Tuesday, 20 May 2025
NewsFeed

‘พปชร.’ เดินหน้าวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน หวังเป็นที่ยอมรับของ ปชช. เตรียมให้ สส.ลงพื้นที่มากขึ้น - จ่อเป็นคนกลางเชื่อมการเมือง 2 ฝ่าย

(11 มี.ค. 67) สิ้นเสียงของ ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ พปชร. ประกาศปรับลุคเคลื่อนทัพทางการเมืองใหม่ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถูกสังคมส่องสปอตไลต์ตลอด ไปถอดรหัสผ่านมุมมองของนักการเมืองระดับเก๋าเกม โลดแล่นอยู่บนถนนเส้นนี้กว่า 30 ปี โดย นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการ พปชร. และแกนนำอีกคนของ พปชร. สะท้อนให้เห็นถึงจุดประสงค์ของการประกาศดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับผู้สนับสนุนพรรค พปชร.

ขณะนี้กำลังวางยุทธศาสตร์ทำให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้น ทั้งฐานะพรรคร่วมรัฐบาล มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้า พปชร. เป็น รมช.สาธารณสุข พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา พปชร. เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยเฉพาะ 2 กระทรวงหลัก เกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมาก ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายนำเสนอไปแล้วถูกใจประชาชนหรือไม่ แต่ไม่ได้ทิ้งด้านเศรษฐกิจ พลังงาน ท่องเที่ยว

ซึ่งมีผู้มีประสบการณ์ผ่านมาแล้วหลายกระทรวง มีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เข้ามาดูควบคู่กันไป อาจเรียกได้ว่าด้านเศรษฐกิจมีผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยไปกว่าพรรคอื่น ไม่อยากพูดว่าเหนือกว่าพรรคอื่น

บนเป้าหมายสร้างความเข้มแข็งให้ พปชร. เพื่อกลับมาในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมืองต้องมีความพร้อม ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมตลอดเวลา เพราะไม่มั่นใจการเมืองในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ถึงขั้นว่าพร้อมวันนี้

ฉะนั้นเป้าหมายปี 67 ทำยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมคิดนโยบาย ปี 68 ประกาศชัดเจนเดินไปข้างหน้าอย่างไรให้ประชาชนยอมรับมากขึ้น

โดยให้ผู้สมัคร สส.ที่ไม่ได้รับเลือก ติดพื้นที่ใกล้ชิดประชาชน หลายเขตเป็นผู้ที่มีศักยภาพ มีโอกาสในการเลือกตั้งครั้งหน้า และ สส. 39 เขต กระจายทั่วทุกภาค ไปขยายฐานเพิ่ม

โดยเฉพาะความเห็นที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว ยังมองไม่เห็นคนกลางที่สามารถเชื่อมทั้ง 2 ฝ่าย และอาจมีฝ่ายที่ 3 ที่คิดว่าทั้ง 2 ขั้วก็ไม่ถูกต้อง

แต่รัฐบาลมีความตั้งใจ ถ้าไม่สำเร็จ ขอแค่ได้เริ่มสัก 50%

วางให้ชัดเจนในส่วนที่สามารถยอมรับกันได้ โดยเฉพาะการแก้ไขรธน. กติกาในการ บริหารประ เทศที่ออกมาเป็นที่ยอมรับแค่ไหน

ทั้งนี้ การสลายขั้วทางการเมืองกับการแสดงความคิดเห็นต้องแยกกัน สลายขั้วอาจเป็นพรรค และผู้สนับสนุน แต่สลายขั้วทางความคิด อาจเป็นเรื่องยาก

ฉะนั้นความคิดต่างกันได้ แต่ต้องยอมรับกติกาเลือกตั้ง ปล่อยฝ่ายชนะได้บริหารประเทศ ฝ่ายแพ้ก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ยกเว้นเกิดทุจริต คงต้องปล่อยให้ระบบจัดการ

ขณะนี้เริ่มเห็นปรากฏการณ์ที่ฝ่ายค้าน และรัฐบาลยอมรับในบางเรื่องที่ถูกต้อง ยอมรับความเห็นของพรรคตรงข้าม ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสังคมที่สามารถชี้นำ และบีบฝ่ายที่ไม่มีเหตุผลหรือทำไม่ถูกต้อง

