Sunday, 29 June 2025
NewsFeed

ส.ต่อต้านโรคมะเร็ง "เสริมพลังกาย สร้างพลังใจ ให้กับผู้ป่วยฉายรังสี" ต้านโรคมะเร็ง

สมาคมต่อต้านโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย พลตรีเสริม ภู่หิรัญ นายกสมาคม ร่วมกับงานการพยาบาลรังสีวิทยา ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช โดยนางสาวพรทิพย์ พานิชเจริญวงค์  หัวหน้างานการพยาบาลรังสีวิทยา และโรงเรียนผู้ช่วยพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โดยนางรัชนีพร ภัทรปกรณ์ หัวหน้าโรงเรียนผู้ช่วยพยาบาล ร่วมจัดกิจกรรมโครงการเสริมพลังกายสร้างพลังใจกับผู้ป่วยฉายรังสี เมื่อวันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2567 ณ สมาคมต่อต้านโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กิจกรรมประกอบด้วย การสอนกายภาพ ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลหลังการฉายรังสี สอนการทำตุ๊กตาการบูร เป็น
อีกทั้ง ได้ร่วมทำบุญโดยมอบเก้าอี้อาบน้ำ สำหรับผู้ป่วย จำนวน 8 ตัว บริจาคเครื่องซักผ้า จำนวน 2 เครื่อง พร้อมจัดอาหารมื้อเย็นให้บริการแก่ผู้ป่วย ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

‘ในหลวง ร.10’ พระราชทานชื่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง นามว่า ‘นัคราพิพัฒน์’ แปลว่า ‘ความเจริญแห่งเมือง’

(30 พ.ค. 67) ตามที่ กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งเป็นระบบขนส่งสาธารณะรอง (Feeder) เพื่อเชื่อมต่อและขยายโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้มีความสมบูรณ์ รองรับการเดินทางของประชาชน โดยได้นำระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) มาใช้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์แก่ประชาชนแล้วเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองฯ ว่า ‘นัคราพิพัฒน์’ (นัก-คะ-รา-พิ-พัด) Nakkhara Phiphat ซึ่งมีความหมายว่า ‘ความเจริญแห่งเมือง’ นำมาซึ่งความปีติยินดีและสิริมงคลแก่กระทรวงคมนาคม รฟม. และประชาชนผู้ใช้บริการเป็นอย่างยิ่ง

โดย กระทรวงคมนาคม และ รฟม. จะยังมุ่งมั่นพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางรางให้มีความสมบูรณ์ อำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชน และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนด้านการคมนาคมและการบริการขนส่งสาธารณะต่อไป

สำหรับ รถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ มีระยะทางรวม 30.4 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดสาย มีสถานีให้บริการทั้งสิ้น 23 สถานี เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 - 24.00 น. โดยตลอดเส้นทางมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลักอีก 4 สาย ได้แก่ สถานีลาดพร้าว เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) สถานีแยกลำสาลี เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) สถานีหัวหมากเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถไฟสายตะวันออก และสถานีสำโรง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ

พร้อมกันนี้ ผู้ใช้รถยนต์ยังสามารถนำรถมาจอดได้ที่อาคารจอดแล้วจรสถานีศรีเอี่ยมและที่อาคารจอดแล้วจรสถานีลาดพร้าว เพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 - 01.00 น.

สำรวจความนิยมคนไทยในรถ EV หดจาก 31% เหลือ 20% สวนทางความนิยม 'ไฮบริด' ที่หวนพุ่งแรงแตะ 19%

เมื่อไม่นานมานี้ ‘ดีลอยท์ ประเทศไทย’ เผยผลสำรวจ ‘2024 Global Automotive Consumer Study’ พบว่าความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle: BEV) ของคนไทย ลดลงจากปีที่ผ่านมา จาก 31% เหลือเพียง 20% ขณะที่รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) แม้ยังคงเป็นทางเลือกอันดับ 1 แต่มีแนวโน้มลดลง ในขณะที่ รถยนต์ไฮบริด (Hybrid electric vehicle: HEV) กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เป็น 19% เกือบจะเท่ากับ BEV

คุณภาพของสินค้ายังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจสูงสุด 53% โดยปัจจัยที่คนให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อคือ คุณสมบัติของรถ สมรรถนะ และ ปัจจัยด้านราคา ในสัดส่วนที่ 53%, 51% และ 47% ตามลำดับ

เหตุผลอันดับแรกที่คนไทยเลือกใช้ BEV คือ ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลง 73% เป็นเหตุผลเดียวกันกับการเลือกใช้ HEV/PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ในอัตราส่วนเท่ากันที่ 73% ในขณะที่เหตุผลในการเลือกใช้ ICE อันดับแรกคือ ต้องการตัดความกังวลด้านระยะทางและการชาร์จ 78%

ดีลอยท์ฯ ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคจำนวนกว่า 27,000 คนจาก 26 ประเทศทั่วโลก ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.66 เกี่ยวกับความคิดเห็นในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อภาคยานยนต์ ครอบคลุมผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 5,939 คน ซึ่งรวมถึงผู้บริโภคคนไทยประมาณ 1,000 คน โดยได้ทำการวิเคราะห์ร่วมกับผลการสำรวจข้อมูล Thailand Automotive Consumer Survey 2024 ที่ดีลอยท์ ประเทศไทย ได้ทำการสำรวจในช่วงเดือน เม.ย.67 กับผู้บริโภคคนไทยอีก 330 คน

