Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

อัยการนัดฟังคำสั่ง"ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ" คดีม.116 ที่ อดีตพระพุทธะอิสระให้ทนายเข้าแจ้งความ 13 ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้นัด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ผู้ต้องหาในฐานความผิดฐานร่วมกันยุงยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 กรณีที่ทั้ง 3 คน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กการปราศรัยกับนักศึกษา หรือการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ รวมถึงเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมทางการเมืองเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตามที่อดีตพระพุทธะอิสระให้ทนายเข้าแจ้งความเมื่อปีที่แล้ว พร้อมส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาความเห็นสั่งฟ้อง

โดยนายปิยบุตร เปิดเผยก่อนเข้าพบพนักงานอัยการ ว่า วันนี้พวกตนทั้งสามคนมาตามที่พนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องพวกเราจากกรณีเมื่อปลายเดือน ต.ค. 2563 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือที่สังคมรู้จักกันว่า พุทธะอิสระ มาร้องทุกข์กล่าวโทษพวกตนได้กระทำผิดกฎหมายมาตรา 116 เรื่องยุยงปลุกปั่น แล้ววันนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องก็จะนำตัวพวกเรามาให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ เมื่อพวกเราได้อ่านบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาของนายสุวิทย์ พวกตนไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 116 

เนื่องจากในสำนวนคำฟ้อง มีการกล่าวอ้างพฤติการณ์ของแต่ละคน เช่น กรณีของนายธนาธร คือนำเรื่องที่เคยมีเคยอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองไทยในสภา อภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่าง ๆ รวมถึงงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นผู้ที่มีส่วนในการก่อตั้งวารสารฟ้าเดียวกัน แล้วก็ไปปรากฏตัวในที่ชุมนุม ส่วนของตนเป็นการนำบทความ หรือเนื้อหาที่สมัยที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และเรื่องที่เคยมีการเขียนลงในหนังสือฉบับหนึ่ง มาชี้นำว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ส่วนกรณีของ น.ส.พรรณิการ์ มีเพียงการไลฟ์สดเฟซบุ๊กในการชุมนุมดังกล่าวเท่านั้น 

นายปิยบุตร ได้กล่าวอีกว่า หากนำข้อเท็จจริงดังกล่าว ไปออกข้อสอบในกลุ่มนิติศาสตร์ ก็เชื่อว่าทุกคนจะตอบคำถามในทางเดียวกันว่าไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ซึ่งแม้ว่าพนักงานสอบสวนจะไม่มีความเห็นงดสั่งฟ้อง หรือทำความเห็นแนบมากับสำนวนคดี ก็ตั้งความหวังว่าอัยการจะพิจารณาให้ความเป็นธรรม เช่นเดียวกับที่เคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแบบเดียวกับคดีของนายธนาธรก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคำถามกลับไปถึงกลุ่มนักร้องเรียน ว่า กลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองได้ตระเวนร้องทุกข์ไปตามหน่วยงานต่าง ๆ หรือไม่

ขณะที่นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวนเพิ่งนำสำนวนคำร้องส่งมาให้พิจารณาในวันนี้ พนักงานอัยการจึงยังไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงสรุปได้ทันทีว่า สมควรมีความเห็นทางคดีนี้อย่างไร ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเห็นควรนัดฟังคำสั่งคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 13 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

"ธันวา" แนะ นายกฯ ปรับ ครม.ดีกว่าไล่ฟ้อง ปมภาพโจรอุ้มโจร ย้ำ ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุด

นายธันวา ไกรฤกษ์ โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคการเมืองหนึ่งถูกฟ้อง ในฐานะแอดมินเพจที่โพสต์รูปภาพของบุคคล 2 คนพร้อมกับคำว่าโจรอุ้มโจรนั้นว่า หากดูตามข้อเท็จจริงแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาในภาพมีสิทธิ์ฟ้องได้ แต่ก็ควรจะพิจารณาตัวเอง ถึงต้นเหตุที่นำมาซึ่งภาพดังกล่าว รวมถึงภาพรวมว่ามันถูกต้องตามหลักจริยธรรม และมันคัดค้านต่อความรู้สึกของประชาชนคนไทย หรือไม่ด้วย 

"ถ้าไม่ยอมรับความจริงและแก้ให้ถูกจุด อีกหน่อยคงได้ไล่ฟ้องคนทั้งประเทศ เพราะไม่ว่าจะฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา เชียร์พรรคไหนขั้วไหน ก็คิดเหมือนกันหมดในเรื่องนี้ ยิ่งฝืน ยิ่งดิ้น ยิ่งดูเสื่อม กลายเป็นสร้างความชอบธรรม สร้างแต้ม ให้คนอื่นเขาเปล่า ๆ ดังนั้น หากรักประเทศชาติจริงอย่างปากว่า ก็ควรคิดเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อส่วนรวม และปรับครม." โฆษกพรรคกล้ากล่าว 

นานธันวา กล่าวย้ำว่า การที่ตนเองออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ แม้จะเป็นเรื่องของพรรคการเมืองอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคกล้าโดยตรง แต่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ ดังนั้นในฐานะพรรคการเมืองที่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ไม่แตกแยก และมีมาตรฐานทางจริยธรรม จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแสดงความคิดเห็น

“บิ๊กตู่”เตรียมตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนกทม. ติดตามความพร้อม รพ.บุษราคัม ก่อนเปิดให้บริการผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลือง-กลุ่มสีเขียวภายในสัปดาห์นี้ 

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดการตรวจเยี่ยมและติดตามระบบการฉีดวัคซีนที่จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ในวันที่ 12 พ.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. ซึ่งเป็นวันแรกที่จะให้บริการ 1,000 คน ต่อวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. จากนั้นวันที่ 13 พ.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่จามจุรีสแควร์  

