Saturday, 14 June 2025
NewsFeed

‘อ.พงษ์ภาณุ’ ชี้!! BRICS โอกาสทองของไทย ช่วย ‘แลนด์บริดจ์ไทย’ เนื้อหอม เชื่อม BRI

ทีมข่าว THE STATES TIMES  ได้พูดคุยกับ อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ที่มาร่วมพูดคุยในรายการ Easy Econ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ในประเด็น 'BRICS กับโอกาสทองของไทย' เมื่อวันที่ 21 ม.ค.67 โดย อ.พงษ์ภาณุ กล่าวว่า…

เหตุการณ์น่าสนใจช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาคือการที่กลุ่ม BRICS รับประเทศสมาชิกใหม่หลายประเทศ รวมทั้ง ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมมิเรตส์ และอิหร่าน ซึ่งเป็นการขยายขนาดและอิทธิพลของกลุ่มครั้งใหญ่ที่สุด นับจากก่อตั้งขึ้นมากว่า 20 ปี

กลุ่ม BRICS ไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่เป็นการนำตัวอักษรนำหน้าชื่อประเทศสมาชิกก่อตั้งมาเรียงกัน จีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่ม คิดเป็นกว่า 50% ของ GDP รวมของกลุ่ม สมาชิกมีความแตกต่างและไม่มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ร่วมกันดังเช่นกลุ่มเศรษฐกิจอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญที่ประเทศสมาชิกมีร่วมกัน คือแนวคิดต่อต้านระเบียบโลก (World Order) และการครอบงำของสหรัฐอเมริกาและตะวันตก

กลุ่ม BRICS ไม่มีกฏบัตรและหลักเกณฑ์การรับสมาชิกใหม่ แต่ได้เป็นเวทีให้สมาชิกใช้แสดงความไม่เห็นด้วยและโจมตีนโยบายและการทำงานของสถาบันต่างที่อยู่ภายใต้ระเบียบโลก กลุ่ม BRICS ตั้ง Mini World Bank และ Mini IMF ขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้ประเทศสมาชิกใช้ประโยชน์ นอกเหนือจากสถาบันการเงินในระบบ Bretton Woods

ประเทศสมาชิกหลายประเทศ โดยเฉพาะรัสเซีย และจีน ถูกสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ (Sanctions) และหลายครั้งถูกสหรัฐฯ ใช้เงินดอลลาร์เป็นอาวุธร้ายมาลงโทษประเทศเหล่านี้เมื่อเกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อาทิเช่น เมื่อสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ผ่านมา รัสเซียถูกอายัดทุนสำรองที่เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ และถูกตัดขาดออกจากระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ ดังนั้นกลุ่ม BRICS จึงพยายามผลักดันการใช้เงินสกุลท้องถิ่น (Local Currencies) ทดแทนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วย

แนวคิดเหล่านี้ของกลุ่ม BRICS ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะประเทศไทยสมัยนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยผลักดัน Asian Bond Market Initiative (ABMI) เมื่อราว 20 ปีที่แล้ว จนเป็นที่รู้จักและเห็นผลเป็นรูปธรรมบ้างแล้ว ธนาคารกลางในเอเชียลงขันกันตั้งกองทุน Asian Bond Fund เพื่อลงทุนในพันธบัตรที่ออกในสกุลเงินของประเทศสมาชิก ตลาดตราสารหนี้ของประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันถือเป็นเสาหลักของระบบการเงินของประเทศ

ไม่นานมานี้ จีนได้จัดงานครบรอบ 10 ปีของโครงการเส้นทางสายไหม (Belt and Road Initiative : BRI) โดยใน 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเองไม่มีโครงการอยู่ใน BRI เลย แต่การที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เดินทางไปกรุงปักกิ่ง เพื่อเข้าร่วมงานด้วยตนเอง บ่งชี้ความสำคัญและวิสัยทัศน์ของไทยที่จะเข้าร่วมเส้นทางสายไหมของจีนนี้ โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งเชื่อมมหาสมุทรอินเดียและอ่าวไทย จะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญของ BRI 
ยิ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับการขยายสมาชิกสภาพของกลุ่ม BRICS ที่ครอบคลุมถึงซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบที่สำคัญที่สุดของจีนด้วยแล้ว โครงการแลนด์บริดจ์จะยิ่งทวีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้น และเชื่อแน่ว่าหากเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญประเทศหนึ่งของโลกแน่นอน

