Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

ปธ.ศาลฎีกา ยัน ศาลทำงานเชิงรุก ปรับวิธีคิด ทิ้งขนบเก่า เน้น ’ให้ศาลเป็นงานบริการ ไม่ใช้อำนาจ-เน้นกระจายความยุติธรรม ไม่เลือกปฎิบัติ’

วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมทางวิชาการระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 18 ในหัวข้อ “การอํานวยความยุติธรรมในยุควิถีใหม่สู่ประชาชน” กล่าวว่า ในการพิจารณาคดีในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา คนในกระบวนการยุติธรรม พยายามร่วมมือทำงาน โดยไม่แบ่งส่วน แม้ความสำเร็จเป็นรูปธรรมยังไม่สมบูรณ์ตามเป้าหมายที่อยากเห็น แต่ในช่วง3-4 ปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นชัดขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณกระทรวงยุติธรรมที่เข้ามาทำงาน และทุกคนตระหนักและให้ความสำคัญกับกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น

แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่หยุด แต่งานของศาลและกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถหยุดได้ ที่ผ่านมาจะมองว่าศาลเป็นองค์การที่มีความอนุรักษ์นิยม มีพิธีรีตองหรือมีอะไรที่เป็นของตัวเองค่อนข้างมาก หรือเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจสั่งอย่างเดียว ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปรับตัวช้า ติดขนบธรรมเดิม ซึ่งเป็นภาพในอดีต แต่ถ้าเข้ามาจะเห็นความเปลี่ยนแปลง โดยการพิจารณาพิพากษาไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ แต่ได้ปรับกระบวนทัศน์ เปลี่ยนวิธีคิดให้เป็นการให้บริการ เพื่อให้คนที่เข้ามาติดต่อมีความสุขและได้รับความเป็นธรรม จะเห็นภาพว่าผู้พิพากษา ผู้บริหารศาล ทำงานเชิงรุกมากขึ้น เช่น ออกสืบพยานออนไลน์ ออกไปพบประชาชน ชี้แจงให้รู้สิทธิพื้นฐานของตนเอง โดยยึดนโยบาย 5 ด้าน ภายใต้หลักการ ‘บริสุทธิ์ ยุติธรรม’ ที่สำคัญกับประชาชน โดยเฉพาะกระจายความยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ต้องเสมอภาคให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่เลือกคนใดหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และกระจายไปกลุ่มคนในชนบทด้วย โดยมีการตั้งศาลแขวงและศาลจังหวัดเพิ่ม เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน เมื่อโควิด-19 ระบาด ลดขั้นตอนยุ่งยาก ต้องคำนึงความถูกต้อง เป็นธรรมคุ้มครองสิทธิ และต้องมีความสมดุลย์

นางเมทินี กล่าวว่า ส่วนเสียงวิจารณ์ว่าล่าช้า ชี้แจงว่าขณะนี้เราก้าวผ่านคำว่าพิจารณาคดีที่ล่าช้าไปแล้ว เห็นได้จากในศาลชั้นต้นมีคดีกว่าล้านคดี มีผู้พิพากษา 3 พันคน ซึ่งแต่ละคดีมีมาตรฐานระยะเวลากำหนดไว้ที่ต้องปฎิบัติ เพราะถือว่าความล่าช้าคือความอยุติธรรมอย่างหนึ่ง รวมถึงการขอประกันในศาลชั้นต้นภายในหนึ่งชั่วโมงต้องได้รับคำสั่ง ขณะที่การปรับเปลี่ยนในศาลสูง จะนัดประชุมเพื่อหารือถึงการกำหนดมาตรฐานระยะเวลาพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์และฎีกา เพื่อประกาศให้ประชาชนทราบ สามารถตรวจสอบว่าการทำงานจะมีระยะเวลาเท่าไหร่ และจะมีการอ่านคำพิพากษาผ่านจอภาพไปยังเรือนจำ เพื่อให้จำเลยทราบสิทธิของตัวเองหลังมีคำตัดสินได้ทันที

ฉีดกันเถอะ วัคซีนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด!

ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ยืนยัน วัคซีนโควิดไม่ได้น่ากลัว มีประโยชน์มากกว่าโทษ พร้อมย้ำ แต่ถ้าติดเชื้อโควิด ผลร้ายที่ตามมาอาจน่ากลัวกว่า

‘วิษณุ’ เปิดงาน “การอำนวยความยุติธรรมในยุควิถีใหม่ สู่ประชาชน” แนะ ใช้วิกฤตโควิดให้เป็นโอกาส ปรับระบบให้ดีกว่าเดิม เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ปชช. 

วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดงานผ่านระบบประชุมคอนเฟอเรนซ์ หัวข้อ “การอำนวยความยุติธรรมในยุควิถีใหม่ สู่ประชาชน” ครั้งที่18 

โดยนายวิษณุ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตอนที่โควิด-19 ระบาดใหม่ ๆ ในช่วง 2563 คดีความต่าง ๆ ต้องเลื่อนออกไป และต้องนัดประชุมเพื่อให้ตามเรื่องให้ทัน เรื่องนี้มีผลกระทบไปทั่ว จึงทำให้เกิดคำใหม่ขึ้นมาคือ นิวนอร์มอล หมายถึงวิถีชีวิตใหม่ การระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกคน ทุกฝ่าย ทุกด้านและทุกเรื่อง ต้องปรับปรุงวิธีการทำงาน และปรับปรุงวิธีคิด เพื่อให้เข้ากับการระบาด อะไรที่เคยทำก็ทำอย่างเดิมไม่ได้ ทั้งวัฒนธรรม ประเพณี หรือศาสนา เช่น การเวียนเทียนออนไลน์ ในบางประเทศทำบุญ เช็งเม้งออนไลน์ เพราะไม่สามารถแออัดได้ หรือแม้แต่การแต่งงาน สิ่งเหล่านี้เข้ามาถึงเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องจัดระบบและเปลี่ยนแปลงใหม่ ในส่วนนี้จึงเกิดปัญหาขึ้นว่าอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลง แล้วจะต้องทำอย่างไร คือจะทำอย่างไรในยุคนิวนอร์มอล และให้ได้ผลเหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิม หากทำใหม่แล้วแย่กว่าเดิมก็จะต้องแย่ไปหมด เช่น ความล่าช้าในการทำคดี 

นายวิษณุ กล่าวว่า หากจะได้ให้ผลที่พึงปรารถนาหรือเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น อะไรในอดีตที่เคยทำไม่ได้ก็ดีขึ้น เพราะปัจจุบันเราเห็นการเรียนและการประชุมแบบออนไลน์ ประหยัดเวลา ประหยัดการเดินทางไปได้เป็นอันมาก ก่อนหน้านั้นรัฐบาลเคยคิดเรื่องเวิร์กฟอร์มโฮมมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยยุคน้ำมันแพง คือเมื่อหลาย 10 ปีมาแล้ว แต่ก็ทำไม่สำเร็จ พอยุคมีปัญหาทางเศรษฐกิจก็คิดเรื่องเวิร์กฟอร์มโฮมเพิ่มก็ทำไม่ได้ แต่เมื่อเกิดการเกิดโรคระบาด ทำให้เกิดการเวิร์กฟอร์มโฮมโดยพร้อมเพรียงกัน อะไรที่เคยยากก็ง่าย และก็ทำให้หลายอย่างสามารถเดินหน้าไปได้ ความจริงเรื่องนี้มีตัวอย่างให้เทียบเคียงได้หลายเรื่อง

นายวิษณุ กล่าวว่า บางคนอาจจะพูดว่าดีอยู่แล้วจะปฏิรูปไปทำไม แต่เมื่อเกิดเศรษฐกิจฟองสบู่แตกทุกคนก็รวมใจกันปฏิรูป ตอนนี้โควิด-19 เป็นวิกฤตก็ทำให้เกิดโอกาส ซึ่งโอกาสแผ่ซ่านไปในหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องของศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี การจัดการศึกษา แม้กระทั่งการคิดค้นเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมทางไกล นี่ยังไม่รวมที่มีการพูดว่า เพราะโควิด-19 ระบาดทำให้มีการไปคุ้ยเรื่องบ่อนการพนัน แรงงานต่างด้าว และสถานบันเทิงผิดกฎหมาย คือถ้าไม่มีโควิด-19 ขึ้นมาก็คงไปคุ้ยและไปรื้อยาก ความจำเป็นมันเกิดขึ้นโดยไม่มีใครอยากละเว้น นิวนอร์มอลบังคับให้เราต้องทำในกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน แต่ปัญหามีอยู่ว่าเราจะทำอะไรและเราจะทำอย่างไร 