ภาพรวมรัฐบาลอยู่ตลอดรอดฝั่งครบเทอม 4 ปี หรือไม่ นายวราเทพ บอกว่ารัฐบาล พรรคการเมือง สส. ล้วนอยากให้อยู่ครบวาระ รวมถึงผมด้วย เพื่อทำให้การเมืองต่อเนื่อง

เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นสภาฯ และรัฐบาลได้ทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน มากกว่าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเร่งด่วนในขณะนี้

“ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณที่มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อน 4 ปี พรรคร่วมรัฐบาลยังสามัคคี ไม่มีความขัดแย้ง

แต่ปัจจัยภายนอกที่คนเห็นอยู่ และคิดได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ด้วยโครงสร้างปัจจุบันบอกว่าพรรคการเมืองยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะพรรคแกนนำมีเสียงไม่เกินกว่าครึ่งหนึ่ง”

‘รัฐบาลสลายขั้ว’ ตรงกับนโยบาย พปชร. ‘ก้าวข้ามความขัดแย้ง’ ทั้งรัฐบาล และ พปชร.ต้ องปรับบทบาทอย่างไร เพื่อให้เดินไปสู่รัฐบาลสลายขั้ว สร้างความปรองดอง นายวราเทพ บอกว่า เราเป็นพรรคอันดับ 3 สนับสนุนเต็มที่ และมีจุดยืน ทำให้สังคมเกิดความสงบ

แต่การขับเคลื่อนต้องรอพรรคเพื่อไทย แกนนำอันดับ 1 โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ที่กำลังดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการแก้ รธน.หรือการทำประชามติแก้ รธน.

การเคลื่อนไหวของ ‘ลุงป้อม’ ยังถูกจับตามีโอกาสกลับมาเป็นรองนายกฯ เพราะตามโควตาพรรค พปชร.เหลืออีก 1 เก้าอี้รัฐมนตรี นายวราเทพบอกว่า มองเชิงการเมืองอาจคาดการณ์ได้ อาจมีการวิพากษ์วิจารณ์

แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้า พปชร. และต้องหารือตกลงร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคแกนนำ ที่ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ หรือเป็นกิจจะลักษณะ

กระแสที่จะกลับมาเป็นนายกฯ ช่วงหลังวุฒิสภาอภิปรายทั่วไปรัฐบาล นายวราเทพบอกว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะมี อาจมีคนคิด แต่ในส่วนของ พปชร.ผมไม่เคยได้ยิน

เพราะทางการเมืองกำลังจะเกิดปรากฏการณ์ยุบ 2 พรรค มีการทาบทาม สส.ของทั้ง 2 พรรคเข้าร่วมงานกับพรรค พปชร.อย่างไร นายวราเทพ บอกว่า เรื่องนี้อยู่นอกเหนือจากความเป็นทางการ
ผมยังไม่ได้ยินกรณีนี้ มีหรือไม่มี เราพูดยาก อาจมีก็ได้ แต่เขาคงไม่อยากให้มีการพูดถึง มันเป็นเรื่องอนาคต ยังไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไร

‘ลุงป้อม’ เคลื่อนไหวทางการเมืองลักษณะนี้ ได้รับสัญญาณพิเศษอะไร นายวราเทพ บอกว่า ไม่มีสัญญาณพิเศษ แต่อยากเห็นพรรคต่างจากในอดีต เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วทิ้งงานของพรรค ไม่มีใครรับผิดชอบ พอยุบสภาฯ ถึงกลับมาหาประชาชน หากผลงานรัฐบาลดีอาจได้รับการรับเลือก แต่ถ้าผลงานไม่ดีอาจแพ้เลือกตั้ง

คราวนี้เราต้องทำงานคู่ขนานกับการร่วมรัฐบาล พปชร.ต้องเคลื่อนไหวตลอดให้ประชาชนสัมผัสได้

ผลสำรวจพบ UK เป็นชาติที่มีความทุกข์มากสุดอันดับ 2 ของโลก สุขภาพจิตดำดิ่งตั้งแต่โควิดระบาด ยังไม่พบเห็นสัญญาณการฟื้นตัว

