Monday, 20 May 2024
NewsFeed

‘LINE’ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ‘Combination Sticker’ ส่งสติกเกอร์รวมกันได้สูงสุด 6 ตัว ภายในคราวเดียว

เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.67) ที่ผ่านมา LINE STICKERS จัดเป็นหนึ่งในฟีเจอร์เด็ดมัดใจผู้ใช้งานแชต ด้วยการสร้างสีสันให้บทสนทนามากกว่าการส่งข้อความตัวหนังสือ และยังช่วยสื่ออารมณ์หรือความรู้สึก จึงทำให้มีการใช้สติกเกอร์ในการสนทนากันอย่างแพร่หลาย จนวันนี้มีสติกเกอร์อยู่ในระบบเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้เลือกใช้กว่า 20 ล้านชุด

ล่าสุด ฟีเจอร์คอมบิเนชันสติกเกอร์ (Combination Sticker / Sticker Arranging*) ได้ถูกเปิดตัวขึ้นเพื่อตอบโจทย์ใหม่ ๆ ของผู้ใช้งานให้ทุกการแชต สนุก มีสีสัน และสื่อสารได้มากขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกผสมผสานสติกเกอร์ประเภทต่าง ๆ ได้สูงสุด 6 ตัวต่อการส่งหนึ่งครั้ง ทั้งจากเซตเดียวกันหรือต่างเซต พร้อมเลือกจัดวาง หมุน หรือปรับขนาดได้ตามใจ

โดยฟีเจอร์นี้จะทยอยครอบคลุมสติกเกอร์ที่ใช้งานได้ โดยเริ่มจากสติกเกอร์ทางการ (Official Stickers) ก่อนขยายสู่สติกเกอร์ครีเอเตอร์ (Creators’ Stickers) ในการใช้งานเวอร์ชันเต็มรูปแบบในวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 นี้

สำหรับการใช้งานฟีเจอร์คอมบิเนชัน สติกเกอร์ จะเข้ามาช่วยให้ ‘ขยาย’ สติกเกอร์ให้ใหญ่มากขึ้นกว่าปกติ ‘เพิ่มจำนวน’ สติกเกอร์ในรูปเดียวแบบซ้ำ ๆ ได้ตามใจ และ ‘รวม’ สติกเกอร์หลายตัวเข้าด้วยกัน

เริ่มต้นด้วยการกดค้างตัวสติกเกอร์ที่อยากนำมาทำคอมบิเนชันสติกเกอร์ จากนั้นจะมีแถบพื้นที่สีขาวใหญ่ปรากฏขึ้น ให้ลากสติกเกอร์ที่ต้องการเข้ามาวางในแถบขาวนั้น โดยสามารถหมุน เพิ่มขนาด และเพิ่มจำนวนได้อย่างอิสระ

เมื่อได้คอมบิเนชันสติกเกอร์ที่ต้องการ ผู้ใช้งานสามารถกดส่งสติกเกอร์ที่ครีเอตใหม่นั้นได้เลยทันที และเพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้นในครั้งต่อไป LINE ยังช่วยเก็บคอมบิเนชันสติกเกอร์ที่ผู้ใช้งานสร้างและเคยใช้แล้วไว้ใน History Tab

‘เอกนัฏ’ นำทีมแกนนำ - สส.รทสช. ยินดีกับ ‘สุชาติ’ หลังนั่ง ‘รมช.พาณิชย์’ ยืนยัน!! พรรคยังเหนียวแน่น

(9 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการลาออกของ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง รวมทั้งกรณีที่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ว่า ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้นำแกนนำ และ สส.พรรคจากทุกเขต อาทิ นางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม, นางธิวัลรัตน์ อังกินันน์ สส.เพชรบุรี เขต 1, นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี, น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ, นายชุมพล จุลใส อดีต สส.ชุมพร เข้าแสดงความยินดี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ พร้อมมอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจ หลังเข้ารับตำแหน่ง

รายงานข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า การเข้าแสดงความยินดีกับนายสุชาติในครั้งนี้ของบรรดาแกนนำ และ สส.พรรค เพื่อแสดงความเหนียวแน่นภายในพรรค หลังเกิดกระแสข่าวต่าง ๆ นานา ทั้งนี้ นายเอกนัฏ กล่าวยืนยันสั้น ๆ ว่า "พรรครวมไทยสร้างชาติยังเหนียวแน่น"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเตรียมจัดสัมมนาพรรคในวันที่ 12 พ.ค.เวลา 14.00 น.ที่โรงแรมรีเจนท์ เพชรบุรี ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ และระหว่างการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ 13 - 14 พ.ค.โดยวัตถุประสงค์จัดขึ้นเพื่อให้มีการพูดคุยกันระหว่างรัฐมนตรี และ ส.ส.ของพรรค