นายวิษณุ กล่าวว่า วันนี้เป็นการดีที่ผู้ใหญ่หลายท่านมาพิจารณาปัญหานี้สิ่งที่เราคิดกันอยู่ในเวลานี้คือประเทศไทยเรามีคณะกรรมการระดับชาติอยู่ชุดหนึ่งที่ชื่อว่า คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ เป็นหนึ่งในกรรมการที่สำคัญมากของประเทศ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเพราะในด้านกระบวนการยุติธรรมนั้น คณะกรรมการชุดนี้เป็นเวทีเดียวที่ตำรวจ อัยการ ศาล ทนายความ ราชทัณฑ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือหน่วยงานอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมได้เข้ามานั่งอยู่ในที่เดียวกัน เมื่อทำงานหรือขับเคลื่อนอะไรก็จะทำไปพร้อมกันบนเวทีระดับชาตินี้ สมมติสมัยก่อนเมื่อจัดตั้งศาลขึ้นที่ไหนสักแห่งก็ไม่สามารถตั้งได้โดยง่าย เพราะแม้ศาลพร้อมจะไปจัดตั้งที่จังหวัดนั้น แต่จังหวัดยังไม่พร้อมหรืออัยการ และคุกไม่พร้อม ก็ไปต่อไม่ได้ แต่เวทีนี้คณะกรรมการชุดนี้ทำให้เมื่อจะเปิดศาลตั้งศาลหรือจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมก็จะมีเวทีนี้ที่จะทำให้มาคิดทีเดียว 

"ผมหวังว่าทุกท่านจะช่วยสร้างมิติใหม่ของกระบวนการยุติธรรม เพื่อที่จะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนในยุคใหม่ เพื่อให้เขาได้รับความยุติธรรมเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิม แม้ว่ากระแส โควิด-19 จะทำให้สถานการณ์ไม่น่าก้าวไปได้ แต่เราเชื่อว่า เราจะสามารถคิดอะไรใหม่ ๆ แปลก ๆ จากเดิมเพราะวิกฤตจะทำให้เกิดโอกาส โดยโอกาสหนึ่งที่เราอยากจะเห็นก็คือโอกาสที่จะประสิทธิ์ประสาทในการอำนวยความยุติธรรม" นายวิษณุ กล่าว

‘บิ๊กป้อม’ เร่งช่วยเกษตรกร สั่งยกระดับการพัฒนา "กว๊านพะเยา เวียงหนองหล่ม" เป็นโครงการสำคัญ  พร้อมติดตามฟื้นฟู “บึงบอระเพ็ด" กำชับ! เร่งกำจัดผักตบชวา/วัชพืช ย้ำทุกหน่วยงาน ใช้งบประหยัด-คุ้มค่า

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 2/2564 โดยมี ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.รง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุม ได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงาน การพัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำสำคัญ ตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ บึงสีไฟ จ.พิจิตร, หนองหาร จ.สกลนคร และบึงราชนก จ.พิษณุโลก ซึ่งมีเป้าหมายหลัก เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ สำหรับการอุปโภคบริโภค การประมงพื้นบ้าน เกษตรกรรม และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ตลอดจนเป็นพื้นที่สันทนาการ และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจระดับท้องถิ่น มีการจัดทำโครงการภายใต้นโยบาย กนช. ซึ่งมีความคืบหน้าและความต่อเนื่อง อย่างน่าพอใจหลังจากนั้นที่ประชุม ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ ให้มีการทบทวนแผนพัฒนา อนุรักษ์  ฟื้นฟู บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ เพื่อรองรับการปรับเขตพื้นที่ให้เหมาะสม กับมาตรการ "ให้ หวง ห้าม" เช่นผลกระทบต่อการกำหนดแนวคลองดักตะกอน เป็นต้น นอกจากนั้นยังได้เห็นชอบให้ยกระดับ การพัฒนา กว๊านพะเยา จ.พะเยา และเวียงหนองหล่ม จ.เชียงราย ให้เป็นโครงการสำคัญ และให้เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้กรอบแผนพัฒนา อนุรักษ์ ฟื้นฟู กว๊านพะเยา และเวียงหนองหล่ม ตามลำดับ

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเร่งรัดการดำเนินแผนงาน/โครงการ ที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว และนำไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม เน้นสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน/เกษตรกรในพื้นที่ อย่างทั่วถึง และเห็นประโยชน์ร่วมกัน สำหรับการบริหารงบประมาณ จะต้องโปร่งใส ประหยัด และคุ้มค่า ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวย้ำว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาน้ำอย่างจริงจัง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน/เกษตรกร ทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ

“ก้าวไกล” ลั่น เดินหน้ายื่น ป.ป.ช. เชือด "ธรรมนัส" แจง รอคำวินิจฉัยศาลรธน. เป็นทางการ-ดูท่าที "ประยุทธ์" จะยังอุ้มเป็นรมต. ต่อหรือไม่

วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ทางพรรคก้าวไกลยังคงเดินหน้าที่จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้มีการไต่สวนกรณี ร.อ.ธรรมนัส เพราะพรรคก้าวไกลมองว่าปล่อยผ่านไม่ได้ การที่เรายอมให้มีรัฐมนตรีซึ่งมีประวัติอย่างชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องกับการส่งออกยาเสพติดไปยังต่างประเทศ และถูกพิพากษาจำคุกยังต่างประเทศชัดเจน มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะกระทบทั้งบรรทัดฐานทางการเมือง และกระทบทั้งมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง 

ซึ่งขณะนี้ทางพรรคก้าวไกลได้ร่างคำร้องไว้แล้ว แต่ยังรอคำพิพากษากลางของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ และรอดูความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่แต่งตั้ง รอ.ธรรมนัส ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไร จะยังยินยอม ยังจะอุ้ม รอ.ธรรมนัสเป็นรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ หากไม่มีการดำเนินการอะไรต่อหลังจากนี้ และมีคำพิพากษากลางของศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว พรรคก้าวไกลก็จะยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ทันที ทั้งนี้คาดหมายว่าสัปดาห์หน้าคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญจะออกอย่างเป็นทางการ

"ชัยวุฒิ" รมว.ดีอีเอส เร่ง ผลักดัน อินเทอร์เน็ต เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เตรียมตั้งคณะทำงานรองรับ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ คิดค่าบริการราคาถูก หรือไม่เก็บผู้มีรายได้น้อย-ผู้รับผลกระทบจากโควิด

จากการประชุมผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด ครั้งที่ 2/2564 ที่มีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน

ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าสืบเนื่องจากการประชุม Top Executive ครั้งที่ผ่านมา โดยหารือประเด็นสำคัญ อาทิ การผลักดันให้อินเทอร์เน็ตเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน เนื่องจากปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน ทั้งการทำงาน การศึกษา การติดต่อสื่อสาร ขณะนี้กระทรวงดีอีเอส อยู่ระหว่างการเสนอร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเสนอแนวทางผลักดันให้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนมีค่าบริการราคาถูก หรือไม่คิดค่าบริการสำหรับผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าเรื่อง การทำงานระดับภูมิภาค การใช้ระบบ e-Office ในหน่วยงาน เป็นต้น

ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เปิดเผยว่า สังคมยุคปัจจุบันประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน เพื่อเข้าถึงการสื่อสาร ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ต่าง ๆ สามารถเท่าทันความเปลี่ยนแปลงและความเคลื่อนไหวของโลกได้อย่างรวดเร็ว และอินเทอร์เน็ตยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น การลงทะเบียนรับสิทธิเยียวยาจากรัฐบาล การซื้อสินค้า การชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ ก็ล้วนแต่ต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตรองรับทั้งสิ้น ทางกระทรวงดิจิทัลฯ จึงพยายามผลักดันให้อินเทอร์เน็ตเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวางมากที่สุด

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า หากดำเนินการสำเร็จ จะถือเป็นการช่วยเหลือและลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนที่ประสบภาวะยากลำบากจากสถานการณ์ตอนนี้ เช่นเดียวกับที่ภาครัฐดูแลเรื่องค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตามสิทธิที่ประชาขนได้รับจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ฉีดเถิดโยม!! 'เกจิดังภาคใต้'​ เผย!! ผ่าน 15​ วัน แข็งแรงดี​ หลังฉีดวัคซีนแล้ว​ 2​ เข็ม​ ชี้!! ฉีดวัคซีนวันนี้​ เหมือนสร้างกำแพงคุ้มกายตน-ครอบครัว

ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา พระครูสุวัฒนาภรณ์ หรือ 'พระอาจารย์ภัตร อริโย' เจ้าอาวาสวัดนาทวี และรองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา 'เกจิดังภาคใต้' ได้เดินทางไปดูห้องปฏิบัติการทางอนูชีวโมเลกุลของโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี โดยมีนายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ให้การต้อนรับและพาเดินชมห้องปฏิบัติการทางอนูชีวโมเลกุล