(11 มี.ค.67) สหราชอาณาจักรกลายเป็นชาติที่ไร้ความสุขมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จากผลสำรวจที่จัดทำโดย Sapien Labs กองทุนประสาทวิทยาศาสตร์ โดยผลสำรวจพบ สุขภาพจิตของชาวสหราชอาณาจักรดำดิ่งนับตั้งแต่วิกฤตโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และยังไม่พบเห็นสัญญาณการฟื้นตัว

รายงานประจำปี ‘สถานะทางจิตของโลก’ Mental State of the World ของ Sapien Labs ซึ่งปีนี้จัดทำเป็นปีที่ 4 ได้ทำการประเมินสุขภาวะทางจิต (Mental Wellbeing) ของผู้เข้าร่วมทางอินเทอร์เน็ต 419,175 คน จาก 71 ประเทศ ซึ่งผลลัพธ์ได้ให้ภาพอันมัวหมองของโลกที่พูดภาษาอังกฤษ โดยใน 71 ประเทศ บรรดาชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ (Anglophone) ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย.และนิวซีแลนด์ อยู่ในลำดับล่างๆ โดยเฉพาะพลเมืองสหราชอาณาจักรที่มีความสุขมากกว่าประชาชนชาวอุซเบกิสถานเท่านั้น

ผลสำรวจจัดให้สหราชอาณาจักร ตามหลัง เยเมน 8 อันดับ และตามหลังยูเครน 12 อันดับ ในแง่ของสุขภาพจิตโดยรวมของประชาชน โดยประชาชนชาวสหราชอาณาจักรราว 36% บอกกับ Sapien Labs ว่าพวกเขาทั้ง "เป็นทุกข์และกำลังประสบปัญหา" ลดลงเพียงแค่ 0.7% จากปีที่แล้ว ครั้งที่พวกเขารั้งที่สุดท้าย ในการจัดอันดับ

เพื่อสรุปถึงสุขภาพจิตโดยรวมของประชาชนในแต่ละชาติ กองทุนแห่งนี้ได้ถามคำถามแต่ละคน 47 คำถาม เกี่ยวกับ ‘อารมณ์และทัศนะ’ ของพวกเขา อัตมโนทัศน์ด้านสังคม (Social-Self) แรงผลักดันและแรงจูงใจ การปรับตัวและความยืดหยุ่น เช่นดียวกับอื่นๆ แม้ Sapien Labs คำตอบของคำถามเหล่านี้เป็นลักษณะคำตอบแบบอัตนัย แต่รายงานต่างได้ผลสรุปออกมาคล้ายๆ กัน

ท่ามกลางมาตรฐานการดำรงชีพที่ตกต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สำนักงานสถิติแห่งชาติสหราชอาณาจักรเผยแพร่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน พบว่า ชาวสหราชอาณาจักรมีความสุขและความพึงพอใจส่วนบุคคลลดลงในช่วงขวบปีสิ้นสุดเดือนมีนาคมปีก่อน และจากรายงานที่เผยแพร่ในนิตยสารทางการแพทย์ The Lancet เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าประชาชน 1.8 ล้านคน ปัจจุบันกำลังรอการเข้ารับการรักษาด้านสุขภาพจิต

ทั้งนี้ Sapien Labs ระบุว่า ระดับความผาสุกทางจิตของโลกที่พูดภาษาอังกฤษดำดิ่งลงระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และภาวะตกต่ำนี้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่พบเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น รายงานพบว่าความผาสุกทางจิตใจลดต่ำลงในประเทศต่างๆ ที่รับประทานอาหารแปรรูปโดยทั่วไป เด็กๆ มีสมาร์ทโฟนตั้งแต่อายุยังน้อย และความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวเหินห่าง ซึ่งประเทศต่างๆ ที่พูดภาษาอังกฤษทำคะแนนได้ค่อนข้างน้อยในมาตรวัดทั้ง 3 นี้

สาธารณรัฐโดมินิกันรั้งอันดับสูงสุดในบัญชีประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ส่วนอันดับ 2 เป็นของศรีลังกาและแทนซาเนีย ตามมาเป็นอันดับ 3 โดยทุกประเทศที่ติดอันดับท็อปเท็นมาจากแอฟริกา เอเชีย หรือไม่ก็ละตินอเมริกา "รูปแบบดังกล่าวบ่งชี้ว่าความมั่งคั่งและเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วไม่จำเป็นต้องนำมาซึ่งความผาสุกทางจิตใจ" Sapien Labs ระบุ

