Saturday, 21 June 2025
NewsFeed

รองผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.67 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น ตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย โดยมี นาย Otaka Masato เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

ไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์อย่างยาวนานทั้งในระดับของราชวงศ์ รัฐบาล ตลอดจนภาคเอกชน ในส่วนของความสัมพันธ์ทางทหารนั้น ไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือในระดับกระทรวงกลาโหมในกรอบการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน (ADMM Plus) , ความเป็นหุ้นส่วนแปซิฟิก (Pacific Partnership) , การปฏิบัติงานร่วมกันในภารกิจต่าง ๆ ในกรอบสหประชาชาติ , การแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บังคับบัญชาระดับสูง และการให้ที่นั่งศึกษา

ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือไทย และกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น (ทร.ญี่ปุ่น) เป็นไปด้วยความแน่นแฟ้นอย่างยาวนาน ดังนี้

1. การประชุมโดยทั้งสองประเทศจัดให้มีการประชุม Navy to Navy Staff Talks เพื่อให้ผู้แทนกองทัพเรือของทั้งสองฝ่ายร่วมหารือในเรื่องความมั่นคงทางทะเล , การแลกเปลี่ยนและขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ และเรื่องอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา
2. การแลกเปลี่ยนการศึกษา เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 ญี่ปุ่นให้การสนับสนุนหลักสูตรโรงเรียนรวมเหล่าญี่ปุ่น และโรงเรียนทำการนายทหารเรือญี่ปุ่น หลักสูตร 6 ปี , หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรญี่ปุ่น (วทร.ญี่ปุ่น)
3. การแลกเปลี่ยนการเยือนของกำลังทางเรือ โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนเมืองท่า , การเข้าร่วมการสวนสนามทางเรือของทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่อง
4. การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ได้มีการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร (IEC) ระหว่างกัน มาแล้วรวม 9 ครั้ง
5. การฝึกผสมทวิภาคี ทำการฝึกในลักษณะ PASSEX เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ และให้เกินการทำงานร่วมกันให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

จากความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมาอย่างยาวนานส่งผลให้กองทัพเรือไทยและกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นมีความร่วมมือที่ดีในหลายมิติด้านความมั่นคงทางทะเล เป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อมิตรประเทศ , การมีบทบาทนำด้านความร่วมมือที่ส่งเสริมความมั่นคงในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

สมนึก เชื้อสนุก รายงาน 

มุกดาหาร ตร.นิคมคำสร้อยขับรถไล่ล่าแกงค์ยาบ้า เส้นทางลัดร่วม 20 กม. ยึดยาบ้า 240,000 เม็ด ผู้ต้องหา 2 คนหนีได้ 1 คน

สภ.นิคมคำสร้อย ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 240,000 เม็ด ผู้ต้องหา 2 คน จับได้ 1 หลบหนีไป 1 คนร้ายขับรถหนีไปร่วม 20 กม. ขณะ จนท. ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจโชคชัย ถนนชยางกูร 212 (มุกดาหาร – ยโสธร- อุบลราชธานี) อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร 

วันที่ 17 ก.ค. 67 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร, พล.ต.ต. ชัชชัย วงศ์สุนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง รองผู้บังคับการตำรวจภูธร, พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ โพธิ์จันทร์ ผกก.สภ.นิคมคำสร้อย, นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอนิคมคำสร้อย, พร้อมตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร, ปกครอง, กอ.รมน., เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแกงค์ค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รายใหญ่ ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต. ชัชชัย วงศ์สุนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกอำเภอคุมเข้มตรวจสอบกลุ่มแกงค์ยาเสพติดในจังหวัด โดยมี พ.ต.ท.พลไชย ภูจอมจิตร รองผกก.ป.สภ.นิคมคำสร้อย พ.ต.ต.ประดิษฐ์ วงชารี สวป.สภ.นิคมคำสร้อย มอบหมายให้ร.ต.ท.อิทธิฤทธิ์ แซ่ลิ้ม รอง สวป.สภ.นิคมคำสร้อย หัวหน้าชุด พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลโชคชัย ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สิ่งของผิดกฎหมาย และยาเสพติด 
กระทั่งช่วงระหว่างเวลาประมาณ 20.30 น. ของคืนวันที่ 16 กค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจจุดตรวจตู้ยามโชคชัย สภ.นิคมคำสร้อย พบรถยนต์กระบะอีซูซุ สีขาว 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กต – 4097 ศรีสะเกษ ขับมาจากเส้นทางในตัวเมืองผ่าน อ.นิคมคำสร้อย มุ่งหน้าไปเส้นทางอำเภอเลิงนกทา จ.ยโสธร - อุบลราชธานี เมื่อคนขับมองเห็นจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ ได้กลับรถบริเวณจุดกลับอย่างกระทันหัน ก่อนเร่งความเร็วรถเพื่อหลบหนีกลับไปทางเดิมก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางลัด นิคมคำสร้อย - หนองสูง - ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามพร้อมส่งสัญญาณไฟและเสียงไซเรนเพื่อให้รถกระบะหยุด แต่รถคันดังกล่าวไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกลับเร่งเครื่องขับหลบหนีอย่างรวดเร็ว 

