Monday, 9 June 2025
NewsFeed

‘NASA’ ชี้!! พบจุดความร้อนจากการเผาป่าใน 'กัมพูชา' จำนวนมาก อาจเป็นเหตุที่ทำให้ฝุ่น PM 2.5 ในกทม.และภาคกลางพุ่งสูงขึ้น

(30 ม.ค. 67) จากกรณี 13 จังหวัดภาคกลาง มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี ราชบุรี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม เพชรบุรี นครปฐม สระบุรี สุพรรณบุรี และฉะเชิงเทรา

ขณะที่ กรุงเทพฯ พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานทุกเขต โดย 49 เขต มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบจากเว็บไซต์ของ NASA Firms ที่อัปเดตจุด hotspot ที่เผยจุดความร้อน จากการเผาป่า ไฟป่า ต้นเหตุควัน และฝุ่น PM2.5 พบว่ามีหลายจุดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ที่พบจุดความร้อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ภาคกลางพุ่งสูงขึ้น

ขณะที่จุดความร้อน (Hot Spot) คือ จุดที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลก ซึ่งส่วนมากก็คือความร้อนจากไฟ แสดงในรูปแบบแผนที่เพื่อนำเสนอตำแหน่งที่เกิดไฟในแต่ละพื้นที่แบบคร่าวๆ การได้มาซึ่งข้อมูลจุดความร้อนอาศัยหลักการที่ว่า ดาวเทียมสามารถตรวจวัดคลื่นรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อนที่เกิดจากไฟ (อุณหภูมิสูงกว่า 800 องศาเซลเซียส) บนพื้นผิวโลก จากนั้นประมวลผลแสดงในรูปแบบจุด

'พงศ์พรหม' เผย!! 'กทม.-กลาง-เหนือ' เสี่ยงสะสมมะเร็ง เหตุฝุ่นพิษไม่แผ่ว ชี้!! ภาคใต้ตั้งแต่ชุมพรลงไป อยู่ได้

(30 ม.ค.67) นายพงศ์พรหม ยามะรัต ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Pongprom Yamarat' ระบุว่า...

โพสต์นี้สำหรับคนเริ่มอยากย้ายบ้านหนีฝุ่นมะเร็งชั่วคราว

หลายปีก่อน วิกฤติฝุ่นมะเร็งหนักๆ จะอยู่ที่ภาคเหนือตอนบนเป็นหลัก

จน 4-5 ปีที่ผ่านมา

เกษตรเชิงเดี่ยวขยายตัวในภาคกลางสูงมาก (ผลประโยชน์ปุ๋ยนักการเมือง + ข้าราชการนั่นแหละ)

ผสมการเผาในเขมรและลาว

ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้

ภาคเหนือและภาคกลาง จะเป็นที่ๆ อยู่ไม่ได้แล้วครับ

หรือฝืนอยู่ก็เป็นมะเร็งตายกันหมด

กรุงเทพฯ นครปฐม สระบุรี เขาใหญ่ นครราชสีมา สระแก้ว ขอนแก่น นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย ไม่รอดซักจังหวัด

คำถามคือภาคไหนที่น่าอยู่ที่สุด?

คำตอบคือภาคใต้ตั้งแต่ชุมพรลงไปครับ

ภาคใต้เป็นภาคที่ไม่ทำเกษตรแบบหมุน crop ไว ทำให้มีการเผาน้อยมากเทียบกับภาคอื่น

ส่วนภูมิศาสตร์เองก็ดี มีลมทะเล 2 ฝั่งพัดเอามลภาวะทิ้งแทบตลอดปี

อากาศจึงดีตลอด

แถมมีอาหารทะเลเยอะ

การหนีกรุงเทพฯ ไปอยู่ภาคใต้สม่ำเสมอ จะทำให้สุขภาพดีกว่าหนีไปเขาใหญ่ เชียงใหม่ครับ

'ชาวญี่ปุ่น' ถกสนั่น หลัง 'ชิอิโนะ คาโรลินา' คว้ามงนางงามญี่ปุ่น แม้ถือสัญชาติญี่ปุ่นแล้ว แต่ไม่แคล้วเหมือนสาวยุโรป 100%

ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความอนุรักษ์นิยมสูง อีกทั้งยังมีความภูมิใจในวัฒนธรรม ความงดงามตามแนววิถีญี่ปุ่นมาก แต่ทว่า แนวความคิดนี้เริ่มถูกท้าทายจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จากกระแสการเคลื่อนที่ ลื่นไหล หลอมรวมของผู้คนต่างสังคม ตามวัฒนธรรมที่หลากหลายจากทั่วโลก

และล่าสุด สังคมญี่ปุ่นถูกท้าทายด้วยคำถามอีกครั้ง จากเวทีประกวดสาวงามประจำปี 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ปรากฏว่า สาวงามที่สามารถคว้ามงกุฎจากเวที Miss Nippon Grand Prix ในปีนี้ไปได้ คือ 'ชิอิโนะ คาโรลินา' สาวสวยเชื้อสายยูเครน ที่เกิดในเมืองเทอร์โนพิล ประเทศยูเครน ก่อนจะย้ายตามแม่มาใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ 5 ขวบ 

ถึงแม้ว่า ชิอิโนะ คาโรลินา จะสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างไร้ที่ติ มีรูปร่าง หน้าตางดงามสมตำแหน่งเป็นที่ประจักษ์ แต่ทว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอคือสาวยุโรป 100% ไม่มีเค้าโครงความงามแบบพิมพ์นิยมของชาวญี่ปุ่นอยู่เลย 

จากประวัติศาสตร์เวทีประกวดสาวงามญี่ปุ่น ก็เคยมีสาวงามลูกครึ่งมาคว้ามงกุฎ Miss Japan มาก่อนในปี 2015 โดย มิยาโมโตะ อาเรียนา สาวลูกครึ่งผิวสี แอฟริกัน - ญี่ปุ่น ที่ก็เคยสร้างประเด็นร้อนแรงในสังคมญี่ปุ่นมาก่อนว่า หญิงสาวลูกครึ่งควรมีสิทธิ์ประกวดนางงามญี่ปุ่นได้หรือไม่ 

แต่กรณีของ ชิอิโนะ คาโรลินา ดูเหมือนจะหนักกว่า มิยาโมโตะ อาเรียนา เสียอีก เนื่องจากเธอย้ายตามแม่ของเธอมาอยู่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ 5 ขวบ หลังจากที่ได้หย่ากับพ่อชาวยูเครนของเธอ มาแต่งงานใหม่กับชาวญี่ปุ่น คาโรลินา จึงได้เปลี่ยนนามสกุล และ ใช้ชีวิตในญี่ปุ่นตั้งแต่นั้น แต่เพิ่งมาได้สัญชาติญี่ปุ่นเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมานี้เอง หลังเกิดเหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน 

จึงเป็นเหตุให้คุณสมบัติของเธอกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างมากว่า ชิอิโนะ คาโรลินา มีสิทธิ์ลงสมัครประกวดนางงามญี่ปุ่นได้อย่างไร ในเมื่อเธอไม่ได้มีเชื้อสายญี่ปุ่นอยู่เลย แต่ทั้งนี้กองประกวดไม่ได้กำหนดว่า ผู้เข้าประกวดต้องมีเชื้อสายญี่ปุ่น หรือ เกิดในญี่ปุ่น ขอแค่ถือสัญชาติญี่ปุ่นก็มีสิทธิ์เข้าประกวดได้

ชิอิโนะ คาโรลินา กล่าวขอบคุณที่มอบตำแหน่งชนะเลิศนี้ให้กับเธอ ที่เธอยังนึกว่าฝันไปเมื่อได้ยินชื่อของเธอได้รับตำแหน่งนางงามญี่ปุ่น เธอยอมรับว่ากำแพงเชื้อชาติเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของเธอในญี่ปุ่นเสมอมา ที่สังคมญี่ปุ่นมักมองเธอเป็นชาวต่างชาติ ไม่ใช่คนญี่ปุ่น โดยเป้าหมายในชีวิตของเธอคือ ต้องการสร้างสังคมที่ผู้คนเปิดใจอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ตัดสินผู้อื่นจากภาพลักษณ์ภายนอก 

