Wednesday, 15 May 2024
PoliticsQUIZ

‘จุรินทร์’ หนุนเงินกู้ประกอบอาชีพผู้สูงวัยกว่า 165 ล้านบาท พร้อมชูเกียรติ ‘ประยงค์ รณรงค์’ เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี 66

จุรินทร์ นั่งหัวโต๊ะ คกก. ผู้สูงอายุแห่งชาติ หนุนเงินกู้ประกอบอาชีพผู้สูงอายุ 5,500 ราย 165 ล้านบาท  
.
(20 มี.ค.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 20 มี.ค.66 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ Zoom เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ 

โดยที่ประชุม เห็นชอบให้ดำเนินการจัดงานสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติรองรับสังคมสูงวัย ปี 2566 ในวันที่ 4 เมษายน 2566 ที่ โรงแรม ทีเค ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร รวมถึงสนับสนุนการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพของผู้สูงอายุ จำนวน 5,500 ราย เป็นเงิน 165,000,000 บาท และโครงการที่ขอรับการสนับสนุนในการดำเนินโครงการ-กิจกรรม ด้านผู้สูงอายุ จำนวน 200 โครงการ เป็นเงิน 20,000,000 บาท  มากไปกว่านั้น ที่ประชุมยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการประกาศสดุดีเกียรติคุณยกย่องผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2566 ให้นายประยงค์ รณรงค์  อายุ 79 ปี ปราชญ์ด้านการเกษตรจาก จังหวัดนครศรีธรรมมราช เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2566

‘ส.ว.อุปกิต’ โต้ไม่ได้มอบตัว เพียงชี้แจงข้อเท็จจริง ยันไม่มีการหลบหนี ขอสู้จนได้ความยุติธรรมคืน

‘ส.ว.อุปกิต’ โต้ไม่ได้มอบตัว เพียงแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันไม่หลบหนี 

(28 มี.ค.66) นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการเข้าพบพนักงานสอบสวนกรณีถูกกล่าวหาดำเนินคดีและสื่อมวลชนหลายสำนักนำเสนอข่าว เป็นการชิงมอบตัว โดยยืนยันว่า ไม่ใช่การไปมอบตัว เพราะในข้อเท็จจริงเป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปว่า ทั้งนายรังสิมันต์ โรม และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กล่าวหาตนและเข้าไปให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน รวมถึงพยายามสร้างกระแสเพื่อเร่งรัดกระบวนการยุติธรรม จึงเป็นสิทธิโดยชอบของตนที่จะเดินทางไปชี้แจงข้อเท็จจริง และแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมจะให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม เพื่อปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ของตนเองและวงศ์ตระกูล

‘ผู้การจ๋อ’ ลุยฟ้อง ‘อัจฉริยะ’ หมิ่นประมาทโยงขบวนการค้ายา ท้า!! แน่จริงอย่าหนีเจอกันบัลลังก์ศาล พร้อมพิสูจน์ความจริง

‘ผู้การฯจ๋อ’ จัดหนักให้ ‘อัจฉริยะ’ แฉมั่วซั่ว ยื่นฟ้องศาลอาญา ฐานแจ้งความเท็จหมิ่นประมาทโยงขบวนการยาเสพติดทำเสื่อมเสียชื่อเสียง

(5 เม.ย.66) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล  ได้เดินทางไปยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ ในฐานความผิดฐาน แจ้งความเท็จหมิ่นประมาทแกล้งฟ้องให้ต้องรับโทษ ต่อศาลอาญา  ยืนยันทุกอย่างที่นายอัจฉริยะกล่าวโทษ ต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( บก.ปปป.) ว่าโยงขบวนการค้ายาเสพติดไม่เป็นความจริง ลั่น พร้อมพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล หากคู่กรณีมีหลักฐานให้เอามายืนยัน อย่าอ้างพูดไปเรื่อยให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิด ไม่มีใครสามารถปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของคุณเองหรือรับงานใครมา เพื่อหวังดิสเครดิต ผมไม่รู้สึกหวาดหวั่น และมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า “ไม่ใช่ไปฟังผีบอกแล้วเที่ยวกล่าวหาเขาไปทั่ว ข้าราชการที่บริสุทธิ์ทุกคนไม่ควรปล่อยให้พวกที่ตระเวนหาแสงทำอย่างนี้ ควรออกมาปกป้องตนเองและหน่วยงานของตนเองด้วย ปัจจุบันกลายเป็นว่าใช้สื่อหาประโยชน์ ใครอยู่เบื้องหลังกี่คนลากออกมาให้หมด อย่าทำเป็นอีแอบนุ่งกระโปรงอยู่หลังเวที แต่ไม่กล้าเต้น แน่จริงมาว่ากันที่บัลลังก์ศาล ผมพร้อมจะพิสูจน์ความจริงทั้งหมดและความไม่จริงของขบวนการพวกนี้ พบกัน 19 มิถุนายน 2566 ที่ ศาลอาญา อย่าร้อง อย่าเลื่อน ก็แล้วกันผบก.สส.บช.น.กล่าว"