'EGCO Group' แต่งตั้ง 'กัมปนาท บำรุงกิจ' ดำรงตำแหน่ง 'รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่'

(11 มี.ค. 67) บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ประกาศแต่งตั้ง นายกัมปนาท บำรุงกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานปฏิบัติการ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ และทำหน้าที่รักษาการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมทั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดย่อย ได้แก่ กรรมการลงทุน กรรมการกำกับความเสี่ยง และกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป จนกว่าคณะกรรมการบริษัทจะแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่

ทั้งนี้ นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการกำกับความเสี่ยง ซึ่งจะมีผลในวันที่ 14 มีนาคม 2567 แต่ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ กรรมการลงทุน และกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืนของบริษัท

‘จอห์น ซีนา’ ทำถึง!! ‘แก้ผ้า’ ขึ้นเวทีออสการ์ 2024 เพื่อประกาศรางวัลสาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม

(11 มี.ค.67) เป็นที่จับตาดูอยู่ตลอดในการประกาศรางวัลต่างๆ ฝั่งฮอลลีวูดว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรที่ทำให้ตาค้างได้หรือไม่ ล่าสุดกับงานประกาศรางวัลออสการ์ 2024 ก็ทำเอาผู้ชมตะลึงไปตามๆ กันเมื่อผู้ประกาศรางวัลมาในชุดวันเกิด เปลือยทั้งตัว

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างประกาศผลรางวัลก่อนการถ่ายทอดสด จอห์น ซีนา นักแสดงดังได้ปรากฏตัวบนเวทีที่ทรงเกียรติที่สุดของฮอลลีวูดเพื่อประกาศรางวัลสาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม

ทำเอาพิธีกรอย่าง จิมมี คิมเมล ถึงขั้นย้อนความหลังไปเมื่อปี 1974 ที่เคยมีชายคนหนึ่งวิ่งแก้ผ้าข้ามเวทีออสการ์พร้อมกับชูสองนิ้ว แต่มาวันนี้เมันเกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว

ซึ่ง จอห์น ซีนา ที่ยืนแอบอยู่มุมเวที ได้ตะโกนออกมา “ผมเปลี่ยนใจ ไม่อยากวิ่งเปลือยในที่สาธารณะแล้ว

“มันเป็นงานที่หรูหรามากนะ บอกตรงๆ ตอนนี้คุณควรละอายที่แนะนำไอเดียที่ไร้รสนิยมแบบนี้กับผม เรือนร่างผู้ชายไม่ใช่เรื่องตลก”

งานนี้ จิมมี คิมเมล เลยรีบแย้งบอกว่า “แต่ของผมตลกนะ” พร้อมบอก จอห์น ซีนา ที่เป็นทั้งนักแสดงและนักมวยปล้ำ WWE ด้วยว่า เขาขึ้นต่อสู้แบบร่างนู้ดอยู่แล้วจะอายอะไร ซึ่งทำเอา จอห์น ซีนา รีบสวนทันที “เพื่อน ผมไม่ได้ปล้ำทั้งๆ ที่เปลือย ผมใส่กางเกงสามส่วน” ทำเอาผู้ชมหัวเราะออกมา ซึ่ง จิมมี ได้โต้กลับว่า “กางเกงสามส่วนแย่กว่าเปลือยอีก ออกมาเถอะน่า”

ก่อนที่จะตะลึงเมื่อได้เห็น จอห์น ซีนา ขยับร่างมาบนเวทีพร้อมซองประกาศผลไซส์ยักษ์เพื่อเอาไว้ปิดบังความเป็นชาย ก่อนจะพูดใส่ไมค์ว่า

“เครื่องแต่งกายเป็นสิ่งสำคัญ บางทีน่าจะสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้“

งานนี้ จิมมี คิมเมล ได้จับ จอห์น ซีนา ซ่อนในผ้าม่านก่อนจะประกาศผลรางวัล ผู้ชนะในสาขานี้ได้แก่ ทีมคอสตูมจากเรื่อง ‘Poor Things’