*แนวโน้มและมุมมองผู้บริโภคต่อยานยนต์ไฟฟ้า

ผลสำรวจในปี 2567 พบว่าความนิยมของคนไทยในรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ลดลงจากปีที่ผ่านมา จาก 31% เหลือเพียง 20% โดยรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ยังคงเป็นทางเลือกอันดับ 1 แต่แนวโน้มลดลงมาเรื่อย ๆ จาก 36% เหลือเพียง 32% ขณะที่รถยนต์ไฮบริด (HEV) กลายเป็นทางเลือกที่ร้อนแรงขึ้นมา โดยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเกือบจะเท่ากับ BEV จาก 10% ในปี 66 เป็น 19%

แนวโน้มความนิยมของคนไทยต่อ ICE สอดคล้องกับ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีน แต่สวนทางกับสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ที่ความนิยมใน ICE ดีดตัวสูงขึ้น สำหรับตลาดรถมือสองในไทย ICE (Internal Combustion Engine) เป็นทางเลือกอันดับ 1 ที่ 54% ตามมาด้วยกลุ่มรถไฮบริด (HEV) และ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ที่ 38% รั้งท้ายด้วย BEV ที่ 9%

เมื่อวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่คนไทยเลือกใช้ BEV พบว่า 73% ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลง 71% กังวลกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และ 49% ได้แก่ ความกังวลกับสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว และ ประหยัดเรื่องค่าบำรุงรักษา ส่วนเหตุผลคนที่ไทยเลือก HEV/PHEV พบว่า 73% ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลง 68% ต้องการตัดความกังวลด้านระยะทาง และ 37% ต้องการลดปัญหาฝุ่น ควัน และก๊าซเรือนกระจก

และสำหรับกลุ่มที่เลือกใช้รถเครื่องยนต์สันดาปภายในหรือ ICE 78% ต้องการตัดความกังวลด้านระยะทางและการชาร์จ 67% ต้องการตัดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อยู่เหนือความคาดหมาย (เช่น แบตเตอรี่ หรือระบบที่เกี่ยวข้อง) และ 52% ต้องการความยืดหยุ่นในการบำรุงรักษา และการปรับแต่ง

จากการสำรวจ พบว่า คนไทยเปิดรับกับ BEV มากขึ้น โดยความกังวลของคนไทยที่มีต่อ BEV ระหว่างปี 66 และ 67 ในภาพรวมปรับลดลงทุกมิติ โดยมิติที่กังวลสูงสุด ได้แก่ สถานีชาร์จสาธารณะไม่เพียงพอ ปรับลดจาก 48% เป็น 46% ระยะทางในการขับ ปรับลด จาก 44% ในปี 66 เป็น 39% ผลสำรวจพบว่า คนไทยปรับตัวกับเวลาในการชาร์จรถได้นานขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยช่วงเวลาที่รับได้มากที่สุดขยับมาอยู่ที่เวลาประมาณ 21- 40 นาที ที่ 38% ขยับเพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่ 25%

การชาร์จไฟฟ้าที่บ้านยังคงเป็นความต้องการสูงที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทางเลือกในการชาร์จไฟฟ้านอกบ้านของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยสถานีบริการน้ำมัน ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจาก 26% ในปีที่แล้วเป็น 34% ในปีนี้ ที่น่าสนใจคือความนิยมในการชาร์จไฟฟ้าที่ไหนก็ได้ เพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 29% การชาร์จไฟฟ้าที่สถานีเฉพาะสำหรับ BEV ปรับลดลงมาจาก 51% เหลือเพียง 21% ส่วนระยะทางคาดหวังระยะวิ่งได้ต่อการชาร์จต่อครั้งขยับสูงขึ้นเล็กน้อย โดยข้อมูลในปี 67 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 44% มีความเห็นว่าระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ควรมีระยะทางระหว่าง 300 ถึง 499 กิโลเมตร

*ปัจจัยในการซื้อรถของคนไทย

ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อรถคันต่อไปมีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยปัจจัยเรื่องราคาเพิ่มขึ้นจาก 18% ในปี 66 เป็น 47% ด้านสมรรถนะปรับเพิ่มขึ้นจาก 26% เป็น 51% และ คุณสมบัติต่าง ๆ ของรถ ปรับเพิ่มขึ้นจาก 49% เป็น 53% คุณภาพของสินค้า ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจสูงสุดในปี 67 แต่ลดจาก 64% เป็น 53% ความคุ้นเคยในแบรนด์ปรับลดจาก 33% เป็น 31% ภาพลักษณ์ของแบรนด์ปรับลดจาก 37% เป็น 34%

ผลสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามคนไทย 64% มีความสนใจที่จะลองใช้แบรนด์ใหม่ ๆ สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของภูมิภาค ในอัตราที่เท่า ๆ กับมาเลเซีย แต่รองจากเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ด้วยเหตุผลว่า มีเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องการ (52%) อยากลองอะไรใหม่ ๆ (49%) และมองหารถที่ราคาจับต้องได้ (36%)

สำหรับประสบการณ์ในการซื้อรถของคนไทย ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น VR หรือ AR ที่สามารถมอบประสบการณ์ในการเลือกอุปกรณ์ต่าง ๆ และความสะดวกจากธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ แต่คนไทยถึง 92% ยังต้องการที่จะได้สัมผัสตัวรถจริงก่อนการตัดสินใจ โดย 91% ต้องการทดลองขับรถจริงก่อน ซึ่งมีสัดส่วนเท่ากับการได้เจรจาในรายละเอียดต่าง ๆ กับพนักงานขาย คนไทย 74% สะดวกจ่ายเงินด้วยการผ่อนชำระ 21% ต้องการซื้อรถด้วยเงินสด และ 5% ต้องการผ่อนแบบบอลลูน