จนท.ขับไล่ติดตามกระทั่งถึงบริเวณเส้นทางหนองนกเขียน - โคกหินกอง ผู้ที่นั่งมาในรถได้โยนวัตถุบางอย่างออกจากตัวรถแต่ยังคงขับรถหลบหนีอย่างไม่ลดละ เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามข้ามอำเภอจนถึงบ้านโคกหินกอง ต.หนองสูงใต้ ระยะทางประมาณ 20 กม. คนขับรถได้จอดรถ ตรวจสอบทราบชื่อนายวิลาศักดิ์ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ที่อยู่ ต.หนองแวง อ.เกษตรวิสัย  จ.ร้อยเอ็ด ผู้ขับรถยนต์ ขณะที่ผู้ที่นั่งมาด้วยเป็นชายรูปร่างปราดเปรียวเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะใกล้หมู่บ้านแม้เจ้าหน้าที่จะไล่ติดตามแต่ก็หาตัวไม่พบ จากการตรวจสอบในรถพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ภายในห้องโดยสารด้านหลังคนขับ และยึดวัตถุที่โยนลงข้างถนนตรวจสอบเบื้องต้นว่าเป็นยาบ้า จนท.จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาที่ สภ.นิคมคำสร้อย เพื่อตรวจนับให้ละเอียดทราบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 ถูกห่อด้วยกระดาษใขสีเหลือง เม็ดยาสีส้มเข้มมีสัญลักษณ์ตัวอักษร Y 1 ประทับที่หีบห่อ รวมจำนวน 20 แพ็ค และห่ออยู่ในถุงพลาสติกสีดำ 20 ก้อน ตรวจนับเป็นยาบ้าประมาณ 240,000 เม็ด พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง คาดเป็นแกงค์ค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและเป็นผู้ขับรถเสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสน สภ.นิคมคำสร้อย เพื่อสอบสวนขยายผลหาแกงค์ผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

‘CK Cheong’ สะท้อน!! ‘อาหารไทย’ ทำไมราคาถูกกว่าอาหารญี่ปุ่น ทั้งที่กว่าจะรังสรรค์เมนู ต้องผ่านกระบวนการ ‘ปรุง-หมัก-ผัด’ ก่อน

เมื่อไม่นานมานี้ จากช่องยูทูบ ‘CK Cheong’ หรือ ‘คุณซีเค เจิง’ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน (มาเก๊า) ผู้เติบโตที่ประเทศอเมริกา และเป็นหนึ่งในผู้บริหารของ ‘Fastwork Technologies’ ได้โพสต์คลิปแชร์มุมมองของตนเองต่อคุณค่าของความเป็นไทย โดยระบุว่า…

“ผมจุดตั้งต้นในบริษัทว่าจะไม่มีวันทําแบบโปรโมชัน 1.1, 2.2, 3.3, 4.4 ผมจะไม่มีวันทํา เป็นเพราะว่าสิ่งที่ผมขาย…ผม ‘ขายเวลา’ ของคนไทย และคนไทย ‘ไม่ใช่ของถูก’...