จากนั้นในวันที่ 14 พ.ค. ในช่วงเช้าเวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการตรวจเยี่ยมและติดตามความพร้อมโรงพยาบาลสนามเมืองทองธานี (รพ.บุษราคัม) ที่อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ภายหลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าวานนี้ (10 พ.ค.) พร้อมระบุว่า จะเปิดให้บริการผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลือง และกลุ่มสีเขียวภายในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายวันที่ 14 พ.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ ด้วยเช่นกัน

สำหรับจุดฉีดวัคซีนดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร หอการค้าไทย โรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนของภาคเอกชน หรือ “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย” เพื่อให้สามารถให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

“บิ๊กตู่” ยกวัคซีนโควิดเป็นวาระแห่งชาติ ยืนยัน ค่าคัดกรอง-รักษา โควิด-19 ประชาชนไม่ต้องออกค่าใช้จ่าย ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน “วอน” ประชาชนระวังตัวเองมากที่สุด สั่งพื้นที่เร่งให้ข้อมูลประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เสพข้อมูลที่พิสูจน์แล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ในวันนี้ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศบค. รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่ได้มีการสั่งการลงไปแล้ว เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ในส่วนของการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะคลองเตยตนได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมากและส่งผลกระทบกับชีวิตความปลอดภัยของประชาชนจำนวนมาก ตนในฐานะผอ. ศูนย์ศบค. กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังเข้าป้องกันการแพร่ระบาดลุกลามอย่างเต็มที่ โดยมียุทธวิธีสำคัญในการเอาชนะศึกคือการระดมตรวจเชิงรุกให้ได้มากที่สุดในพื้นที่เป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นมา ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการตรวจไปแล้วมากกว่า 70,000 ราย ในชุมชนที่มีความเสี่ยง หรือ 7,000 รายต่อวัน และสามารถคัดแยกผู้ติดเชื้อ ไปได้อย่างทันการณ์ ระยะผู้ที่มีความเสี่ยงที่อยู่ใกล้ชิดกับตัวเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อต่อและจำกัดวงการแพร่ระบาดให้แคบที่สุดและสั้นที่สุด ดังนั้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจจะพบยอดผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการตรวจเชิงรุกแบบปูพรม ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในช่วงนี้มีขึ้นลงอยู่บ้าง แต่ทางทีมแพทย์เชื่อมั่นว่าวิธีนี้จะทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยไม่ช้า ยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่จะค่อย ๆ ลดลง

โดยล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ เริ่มทรงตัว และ เป็นแนวโน้มที่ดี แต่ยังคงไม่นอนใส่ไม่ได้จะต้องดำเนินการตรวจเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงให้มากและเร็วที่สุด จะต้องมีการฉีดวัคซีน ระดมฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนให้ได้มากที่สุด ตัดวงจรโดยสะเก็ดไฟ ที่ปะทุอยู่ขณะนี้ โดยขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วในพื้นที่คลองเตยมากถึง 13,000 คน หรือร้อยละ 30 ของเป้าหมายจาก 50,000 คน ส่วนในพื้นที่เขตปทุมวันได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่าร้อยละ 50 ของเป้าหมาย จาก 14,000 คน โดยสรุปแล้วเฉลี่ยการฉีดวัคซีนในพื้นที่ 2 เขตได้ถึง 2,000 คน โดยผลการดำเนินการจากคลัสเตอร์คลองเตย จะเป็นแนวทางในการจัดการการแพร่ระบาดในพื้นที่อื่น ๆ ของพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลและพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอน sandbox ที่มีความเสี่ยงสูงที่กำลังดำเนินการอยู่

ส่วนการรักษาพยาบาลของผู้ติดเชื้อ ตนขอยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลค่ารักษาพยาบาลออกค่าใช้จ่ายให้ประชาชนตามสิทธิ์ ตั้งแต่การตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง การรับวัคซีน การชดเชยกรณีได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนและการรักษาพยาบาล ในกรณีโรงพยาบาลเอกชนรัฐอุดหนุนค่าใช้จ่ายไปที่โรงพยาบาลเอกชนเพิ่มร้อยละ 25 ทุกรายการ หากมีประกันส่วนบุคคลให้โรงพยาบาลเรียกเก็บประกันส่วนบุคคลก่อน ที่เหลือให้เรียกเก็บกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสปสช. โดยห้ามโรงพยาบาลเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่เกิดความเสียหายต่าง ๆ ไม่ว่าจะบาดเจ็บ เจ็บป่วยต่อเนื่อง เสียอวัยวะพิการ ทุพพลภาพถาวรหรือเสียชีวิต สามารถยื่นขอรับเงินเยียวยาได้จาก สปสช.

นอกจากนี้ยังมีเงินประกัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้เสียสละเสี่ยงภัย ทำงานอย่างหนักในขณะนี้ โดยในวันนี้ โอนได้พบกับนายกสมาคมประกันภัย ได้มีการทํากรมธรรม์ประกันภัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด กับผู้ติดเชื้อจำนวน 270,000 ราย วงเงินความคุ้มครองมากกว่า 270,000 ล้านบาท ในกรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต รายละ 1 ล้านบาทแล้วแต่กรณี ขอประชาชนอย่าฟังข่าวที่ไม่ได้ออกมาจากทางรัฐบาล แล้วจะเกิดความสับสนอลหม่านไปหมด ยืนยันว่าจะดูแลทั้งหมดทั้งประชาชนเจ้าหน้าที่บุคลากรด้านหน้า