ความพยายามของกลุ่ม BRICS ที่จะจัดระเบียบโลกด้านเศรษฐกิจใหม่ เป็นความพยายามที่น่าชมเชย แต่จะสำเร็จหรือไม่คงจะเป็นเรื่องไม่ง่าย และไม่แน่ประเทศไทยอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างความสำเร็จนี้ก็ได้

เร่งสร้าง Smart Farmer รองรับอาชีพเลี้ยงปศุสัตว์ส่งออก

นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเพชรบุรี ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายทิฐินันท์ ทุมมา ผู้อำนวยการสถานศึกษา นักเรียน และนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเพชรบุรี ให้การต้อนรับในพื้นที่ สำหรับวัตถุประสงค์การตรวจเยี่ยมในวันนี้ เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร พร้อมหารือความร่วมมือร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และสถานศึกษาให้สร้างเยาวชนในท้องถิ่นให้เป็นเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer)

รัฐมนตรีช่วยฯ ไชยา กล่าวว่า จังหวัดเพชรบุรี มีสถานที่ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นศูนย์กักกันโรคเพื่อการส่งออกของสินค้า ปศุสัตว์ไปยังต่างประเทศ และมีวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเพชรบุรีที่มีความพร้อมทั้งศูนย์การเรียนรู้ เครื่องมือ และมีบุคลากร นักเรียน รวมถึงนักศึกษาที่มีความสนใจการทำเกษตรกรรมจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ต้องการบูรณาการร่วมกันกับสถานศึกษาในการผลิตหลักสูตรทางด้านวิชาการและประสบการณ์จริง สำหรับรองรับอาชีพการเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อการส่งออก โดยมอบหมายให้กรมปศุสัตว์และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ประสานการทำงานร่วมกันกับสถานศึกษา เพื่อใช้สถานที่ของวิทยาลัยฯ ในการจัดการเรียนการสอน และใช้องค์ความรู้ด้านการวิจัย พัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรมของกระทรวงเกษตรฯ ในการสร้างเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) ให้รองรับการทำการเกษตรสมัยใหม่ในอนาคต

นอกจากนี้ รมช.ไชยา ได้เยี่ยมชมนิทรรศการวิจัยการแปรรูปสับปะรดเป็นอาหารสำหรับโคนมของศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เพชรบุรี การพัฒนาไก่เขียวห้วยทรายจากไก่พันธุ์พื้นเมืองของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมถึงโครงการของนักเรียน อาทิ การศึกษาอัตราการรอดของแหนแดงที่เพาะเลี้ยงในน้ำกร่อย โดยใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจากใบทองหลางน้ำที่ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ช่วยให้การเจริญเติบโต และโครงการผลิตก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้าภูฐาน เพื่อจำหน่าย เป็นต้น พร้อมทั้ง เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ของวิทยาลัยฯ ที่มีการสอนทำอาหารสัตว์ การพัฒนาสายพันธุ์โค และการทำสัตวบาล เพื่อเป็นแนวทางให้นักศึกษาสามารถหารายได้เลี้ยงชีพได้ตั้งแต่วัยเรียนอีกด้วย

‘นายกฯ’ มั่นใจ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น’ ไร้ทุจริต ลั่น!! ไม่มีแนวคิดยุติโครงการ แต่อาจดีเลย์