ผมไม่ชอบที่อาหารไทยเป็นของถูก ทําไมอาหารบ้านเราต้องถูกกว่าอาหารญี่ปุ่น บ้านเรามีความซับซ้อนตั้งเยอะ ต้องปรุง ต้องหมัก ต้องผัด ต้องใส่พริก หรือใส่นู้นก่อนนี่ก่อน แต่ซูชิคือหั่นและวางข้าวจบเลย ทําไมของเขาต้องแพงกว่า…

คุณลองคิดดูว่า คุณมีแซลมอนอันหนึ่ง คุณจะทําเป็นซาชิมิ กับทําเป็นแกงส้มปลาทอดอันหนึ่ง คุณว่าอันไหนยากกว่ากัน? แต่ทําไมของเราถูกกว่า คนไทยชอบด้อยค่าตัวเอง และอันนี้เป็น Soft Power ที่ผมพยายามที่จะพาไป คือ…คนไทยไม่ใช่ของถูก”

‘นักแข่งโกะชาวเกาหลีใต้’ ตัดสินใจลาวงการ หลังพ่ายแพ้ให้ AI ลั่น!! รู้สึกทุกข์ทรมานไม่จางหาย และไม่สนุกกับเกมได้อีกต่อไป

(18 ก.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘Techsauce’ รายงานถึงกรณีนักแข่งหมากล้อม (โกะ) ชาวเกาหลีใต้พ่ายแพ้ให้กับ AI ที่ชื่อว่า AlphaGo โดยระบุว่า…

“การที่ AI เปิดตัวในการแข่งหมากล้อม (โกะ) ผมก็ได้รู้ว่า ผมไม่ใช่คนที่อยู่บนจุดสูงสุดแล้ว ถึงแม้ว่าผมจะเป็นที่ 1 จากการพยายามจนเลือดตาแทบกระเด็น แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถเอาชนะได้”

อี เซดล คืออดีตนักแข่งหมากล้อมมืออาชีพชาวเกาหลีใต้ และเป็นอดีตอันดับ 1 ของโลก แต่เมื่อปี 2016 เขากลับพ่ายแพ้ให้แก่โปรแกรม AI ที่ชื่อว่า AlphaGo เจ้าตัวเผยว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังคงทุกข์ทรมานจากการที่พ่ายแพ้และไม่สามารถก้าวข้าม AlphaGo ได้

การพ่ายแพ้ในครั้งนั้นเป็นการสั่นสะเทือนทั้งวงการหมากล้อมและคนทั้งโลก หลังจากการพ่ายแพ้ทำให้อี เซดลตัดสินใจลาออกในปี 2019 เนื่องจากเขาไม่สามารถสนุกกับเกมได้อีกต่อไป เขายังออกมาเตือนอีกว่าเทคโนโลยีจะไม่ตามหลังนักแข่งหมากล้อมอีกต่อไป 

“ผมเผชิญกับปัญหาเรื่อง AI เร็วกว่าคนอื่น แต่ปัญหานี้ก็จะเกิดขึ้นกับคนอื่นเหมือนกัน และอาจจะเป็นจุดจบที่ไม่สวยเท่าไร” อี เซดล กล่าว

“ผมคิดว่า AI จะเอาชนะมนุษย์ได้ในสักวัน แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นตอนนี้” อี เซดลไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้นี้ได้ เขาคิดว่าการแข่งหมากล้อมถือว่าเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่งซึ่งสะท้อนลักษณะและสไตล์การเล่นของผู้เล่นแต่ละคน แต่ตอนนี้ศิลปะเหล่านี้ถูกโยนทิ้งไปโดยอัลกอริทึมที่สามารถคำนวณอย่างเฉียบคมและไร้ความปรานี

อีกสิ่งที่เขากังวลคือ AI อาจจะเปลี่ยนคุณค่าของมนุษย์ “คนมักจะตะลึงในนวัตกรรมและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ แต่การเข้ามาของ AI ทำให้หลาย ๆ อย่างหายไป” แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ AI ยังไม่สามารถมาแทนคนได้ ก็คือ ‘จิตวิญญาณ’

Spielberg ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังกล่าวไว้ว่า “ผมคิดว่าจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการและอธิบายได้ และอัลกอริทึมยังไม่สามารถสร้างมันได้เช่นกัน มันเป็นสิ่งที่อยู่ภายในพวกเราทุกคน”

อ้างอิง: https://www.businessinsider.com/lee-sedol-makes-surprise-move-before-final-match-against-alphago-2016-3

https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2024/07/10/defeated-by-ai-a-legend-in-the-board-game-go-warns-get-ready-for-whats-next 

