Tuesday, 2 July 2024
NewsFeed

4 อาจารย์แลกเปลี่ยนชาวอเมริกัน ถูกไล่แทงในจี๋หลิน ด้าน ‘จีน’ ยืนยัน!! ไม่กระทบความสัมพันธ์ด้านวิชาการ

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายชาวจีนรายหนึ่ง ใช้มีดไล่แทงชาวต่างชาติ 4 คนกลางสวนสาธารณะในมณฑลจี๋หลิน โดยทราบภายหลังว่า ทั้ง 4 คน เป็นอาจารย์ชาวอเมริกัน และกำลังสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเป่ยหัว หนึ่งในสถาบันที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในมณฑลจี๋หลิน 

อาจารย์อเมริกันทั้ง 4 คน เข้าร่วมโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างวิทยาลัยคอร์แนล ในรัฐไอโอวา ของสหรัฐอเมริกา และ มหาวิทยาลัยเป่ยหัว โดยได้เดินทางมาเป็นอาจารย์สอนในสถาบันของจีน ซึ่งในวันเกิดเหตุ ผู้ดูแลชาวจีนได้พาอาจารย์อเมริกันทั้ง 4 คนมาเที่ยววัดโบราณ ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเป่ยชาน หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมประจำมณฑลจี๋หลิน 

ต่อมาปรากฏชายจีนคนหนึ่ง ใช้มีดทำร้ายกลุ่มอาจารย์ชาวอเมริกันทั้ง 4 คน เมื่อผู้ติดตามชาวจีนวิ่งเข้ามาช่วย ก็โดนคนร้ายแทงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และกลายเป็นภาพข่าวที่สร้างความตกใจให้กับทั้งชาวจีนในประเทศ และ ชาวต่างชาติ เนื่องจากการก่อเหตุไล่แทงเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประเทศจีน 

อาจารย์อเมริกันทั้ง 4 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนคนร้ายชาวจีนถูกจับตัวได้แล้ว เป็นชายวัย 55 ปี ชื่อว่า นาย ชุย แต่ไม่มีรายงานถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ

ข่าวนี้ได้สร้างปฏิกิริยาอย่างมากมายในฝั่งสหรัฐฯ เริ่มจาก ‘คิม เรย์โนลด์’ ผู้ว่าการรัฐไอโอวา ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ว่าได้พูดคุยกับผู้แทนของรัฐบาลกลางถึงเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองในครั้งนี้ และหวังว่าพลเมืองอเมริกันทั้ง 4 คนจะหายดีและได้เดินทางกลับสู่ครอบครัวในสหรัฐฯ เร็ว ๆ นี้ 

ด้าน ‘เจค ซัลลิแวน’ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความกังวลอย่างมากต่อเหตุไล่แทงคนอเมริกันในจีน

ส่วนชาวจีนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์นี้ผ่านโลกโซเชียลไม่น้อย หลายคนแปลกใจ เพราะชาวจีนส่วนใหญ่ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

แต่บางคนก็ได้เหตุการณ์นี้ไปเปรียบเทียบกับกบฏนักมวย ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปี 1899 - 1901 เมื่อมีกลุ่มชาวจีนลุกฮือขึ้นมาต่อต้านจักรวรรดินิยมตะวันตก และ ต้องการขับไล่ชาวต่างชาติออกนอกประเทศ แต่ภาพข่าว และ ความเห็นต่าง ๆ ถูกลบออกจากสื่อจีนอย่างรวดเร็วตามมาตรการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลจีน

ด้าน ‘หลิน เจี้ยน’ โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงว่า จากรายงานของตำรวจเบื้องต้นพบว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุสุดวิสัย โดยไม่ได้มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงถึงผู้เคราะห์ร้ายคนใด ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และยืนยันว่าจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลก จีนมีมาตรการจำกัดการครอบครองอาวุธปืนที่เข้มงวด และระบบสอดแนมแทบทุกจุดในเมือง 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบความสัมพันธ์ด้านวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่ง โดย วิทยาลัยคอร์แนล และ มหาวิทยาลัยเป่ยหัว ได้เซ็นข้อตกลงพันธมิตรด้านวิชาการร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งทางสถาบันจีนมีทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับอาจารย์จากวิทยาลัยคอร์แนล เดินทางมาใช้ชีวิต และสอนหลักสูตรระยะสั้น 2 สัปดาห์ในสาขาคอมพิวเตอร์, คณิตศาสตร์ และ ฟิสิกส์  ให้กับนักศึกษาจีนในจี๋หลิน 

และโครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างจีน และ สหรัฐอเมริกา หลังจากความบาดหมางในประเด็นการระบาด Covid-19 ที่มีส่วนทำให้นักศึกษาอเมริกันในจีนลดลงอย่างมาก

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ‘นิโคลัส เบิร์น’ เอกอัคราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศจีน ระบุว่า เคยมีนักศึกษาอเมริกันเดินทางไปศึกษาในจีนราวปีละ 11,000 คนก่อนช่วงวิกฤติ Covid-19 ลดลงเหลือเพียง 880 คนในปัจจุบันเท่านั้น 

ดังนั้น ‘สี จิ้นผิง’ ผู้นำจีน จึงวางแผนที่จะทำแผนส่งเสริมให้นักศึกษาอเมริกันเดินทางมาเรียนต่อในจีนมากขึ้นให้ได้ 5 หมื่นคนภายใน 5 ปีข้างหน้า ผ่านโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา และ ความร่วมมือด้านวิชาการกับสถาบันในสหรัฐอเมริกา แม้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ยังคงออกเอกสารเตือนพลเมืองอเมริกันในการเดินทางมาประเทศจีนอยู่ก็ตาม

‘รมว.ปุ้ย’ หารือ ‘เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น’ ย้ำความร่วมมืออุตฯ ‘ไทย-ญี่ปุ่น’ ยืนยัน!! พร้อมหนุนรถยนต์สันดาปภายใน ช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่รถ EV

(12 มิ.ย. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับนายโอตากะ มาซาโตะ (H.E. Mr. OTAKA Masato) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ และหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นภาพรวมและโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระหว่างไทย-ญี่ปุ่นในอนาคต

รวมถึงนโยบายด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย และนโยบายด้านการจัดการซากรถยนต์ในอนาคต (Future End of Life Vehicle Policy) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567

โดยมีนายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และนางสาวนลินี กาญจนามัย รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วมด้วย ณ ห้องรับรอง 1 ชั้น 2 อาคาร สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

นางสาวพิมพ์ภัทรากล่าวว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ๆ ที่มาลงทุนและสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้รับความร่วมมือที่ดีจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) และองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (NEDO) เข้าพบเพื่อรายงานสรุปผลแนวโน้มทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วย

“สำหรับความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประเทศไทยให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์อีวี เพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอน แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน นายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ก็มีนโยบายไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และพร้อมสนับสนุนยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า

ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กำลังรวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการ เพื่อประเมินทิศทางของอุตสาหกรรมต่อไป นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังมีแผนการตั้งนิคมอุตสาหกรรม Circular บนพื้นที่ 5,000 ไร่ เพื่อรองรับการจัดการกากของเสียต่าง ๆ ในอนาคตด้วย”

ด้านนายโอตากะกล่าวว่า วันนี้ยินดีที่ได้มีโอกาสได้พูดคุยหารือถึงการขยายการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะค่ายรถยนต์ของญี่ปุ่นที่มาลงทุนในประเทศไทย รู้สึกยินดีที่ทราบว่ารัฐบาลไทยจะยังคงให้การสนับสนุนยานยนต์ ICE และไฮบริด และทางญี่ปุ่นเองก็พร้อมสนับสนุน และที่สำคัญยังมีความยินดีที่จะให้คำปรึกษาเรื่องนิคมอุตสาหกรรม Circular การจัดการพลังงาน รวมถึงเรื่องกากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้