(19 ม.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า ตนได้รับรายงานจากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง บอกขอรอรับรายงานจากทาง ป.ป.ช.ก่อน ส่วนเรื่องคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่าตนเชื่อว่า มีตัวเลือกที่สามารถอธิบายได้ ส่วนเรื่องทุจริตผมมั่นใจ 100% ว่าไม่มีแน่นอน หากสงสัยว่าทุจริตตรงไหนให้ถามมา ทางรัฐบาลมีหน้าที่อธิบาย เพราะมีการใช้เทคโนโลยี ในการส่งเงินจาก G to C (Government to customer) เพื่อเข้ากระเป๋าสตางค์ของประชาชน ซึ่งตนไม่เห็นว่าจะทุจริตตรงไหนได้เลย พร้อมย้ำว่าอย่าพูดลอยๆ ว่ามีการทำทุจริตได้ ซึ่งตนเข้าใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ พร้อมระบุว่า ถ้าบอกได้ว่าตรงไหนมีการทุจริตเราก็พร้อมที่จะอธิบายให้ฟัง เพราะหากอธิบายไม่ได้หรือมีข้อกังขาก็คงทำไม่ได้ 

เมื่อถามว่าไทม์ไลน์ของโครงการจะเริ่มที่เดือนพฤษภาคมเหมือนเดิมใช่หรือไม่? นายกรัฐมนตรีระบุว่า “เป็นไปตามที่นายจุลพันธ์ ระบุว่าอาจจะมีการดีเลย์ออกไป”

ส่วนกรณีที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่ารัฐบาลจะใช้ข้ออ้างของป.ป.ช. เพื่อเป็นหลังพิงฝาในการยุติโครงการดังกล่าว? นายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ไม่มีความคิด ณ จุดนี้ เดินหน้าเต็มที่ ส่วนจะดีเลย์ออกไประยะเวลานานแค่ไหนตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับว่าหนังสือจากป.ป.ช.จะมาถึงเมื่อใด และมีคำถามมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากมีคำถามมาตนก็อยากให้เป็นคำถามที่เฉพาะเจาะจง เพราะจะได้สามารถตอบอย่างตรงไปตรงมา”

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะถึงขั้นเลื่อนมาใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ในการดำเนินโครงการ? นายเศรษฐา ระบุว่า “ยังไม่พูดไปไกลขนาดนั้น” และกล่าวอีกว่า ตนมีความกังวลในทุกเรื่อง ที่เป็นเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต โรงงานพลุระเบิด จังหวัดสุพรรณบุรี ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งตนก็กังวลทุกเรื่อง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนให้เกียรติรัฐร่วมรัฐบาลเสมอ ซึ่งต้องคุยกันทุกเรื่อง ในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เมื่อมีข้อมูลหรือคำถามเข้ามาเราก็ต้องอธิบายคำถามให้ได้ว่าเป็นอย่างไร และเราต้อง คุยกับพรรคร่วมรวมถึงถามว่าพอใจหรือเห็นด้วยหรือไม่ เพราะอยู่ด้วยกันต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนยืนยันมาตลอด 

‘อ.ลอย’ เตือนอย่าเพิ่งดีใจไทยมีลิเทียม 14.8 ล้านตัน ชี้!! ส่วนใหญ่คือ ‘หิน-สินแร่’ อาจเป็นลิเทียมแค่ 3 หมื่นตัน

เมื่อไม่นานมานี้ประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ว่าค้นพบแหล่งแร่ลิเทียม-โซเดียมที่คาดการณ์ว่ามีปริมาณมากถึง 14.8 ล้านตัน จากแหล่งแร่คุณภาพดี 2 แห่ง ได้แก่ แหล่งเรืองเกียรติ และแหล่งบางอีตุ้ม จ.พังงา

ล่าสุด (19 ม.ค. 67) อาจารย์ลอย ชุนพงษ์ทอง นักคณิตศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญดาราศาสตร์คำนวณ และยูทูบเบอร์ ผู้ก่อตั้ง ‘Loy Academy’ ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า…

หยุดแหกตา โกหกประชาชน!! เรื่องแหล่งแร่ #ลิเทียม ที่พังงา แร่ Lepidolite ที่ตะกั่วทุ่งมี % Lithium Oxide ราว 0.35-0.45%

1. สินแร่ (หิน) Lepidolite 25 ล้านตัน ไม่ใช่ลิเทียมออกไซด์ 25 ล้านตัน ตามที่ตีข่าวใหญ่โต มีลิเทียมออกไซด์ ไม่เกิน 0.45% ของหินชนิดนี้ ที่แหล่งนี้