แต่ถึงแม้งานประกวดจะจบไปแล้ว แต่ดูเหมือนสังคมญี่ปุ่นยังไม่จบกับประเด็นนี้ ที่ต้องยอมรับว่ายังมีชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยมีทัศนคติต่อต้านชาวต่างชาติ และมองว่า ชิโนะ คาโรลินา ไม่เหมาะที่จะได้รับเลือกเป็นตัวแทน ที่สื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นที่แท้จริงได้ บางคนมองถึงประเด็นการเมือง และตั้งข้อสงสัยว่า หาก คาโรลินา มีเชื้อสายรัสเซีย ไม่ใช่ยูเครน เธอคงไม่มีสิทธิ์ชนะการประกวดในครั้งนี้อย่างแน่นอน 

ในขณะเดียวกัน ชาวญี่ปุ่นในยุคสมัยใหม่เริ่มเปิดใจรับวัฒนธรรมที่หลากหลายจากต่างชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการสำรวจของ Pew Research Centre พบว่า 59% ของกลุ่มสำรวจชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการย้ายถิ่นฐานของชาวต่างชาติจะช่วยให้ประเทศญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น จากปัญหาสังคมผู้สูงอายุของญี่ปุ่นในอนาคต

ดังนั้น ชาวญี่ปุ่นกลุ่มนี้มองว่า คาโรลินา ได้ถือสัญชาติญี่ปุ่นตามกฎหมายแล้ว ก็ถือว่าเธอเป็นพลเมืองญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่มีสิทธิ์เป็นตัวแทนประเทศได้ไม่ต่างจากคนญี่ปุ่นทั่วไปเช่นกัน แทนที่จะมองว่าการคว้ามงกุฎบนเวทีประกวดความงามญี่ปุ่นของ ชิโนะ คาโรลินา เป็นการท้าทายสังคมญี่ปุ่น ควรมองว่าเป็นสัญญาณแห่งความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยมากกว่า 

เช่นเดียวกับการพยายามกล่าวย้ำบนเวทีของคาโรลินา ว่า "ใคร ๆ ก็บอกฉันตลอดว่า ฉันไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่ฉันนี่แหละ 'คนญี่ปุ่น' เพราะความเชื่อมั่นนั้น ได้พาฉันมายังเวทีแห่งนี้ ซึ่งวันนี้ฉันดีใจมากจริง ๆ ที่พวกคุณยอมรับในตัวฉันแล้ว" 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ชาวญี่ปุ่นก็ได้นางงามคนใหม่แล้ว ถึงภายนอกจะเป็นฝรั่ง แต่หัวใจเป็นญี่ปุ่น 100% เดส!!

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

‘นายกฯ เศรษฐา’ ป่วยเสียงแหบแห้ง ผลเจาะเลือด ชี้ ติดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ

(30 ม.ค. 67) ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างเดินทางมาร่วมประชุมสมาชิกพรรคเพื่อไทย ประจำสัปดาห์ ว่า ตนเพิ่งไปเจาะเลือดมา เนื่องจากไม่สบายมา 2 สัปดาห์ นึกว่าหายไปแล้วเมื่อวานนี้ (29 ม.ค.67) วันนี้ก็เลยไปเจาะเลือด หมอก็ยังไม่ทราบว่าเป็นอะไร เดี๋ยวรอผลครับ วันนี้มาประชุมพรรคเพราะนัด สส.ไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ฟุตบอลทีมชาติไทย จะแข่งขันกับทีมชาติอุซเบกิสถาน ในศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เวลา 18.30 น. นายเศรษฐา กล่าวว่า เดี๋ยวกลับบ้านก่อน ถ้าตื่นไหวก็เชียร์

ต่อมานายเศรษฐา กล่าวภายหลังประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เสร็จ ว่า ผลการตรวจเลือดออกแล้ว เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ

‘มาคาเลียส’ จัดโปรฯ ‘Makalius Early Bird’ ลดค่าที่พัก-ที่เที่ยวสูงสุด 50% เริ่ม 31 ม.ค.นี้