แต่คนไทยรุ่นใหม่ (ช่วงอายุ 18-34 ปี) 47% สนใจบริการแบบสมัครสมาชิก (Vehicle Subscriptions) มากกว่าการเป็นเจ้าของรถ โดยผู้ตอบแบบสอบถามคนไทย 82% ตอบว่าค่าบำรุงรักษาและราคาอะไหล่ มีผลต่อการตัดสินใจเลือกรุ่นรถมากถึงมากที่สุด โดย 63% ยินดีจะซื้อแพ็กเกจค่าบำรุงรักษาแบบเหมาจ่าย ได้แก่ น้ำมันเครื่อง อะไหล่สิ้นเปลือง และ ค่าบริการ และ 84% ยินดีที่จะซื้อประกันอุบัติเหตุสำหรับแบตเตอรี่หากใช้รถ BEV

"การเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคทั่วโลก ช่วยให้เราเห็นมุมมองใหม่ ๆ ทั้งในระดับโลก และ ระดับภูมิภาค ซึ่งจะนำไปสู่แนวทางการแก้ปัญหาแบบบูรณาการ เพื่อเปิดมุมมองใหม่ในการยกระดับคุณค่าให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ ในปี 2024 รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากประหยัดน้ำมัน ลดความกังวลเรื่องระยะทาง และลดการปล่อยมลพิษ นี่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค ช่วยให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สามารถปรับตัวรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า และปรับกลยุทธ์การขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ" มร. ซอง จิน ลี Automotive Sector Leader, ดีลอยท์ เซาท์อีสต์เอเชีย กล่าว

นายมงคล สมผล Automotive Sector Leader ดีลอยท์ ประเทศไทย ได้ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า "ความเข้าใจในมุมมองของผู้บริโภคทำให้เรามองเห็นทิศทางในการปรับตัวของอุตสาหกรรมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเชื่อมโยงไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น สถานีชาร์จ สินเชื่อ สื่อสาร หรือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องปรับตัวไปพร้อม ๆ กัน ผู้ผลิตที่สามารถนำเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าและให้ความมั่นใจในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเกินของลูกค้าในระยะยาวได้ จะได้รับความเชื่อมั่นซึ่งจะกลายเป็นความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว สำหรับผู้บริโภค ก็จะได้รับอานิสงส์จากการแข่งขันที่ดุเดือด มีทางเลือกที่หลากหลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งตัวรถเอง ผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์"

นายโชดก ปัญญาวรานันท์ ผู้จัดการฝ่าย Clients & Market ดีลอยท์ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า "เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตลาดยานยนต์ในประเทศไทย ผลจากการวิเคราะห์แนวโน้มและเก็บข้อมูลตามบริบทจากรายงานต่าง ๆ ของดีลอยท์ยืนยันให้เห็นแล้ว ว่าคนไทยไม่ได้คิดแบบเดิมอีกต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้การแข่งขันมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ"

ส่อง 10 ประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปี 2567

ปัจจุบันโลกใบนี้มีอยู่ 196 ประเทศ โดยแต่ละประเทศต่างมีเอกลักษณ์ทางภูมิศาสตร์, วัฒนธรรม และเศรษฐกิจที่ต่างกันไป แต่ในบรรดาประเทศเหล่านี้นั้น ประเทศที่ใหญ่ที่สุดตามพื้นที่มักจะมีความโดดเด่นในทางเศรษฐศาสตร์โลก รวมถึงบทบาททางภูมิศาสตร์ต่อโลกไม่น้อย และนี่คือประเทศระดับบิ๊กที่ว่า...

1. รัสเซีย ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปและเอเชีย ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังเป็นผู้เล่นหลักในตลาดพลังงานโลก ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันกว้างใหญ่ ที่รวมถึง น้ำมัน และ ก๊าซ นั่นเอง

2. แคนาดา อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ พื้นที่ป่าไม้ขนาดใหญ่และทรัพยากรน้ำจืด มีความสำคัญอย่างมากในภาคพลังงานและวัสดุ 

3. สหรัฐอเมริกา ไม่ได้เป็นเพียงประเทศที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ผ่านตลาดการเงินการซื้อขาย หุ้น, ดัชนี และ สินค้าโภคภัณฑ์

4. จีน มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลกและใหญ่เป็นอันดับสอง จีนเป็นศูนย์กลางของการซื้อขายในตลาดที่หลากหลาย ตั้งแต่โลหะอุตสาหกรรมไปจนถึงหุ้นเทคโนโลยี บริษัทจีนมีบทบาทอย่างมากในตลาดทุนทั่วโลกในปัจจุบัน

5. บราซิล อีกหนึ่งประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ โดดเด่นด้วยสินค้าเกษตรที่ขึ้นชื่อ เช่น กาแฟ และ น้ำตาล รวมถึงยังโดดเด่นในด้านพลังงานหมุนเวียน ป่าฝนและแหล่งน้ำอันกว้างใหญ่

6. ออสเตรเลีย การส่งออกแร่ธาตุและทรัพยากรเป็นจุดแข็งที่สำคัญของออสเตรเลีย ทั้งแร่เหล็กและถ่านหิน และด้วยเศรษฐกิจในการเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้มีความแข็งแกร่งในตลาดตราสารทุนอีกด้วย

