Monday, 6 May 2024
Northern

ลำปาง - "ถวายความจงรักภักดีและรำลึกถึง เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นนักรบยิ่งใหญ่ กล้าหาญ"

มณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2564 เวลา 07.50 น. พลตรี  อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมประกอบพิธีถวายพวงมาลา กล่าวถวายราชสดุดี ต่อเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องใน  "วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"  เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ  ผู้ทรงได้กอบกู้อิสรภาพของไทยและทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติจนทำให้มีประเทศไทยอย่างเข่นทุกวันนี้ โดยมี นายณรงค์ศักดิ์  โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในพิธีฯ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ ทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อปี พ.ศ. 2098 ที่ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธิกษัตรี ทรงมีพระเชษฐ์ภคิณี คือ พระสุพรรณกัลยา และมีพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ขณะพระชนมายุได้ 35 พรรษา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถ เชี่ยวชาญทางด้านการรบ ซึ่งเห็นได้จากยุทธวิธีการสงครามที่ทรงใช้ อันได้แก่ การใช้คนจำนวนน้อยเอาชนะคนจำนวนมาก  ยุทธวิธีการรบแบบกองโจร การใช้หลักการรุก การออม และการรวมกำลัง ตลอดจนการดำเนินกลยุทธ์ที่เด็ดขาดในการบังคับบัญชา ทั้งการระวัง ป้องกัน และการจู่โจม  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 ขณะทรงกรีฑาทัพไปตีกรุงอังวะ และได้เกิดประชวร เป็นฝีหัวระลอกขึ้นที่พระพักตร์ เกิดเป็นบาดแผลพิษรุนแรง จนเสด็จสวรรคต ณ เมืองหาง ที่ตำบลทุ่งแก้ว ขณะพระชนมายุได้ 50 พรรษา รวมระยะเวลาที่ทรงขึ้นครองราชย์สมบัตินาน 15 ปี


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

แม่ฮ่องสอน - รอง ผบ.กกล.นเรศวร ลงพื้นที่บินตรวจภูมิประเทศชายแดนแม่ฮ่องสอน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด่านหน้า สั่งการคุมเข้มป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง

พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 พร้อมกำลังพลของหน่วย ร่วมให้การต้อนรับ พ.อ.ประสาน  แสงศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวรและคณะ เนื่องในโอกาสเดินทางตรวจเยี่ยมกำลังพล และติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุป ณ กองบัญชาการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นได้เดินทาง โดยเฮลิคอปเตอร์ จากค่ายเทพสิงห์ เพื่อทำการตรวจภูมิประเทศทางอากาศ จนถึง ฐานปฏิบัติการจอท่า ของ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 337 และได้ตรวจภูมิประเทศทางแม่น้ำสาละวิน จนถึง กองร้อยทหารพรานที่ 3604 ฐานปฏิบัติการแม่สะเกิบ

ในการนี้ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวรได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจกำลังพล ฉก.ทพ.36 ,ร้อย.ตชด.337 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นด่านหน้าในการป้องกันประเทศ ทั้งจากการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ของแรงงานต่างด้าว และ จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน ที่อาจทำให้มีการอพยพของผู้หนีภัยความไม่สงบ หลบหนีข้ามมายังฝั่งไทย ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจเป็นพาหะของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ จึงขอให้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนในภูมิประเทศ ทั้งทางบกและทางน้ำ ตลอดจนการจัดตั้งจุดตรวจ จุดคัดกรอง ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ และให้กำลังพลปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด


ภาพ/ข่าว สุกัลยา  / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน - เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย เจรจาทหารเมียนมาหลังมีข่าวยิงเรือชาวบ้าน ยอมทำตามข้อตกลง ให้เรือไทยวิ่งผ่านแม่น้ำสาละวินได้

