447 โครงการ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 15,000 ครัวเรือน พื้นที่รับประโยชน์กว่า 23,500 ไร่  ปี 66 อยู่ระหว่างดำเนินการ 13 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์  1,430 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 1,000 ครัวเรือน และปี 67 เตรียมโครงการรรองรับ 148 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์กว่า 48,000 ไร่ ประชาชนรับประโยชน์กว่า 7,100 ครัวเรือน สำหรับปี 66 คาดการณ์มีภาวะฝนทิ้งช่วง มิ.ย.- กค. ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำสะสมน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top