ตำรวจหนองคาย สกัดเฮโรอีนล็อตใหญ่กว่า 1.4 ตัน หลังขนข้ามโขงเข้าไทย

ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ให้ปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน และเพิ่มความเด็ดขาดในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่มีปัญหา พล.ต.ท.สรายุทธ  สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ตำรวจภาค 4 ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างเด็ดขาด ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ค.67  เวลาประมาณ 22.00 น. ตำรวจ สภ.นางิ้ว  ภ.จว.หนองคาย นำโดย พ.ต.ท.พญา บุญโสดากร สวญ.สภ.นางิ้ว ร่วมกับชุดปฏิบัติการด้านการข่าว ตชด.244 และ ตชด. 245 ร่วมกันสกัดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมด้วยเฮโรอีน 1,404 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 4 คน ขณะกำลังลำเลียงเฮโรอีนไปส่งให้กับเครือข่ายที่ จ.หนองคาย  

โดยตำรวจ สภ.นางิ้ว, ตชด.244 และ ตชด. 245 ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า จะมีการลอบนำยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาใน จ.หนองคาย จึงร่วมกันนำกำลังติดตามจับกุม ต่อมาวันที่ 8 พ.ค.67 เวลาประมาณ 22.00.น. ตำรวจชุดจับกุมได้นำกำลังไปที่บ้านเลขที่ 48 ม.7 บ้านภูเขาทอง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย พบผู้ต้องหาทั้ง 4 ทราบชื่อภายหลังว่า นายนิยม, นายศราวุธ, นายประสิทธิ์ และ นายประโท กำลังช่วยกันยกลังกระดาษรวม 20 ลัง จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบว่าเป็นเฮโรอีน ซึ่งผู้ต้องหารับว่ายังมีเฮโรอีนอยู่ในสวนยางอีก ตำรวจชุดจับกุมจึงติดตามไปค้นที่กระท่อมไม่มีเลขที่ ในสวนยาง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย พบเฮโรอีนบรรจุในลังอีก 9 ลัง จึงยึดไว้เป็นของกลาง จากการตรวจสอบทั้ง 29 ลัง พบว่าเป็นเฮโรอีน รวม 208 ก้อน น้ำหนัก 1,404 กก.  สอบถามได้ความว่า ผู้ต้องหาร่วมกัน ขนเฮโรอีนทั้งหมดมาขึ้นริมฝั่งบริเวณบ้านภูเขาทอง หมู่ 7 ต.บ้านม่วง โดยมีชาวลาวนำใส่เรือกีบหางเครื่องมาให้ ก่อนจะมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อหานำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน)เข้ามาในราชอาณาจักร  มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่าย หมายความรวมถึงมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป จากนั้นจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยเฮโรอีนของกลาง นำส่ง พงส.สภ.นางิ้ว ดำเนินคดีต่อไป

ภายหลังการจับกุม พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ ชุดปราบปรามยาเสพติดของ บก.สส.ภ.4 ประสานงานกับ ภ.จว.หนองคาย เร่งสืบสวนขยายผล กวาดล้างจับกุมผู้สั่งการและผู้ร่วมขบวนการอย่างเด็ดขาด รวมทั้งใช้มาตรการยึดทรัพย์กับเครือข่ายยาเสพติดทุกรายต่อไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติแนะนำ 7 ข้อควรปฏิบัติ ในการจอด และขึ้น-ลงรถ ภายในที่จอดรถห้างสรรพสินค้า

วันนี้ (9 พฤษภาคม 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ และจากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดพยายามชิงทรัพย์หญิงรายหนึ่งบริเวณที่จอดรถห้างสรรพสินค้า เป็นเหตุให้ผู้เสียหายบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยายาล ซึ่งต่อมาในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ขณะกำลังหลบซ่อนตัวภายในที่จอดรถของห้างสรรพสินค้า

