Monday, 20 May 2024
NewsFeed

“อลงกรณ์”เห็นตรง“ดร.ธรณ์”ไทยเผชิญวิกฤติโลกร้อนทะเลเดือด ชี้โลกรวน คือวิกฤตการณ์แห่งศตวรรษที่21

เร่งผนึกทุกภาคีเดินหน้าโครงการคาร์บอนสีน้ำเงิน(Blue Carbon)หวังฟื้นฟูป่าชายเลนลดคาร์บอน110 ล้านตันสู่เป้าหมายเน็ทซีโร่(Net Zero)

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท โพสต์บทความวันนี้เกี่ยวกับปัญหาวิกฤตโลกร้อนกับผลกระทบต่อประเทศไทยและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีน้ำเงินในหัวข้อ“โลกรวน คือวิกฤตแห่งศตวรรษที่21 :ก้าวต่อไปของประเทศไทยในการลดโลกร้อนทะเลเดือด”โดยมีข้อความว่า

อ่านเรื่อง โลกเดือด ทะเลเดือดของดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ น้องที่เคยร่วมงานขบวนการปฏิรูปประเทศก็เห็นตรงกัน100%และขอร่วมแชร์ปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศแบบสุดขั้ว(Extreme)ที่ทำให้เกิดภาวะ“โลกรวน”ในหัวข้อ “โลกรวน คือวิกฤติการณ์แห่งศตวรรษที่21 :ก้าวต่อไปของประเทศไทยในการลดโลกร้อนทะเลเดือด”

ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้โลกร้อนทะเลเดือดเป็นวิกฤตแห่งศตวรรษที่21ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลกทำให้มีความพยายามที่จะลดก๊าซเรือนกระจกด้วยมาตรการต่างๆภายใต้กรอบการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติหรือ (COP) เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ตัวอย่างเช่นสหภาพยุโรปเริ่มใช้ระบบภาษีคาร์บอนในรูปมาตรการCBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป สำหรับประเทศไทยของเราปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 0.8 ของโลกมากเป็นอันดับที่ 19 ของโลก โดยปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิกว่า 240ล้านตันต่อปี เฉพาะด้านการใช้พลังงาน

โดยภาพรวมในปี 2565ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น1.5% “หากจะบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ภาคพลังงานจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ปีละ 86 ล้านตันคาร์บอนฯ และป่าไม้ต้องดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ปีละ 120 ล้านตันคาร์บอน” แต่ถ้าทำไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น องค์การสหประชาชาติคาดว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง พายุ ฯลฯ ที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ยิ่งกว่านั้นคือจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติรุนแรงที่สุด10อันดับแรกของโลก การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยทั้งการลดปริมาณการปล่อยและเพิ่มศักยภาพในการดูดกลับหรือกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์รวมทั้งต้องผนึกความร่วมมือทุกฝ่ายทำงานเชิงรุกทุกหน้างาน

ดังนั้นการเดินหน้าเศรษฐกิจสีน้ำเงิน(Blue Economy)เช่นโครงการปลูกโกงกางในพื้นที่ป่าชายเลนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยอธิบดีคนใหม่นายปิ่นสักก์ สุรัสวดีที่ช่วยปลดล็อคปมส่อทุจริตของโครงการนี้ในอดีตพร้อมกับขยายความร่วมมือทุกภาคส่วนทำให้เกิดเครือข่ายพันธมิตรโกงกางประเทศไทย(TMA: Thailand Mangrove Alliance)เป็นครั้งแรกถือเป็นตัวอย่างที่ดีของโครงการลดคาร์บอนเนื่องจากป่าชายเลนของประเทศไทยมีศักยภาพลดคาร์บอนได้ถึง 110 ล้านตันในระยะเวลา 10 ปี ทั้งนี้เป็นรายงานของดร.สนใจ หะวานนท์ ผู้เชี่ยวชาญป่าชายเลนจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งได้ศึกษาวิจัยเรื่องป่าชายเลนในหลายประเทศมากว่า 40 ปี ระบุว่า “…การสะสมคาร์บอนไดออกไซด์ของป่าชายเลนโดยกระบวนการสังเคราะห์แสงที่ต้องใช้คาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนออกมา พบว่าป่าชายเลนของประเทศไทยสะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหนือพื้นดินได้ 27.1 ตันต่อเฮกตาร์ (6.25 ไร่) และสะสมในดิน 16.9 ตันต่อเฮกตาร์ รวมแล้ว 44.0 ตันต่อเฮกตาร์ ประมาณการณ์ได้ว่าป่าชายเลนของประเทศไทยประมาณ 1.5 ล้านไร่ หรือประมาณ 0.24 ล้านเฮกแตร์ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 11 ล้านตันต่อปี…“ เพื่อระดมพลังทุกภาคส่วนในการเร่งทำงานลดโลกร้อนลดคาร์บอน ทางมูลนิธิฯ.ได้หารือกับผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรโกงกางประเทศไทย(TMA: Thailand Mangrove Alliance)และกรมทช.เกี่ยวกับการจัดสัมนาเรื่อง  “ป่าโกงกาง สู่เป้าหมายซีโร่คาร์บอน(Zero Carbon)ของประเทศไทย”ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน(Blue Economy)ลดโลกร้อนในเร็วๆนี้