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีขอร้องให้ประชาชนระมัดระวังตัวเองมากที่สุด ขณะนี้ยังไม่พ้นจากการแพร่ระบาดในระลอกนี้ ขอให้ป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ ซึ่งจากข้อพิสูจน์ทราบจะเห็นได้ว่าผู้ติดเชื้อจำนวนมากในระลอกนี้เป็นการติดเชื้อในครอบครัว เพื่อนที่ทำงาน สถานประกอบการต่างๆซึ่งเป็นการยากที่ภาครัฐจะเข้าไปควบคุมดูแลได้ทั้งหมด ดังนั้นหากร่วมมือกันจะชนะศึกครั้งนี้ได้ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม เจ้าหน้าที่ทุกคนทั้งหมอพยาบาลเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขอาสาสมัคร ได้เด็ดเหนื่อยกับภารกิจในครั้งนี้ ตนจึงอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยชาติช่วยชุมชนก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ คำนึงถึงผลกระทบ จากการใช้ข่าวสารที่ไม่รู้ที่มา ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องแน่นอนอาจสร้างความวุ่นวาย ให้กับสังคม นอกจากนั้นอาจมีผู้จัดจะนานหรือไม่เจตนาสร้าง ข้อมูลเท็จหรือเฟคนิวส์ ตนขอให้หยุดการกระทำเหล่านี้เพราะเป็นการซ้ำเติมสร้างความเดือดร้อนและความเสี่ยงให้กับตนเองคนรอบข้างและประเทศชาติ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดและดำเนินการตรวจสอบและจะดำเนินการทันทีหากพบการกระทำความผิดตามกฎหมาย จึงขอให้ทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจทำเพื่อประเทศชาติและส่วนรวม จะสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันได้

โดยนายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า สิ่งที่ตนและรัฐบาลพยายามวางแผนทุกวันคือจะช่วยเหลือเยียวยาประชาชนจากผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะการปิดสถานที่ต่าง ๆ โดยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมสถานการณ์ในแต่ละจังหวัดได้ ปิดกั้นการลักลอบเข้าประเทศอย่างสูงสุด และประเมินสถานการณ์วันต่อวัน หากจังหวัดใดโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสีแดง ที่มีการปิดสถานที่และข้อจำกัดต่าง ๆ และมีสถานการณ์ที่สามารถควบคุมได้ดีขึ้นแล้ว ให้มีการพิจารณาผ่อนคลายเงื่อนไขต่อไปเพื่อให้ประชาชนได้กลับเข้าสู่การค้าขาย การเดินทางท่องเที่ยวได้เช่นเดิม ยืนยันว่าตนจะพิจารณาด้วยความรอบคอบ เพื่อรักษาสมดุล ทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจควบคู่กันไป

นอกจากนี้ปัจจัยด้านวัคซีน นายกรัฐมนตรีระบุว่า ที่ผ่านมามีการระดมฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง รวมไปถึงผู้สูงอายุ ซึ่งบางคนอาจอยู่ที่บ้านไม่สามารถเดินทางมาฉีดวัคซีนได้ โดยเร่งรัดทุกอย่าง และได้ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 2 ล้านโดส ตามวัคซีนที่มีอยู่ โดยในแต่ละวันจะระดมฉีดวัคซีนให้ได้หลายหมื่นโดส ส่วนมาตรการการจัดหาวัคซีนฉุกเฉินของรัฐบาล ได้วัคซีนเพิ่มในเดือนนี้อีก 3.5 ล้านโดส ซึ่งต้องค่อยๆสร้างความเข้าใจ สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนเนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ซึ่งอาจจะเป็นการทยอยจัดส่งวัคซีน เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นที่ได้ยินดีแล้วว่าน่าจะชัดเจนแล้วว่าวัคซีนจะเข้ามาถึงไทย 3.5 ล้านโดส รวมถึงมีความร่วมมือกับภาคเอกชนที่จะเพิ่มศักยภาพในการฉีดวัคซีน 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะสามารถจัดหาวัคซีนให้กับประชาชนภายในประเทศได้อย่างแน่นอน และจะไม่หยุดในการจัดหาและสำรองใช้เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่จะเป็นศูนย์กลางในการผลิตวัคซีน โควิด-19 ของบริษัท Astrazeneca ที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมีมาตรฐานสูง ผ่านการรับรองคุณภาพจากทั่วโลกและจะสร้างความมั่นคงยั่งยืนในการต่อสู้ไวรัสโควิด-19 ในระยะยาว และสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจการแข่งขันให้กับประเทศชาติในอนาคต

โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ตนได้เสนอให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ รายได้ดำเนินการอย่างครบวงจรทั้งการจัดหาการกระจาย รวมไปถึงการฉีดเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทย สิ่งที่ตนกล่าวไปทั้งหมดจะเป็นจริงไม่ได้ หากประชาชนในประเทศไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน โควิด-19 ตนจึงขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยนั้นสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ตนขอ รับรองว่าวัคซีนทุกชนิดที่นำเข้ามายังประเทศไทยได้รับรองคุณภาพประสิทธิภาพความปลอดภัย และได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และขณะนี้มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก มีการฉีดวัคซีนไปแล้วหลายสิบล้านคน รวมถึงผู้นำประเทศทั่วโลก ตามที่มีภาพข่าว 

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ยืนยันว่า วัคซีนโควิดทุกชนิดสามารถป้องกันการป่วยรุนแรงหากติดเชื้อ และป้องกันการติดเชื้อและเสียชีวิตได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนโอกาสผลข้างเคียงนั้นเกิดขึ้นได้น้อยมาก หากเปรียบเทียบกันแล้วกับโอกาสในการติดโควิด และรายการเสียชีวิตจากโควิดนั้นสูงกว่าการเสียชีวิตหลายเท่า การฉีดแต่ละครั้งจะต้องมีแพทย์เป็นผู้ประเมินความเหมาะสม คอยเฝ้าดูอาการหลังการฉีด ตนและคณะรัฐมนตรี รัฐบาล ฝ่ายค้านต่างก็มีผู้ฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วแต่ยังไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ