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า จอห์น ซีนา ดูเหมือนจะเปลือยอยู่บนเวที แหล่งข่าวที่มีความรู้บอกกับ CNN ว่าเขา “ถูกแปะกันโป๊บริเวณขาหนีบและร่องก้น ส่วนซองจดหมายก็มีตีนตุ๊กแกแปะไว้ให้เขาอีกทีเพื่อกันโป๊”

“เชียงราย”ทัพเจ้าตากปะทะเดือดกลางป่าชายแดนแม่ฟ้าหลวงตรวจยึดยาบ้าจำนวน1,600,000 เม็ด”

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 เวลา 19.30 นาฬิกา กองกำลังผาเมือง โดย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จัดกำลังพลจาก กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 ปฏิบัติภารกิจ เฝ้าตรวจ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามแนวชายแดน บริเวณ บ้านปูนะ ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ประมาณ 7 - 8 คน เจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ฝ่ายเรา  และเกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที ฝ่ายเราปลอดภัย เนื่องจากเป็นห้วงเวลากลางคืน ทำให้ ไม่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ได้ จึงได้จัดกำลังเพิ่มเติม จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ วางกำลังควบคุม พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรอการพิสูจน์ทราบเมื่อสามารถตรวจการณ์ได้

จนกระทั่งเมื่อเวลา 06.30 นาฬิกา ของวันที่ 11 มีนาคม 2567 จึงได้จัดกำลัง เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจพบเป้สะพายหลังดัดแปลง จำนวน 8 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวนประมาณ 1,600,000 เม็ด

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 นาฬิกา พันเอก มีชัย  นิลศาสตร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย กองบังคับการควบคุมผาแด่น หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นจึงได้นำของกลางทั้งหมดส่งให้กับสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

Shaun King 'นักเขียน-นักวิเคราะห์' ข่าวชาวสหรัฐฯ เข้าถึงแก่น เปลี่ยนจากศาสนาเก่า รับศาสนาอิสลาม

(11 มี.ค. 67) จากเฟซบุ๊ก 'Syedmubarak Husaini' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ข่าวดีต้อนรับเดือนรอมฏอน Shaun King นักเขียนและนักวิเคราะห์ข่าวชาวสหรัฐได้เปลี่ยนศาสนาและเข้ารับศาสนาอิสลาม ณ เมืองเท็กซัส เมื่อเช้าวันนี้

หากจำกันได้ Shaun King เป็นหนึ่งในนักวิเคราะห์ที่โด่งดังและมีผู้ติดตามหลายล้านคน และแชร์บทสัมภาษณ์ของผมกับ Sky News ลง IG ท่าน จนมีผู้ชมมากกว่า 20 ล้านวิว และหลังจากสงครามที่เกิดขึ้นกับชาวปาเลสไตน์ ท่านได้เห็นอกเห็นใจชาวปาเลสไตน์และเริ่มศึกษาอิสลามอย่างจริงจัง จนมาวันนี้ท่านและภรรยาของท่านได้เปลี่ยนศาสนาและนับถืออิสลามแล้ว เมื่อเข้ารับอิสลาม IG ของท่านถูกมารศาสนาปิดถาวรตามธรรมเนียม

ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า...

“การสังหารผู้บริสุทธิ์ชาวปาเลสไตน์โดยรัฐเถื่อน การยืนหยัดท่ามกลางลูกระเบิดของชาวปาเลสไตน์ จะทำให้ชาวตะวันตกตื่นตัวว่า อัลกุรอานสอนอะไรที่ทำให้พวกเขามีความมุ่งมั่นเช่นนี้ และจะทำให้พวกเขาศึกษาอัลกุรอานและท้ายที่สุดพวกเขาจะมีศรัทธาต่ออิสลาม”

รู้จัก ‘กมลพรรณ’ จิตอาสาผู้รักและหวงแหนผืนป่า  สู่เจ้าหน้าที่ตัวจริงของอุทยานเขาคิชฌกูฏ

เมื่อไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช’ โพสต์ข้อความแนะนำ ‘กมลพรรณ วงค์วิจิตร์’ เจ้าหน้าที่ตัวจริงของอุทยานเขาคิชฌกูฏ ผู้มีจิตใจรักและหวงแหนผืนป่า โดยระบุว่า…