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอแนะข้อควรปฏิบัติ เพื่อป้องกันและลดโอกาสที่พี่น้องประชาชนจะถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ดังนี้

1. ควรเลือกจอดรถในบริเวณที่ใกล้เคียงกับทางเข้า-ออก หรือบริเวณที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา เนื่องจากอาชญากรมักจะเลือกก่อเหตุในบริเวณที่ลับตาคน

2. ควรเลือกจอดรถในบริเวณที่มีไฟส่องสว่าง เพื่อให้เราสามารถมองเห็นบริเวณพื้นที่โดยรอบ ขณะขึ้น - ลงจากรถ เพื่อความปลอดภัย

3. ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ล็อคประตูรถยนต์ทุกครั้ง ก่อนที่จะเดินเข้าห้างสรรพสินค้า

4. ควรเก็บของมีค่าให้มิดชิด เพื่อไม่ให้เป็นการล่อเป้ามิจฉาชีพ ที่อาจก่อเหตุประสงค์ต่อทรัพย์

5. ขณะเดินกลับมาที่รถ ควรให้ความสนใจสิ่งรอบตัวอยู่เสมอ หากมีผู้ไม่หวังดีเดินตามมา หรือหลบซ่อนอยู่บริเวณรถ จะสามารถสังเกตเห็นได้ทัน

6. ก่อนขึ้นรถ ควรสังเกตก่อนว่ามีใครหลบอยู่ภายในรถหรือไม่ และเมื่อขึ้นรถแล้วให้รีบล็อคประตูรถทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีแอบขึ้นมาบนรถ

7. กรณีที่ห้างสรรพสินค้าได้จัดพื้นที่จอดรถพิเศษ เช่น ที่จอดรถสำหรับผู้หญิง หากเป็นไปได้ควรที่จะเลือกจอดในบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ หากท่านต้องการความช่วยเหลือ หรือพบเห็นการก่ออาชญากรรม สามารถแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

พังงา-ศรชล.ภาค 3 จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การสร้างความตระหนักรู้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลพื้นที่ฝั่งอันดามัน

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ที่โรงแรมภูงา ตำบลตากแดด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา โดยมี พล.ร.ต.จักรกฤษณ์ กลีบจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายอำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาการสร้างความตระหนักรู้ ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2567 เรื่องการขับเคลื่อนองค์ความรู้ ทะเลและมหาสมุทร และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล สู่การเรียนการสอนในสถานศึกษา ของจังหวัดชายทะเลฝั่งอันดามัน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทะเลให้กับครูผู้สอนในสถานศึกษาของจังหวัดชายทะเลฝั่งอันดามัน ให้มีความรู้อย่างท่องแท้ สามารถนำความรู้ที่ได้จากการสัมมนา ใช้ประกอบควบคู่กับหนังสือทะเลและมหาสมุทร และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล นำไปสอนกับนักเรียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้การสัมมนาครั้งนี้ ในทางปฏิบัติแล้วได้เริ่มดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ประกอบด้วยการประชุมเตรียมการจำนวน 3 ครั้ง การอบรมความรู้ผ่านระบบการเรียนการสอนทางไกล จำนวน 6 วัน วันละ 1 หัวข้อ มีครูลงทะเบียนเข้ารับการอบรมทางไกลจำนวน 601อบรมครบ 6 ชั่วโมงจำนวน 200 คน และมี ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการระดับจังหวัดและครูตัวแทนจากจังหวัดชายทะเล 6 จังหวัด เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในวันนี้จำนวน 50 คน 

นับถือใจ!! ‘พนักงานหนุ่ม’ ผู้ไม่ย่อท้อต่อความฝันตัวเอง มุมานะสอบนายร้อยตำรวจ 7 ปี สุดท้ายติดตัวจริงอันดับ 4

(9 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงาน เรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้ไม่ย่อท้อต่อความฝันตนเอง มุมานะสอบนายร้อยถึง 7 ปี สุดท้ายติดตัวจริงในอันดับที่ 4 จากเพจเฟซบุ๊ก The Special Forces FC ระบุว่า…