(30 ม.ค. 67) มาคาเลียส แหล่งรวมอี-วอเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 1 ของประเทศไทย จัดหนักเอาใจเหล่าทราเวลเลอร์ต้อนรับต้นปีกับโปรโมชั่น ‘Makalius Early Bird’ ที่พักที่เที่ยวลดสุงสุด 50% ฉลองปีใหม่ยาว ๆ ได้แก่ 

-IP Plus Pool Villa Pattaya พัทยา พูลวิลล่าสไตล์บาหลี พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว จากราคา 1,999 บาท/คืน ลดเหลือ 999 บาท/คืน 
-Espana Resort Pattaya Jomtien พัทยา จากราคา 1,219 บาท/คืน ลดเหลือ 609 บาท/คืน 

-Hotel Kuretakeso Thailand Sriracha ที่พักสไตล์ณี่ปุ่น จากราคา 2,199 บาท/คืน ลดเหลือ 1,099 บาท/คืน 

-บัตรสวนน้ำ Vana nava หัวหิน จากราคา 1,190 บาท/ท่าน ลดเหลือ 595 บาท/ท่าน 

-Beach Walk Boutique Resort ที่พักติดทะเลบางแสน จากราคา 3,799 บาท/คืน ลดเหลือ 1,899 บาท/คืน

ด่วน!!! วอร์เชอร์มีจำนวนจำกัด จองก่อนรับสิทธิ์ก่อนเฉพาะที่มาคาเลียสเท่านั้น (www.makalius.co.th) เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2024 หรือจนครบสิทธิ์ตามจำนวน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร. 02 821 5215 หรือ Line Official @makalius

‘จีน-ไทย’ เตรียมก้าวสู่ ‘ยุคปลอดวีซ่า’ 1 มีนาคมนี้ เดินหน้าสนับสนุน ‘ตลาดท่องเที่ยว’ สองประเทศเต็มที่

เมื่อวานนี้ (29 ม.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนและไทยเตรียมดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าให้แก่กันตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. นี้ หลังจากคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกัน ณ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันอาทิตย์ (28 ม.ค.) โดยความคืบหน้านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของสองประเทศยิ่งขึ้น

จูหงอิง จากบริษัท อวิ๋นหนาน จิ่นอ้าย ทัวริซึม กรุ๊ป จำกัด ในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มองว่าตอนนี้จีนและไทยเตรียมเข้าสู่ ‘ยุคปลอดวีซ่า’ อันเกื้อหนุนนักท่องเที่ยวของสองประเทศเดินทางไปมาหาสู่กันได้ตามต้องการทุกเมื่ออย่างแท้จริง ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ต่อตลาดการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ

หากอ้างอิงข้อมูลการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ของบริษัทฯ จูกล่าวว่ากรุ๊ปทัวร์เพื่อท่องเที่ยวไทยช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 10-14 ก.พ. ถูกจับจองจนเต็มแล้ว โดยจุดหมายท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกรุ๊ปทัวร์แต่ละวันอยู่ที่ 60-70 คน และส่วนใหญ่เป็นครอบครัวเดียวกัน

วังเทา จากบริษัท เอเจนซีการท่องเที่ยวต่างประเทศ อวิ๋นหนาน เหม่ยถู จำกัด เผยว่านโยบายฟรีวีซ่าไม่เพียงเกื้อหนุนการเดินทางของนักท่องเที่ยว แต่ยังสะท้อนให้เห็นมิตรภาพอันดีระหว่างประชาชนชาวจีนและชาวไทย ซึ่งจะส่งเสริมการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวของสองประเทศ

ไทยนั้นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีลูกค้าสอบถามถึงมากที่สุดของบริษัทฯ เสมอมา โดยวังเสริมว่าหากพิจารณาจากกระแสตอบรับของนักท่องเที่ยว นโยบายฟรีวีซ่ามีผลต่อความรู้สึกของนักท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะไม่ใช่เพียงเรื่องประหยัดค่าธรรมเนียมวีซ่า แต่ยังเกี่ยวพันกับการยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ปัจจุบันอวิ๋นหนานมีเที่ยวบินโดยสารสู่หลายเมืองของไทย เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต จำนวน 54 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยข้อมูลจากสถานีตรวจสอบการเข้า-ออกเมืองของนครคุนหมิงระบุว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2024 จำนวนนักเดินทางจากอวิ๋นหนานไปยังไทยสูงเกิน 30,000 คนแล้ว