‘การบินไทย’ ติด 1 ใน 10 สายการบินให้บริการระหว่างประเทศดีที่สุดในโลก สะท้อนมาตรฐาน-คุณภาพการให้บริการดีเยี่ยม ผู้ใช้งานทั่วโลกไว้วางใจ

(18 ก.ค. 67) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับเป็นสายการบินที่ให้บริการระหว่างประเทศที่ดีที่สุดในโลก (Best International Airlines in 2024) อันดับ 8 จากทราเวล แอนด์ เลเชอร์ (Travel & Leisure World’s Best Awards 2024) ซึ่งได้สำรวจความคิดเห็นจากนักเดินทาง นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ จากทั่วโลก ประจำปี 2024 เพื่อนำมาจัดอันดับความเป็นเลิศในประเภทต่าง ๆ อาทิ สายการบินที่ดีที่สุด สนามบินที่ดีที่สุด เมืองที่ดีที่สุด โรงแรมที่ดีที่สุด สปาที่ดีที่สุด บริษัทนำเที่ยวที่ดีที่สุด และเรือสำราญที่ดีที่สุด 

ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าว ยืนยันถึงคุณภาพและการบริการของการบินไทยอยู่ในระดับมาตรฐานที่นานาชาติพึงพอใจ ทั้งความสะดวกสบายบนเครื่องบิน การให้บริการบนเครื่องบิน การให้บริการภาคพื้นตลอดจนทุกจุดบริการของการบินไทย 

บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้โดยสารที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนการบินไทยมาโดยตลอด และจะยังคงพัฒนาการให้บริการและผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นในทุกด้านต่อไป 

อนึ่ง ทราเวล แอนด์ เลเชอร์ เป็นนิตยสารด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศสหรัฐอเมริกา และมีสาขาอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก

'รมว.ปุ้ย' จ่อขยายโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ชาวไร่อ้อยจ่าย 2% เท่าเดิม พร้อมหนุน 'ซื้อเครื่องจักร-จัดการแหล่งน้ำ-แก้ PM 2.5' เพิ่มคุณค่าอุตฯ อ้อย

(18 ก.ค.67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ช่วยเหลือ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพเกษตรชาวไร่อ้อยให้มีผลผลิตอ้อยที่ดี ได้น้ำตาลทรายที่มีคุณภาพ เพื่อทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศมีคุณภาพที่ดีขึ้น โดยล่าสุดได้รับรายงานจาก นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเดินหน้าโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2565 - 2567 และเตรียมขยายโครงการอีกเป็นปี 2568 - 2570 วงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 6,000 ล้านบาท

นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะทำงานดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย สำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2565 - 2567 ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ได้มีการหารือถึงการขยายอายุโครงการฯ เนื่องจากกำลังจะหมดอายุในเดือนกันยายน 2567 นี้ และที่สำคัญเป็นโครงการที่ช่วยชาวไร่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย เพิ่มสภาพคล่องทางด้านการเงิน ทั้งด้านการผลิตอ้อย ส่งเสริมการตัดอ้อยสด ลดปัญหาอ้อยไฟไหม้และ PM 2.5 การมีแหล่งน้ำสำรองเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อเกิดภัยแล้ง ส่งเสริมการนำเครื่องจักรกลมาใช้ในไร่อ้อยแบบครบวงจร ทดแทนการขาดแคลนแรงงานคน รวมไปถึงการรองรับนโยบาย BCG Economy

นายวิฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมจึงได้มีการเสนอขอขยายโครงการอีกเป็นปี 2568 - 2570 มีกรอบวงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 3 ปี เป็นเงิน 6,000 ล้านบาท กรณีที่ใช้วงเงินในแต่ละปีไม่หมด สามารถนำไปทบใช้ในปีถัดไปได้ อัตราดอกเบี้ย MRR 6.975% ส่วนที่รัฐชดเชยดอกเบี้ย 3% ยังต้องหารือในที่ประชุมต่อไป อย่างไรก็ตามจะพยายามให้ชาวไร่รับภาระ 2% เท่าเดิม สำหรับโครงการฯ ปี 2565 - 2567 มีวงเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปีละ 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR 6.975% ชาวไร่จ่ายดอกเบี้ย 2% รัฐบาลชดเชย 3% และ ธ.ก.ส. รับภาระส่วนที่เหลือ 1.975% ปัจจุบันปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 706 ราย วงเงิน 2,335.53 ล้านบาท