โดยต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามูลนิธิฯ.ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MoU)กับ32 องค์กรภาคีเครือข่ายป่าชายเลนประเทศไทย (Thailand Mangrove Alliance) และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งนับเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยคำนึงถึงความหลากหลายทางชีวภาพและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างยั่งยืน ตามหลักการ 3 เสาหลักของมิติความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจ ในการปกป้อง ฟื้นฟู และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าชายเลน ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์ การจัดการป่าชายเลนอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) และการประกอบอาชีพที่ยั่งยืนของชุมชนป่าชายเลน ในพื้นที่เป้าหมาย 24 จังหวัดชายทะเลของประเทศไทยซึ่งจะมีการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือภาคีเครือข่ายป่าชายเลนประเทศไทย (Thailand Mangrove Alliance) ในงานวันป่าชายเลนแห่งชาติ 10 พฤษภาคม 2567 ที่ห้องประชุมช้างเผือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของไทยในการแก้ปัญหาโลกร้อน “มูลนิธิจะสนับสนุนการพัฒนาและการอนุรักษ์ป่าโกงกาง รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนและคนรุ่นต่อไปเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรป่าชายเลนและจะดำเนินการปลูกต้นโกงกางเพื่อการพัฒนาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม การทำโครงการคาร์บอนเครดิต (Carbon Credits) การพัฒนาองค์ความรู้ว่าด้วยเรื่องบลูคาร์บอน (Blue Carbon) รวมถึงการศึกษาและการพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูป่าชายเลนด้วยความร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หน่วยราชการส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น รวมถึงชุมชนในพื้นที่ในการปลูกและขยายพันธุ์เมล็ดและฝักโกงกางในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย”

‘นายกฯ’ เผย!! กินข้าว 10 ปีแล้ว บอก!! เหมือนกินข้าวปกติทั่วไป

(9 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บไว้ 10 ปี ในโกดัง จ.สุรินทร์ มาให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับประทานในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้นั้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังคณะทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยคณะทำงานระบุว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายกฯ ได้รับประทานอาหารมื้อเที่ยงกับคณะทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยได้นำข้าว 10 ปี จากโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บไว้ในโกดังข้าวใน จ.สุรินทร์ มาหุงพร้อมรับประทาน ซึ่งมีเมนูกับข้าว ประกอบด้วย ไข่ลูกเขย กะเพราไก่ แกงเขียวหวานไก่ หมูทอดกระเทียม แกงคั่วเนื้อ และผัดผัก โดยนายกฯ ได้พูดกับทีมงานว่า "ข้าวก็อร่อยดีครับ" 

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้สอบถามไปยังนายกฯ ว่าหลังลองรับประทานข้าวแล้วเป็นอย่างไรบ้าง โดยนายกฯ ระบุว่า ได้ลองกินแล้ว ความรู้สึกเหมือนกินข้าวปกติทั่วไป แต่เรื่องของสีข้าวอาจไม่ขาวเหมือนข้าวใหม่ แต่โดยรวมไม่ได้แตกต่างอะไร ทานได้

‘รมว.ปุ้ย’ ห่วงสถานการณ์เพลิงไหม้สารเคมีมาบตาพุด สั่งการ ‘ผู้ว่าฯ กนอ.’ ตรวจสอบ-ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