ด้านข้อมูลจากสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ในอวิ๋นหนาน ระบุว่าตั้งแต่วันขึ้นปีใหม่ (1 ม.ค.) จนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ สายการบินฯ ให้บริการเที่ยวบินโดยสารสู่ไทยเฉลี่ย 8 เที่ยวต่อวัน ส่วนช่วงวันที่ 9-17 ก.พ. มีผู้โดยสารจองการเดินทางสูงถึง 11,000 คนแล้ว

อนึ่ง ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในปี 2023 สูงเกิน 28 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 151 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยจีนเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของไทยด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 3.51 ล้านคน

การประชุมเครือข่ายขั้นสูงแห่งเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 57 ที่ ณ ประเทศไทย 500 บุคลากรระดับหัวกะทิ ร่วมถก 'นวัตกรรม-วิจัย' เพื่ออนาคตคึกคัก

ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพการประชุมเครือข่ายขั้นสูงแห่งเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 57 ( The Asia-Pacific Advanced Network : APAN 57) ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กรุงเทพมหานคร คาดมีสมาชิกเครือข่าย APAN, องค์กรตัวแทนของสมาชิกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, นักวิชาการ  และนักวิจัย ทั้งในและต่างประเทศ กว่า 500 คน เข้าร่วมประชุม

(30 ม.ค.67) ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดการประชุมเครือข่ายขั้นสูงแห่งเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 57 (The Asia-Pacific Advanced Network : APAN 57) พร้อมกล่าวว่า ประเทศไทย โดยสำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา หรือ UniNet สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเครือข่ายขั้นสูงแห่งเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 57 หรือ The Asia-Pacific Advanced Network : APAN 57 ภายใต้หัวข้อ Towards a Sustainable Future ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศเจ้าภาพ ในปี ค.ศ. 2024 ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ นี้ 

ทั้งนี้ APAN เป็นเครือข่ายขั้นสูงแห่งเอเชียแปซิฟิก เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศของเครือข่ายการวิจัยและการศึกษาแห่งชาติทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งครอบคลุมประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก เป็นพื้นฐานในการให้บริการเชื่อมต่อเครือข่ายความเร็วสูงทั้งในและต่างประเทศ โดยร่วมกันพัฒนาเครือข่าย ส่งเสริมการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่อง ถือเป็นตัวแทนของผลประโยชน์ที่ไม่แสวงหากำไรของเครือข่ายการวิจัยและการศึกษาในประเทศเศรษฐกิจของเอเชียแปซิฟิก 

สำหรับ การประชุม APAN ในครั้งนี้ มีบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในทุกศาสตร์ ทุกสาขาอาชีพ มารวมตัวกันจากการจัดในประเทศไทยกว่า 500 คน เพื่อร่วมกันแสวงหานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ก้าวหน้า โดยเน้นความเป็นเลิศในเครือข่ายขั้นสูงและโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาวิจัย เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมือระหว่างกันจากทุกศาสตร์ในหมู่ประเทศสมาชิกทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกทั้งยังส่งเสริมให้นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและนักวิจัยรุ่นเยาว์ใน APAN ได้มีโอกาสนำเสนอและเผยแพร่ผลงานวิจัยในทุกศาสตร์

“การประชุมตลอด 5 วันนี้ ท่านจะได้พบกับการประชุมวิชาการในระดับ Technical Program การสัมมนา Workshops การนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่มากกว่า 15 ด้าน ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายจากหลายประเทศทั่วโลก โดยมีวิทยากรที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ นำเสนอแนวคิดเจาะลึกในประเด็นเฉพาะด้าน เกี่ยวกับเครือข่ายกิจกรรมด้านวิชาการและสังคม เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และร่วมมือในการพัฒนาระหว่างกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์จากการประชุมในครั้งนี้ตามที่คาดหวัง” 