นายแพทย์สุวัฒน์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี จ.สงขลา ได้เปิดห้องปฏิบัติการตรวจอนูชีวโมเลกุล ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือ การตรวจหาโควิด-19 โดยห้องดังกล่าวได้เริ่มเปิดปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อใช้ปฏิบัติการรองรับการค้นหา/การเฝ้าระวังเชื้อในพื้นที่อำเภอนาทวีและอำเภอใกล้เคียง โดยวันนี้พระอาจารย์ภัตร ได้มาให้กำลังใจคณะเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่า 'พระอาจารย์ภัตร อริโย' ได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด จึงได้สอบถามอาการว่าเป็นอย่างไร?

ทางด้านพระครูสุวัฒนาภรณ์ฯ หรือ 'พระอาจารย์ภัตร อริโย' ก็ได้กล่าวยืนยันว่า ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว ฉีดครบมาประมาณ 15 วันแล้ว รู้สึกว่า ร่างกายก็ดี ทุกอย่างก็ดี มีความมั่นใจ และก็อยากขอเชิญชวนญาติโยมพี่น้อง พุทธบริษัททุกคนทุกท่านได้มาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพราะว่าจะทำให้ร่างกายของเรามีความมั่นใจ และเท่ากับเป็นการสร้างกำแพงให้กับตัวเองในการปกป้องชีวิตเราและครอบครัว ขอเจริญพร


ที่มา: นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

‘หมอมนูญ’ เตือนอย่ารีรอ รีบลงทะเบียนฉีดวัคซีน ร่วมใจสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ช่วยคุมโรคระบาดจบสิ้นปีนี้

วันที่ 13 พ.ค. พ.ศ.2564 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หรือ หมอมนูญ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC’ ระบุ เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษพบครั้งแรกเดือนกันยายนปีที่แล้ว ติดต่อกันง่าย แพร่กระจายเร็วกว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์เดิม จึงระบาดอย่างกว้างขวาง โดยเริ่มจากประเทศสหราชอาณาจักร เข้ายุโรป อเมริกา ต่อมาเข้าทวีปเอเชีย เข้าเขมร ก่อนมาสู่ประเทศไทย

หมอมนูญ ระบุอีกว่า ขณะนี้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษกำลังครองโลก จนกว่าจะมีไวรัสสายพันธุ์อื่นที่แพร่กระจายง่ายกว่ามาแทนที่

มีข้อมูลไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นกว่าสายพันธุ์เดิมในฤดูร้อนอุณหภูมิสูง และในฤดูฝนความชื้นสูง นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักในทวีปเอเชียขณะนี้

ไวรัสโควิดสายพันธุ์อังกฤษอันตรายรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิม โปรตีนส่วนที่เป็นหนามของเชื้อไวรัสจับกับตัวรับของเซลล์เยื่อบุจมูกและทางเดินหายใจได้ดีขึ้น ทำให้เชื้อไวรัสเข้าเซลล์มากขึ้น เพิ่มจำนวนเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจมากขึ้น ทำให้เกิดปอดอักเสบเร็วขึ้น เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

ไวรัสสายพันธุ์อังกฤษเข้าประเทศอินเดียตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ ขณะนี้มีการแพร่ระบาดทั้ง 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์อังกฤษ และสายพันธุ์ประจำถิ่นหรือสายพันธุ์อินเดียซึ่งพบตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คนในประเทศอินเดียล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ผู้เชี่ยวชาญอินเดียเชื่อว่าเกิดจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษมากกว่าจากไวรัสสายพันธุ์อินเดีย

ดูการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ปีที่แล้ว ในลาว เขมร ไทย เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์อังกฤษปีนี้ จำนวนคนติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดในทั้ง 3 ประเทศ

โชคดีวัคซีนที่มีในปัจจุบันทั้งซิโนแวค และแอสตร้าเซเนก้า สามารถป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์อังกฤษ คนไทยทุกคนต้องรีบจองคิว เข้ารับการฉีดวัคซีนทันที อย่ารีรอ สำหรับวัคซีนซิโนแวคต้องฉีดครบ 2 เข็ม