‘หนุ่ย พงศ์สุข’ เศร้าใจ!! ไฟไหม้ ‘ตลาดนัดจตุจักร’ คร่าชีวิตสัตว์นับพัน หลัง ‘จนท.หน้างาน’ งุ่มง่าม-ไร้ทักษะ รอแต่ความช่วยเหลือ จนแย่หนัก

(12 มิ.ย.67) นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ หรือ คุณหนุ่ย พิธีกรไอทีและผู้ผลิตคอนเทนต์ชาวไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า…

มองแบบพิจารณาไฟล์บันทึกภาพกล้องวงจรปิดตลาดนัดสัตว์เลี้ยงสวนจตุจักรแล้วเศร้าใจ

ทุกคนตรงนั้น ‘งุ่มง่าม’ ทำอะไรไม่ถูก ถังดับเพลิงก็มี สายน้ำต่อก๊อกดับเพลิงก็มี แต่ทุกคน (ที่มีหน้าที่เฝ้า) คือ ‘งุ่มง่าม’

มัวแต่คิดจะโทรขอคนไกลให้มาช่วยดับไฟ ไม่คิดจะทำเอง ทั้ง ๆ ที่อยู่ตรงหน้า

จากไฟจุดเล็ก ๆ ที่ลัดวงจร กลายเป็นกองไฟขนาดใหญ่เผาผลาญสัตว์เลี้ยงแสนรัก เป็นพันตัว สร้างผลเสียหายมากมาย …เพียงเพราะความ ‘งุ่มง่าม’ ของคนสามคน ที่ถูกจ้างมา ‘ทำหน้าที่’ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เต็มที่

เห็นแล้วก็นึกถึง Man in Charge อีกจำนวนมากในประเทศเราที่ ‘ทุนมนุษย์’ กำลังมีปัญหา ทุนเงินมีมาเรื่อย ๆ แหละ แต่ขีดความสามารถแข่งขันตกต่ำลง

เพราะผู้คนขาดทักษะการทำงาน

ถูก ‘ยัดทะนาน’ เข้ามาอยู่ในระบบงาน เพียงเพราะ ‘งบประมาณมีดังต่อไปนี้….’ แล้วหาคนทำงานที่เหมาะสมไม่ได้ แต่งบมันมาแล้ว

เลยแค่หา ‘คนไหนก็ได้’ มาถมให้เต็มตำแหน่ง ต่างคนต่างอยู่กันไป

เงินมี อุปกรณ์มี ชุดเสื้อผ้าประจำตำแหน่งมี (ที่ผมเคยเรียกว่า ‘คอสเพลย์ในตำแหน่ง’)

แต่ทักษะไม่มี และไม่คิดจะแก้ปัญหาความไม่มีความรู้ ก็เลยอยู่ไปวัน ๆ หายใจทิ้งไปวัน ๆ นั่งทับโอกาสของคนอื่น ๆ ที่ควรจะเข้ามาพัฒนาทักษะตรงนี้

โถ่… ประเทศหลอกกัน หันไปทางไหนก็เจอแต่เจ้าหน้าที่มาคอสเพลย์

สงสารสัตว์ที่สุด สงสารผู้เสียหายที่สุด

‘เดนมาร์ก’ ประกาศเรียกคืนบะหมี่เกาหลี ‘ซัมยัง’ หลังพบสาร ‘ความเผ็ด’ เสี่ยงเป็นพิษต่อผู้บริโภค

(12 มิ.ย.67) สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เดนมาร์กเรียกคืนผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเผ็ดของแบรนด์ ‘ซัมยัง’ (Samyang) สัญชาติเกาหลีใต้จำนวนมากในวันอังคาร (11 มิ.ย.) เนื่องจากพบแคปไซซิน หรือสารที่ให้ความเผ็ด ในระดับที่เสี่ยงเป็นพิษต่อผู้บริโภค