‘ชัชชาติ’ สวนกลับ ‘พ่อเจ เจตริน’ หลังวิจารณืไม่มีผลงาน แนะ!! เปิดเน็ตเช็กความก้าวหน้า แก้ไปแล้วกว่า 2 แสนเรื่อง

‘ชัชชาติ’ ขอบคุณที่นึกถึง ‘พ่อเจ เจตริน’ ทวีตถามหาผลงาน แนะเปิดเน็ตเช็กดูได้ ขนาดแม่ยังโทรถามเมื่อเช้า ‘ทำไมไม่มีผลงาน’

(5 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณี ศ.(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือบิดาของ เจ เจตริน นักร้องชื่อดัง ทวีตภาพนายชัชชาติพร้อมข้อความผ่านทวิตเตอร์ โดยตั้งคำถามถึงผลงานและการทำงานของนายชัชชาติ ว่า ตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. เคยทำอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวให้เห็นบ้าง?

นายชัชชาติกล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็นได้ ถ้าอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็พร้อมทำ ที่ผ่านมาดำเนินการตามนโยบาย 217 ข้อ ก็ทำมาตลอด เราน้อมรับทุกคำพูด ส่วนตัวยังไม่ได้อ่านรายละเอียดที่ท่านอยากจะให้ทำอะไรเพิ่ม ส่วนผลงานมีอยู่แล้ว แต่ต้องเข้าไปดู

‘ชูวิทย์’ ลุยยื่นอุทธรณ์ หลังศาลสั่งห้ามยุ่งนโยบายกัญชา ‘ภท.’ ลั่น!! พร้อมสู้ ขอเดินหน้าค้านนโยบายกัญชาเสรีต่อไป

(6 เม.ย.66) ที่โรงแรม เดอะ เดวิส บางกอก สุขุมวิท 24 กรุงเทพฯ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงหลังศาลแพ่งมีคำสั่งห้ามกระทำละเมิดต่อพรรคภูมิใจไทย ในการแพร่ข่าว เกี่ยวกับนโยบาย กัญชา พร้อมแสดงออกเชิญสัญลักษณ์ สวมเสื้อสีดำ นำผ้าสีดำปิดตา และใช้เทปกาวสีดำปิดปาก เพื่อสื่อให้เห็นถึงการถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน จากการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะ ประเด็นกัญชาเสรี


ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กล่าวว่า เมื่อพรรคการเมืองนำนโยบายกัญชา ซึ่งเป็นนโยบายสาธารณะ มาใช้กับประชาชน โดยไม่ได้ผ่านกฎหมายลูก ไม่มีการโหวตในรัฐสภา ไม่มีการทำประชาพิจารณ์ มีเพียงประกาศคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่กัญชาเสรีเป็นนโยบายที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่พรรคภูมิใจไทยกลับเสนอเพียงข้อดี ตนในฐานะประชาชนก็มีสิทธิเสรีภาพในการที่จะพูดข้อเสีย เพื่อผลประโยชน์ของสังคม ไม่ได้ไปก้าวล่วงหรือละเมิด ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสี เพราะตนไม่ใช่ผู้สมัครพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองกับละเมิดสิทธิเสรีภาพของตน
 

‘ชูวิทย์’ เฮ!! หลังศาลเเพ่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของ ‘ภท.’ ปมห้ามพูดถึงกัญชา ชี้!! เป็นการแสดงประโยชน์-โทษ ให้ปชช. ทราบ

