4 อาจารย์แลกเปลี่ยนชาวอเมริกัน ถูกไล่แทงในจี๋หลิน ด้าน ‘จีน’ ยืนยัน!! ไม่กระทบความสัมพันธ์ด้านวิชาการ

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายชาวจีนรายหนึ่ง ใช้มีดไล่แทงชาวต่างชาติ 4 คนกลางสวนสาธารณะในมณฑลจี๋หลิน โดยทราบภายหลังว่า ทั้ง 4 คน เป็นอาจารย์ชาวอเมริกัน และกำลังสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเป่ยหัว หนึ่งในสถาบันที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในมณฑลจี๋หลิน 

อาจารย์อเมริกันทั้ง 4 คน เข้าร่วมโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างวิทยาลัยคอร์แนล ในรัฐไอโอวา ของสหรัฐอเมริกา และ มหาวิทยาลัยเป่ยหัว โดยได้เดินทางมาเป็นอาจารย์สอนในสถาบันของจีน ซึ่งในวันเกิดเหตุ ผู้ดูแลชาวจีนได้พาอาจารย์อเมริกันทั้ง 4 คนมาเที่ยววัดโบราณ ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเป่ยชาน หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมประจำมณฑลจี๋หลิน 

ต่อมาปรากฏชายจีนคนหนึ่ง ใช้มีดทำร้ายกลุ่มอาจารย์ชาวอเมริกันทั้ง 4 คน เมื่อผู้ติดตามชาวจีนวิ่งเข้ามาช่วย ก็โดนคนร้ายแทงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และกลายเป็นภาพข่าวที่สร้างความตกใจให้กับทั้งชาวจีนในประเทศ และ ชาวต่างชาติ เนื่องจากการก่อเหตุไล่แทงเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประเทศจีน 

อาจารย์อเมริกันทั้ง 4 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนคนร้ายชาวจีนถูกจับตัวได้แล้ว เป็นชายวัย 55 ปี ชื่อว่า นาย ชุย แต่ไม่มีรายงานถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ

ข่าวนี้ได้สร้างปฏิกิริยาอย่างมากมายในฝั่งสหรัฐฯ เริ่มจาก ‘คิม เรย์โนลด์’ ผู้ว่าการรัฐไอโอวา ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ว่าได้พูดคุยกับผู้แทนของรัฐบาลกลางถึงเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองในครั้งนี้ และหวังว่าพลเมืองอเมริกันทั้ง 4 คนจะหายดีและได้เดินทางกลับสู่ครอบครัวในสหรัฐฯ เร็ว ๆ นี้ 

ด้าน ‘เจค ซัลลิแวน’ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความกังวลอย่างมากต่อเหตุไล่แทงคนอเมริกันในจีน

ส่วนชาวจีนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์นี้ผ่านโลกโซเชียลไม่น้อย หลายคนแปลกใจ เพราะชาวจีนส่วนใหญ่ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

แต่บางคนก็ได้เหตุการณ์นี้ไปเปรียบเทียบกับกบฏนักมวย ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปี 1899 - 1901 เมื่อมีกลุ่มชาวจีนลุกฮือขึ้นมาต่อต้านจักรวรรดินิยมตะวันตก และ ต้องการขับไล่ชาวต่างชาติออกนอกประเทศ แต่ภาพข่าว และ ความเห็นต่าง ๆ ถูกลบออกจากสื่อจีนอย่างรวดเร็วตามมาตรการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลจีน

ด้าน ‘หลิน เจี้ยน’ โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงว่า จากรายงานของตำรวจเบื้องต้นพบว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุสุดวิสัย โดยไม่ได้มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงถึงผู้เคราะห์ร้ายคนใด ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และยืนยันว่าจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลก จีนมีมาตรการจำกัดการครอบครองอาวุธปืนที่เข้มงวด และระบบสอดแนมแทบทุกจุดในเมือง 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบความสัมพันธ์ด้านวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่ง โดย วิทยาลัยคอร์แนล และ มหาวิทยาลัยเป่ยหัว ได้เซ็นข้อตกลงพันธมิตรด้านวิชาการร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งทางสถาบันจีนมีทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับอาจารย์จากวิทยาลัยคอร์แนล เดินทางมาใช้ชีวิต และสอนหลักสูตรระยะสั้น 2 สัปดาห์ในสาขาคอมพิวเตอร์, คณิตศาสตร์ และ ฟิสิกส์  ให้กับนักศึกษาจีนในจี๋หลิน 

และโครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างจีน และ สหรัฐอเมริกา หลังจากความบาดหมางในประเด็นการระบาด Covid-19 ที่มีส่วนทำให้นักศึกษาอเมริกันในจีนลดลงอย่างมาก

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ‘นิโคลัส เบิร์น’ เอกอัคราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศจีน ระบุว่า เคยมีนักศึกษาอเมริกันเดินทางไปศึกษาในจีนราวปีละ 11,000 คนก่อนช่วงวิกฤติ Covid-19 ลดลงเหลือเพียง 880 คนในปัจจุบันเท่านั้น 

ดังนั้น ‘สี จิ้นผิง’ ผู้นำจีน จึงวางแผนที่จะทำแผนส่งเสริมให้นักศึกษาอเมริกันเดินทางมาเรียนต่อในจีนมากขึ้นให้ได้ 5 หมื่นคนภายใน 5 ปีข้างหน้า ผ่านโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา และ ความร่วมมือด้านวิชาการกับสถาบันในสหรัฐอเมริกา แม้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ยังคงออกเอกสารเตือนพลเมืองอเมริกันในการเดินทางมาประเทศจีนอยู่ก็ตาม


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์
อ้างอิง: BBC / Yahoo News