หน่วยงานด้านอาหารของเดนมาร์กได้ประกาศเรียกคืนราเมงสำเร็จรูปจำนวน 3 รสชาติ ได้แก่ บูลดัก สไปซี่แอนด์ฮอต ชิคเก้น เผ็ดคูณสาม (Buldak 3x Spicy & Hot Chicken), รสเผ็ดคูณสอง (2x Spicy & Hot Chicken) และสตูว์ไก่รสเผ็ด (Hot Chicken Stew) และเรียกร้องให้ผู้บริโภคงดรับประทานราเมงสำเร็จรูปทั้ง 3 รสดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่ามีประเด็นใดเป็นพิเศษ ที่ทำให้ทางการเดนมาร์กเรียกคืนสินค้าเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสัตวแพทยศาสตร์และอาหารเดนมาร์ก เผยว่า หน่วยงานพบระดับของสารแคปไซซินต่อราเมงสำเร็จรูป 1 ห่อ สูงจนมีความเสี่ยงที่ผู้บริโภคอาจเกิดอาการเป็นพิษเฉียบพลันได้

หน่วยงานระบุในแถลงว่าหากมีสินค้านั้นไว้ในครอบครอง จะเลือกทิ้งหรือนำไปคืนที่ร้านค้าที่ซื้อมาก็ได้

การประกาศเตือนดังกล่าว กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ซึ่งในหมู่ผู้บริโภคที่ชื่นชอบมองว่า คำเตือนดังกล่าวเป็นเรื่องน่าขัน และหลายคนพูดถึงความสามารถในการรับประทานอาหารเผ็ดของชาวเดนมาร์กว่า ‘อยู่ในระดับต่ำ’

รัฐบาล-สธ. ลุยเอาจริง ! โฆษก สธ.เตือนคนขาย -คนเสพยาบ้ากลับตัวกลับใจ หลังครม.เห็นชอบแก้กฏกระทรวงครอบครองยาบ้าจาก 5 เม็ดเป็น 1 เม็ดเข้าข่ายผู้เสพ-ผู้ขาย ประเทศไทยต้องปลอดยาเสพติด

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยแก้ไขจากเดิมที่กำหนดยาบ้า ไม่เกิน 5 เม็ด น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม มาเป็นไม่เกิน 1 เม็ด น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม คือ ถ้าครอบครองยาบ้าเกินกว่า 1 เม็ดและน้ำหนักสุทธิเกิน 100 มิลลิกรัมให้ถือว่า มีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้ เมื่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามในกฎกระทรวง นำไปประเทศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด วันรุ่งขึ้นก็จะมีผลบังคับใช้ทันที น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า การสันนิษฐานให้ผู้ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 1 เม็ดและน้ำหนักสุทธิ์ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมเป็นผู้ครอบครองไว้เพื่อเสพ ส่วนที่เกินจากนี้ให้ถือว่าครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย เป็นการปรับมาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้น ซึ่งเป็นข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้กระทรวง สธ.ดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวง ต่อมา กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้่งคณะทำงานขึ้นมาทบทวนกฎกระทรวง กระทั่ง ครม.มีมติเห็นชอบดังกล่าว เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดประเภทยาบ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายและหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย” โดยผู้เสพจะถูกนำตัวไปบำบัดรักษา ให้หายเป็นปกติกลับไปอยู่กับครอบครัวและญาติพี่น้องต่อไป โฆษก สธ. ฝ่ายการเมืองกล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สธ. เดินหนัาตามเปัาประสงค์ของรัฐบาลเพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากประทศไทย สร้างอนาคตเยาวชน เตือนไปถึงผู้ที่กำลังลักลอบผลิตยาบ้า ค้ายาบ้าทั้งรายใหญ่ รายเล็ก รวมทั้งยาเสพติดชนิดอื่นๆ ด้วยเช่น เฮโรอีน ยาไอซ์ ฯลฯ ขอให้หยุดได้แล้ว นับจากนี้คนที่มียาบ้าอยู่กับตัวเกิน 1 เม็ดจะถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย กฎกระทรวงฉบับนี้ถือเป็นยาแรง เพื่อดำเนินการจัดการยาเสพติดขั้นเด็ดขาด โดยเป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ปปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น “หลังจากที่กฎกระทรวงฉบับนี้ประกาศใช้ จะทำให้ผู้ที่คิดกระทำความผิดทั้งผู้ค้า-ผู้เสพ เกิดความหวาดกลัวการกระทำความผิด เพราะเป็นการจัดการขั้นเด็ดขาดเหมือนในยุคพรรคไทยรักไทยที่เคยจัดการยาเสพติดสำร็จมาแล้ว  คืนลูกหลานสู่อ้อมกอดครอบครัว ผู้ค้าเลิกการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะไม่เป็นผลดีกับตัวเอง เพราะหากถูกตำรวจจับติดคุกเสียอนาคต ครอบครัวญาติพี่น้องก็ลำบาก ”น.ส.ตรีชฎากล่าว