7. อินเดีย มีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ภายใต้การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและบริการที่สำคัญใหม่ จนทำให้เกิดโอกาสมากมายทางการค้า ตั้งแต่หุ้นเทคโนโลยีไปจนถึงสินค้าเกษตร

8. อาร์เจนตินา โดดเด่นที่ภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถั่วเหลือง และการส่งออกเนื้อวัว

9. คาซัคสถาน อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีความสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจสินค้าโภคภัณฑ์พลังงาน รวมถึงน้ำมัน ยูเรเนียม และถ่านหิน

10. แอลจีเรีย อีกหนึ่งประเทศที่มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในระดับแกนหลักของตลาดพลังงานที่มองข้ามไม่ได้

แฟนคลับ 'พี่จอง-คัลแลน' ปลื้ม!! ได้เจอตัวจริง แต่ไม่เข้าไปรบกวน สุดท้าย 2 หนุ่มชวนมาถ่ายรูปเอง สร้างความประทับใจแบบสุดๆ

เมื่อวานนี้ (29 พ.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘คัลแลน พี่จอง Fanpage’ ได้แชร์เรื่องราวน่ารัก ๆ ของ FC คุณภาพ ที่เจอ ‘พี่จอง-คัลแลน’ แต่ไม่ได้เข้าไปรบกวนในระหว่างที่ทั้งสองกำลังถ่ายคลิปอยู่ โดยระบุว่า…

เปิดใจ FC คุณภาพ แค่มองตาผ่านหมวกกันน็อค ก็จำได้ ใด ๆ คือน้องถูกที่ ถูกเวลา วางตัวเหมาะสม เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ ชื่นชมค่ะ จากน้องซีอิ๊ว Aurora Agust D มาบอกเล่าเรื่องประทับใจในวันนั้น…

”ตอนแรกพวกเราตั้งใจจะไปตั้งแคมป์กันที่อุทยาน แต่พอไปถึง พี่ ๆ ที่อุทยานบอกว่าเขาปิดไม่ให้กางเต็นท์ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม (ด้วยความที่ไม่ได้หาข้อมูลก่อนไป) เลยได้คุยกับพี่ ๆอุทยานสักพักใหญ่เลยค่ะ ระหว่างทางขึ้นไปเจอพี่คัลแลนกับพี่จองอยู่แล้วค่ะ ขับแซงกันไปแซงกันมา เพราะฝนตกถนนลื่นมาก ขับเร็วไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเขา

คิดแค่ว่าเป็นนักท่องเที่ยวขับรถเที่ยวเหมือนเรา พอถึงอุทยานคุยกับพี่ที่อุทยานกำลังเครียดเลยค่ะ เพราะไม่ได้จองที่พักใด ๆ ไว้เลย พอ 2 หนุ่มขับรถมาถึงหน้าอุทยาน หนูยังคุยกับแฟนอยู่เลยค่ะ ว่าไม่ใช่พี่สองคนนี้มาตั้งแคมป์เหมือนเรานะ

พอเขาขับรถเข้ามาเท่านั้นแหละ ไม่ได้สังเกตคันหน้าเลยค่ะ แต่พอคันหลังเท่านั้นแหละ เห็นแค่ตาเขานะคะ  (หน้าหนูตามรีแอคที่ทุกคนเห็นเลยค่ะ5555) หนูกรี๊ดไม่ออกเลยค่ะ อึ้งมาก ตกใจมากก ดีใจมาก หนูไม่คิดว่าเป็นเขา หนูไม่ได้เตรียมใจมา55555

พี่จอง : ขับรถเข้ามา "มีห้องน้ำไมคับ"
เจ้าหน้าที่ : ห้ะ?
พี่คัลแลน : "ห้องน้ำมีไหมครับ"
น้อง : หันไปพูดกับพี่เจ้าหน้าที่ "ห้องน้ำค่ะพี่"
เจ้าหน้าที่ : "อ๋ออ... Toilet. นี่ ๆ" ชี้ไปที่ห้องน้ำ
พี่จอง-พี่คัลแลน : "อ๊าา..ขอบคุณมาก ๆ ครับ"

หนูรีบเดินไปบอกพี่เจ้าหน้าที่ว่า เขาพูดภาษาไทยได้นะคะ แต่พี่เขาน่าจะไม่เชื่อหนู5555 เขาบอกหนูด้วยนะคะ ว่า 2 คนนี้น่าจะเป็นคนจีนหรือเกาหลีนี่แหละ หนูทำได้แค่ยิ้ม ๆ แล้วก็บอกเขาว่าหนูรู้จักเขา เป็นแฟนคลับเขาดังมากเป็นยูทูบเบอร์ 

ไม่กล้าเข้าไปใกล้เลยค่ะ เกรงใจเขา พี่เขาสองคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็น fc ในกล้องเป็นยังไง ตัวจริงเป็นอย่างนั้นเลยค่ะ แต่แอบผอมกว่านิดนึง หล่อ เท่ห์ ครบรส มองไม่เบื่อเลยค่ะ5555 รอจนพี่เขาทำธุระกันเสร็จ วินาทีนั้นไม่รู้ว่าต้องทำยังไง สวัสดีก่อนเลยค่ะ กะจะขอเข้าไปถ่ายรูป กล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเห็นเขาถ่ายอยู่ กลัวรบกวนเขา จนพี่คัลแลนเก็บกล้องแล้วหันมาบอกว่า "ถ่ายรูปด้วยกันได้ครับ" น้ำตาจะไหล ใจดีที่หนึ่ง เฟรนลี่มาก ประทับใจสุด ๆ

อ้อ..แล้วก็ที่จริงที่อุทยานพี่เจ้าหน้าที่ใจดีมากเขาไม่ได้เก็บค่าเข้านะคะ ทั้งพี่จองพี่คัลแลนแล้วก็พวกหนูอีก 3 คน ให้เข้าฟรีเพราะเขาใกล้ปิดไม่มีคนแล้วค่ะ แต่พี่ ๆ เขาจะจ่ายให้ได้เลย ตามในคลิปเลย แสนดีที่หนึ่ง เป็นทริปที่ลาพักร้อนที่ดีที่สุดในชีวิตเลยค่ะ เหมือนหนูได้ใช้แต้มบุญที่สั่งสมมาจนหมดแล้ว”

ขอให้น้องเก็บความทรงจำดี ๆ ไว้ ความพิเศษในวันธรรมดา แค่เข้าป่า..ก็ได้เจอ ..

