Monday, 6 May 2024
Northern

เชียงใหม่ - อบจ.เชียงใหม่ มอบถุงยังชีพประชาชน 25 อำเภอ ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่และ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้นำชุมชนในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนชาวเชียงใหม่ ณ วัดนันทาราม ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า อบจ.เชียงใหม่ มีความตั้งใจที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำในขณะนี้ โดยได้จัดสรรงบประมาณและมอบหมายให้ส่วนงานที่รับผิดชอบ จัดทำถุงยังชีพ จำพวกข้าวสารอาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง ประมาณ 40,000 ชุด เพื่อกระจายไปช่วยเหลือประชาชน 25 อำเภอทั่วจังหวัดเชียงใหม่ ตามสัดส่วนครัวเรือนที่ร้องขอมา จากการสำรวจความต้องการของ อปท.ในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน

นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยวันนี้ ได้ส่งมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,380 ชุด ให้แก่ผู้นำชุมชน 97 ชุมชน ทั้ง 4 แขวง ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากCOVID-19

นอกจากนี้ยังได้ส่งมอบถุงยังชีพอีกประมาณกว่า 35,000 ชุดผ่าน สจ.เขตทุกเขตเพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชน 25 อำเภอ ทั่วจังหวัดเชียงใหม่อย่างทั่วถึงต่อไปด้วย

ซึ่งหวังว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้บ้าง อย่างไรก็ตามทางอบจ. จะได้หาแนวทางช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมเป็นระยะ ๆ ต่อไป


ภาพ/ข่าว  วิภาดา / เชียงใหม่

ลำปาง - ศคพ.ลป.จับมือหลายหน่วยงานเมืองล้อมแรด เยี่ยมยามถามไถ่และดูแล ผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 รอบ 3

นาย ณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดลำปางกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ภาคีเครือข่ายหลายหน่วยงานในพื้นที่เทศบาลเมืองล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปางลงพื้นที่เยี่ยมยามถามไถ่ใส่ดูแล กลุ่มคนเปาะบางผู้ได้รับคนตกงานผลกระทบโควิด-19 รอบ 3 จำนวน 13 ราย

โดย นายชยพล ชมภูรัตน์ นายกเทศมนตรีเมืองล้อมแรด พร้อมคณะ ผู้บริหาร สมาชิกสภาฯโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเด่นแก้ว สสอ.อสม.อพม.ท้องถิ่นท้องที่ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ประสบปัญหาทางสังคมในเขตตำบลล้อมแรด และตำบลเถินบุรีโดยดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย จำนวน 16 ราย พร้อมเงินทุนประกอบอาชีพผู้ติดเชื้อเอดส์ จำนวน 1 ราย รายละ 5,000 บาท เงินสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อเอดส์และครอบครัว จำนวน 2 ราย รายละ 2,000 บาท


ภาพ/ข่าว  ปฏิญญา เรือนงาม รายงาน

เชียงใหม่ - มทบ.33 ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ

มณฑลทหารบกที่ 33 ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ทำการพัฒนาลอกคลองช้างคลาน (สาขาคลองแม่ข่า) ชุมชนบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 ก.ค.64 โดยได้ดำเนินการลอกคลอง , เก็บจอกแหน , ผักตบชวา , เศษวัชพืช และปรับปรุงภูมิทัศน์สองฝั่งคลอง ระยะทาง 500 เมตร 

โดยมีหน่วยงานร่วมพัฒนาประกอบด้วย มณฑลทหารบกที่ 33 , ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ( ศป.บส.ชน.) , เทศบาลนครเชียงใหม่ และประชาชนจิตอาสาชุมชนบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด - 19 อย่างเคร่งครัด 

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ได้มอบหมายให้ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 มาพบปะเยี่ยมให้กำลังใจแก่กำลังพลในการปฏิบัติงาน


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

เชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทำโครงการวิจัยอนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์ป่าที่สำคัญและหายากเพื่อการอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ในขณะที่ประเทศกำลังกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่นอกจากการป้องกันความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และผู้ปฏิบัติงานทุกคนแล้ว ยังได้มีมาตรการต่าง ๆ ในการดูแลสัตว์ทุกชนิด และยังมีแนวทางในการอนุรักษ์วิจัย เพื่อส่งต่อพันธุกรรมของสัตว์ป่าหายากเหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป

นายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นหนึ่งในแหล่งที่ดูแล รวบรวมสายพันธุ์ของสัตว์ป่าที่สำคัญและหายากไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งพันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งในระดับนานาชาติได้มีการศึกษาวิจัย เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าเหล่านี้อยู่หลายหน่วยงาน เช่น WAZA (The world zoo and aquarium association) ได้กำหนดหน้าที่ของสมาชิกสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในระดับโลก ให้ตระหนักถึงการรับผิดชอบต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยให้การสนับสนุนความรู้ด้านการวิจัยเพื่อการอนุรักษ์เชิงบูรณาการอย่างยั่งยืน ตามรายชื่อในบัญชีแดงของ IUCN (IUCN Red list) หรือ SEAZA (South East Asian Zoo Association) โดยมีเป้าหมายในการจัดการประชากรของสายพันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของภูมิภาคในสวนสัตว์อย่างยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์

และปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนสัตว์ป่าหลายชนิดที่มีการลดลงอย่างต่อเนื่องในธรรมชาติ เช่น เสือปลา กวางผา เลียงผา เสือดำ/ เสือดาว หมีหมา หมีควาย กระทิง วัวแดง สุนัขจิ้งจอกสีทอง หมาไน ฯลฯ อันเนื่องมาจากมีการบุกรุกของมนุษย์ เช่น การทำลายธรรมชาติ ทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย เป็นต้น จึงทำให้จำนวนของสัตว์ป่าบางชนิดมีแนวโน้มที่จะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ ซึ่งการลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่องของสัตว์ป่านั้นไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น ในต่างประเทศทั่วโลกก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน ดังนั้นจึงได้มีการคิดค้นวิธีการที่จะช่วยอนุรักษ์พันธุ์ของสัตว์เหล่านี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไป โดยใช้วิธีที่เรียกว่า “เทคโนโลยีช่วยสืบพันธุ์ในสัตว์ป่าหายาก” (Assisted reproductive technology for endangered species) ซึ่งมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จึงได้ร่วมกับภาควิชาศัลยศาสตร์และวิทยาการสืบพันธุ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และศูนย์วิจัยการผสมเทียมและเทคโนโลยีชีวภาพเชียงใหม่ เลือกทำการวิจัยทางด้านการรีดน้ำเชื้อ การตรวจคุณภาพน้ำเชื้อ และการทำน้ำเชื้อแช่แข็ง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้ทั่วโลก มีความปลอดภัยสูงต่อสัตว์ และสามารถพัฒนาสายพันธุ์ให้คงอยู่ได้อย่างสมดุลในธรรมชาติ ซึ่งนำไปสู่การดำเนินโครงการ “คืนม้าเทวดาสู่ยอดดอย” ที่เป็นโครงการต่อเนื่องในการวิจัยและอนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์ป่าหายากของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีต่อไป

ทั้งนี้ ในช่วงเวลานี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยนักท่องเที่ยวจะต้องลงทะเบียนจองการเข้าชมในช่องทางออนไลน์ล่วงหน้า ได้ที่ www.chiangmainightsafari.com


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

ลำปาง - พ่อเมืองลำปาง ร่วมให้กำลังใจส่งนักรบชุดขาวดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เดินทางปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เมืองทองธานี

ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริวณลานอนุสาวรีย์ฯ ร.พ.ลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผอ.รพ.ลำปาง พร้อมคณะผู้บริหาร พยาบาล และเจ้าหน้าที่ รับมอบโอวาทและข้อเสนอแนะในการทำหน้าที่ปฏิบัติภารกิจดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจก่อนออกเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งเสริมกำลังใจ แก่ทีมแพทย์พยาบาล ในการไปปฏิบัติงานที่ ร.พ.สนามบุษราคัม เมืองทองธานี จำนวน 13 ราย ระหว่างวันที่ 14-28 ก.ค. 2564

โดยการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ทีมนักรบเสื้อขาวของ จ.ลำปางชุดนี้ จะประกอบไปด้วย บุคลากรแพทย์ จาก ร.พ.แจ้ห่ม และ ร.พ.แม่ทะ จำนวน 2 คน เภสัชกร จาก สสจ.ลำปาง 1 คน พยาบาลวิชาชีพซึ่งล้วนเป็นบุคลากรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ จำนวน 10 คน จาก ร.พ. แม่พริก สบปราบ ห้างฉัตร เถิน เกาะคา เสริมงาม แม่เมาะ วังเหนือ เมืองปาน  และ ร.พ.งาว รวมทั้งหมด จำนวน 13 คน โดยทีมเจ้าหน้าที่ชุดนี้ เป็นทีมพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยหนัก จะเป็นกำลังเสริมคอยให้การสนับสนุน หรือ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกับบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงพยาบาลสนามบุษราคัม เมืองทองธานี


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

ลำปาง - “แนวหลังใส่ใจห่วงใย ในสถานการณ์โควิด ที่มีความวิกฤตในปัจจุบัน ร่วมด้วยช่วยกันจุนเจือ เพื่อให้การช่วยเหลือปวงประชา”

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.30 น.คุณลักขณา ชัยมงคล ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขามณฑลทหารบกที่ 32 มอบหมายให้คุณศิริรัตน์ ศรีภัทรางกูร รองประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขามณฑลทหารบกที่ 32 และสมาชิกสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขามณฑลทหารบกที่ 32 นำสิ่งของบริจาคที่รวบรวมจากผู้ประสงค์ดีรวมทั้งสมาชิกสมาคมแม่บ้านฯที่มีความห่วงใยในสถานการณ์โควิดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปาง นำมามอบให้ มณฑลทหารบกที่ 32 ณ กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้แก่ไข่ไก่ 20 แผง, น้ำดื่ม 6 แพ็ค, ข้าวสาร 4 กระสอบ, หน้ากากอนามัยผ้า 400 ชิ้น, ปลากระป๋อง 20 แพ็คและคุณจำเริญขวัญ สุภาพรรณ มอบงบประมาณให้จำนวน 3,000 บาท โดยมี พันเอกโสภณ นันทสุวรรณ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 เป็นผู้รับมอบ

ทั้งนี้กิจกรรมวันนี้เกิดขึ้นจากความปรารถนาดี ความตั้งใจมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน โดยสมาชิกสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขา มณฑลทหารบกที่ 32 ได้แสดงความมีน้ำใจพร้อมใจมาร่วมมอบสิ่งของให้ ซึ่งหน่วยจะได้นำไปมอบให้หรือสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนตามลำดับต่อไป


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

เชียงราย - ข้าวแกง 10 บาท ช่วยเหลือประชาชนช่วงโควิด ด้าน ‘พระอาจารย์พบโชค’ นำไข่ไก่ 3,000 ฟองสนุบสนุน

เจ้าของร้นอาหารเชียงราย ทำข้าวราดแกง 10 บาท ขายช่วยเหลือชาวบ้านช่วงโควิด หลังก่อนหน้านี้ได้ทำผัดกะเพรา 9 บาทมาแล้ว ด้านพระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ทราบข่าว นำไข่ไก่ 3,000 ฟองมาสนับสนุนด้วย

วันที่ 20 ก.ค.64 คุณธเนตร ติ๊บโท๊ะ หรือ "ต้นอ้อ" เจ้าของร้านอาหารฟอร์เก็ตมีน๊อต (forget me not) ตั้งอยู่เลขที่ 35/2 ม.22 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ด้านเยื้องประตู 3 สนามกีฬาจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์ ล้านนาประยุค สไตล์ในสวน ได้ใช้พื้นที่หน้าร้านเปิด ขายข้าวราดแกง 10 บาท มีทั้งนั่งทานที่ร้านและซื้อกลับบ้าน ซึ่งข้าวราดแกงที่ขาย มีเมนูที่หลากหลายวันละ 3-4 อย่างทั้งผัดกระเพราไก่ ผัดเผ็ดถั่วหมู แกงเขียวหวานไก่ ผัดบวบใส่ไข่ โดยทุกเมนูจะปรุงสดใหม่ทุกวัน จากเชฟประจำร้าน เริ่มขายตั้งแต่เวลา 11.00 น. จนกว่าอาหารจะหมดโดยใช้พื้นที่หน้าร้านเช่นเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำเมนู ผัดกระเพราไก่ ราดข้าว ในราคากล่องละ 9 บาทมาก่อนแล้ว เพื่อช่วยเหลือทุกคนในภาวะเศรษฐกิจโควิด-19  โดยทางร้านบริการมีเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัยแจกฟรี สำหรับผู้ที่ต้องการอีกด้วย