จากพนักงานโลตัส สู่นายร้อยตำรวจอันดับ 4 ‘ส.ต.ต.ธนภัทร สมุทรสาร’ หรือ ตาล

ปี 61 สอบ ม.4 (ตท) ไม่ติด
ปี 62 สอบ ม.5 (ตท) ไม่ติด
ปี 63 กลับมาเรียน ม.6 (จบ ม.6) ทำงานโลตัส ไม่เรียนต่อมหาลัย เพื่ออยากจะตามหาความฝัน
ปี 64 เป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ (เลือกลงใต้)
ปี 65 สอบได้ที่ 28 พละน้อยโดนแซงติดสำรอง
ปี 66 สอบได้ที่ 39 พละน้อยไม่มีลุ้น
ปี 67 สอบได้ที่ 4 ได้ตัวจริง

“อย่าถอดใจเลิกสู้”

ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนเข้ามาชื่นชมมากมาย อาทิ

- ดีครับ แชร์เป็นกำลังใจ ผมกว่าจะสอบได้ 10 ปีเลย ตอนนี้เป็นนายช่างโยธาครับ
- สุดยอดคนมาก ๆ ครับ นับถือใจเลย
- สักวันผมต้องสอบติดแบบเข้าตอนนี้เป็นพนักงานราชการไปก่อน
- เก่งมาก
- เก่งมากเลยน้อง เป็นไอดอลให้น้อง ๆ หลายคนเอาแบบอย่าง
- นับถือใจเลย สุดยอดในความมานะพยายาม

‘ญี่ปุ่น’ จ่อเพิ่ม ‘วาฬฟิน’ ลงบัญชีล่าแบบเชิงพาณิชย์ อ้าง!! เป็นแหล่งอาหารสำคัญที่ควรถูกนำมาบริโภค

(9 พ.ค. 67) ญี่ปุ่นกลับมาล่าวาฬเพื่อการค้าในทะเลอาณาเขตและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของตนอีกครั้ง เมื่อปี 2019 หลังตัดสินใจถอนตัวจาก คณะกรรมการล่าวาฬระหว่างประเทศ (IWC) เนื่องจากไม่สามารถแสวงหาจุดร่วมกับประเทศที่ต่อต้านการล่าวาฬได้

โดยสัปดาห์นี้ สำนักงานประมงญี่ปุ่นได้เปิดให้สาธารณชนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับแก้นโยบายควบคุมทรัพยากรทางทะเล โดยจะอนุญาตให้มีการล่าวาฬฟินเพื่อการค้า ซึ่งวาฬฟินจัดเป็นวาฬขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองมาจากวาฬสีน้ำเงิน ที่อยู่ในสกุลและวงศ์เดียวกัน

โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงยืนยันวันนี้ (9 พ.ค.) ว่า ภาครัฐจะยังคงส่งเสริมการล่าวาฬ และดำเนินนโยบายทางการทูตที่จำเป็น

“วาฬถือเป็นแหล่งอาหารสำคัญ ซึ่งสมควรถูกนำมาบริโภคอย่างยั่งยืน โดยอ้างอิงกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์” ฮายาชิ กล่าว โดยอ้างถึงแผนการเพิ่มวาฬฟินลงในบัญชีวาฬที่สามารถล่าเพื่อการค้า

“การสืบทอดวัฒนธรรมอาหารดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน” เขากล่าว

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีการล่าวาฬมิงค์ วาฬบรูด้า และวาฬเซย์ รวมทั้งสิ้น 294 ตัวในปีที่แล้ว ตามข้อมูลจากสำนักงานประมงญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันยังคงจำกัดให้ล่าวาฬเชิงพาณิชย์ได้เพียง 3 สายพันธุ์นี้เท่านั้น

การบริโภคเนื้อวาฬในญี่ปุ่นเคยพุ่งถึงจุดพีกเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1960 ทว่าปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยมแพร่หลาย เนื่องจากมีเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่หารับประทานได้ง่ายกว่า

ญี่ปุ่นประกาศโครงการล่าวาฬเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปี 1987 หลังจากที่ IWC ออกกฎห้ามล่าวาฬเพื่อการค้า ในความเคลื่อนไหวซึ่งทำให้โตเกียวถูกเหล่าองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมวิจารณ์อย่างดุเดือด

ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในบรรดาชาติที่แสดงความ ‘ผิดหวัง’ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศถอนตัวจาก IWC เมื่อปี 2018

มุกดาหาร -ฉก.ทหารพรานมุกดาหาร ตรวจยึดรถยนต์ 2 คันขณะเตรียมนำขึ้นแพข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่ง สปป.ลาว