พามารู้จัก ‘น้องกมลพรรณ’ อดีตผู้เข้าร่วมโครงการนักเรียน นักศึกษา ช่วยปฏิบัติงานอุทยานแห่งชาติ สู่เจ้าหน้าที่ตัวจริงของอุทยานเขาคิชฌกูฏในปัจจุบัน

นางสาวกมลพรรณ วงค์วิจิตร์ ได้เข้าร่วมโครงการนักเรียน นักศึกษาช่วยปฏิบัติงานอุทยานแห่งชาติ เมื่อปีงบประมาณ 2557 ขณะนั้นศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ หลังจบโครงการฯ น้องเข้าศึกษาต่อจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะศิลปศาสตร์​ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเข้าทำงานที่ จ.เชียงใหม่ เป็น Operator ของบริษัทเอกชน 5 ปี ก่อนมาทำงานที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ตำแหน่ง พนักงานธุรการ

และเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 67 ได้มีแถลงข่าวตัวโครงการนักเรียน นักศึกษาช่วยปฏิบัติงานอุทยานแห่งชาติ กมลพรรณ วงค์วิจิตร์ ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นและเส้นทางก่อนจะได้เป็นมาเจ้าหน้าที่ของอุทยานเขาคิชฌกูฏว่า…

"โครงการนักเรียน นักศึกษา ช่วยปฏิบัติงานอุทยานแห่งชาติ เป็นโครงการที่ดี นอกจากจะได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แล้วยังสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการทำงานเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย พี่ ๆเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ใจดี ตนรู้สึกอบอุ่นใจ ช่วงนั้นก็ได้ทำงานหลายอย่างเพราะพี่ ๆ อยากให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติไปด้วย ทั้งงานบริการ งานเอกสาร งานปรับปรุงภูมิทัศน์ เรียกได้ว่าช่วยแบ่งเบางานของพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ หลังจบโครงการก็กลับไปศึกษาต่อจนจบ และก็ได้ทำงานในบริษัทเอกชน ก่อนกลับมาอยู่บ้านที่จังหวัดจันทบุรี” 

“ต่อมาอุทยานแห่งชาติเขาคิชกูฏรับสมัครงาน จึงเข้ามาสมัครงาน พอได้เข้ามาทำงานก็ได้นำประสบการณ์จากที่เคยช่วยงานกับอุทยานฯ ในครั้งนั้นมาปรับใช้ในการทำงาน สิ่งที่แตกต่างจากครั้งนั้นคือได้รับผิดชอบงานเฉพาะทางมากขึ้น แต่ที่นี่ยังอบอุ่นเหมือนเดิมค่ะ" กมลพรรณ กล่าว

‘อดีตผู้ว่าอัศวิน-สส.รทสช.’ เตรียมลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง ถามหา “ชัชชาติ...สิ่งดีๆ คลองโอ่งอ่าง...หายไปไหน?”

(11 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ แจ้งกำหนดการ ของอดีตผู้ว่า กทม.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพคลองโอ่งอ่างในปัจจุบัน หลังมีการแชร์และพูดถึงกันในโซเชียลมีเดียที่ระบุว่าเปลี่ยนไปจากเดิม

โดยกำหนดการดังกล่าว แจ้งว่า สส. เกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จะลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง ถามหา “ชัชชาติ…สิ่งดีๆ คลองโอ่งอ่าง….หายไปไหน“

สืบเนื่องจาก นายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หารือ ในสภาฯ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ถึงกรณีทำไม! กทม.จึงปล่อยทิ้งคลองโอ่งอ่าง ให้กลับสู่สภาพเดิม จนหมดคุณค่าความเป็น Landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร และเมินจัด ‘ถนนคนเดิน’ ทั้งที่สร้างรายได้ให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่

โดยทั้ง 2 ท่าน จะลงพื้นที่ ในวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2567 ในเวลา 10.30 น. เดินสำรวจ และรับเรื่องร้องเรียน จากผู้ค้า และ เวลา 11.30 น. จะมีการสอบถามเพิ่มเติม