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทย มีนโยบายที่จะกระตุ้นและสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกมิติ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่คนไทย ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ด้วยการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล ที่สามารถปรับเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้อย่างรวดเร็ว ทั้งด้านทำให้เกิดความเจริญขึ้นหรือความเสื่อมถอย ซึ่งคนไทยทุกคนจะต้องรู้เท่าทันและปรับวิธีคิดตามความเปลี่ยนแปลงให้ทัน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้อยู่ในมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับทางเศรษฐกิจและสังคม เครือข่าย APAN จึงได้มีส่วนในการเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ผลักดันให้คนไทยเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตามนโยบายนี้

อนึ่งการประชุมเครือข่ายขั้นสูงแห่งเอเชียแปซิฟิก จะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ โดยในครั้งที่ 1 คือ APAN 13 จัดขึ้นที่ภูเก็ต เมื่อปี 2002, ครั้งที่ 2 APAN 19 จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2005, ครั้งที่ 3 APAN 33 จัดขึ้นที่เชียงใหม่ ปี 2012 และล่าสุด ครั้งที่ 4 APAN 57 จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ณ โรงแรมอิสติน แกรนด์ พญาไท 

“ทหารเรือใจกล้า” แม้จะลาเฝ้าไข้ลูกชาย ตัดสินใจเสี่ยงอันตรายช่วยดับไฟที่โหมไหม้โรงพยาบาล

ขอยกย่องทหารเรือใจกล้า พันจ่าเอก ราชิตศักดิ์ พูนพนัง ผู้บังคับหมู่ป้องกัน กองบังคับการหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 ที่อยู่ในระหว่างการลากลับไปเฝ้าไข้บุตรชายที่เข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  ในเวลา เวลา 19.45 หลังจากที่เจ้าหน้าที่พยาบาล ได้เข้ามาเเจ้งว่าให้รีบเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากห้องไปยังที่ปลอดภัยโดยเร็ว เนื่องจากมีเหตุไฟไหม้ที่ตึกดังกล่าว ในขณะที่ออกจากห้อง พ.จ.อ.ราชิตศักดิ์ พูนพนัง ได้สังเกตุเห็น เจ้าหน้าที่พยาบาล และญาติผู้ป่วยกำลังช่วยกันเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากห้องไปยังที่ปลอดภัยอย่างทุลักทุเล พ.จ.อ.ราชิตศักดิ์ พูนพนัง จึงได้ตัดสินใจเข้าไปสอบถาม เจ้าหน้าที่พยาบาลว่า “เหตุไฟไหม้เกิดขึ้นบริเวณใด และมี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับไฟหรือยัง” เพียงอึดใจกลิ่นและควันไฟลอยได้ขึ้นมาจากห้องเก็บของด้านล่าง และ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของโรงพยาบาลยังมาไม่ถึงที่เกิดเหตุ พ.จ.อ.ราชิตศักดิ์ พูนพนัง จึงได้นำถังซีโอทู มุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อดับไฟในทันที จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลาต่อมา เมื่อ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของโรงพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุ พ.จ.อ.ราชิตศักดิ์ พูนพนัง ได้เเจ้งว่า “สามารถควบคุมไฟไว้ได้แล้ว” จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดไฟช็อตบริเวณท่อแอร์บนเพดาน การเข้าทำการดับเพลิงของ พ.จ.อ.ราชิตศักดิ์ พูนพนัง ในครั้งนี้ เป็นการกระทำอันห้าวหาญ สมชายชาติทหารและมีสติ จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ก่อนที่จะลุกลามสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกพนักงานสอบสวนหญิงดีเด่นผู้ปฏิบัติหน้าที่ ด้านพนักงานสอบสวนหญิง ประจำปี 2567

ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินโครงการยกย่องข้าราชการตำรวจหญิงผู้ปฏิบัติหน้าที่
ด้านสอบสวนดีเด่น เพื่อรับการเชิดชูเกียรติในวันสตรีสากล ประจำปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น
การยกระดับคุณภาพและสร้างแรงจูงใจให้แก่ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้น และสร้างแรงผลักดันในการปฏิบัติงาน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี โดยได้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจหญิงผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนดีเด่น เริ่มตั้งแต่ระดับกองบังคับการ ระดับกองบัญชาการ จนถึงระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้มอบหมายให้สมาคมตำรวจเป็นเจ้าภาพหลักในการพิจารณาคัดเลือก นั้น      