“ประชุมในครั้งนี้เป็นการพิจารณาสืบเนื่องจากประชุมครั้งก่อนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 คือ การอนุมัติสินเชื่อให้กับเกษตรกรที่จะนำไปซื้อรถตัดอ้อย หรือรถบรรทุก หรือเอาไปใช้ในการพัฒนาแหล่งน้ำและปรับสภาพแปลงปลูกอ้อย ซึ่งคณะทำงานฯ จะพิจารณาโครงการนี้อีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2567 หากโครงการได้รับการอนุมัติแล้ว สอน. จะชงเรื่องเข้า ครม. ต่อไป เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องจากที่จะหมดในเดือนกันยายน 2567 นี้” นายวิฤทธิ์กล่าวปิดท้าย

‘กองการกีฬาฯ กทม.’ โต้!! ‘เพจดัง’ กรณีค่าล้างแอร์เครื่องละ 7,000 บาท ยัน!! ไม่จริง ราคาดังกล่าวรวม ‘ค่าแรง-ค่าซ่อมแซม-ค่าอะไหล่-อื่นๆ’

เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.67) จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ ‘ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย’ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จ้างล้างเครื่องปรับอากาศสูงถึงเครื่องละ 7,000 บาท และระบุว่า เลขที่โครงการ 67059435237 ตรวจสอบได้ ที่ศูนย์กีฬา กทม. ได้แก่ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 21 เครื่อง ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน 12 เครื่อง ศูนย์กีฬาบางบอน 24 เครื่อง และศูนย์กีฬาอ่อนนุช 5 เครื่อง

นายดำรงค์ รื่นสุข ผู้อำนวยการกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เปิดเผยถึงกรณีมีข้อสังเกตโครงการจ้างเหมาล้างและซ่อมเครื่องปรับอากาศ จำนวน 62 เครื่อง โครงการที่ 6705945237 มีค่าล้างราคาเครื่องละ 7,000 บาท ว่า ข้อสังเกตดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากราคารวมของโครงการดังกล่าวซึ่งเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 455,060.30 บาท นั้น เป็นราคาของค่าแรงล้างเครื่อง รวมกับค่าอะไหล่ ค่าซ่อมแซม และค่าวัสดุอื่นๆ ที่เปลี่ยนด้วยแล้ว ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดโครงการได้ที่ https://egp.bangkok.go.th/home/detail/67059435237

สำหรับอัตราการจ้างเหมาล้างเครื่องปรับอากาศ จะแตกต่างกันตามขนาดของเครื่อง (บีทียู) ซึ่งเป็นราคาตามท้องตลาดทั่วไป ดังนี้ 

1. เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนตั้งพื้นหรือแขวน 
- ขนาด 12,000 บีทียู ค่าแรงล้างเครื่องปรับอากาศอยู่ที่ราคา 800 บาท 
- ขนาด 18,000 บีทียู ค่าแรงฯ 1,000 บาท 
- ขนาด 36,000 บีทียู ค่าแรงฯ 1,000 บาท 
- ขนาด 38,000 บีทียู ค่าแรงฯ 1,000 บาท 
- ขนาด 44,000 บีทียู ค่าแรงฯ 2,000 บาท 
- ขนาด 50,000 บีทียู ค่าแรงฯ 2,000 บาท 
- ขนาด 60,000 บีทียู ค่าแรงฯ 2,000 บาท 

2. เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนชนิดติดผนัง 
- ขนาด 30,000 บีทียู ค่าแรงฯ 1,000 บาท 

3. เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนชนิด 4 ทิศทาง 
- ขนาด 24,200 บีทียู ค่าแรงฯ 1,500 บาท โดยค่าแรงดังกล่าวยังไม่รวมค่าอะไหล่ ค่าซ่อมแซม และค่าวัสดุอื่นๆ

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ชื่นชมสารวัตรตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ใช้ไหวพริบช่วยนักท่องเที่ยวต่างชาตินำโทรศัพท์มือถือที่ทำตกท่อระบายน้ำขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวพากันขอบคุณ สร้างชื่อเสียงให้ตำรวจจราจรไทยดังไกลต่างแดน