ได้รับการเปิดเผย ว่าทาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ได้นำเรือเร็วไปรับทหารเมียนมา ที่ฐานตรงข้ามหมู่บ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเดินทางไปร่วมประชุม กับ หัวหน้าหน่วยทหารเมียนมา ฐานดา-กวิน ริมแม่น้ำสาละวิน ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง  โดยมี พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับการกรมทหารพราน ที่ 36 พร้อมด้วย รอง ผบ.ร้อย ตชด.337 แม่สะเรียง เดินทางร่วมเจรจา  หลังจากการประชุมเสร็จ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทย ได้เรียกประชุมเจ้าของเรือในหมู่บ้านแม่สามแลบ โดยแจ้งว่า ตั้งแต่นี้ไป เรือของราษฎรทุกลำในหมู่บ้านแม่สามแลบ สามารถวิ่งตามแม่น้ำสาละวินได้แล้ว ซึ่งทหารเมียนมาจะไม่ยิงเรือชาวบ้านอีกต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ ชาวบ้านแจ้งว่า มีทหารเมียนมายิงเรือชาวบ้านฝั่งไทย ล่าสุดเป็นเรือของตำรวจ ตชด.ร้อย.337 ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ชายแดนฐานจอท่า ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง ถึงแม้ ทาง ตชด.337 มีการชี้แจงว่า เป็นการยิงส่งสัญญาน เพื่อขอตรวจสอบเรือที่แล่นผ่านน่านน้ำสาละวินเขตเมียนมา ตามที่มีข้อตกลงก่อนหน้านั้น ว่าให้เรือไทยทุกลำจอดรายงานตัวที่ฐานนี้ และก่อนหน้านั้น ในวันที่ 17-18 เม.ย.64 ทหารเมียนมาได้ยิงเรือชาวบ้านแม่สามแลบ ที่ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้ผู้อพยพในรัฐกะเหรี่ยง จนทำให้ชาวบ้านประชาชนฝั่งไทย หวาดกลัว ไม่กล้าวิ่งเรือในแม่น้ำสาละวิน

ล่าสุดทางแหล่งข่าวความมั่นคง เผยว่าผลการเจรจากับทหารเมียนมา ยอมทำตามข้อตกลง ให้เรือไทยวิ่งผ่านแม่น้ำสาละวินได้ โดยไม่ต้องรายงานตัวที่ฐานทหารเมียนมา ส่วนการส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้านกะเหรี่ยงให้ทำตามขั้นตอน ที่มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ จะไม่ยิงเรือไทยหรือยิงขู่อีก แต่ขอเป็นการส่งเสบียงให้ทหารเมียนมาตามที่ได้ตกลงไว้ ซึ่งก่อนหน้านั้นทางหน่วยความมั่นคงไม่ได้อยู่นิ่งเฉยได้เตือนเขาไปแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรก จนมาล่าสุดจึงยอมไม่ได้ เป็นเหตุให้ ต้องไปคุย และก็ไม่ได้ไปแบบ ยอม พร้อมที่จะปะทะ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง โดยผลการเจรจาวันนี้ ก็นับว่าเป็นการคุยกันที่ดี ที่ฝั่งโน้นเขาก็ยอมรับผิดและยอมที่จะทำตามข้อตกลงไว้คือ น่านน้ำสากล ต้องไม่มีการปฏิบัติการใด ๆ จะไม่มีการยิงกันในลำน้ำสาละวิน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน ทางหน่วยงานความมั่นคงจะไม่ยอมให้มีการกระทำอีก เพื่อให้การค้าขายตามแนวชายแดนลำน้ำสาละวินกลับมา เข้าสู่สภาวะปกติต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ร่วมปฏิบัติการบินลาดตระเวนสำรวจปริมาณเชื้อเพลิงคงเหลือในพื้นที่เสี่ยง เตรียมกำหนดมาตรการควบคุมการเผา

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ชัย จินดาพันธุ์ นายอำเภอขุนยวม และฝ่ายเลขานุการศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมปฏิบัติการบินลาดตระเวนเพื่อสำรวจปริมาณวัสดุเชื้อเพลิง(ใบไม้แห้ง) คงเหลือในพื้นที่ป่าที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า.  เพื่อนำผลการสำรวจมาประกอบการกำหนดมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่ทำกินในเขตป่าของราษฎร

การปฏิบัติการบินครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนอากาศยานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ เพื่อดำเนินการสำรวจในพื้นที่ 4 ตำบล ของอำเภอขุนยวมได้แก่ตำบลขุนยวม ตำบลแม่เงา ตำบลแม่กิ๊ และตำบลแม่อูคอ พบว่า ในเขตตำบลดังกล่าวมีสภาพพื้นที่ที่มีการแผ้วถางเพื่อเตรียมการเพาะปลูกแบะมีแนวโน้มจะมีการเผา เป็นจำนวนหลายแห่ง   และบางแห่งได้มีการเผาพื้นที่จนลุกลามเข้าเขตพื้นที่ป่า และเกิดกลุ่มหมอกควันขนาดใหญ่  