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2105 (ร้อย.ฉก.ทพ.2105) ฉก.ทพ.21 กองกำลังสุรศักดิิ์มนตรี  บูรณาการร่วมกับ ร้อย.ฉก.ทพ.23 กองกำลังสุรนารี  และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ได้สนธิกำลังร่วมกันทำการลาดตะเวนเฝ้าตรวจการกระทำความผิดกฎหมายริมฝั่งแม่น้ำโขงในพื้นที่บริเวณ บ.ตาลใหม่ รอยต่อระหว่าง บ.นาห้วยกอก  ต.ห้วยกอก  อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร กับ บ.นาสีดา ต.ชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคล จำนวนประมาณ 5 - 10 คน กำลังทำการลักลอบนำรถยนต์ ขึ้นเรือแพเตรียมนำข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่ง สปป.ลาว ชุดลาดตระเวนจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้กระโดดน้ำหลบหนีไป  จากการตรวจสอบพบรถยนต์ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น d-max สีขาว ทะเบียน  กล 6810 ราชบุรี และรถยนต์ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น d-max  สีเทา ทะเบียน บต 5130 พังงา จอดอยู่บนแพดัดแปลงขับเคลื่อนด้วยเรือเหล็กหางยาว 2 ลำ  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดรถยนต์จำนวน 2 คัน  และเรือเหล็กพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ ไว้เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนตาล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259777

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ” พบปะนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 โครงการเรียนรู้สู่โลกกว้าง แหล่งเรียนรู้นอกสถานศึกษา ยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญในการสนับสนุนด้านการศึกษาเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชน

วันนี้ (9 พฤษภาคม 2567) เวลา 07.45 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมพบปะนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ โซนซี ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 นำผู้เข้าร่วมโครงการ “เรียนรู้สู่โลกกว้าง แหล่งเรียนรู้นอกสถานศึกษา ของนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2” ระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2567 โดยมีนักเรียนจำนวน 61 คน และครู จำนวน 20 คน จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 จำนวน 53 แห่ง 

ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 กล่าวว่า การศึกษานับเป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน การจัดการศึกษาของประเทศไทยได้มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ตามสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง จากประสบการณ์ของตนเองที่สัมพันธ์เชื่อมโยงกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมุ่งเน้นการเรียนรู้ในลักษณะของการบูรณาการสาระความรู้ต่างๆอย่างสมดุล สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งการศึกษานอกสถานที่เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีความสำคัญมากอย่างหนึ่ง จะช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ด้วยตนเอง ทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่ศึกษาอย่างแท้จริง ถือเป็นวิธีการทำให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้ และสามารถพัฒนาผู้เรียนในด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสติปัญญา และด้านสังคม ได้เป็นอย่างดี กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 จึงจัดทำโครงการเรียนรู้สู่โลกกว้าง แหล่งเรียนรู้นอกสถานศึกษา เพื่อให้เด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ได้รับการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ปฏิบัติจริง และเกิดความพร้อมทั้ง 4 ด้านดังกล่าว และเพื่อเป็นการมอบโอกาสอันดี เป็นรางวัลให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในสังกัด ที่มีผลการเรียนดี ประพฤติดี หรือมีความสามารถพิเศษเฉพาะด้านที่มีผลงานดีเด่น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ให้โอวาทแก่นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ว่า นักเรียนทุกคนเป็นตัวแทนของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในสังกัดกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 และเป็นโรงเรียนที่ดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดังนั้น เมื่อทราบว่าทางกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 จัดโครงการเรียนรู้สู่โลกกว้าง แหล่งเรียนรู้นอกสถานศึกษา ขึ้น จึงได้ขอให้ผู้จัดโครงการได้จัดตารางเวลาให้มีโอกาสมาพบปะ สนทนากับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการด้วย เพื่อแสดงความตั้งใจ และยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนการดำเนินโครงการด้านการศึกษา และสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมในการเรียนรู้นอกสถานที่ เพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของนักเรียนทุกคน ที่ได้พบ ได้ยิน ได้ฟัง รวมถึงมีข้อสังเกต มีคำถามต่างๆ เกิดขึ้นในใจ เพื่อนำไปต่อยอดการเรียนรู้ การค้นคว้าเพิ่มพูนความรู้ต่างๆในชีวิตของนักเรียนทุกคน

จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ และ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ฯ ได้พูดคุยกับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ พร้อมจัดการเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับนักเรียนในเรื่อง การสังเกต จดจำลักษณะ ใบหน้า เพื่อการสเก็ตช์ภาพคนร้าย โดยมี พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ บูรณะ อดีตรอง ผบก.ศพฐ.1 ผู้ชำนาญการสเก็ตช์ภาพใบหน้าคนร้าย เป็นวิทยากร

นอกจากนี้ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการเรียนรู้สู่โลกกว้าง แหล่งเรียนรู้นอกสถานศึกษา ของนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 จะได้มีโอกาสไปเรียนรู้นอกสถานที่ ณ ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพมหานคร , ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ และชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร ณ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี , เรียนรู้เยี่ยมชมสวนนงนุช และฟังการบรรยาธรรมจากพระอาจารย์เอกชัย ศิริญาโณ ณ สวนนงนุช จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการต่างขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ที่เปิดโอกาสให้ได้เข้าร่วมโครงการดีๆ สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่อยากเป็นตำรวจ และครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โดยส่วนใหญ่กล่าวว่า ได้เห็นตัวอย่างและได้รับแรงบันดาลใจที่ดีจากครูตำรวจตระเวนชายแดน และผู้บังคับบัญชาทุกท่าน

‘วิโรจน์’ ค้าน!! ‘สุทิน’ ปมจะซื้อข้าว 10 ปี ให้ทหารกิน ลั่น ‘ภูมิธรรม’ กินโชว์ช้อนสองช้อน ไม่การันตีคุณภาพ

(9 พ.ค.67) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ระบุว่าพร้อมซื้อข้าว 10 ปี ให้กำลังพลกินนั้น ว่า “จะซื้อข้าว 10 ปีให้ทหารกิน ต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก่อน แค่กินโชว์ช้อน สองช้อนเชื่อไม่ได้

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่านายสุทิน รมว.กลาโหม ประกาศว่าพร้อมซื้อข้าว 10 ปี มาให้กำลังพล โดยให้สัมภาษณ์ว่าการชิมของคุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ถือเป็นการรับรองคุณภาพระดับหนึ่ง

ผมถือว่าเป็นวิธีคิดที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะการชิมเป็นพิธีช้อนสองช้อนของคุณภูมิธรรม ไม่สามารถการันตีคุณภาพ และความปลอดภัยของข้าวได้

หากจะมีการจัดซื้อจริง ต้องมีการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ในจำนวนสุ่มที่มากพอ ที่จะสามารถการันตี ความปลอดภัยของกำลังพลได้

โดยอย่างน้อย ต้องมีการตรวจสอบยืนยัน ในรายการดังต่อไปนี้ 1.ต้องไม่มีสารรมควันข้าวตกค้าง ไม่ว่าจะเป็นสารเมทิลโบรไมด์ (methyl bromide) หรืออะลูมิเนียมฟอสไฟด์ (aluminium phosphide) หรือ ฟอสฟีน ตกค้างอยู่ในเมล็ดข้าวสาร

2.ต้องไม่มีสารก่อมะเร็งที่เรียกว่า ‘อะฟลาท็อกซิน’ เจือปนในเมล็ดข้าวสาร และ 3.ต้องมีการยืนยันจากห้องปฏิบัติการว่า การล้างน้ำ หรือซาวข้าว จะสามารถชะล้างสารรมควันต่าง ๆ ให้หมดไปได้ เนื่องจากมีนักวิชาการจำนวนหนึ่งท้วงติงว่า สารเคมีหลายตัวหากสะสมอยู่ในข้าวสารเป็นระยะเวลานาน ต่อให้ล้าง 20 ครั้ง ก็ล้างไม่ออก

ผมต้องย้ำตรงนี้ว่า การชิมโชว์ไม่สามารถการันตีอะไรได้ ต่อให้นายสุทินออกมาชิมโชว์ด้วยตัวเอง ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะนายสุทินไม่ได้กินข้าว 10 ปี ทุกมื้อ ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจจัดซื้อให้ทหารกิน ต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น และต้องมีปริมาณการตรวจที่มากพอด้วย ไม่ใช่สุ่มจิ๊บ ๆ มาตรวจพอเป็นพิธี

“อย่าให้ทหารต้องถอนหายใจ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวังแบบตลกร้ายว่า “เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด” เลยครับ” นายวิโรจน์ ระบุ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top