2. แหล่งเล็กมาก ต่อให้เอา 2 แหล่ง และต่อให้มีหินแร่รวมกัน 25 ล้านตัน ก็คาดว่าขุดหินแร่มาใช้ได้อย่างเก่งแค่ 10 ล้านตัน ถ้าแยกแร่ได้ดีเยี่ยม ก็เหลือลิเทียมออกไซด์ไม่เกิน 3 หมื่นตัน

3. ที่สำคัญสุดคือเกรดห่วย ต่อให้นำสินแร่ขึ้นมาได้ ยกสินแร่ให้ผมฟรี ๆ ผมก็ไม่เอาครับ เพราะเกรดต่ำมาก 0.45% ปรกติเกรดที่คุ้มค่าการลงทุนแต่งแร่ คือ 0.9% ค่าสกัดให้เป็นลิเทียมออกไซด์ ต่อตันอาจแพงกว่าราคานำเข้าเสียอีก ประมาณว่า แหล่งนี้ต้องใช้หินแร่ (สินแร่) ถึง 300 ตัน จึงจะสกัดลิเทียมออกไซด์ได้ 1 ตัน

อย่างไรก็ตามนั่นหมายความว่าประเทศไทยไม่ได้มีแร่ลิเทียม 14.8 ล้านตันอย่างที่เป็นข่าว แต่เป็นสินแร่ (หินที่มีแร่) จำนวน 14.8 ล้านตันเท่านั้น ซึ่งหากสกัดออกมาเป็นลิเทียมออกไซด์เรียบร้อยแล้วจะมีเพียง 3 หมื่นตันเท่านั้น และประเทศไทยอาจไม่ได้เป็นอันดับที่ 3 เหมือนที่คาดการณ์ไว้

รมว.แรงงาน 'พิพัฒน์' ตามผลผู้ฝึกแรงงานอิสระเชียงราย และแรงงานจากอิสราเอล Up Skill นำความรู้ติดตัว ต่อยอดอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน

วันที่ 19 มกราคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 20 เชียงราย และตรวจเยี่ยมพบปะให้คำแนะนำ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการประกอบอาชีพให้แรงงานที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะของแรงงานอิสระยุค 4.0 และหลักสูตรขับเคลื่อนและส่งกำลังยานยนต์ไฟฟ้า โดยมี นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดเชียงราย และผู้เข้ารับการฝึกอบรม ร่วมให้การต้อนรับ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 20 เชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เชียงรายเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก ทำให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวภาคเหนือคึกคัก ในส่วนของกระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญเร่งส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน ทำให้ประชาชนมีทักษะฝีมือ มีงานทำ มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ในวันนี้ผมพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ติดตามผลการฝึกอบรมหลักสูตรการประกอบอาชีพให้แรงงานอิสระและแรงงานที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล อาทิ หลักสูตรการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก เพื่อเป็นอาชีพเสริมจากภาคเกษตร สามารถทำงานเพื่มรายได้ที่อิสราเอลได้ และหลักสูตรการบำรุงรักษารถจักรยานยนต์เบื้องต้น เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของแรงงานในการบำรุงรักษา ซ่อมด้วยตนเอง เป็นต้น

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ผมได้ให้นโยบายเร่งด่วนไปกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในหลักสูตรที่แรงงานต้องการฝึกอบรม 5 อันดับแรก ได้แก่ การเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร การติดตั้งโซล่าเซลล์ระบบ lOT เพื่อการเกษตรกรรม การซ่อมรถจักรยานยนต์ การซ่อมรถยนต์ และการเชื่อมโลหะตามลำดับ เพื่อให้แรงงานอิสระสามารถนำไปประกอบอาชีพ มีรายได้ทันที ส่วนผู้ว่างงานที่ต้องการ Up Skill ทักษะฝีมือของตัวเอง สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 20 เชียงราย หรือโทร.สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 

'2 โหรฯ' อ่านดวง 'การเมืองไทย' ปีมังกร ฟันธง!! นายกฯ คนใหม่เร็วๆ นี้ 'ไม่ใช่ผู้หญิง'