(9 พ.ค. 67) น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ในช่วงสายของวันนี้ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เร่งตรวจสอบทุกระบบ และให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในการเผชิญสถานการณ์และบัญชาการเหตุการณ์ในภาวะฉุกเฉิน

ขณะนี้มี นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่า กนอ.บัญชาการประจำวอร์รูม ประจำวอร์รูม เพื่อประสานเหตุการณ์และระงับเหตุ และมี นายคณพศ ขุนทอง รองผู้ว่าการ กนอ.สายงานปฏิบัติการ 3 อยู่หน้างาน

ส่วนการแก้ไขควบคุมเพลิงมีการระดมรถดับเพลิง เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีทีมงาน EMCC มาบตาพุด และเจ้าหน้าที่ท่าเรือฯ มาบตาพุด นำรถตรวจการณ์ EMCC เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณเหนือลม และท้ายลม รวมทั้งตรวจสอบผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ชุมชนพบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับบริษัท SC เพื่อใช้เรือในการอพยพบุคลากรในพื้นที่

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า มีรายงานทางข้อมูลเทคนิคทราบว่าบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (MTT) ได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินและประกอบกิจการท่าเทียบเรือและคลังเก็บสินค้าเหลว (สารปิโตรเคมี, คลังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์) ระหว่างการเดินระบบปกติ ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน (Pyrolysis Gasoline) หมายเลขถัง TK 1801 ขนาดบรรจุ 9,000 ลบ.ม. การเผชิญเหตุบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนตอบโต้สภาวะฉุกเฉิน และ กนอ.ได้จัดส่งรถตรวจสอบคุณภาพอากาศ เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณรอบ พร้อมทั้งแจ้งปิดร่องน้ำทางเดินเรือท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด

‘จีน’ เดินหน้าปรับปรุง ‘บริการทางการแพทย์’ เพื่อผู้ป่วย ครอบคลุมขั้นตอนนัดหมาย - หนุนการดำเนินงานของรพ.

(9 พ.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สิงรั่วฉี รองหัวหน้าสำนักบริหารการแพทย์ สังกัดคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า หน่วยงานสาธารณสุขของจีนให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วยขณะเข้ารับการดูแลทางการแพทย์ และมีการดำเนินสารพัดมาตรการเกี่ยวกับเรื่องนี้

สิงรั่วฉีกล่าวว่า มีการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น ปรับปรุงกระบวนการนัดหมายทางการแพทย์เพื่อลดระยะเวลารอของผู้ป่วย และสนับสนุนโรงพยาบาลจัดสรรการบริการบำบัดรักษาแบบสหวิทยาการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ป่วย โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลให้บริการแบบสหวิทยาการกว่า 2,400 แห่ง

ขณะเดียวกันโรงพยาบาลเหล่านี้กำลังใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการฯ ดำเนินโครงการปรับปรุงการบริการดูแลและรักษาพยาบาลเพื่อรับรองผู้ป่วยและตอบสนองความต้องการทางคลินิกได้ดียิ่งขึ้นในปีที่ผ่านมา

สิงรั่วฉีเสริมว่า ปัจจุบันมีสถาบันการแพทย์มากกว่า 3,000 แห่ง ให้บริการที่เกี่ยวข้องตามบ้านของผู้ป่วย ขณะหลายภูมิภาคอย่างปักกิ่ง ซานตง และเจียงซู ดำเนินการปฏิรูปและปรับใช้ทรัพยากรจากสังคมเพิ่มเติมเพื่อให้บริการดูแลรักษาพยาบาลแก่ประชาชนสูงอายุ

สมุทรปราการ- 'อิมพีเรียลเวิล์ด สำโรง' จับมือ VSPO กับ PUBG MOBILE แข่งขัน Esports ระดับ South East Asian ชิงเงินรางวัล กว่า 6 ล้านบาท!!