โดยการขายข้าวราดแกงในราคา 10 บาท ทำให้มีผู้สนใจเดินทางมาซื้อข้าวแกงจำนวนมาก เพราะถือว่ามีราคาที่ถูกและได้ข้าวราดแกงที่มีคุณภาพ อร่อยและปรุงสดทุกวัน เข้ากับภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงทำให้ทุกคนต้องดิ้นรนอยู่รอด ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "ข้าวแกง 10 บาท ทำให้หลายคนอยู่รอดได้ และถือว่าคนทำใจบุญอย่างมาก เพราะเชื่อว่าไม่ได้กำไรอย่างแน่นอน

คุณต้นอ้อ กล่าวว่า การที่มาขายข้าวแกง 10 บาท ก็เพราะจากการต่อยอดมาจากผัดกระเพรา 9 บาท ที่อยากให้ทุกคนได้อิ่มท้องในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แบบนี้ อะไรที่ช่วยสังคมได้ก็พร้อมช่วย เมื่อทำแล้วก็มีเพื่อนอีกหลายคน เห็นว่าดีต่อสังคม ใครพอจะมีเงินก็สมทบทุนมาให้ทำข้าวราดแกงในราคานี้ ซึ่งยอมรับว่า ไม่ได้กำไรจากการขายนี้เลย แต่ขอให้ได้ช่วยสังคมและอิ่มบุญ และพร้อมจะทำ เมื่อขายข้าวแกง 10 บาทก็พบว่า ทุกคนที่มาซื้อ ก็จะร่วมทำบุญให้กับสมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย ที่ตั้งกล่องรับบริจาคเพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์และช่วยเจ้าหน้าที่รับส่งผู้ป่วยโควิด-19 ในจังหวัดเชียงราย

ด้านพระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อทราบข่าวว่ามีข้าวแกง10 บาท ขายให้กับทุกคน เพื่อช่วยภาวะเศรษฐกิจ จึงได้ให้ลูกศิษย์ นำไข่ไก่จำนวน 3,000 ฟอง ผักสดนานาชนิด และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง มามอบให้กับทางร้าน  เพื่อเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารเพื่อช่วยทุกคนด้วย

พระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง กล่าวว่า สาเหตุที่นำสิ่งของมาช่วยทางร้านในการขายข้าวแกง 10 บาท เพราะทราบดีว่าการขายแบบนี้ ทางร้านไม่ได้กำไรอะไรเลย แต่เมื่ออยากที่จะทำบุญก็นำสิ่งของที่ได้รับมาจากญาติโยม ที่ทำบุญมาต่อบุญอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะได้บุญมหาศาลสำหรับผู้ที่ร่วมทำบุญกับทางวัดห้วยปลากั้ง


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

ลำปาง - มทบ.32 พบปะหารือนายกสมาคมผู้สื่อข่าว-นายกสมาคมนักจัดรายการฯ ในการช่วยเหลือประชาชนในห้วงสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เวลา 15.00 น. พลตรี อโณทัย  ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมคณะ ได้เดินทางไปพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับคุณไชยยันต์ เปรมทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง,พันโท ชูเกียรติ มีโฉม นายกสมาคมนักจัดรายการวิทยุกระจายเสียงนครลำปาง  และคณะกรรมการสมาคม ณ ที่ทำการสมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง บริเวณชั้น 1 ศาลาประชาคม ศาลากลางหลังเก่า อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง 