บัดนี้ การประเมินและคัดเลือกข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนคดีดีเด่น ของระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว คณะอนุกรรมการคัดเลือกฯ โดยมี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง เป็นประธานอนุกรรมการ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการอีก 14 ท่าน ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถาบันส่งเสริม           
งานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567    จึงขอประชาสัมพันธ์ผลการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจหญิงผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนดีเด่น 
ประจำปี 2567 ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น 9 ราย โดยมีรายนาม ดังนี้
•ระดับ รองสารวัตร (สอบสวน) ด้านคดีอาญาทั่วไป
ลำดับที่ 1     ร.ต.ท.หญิง ภัทรนันท์ คำปวน รองสารวัตร (สอบสวน) สังกัดสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจภูธรภาค 5
ลำดับที่ 2     ร.ต.ท.หญิง เจนจิรา ธิบดี รองสารวัตร (สอบสวน)  สังกัดสถานีตำรวจ     ภูธรเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ตำรวจภูธรภาค 6
ลำดับที่ 3     ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง พรรณทิวา ลำโนรี รองสารวัตร (สอบสวน) สังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ตำรวจภูธรภาค 6
•ระดับ รองสารวัตร (สอบสวน) ด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแก่เด็กหรือสตรี
ลำดับที่ 1  ร.ต.อ.หญิง เพชรรพี  พิมพ์พัฒน์    รองสารวัตร (สอบสวน) สังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองเลย จังหวัดเลย ตำรวจภูธรภาค 4
ลำดับที่ 2  ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง พชรกร  ทัสนานุตริยะ รองสารวัตร (สอบสวน) สังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ตำรวจภูธรภาค 6
ลำดับที่ 3  ร.ต.ท.หญิง ชลนิกานต์ ชำนาญไพร รองสารวัตร (สอบสวน) สังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ตำรวจภูธรภาค 3
•ระดับ สารวัตร (สอบสวน) ขึ้นไป
ลำดับที่ 1  พ.ต.ท.หญิง เพชรรัตน์  เลิศวานิช  สารวัตร (สอบสวน) สังกัดสถานีตำรวจภูธรบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ตำรวจภูธรภาค 7
ลำดับที่ 2   ร.ต.อ.หญิง พธู ปารมีมิ่ง สารวัตร (สอบสวน) สังกัดสถานีตำรวจ
ภูธรแม่กา จังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจภูธรภาค 5
ลำดับที่ 3   พ.ต.ท.หญิง สราวลี  ศรีเรือง  สารวัตร (สอบสวน) สังกัดกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
    
ทั้งนี้  การพิจารณาคัดเลือกดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนหญิง  ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่  ด้วยความเสียสละ  มีความวิริยะ  อุตสาหะ  ไม่ย่อท้อต่อภาระหน้าที่  ซึ่งจักเป็นผลดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพี่น้องประชาชนต่อไป

บิ๊กโจ๊ก นำคณะปราบปรามการค้ามนุษย์ พบ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ส่ง 22 หมายจับสำคัญ ให้ช่วยเร่งรัดจับกุม

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้นำคณะ ศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัวป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เข้าพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เพื่อพบปะ แลกเปลี่ยนความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันมายาวนานในการป้องกันและปราบปรามตามแนวชายแดน และมีกำหนดการจะนัดประชุมหารือในวันพรุ่งนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่าประเด็นสำคัญที่จะมาติดตามในวันนี้ก็คือขอให้ทางการกัมพูชาเร่งรัดติดตามความคืบหน้ากรณีหมายจับในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงลงทุน และการค้ามนุษย์ โดยในครั้งนี้ได้นำเอกสารสำคัญเกี่ยวกับหมายจับ ผู้ต้องหา 22 คนสำคัญ หรือ เรดโนติส มาส่งมอบให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชาเพื่อขอให้เร่งรัดดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาสำคัญให้กับประเทศไทยเพื่อจะนำไปขยายผลในการดำเนินคดี 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top