ศูนย์การค้าอิมพิเรียลเวิลด์สำโรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จัดแถลงข่าว โดยมี คุณโอฬาร กิจเลิศไพโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง พร้อมด้วย นางสาวนิตยา สุพัฒน์เดชากุล ผู้อำนวยการศูนย์กีฬาของอิมพีเรียล และ นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาอาชีพ จ.สมุทรปราการ Mr. Clement Hui, Business Development Director of South East Asia, VSPO Global Business Group และ Mr.Andrew Manugian, Country Head from PUBG ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันที่มีชื่อว่า PMSL หรือ PUBG MOBILE SUPER LEAGUE SUMMER (2024 PMSL SEA Summer) 

ซึ่งเป็นการแข่งขัน Esports ระดับนานาชาติ จัดขึ้นที่อิมพีเรียลเวิล์ด สำโรง วันที่ 8 พ.ค. – 2 มิ.ย. 2567 โดยทางด้าน นางสาว นิตยา เปิดเผยว่า โครงการนี้สืบเนื่องจาก ตนได้รับคำแนะนำจาก คุณสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษา ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ว่าท่านสนใจในกีฬา Esports มาก เพราะทราบว่า นักเรียนและนักศึกษาของไทยให้ความสนใจในกีฬาประเภทนี้เป็นอย่างสูง จำนวนเยาวชนไทยที่ติดตามหรือลงแข่งขันในกีฬา Esports มีเกือบ 10 ล้านคน คุณสงคราม คิดว่ากีฬานี้มีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาเยาวชนของไทยให้เกิดเป็นอาชีพได้หลายแขนง ทั้งด้านตัวกีฬาเอง, ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง, ด้าน Programming, ด้านการ Broadcasting, ด้านการตลาด, ด้านการสร้างสรรค์ Contents และด้านอื่นๆอีกมากมาย ตัวท่านเองต้องการจะส่งเสริมนักกีฬาให้สามารถสร้างฐานอาชีพที่เด็กสนใจและมีความรักได้ และจะหาทางให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนด้วย ตนเองสนใจในกีฬาประเภทนี้อยู่แล้ว และเมื่อทราบว่าทาง VSPO และ PUBG MOBILE อยากจะจัดการแข่งขัน Esports รอบที่ 2 ในประเทศไทย จึงได้ส่งชื่ออิมพีเรียลเวิล์ด สำโรง เข้าแข่งขันร่วมกับศูนย์การค้าและศูนย์กีฬาอีกหลายๆแห่ง จุดแข็งที่อิมพีเรียลเวิล์ดได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ความตั้งใจจริงที่จะพัฒนากีฬาไปสู่ความเป็นมือชีพ ไปสู่อนาคตทางด้านอาชีพที่หลากหลายของเยาวชนของเรา ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกับทาง VSPO และ PUBG MOBILE“ สมาคมส่งเสริมกีฬาอาชีพ จ.สมุทรปราการ” ที่คุณนิตยาเป็นประธานมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมนักกีฬาตั้งแต่ระดับสมัครเล่นให้ไปสู่ระดับอาชีพ ทั้งในจังหวัดสมุทรปราการและในระดับประเทศ คุณนิตยาเห็นว่าการร่วมมือทำงานกับ VSPO และ PUBG MOBILE เป็นการทำงานแบบมีอุดมการณ์ร่วมกัน มี Passion ที่คล้ายคลึงกัน มีการทำงานอย่างสร้างสรรค์และมีพลังร่วม (Synergy) โดยมุ่งที่จะส่งเสริมกีฬา Esports ในประเทศไทยให้เป็นกีฬาที่มีคุณค่า และมีประโยชน์กับสังคม ให้เป็นกีฬาที่จะกลายเป็นอาชีพที่เชิดหน้าชูตาต่อไป