ขอบคุณเรื่องราวใจฟูที่แบ่งปันกันนะคะ..
ส่วนแอดมินจะรอวันได้ใช้แต้มบุญใจฟูค่ะ.. รักนะ..รู้ใช่มั้ย

‘บุ๋ม’ ขอโทษ ‘รปภ.’ ปมดรามาลูกชายเกิดอุบัติเหตุ ชี้!! เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย หลังรู้สึกไม่ดีมาโดยตลอด

(30 พ.ค.67) จากกรณีดรามาต่อเนื่องหลายวันเรื่องราวอุบัติเหตุ น้องอเล็กซ์ ลูกชาย ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างจะรุนแรง โดย บุ๋ม ออกมาโพสต์ด้วยความตกใจ ก่อนจะกลายเป็นประเด็นร้อนแรงดรามาถล่มทลาย

ล่าสุด ‘บุ๋ม ปนัดดา’ โพสต์ภาพกับ รปภ.ที่อยู่ในเหตุการณ์อุบัติเหตุวันนั้น พร้อมข้อความได้เคลียร์ใจกับ รปภ.เข้าใจกันทั้งสองฝ่ายแล้วว่า

“วันนี้เคลียร์ใจขอโทษพี่ รปภ. เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย รู้สึกไม่ดีมาโดยตลอด พี่ รปภ.ยังกลับมาดูแลกันเหมือนเดิม

ขอบคุณมาก ๆ นะคะ พี่เขาก็เครียดเพราะตอนน้องล้มได้ยินเสียงกระแทกกึกดังมาก และบุ๋มอยากขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงอาการของน้องด้วยนะคะ

ส่วนพี่เลี้ยง จบตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ ที่เข้าใจและต่อว่า บุ๋มไม่ว่าอะไรเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ”

'ฟ้าคราม' อึ้ง!! ฟังเพื่อนต่างชาติ 'รีวิวประเทศไทย’ ชม 'ทุกอย่าง-ให้คะแนนสูง' แถมชวนชาวโลกมาเที่ยวไทย

ไม่นานมานี้ ช่องติ๊กต๊อก 'ฟ้าคราม' (@fhakram.chavit) โดยคุณชวิศร์ ชูประทุม อินฟลูฯ อาสา ได้นำเสนอคลิปสัมภาษณ์เพื่อนชาวฝรั่งเศสที่ได้มาเมืองไทย ในหัวข้อ ‘รีวิวประเทศไทย’ ที่พอฟังจบแล้ว หลายคนน่าจะอดยิ้มไม่ได้กันเลยทีเดียว โดยสาระสำคัญของบทสนทนาดังกล่าว มีดังนี้... 

ฟ้าคราม : ผมขอถามอะไรพวกคุณได้ไหม?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : ได้เลย

ฟ้าคราม : คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเดินทางในประเทศไทย?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : เดินทางง่ายมาก มีทั้งรถไฟและเรือ

ฟ้าคราม : แล้วสัญญาณโทรศัพท์ 5G ในประเทศไทยล่ะ?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : เร็วมาก ครอบคลุมทุกที่เลย เราซื้อซิมที่ 7-11 สำหรับ 1 เดือน มันยอดเยี่ยมมาก และง่ายมากๆ สำหรับเรา

ฟ้าคราม : ถ้าให้บอกความรู้สึกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย ตลอด 1 เดือน ให้กับผู้คนทั่วโลกได้รู้ จะบอกอะไร?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : เป็นประเทศที่ดีมากๆ ราคาสินค้าก็ไม่แพง คุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างสะดวกสบาย / มีกิจกรรมให้ทำมากมาย อาหารก็อร่อยมาก แถมไม่แพงเกินไป ทุกๆ อย่างในเมืองไทยทำให้ง่ายสำหรับการใช้ชีวิตของนักท่องเที่ยว ทุกคนควรมาเที่ยวที่ประเทศไทย

ฟ้าคราม : บอกหน่อยได้ไหม 'อาหารไทย' ที่คุณชอบคืออะไร?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : สำหรับฉัน 'ข้าวซอย' อร่อยมาก 'ผัดไทย' ก็เช่นกัน

ฟ้าคราม : ถ้ามีคนอยากมาเที่ยวประเทศไทย สิ่งที่พวกคุณอยากจะแนะนำเขาคือ?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : ถ้าพวกเขาชอบหรืออยากจะมาปาร์ตี้ เขาต้องไปภาคใต้ของประเทศไทย แต่ถ้าพวกเขาอยากเยี่ยมชม-ศึกษาวัฒนธรรม ฉันคิดว่าเขาควรจะไปทั้งภาคเหนือและภาคใต้เลย แล้วจะให้ดีควรเช่ามอไซต์ด้วย เพราะราคาถูกมาก ต้องเช่าให้ได้เลย