โดยล่าสุดมีการลงทะเบียนยืนยันนัดหมายการฉีดวัคซีน ผ่านระบบหมอพร้อมและช่องทางต่าง ๆ สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 1.6 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ 5 แสนคน และลำปาง 2 แสนคน ซึ่งถือมีความตื่นตัวในพื้นที่อย่างดีเยี่ยม ตนขอชื่นชมจังหวัดลำปาง โดยขอให้ทุกจังหวัด ได้เร่งดำเนินการให้ผู้มาขอวัคซีนให้ได้มากที่สุดผ่านกลไกในพื้นที่ ตนในฐานะรัฐบาลก็จะพิจารณาจัดสรรวัคซีนลงไปในพื้นที่ให้

คุก​ 2​ ปี​ ตัด​สิทธิ​ 10​ ปี!! 'เทพไท'​ คอตก!! ศาลอุทธรณ์​ ยัน!! จำคุก 2 ปี คดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ. พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

วันนี้ (11 พ.ค.) ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นวันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีอาญา กรณีการทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มี นายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะผู้เสียหายโดยตรงเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมาโนช เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2 ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาชี้ชะตา

ในเวลานัดหมายฟังคำพิพากษา 09.30 น. ฝ่ายโจทก์ และจำเลยทั้ง 2 ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในห้องพิจารณาบัลลังก์ 7 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ออกนั่งบัลลังก์ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 และได้ถ่ายทอดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มายังบัลลังก์ 7 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่คู่ความรอฟังคำพิพากษา ปรากฏว่าศาลได้พิจารณาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยทั้ง 2 เป็นเวลา 2 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ทำให้ นายเทพไท เสนพงศ์ และนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยทั้ง 2 ถูกคุมตัวเข้าห้องควบคุมทันที

นายสุวิทย์ ศิริวุฒิ ทนายโจทก์เปิดเผยว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษายืน หมายความว่าจำเลยทั้ง 2 จำคุก 2 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี สำหรับขั้นตอนต่อไปนั้น คดีนี้เป็นคดีที่ต้องห้ามฎีกา จำเลยทั้ง 2 ต้องยื่นขออนุญาตฎีกา โดยการยื่นฎีกานั้นมี 2 ประเด็นที่ต้องเกิดในภายหน้า คือ กรณีถ้าศาลอนุญาตนั้นถือว่าจบ ไปรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ถ้าศาลไม่อนุญาต คือต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา คือเข้าไปจำคุก 2 ปี

“แต่วันนี้ปัญหาที่จะเกิดกับจำเลยทั้ง 2 คือการยื่นขอประกันตัวต่อศาลนครศรีธรรมราช ซึ่งศาลนครศรีธรรมราช อาจจะมีคำสั่งให้ศาลฎีกาสั่งก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่ติดตามคดีนี้ต้องดูเหตุการณ์เป็นลำดับขั้นตอนต่อไป”

สำหรับคดีนี้มีจุดเริ่มต้นจากการทุจริตเลือกตั้ง ด้วยการจัดเลี้ยงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2556 ก่อนที่จะถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ใบแดงในปี 2557 หลังจากนั้น กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนเมื่อราว 7 ปีก่อน แต่ภายหลังคดีล่าช้าในกระบวนการชั้นพนักงานสอบสวนจนถึงชั้นอัยการ นายพิชัย ในฐานะผู้เสียหายโดยตรงจึงยื่นฟ้องคดีด้วยตัวเอง จนมีกระบวนการพิจารณามาถึงศาลอุทธรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอว่าจะมีการอนุญาตให้ฎีกาคดีหรือไม่


ที่มา: https://mgronline.com/south/detail/9640000045101

กรณ์ ไลฟ์สร้างความเชื่อมั่น ชวนคนลงทะเบียน "ฉีดวัคซีน" สร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศ ฟื้นคืนชีพเศรษฐกิจไทย

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij’ เชิญชวนประชาชนมาลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศ โดยระบุว่า การฉัดวัคซีน เป็นทางออกของประเทศ เนื่องจากขณะนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้ลดลง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน เกิดเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ เราต้องยอมรับว่า โควิดนี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน การฉีดวัคซีนนั้น ไม่ใช่แค่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองอย่างเดียว แต่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนที่เรารักด้วย ถ้าเราฉีดกันมาก ๆ ก็จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศ เพื่อให้ร้านค้าสามารถเปิดได้ เพื่อให้ธุรกิจเล็ก ๆ ไม่ตาย ทุกคนออกไปใช้ชีวิตกันแบบเดิมได้ เราจะหลุดพ้นออกจากสภาพนี้ได้ ก็ต่อเมื่อได้รับวัคซีน เพราะฉะนั้นการลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญกันมาก

“ในต่างประเทศที่ได้ฉีดวัคซีนกันไปเยอะแล้ว ทุกอย่างกลับมาสู่ความเป็นปกติ ยกตัวอย่างที่ประเทศอังกฤษ ก็ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา อย่างน้อย 1 โดส ไปกว่าครึ่งของประชากร และหนึ่งในสี่ที่ได้รับ 2 โดส หรือ 25% ซึ่งความจริงโดสแรกก็จะได้รับการคุ้มครองสูงถึง 90% แล้ว โดสสองเพียงแค่ต่ออายุการคุ้มครองวัคซีนไปเท่านั้น ซึ่งขณะนี้คนอังกฤษก็สามารถออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติ การทำมาค้าขายก็เริ่มดีขึ้น เช่นเดียวกับอเมริกาที่ฉีดเข็มแรกให้กับประชากร 1 ใน 3 ของประเทศ หรือ 34% สถานการณ์โดยรวมก็เริ่มดีขึ้น และคาดว่าจีดีพีของประเทศจะโตถึง 10% ได้” นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยวัคซีนล็อตแรก คือแอสตราเซเนกา ก็ได้รับการตรวจสอบแล้วว่ามีมาตรฐานคุณภาพที่ดี และจะเริ่มฉีดให้กับประชาชนวันที่ 7 มิถุนายนนี้ จึงอยากเชิญชวนทุกคน ใครที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะลงทะเบียนได้ก็ช่วยกันชี้แจงญาติผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เข้าเกณฑ์ ให้สบายใจที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม จากสำรวจพบว่ามีประชาชนมาลงทะเบียนยังไม่ถึง 2 ล้านคน จากผู้มีสิทธิประมาณ 12 ล้านคน ไม่รวมผู้มีโรคประจำตัว 7 ชนิด อีกหลายล้านคน ทั้งนี้

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่า เหตุผลที่ประชาชนยังไม่กระตือรือร้นมีเหตุผลหลักคือ

1.) กลัวผลข้างเคียงเนื่องจากมีข่าวออกมามาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมาทบทวนว่า อย่างน้อยการฉีดวัคซีนก็ปลอดภัยกว่าการติดเชื้อที่มีผลทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทุกวัคซีนที่ใช้ในการฉีดก็ล้วนได้รับความไว้วางใจจากผู้นำทั่วโลกในหลายประเทศจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราคลายความกังวลได้ถึงอันตรายจากผลข้างเคียง โดยผู้นำที่ได้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาได้แก่ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ ไต้หวัน ส่วนผู้นำที่ฉีดวัคซีน ซีโนแวค ได้แก่ นายกรัฐมนตรีไทย อินโดนิเซีย ฮ่องกง ชิลี ตุรกี

2.) การตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไรดี ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีหลักวิทยาศาสตร์ที่ต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือลดโอกาสในการติดเชื้อ และลดการแพร่ระบาด ส่วนผู้ที่ติดแล้วเป้าหมายเดียวกันคืออาการไม่หนักจนกระทั่งต้องเข้าไอซียู อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสิ่งที่เป็นปัญหาอีกอย่างเวลานี้คือการขึ้นทะเบียนที่ค่อนข้างยากสำหรับผู้สูงอายุ และจากการสำรวจพบว่าคนในชนบทบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีการลงทะเบียน เรื่องของการสื่อสารจึงเป็นเรื่องสำคัญ และไม่ควรจะพึ่งพาเฉพาะรัฐเท่านั้น ทุกคนสามารถช่วยกันสื่อสารบอกต่อกันได้

นายกรณ์ ยังได้ถอดประสบการณ์ สองจังหวัดที่ประสบความสำเร็จจากการขึ้นทะเบียนและเข้ารับการฉีดวัคซีนคือจังหวัดลำปาง และภูเก็ต โดยเฉพาะที่ จ.ลำปาง ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดคือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร หรือ “ผู้ว่าหมูป่า” รณรงค์ให้ประชาชนมาขึ้นทะเบียนได้แล้วกว่า 220,000 คน เทียบกับจังหวัดอื่นส่วนใหญ่ที่มีการขึ้นทะเบียนเพียงหลักพันคน ลำปางมีประชากร 730,000 คน ซึ่งมีอายุในเกณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนได้ (เกิน 60ปี) 170,000 คน ดังนั้นโดยตัวเลขหมายถึง มีผู้มีโรคประจำตัวอีกราว ๆ 50,000 คน

“ทำไมลำปางทำได้ ในขณะที่จังหวัดอื่นทำไม่ได้ แม้แต่กรุงเทพที่มีประชากรมากกว่าลำปางถึง 8 เท่า การเข้าถึงข้อมูล รวมถึงตัวเลขสัดส่วนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสูงกว่ามาก แต่กลับมีผู้ขึ้นทะเบียนมากกว่าลำปางเพียงเท่าเดียว ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ทำอย่างไร นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องรีบศึกษา เพื่อแนะแนวให้กับทุกจังหวัดได้เรียนรู้และปฏิบัติตาม เพราะการฉีดวัคซีนโดยเร็วคือทางออกของประเทศ และเป็นความหวังของประชาชนที่เดือดร้อนหนักหนาสาหัสจากผลกระทบโควิดระลอกที่ 3 นี้ ส่วนที่ จ.ภูเก็ตก็จัดลำดับขั้นตอนการฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าสองจังหวัดทำได้ ทุก ๆ จังหวัดก็ต้องทำให้ได้ครับ” นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์ ก่อนวัคซีนจะมาถึง ตนยังเชื่อว่าทำได้ แต่ดูจากสถานการณ์วันนี้แล้ว ต้องเร่งอีกมาก เนื่องจากมีคนเดือดร้อนกันมาก ถ้าเรายังลังเลและรอให้คนอื่นฉีดก่อน ก็จะไม่ทำให้เราเข้าสู่เป็นปกติในการดำรงชีวิตได้ จึงอยากให้การฉีดวัคซีนเป็นหน้าที่ในฐานะประชากรที่ดีคนหนึ่ง เรื่องการทะเลาะกันในเรื่องวัคซีน มันผ่านไปแล้ว มันเป็นเพียงข้อบกพร่องในอดีต อยากให้ทำหน้าที่ในปัจจุบันให้ดี และมองไปอนาคต หน้าที่ของรัฐเวลานี้คือ รณรงค์ให้คนมาฉีดวัคซีน ส่วนหน้าที่ของประชาชน คือเตรียมความพร้อมในการไปรับวัคซีน ที่สำคัญคือสร้างความเชื่อมั่นจากการสื่อสารที่ชัดเจนต่อเนื่อง เราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน


ที่มา : https://fb.watch/5pO-rZArBf/

อินเตอร์ลิ้งค์ นำทีมกลุ่มผู้บริหารไอทีภาครัฐ-เอกชน ร่วมสัมมนา CCTV Total Solution for Outdoor ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ Update Solution การติดตั้งงานกล้องวงจรปิด (CCTV) ใหม่

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่ม บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) จัดสัมมนา CCTV Total Solution for Outdoor ให้กับลูกค้ากลุ่มผู้บริหารไอที จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในช่วง Work From Home โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั่วประเทศกว่า 460 คน พร้อมทานอาหารออนไลน์ร่วมกันผ่านระบบ Fully Online Seminar และนำทีมวิทยากรชั้นนำมา Update Solution การติดตั้งงานกล้องวงจรปิด (CCTV) บนถนนสาธารณะ เพื่อตอบทุกโจทย์ของความต้องการ ถ่ายทอดสดจากสำนักงานใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

ศ.ดร.กนก ห่วง โควิด-19 ไม่จบ อาจเลื่อนเปิดเทอมอีก แนะ ศธ.วางนโยบายรับสถานการณ์วิกฤต ไม่ใช่บริหารแบบปกติ ตั้ง War Room ติดตามการจัดการเรียนการสอน เน้นปลอดภัยมีประสิทธิภาพ ชี้ ช้าหนึ่งวัน คือความเสียโอกาสของนักเรียน

ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ กระทรวงศึกษาธิการประกาศเลื่อนเปิดเทอมไปเป็นวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2564 แล้ว แต่คงไม่มีใครยืนยัน ได้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 จะดีขึ้นหลังวันที่ 1 มิถุนายน ถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงว่ากระทรวงศึกษาธิการอาจจะต้องเลื่อนเปิดเทอมไปอีกหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังไม่มีใครตอบได้ ทั้งความผันผวนของสถานการณ์ และผลกระทบต่อการเรียนการสอน ประเด็นที่สำคัญที่กระทรวงศึกษาธิการต้องตระหนักคือ กระทรวงต้องบริหารจัดการแบบวิกฤต (Crisis Management) ไม่ใช่บริหารราชการแบบปกติ การบริหารจัดการแบบวิกฤตต้องยึดหลักสำคัญ 3 ประการ คือ

1.) การจัดลำดับความสำคัญ (Priority) กระทรวงต้องแยกงานประจำที่ ต้องทำออกไป และคิดงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดการเรียนการสอน ที่นักเรียนไม่สามารถเข้าชั้นเรียนตามปกติได้ เช่น การเรียนออนไลน์ การเรียนผ่านโทรทัศน์ การเรียนที่บ้าน การให้ครูออกไปสอนนักเรียนในชุมชน เป็นต้น

2.) การโฟกัสในงาน (Focus) กระทรวงจะต้องทุ่มเททรัพยากร และบุคลากรที่มีไปยังโรงเรียน เพื่อให้ครูสามารถจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ได้ ข้าราชการในส่วนกลางต้องตั้งห้องปฏิบัติการ (War Room) เพื่อช่วยโรงเรียนและครูให้สามารถจัดการเรียน การสอนได้อย่างปลอดภัย และกำกับติดตามการปฏิบัติงานของครูทุกวัน

3.) ความเร็ว (Speed) กระทรวงจะต้องยกเว้นกฎระเบียบและงานประจำที่ทำให้ครูปฏิบัติงานไม่ได้ออกไปก่อน

“ความล่าช้า 1 วันของการแก้ปัญหาคือการเสียโอกาสการเรียนรู้ของนักเรียนอีก 1 วัน ผมขอฝากความห่วงใยและความปรารถนาดีไปยังครูทุกคนที่กำลังทำหน้าที่การสอนเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนในยามวิกฤติเช่นนี้ ขอให้กำลังใจครูและฝากความหวังและอนาคตของนักเรียนไว้กับครู รวมทั้งขอให้ครูทุกคนปลอดภัย” ศ.ดร.กนก กล่าว

ผศ.ดร.วรัชญ์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณี 'วราวิทย์ ฉิมมณี' ผู้ประกาศข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้น้อมรับความผิดพลาดในการรายงานข่าวว่า...

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณี 'วราวิทย์ ฉิมมณี' ผู้ประกาศข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้น้อมรับความผิดพลาด รายงานข่าวประสิทธิภาพวัคซีนกับสายพันธุ์แอฟริกาใต้ แจงแปลผิด 'การติดเชื้อแบบมีอาการ' กลายเป็น 'ป้องกันการป่วยหนัก' แถมยอมรับนำตัวเลขที่ใช้จริง กับตัวเลขอนุมานปนกันในตาราง ประกาศขอพักหน้าจอ 2 สัปดาห์ แสดงความรับผิดชอบว่า...

คุณวราวิทย์ออกมาขอโทษข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้อง รวมทั้งรับผิดชอบตัวเองด้วยการพักงานหน้าจอ 14 วัน

ผมก็ขอชื่นชม ที่คุณวราวิทย์มีความกล้าหาญทางจริยธรรมในการยอมขอโทษและยอมรับความผิด และผมขอรับคำขอโทษนั้น เพราะผมก็เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบ ที่ต้องออกมาแก้ไขข้อมูลเช่นกัน (ซึ่งก็ใช้เวลาค้นหาข้อเท็จจริงและเขียนอยู่หลายชั่วโมงเหมือนกัน) และขอให้กำลังใจคุณวราวิทย์ในการทำหน้าที่ต่อไปนะครับ

อย่างไรก็ตาม ผมขอแสดงความคิดเห็น 2 ข้อดังนี้ครับ...