‘รัฐบาลเกาหลีใต้’ เตรียมระงับใบประกอบวิชาชีพ ‘หมอฝึกหัด’ 5 พันคน  หลัง ‘ลาออก-นัดหยุดงาน’ ประท้วงนโยบายเพิ่มโควตารับนักศึกษาแพทย์

(11 มี.ค.67) รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่า ได้เริ่มกระบวนการที่จะระงับใบประกอบวิชาชีพของแพทย์ฝึกหัดเกาหลีใต้ ที่เข้าร่วมขบวนการประท้วงรัฐบาลด้วยการยื่นใบลาออก และนัดหยุดงาน เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกนโยบายเพิ่มโควตาการรับนักศึกษาแพทย์ในปีนี้ และปฏิรูประบบการฝึกอบรมแพทย์ครั้งใหญ่ จนสร้างความปั่นป่วนในระบบการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 

จุน บยอง-วัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางการเกาหลีใต้ได้ส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังกลุ่มแพทย์ฝึกหัดชุดแรกจำนวน 4,944 คนตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พวกเขาเหล่านั้นต้องส่งเอกสารตอบกลับเรื่องมาตรการลงโทษนี้ให้ทันภายในวันที่ 25 มีนาคม 2567 นี้ มิฉะนั้นใบประกอบวิชาชีพของพวกเขาจะถูกระงับ

การประท้วงของกลุ่มแพทย์ฝึกหัดของเกาหลีใต้ เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อบรรดาแพทย์ฝึกหัดในโรงพยาบาลนัดกันยื่นใบลาออก หรือพากันวอล์กเอาต์ออกจากที่ทำงาน จนทำให้บุคลากรการแพทย์ในโรงพยาบาลหลายแห่งขาดแคลนอย่างกะทันหัน จนไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้ทัน บางโรงพยาบาลต้องเลื่อนกำหนดผ่าตัด หรือส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลอื่น 

แม้ว่ารัฐบาลเกาหลีใต้จะออกมาตำหนิให้กลุ่มแพทย์ฝึกหัดอย่างรุนแรงว่าขาดจิตสำนึกที่ทิ้งคนไข้ และขู่ว่าจะดำเนินคดี และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกลุ่มแกนนำในการประท้วงครั้งนี้ 

แต่การลาออกของแพทย์ฝึกหัดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (8 มี.ค. 67) พบว่ามีแพทย์ฝึกหัดในเกาหลีใต้จำนวน 11,994 คนจาก 100 วิทยาลัยแพทย์ทั่วประเทศยื่นจดหมายลาออกเพื่อประท้วงรัฐบาล คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 93% ของจำนวนแพทย์ฝึกหัดทั้งหมดในเกาหลีใต้

เมื่อบรรดาแพทย์ฝึกหัดไม่ยอมถอย รัฐบาลเกาหลีใต้จึงต้องยกระดับการกดดันด้วยการส่งจดหมายแจ้งเตือนการระงับใบประกอบวิชาชีพชั่วคราวชุดแรกกว่า 5,000 ฉบับ เพื่อกระตุ้นเตือนให้เหล่าแพทย์ฝึกหัดที่ลางาน รีบกลับมาทำงานก่อนผลการพิจารณาตัดสินโทษจะแล้วเสร็จ อีกทั้งยังขู่ที่จะดำเนินคดีกลุ่มแพทย์ฝึกหัดแกนนำรุ่นพี่ ที่แสดงพฤติกรรมข่มขู่ คุกคาม หรือขัดขวางรุ่นน้องไม่ให้กลับเข้ามาทำงานอีกด้วย 

พร้อมทั้งย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มจำนวนแพทย์เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล หรือแพทย์เฉพาะทาง เช่น ด้านกุมารเวชศาสตร์และศัลยกรรมระบบประสาท เพื่อรองรับสังคมประชากรสูงวัยของเกาหลีใต้ในอนาคต ดังนั้นรัฐบาลเกาหลีใต้ยังไม่ยอมถอยเรื่องการเพิ่มโควตารับนักศึกษาแพทย์อีก 60% ในปีการศึกษาหน้า