‘สันติสุข’ ออกโรง!! อย่าโยง 'Top News - Voice TV' เหมือนกัน Top News ต้องจ่ายค่าตอบแทนสถานี ไม่ได้ไปกินเงินสถานี

(12 มิ.ย. 67) นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ประกาศข่าว Top News โพสต์ข้อความระบุว่า เรื่องของวอยซ์ก็ของวอยซ์ครับ ใครอย่าได้อ้างว่าเหมือน Top News

ความจริง - การที่ Top News ไปออกช่องทีวีดิจิทัล เราจ่ายค่าตอบแทนทุกครั้งครับ เราเอาเงินไปให้สถานี ไม่ใช่ไปกินเงินสถานีครับ

ทั้งตอนที่ไปออก ททบ.5 และที่กำลังออกทางช่อง JKN18 ในปัจจุบัน

ถ้าจะบอกว่าเหมือนวอยซ์ วอยซ์จะต้องทำสัญญาเช่าเวลาสถานี หรือจ่ายค่าตอบแทนในรูปแบบอื่นแก่ NBT มันถึงจะเทียบเคียงกันได้ครับ

ใครก็ตาม โปรดกรุณาอย่าโยงมั่ว ๆ แบบคนไร้ความรู้นะครับ มันดูแย่มาก

ด้วยความเคารพ

‘อนุทิน’ นำคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม เยือนจังหวัดชายแดนใต้ ส่งเสริมความร่วมมือพัฒนาปลายด้ามขวานสู่พื้นที่ปลอดภัย-สงบสุข

(12 มิ.ย.67) ที่ TK Park ยะลา (อุทยานการเรียนรู้ยะลา) อ.เมืองยะลา จ.ยะลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย นำคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิมและผู้บริหารระดับสูง ร่วมกิจกรรมเสริมความเข้าใจและสานสัมพันธ์คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิมประจำปี 2567 โดยมีคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม (The Organization of Islamic Cooperation : OIC) 12 ประเทศ เข้าร่วม 

ทั้งนี้ นายอนุทินและคณะทูตได้รับฟังการนำเสนอการขับเคลื่อนงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย โดยพันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นมีการแลกเปลี่ยนเสวนาประเด็นความรู้ที่เป็นประโยชน์ทางนโยบายของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

จากนั้นนายอนุทินได้นำคณะทูตเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOP ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ ผ้าบาติกที่ได้รับการพัฒนาตามพระดำริ ‘ผ้าไทยใส่ให้สนุก’ และ ‘Sustainable Fashion’ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

นายอนุทิน กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มีนโยบายในการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในด้านสุขภาพ การขนส่งทางอากาศ การสื่อสาร การศึกษา และการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของประเทศในการแข่งขัน ขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งการพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ในภูมิภาครวมถึงจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งการได้แลกเปลี่ยนกับคณะทูตจากประเทศ OIC จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนนโยบายของนายกฯ และรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการร่วมเป็นหุ้นส่วนของประเทศไทยในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยและความสันติสุข 