1.) คุณวราวิทย์ ชี้แจงแค่คำที่แปลผิด (จากป้องกันป่วยหนัก เป็น ป้องกันติดเชื้อมีอาการ) แต่ยังไม่ได้ชี้แจงข้อมูลที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ตัวเลขของการป้องกันการป่วยหนัก ซึ่งสำหรับแอสตราเซเนกา คือ 100% เพราะไม่มีผู้ป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ หลังฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเลย ดังนั้นหากคุณวราวิทย์ มีเจตนาที่จะรณรงค์ให้ประชาชนชาวไทยเข้ารับการฉีดวัคซีนกันให้มากที่สุดจริง ก็ต้องพูดเรื่องนี้ และเน้นความสำคัญตรงนี้ด้วย

2.) การขออภัยครั้งนี้ ก็ยังเหมือนครั้งก่อน ๆ ก็คือไม่ได้บอกว่า แล้วต่อไปจะมีมาตรการอย่างไรในการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก ซึ่งก็คงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีกจริง ๆ (เพราะไม่มีมาตรการ) ข่าวนี้คุณวราวิทย์หามาเอง รายงานเองใช่ไหม แล้วมีรีไรเตอร์ มีบก. หรือมีใครช่วยตรวจสอบ ทักท้วง ผ่านตาดูให้อีกรอบหรือหลายรอบไหม หรือว่าหามาแล้วก็ออกได้เลย

ระบบการทำข่าวของไทยพีบีเอสคืออะไร ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ หรือว่าจริง ๆ แล้วไม่มีใครกรองเนื้อหา ผู้ประกาศคนไหนเขียนอะไรได้ก็ออกเลย? แล้วแบบนี้ประชาชนจะมั่นใจกับคุณภาพของเนื้อหาได้อย่างไรว่าถูกต้อง? อันนี้ไม่ใช่แค่คุณวราวิทย์ที่จะต้องชี้แจง แต่หัวหน้าฝ่ายข่าว บรรณาธิการข่าว ควรจะต้องชี้แจงด้วย เพราะถึงแม้สกู๊ปนี้คุณวราวิทย์จะทำคนเดียว บรรณาธิการข่าว ก็ต้องรับผิดชอบด้วย ว่าให้ทำคนเดียวได้อย่างไรโดยไม่มีการตรวจสอบ ไม่สามารถ "ลอยตัว" เหนือปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ได้

อันที่จริง คุณวราวิทย์ไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติงานก็ได้ แต่สิ่งที่ผมอยากเห็นมากกว่า คือผลจากเรื่องนี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง "ระบบ" ในการทำข่าวของไทยพีบีเอสได้อย่างไรบ้างมากกว่า ซึ่งอย่างที่บอกว่า ถ้ามันไม่มีระบบที่ดีกว่านี้ ก็ stick to what you do best นั่นคือสารคดี และรายการเด็ก ดีกว่าครับ อาจจะมีประโยชน์มากกว่า เพราะไทยพีบีเอส เป็นสมบัติของสาธารณะที่ประชาชนมีสิทธิที่จะตั้งคำถามถึงประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับจากไทยพีบีเอส

ปล.ขอใช้โอกาสนี้ ขอบคุณและให้กำลังใจบุคลากรของไทยพีบีเอส ที่ตั้งใจและทุ่มเททำงานอย่างดีนะครับ ผมไม่ได้เป็นปรปักษ์หรือจงใจจะจับผิดไทยพีบีเอส แต่ผมทำอย่างนี้กับทุก ๆ สื่อที่ผมเห็นว่าไม่เหมาะสม ในฐานะอาจารย์ด้านสื่อสาร บางคนอาจจะไม่พอใจผม ก็คงห้ามไม่ได้ แต่ยิ่งเป็นไทยพีบีเอสผมยิ่งต้องพูด เพราะไทยพีบีเอสยังมีคุณค่าและทำประโยชน์ได้อีกมาก แต่ยังทำไม่ได้เท่าที่มีศักยภาพ... ส่วนเพราะสาเหตุใด ผมว่าคนในองค์กรน่าจะรู้ดีที่สุดครับ

คลิปคุณวราวิทย์ชี้แจง

.

.


ที่มา:

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4571065682909035&id=100000169455098

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000044827

มาคาเลียส แหล่งรวมอี-เวาเชอร์ ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ชี้กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยอยู่ในภาวะ “หยุดชะงัก” จากโควิด-19 ระลอก 3 คนหยุดเที่ยว แต่พบคนยังซื้อเวาเชอร์สะสม จับมือพันธมิตรจัดแคมเปญจองก่อนพักทีหลัง ยืดอายุวอเชอร์ที่พักถึงต้นปี 65

นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด (Makalius) กล่าวว่า “การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการแพร่ระบาดครั้งที่รุนแรงที่สุดในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจในวงกว้าง รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้ง โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งในตอนนี้อยู่ในภาวะ “หยุดชะงัก” (Tourism Halt) นักท่องเที่ยวไม่กล้าเดินทางไปท่องเที่ยว อีกทั้งบางจังหวัดถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดงที่มีการควบคุมสูงสุด แต่ในทางกลับกันก็มีสัญญาณที่ดีว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับคึกคักอีกครั้งหากภาครัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ โดยดูจากพฤติกรรมการสั่งซื้อเวาเชอร์ที่พักของนักท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์มาคาเลียสยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 