คุณโอฬาร กิจเลิศโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อิมพีเรียลเวิล์ด เห็นว่าการจัดการแข่งขัน PUBG Mobile Super League สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของอิมพีเรียลเวิล์ดที่จะสร้างศูนย์กิจกรรมทางด้านกีฬาขึ้นที่บริเวณชั้น 5-6-7 โดยมีโครงการ IMXerciety ที่จะรวมกีฬาสมัยใหม่ประเภทต่างๆไว้ให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นที่ฝึกซ้อมด้านกีฬาของเยาวชน คุณโอฬารต้องการที่จะสร้างโอกาสให้กับเยาวชนได้มาสัมผัส ได้มารู้จักกับกีฬาที่เขาสนใจ อิมพีเรียลจะพยายามสร้างสถาบันอบรมกีฬา (Academy) เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพด้านกีฬาไปตามความสามารถของตน ในการแข่งขันกีฬา Esports ครั้งนี้ ทางอิมพีเรียลจะเชิญนักเรียน นักศึกษา เข้ามาชมการแข่งขันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบ Final ที่มีการเปิดให้เข้าชมกัน และจะมีการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับ Esports โดยจะมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการ Streaming, Broadcasting และเกี่ยวกับกีฬา Esports มาให้คำแนะนำกับนักศึกษาที่สนใจด้วย ในอนาคตเราวางแผนที่จะร่วมพัฒนากีฬา Esports ไปกับทีมงานของ VSPO และ PUBG MOBILE โดยมุ่งหน้าไปในทางการให้ความรู้เกี่ยวกับกีฬานี้ การปรับเปลี่ยนทัศนคติ การส่งเสริมให้เกิดหลักสูตรต่างๆในโรงเรียนระดับมัธยม และระดับมหาวิทยาลัย โดยเน้นไปในทางการสร้างโอกาสทั้งด้านกีฬา และด้านอาชีพที่เกี่ยวข้องต่อไป ในปีนี้มีทีมสนใจเข้าร่วมการแข่งขัน จากประเทศไทย 5 ทีม ประเทศอินโดนีเซีย 8 ทีม ประเทศมาเลเซีย 7 ทีม และประเทศเวียดนาม 4 ทีม       

โดยภายหลังจากการแถลงข่าว นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ได้พาสื่อมวลชน เข้าชมการซ้อมก่อนการแข่งขันจริงของแต่ละทีม ก่อนที่จะเริ่มแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พ.ค.นี้

‘กฟผ.’ เตรียมแผนรับมือ หลังไฟไหม้ถังเก็บสารเคมีมาบตาพุด ขอให้ ปชช.มั่นใจ ยัน!! ไม่กระทบต่อระบบไฟฟ้าของประเทศ

(9 พ.ค. 67) นายณัฐวุฒิ ผลประเสริฐ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบไฟฟ้าของประเทศไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด 

โดยเบื้องต้น กฟผ. ได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมระบบไฟฟ้ารองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยสั่งเพิ่มการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก โรงไฟฟ้ากัลฟ์อุทัยด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติตะวันออก เพื่อเตรียมการเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันดีเซล และเพิ่มการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังน้ำต่างประเทศ พร้อมทั้งประสานโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติตะวันออกทั้งหมดให้เตรียมความพร้อมหากมีความจำเป็นต้องเดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซล 

สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านเชื้อเพลิง ขณะนี้มีน้ำมันสำรองเพียงพอรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินทดแทนก๊าซธรรมชาติจึงไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า

“กฟผ. พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของประชาชนและทุกภาคส่วนอย่างเต็มความสามารถ” รองผู้ว่าการระบบส่งกล่าวทิ้งท้าย

พิษณุโลก-มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ จัดกิจกรรมจิตอาสาเฉลิมพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 10 ครบรอบ 72 พรรษา

เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.67) นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย ทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) กลุ่มไทยสมายล์ และ บริษัท อีเอ โซล่า พิษณุโลก จำกัด ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ และอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 14 ราย ณ องค์การบริหารส่วนตำบลมะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งได้รับการประสานจาก นายสมชาติ สุภารี  หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีนายณรงค์ไชย บุตตวงค์ นายอำเภอพรหมพิรามและคณะ ให้การต้อนรับ 

​นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ในวันนี้ดิฉันในนามมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ประกอบไปด้วย รถเข็นวีลแชร์ จำนวน 7 คัน ประกอบไปด้วย นายลม อยู่มา นางโส สีสุรินทร์ นายสิงห์ มั่นดี นางละออง  ทรัพย์พลี นางถุงเงิน พุกเถื่อน นางเช้ง เกลื้องงาม และ นางสาวศิริลักษณ์ พรมนาค ไม้เท้าพยุงสามขา จำนวน 4 อัน ประกอบไปด้วย นางเมี้ยน แตงเกิด นางเคลิ้ม พริกศรี นางสาวประคอง มูลสรวง นางน้อย เกิดดี และวอล์คเกอร์ช่วยเดิน จำนวน 3 อัน นางลำพัง สุขศรี นางระบาย จรัสเอี่ยม นางประชิต มาเที่ยง และ แพมเพิส  2 กล่อง ประกอบด้วย นางสุดท้าย โพสุ่ม นายภาคภูมิ โพสุ่ม 

ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) และสนับสนุนการขนส่งสิ่งของต่าง ๆ มายัง จ.พิษณุโลก โดย บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด มามอบให้กับ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ตามที่ได้รับการประสานจาก หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งทั้ง 14 ราย เป็นกลุ่มเปราะบาง มีฐานะยากจน และประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน มอบกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวมากกว่าบุคคลทั่วไป

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรือหลวงศรีราชา และกำลังพลนาวิกโยธินให้การสนับสนุนจังหวัดระยองในการอพยพผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ท่าเรือมาบตาพุด

เมื่อวานนี้ 9 พฤษภาคม 2567 พลเรือตรีวีรุดม  ม่วงจีน  โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่าตามที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บวัตถุดิบ บรรจุแก๊สโซลีน บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในท่าเรือมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยขณะนี้ทางจังหวัดระยองได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 และ 3 ตามลำดับ  และได้อพยพประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพเรือ ได้จัดกำลังพลพร้อมยุทธปกรณ์เข้าให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

โดยในส่วนของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้ จัดกำลังพลจาก กองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่สาม กองพลนาวิกโยธิน  เดินทางไปยังศูนย์ราชการจังหวัดระยอง โดยมีภารกิจคือ อำนวยความสะดวกและดูแลประชาชน ที่อพยพมาพักพิงที่ศาลากลางจังหวัดระยอง จากพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงสั่งการให้ เรือหลวงศรีราชา ออกเรือไปท่าเรือมาบตาพุด ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อเตรียมรับผู้ที่ติดค้าง ที่ไม่สามารถออกมาได้  นอกจากนั้นยังได้มีการเตรียม  UAV Schiebel ขึ้นพร้อมปฏิบัติการสนับสนุน ในการลาดตระเวนค้นหาผู้ประสบภัยในที่เกิดเหตุ 

โดยโฆษกกองทัพเรือกล่าวว่ากองทัพเรือจะเร่งดำเนินการให้การสนับสนุนจังหวัดระยองในการค้นหาและอพยพผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

พระโคเสี่ยงทาย ‘กินหญ้า น้ำ เหล้า’ อาหาร-น้ำสมบูรณ์ เศรษฐกิจรุ่งเรือง

(10 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานผลการเสี่ยงทายพระยาแรกนา เนื่องในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันพืชมงคลปี 2567 พระยาแรกนาเสี่ยงทาย ได้ผ้า 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี

การเสี่ยงทายพระโคกินเลี้ยง ปีนี้

-พระโคกินน้ำ หญ้า ทำนายว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ดี

พระโคกินเหล้า ทำนายว่า การคมนาคมจะสะดวกยิ่งขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง 

'คนดังเขมร' โพสต์ชี้นำข้อความ 'เจนี่ เทียนฯ' แปล Where we belong แบบเพี้ยนๆ ให้คนรุมด่า

เมื่อวานนี้ (9 พ.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์ข้อความระบุว่า…

กัมพูชา # กระแสเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ *ดาราไทย ได้ไปไหว้พญานาค เมื่อเธอไปเที่ยวนครวัดในสัปดาห์นี้

โดยเธอโพสต์ IG ภาพพร้อมแคปชัน ระบุว่า… “Up where we belong” (ชื่อเพลงภาษาอังกฤษ) ซึ่งก็เหมาะกับเรื่องราวของเธอขณะนี้

คนดังในเขมร เริ่มโพสต์ชี้นำเจตนา ตีความหมายหลายอย่าง (*อาทิ ทวงสถานที่นี้) และต่อว่าเจนี่ ต่อมาด่าคนไทยด้วย

*บางคำ don't thai to me คือคำแสลง เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ใช้ในมาเลเซีย .. (อย่ามาไทยกับฉัน /อย่ามาโกงฉัน...อย่ามาโกหกฉัน...อย่ามาต้มตุ๋นฉัน)
*คนที่แชร์ ล้วนแต่เป็นคนที่มีสถานะทางสังคมในกัมพูชา

*เสิร์ชคำนี้ดูกระแสดรามากำลังไวรัล Up where we belong អង្គរវត្ត


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top