แต่ทั้งนี้ โช คยูฮง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทางรัฐบาลยังเปิดกว้างสำหรับการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อแก้ปัญหา ที่จะนำไปสู่การพัฒนาปรับปรุงสวัสดิภาพการทำงาน และพร้อมจะใช้มาตรการผ่อนปรนหากแพทย์ฝึกหัดที่ประสงค์จะกลับมาทำงานก่อนที่ขั้นตอนการระงับใบอนุญาตจะเสร็จสิ้น ในระหว่างนี้ รัฐบาลสั่งระดมแพทย์ทหารเข้ามาช่วยเสริมในโรงพยายาลพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการนัดหยุดงานของกลุ่มแพทย์ฝึกหัดไปก่อน 

ซึ่งในเกาหลีใต้ มีกฎหมายระบุข้อห้ามในการนัดหยุดงานของทีมแพทย์ไว้อย่างชัดเจน แต่เมื่อมีการนัดหยุดงานของกลุ่มแพทย์ฝึกหัดเกิดขึ้น ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงต้องส่งเรื่องให้ตำรวจเข้ามาสอบสวนหาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนัดหยุดงาน ที่จะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายและอาจรุนแรงถึงการเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพถาวรได้ 

ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มแพทย์กับนโยบายรัฐ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเกาหลีใต้อย่างกว้างขวาง โดยกลุ่มบุคลากรการแพทย์เคยแย้งว่าการเริ่มเพิ่มจำนวนแพทย์ โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพอาจนำไปสู่ความล้มเหลวของการให้บริการด้านสาธารณสุข แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้แย้งว่า กลุ่มแพทย์ที่คัดค้านเพียงต้องการรักษาสถานะทางสังคม และ มาตรฐานค่าตอบแทนในวิชาชีพของตนเท่านั้น เพราะหากมีจำนวนแพทย์เพิ่มมากขึ้นในตลาดแรงงาน ย่อมส่งผลต่อการเรียกร้องในการเพิ่มสวัสดิการ และค่าตอบแทนของแพทย์ในอนาคตได้ 

เชียงใหม่-ชุด“แรด” หนึ่งเดียวในไทย”soft power “ limited edition สวนสัตว์เชียงใหม่

มาแล้วชุด“แรด” หนึ่งเดียวในไทย”soft power “ limited edition สวนสัตว์เชียงใหม่ ใส่ต้อนรับสงกรานต์ นี้ รายได้ส่วนหนึ่งจะนำบริจาคทำบุญเป็นค่าอาหารสัตว์สวนสัตว์เชียงใหม่

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ขานรับกิจกรรม“soft power” โดยได้ให้ผลิตเสื้อผ้าชุดลำลอง คลายร้อน เป็นเสื้อเชิ้ตคอฮาวาย กางเกงขาสั้นแบบสุภาพ ใส่สบาย สวยน่ารัก หล่อเท่ห์  ต้อนรับสงกรานต์ โดยเสื้อและกางเกงเนื้อผ้าพื้นสีครีมโอรส พิมพ์ลายด้วยทองกวาวสีแสด ดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และพิมพ์ลายตัวกาลิแรดอินเดียที่มีอยู่หนึ่งเดียวประเทศไทย ที่สวนสัตว์เชียงใหม่สกรีนลายและตัดเย็บโดยช่างมืออาชีพติดกระดุมกะลาแท้ 

เบื้องต้นนี้ ผู้ประกอบการได้ผลิตและจำหน่าย จำนวนทั้งสิ้น 800 ชุดๆ ละ 399.-บาทเท่านั้น ได้ทั้งเสื้อและกางเกง ทุกชุดของการสั่งซื้อรายได้ส่วนหนึ่งจะนำบริจาคทำบุญเป็นค่าอาหารสัตว์สวนสัตว์เชียงใหม่ อีกด้วย

ผู้สนใจสามารถเข้าไปได้ที่ Facebook สวนสัตว์เชียงใหม่ และสั่งจองได้ที่ ช่องทาง link https://cmzcollectionbywarinn.page365.net หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง Line :    https://lin.ee/ezu1Guo  สั่งตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2567  รับสินค้าได้ภายใน10 เมษายน 2567 ก่อนสงกรานต์ ใส่ปีใหม่เมือง แน่นอน

นภาพร/เชียงใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top