วันก่อนนั่งอ่านคำพยากรณ์ของโหรฯ โสรัจจะ นวลอยู่ เจ้าของฉายา ‘นอสตราดามุสเมืองไทย’ แกบอกว่าปี 2567 เป็นปีมังกรไฟ นอกจากจะเกิดภัยพิบัติมากมายมหาศาลแล้ว ยังจะเกิดความขัดแย้งของคนในชาติ และหน่วยงานของรัฐชนิดแตกหัก แกยกตัวอย่างชัด ๆ ว่าจะเกิดสงครามระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ 

และที่สุดบ้านเมืองอาจเกิดรัฐประหาร ทหารต้องย่ามสามขุมมารัฐประหารอีกครั้ง แถว ๆ เดือนมิ.ย.

เฮ่อ…ฟังแล้วสยอง…ยิ่งสยองกว่าเดิมเมื่อเห็นปรากฏการณ์วันที่ 19 ม.ค. ท่านเลขานุกา รมว.คลัง ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาให้ความเห็นแบบดับเครื่องชนแบงก์ชาติ 6 ข้อ 

‘เล็ก เลียบด่วน’ ขออนุญาตฉายหนังตัวอย่าง 2 ข้อ

1.ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ติดลบ 14 เดือนติด สัญญาณอันตรายภาคการผลิตของประเทศ และยอดขายรถเชิงพาณิชย์ ตัววัดสำคัญของการลงทุน ติดลบ 4 ไตรมาสติด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายการเงินที่ผ่านมา เพิ่มต้นทุนการเงินเอกชน เป็นลบต่อการลงทุนในวงกว้างหรือไม่

ข้อ 2.....3.....4.....5..... ขอไม่เอ่ยถึง

มาต่อกันที่ข้อที่ 6.นโยบายการคลัง (รัฐบาล) และนโยบายการเงิน (ธปท.) ควรสอดประสานกันหรือไม่ ปัจจุบันรัฐบาลเห็นความจำเป็นในการกดคันเร่งนโยบายการคลัง (ซึ่ง Digital Wallet เป็นหนึ่งในนั้น) แต่นโยบายการเงินยังคงอยู่ในช่วงการกดเบรกหรือไม่ และการขับรถคันเดียวกัน ขาหนึ่งกดคันเร่ง ขาหนึ่งกดเบรก พร้อมกัน รถจะพังหรือไม่ ประเทศจะมีปัญหาหรือไม่...

พูดกันชัด ๆ ตรงนี้ หลังจากที่ร่างเอกสารข้อเสนอแนะเรื่อง Digital Wallet 177 หน้า ของ ป.ป.ช. ที่มีท่านสุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานคณะทำงานหลุดรอดออกมา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. อ่านกันกี่ตลบก็ต้องบอกว่าโครงการแจก 1 หมื่นบาทผ่าน Digital Wallet มีความเสี่ยงทางกฎหมายสูงยิ่ง และเอาเข้าจริงภาวะเศรษฐกิจก็ไม่ถึงขั้นวิกฤต...

นี่แหละเป็นเหตุให้ ท่านจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง, หมอมิ้งค์ พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ และดร.เผ่าภูมิ ดาหน้ากันออกมาชน ป.ป.ช. และเลยไปถึง ‘แบงก์ชาติ’

ถึงขั้นนี้ก็ต้องฟันธงว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยไม่ถอยแน่ แม้จะไม่ทัน เดือนพ.ค. ส่วนจะปรับรูปแบบเป็นอย่างไรนั้นต้องตามไปดูกันอีกครั้ง...

ขอกลับไปที่คำพยากรณ์เรื่องรัฐประหารของโหรฯ โสรัจจะอีกครั้ง ก็ต้องขอบอกว่าอีกโหรฯ หนึ่งที่คาดว่าอาจมีรัฐประหารในปี 2567 ก็คือ อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ ที่ระบุว่าอาจจะเกิดแถว ๆ เดือน ก.ย.