สำหรับคณะทูต OIC ที่เข้าร่วมกิจกรรม ครั้งนี้ ประกอบด้วย H.E. Mr. Pengiran Haji Sahari Pengiran Haji Salleh เอกอัครราชทูตบรูไน, H.E. Mrs. Hala Youssef Ahmed Ragab เอกอัครราชทูตอียิปต์, H.E. Mr. Nassereddin Heidari เอกอัครราชทูตอิหร่าน, Mr. Bong Yik Jui อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย, Ms. Aishath Shiruma Ahmed อุปทูต สถานีอัครทูตมัลดีฟส์, Dr. Mohammed Idris Haidara อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตไนจีเรีย, Mr. Fuad Adriansyah รองหัวหน้าสำนักงานเอกอัครราชทูตอินโดนีเชีย และ Mr. Nuriddin Mamatkulov รองหัวหน้าสำนักงานสถานกงสุลใหญ่อุซเบกิสถาน 

‘พล.ต.ท.ไตรรงค์’ นำทีมเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ‘ตลาดสัตว์เลี้ยงจตุจักร’ พบ ‘อุปกรณ์วงจรไฟฟ้า-จุดไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ คาด!! เป็นสาเหตุเพลิงไหม้

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ในโซนจำหน่ายปลากัดและสัตว์เลี้ยง ของโครงการตลาดศรีสมรัตน์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย และสัตว์เสียชีวิตจำนวนมาก

ล่าสุด (12 มิ.ย. 67) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.สพฐ.ตร. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณโครงการตลาดศรีสมรัตน์ โซนจำหน่ายปลากัดและสัตว์เลี้ยง ย่านจตุจักร ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าจะเป็นต้นเพลิง 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า จากที่เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย. 67) ได้เข้ามาตรวจที่เกิดเหตุพบว่าพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสัตว์เลี้ยงยังมีความร้อนสะสม และมีแผ่นปูนกะเทาะร่วงหล่นมา เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงลงมาตรวจพื้นที่อีกครั้งในวันนี้ 

โดยมีผู้กำกับการตรวจสถานที่เกิดเหตุ และผู้กำกับกลุ่มงานฟิสิกส์มาดูเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า สายไฟต่าง ๆ ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้หรือไม่

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หลังจากตรวจที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นจะคืนพื้นที่ให้กับทางพนักงานสอบสวน เพื่อให้พิจารณาว่าจะให้เจ้าของห้องเช่า ได้เข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินความเสียหายของตัวเองได้เมื่อไหร่ 

ส่วนสัตว์ต่าง ๆ ที่ตรวจตั้งแต่เมื่อวานนี้ยังมีที่รอดชีวิตอยู่คือ ปลากัด ซึ่งอยู่ในบริเวณที่ไฟไปไม่ถึง จึงให้เจ้าของขนย้ายออกมาเรียงด้านนอกก่อน และได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เดินตรวจสอบว่ายังมีสัตว์ที่ยังรอดตายอยู่อีกหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบ พบเพียงแค่ปลากัดที่อยู่ในน้ำที่รอดตาย จำนวนหลายร้อยตัว ส่งคืนให้กับเจ้าของ 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุทราบจุดที่น่าเชื่อว่าจะเป็นต้นเพลิง จากพยานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นวันนี้พบว่าจุดที่เชื่อว่าเป็นจุดต้นเพลิงมีทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า และพบสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เช่น กุมารทอง ที่เจ้าของร้านนับถือ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไปว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด 

ทั้งนี้จะเร่งผลการตรวจให้รวดเร็วที่สุด แต่ต้องทำด้วยความรอบคอบ ซึ่งการสรุปพยานหลักฐานที่เกิดเหตุจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสถานที่เกิดเหตุที่เข้ามาดูเรื่องโครงสร้าง และการตั้งสิ่งของอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อหาว่าประกายไฟเกิดจากสาเหตุใด และมีผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้าลงพื้นที่ในวันนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป 