แต่วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มเดียวก็พอ ถ้ามีวัคซีนเหลือ ค่อยมารับเข็ม 2 ถ้าทุกคนปฏิบัติตาม คนในประเทศไทยจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ หยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสิ้นปีนี้ได้เหมือนประเทศอังกฤษ #AZเข็มเดียวพอ


ที่มา : https://www.facebook.com/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%8D-%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C-FC-604030819763686

https://www.komchadluek.net/news/regional/466678

‘บิ๊กตู่’ สั่ง! หน่วยงานรัฐ กำหนดเกณฑ์-คุณสมบัติ สอบข้าราชการ ให้ครอบคลุม พฤติกรรม-จริยธรรม ที่ถูกต้องดีงาม

วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้นโยบายกับทั้งส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในหลายโอกาสในประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้จริยธรรมที่ถูกต้องดีงามอย่างเคร่งครัดนั้น

ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ และคุณสมบัติในการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ หรือจัดจ้างเป็นพนักงาน พนักงานราช ลูกจ้างของราชการ หรือหน่วยงานของรัฐตามแต่กรณีให้ครอบคลุมถึงพฤติกรรมและมาตรฐานทางจริยธรรมที่ถูกต้องดีงามด้วย 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคลากรของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีความรู้ความสามารถ มีความประพฤติเหมาะสม รวมทั้งมีคุณสมบัติในการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ดี ซึ่งจะมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาด้านจริยธรรมในภาคราชการและสังคมไทยในภาพรวมต่อไป ในการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนเงินเดือน ค่าตอบแทน หรือเพื่อต่อสัญญาให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนำหลักเกณฑ์ด้านความประพฤติและมาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาด้วยอย่างเคร่งครัด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้จริยธรรมที่เข้มงวด โดยนอกจากข้อสั่งการการกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าปฏิบัติหน้าที่ในระบบราชการ และหน่วยงานของรัฐข้างต้นแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้เห็นชอบประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง เพื่อเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ ในการประพฤติปฏิบัติของข้าราชการการเมืองที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยกำหนดให้ข้าราชการการเมือง ต้องยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศอันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รวมถึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึกที่ดีและรับผิดชอบต่อหน้าที่ กล้าตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมและความผาสุกของประชาชน ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งต้องดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ

“ทนายด่าง” เผย “ทนายนรเศรษฐ์” ติดโควิด ส่วนทีมทนายที่สัมผัสรุ้งกักตัวหมดเเม้ตรวจไม่พบเชื้อยืนยันยังมีทีมทนายอีกเป็น 10 ช่วยยื่นประกันผู้ต้องขังออกจากเรือนจำ ลุ้นศาลอนุญาตไต่สวนประกัน “ไมค์” ผ่านคอนเฟอรเรนซ์ ส่วนคดีหลักขอเลื่อนนัดสืบพยาน

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นาย กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่าขณะนี้ได้รับทราบผลตรวจเชื้อว่า นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ซึ่งเป็น 1 ในทีมทนายของเราตรวจพบเชื้อโควิด-19 ส่วนตนเเละมารดาของ น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล จำเลยคดีชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร 2563 ปักหมุดสนามหลวงที่ติดเชื้อโควิด19 นั้นผลตรวจไม่พบเชื้อ ในส่วนของคดีความปักหมุดที่มีนัดสืบพยานครั้งเเรกวันที่ 19 พ.ค. 64 คงต้องขอศาลเลื่อนออกไปเพราะจำเลยตรวจพบเชื้อโควิดหลายคน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ก็ยังป่วยอยู่ 

ส่วนทีมทนายคนไหนที่สัมผัสกับ น.ส.ปนัสยา ซึ่งรวมถึงตนด้วยก็ต้องกักตัว 14 วันตามมาตรการ เเต่ในส่วนคดีที่จะมีการยื่นประกันเเกนนำเเละเเนวร่วมที่เหลือไม่ต้องเป็นห่วงทางศูนย์ทนายยังมีทนายความอีกหลายคนที่ไม่ได้สัมผัสผู้ติดเชื้อก็ยังทำงานเพื่อช่วยพวกเขาออกมาได้ 

อย่างเคสของนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ จำเลยที่ 6 ซึ่งติดเชื้อโควิดอยู่ในเรือนจำ วันนี้เราก็ยื่นขอให้ศาลมีการไต่สวนผ่านวีดีโอคอนเฟอรเรนซ์ ก็รอดูอยู่ว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างไรในวันนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top