ทั้งนี้ภายหลังปฏิบัติการบินลาดตระเวน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะจึงเรียกประชุม “ศปก ไฟป่า อำเภอขุนยวม “ เพื่อกำชับการปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยเฉพาะประเด็นการบังคับใช้มาตรการควบคุมสูงสุด ห้ามเผาเด็ดขาด ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการฯ อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวัง ลาดตระเวน ตลอดจนสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ แก่พี่น้องประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการเผาวัสดุเชื้อเพลิงจนเกิดการลุกลามทำให้เกิดหมอกควันที่มีระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

โดยกำหนดให้อำเภอขุนยวม รายงานผลการดำเนินการให้จังหวัดโดยเร็วและนำข้อมูลเสนอศูนย์อำนวยการป้องกันไฟป่าฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอนในการประชุมประจำเดือนเมษายนนี้ เพื่อวางมาตรการในภาพรวมของจังหวัดต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / รุจิรา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

19 จังหวัด - 1 สัปดาห์แห่งการให้ “ครัวมาดาม” ส่งข้าวกล่องแทนใจ 19 รพ.สนามทั่วประเทศ

ครัวมาดาม มูลนิธิมาดามแป้ง ขอบคุณทีมอาสาส่งข้าวกล่อง รพ.สนาม, รพ.รัฐ 19 แห่ง ครบ 1 สัปดาห์ เตรียมขยายเวลาความช่วยเหลือต่ออีกเดือน และขยายพื้นที่ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมชวนคนไทยร่วมบริจาคส่งน้ำใจให้ไกลขึ้น

การให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ถูกดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง “ครัวมาดาม” กับแนวคิด ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ภายใต้มูลนิธิมาดามแป้ง ที่ตั้งครัวชุมชนส่งข้าวกล่องแล้วเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ผ่านกลุ่มอาสากล้าใหม่ไปยัง 19 พื้นที่ทั่วประเทศ อาทิ อยุธยา, นครราชสีมา, ภูเก็ต,  เชียงใหม่, นราธิวาส ฯลฯ หลังเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดระลอก 3 ซึ่งเดิมวางเป้าหมายตั้งครัวถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่แย่ลงทำให้มีโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นมาก และบุคลากรทางแพทย์ต้องทำงานหนักขึ้น มูลนิธิฯ จึงมีแผนขยายเวลาและปรับขยายพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วงวิกฤตให้มากที่สุด

ด้าน มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. ในฐานะประธานกรรมการ มูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณน้ำใจของกลุ่มคนอาสาทุกคนทั้งจากทุกชุมชนในแต่ละพื้นที่ ที่แม้รู้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี แต่ก็เสียสละส่งต่อน้ำใจของมูลนิธิฯ นี้ไปยังคุณหมอ พยาบาล และบุคลากรทุกคนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เราเชื่อว่าน้ำใจแห่งความตั้งใจนี้จะเป็นพลังให้คุณหมอที่ทำหน้าที่อย่างหนักในทุก ๆ วัน ซึ่งภารกิจของเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะยังต้องทำต่อไปตามเป้าหมายคือ 28,500 กล่อง ในสิ้นเดือนเมษายนนี้”

“จากการประเมินสถานการณ์และแนวโน้มที่ทวีความรุนแรงขึ้น คณะกรรมการมูลนิธิฯ จึงกำลังวางแผนการขยายระยะเวลาทำครัวมาดามออกไปอีก เพื่อแบ่งเบาภาระของคุณหมอ อีกทั้ง ยังมีความเห็นว่าควรปรับและขยายพื้นที่ความช่วยเหลือออกไปอีก โดยขอเชิญชวนคนไทยทุกคนมาช่วยกัน นอกจากการดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยง อันจะเป็นการช่วยป้องกันบุคลากรทางแพทย์ และหากคนเราแข็งแรงและมีกำลัง ก็สามารถเอากำลังกายและใจนั้นออกมาแบ่งปันช่วยเหลือกันต่อไป” มาดามแป้ง กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ “มูลนิธิมาดามแป้ง” ขอเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางแพทย์ ผ่านกิจกรรมครัวมาดาม ด้วยการส่งข้าวกล่องเติมพลังให้ด่านหน้าผู้เสียสละในทุกวัน ด้วยการร่วมบริจาคสมทบทุน กล่องละ 50 บาท เลขบัญชี 092-2-61340-0 ธ.กสิกรไทย ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้

 

 

แม่ฮ่องสอน - เช้านี้กองกำลังกะเหรี่ยง KNU เปิดฉาก บุกตีฐานพม่าฝั่งตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ฝ่ายความมั่นคงปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่หวั่นอันตรายจากการสู้รบ