'ภูมิธรรม' ประชุม กกร. เคาะต่ออายุสินค้าและบริการควบคุม 57 รายการอีก 1 ปี

วันที่ 12 มิถุนายน 2567 เวลา 8.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 2/2567 พร้อมด้วย นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ตึกบัญชาการ 1 ชั้น 3 ห้อง 302 ทำเนียบรัฐบาล เย็นวานนี้ (11 มิ.ย.67) 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ประชุมฯมีมติต่ออายุสินค้าและบริการควบคุมทั้ง 57 รายการ ใน 11 หมวด ต่อไปอีก 1 ปี เพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตามเจตนารมย์ของกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542  ซึ่งกำหนดมาตรการดูแลทางด้านปริมาณและราคาในสินค้าและบริการ 11 หมวด ประกอบด้วย 1.กระดาษและผลิตภัณฑ์ 2.บริภัณฑ์ขนส่ง 3.ปัจจัยทางการเกษตร 4.ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 5.ยารักษาโลกและเวชภัณฑ์ 6.วัสดุก่อสร้าง 7.สินค้าเกษตรสำคัญ 8.สินค้าอุปโภคบริโภค 9.อาหาร 10.อื่นๆ 11.บริการ

และที่ประชุมฯมีมติ เห็นชอบยกเลิกมาตรการกำหนดราคาน้ำตาลทราย ณ หน้าโรงงาน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) เสนอ เนื่องจากสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังคงให้เป็นสินค้าควบคุมตามเดิม ถ้ามีความจำเป็นก็จะกำหนดมาตรการเข้าไปกำกับดูแลได้ โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป เพื่อต่ออายุรายการบัญชีสินค้าและบริการควบคุมไปอีก 1 ปี

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯได้เห็นชอบให้แสดงราคาจำหน่ายสินค้าและบริการ ณ จุดจำหน่าย ใน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. ช่องทางออฟไลน์ จำนวน 290 รายการ (240 สินค้า 50 บริการ) 2. ช่องทางออนไลน์ 3. มาตรการแสดงราคารับซื้อสินค้าเกษตร 33 รายการ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบด้วย

‘เกาหลีใต้’ เผชิญแผ่นดินไหว 4.8 แมกนิจูด ครั้งหนักสุดของปีนี้ ภาครัฐฯ ส่งข้อความเตือน ปชช. หวั่นเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา

(12 มิ.ย.67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลา 08.26 น. เกิดแผ่นดินไหวบริเวณพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดช็อลลาเหนือ ของเกาหลีใต้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.8 แมกนิจูดตามมาตราริกเตอร์ ความลึก 8 กิโลเมตร ทั้งนี้ ถือว่าเป็นแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้

หลังเกิดเหตุได้มีการส่งข้อความสั้นเตือนภัยแผ่นดินไหวไปยังประชาชนทั่วประเทศ โดยแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบเหตุระมัดระวังความเป็นไปได้ที่อาจมีวัตถุสิ่งของตกใส่และอาฟเตอร์ช็อกที่อาจเกิดตามมา

ขณะที่นายฮัน ด็อกซู นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ สั่งการให้รัฐบาลดำเนินมาตรการทั้งหมดเพื่อตอบสนองเหตุแผ่นดินไหว ขณะสื่อท้องถิ่นรายงานว่ายังเกิดเสียงดังและแรงสั่นสะเทือนขึ้นที่เมืองเซจง แดจอน และชอนันด้วย

ยาง ซอยอน ที่อาศัยอยู่ในเขตบูอัน เปิดเผยว่า ตนได้ยินเหมือนเสียงฟ้าคำรามราวกับกำลังอยู่ในไซต์ก่อสร้างตอนที่ตนกำลังจะออกไปทำงานก่อนที่บ้านจะเริ่มสั่นไหว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top