ส่วนโหรฯ อีกคู่หนึ่ง ทำนายเหมือนกันว่าจะมีการเปลี่ยนนายกฯ ในปีนี้ และนายกฯ คนใหม่ที่ว่านี้ ‘ไม่ใช่ผู้หญิง’ ซึ่งแปลว่าไม่ใช่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร นั่นเอง

โหรฯ สองท่านที่ว่าคือ ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล และวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรฯ คมช. โดยโหรฯ วารินทร์เรียกนายกฯ ผู้ชายคนที่กำลังจะมาว่า ‘ผู้ที่มีหน้าที่ที่แท้จริง’ ซึ่งหากใครที่รู้ปูมหลังของโหรฯ วารินทร์ และอ่านที่ท่านให้สัมภาษณ์เต็ม ๆ ทำให้ใบหน้าผู้ชายที่ละม้ายคล้าย ‘ลุงตู่’ ประยุทธ์, อนุทิน และพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ลอยมาเข้าตา…แบบเต็ม ๆ ตา

ส่วนจะเป็นใครโหรฯ วารินทร์ไม่บอก บอกเพียงว่าเป็นผู้ที่มั่นคงในชาติ ศาสน์ กษัตริย์

พิษณุโลก นายก อบจ.พิษณุโลก อุดหนุนงบ 2.5 ล้านบาท จัดการแสดง แสง เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ “เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” พร้อมร่วมแสดงเป็นองค์สมมติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2457 เวลา 19.00 น. นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดการแสดง แสง เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ “เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภายในงาน "แผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราชพิษณุโลก" ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 14-20 มกราคม 2567 ณ บริเวณพระราชวังจันทน์ อำเภอเมืองพิษณุโลก โดยมี นางสาวนิภาวรรณ กาญจนพิทักษ์ วัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงาน พร้อมกันนี้ได้มอบเช็คเงินอุดหนุนจำนวน 2.5 ล้านบาท ให้กับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก เพื่อจัดการแสดงละครเทิดพระเกียรติฯ ภายในพิธีเปิดได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ และหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เข้าร่วมพิธีและชมการแสดงละครเทิดพระเกียรติฯ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเผยแพร่พระเกียรติภูมิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้เกรียงไกร ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยที่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องชาวไทยและชาวพิษณุโลก และในโอกาสนี้ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ “เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ในครั้งนี้ โดยรับบทแสดงเป็นองค์สมมติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยการจัดขึ้นเป็นวันที่ 6 พร้อมทั้งได้นำข้าราชการและพนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก “นุ่งโจม ห่มสไบ แต่งไทย ทั้งเมือง” ร่วมชมการแสดงละครฯ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนมาร่วมชมการแสดงจำนวนมาก     .ธันย์ชนก ทองเพิ่ม ผู้สื่อข่าวพิษณุโลกรายงานข่าว

‘ก.พ.ร.’ แจง!! ข้อมูล ‘แร่ลิเทียม’ ในไทย เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ชี้!! ไทยไม่ใช่อันดับ 3 ของโลก แต่มีความสมบูรณ์กว่าหลายๆ แห่ง

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (ก.พ.ร.) ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่ กรมฯได้เผยแพร่ข่าวว่ามีการพบแหล่งลิเทียมในประเทศไทย ที่แหล่งเรืองเกียรติ อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มีปริมาณทางธรณีของทรัพยากรแร่ (Mineral Resource) ประมาณ 14.8 ล้านตัน มากเป็นอันดับ 3 ของโลก เกรดลิเทียมออกไซด์เฉลี่ย 0.45% หรือมีปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตเทียบเท่า (LCE) ประมาณ 164,500 ตัน และสามารถนำแร่ขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ร้อยละ 25 จะนำมาผลิตเป็นแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาด 50 kWh ได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคันนั้น กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ชี้แจงว่า คำว่า ‘Mineral Resource’ มีความหมายถึง ‘ปริมาณทางธรณีของทรัพยากรแร่’ ซึ่งแตกต่างจากคำว่า ‘Lithium Resource’ ซึ่งหมายถึง ‘ปริมาณทรัพยากรโลหะลิเทียม’

ดังนั้น การนำข้อมูลปริมาณทางธรณีของทรัพยากรแร่ ไปเปรียบเทียบกับปริมาณทรัพยากรโลหะลิเทียมของต่างประเทศ จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า ประเทศไทยมีปริมาณแร่ลิเทียมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้