เช้านี้ กองกำลังกะเหรี่ยง KNU บุกตีฐานพม่าซอแลท่า พัน.คร.341 ริมฝั่งน้ำสาละวิน ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ  ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ด้านฝ่ายความมั่นคงปิดกันพื้นที่ไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าบริเวณบ้านแม่สามแลบริมฝั่งสาละวิน เนื่องจากเสี่ยงอันตรายจากการสู้รบ รวมถึงประสาน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการดูแลประชาชนฝั่งไทย

เบื้องต้นมีชาวบ้าน ร้านค้า บางส่วนที่อาศัยอยู่พื้นที่ติดริมน้ำบริเวณท่าเรือแม่สามแลบได้อพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปบ้างแล้ว ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป 


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร  อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

ลำพูน – จู่โจม !! รวบนักพนันมวยตู้คาวงเหล้า ศปก.จ.ลพ. พร้อม "พยัคฆ์เทวี" หลังรับการร้องเรียน เจ้าของร้านเจอข้อหา จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลา

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 64 เวลา 15:30 น. ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดลำพูน (ศปก.จ.ลพ.) ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดลำพูน "พยัคฆ์เทวี" ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเมืองลำพูน (ศปก.อ.เมืองลำพูน.) ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำพูน "บัวขาว" เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรม , สมาชิก อส. สังกัด ร้อย บก.บร. และ ร้อย อส.เมืองลำพูน ที่ 1 ได้ร่วมกันตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณี มีการลักลอบเล่นการพนันมวยตู้ ในร้านขายของชำแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 19 บ้านใหม่เหมืองกวัก ต.มะเขือแจ้ อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน

ขณะเข้าตรวจสอบ พบนักพนันกำลังเล่นการพนันหมวยตู้ และนั่งดื่มสุรา เชียร์มวยกันอย่างเมามัน เมื่อชุดจับกุมได้แสดงตัว นักพนันวิ่งแตกตื่นกันไปคนละทิศคนละทาง ชุดจับกุมฯจึงได้วิ่งติดตามจับกุมนักพนันมาได้ รวมกับผู้ที่นั่งดื่มสุรา เชียร์มวย จำนวนทั้งสิ้น 8 ราย พร้อมของกลางทั้งหมด

นักพนันทั้งหมดยอมรับว่าได้ร่วมกับพวกที่หลบหนีลักลอบเล่นการพนันหมวยตู้ ชุดจับกุม จึงได้แจ้งให้เจ้ามือ และนักพนันทั้งหมดทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ข้อหา "เป็นผู้จัดให้เล่นการพนัน และเจ้ามือรับกินรับใช้ และร่วมกันลักลอบเล่นการพนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 และฝ่าฝืน "คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน ที่ 39/2564 วันที่ 17 เมษายน 2564 เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรมการมั่วสุม ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แอดอัด หรือสถานที่อื่นใดในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดลำพูน" และได้แจ้งข้อหากับเจ้าของร้าน ในข้อหา "จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลากฎหมายกำหนด" ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ชุดจับกุมฯจึงได้แจ้งสิทธิและนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุสาหกรรม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

ลำพูน – นักพนันไก่ชน...แตกกระเจิงในสังเวียน หลังได้รับเรื่องร้องเรียน สนธิกำลังร่วมเข้าจับกุม ผู้เล่น 21 รายพร้อมของกลางจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 64 เวลา 20:40 น. ชุดอำนวยการประกอบด้วย นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผวจ.ลพ. นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รอง ผวจ.ลพ. นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปจ.ลพ.

นายโยธิน ประสงค์ความดี นอภ.เมืองลำพูน ได้นำกำลัง ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดลำพูน (ศปก.จ.ลพ.) ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดลำพูน "พยัคฆ์เทวี" ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเมืองลำพูน (ศปก.อ.เมืองลำพูน.) ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำพูน "บัวขาว" เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหมืองจี้ , สมาชิก อส. สังกัด ร้อย บก.บร. และ ร้อย อส.เมืองลำพูน ที่ 1 ได้ร่วมกันตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณี มีนักพนันรวมตัวกันเล่นพนันไก่ชน หมู่ที่ 6 บ้านสันป่าสัก ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน

นอภ.เมืองลำพูน ได้วางแผนการเข้าจับกุม เข้าตรวจสอบพื้นที่ร้องเรียนดังกล่าว เมื่อถึงพื้นที่ร้องเรียน เจ้าหน้าที่ฯจึงเข้าทำการปิดล้อมพื้นที่สนามประลองไก่(สังเวียนไก่)  พบนักพนันจำนวนมากกำลังเชียร์ลุ้นไก่ชนอย่างสนุกสนาน ชุดจับกุมฯจึงได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม นักพนันไก่ชนเห็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้ตื่นตกใจวิ่งแตกกันไปคนละทิศคนละทาง

ชุดจับกุมจึงได้วิ่งติดตามนักพนันไก่ชน ได้จำนวน 21 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก จึงได้แจ้งข้อหาเจ้าของบ้าน และผู้ถูกจับกุมกับพวกที่หลบหนีในข้อหา "เป็นผู้จัดให้เล่นการพนัน และเจ้ามือรับกินรับใช้ และร่วมกันลักลอบเล่นการพนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 และฝ่าฝืน "คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน ที่ 39/2564 วันที่ 17 เมษายน 2564 เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรมการมั่วสุม ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แอดอัด หรือสถานที่อื่นใดในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดลำพูน" ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เหมืองจี้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผวจ.ลำพูน ได้เข้ามาชี้แจงกับนักพนันชนไก่ ขอความร่วมมือห้ามเล่นการพนันชนไก่ และการพนันอื่น ๆ อีก เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และพื้นที่ดังกล่าวมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เป็นสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

เชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เข้มตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ให้กับกลุ่มพนักงานลูกจ้างที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสผู้ป่วย รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติงาน โดยได้รับการสนับสนุนรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่

วันที่ 26 เมษายน 2564 นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ส่วนการแพทย์ ร่วมกันอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ที่นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน มาให้บริการตรวจคัดกรองผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รวมถึงพนักงาน ลูกจ้าง พนักงานสายการบิน ส่วนราชการและผู้ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงจากการทำงาน ณ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยมีผู้มารับการตรวจคัดกรองจำนวนทั้งสิ้น 263 คน

ทั้งนี้รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยเป็นรถที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ณ สำนักงานเขตสุขภาพ ที่ 1-12 ทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือน กรกฎาคม 2563 เสริมความพร้อมการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการเก็บตัวอย่างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่ประชาชนเชิงรุก เช่น ในโรงเรียน วัด ชุมชนแออัดและกลุ่มอาชีพเสี่ยงทั่วประเทศ


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

แม่ฮ่องสอน – สั่งปิดกั้นพื้นที่ หวั่นอันตรายจากการสู้รบ อพยพราษฏรไทย 450 คน โดนลูกหลง 1 คนจากการสู้รบฝั่งประเทศเมียนมา

ภายหลังจากที่ทางกองกำลังกะเหรี่ยง KNU บุกตีฐานพม่าซอแลท่า พัน.คร.341 ริมฝั่งน้ำสาละวิน ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ด้านฝ่ายความมั่นคงปิดกันพื้นที่ไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าบริเวณบ้านแม่สามแลบริมฝั่งสาละวิน เนื่องจากเสี่ยงอันตรายจากการสู้รบ รวมถึงประสาน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการดูแลประชาชนฝั่งไทย  ขณะนี้หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ปิดพื้นที่บริเวณปากทางเข้าบ้านแม่สามแลบ ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อความปลอดภัยของราษฎร

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ยังได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ ซึ่งราษฎรจากบ้านแม่สามแลบ ทยอยอพยพออกมาจากพื้นที่ ขนของใช้จำเป็นมารวมตัว อยู่ที่บริเวณโรงเรียนบ้านห้วยกองก้าด 450 คน โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 จัดกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย สถานีตำรวจภูธรสบเมย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสบเมย ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับราษฎรดังกล่าว

ทั้งนี้การสู้รบฝั่งประเทศเมียนมา ได้ส่งผลกระทบเบื้องต้นกับราษฏรในพื้นที่ บ.แม่สามแลบ ได้รับผลกระทบโดนลูกหลงจากการสู้รบฝั่งประเทศเมียนมา 1 ราย คือ นางเดมึ ( ถือบัตร บุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน อาศัยบ้านเลขที่ 0/89  ม.1 ต.แม่สามแลบ ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนเล็ก จำนวน 1 นัด ฝัง เหนือหัวเข่าด้านซ้าย ปัจจุบันได้เดินทางเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน  และจะส่งตัวไปผ่าตัดเอา  กระสุนออก ณ รพ.ศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน ต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top