‘ชูวิทย์’ เฮลั่น!!! ได้เมาท์กัญชาเสรีต่อ หลังศาลเเพ่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของพรรคภูมิใจไทย ห้ามพูดเรื่องกัญชา ชี้เป็นการแสดงความคิดเห็นประโยชน์และโทษ ปชช.ได้ทราบประโยชน์แก่สุขภาพ

(7 เม.ย.66) ที่ศาลเเพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2566 พรรคภูมิใจไทยเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย ในคดีหมายเลขดำที่ พ. 1650/2566 และ โจทก์ได้ยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างพิจารณาเป็นกรณีฉุกเฉิน ห้ามมิให้จำเลยกล่าว หรือไขข่าวเกี่ยวกับกัญชาในทำนองหรือในลักษณะที่ว่ากล่าวให้ร้าย อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ 

‘ชูวิทย์’ ล่องใต้ลุยพื้นที่จะนะ รณรงค์ค้านกัญชาเสรี เจอกลุ่มชาวบ้านต้าน ชี้!! เป็นโจรในคราบคนดี

‘ชูวิทย์’ เดินสายลงพื้นที่จะนะ ต้านกัญชาเสรี เจอชาวบ้านกลุ่มต้าน หวิดปะทะคารม

เมื่อวันที่ (17 เม.ย.66) จ.สงขลา ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาฮอไรซอนบริหารธุรกิจ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 7 ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้เดินทางมาร่วมรณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ซึ่งการเดินทางจะมีทั้งหลายอำเภอใน จ.สงขลา และในจังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งร่วมพิธีละศีลอดในช่วงเย็นของพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ทางสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ นำโดย บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ และ อาจารย์อับดุลสุโกร์ ดินอะ ที่ปรึกษาสมาคมฯ ได้จัดขึ้นที่วิทยาลัยแห่งนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน รวมทั้งยังได้มีการเชิญ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ  ผอ.รพ.สะบ้าย้อย ให้มาร่วมงานเป็นการส่วนตัวด้วย

ก่อนที่ นายชูวิทย์ จะเดินทางมาถึงราวครึ่งชั่วโมงนั้น ปรากฏว่าได้มีกลุ่มชาวบ้านประมาณ 50 คน เดินทางมารวมตัวกันที่ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าวิทยาลัย พร้อมถือแผ่นป้ายคัดค้านการเดินทางลงพื้นที่ของ นายชูวิทย์ และส่งเสียงตะโกนเป็นระยะ เพื่อต้องการสื่อให้เห็นว่า ยังมีคนบางส่วนที่ไม่ยอมรับในตัว นายชูวิทย์ เพราะ มองว่า นายชูวิทย์ ทำงานรับใช้คนอื่น คนอื่นทำงานการเมืองเพื่อชาติ แต่นายชูวิทย์ รับงานโจมตีคนอื่น รวมทั้งชาวจะนะไม่ต้องการคนชื่อชูวิทย์ และยังระบุว่า หมดศรัทธาในตัวนายชูวิทย์ เพราะเป็นคนรับงาน และเป็นโจรในคราบคนดี แต่ยังโชคดีที่ทางกลุ่มผู้เห็นต่างได้สลายตัวกันไปก่อนที่ นายชูวิทย์ จะเดินทางมาถึง เนื่องจากต้องเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปทำพิธีละศีลอด หวิดที่จะปะทะคารมกัน

จากนั้นในช่วงประมาณ 17.40 น. นายชูวิทย์ เดินทางมาถึงวิทยาลัยอาชีวศึกษาฮอไรซอนบริหารธุรกิจ ก่อนที่จะพูดคุยกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า ในวันนี้นำความจริงมาเปิดเผย ไม่ต้องมาประท้วงตน เพราะ ตนนำความสันติสุขมาให้กับพี่น้องชาวมุสลิม และเอาความจริงเรื่องกัญชาที่หลายหน่วยงานได้มาร่วมรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรี เพราะกัญชาทางการแพทย์นั้นถูกใช้เป็นเพียงแค่ข้ออ้างในการปลดล็อคกัญชา ใครอยากจะเลือกพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคอะไร ก็สามารถเลือกได้ แต่ตนมองเห็นความอันตรายของยาเสพติดและกัญชาที่ปลดล็อคออกมาสู่สังคมไทยโดยที่ไม่มีการควบคุมต่างหาก ซึ่งเมื่อก่อนกัญชาเป็นยาเสพติด และได้ทำการปลดล็อคออกมาโดยทันทีโดยไม่ผ่านสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้นแล้ว