โดยเฉพาะช่วงการจัดแคมเปญทราเวลแฟร์ออนไลน์ “Food Fruit For Fun @ Eastern Thailand” ที่ได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออก และนิตยสารแม่บ้าน จำหน่ายแพคเกจท่องเที่ยวที่ครอบคลุมบริการ ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว หรือสถานที่ทำกิจกรรม และร้านอาหาร ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยในระยะเวลาเพียง 1 เดือน สามารถจำหน่ายเวาเชอร์ได้กว่า 2,738 ใบ หรือมีมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

แต่ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้ร่วมหารือกับพันธมิตรผู้ประกอบการทั้ง โรงแรม ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว ที่เปิดให้บริการผ่านทางมาคาเลียส กว่า 200 ราย เตรียมจัดแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเริ่มจากการปรับยืดอายุการใช้งานของเวาเชอร์ไปปลายไตรมาสแรกปี 2565 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตที่จะค่อย ๆ คลี่คลายลง รวมถึงการให้ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการท่องเที่ยวในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ สามารถเปลี่ยนแปลงโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ได้ตามความเหมาะสม อันมีผลปรับใช้งานได้ทันที

พร้อมทั้งจัดแคมเปญ Buy Now Stay Later จองก่อนเข้าพักทีหลัง ขนโรงแรมที่พักทั่วไทยจัดโปรโมชั่นพิเศษ ราคาเริ่มต้น 400 บาทต่อคนต่อคืน และเลือกเข้าพักได้ถึงวันที่ 31 มีนาคมปี 2565 ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรม รีสอร์ท เข้าร่วมแคมเปญดังกล่าวแล้วกว่า 18 แห่ง ได้แก่ M Pattaya Hotel, Talay Tara Resort, Chaolao Tosang Beach Hotel, Peggy's Cove Resort, Sonia Residence Pattaya, Twin Palm Resort, Oakwood Hotel & Residence Sriracha, At Rice Resort, Hotel Kuretakeso Sriracha, The Beach Village Resort, Oriental Beach Pearl Resort, Baron Beach Hotel Pattaya, Mike Hotel Pattaya, Pattaya Discovery Beach, Kocchira Rest & Bake, Chom View Hotel & Residences, VAYNA Boutique Koh Chang และ Wora Wana Huahin Hotel ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมแคมเปญดังกล่าวได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้มีความเข้มงวดด้านมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย รวมถึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ด้วยการดึงจุดแข็งการเป็นออนไลน์ทราเวลแพลตฟอร์ม มาช่วยทำการตลาดสร้างความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการท่องเที่ยวที่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง 

ทางด้าน นายคมพัฒน์ ป่านแก้ว กรรมการผู้จัดการ โรงแรม At Rice resort จังหวัดนครนายก กล่าวว่า “เนื่องจากจังหวัดนครนายกไม่ได้เป็นพื้นที่ควบคุมเขตสีแดง จึงทำให้ทางโรงแรมยังเปิดให้เข้าพักได้ตามปกติ รวมถึงการเปิดให้บริการห้องจัดเลี้ยง ซึ่งก็มีคู่รักมาใช้บริการห้องจัดงานแต่งงานอยู่พอสมควร โดยทางโรงแรมจะให้ความสำคัญด้านสุขอนามัยเป็นหลัก ด้วยคอนเซ็ปต์ Wedding New Normal คือ การจำกัดจำนวนผู้เข้างาน แขกที่จะร่วมงานไม่เกิน 50 ท่าน ก่อนเข้าโรงแรมทุกท่านต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และตรวจอุณหภูมิก่อนเข้างาน และงดการรับประทานอาหารเลี้ยงสังสรรค์ แต่ทางโรงแรมจะให้บริการเป็นอาหารชุดแบบ Take away สำหรับนำกลับไปรับประทานที่บ้านแทน

คมพัฒน์ ป่านแก้ว กรรมการผู้จัดการ โรงแรม At Rice resort จังหวัดนครนายก

นางสาวทัศนีย์ มณีเนตร รองผู้จัดการทั่วไป โรงแรม M Pattaya จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “ทางโรงแรมได้มีการปรับนโยบายเรื่องห้องพัก เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้โรงแรมปิดให้บริการและจะกลับมาเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมถึง ร้านอาหาร ฟิตเนส สระว่ายน้ำ โดยทั้งนี้จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบขึ้นอยู่กับมาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว แต่จะเข้มงวดด้านสุขอนามัยเพิ่มมากขึ้น ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ รวมถึงการเพิ่มเจ้าหน้าที่ค่อยดูแลทำความสะอาดตลอดเวลา 

ทัศนีย์ มณีเนตร รองผู้จัดการทั่วไป โรงแรม M Pattaya จังหวัดชลบุรี

ส่วนทาง นางสาวโซเนีย ราจีช พูนจาบี กรรมการผู้จัดการ โรงแรม Sonia Residence Pattaya จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “ทางโรงแรมได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อรองรับและป้องกันความปลอดภัยด้านสุขอนามัยแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการอย่างเคร่งครัด อาทิ การเสิร์ฟอาหารเช้าที่ห้องพัก การขยายเวลาการเข้าพักได้ยาวนาน พร้อมทั้งได้จัดทำโปรโมชั่นพิเศษจองห้องพักพร้อมดินเนอร์สุดพิเศษ รวมถึงการจัด Food Delivery จัดส่งเมนูพิเศษโดยเชฟชื่อดังของโรงแรมถึงหน้าบ้าน”

โซเนีย ราจีช พูนจาบี กรรมการผู้จัดการ โรงแรม Sonia Residence Pattaya จังหวัดชลบุรี

นางสาวณีรนุช กล่าวต่อว่า “สำหรับแผนการช่วยเหลือการท่องเที่ยวดังกล่าว ทางบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือดูแล กลุ่มลูกค้า นักท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 นี้ ให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตดังกล่าวไปได้ด้วยดี”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top