สำหรับชนิดของแร่ที่พบในประเทศไทยในขณะนี้ เป็น ‘แร่เลพิโดไลต์’ (lepidolite) ที่พบใน ‘หินเพกมาไทต์’ (pegmatite) และมีความสมบูรณ์ของลิเทียม หรือเกรดลิเทียมออกไซด์ เฉลี่ย 0.45% แม้จะมีความสมบูรณ์ไม่สูงมาก แต่ก็ถือว่ามีความสมบูรณ์กว่าแหล่งลิเทียมหลายแห่งทั่วโลก และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีในการแต่งแร่ที่ความสมบูรณ์ดังกล่าวได้คุ้มค่า อีกทั้งแร่ลิเทียมมีความสัมพันธ์กับแหล่งแร่อื่นๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ดีบุกและธาตุหายากอื่น ซึ่งประเทศไทยเป็นแหล่งดีบุกที่สำคัญในอดีต จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพบแหล่งลิเทียมเพิ่มเติม หากมีการสำรวจในอนาคต

ปัจจุบันมีผู้ได้รับอาชญาบัตรพิเศษเพื่อสำรวจลิเทียมจำนวน 3 แปลง ในพื้นที่จังหวัดพังงา และมีคำขออาชญาบัตรเพื่อสำรวจลิเทียมในพื้นที่จังหวัดอื่นอีก เช่น จ.ราชบุรี และ จ.ยะลา

โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะเร่งรัดให้เกิดการสำรวจลิเทียมและแร่หายากเพิ่มขึ้น ให้ประเทศไทยมีข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทำเหมืองลิเทียม เพื่อรองรับการเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคต่อไป

นอกจากนี้ ศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ชี้แจงว่า ตัวเลข 14.8 ล้านตัน เป็นปริมาณของหินเพกมาไทต์ ซึ่งมีธาตุลิเทียมปะปนอยู่เฉลี่ย 0.45% เมื่อถลุงสกัดเอาลิเทียมออกมาแล้ว จะได้ลิเทียมประมาณ 6-7 หมื่นตัน

เปรียบเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา โมเดล S หนึ่งคัน ใช้ลิเทียมสำหรับทำแบตเตอรี่ประมาณ 62.6 กิโลกรัม ถ้ามี 1 ล้านคัน ก็ใช้ลิเทียมไป 62,600 ตัน

ปริมาณลิเทียมที่คำนวณจากหินเพกมาไทต์ จากแหล่งเรืองเกียรติ เท่ากับ 6.66 หมื่นตัน ซึ่งหากนำมาเทียบกับข้อมูลแหล่งลิเทียมของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก พบว่า ไทยยังห่างไกลจากประเทศ Top 10 เป็นอย่างมาก โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ โบลิเวีย 21 ล้านตัน, อาร์เจนตินา 20 ล้านตัน, ชิลี 11 ล้านตัน, ออสเตรเลีย 7.9 ล้านตัน และ จีน 6.8 ล้านตัน

‘วราวุธ’ ย้ำ!! เร่งช่วยเหลือครอบครัว 23 เหยื่อโรงงานพลุระเบิด พร้อมดูแลด้าน ‘กาย-จิตใจ-การศึกษา-รายได้และความเป็นอยู่’

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์กรณีได้รับรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า ถือเป็นพระมหากรุณาที่คุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัย องคมนตรีได้เยี่ยมเยียน สอบถามความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งถือเป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ยังเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วย

นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้สำหรับผู้เสียชีวิต 23 ราย เราได้รายละเอียดครบทุกคนแล้ว โดยทราบว่ามีใครเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องบ้าง เกี่ยวข้องอย่างไร เพราะบางคนผู้ได้รับผลกระทบที่สุดคือหลาน โดยมีลูกมีอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน ฉะนั้น คนที่เสียชีวิตจะเป็นเสาหลัก แต่บางบ้านผู้เสียชีวิตไม่ใช่เสาหลัก ดังนั้นจึงจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า รายละเอียดทั้งหมด แบ่งเป็น 4 มิติ ได้แก่ สุขภาพกาย, สุขภาพจิต, เรื่องการศึกษา, รายได้และความเป็นอยู่ โดยในแต่ละมิติจะมีหลายหน่วยงานเข้ามา อาทิ เรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิต จะเป็นเรื่องของกระทรวงพม. กับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการศึกษาก็จะมีทั้งเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามา ด้านรายได้ก็จะมีเงินประกันสังคม จากกระทรวงแรงงาน ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ก็จะมีกระทรวงมหาดไทย และภาคเอกชนเข้ามาช่วย