ฟ้าคราม : ให้คะแนนประเทศไทยหน่อย เต็ม 10 ให้เท่าไร?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : ให้ 9 ถึง 10 เลย

ฟ้าคราม : คำถามสุดท้าย บอกมา 1 สิ่ง ที่คุณนึกถึงเกี่ยวกับประเทศไทย?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : สำหรับฉันคือ อิสระ เสรีภาพ 

ฟ้าคราม : ทำไมถึงเป็น อิสระ เสรีภาพ? (ถามเพื่อนคนแรก)
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : มันสะดวกสบายในการใช้ชีวิต มีกฎเกณฑ์น้อยกว่าประเทศอื่น เป็นประเทศที่มีอิสระและเสรีภาพมากๆ 

ฟ้าคราม : แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรเกี่ยวกับประเทศไทย? (ถามเพื่อนอีกคน)
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : ฉันรักมอไซต์ที่ประเทศไทยมากๆ รักการเดินทางโดยมอเตอร์ไซค์ มันเหมือนกับว่า ในหนึ่งวันเราได้อิสระที่จะสามารถไปได้ทุกที่ได้อย่าง ‘รวดเร็ว’ และ ‘ง่ายดาย’ ที่สำคัญ 7-11 ก็เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเจอมา / เพราะถ้าคุณหิว คุณสามารถไปหาอะไรทานได้ตลอดเวลา ตามที่คุณต้องการ

ฟ้าคราม : แสดงว่านักท่องเที่ยวจะไม่สามารถอยู่ได้ โดยไม่มี 7-11?
เพื่อนชาวฝรั่งเศส : มันน่าจะยากมากๆ ถ้าหากเราต้องอยู่โดยไม่มี 7-11 แต่ตอนนี้มันมีตั้งอยู่ทุกที่บนท้องถนน

โดยสรุปแล้ว มุมมองจากบทสนทนานี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศในหลายด้าน ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย อาหารแสนอร่อย และราคาไม่แพง / สัญญาณ 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ / 7-11 ที่ง่ายต่อการหาอะไรกินแบบ 24 ชม. / มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และมีอิสระเสรีภาพ มากๆ 

เรียกได้ว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าภูมิใจจริงๆ ที่ชาวต่างชาติมีความสุขกับการมาเยือนไทยและประทับใจในหลายๆ เรื่อง จนให้คะแนนในระดับสูง

'ตำรวจ ปส.' ลุยสกัดกั้นไม่เลิก ! สัปดาห์เดียวยึดยาบ้า กว่า 19 ล้านเม็ด และเปิดปฏิบัติการโค่น 'เครือข่าย K2' ยึดทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่รวมทั้งการขยายผลเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ                          

วันนี้ 30 พ.ค.67 เวลา 10.00 น.  พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ  วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ,พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.ปส., พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ร่วมแถลงผลการปราบปรามยาเสพติดที่สำคัญของ บช.ปส. ในห้วงของวันที่ 14 – 22 พ.ค.67 ดังนี้ 

1. บก.ปส.3 คดียาบ้า 7,750,000 เม็ด 
ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจนทราบว่าจะมีการลำเลียง ยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ชายแดน จว.เชียงราย เข้าสู้พื้นที่ตอนในโดยใช้รถบรรทุกสิบล้อในการขนยาเสพติด และมีรถยนต์อีกหลายคันคอยขับคุ้มกัน จึงได้วางกำลังสกัดกั้นจน กระทั่งเมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 เวลา 13.30 น. พบรถยนต์เป้าหมายขับนำทางกันมาตามเส้นทางจนถึงพื้นที่ อ.วัดโบสถ์ จว.พิษณุโลก จากนั้นรถบรรทุกสิบล้อ ได้ขับไปจอดอยู่ที่ลานค้าพืชผลทางการเกษตรแห่งหนึ่ง ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ และขอตรวจค้น เบื้องต้นกระบะท้ายรถบรรทุกมีแผ่นยางพาราจำนวนมากวางปิดทับไว้ด้านบนเพื่ออำพราง ด้านล่างพบกระสอบต้องสงสัย ภายในมียาบ้าจำนวน 7,750,000 เม็ด ทั้งนี้จับกุมคนขับรถสิบล้อ 1 คน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งได้เจ้าสกัดจับรถนำและรถคุ้มกันอีก 4 คัน บริเวณจุดตรวจยาเสพติดท่างาม สภ.วัดโบสถ์ ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จว.พิษณุโลก ได้ผู้ต้องหา 5 คน  รวมทั้งหมด 6 คน จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดี ยาบ้า 6,000,000 เม็ด 
จากการสืบสวนเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบว่าจะมีการนำยาเสพติด จำนวนมากจากพื้นที่ชายแดน จว.เชียงราย เข้ามาพื้นที่ชั้นใน กระทั่งเมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 เวลาประมาณ 02.00 น. พบรถกระบะตู้ทึบ และมีรถยนต์เป้าหมายขับนำทางกันมา และพบรถยนต์ในเครือข่ายแล่นจากชายแดนแม่ฟ้าหลวง มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ตำรวจจึงนำกำลังติดตามบนถนนพหลโยธิน ก่อนจะสกัดจับกุมรถที่ซุกซ่อน ยาเสพติดพร้อมผู้ต้องหา 1 ราย ได้บริเวณหน้าตลาดบ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย พบท้ายกระบะตู้ทึบ มีกระสอบพลาสติกสีรุ้งจำนวนมากภายในบรรจุยาบ้ารวมทั้งหมด 6,000,000 เม็ด จากนั้นสามารถติดตาม จับผู้ต้องหาทำหน้าที่ขับรถสำรวจเส้นทางได้อีก 1 ราย ที่ลานจอดรถ โรงแรมนันทชัย อินน์ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