ในโอกาสนี้ทาง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้กล่าวถึงภารกิจของทหารในการช่วยเหลือประชาชนชาวลำปาง ทั้งให้การสนับสนุน จังหวัดลำปาง ในห้วงสถานการณ์การณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้แก่ การจัดกำลังพลและยานพาหนะสนับสนุนการจัดตั้ง โรงพยาบาลสนาม, การจัดกำลังพล Army Delivery นำสิ่งของที่ชาวลำปางมีน้ำใจร่วมบริจาคผ่านหน่วยทหารนำไปมอบให้ประชาชนที่เดือดร้อน,การประชาสัมพันธ์ตามมาตรการการป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในการปฏิบัติตัวของชาวบ้าน,นำกำลังจิตอาสาทำความสะอาดโรงเรียนในจังหวัดลำปางก่อนที่โรงเรียนจะเปิดฯ,จัดรถของหน่วยสนับสนุนตามนโยบายของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง รับผู้ป่วยตามโครงการรับคนลำปางกลับบ้าน

ทั้งนี้ โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของทหาร ได้ช่วยเหลือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางในการรับผู้ป่วยโควิดมารักษา ณ โรงพยาบาลปัจจุบันมี 13 คน นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือกับประชาชนชาวลำปางในการดูแลตัวเองตามมาตรการป้องกันตน เชื่อและปฏิบัติตามสิ่งที่พ่อเมืองหรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กำหนดมาตรการสำคัญต่าง ๆ ล้วนต้องการให้ประชาชนลำปางได้ปลอดภัยจากโควิดทั้งสิ้น บรรยากาศการพัฒนาสัมพันธ์เป็นไปด้วยความชื่นมื่น ทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมร่วมมือ ร่วมใจกัน เพื่อผลสำคัญคือประโยชน์ได้เกิดต่อประชาชนชาวลำปางในโอกาสหน้าต่อไป

“ทหารไม่ใช่ด่านหน้า แต่ทหารพร้อมสนับสนุนกำลังทรัพยากร ยานพาหนะ เป็นส่วนสนับสนุนที่พร้อมให้การสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนทุกเรื่อง”


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

ลำปาง - จิตอาสา มทบ.32 "มีแล้วแบ่งปัน" พบปะเยี่ยมเยือน ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ชุมชนบ้านกลางทุ่ง เมืองลำปาง

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2564 เวลา 13.30 น. พลตรี อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 32 มอบหมายให้ วิทยากรจิตอาสา 904 ร่วมกับประชาชนจิตอาสา พบปะ เยี่ยมเยือน ให้กำลังใจ มอบธารน้ำใจ สิ่งของอุปโภค-บริโภค หน้ากากอนามัย ให้กับผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 บริเวณชุมชนบ้านกลางทุ่ง ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ตามกิจกรรมจิตอาสา “มีแล้วแบ่งปัน” ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ ท่านผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่กำลังประสบปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 สร้างความปลาบปลื้ม ดีใจแก่ประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือ ทั้งกล่าวขอบคุณที่ทหารคอยเคียงข้างและช่วยเหลือประชาชนเสมอมา


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

ลำปาง - กฟผ. มอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์สู้โควิด-19

วันนี้ 21 ก.ค.64 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง นายแพทย์นพรัตน์ วัชรขจรกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง รับมอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR (Powered Air Purifying Respirator) จำนวน 20 ชุด ซึ่งผลิตโดยทีมช่างอาสา กฟผ. หลังพบปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญความลำบากในการปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยทาง กฟผ. จึงได้เริ่มพัฒนาการผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ขึ้น และส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ โดยมีนายอดิศักดิ์ กิจเจริญธนารักษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เป็นผู้มอบฯ ณ บริเวณหน้ามุข ชั้น 1 ด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดลำปาง 

โอกาสนี้ ทาง กฟผ.แม่เมาะ ได้มอบเงินสนับสนุนค่าอาหาร จำนวน 200,000 บาท และน้ำดื่ม จำนวน 7,200 ขวด เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 จังหวัดลำปาง

ทั้งนี้ กฟผ. ดำเนินการผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR  โดยผลิตในห้อง Clean Room เพื่อควบคุมความสะอาดตลอดขั้นตอนการผลิต มีการทดสอบให้ได้มาตรฐาน พร้อมบรรจุลงกล่องแยกชิ้นก่อนส่งมอบ จึงมั่นใจได้ว่าหมวกทุกใบสะอาดปราศจากสิ่งปนเปื้อน 100% สำหรับตัวหมวกมีน้ำหนักเบา ใช้งานได้คล่องตัว


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top