วันนี้ (18 กรกฎาคม 2567) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองหัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (คจร.ตร.) ชื่นชม พ.ต.ต.พีรวุฒิ ใหม่อ่อง สารวัตรงาน 2 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร (ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ) ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติทำโทรศัพท์มือถือตกลงท่อระบายน้ำ ใช้ไหวพริบเฉพาะตัวนำโทรศัพท์ขึ้นมาจากท่อระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างชื่นชมตำรวจจราจรไทย ทำงานฉับไว ไหวพริบดีเยี่ยม 

เหตุการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 11.35 น. พ.ต.ต.พีรวุฒิฯ ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานมหรสพสมโภช บริเวณศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร สังเกตเห็นคนมุงกันอยู่บริเวณฟุตบาทริมถนน จึงรีบเข้าไปตรวจสอบเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ พบว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทำโทรศัพท์มือถือตกลงไปในท่อระบายน้ำ โดยนักท่องเที่ยวและพลเมืองดีพยายามงัดท่อระบายน้ำเพื่อนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ ทำให้เจ้าของโทรศัพท์ร้อนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากโทรศัพท์จมอยู่ในน้ำ หากทิ้งไว้นานอาจเสียหายได้ พ.ต.ต.พีรวุฒิฯ จึงใช้ไหวพริบนำท่อนไม้ยาว และใช้ลวดมัดกระถางต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียง มาดัดงอให้เป็นเหมือนขาเกี่ยว ติดไว้ที่ปลายไม้ ก่อนจะช้อนโทรศัพท์ขึ้นมาจากท่อระบายน้ำได้ในเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น พบว่าโทรศัพท์มือถือยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ได้แสดงความขอบคุณตำรวจจราจรไทยที่เข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นการแสดงศักยภาพอีกด้านหนึ่งของตำรวจไทย นอกจากติดตามจับกุมคนร้ายแล้ว ยังช่วยเหลือผู้เดือดร้อนด้วยจิตอาสา และใช้ไหวพริบช่วยเหลือชาวต่างชาติ ทำให้ชื่อเสียงตำรวจจราจรไทยโด่งดังไปต่างแดน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังประเทศไทย นับว่าน่าชื่นชมเป็นอย่างมาก 

ทั้งนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ ได้ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ต.พีรวุฒิฯ ที่มีไหวพริบปฏิภาณสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ได้อย่างชาญฉลาด เป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีทักษะคล่องแคล่ว มีไหวพริบ สามารถให้ความช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอาสาบริการ มีมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง “สุภาพบุรุษจราจร” ที่คณะทำงานขับเคลื่อนงานจราจรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา และนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด

ชาวเน็ตเสียงแตก!! หลังไทยเปิดตัวชุด ‘ชุดพิธีการ’ โอลิมปิกปารีส บ้างก็ชมเรียบหรูชูอัตลักษณ์ผ้าไทย บ้างก็ว่าเป็นชุดออกงาน อบต.

(18 ก.ค. 67) จากกรณีที่เพจ 'Stadium TH' ได้โพสต์เปิดตัว 'ชุดพิธีการของทีมชาติไทย' ที่เหล่านักกีฬาทีมชาติ จะสวมใส่ร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยประเทศไทยนั้นผู้ที่สวมใส่เป็นแบบได้แก่ นักแบดมินตันทีมชาติ ปอป้อง ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย พร้อมระบุข้อความว่า…

“เปิดตัวชุดพิธีการ ร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 ในพิธีเปิดวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 นี้ สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้ ประเทศไทยมีนักกีฬาเข้าแข่งขันทั้งหมด 51 คน จาก 17 ชนิดกีฬา โดยประเทศไทยมากับชุดสีฟ้า ซึ่งมีลายผ้าไทยอยู่บริเวณกระดุม และแถบของเสื้อ ซึ่งแสดงออกถึงความเป็นไทยชัดเจนเป็นอย่างมาก”

หลังจากทางเพจ 'Stadium TH' ได้โพสต์ภาพดังกล่าวออกไป ชาวเน็ตเรียกว่าทั้งกระหน่ำแชร์ และวิพากษ์ วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก มีทั้งพูดถึงความเรียบหรูชูอัตลักษณ์ผ้าไทย ชาวเน็ตบางคนเสียงแตกวิจารณ์แรงถึง ความไม่ก้าวไปไหนของวงการออกแบบชุด อาทิ

“ทำได้แค่นี้หรอ นึกว่างาน อบต.”