คดี ยาบ้า 2,000,000 เม็ด 
ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ขยายผลและติดตามความเคลื่อนไหวเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญซึ่งจะมีการลอบนำยาจากพื้นที่ชายแดน บ้านหนองเต่า ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ ไปส่งต่อยังพื้นที่ตอนในของประเทศ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 พ.ค.67 เวลา 23.30 น. ของตำรวจพบรถกระบะเป้าหมายลักษณะติดโครงเหล็ก และพบว่ามีการบรรทุกสิ่งของ มีน้ำหนักมาเต็มท้ายกระบะ ชุดจับกุมจึงประสานตำรวจในพื้นที่เพื่อนตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณสถานีตำรวจชุมชนตำบลม่อนปิ่น กระทั่งรถคันดังกล่าวกลับขับฝ่าจุดตรวจออกไป ตำรวจจึงนำกำลังไล่ล่าติดตาม จนสามารถสกัดจับผู้ต้องหาได้  1 ราย ได้บริเวณริมถนนโชตนา ต.แม่สาว อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ ตรวจค้นพบยาบ้า 2,000,000 เม็ด จึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดี ยาบ้า 900,000 เม็ด 
เมื่อเวลา 00.30 น. ของ วันที่ 14 พ.ค.67 ตำรวจ กก.๒ บก.ปส.๓ ทำการสืบสวนขยายผลและจับกุมเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่แนวชายแดน อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ ไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ ขณะพบรถยนต์เป้าหมาย 3 คัน ขับผ่านตู้ยามบ้านห้วยส้าน อ.พร้าว จว.เชียงใหม่ และวิ่งมาตามเส้นทางเดียวกันในลักษณะขับนำ ขับตาม ชุดจับกุมที่ติดตามจึงสกัดกั้นเพื่อหยุดรถกลุ่มเครือข่าย พบผู้ต้องหา 3 ราย บริเวณด่านตรวจยาเสพติดพิทักษ์ธรรม หมู่ 6 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จว.เชียงใหม่ ตรวจค้นรถพบยาบ้า 900,000 เม็ด บรรจุในกระสอบวางซ้อนทับกันอยู่บริเวณห้องโดยสารตอนหลังของรถกระบะ  

เปิดแผนปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “เครือข่าย K 2”

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๗ ก.ค.๖๕ ที่ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค๑ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันทำการจับกุมนายนเรนทร์ และนายทศพล บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในคดีที่มีการจับกุมตรวจยึดยาบ้า 320,000 เม็ด เมื่อ 18 ก.ค.65 ซึ่งจากการขยายผล นายนเรนทร์ ให้การว่ามีนายจักรี หรือไอซ์ หรือ สอ.ลำลูกกา ว่าจ้างให้ตนขนยาเสพติด ไปให้กับลูกค้า สำหรับนายจักรี เป็นผู้สั่งการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เพื่อกระจายสู่ชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี นอกจากนี้ ยังอยู่ในเครือข่ายของ นายอาร์ต ต่ำเอี่ยว และหนูเฉิน หรือนายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา ที่มีหมายจับคดียาเสพติด ซึ่ง ป.ป.ส. ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับนายจักรี สูงถึง 100,000 บาท ซึ่งจากข้อมูลหมายจับพบว่า นายจักรี หรือไอซ์ มีหมายจับจำนวน 7 หมาย เป็นคดียาเสพติด 6 หมาย คดีทำร้ายร่างกาย 1 หมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีอยู่ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ จึงได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายนี้จนทราบว่ายังมีความเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งมีกลุ่มที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนโดยการถือครองทรัพย์สิน และฟอกเงิน ให้กับ นายจักรี จนนำมาสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “เครือข่าย K2” ระหว่างวันที่ 15 - 19 พ.ค.67 เพื่อยึดอายัดทรัพย์สิน ที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ จว.นครนายก, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา และ กทม. รวม 5 จุดตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 คน ยึดอายัดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 31 รายการ อาทิ อาวุธปืน 1 กระบอก, กระเป๋า Chanel 1 ใบ, นาฬิกาหรู 5 เรือน, แหวน ๘ วง, พระเลี่ยมทองฝังเพชร ๑ องค์, โทรศัพท์ ไอโฟน 2 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 12 เล่ม และ รถยนต์ Honda Civic 1 คัน รวมมูลค่า 10,280,000 บาท 

คดีนำเข้ายาเสพติดเข้าสู่ ราชอาณาจักรไทย 
ตำรวจ บก.ปส.3 ได้ดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับการลักลอบนำยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อย่างต่อเนื่องและเข้มงวด ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน  Airport Interdiction Task force : AITF ประกอบด้วย บช.ปส., สำนักงาน ป.ป.ส., กรมศุลกากร, และ ศรภ. กระทั่งวันที่ 17 พ.ค.67 ตรวจพบผู้โดยสารหญิงสัญชาติเปรู ชื่อ น.ส.มาร์เซลา ขณะเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย ได้บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นบุคคลตามที่ได้รับแจ้งว่าจะทำการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งระหว่างนำกระเป๋าสัมภาระเข้าเครื่อง X-Ray ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด แต่พบความผิดปกติในร่างกาย ตำรวจจึงนำเข้าเครื่อง X-Ray ร่างกาย เบื้องต้นพบสิ่งแปลกปลอมภายในร่างกายในลักษณะเป็นก้อนรูปวงรีจำนวนมากในลำไส้ จึงให้กินยาถ่าย เพื่อขับถ่ายสิ่งแปลกปลอมออกมาจากร่างกาย จำนวน 192 ก้อน น้ำหนักรวม 1,155 กก. เมื่อตรวจสอบพบเป็นโคเคน ถูกห่อหุ้มพลาสติกใสพันทับด้วยกระดาษคาร์บอนและพันทับด้วยพลาสติกใสอีกชั้น