อย่างไรก็ตาม ตนย้ำกับทีม พม.หนึ่งเดียวแล้วว่า ขณะที่ พม.มีวอร์รูมแล้ว ขอให้มีการประสานงานที่ดีกับหน่วยงานอื่น เพราะจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่สับสน

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เคสที่หนัก คือ 3 ครอบครัว เด็กเยาวชนที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน เนื่องจากเป็นเด็กเล็ก ยังเรียนหนังสือ ซึ่งขณะนี้มีหลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ทุกคนจะต้องได้เรียนต่ออย่างแน่นอน และต้องขอขอบคุณ ทุกหน่วยงาน ภาคเอกชนทุกราย และอีกหลายฝ่ายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยสนับสนุน

“นักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยา รายงานกรณีเข้าประกบดูแลเคส ระบุว่า ตอนนี้ทุกคนอยู่ในภาวะเครียด เศร้าและซึม จิตใจย่ำแย่ ซึ่งในช่วง 7-10 วันแรกนี้ นักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยาจะประกบอยู่ทุกวันตลอดเวลา มีการประเมินสภาพจิตใจกันทุกวัน สถานการณ์หลังพูดคุยแล้วจิตใจเป็นอย่างไร และมีทีมแพทย์ ทีมนักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาร่วมงานกันด้วย เราต้องตามติดกันทุกวัน เพราะในเบื้องต้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลสภาพจิตใจกันก่อน” นายวราวุธ กล่าว

ผบช.สทส. และ ผบก.สส. พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน191 ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันนี้ (19 ม.ค.67) เวลา15.30น.พล.ต.ท.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบช.สทส., พล.ต.ต.อธิศวิส กมลรัตน์ ผบก.สส. พร้อมคณะ ได้เดินทางมาร่วมตรวจเยี่ยมศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน191ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน

โดยมี พ.ต.อ.สุณัฐพล นิรมิตศุภเชษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.สมศักดิ์ ขันชัยทิศ ผกก.กก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน / ผช.ผอ.ศูนย์191และข้าราชการตำรวจในสังกัด จำนวน 11 นาย ให้การต้อนรับ พร้อมกับเข้ารายงานผลปฎิบัติ หน้าที่ ปัญหา ขัดข้อง อุปสรรคในการปฎิบัติงานให้ทราบ 

พร้อมได้สั่งการดังนี้
1. มีระเบียบวินัยในการปฎิบัติหน้าที่ ผลัดเปลี่ยนกันเข้าเวร ควรจัดให้เป็นระบบและมีระเบียบ มีความพร้อมให้บริการกับประชาชน
2.เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุควรมีความชำนาญในพื้นที่ที่รับผิดชอบ รู้จักสถานที่เกิดเหตุว่าอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบใด  มีทักษะในการสื่อสารที่ดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี และมีใจรักในงานบริการ และมีความรู้ทางคอมพิวเตอร์
3.หมั่นตรวจเช็คระบบและอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารทั้งหมดภายในศูนย์รับแจ้งเหตุ ให้มีความพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
4.กำชับการรับสายเรียกเข้าทุกสายด้วยความรวดเร็ว และสอบถามรายละเอียดข้อมูลจากผู้แจ้งเหตุให้ครบถ้วน
5.กำกับดูแลสายตรวจให้ ไประงับเหตุและให้บริการประชาชนด้วยความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ 
6.นำข้อมูลและสถิติการรับแจ้งเหตุ มาวิเคราะห์วางแผนในการป้องกันอาชญากรรม และปรับปรุงการปฏิบัติงานของศูนย์รับแจ้งเหตุให้ดียิ่งขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top