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังได้อ้างถึงข้อมูลจากสมาคมจิตแพทย์ที่ระบุเอาไว้ว่า ความเชื่อเรื่องกัญชาที่จะสามารถเอาไปรักษาโรคจิตเวชได้ เช่น วิตก ซึมเศร้า หรือ นอนไม่หลับ นั้น ความจริงแล้วกัญชาไม่สามารถนำไปรักษาโรคทางจิตเวชเหล่านี้ได้ มิหนำซ้ำยังเป็นต้นเหตุของโรคจิตเวชด้วย

อีกทั้งยังเห็นชัดเจนมากว่า ป้ายหาเสียงของพรรคนี้ไม่ปรากฏนโยบายกัญชาเสรีเลย ทั้งๆ ที่เป็นนโยบายหลักของพรรค ที่จริงๆ แล้วไม่เป็นธรรมกับประชาชน ถ้าจะให้ยุติธรรม ก็ต้องทำความเข้าใจว่า ถ้าเลือกภูมิใจไทย ก็จะได้กัญชา ประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินเองว่า ถ้าเลือกภูมิใจไทย ก็จะได้กัญชา

‘นาที’ ความดันขึ้น!! ศาลฎีกา เลื่อนพิพากษา 3 อดีต ‘ส.ส.ภูมิใจไทย’ ปมเสียบบัตรแทนกัน ในประชุมสภาพิจารณางบฯ ปี 63 เป็น 18 พ.ค.

ศาลฎีกานักการเมืองเลื่อนอ่านคำพิพากษา 3 อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย เสียบบัตรแทนกัน ระหว่างประชุมสภาพิจารณางบฯปี 63 เป็น 18 พ.ค.บ่าย เหตุ 'นาที' ป่วยความดันขึ้น

(19 เม.ย.66) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อม.3/2565 คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ , นายภูมิศิษฏ์ คงมี และนางนาที รัชกิจประการ 3 อดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ภรรยา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นจำเลย 1 - 3 ตามความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 กรณีพวกเสียบบัตร ส.ส.แทนกันในการประชุมสภาฯพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ทั้งที่ 3 คน ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม โดย ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 พร้อมส่งให้อัยการพิจารณายื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

‘เฮียล้าน’ โอด!! ท่าเรือสุดโบราณ ใช้งบเยอะแต่ไม่สวย ชง ‘ชัชชาติ’ ให้สัมปทานเอกชน ทำเรือติดแอร์-สถานีเชื่อมรถไฟฟ้า

‘เฮียล้าน’ ลั่น นี่ทำแล้วเหรอ? โอดท่าเรือสุดโบราณ ใช้งบเยอะแต่ไม่สวย ชงชัชชาติ ให้สัมปทานเอกชนทำ ‘เรือติดแอร์’ สร้างสถานีเชื่อมรถไฟฟ้า ในยุคของตัวเอง

(19 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 3) ประจำพุทธศักราช 2566 โดยมี นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย นั่งเป็นประธานสภา กทม. พร้อมด้วยฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร มีผู้เข้าร่วมได้แก่ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 50 เขต คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครทั้งคณะ ทีมที่ปรึกษาฯ ตลอดจนเลขานุการผู้ว่าฯกทม. ร่วมประชุม

ในตอนหนึ่ง นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร หรือ เฮียล้าน ส.ก.เขตจอมทอง พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติ 7.4 เรื่องขอให้กรุงเทพมหานครฯ ส่งเสริมการเดินทางทางน้ำ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางให้ประชาชนและช่วยลดปัญหาการจารจรบนถนน ซึ่งเลื่อนมาจากวันพุธที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา

นายสุทธิชัยกล่าวว่า กทม.เกิดปัญหาการจราจรติดขัด และยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ โดยตนเล็งเห็นว่าใน กทม.มีสถานีเดินเรือที่สามารถเดินทางได้ครอบคลุมทุกเขต คือเขตจอมทอง ซึ่งเป็นคลองที่มีขนาดใหญ่ ทั้งยังมีตลาดน้ำวัดไทร ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รับการพัฒนา และจะไม่ดีกว่าหรือ ถ้าหากทำการพัฒนาสถานีเดินเรือแห่งนี้ให้น่าใช้งาน

“ถ้าสามารถสร้างตรงนี้ได้ มันจะเป็นยังไง และนักท่องเที่ยวต่างชาติมากันเยอะมาก ถ้าเขามาพัก ทำสถานีเดินเรือดีๆ มันจะสร้างเศรษฐกิจ และซอฟต์เพาเวอร์” นายสุทธิชัยกล่าว

ต่อมา นายสุทธิชัย ยังกล่าวถึงสถานีเดินเรือในปัจจุบันว่า มีความทรุดโทรมและมีความโบราณ ไม่ทันสมัย ประกอบกับบรรยากาศริมคลองที่ไม่มีความสวยงาม แต่กลับใช้งบประมาณค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องนำมาตั้งข้อสงสัยต่อไปว่า ทำไมถึงยังเหมือนเดิม และเพื่อเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดทำให้ประชาชนใช้งานด้วยความจำเป็น ซึ่งตนต้องการให้สถานีเดินเรือนั้นน่าใช้งาน เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีให้กับประชาชน ถึงแม้สำนักการโยธาจะทำโครงการพัฒนาไปหลายโครงการแล้วก็ตาม แต่ตนยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

“ภูมิทัศน์ที่สำนักโยธาได้ทำ 4-5 โครงการ รุ่นที่เราเข้ามาใหม่ๆ จะเห็นได้เลยว่า ทำแล้วเหมือนไม่ได้ทำ สีสันบางทีขับผ่านต้องมานั่งถามว่าอันนี้ทำแล้วเหรอ มันดูไม่สวย” นายสุทธิชัยกล่าว

‘อนุทิน’ เตือน!! งาน ‘วันกัญชาโลก’ พบดูด-พี้ ตำรวจเอาผิดได้ทันที ย้ำ!! ‘สธ.’ มุ่งใช้ ‘กัญชา’ ในทางการแพทย์-สุขภาพเท่านั้น

อนุทิน เตือนจัดงาน ‘วันกัญชาโลก’ หากพบดูด-พี้ ตำรวจเอาผิดได้ทันที ผิดกฎหมาย ไม่ใช่เจตนารมณ์ของนโยบายกัญชาทางการแพทย์

20 เม.ย. 2566 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีจะมีการจัดกิจกรรมวันกัญชาโลกที่ถนนข้าวสาร โดยจะมีการทำกิจกรรมเดินพาเหรดสูบกัญชา

นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดงานขอให้อยู่ในกรอบของประกาศกระทรวงสาธารณสุข ความเข้มข้นบทลงโทษมีทั้งปรับและจำคุก ขอให้อยู่ในกฎหมาย ขอให้เน้นในการใช้ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและทางการแพทย์ การสูบในที่สาธารณะไม่ได้อยู่แล้วผิดกฎหมาย จึงไม่อยากให้เสียค่าปรับหรือเสี่ยงถูกดำเนินคดี เพราะการเปรียบเทียบปรับเป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ หากเห็นว่าเตือนแล้วหลายครั้งยังดำเนินการอยู่ อาจไม่ได้ปรับอย่างเดียว อาจจะถึงจำคุกด้วย

ถ้าทำพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายแบบนี้ ก็ยิ่งเข้าทางคนที่ด้อยค่าสรรพคุณกัญชา ทำให้คนเห็นว่า นำมาใช้ในเรื่องของการพี้ และสันทนาการ ไม่ใช่เจตนารมณ์ของนโยบายกัญชาทางการแพทย์ของ สธ. ถ้าใช้อย่างนี้โอกาสที่จะเข้าทางผู้ที่ไม่ต้องการให้ใช้ทางการแพทย์ ก็จะมีเหตุผลที่จะต่อต้าน ยืนยันว่า สธ.ใช้ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top