2.บก.สกส.
คดียาบ้า 2,000,000 เม็ด 
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 23.40 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ขส.บช.ปส. และ บช.ภ.5 จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ สืบเนื่องจากวันที่ 3 พ.ค.2567 ได้จับกุม ผู้ต้องหา 4 คน พร้อมยาบ้า 1,250,000 เม็ด ในพื้นที่ ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จว.สุโขทัย จากการสืบสวนขยายผล พบว่าเครือข่ายรับยาเสพติดมาจากพื้นที่ อ.แม่จัน จว.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตามนโยบายของรัฐบาล และยังมีกลุ่มบุคคลในเครือข่ายมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ดังกล่าวลงมาส่งในพื้นที่ภาคกลาง และปริมณฑล อย่างต่อเนื่อง จึงเฝ้าติดตามกระทั่งวันที่ 21 พ.ค.67 พบความเคลื่อนไหวของรถในเครือข่าย 2 คัน ในเส้นทางจากพื้นที่ชายแดน อ.แม่จัน จว.เชียงราย - จว.พะเยา - จว.ลำปาง - จว.สุโขทัย - จว.อุตรดิตถ์ จนสามารถจับกุม นายสิทธิชัย คนขับรถตู้โดยสาร HYUNDAI สีดำ หมายเลขทะเบียน 4ขผ 82x

เปิดมูลค่า Nvidia บริษัทเดียวมากกว่า GDP ไทยทั้งประเทศถึง 6 เท่า สะท้อนเศรษฐกิจโลกในอนาคต ที่ 'ชิป' จะเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนสูง

(30 พ.ย. 67) Business Tomorrow รายงานว่า บริษัท Nvidia ผู้ผลิตชิปประมวลผลกราฟิกและระบบปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำของโลก กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยทั้งประเทศ 6 เท่าตัวแล้ว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Nvidia ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเติบโตของตลาดปัญญาประดิษฐ์และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล โดยมีมูลค่าตามราคาตลาดสูงถึง 2.801 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 102 ล้านล้านบาท

โดยปัจจุบัน GDP ไทยมีมูลค่าอยู่ที่ราว 18 ล้านล้านบาท หรือเรียกได้ว่า GDP ไทยน้อยกว่า Nvidia เพียงบริษัทเดียวมากถึง 5.67 เท่าหรือเกือบ 6 เท่ากันเลยทีเดียว

สำหรับความสำเร็จของ Nvidia หากมองในเชิงรายได้และกำไรจะพบว่า เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยปี 2566 Nvidia มี รายได้กว่า 26.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น +44% จากปี 2565 และนักลงทุนต่างมั่นใจว่า Nvidia จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ส่งผลให้มูลค่าตลาดถูกผลักดันให้สูงขึ้น

อีกทั้ง Nvidia ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าใดกลุ่มหนึ่ง แต่มีฐานลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่ ผู้บริโภคทั่วไป ที่ซื้อการ์ดจอสำหรับเล่นเกมไปจนถึง บริษัทขนาดใหญ่ที่ใช้ชิปของ Nvidia ใน Data Center และ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ จึงไม่แปลกใจว่าทำไม Nvidia ที่สามารถครองลูกค้าทั่วโลกได้มีมูลค่าบริษัทมากกว่า GDP ของไทยเกือบ 6 เท่า

ความสำเร็จของ Nvidia สะท้อนให้เห็นถึงอนาคตของโลกที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลนำพาสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล บริษัทที่มีขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีก้าวหน้าสามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่าขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของประเทศเสียอีก

อย่างไรก็ตาม Nvidia เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่บริษัทในวงการเทคโนโลยีสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วจนทำมูลค่ามหาศาลเท่าตัวเศรษฐกิจของประเทศ บ่งบอกถึงบทบาทสำคัญของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในอนาคต

‘รัดเกล้า’ เชิญชวนคนไทยร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ‘ในหลวง-ราชินี’

(30 พ.ค. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2567 ตลอดเดือนมิถุนายน นี้ รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยสามารถดำเนินการได้ดังนี้

(1) จัดตั้งโต๊ะประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

(2) ติดตั้งเครื่องสักการะ

(3) ประดับธงชาติไทย

(4) ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ

(5) ธงอักษรพระนามาภิไธย ส.ท.

(6) ประดับผ้าระบายสีเหลืองอยู่ด้านบน สีม่วงอยู่ด้านล่าง โดยพร้อมเพรียงกัน

นางรัดเกล้า ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลเชิญชวนให้ประชาชน เริ่มประดับเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ 

โดยสามารถสั่งจองเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯ ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งจองผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผ่าน เว็บไซต์ thailandpostmart.com ได้ โดยไม่มีการจำกัดจำนวน รวมถึงที่ บิ๊กซี 208 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป และสามารถสั่งจองได้ที่บิ๊กซีมินิทุกสาขาทั่วประเทศ (โดยสั่งจองล่วงหน้า 7 วัน) ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสั่งจองเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯ ได้ที่ Contact Call Center 1756


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top