“ชุดทื่อมาก ๆ ขอบผ้าสวยนะ แต่ทรงไม่เล่นกับหุ่นเลย anyway นักกีฬาน่ารักค่ะ”

“ชุดแบบนี้พบเห็นได้ที่ อบต.วันศุกร์”

ทั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (17 ก.ค.) นั้น เรียกได้ว่าโซเชียลคึกคักเป็นอย่างมาก หลังจากแต่ละประเทศได้ทยอยออกมาอวดโฉมชุดพิธีการ กับชุดที่จะสวมใส่ร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 และเนื่องจากปีนี้โอลิมปิก 2024 จัดขึ้นที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่น ทำให้หลายประเทศไม่ยอมน้อยหน้ากันเลยทีเดียว

‘นักวิจัยอิสราเอล’ พัฒนา AI ช่วย ‘ผู้ป่วยอัมพาต’ ให้สามารถ ‘พูด’ ได้ ใช้วิธีถอดรหัสคลื่นสมอง เปล่งเสียงผ่านความคิด แล้วส่งไปยังคอมฯ

เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มหาวิทยาลัยเทลอาวีฟของอิสราเอลเปิดเผยว่าคณะนักวิจัยของอิสราเอลได้พัฒนาวิธีการทางปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตและเป็นใบ้ให้สามารถ ‘พูด’ ผ่านพลังความคิด

โดยผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ และศูนย์การแพทย์ ซูราสกี เทลอาวีฟ ในวารสารนิวโรเซอร์เจอรี (Neurosurgery) ระบุว่า ขั้วไฟฟ้าวัดลึก (depth electrode) ที่ถูกฝังอยู่ในสมองของผู้ป่วยจะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะเปล่งเสียงสองพยางค์ตามที่ผู้ป่วยจินตนาการถึง

คณะนักวิจัยชี้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงชนิดของคำกับกิจกรรมของเซลล์ในสมอง ซึ่งอาจเป็นความหวังของผู้เป็นอัมพาตโดยสมบูรณ์จากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคหลอดเลือดสมองตีบ หรืออาการบาดเจ็บทางสมอง ในการแสดงความรู้สึกผ่านคำพูดประดิษฐ์

นอกจากนั้นความก้าวหน้านี้อาจเปิดทางสู่การสร้างคอมพิวเตอร์สำหรับผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงระยะแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ป่วยยังสามารถพูดได้ เพื่อการตีความหมายหลังจากผู้ป่วยสูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อ

คณะนักวิจัยขอให้ผู้ป่วยที่เข้าร่วมการศึกษา ซึ่งเป็นโรคลมบ้าหมูที่มีขั้วไฟฟ้าฝังอยู่ในสมองก่อนผ่าตัด ออกเสียงพยางค์ ‘เอ’ และ ‘อี’ เพื่อบันทึกกิจกรรมของสมองขณะผู้ป่วยเปล่งเสียง ต่อจากนั้นใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงลึกและการเรียนรู้ของเครื่องมาฝึกฝนต้นแบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อระบุเซลล์สมองจำเพาะที่เกิดกิจกรรมทางไฟฟ้าอันบ่งชี้ความตั้งใจออกเสียงพยางค์ทั้งสอง

เมื่อคอมพิวเตอร์เรียนรู้การจำแนกรูปแบบของกิจกรรมทางไฟฟ้าในสมองของผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับพยางค์ทั้งสองข้างต้นแล้ว คณะนักวิจัยขอให้ผู้ป่วยจินตนาการการออกเสียงพยางค์ทั้งสองเท่านั้น โดยคอมพิวเตอร์จะแปลสัญญาณไฟฟ้าและเล่นเสียง ‘เอ’ และ ‘อี’ ที่บันทึกไว้ก่อนหน้าตามลำดับ

คณะนักวิจัยกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปคือทำให้การพูดสมบูรณ์แบบ แม้สองพยางค์ที่แตกต่างกันสามารถช่วยให้ผู้เป็นอัมพาตโดยสมบูรณ์ส่งสัญญาณว่า ‘ใช่’ และ ‘ไม่ใช่’ ได้แล้ว โดยนี่ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนาส่วนต่อประสานสมอง-คอมพิวเตอร์ ที่สามารถผลิตเสียงพูดออกมาได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top