Saturday, 14 June 2025
NewsFeed

พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล วันกองทัพไทย

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.67 ที่บริเวณลานทรงพล ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล โดยมี พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน เนื่องในวันกองทัพไทย ซึ่งเป็นวันที่ระลึกในวาระที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาของพม่า และทรงมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา โดยถือเอาวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็นวันกองทัพไทย ตามการคำนวณจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ที่ระบุว่า พระองค์กระทำยุทธหัตถี ในวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จ.ศ. 954 คำนวณได้ ตรงกับวันที่ 18 มกราคม 2135 

ทั้งนี้ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของอดีตวีรมหากษัตริย์ และเหล่าทหารหาญที่ได้เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตย และแผ่นดินไทย อีกทั้ง ยังเป็นวันที่กำลังพลบรรจุเข้ารับราชการใหม่ ทหารใหม่ทุกนายที่ยังไม่เคยกระทำสัตย์ปฏิญาณ จะได้เปล่งสัจจะวาจาปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลอันศักดิ์สิทธิ์ แสดงถึงความพร้อมเป็นทหารของชาติโดยสมบูรณ์ ที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี และอุดมการณ์อันแน่วแน่

นอกจากนี้ การสวนสนาม ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง มีระเบียบวินัย และความสง่างาม พร้อมทั้งเป็นการย้ำเตือนให้ทหารทุกคนได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่เพื่อประเทศชาติ และประชาชน

โดยในช่วงเช้าวันเดียวกัน พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้กระทำพิธีถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หน้าโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สักการะพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ พลับพลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ด้านหลังกองบังคับการกองพันทหารเสนารักษ์ที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 สักการะพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ พิพิธภัณฑ์ทหารกองทัพภาคที่ 3และพิธีวางพานพุ่มและบวงสรวงถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ พระรูปพระสุพรรณกัลยา บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3

พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องใน 'วันกองทัพไทยประจำปี 2567'

พลเรือโท สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล โดยกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งร่วมกับหน่วยทหารเรือในฝั่งอันดามันจัดกำลังพลร่วมพิธีสวนสนามกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลประจำปี 2567 ณ ลานสวนสนาม ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 กำลังพลที่ร่วมกระทำพิธีครั้งนี้ มีจำนวน 1 กองพัน รวมจำนวนทั้งสิ้น 269 นาย โดยมี พลเรือโท สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช เป็นประธานในพิธี ซึ่งในปีนี้ได้อัญเชิญธงชัยเฉลิมพลประกอบพิธีเป็นธงชัยเฉลิมพลประจำกองพันต่อสู้อากาศยานที่22 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โดยมีนาวาโท ศักรินทร์ ชื่อสงวน ผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 เป็นผู้บังคับกองพันสวนสนาม และประกอบด้วยกำลังพลสวนสนามจำนวน 4 กองร้อย ดังนี้  บก.พัน. สวนสนาม,กองร้อยสวนสนามจากกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ,กองร้อยสวนสนามจากกรมทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน ม ,กองร้อยสวนสนามจากกองพันรักษาฝั่งที่ 11 กรมรักษาฝั่งที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ,กองร้อยสวนสนามจากกองรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือพังงา กองพลนาวิกโยธิน

พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อเป็นการน้อมระลึกถึงวีรกรรมของวีรกษัตริย์ไทย รวมทั้งบรรพบุรุษไทยผู้กล้าหาญทั้งหลายที่ได้สละชีวิตเลือดเนื้อ เพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยให้ดำรงความเป็นชาติที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีเป็นมรดกตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ,เพื่อแสดงออกถึงความรักความสามัคคีของกำลังพลในกองทัพ ,เพื่อเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาและรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ,เพื่อแสดงออกถึงแสนยานุภาพแห่งกองทัพ ให้ขจรขจายไปทั่วโลก

พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทยประจำปี 2567 ในวันนี้จัดให้มีขึ้น เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเพื่อให้ทหารใหม่ทุกนาย กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลธงชัยเฉลิมพล อันถือเป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นจอมทัพ ที่เสมือนหนึ่งเสด็จพระราชดำเนินมาประทับเป็นหลักชัยอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารทั้งปวง ทั้งยังเป็นเครื่องหมายของสามสถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ อันเป็นปัจจัยอันสำคัญของบ้านเมือง ที่ทหารจักต้องรักษาไว้เพื่อประโยชน์สุขแห่งประเทศชาติและประชาชน 

ทหารใหม่ทุกนายจะต้องผ่านการเข้าร่วมพิธี จึงจะถือได้ว่าเป็นทหารอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน และพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ มีความรัก ความสามัคคี พร้อมอุทิศตนเพื่อปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ของประเทศชาติ เทิดทูน และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไว้ยิ่งชีพ รวมทั้งยึดมั่นในการปฏิบัติตามคำสัตย์ปฏิญาณตนไว้อย่างมั่นคงตลอดไป

เด็กน้อยวัย 4 ขวบ พิชิต ‘เอเวอเรสต์ เบสแคมป์’ ทำลายสถิติเด็ก 5 ขวบ ที่ไปถึงเบสแคมป์เมื่อปีก่อน

(19 ม.ค. 67) สำนักข่าวมิร์เรอร์ รายงานเรื่องราวสุดตะลึงของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่กลายเป็นคนอายุน้อยที่สุด โดยสามารถพิชิต เอเวอเรสต์ เบสแคมป์ ในเนปาล กับความสูงเหนือน้ำทะเล 5,364 เมตร ซึ่งทำลายสถิติของ ด.ญ.พริชา โลเคช นิคาโจ ซึ่งมีอายุเพียง 5 ขวบ ที่ไปถึงเบสแคมป์เมื่อปีก่อน

โดยยอดเขาเอเวอเรสต์ เบสแคมป์ มีปริมาณออกซิเจนจะน้อยกว่าระดับน้ำทะเลประมาณครึ่งหนึ่ง หากปรับตัวให้ชินกับความสูงไม่ได้ก็อาจเสี่ยงต่ออาการแพ้ที่สูงซึ่งบางครั้งเกิดขึ้นฉับพลันและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เด็กหญิงซารา วัย 4 ขวบ กับพี่ชายวัย 7 ขวบ และนายเดวิด ชิฟรา ผู้เป็นพ่อ ก็สู้บากบั่นปีนเขาเป็นระยะทางกว่า 273 กิโลเมตรจนถึงจุดหมายปลายทางที่เบสแคมป์ของยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพงดงามของเทือกเขาหิมาลัยเป็นรางวัลแห่งความพยายาม

เดวิดกล่าวว่า คอยตรวจวัดระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดของลูก ๆ อยู่ตลอด และว่าระหว่างเดินทางหนูน้อยซาราปรับตัวเข้ากับสภาพความสูงได้ดีซึ่งต้องขอบคุณร่างกายที่แข็งแรงมาก ๆ ของลูกสาว

ซาราเดินแซงหน้านักปีนเขาหลายร้อยคน ตนทึ่งในตัวลูกสาวมาก ๆ ว่าจัดการทั้งร่างกายและสภาพจิตใจได้อย่างไร แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฝึกเดินป่าตั้งแต่ยังเล็ก

แม้อัตราการเสียชีวิตที่เอเวอเรสต์ เบสแคมป์ ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ในปี 2562 มีผู้เสียชีวิต 11 รายบนเขาเอเวอเรสต์ในช่วงฤดูปีนเขาเพราะมีนักปีนเขาจำนวนมากจนเกิด ‘การจราจรติดขัด’ ผู้คนเบียดเสียดปีนขึ้นเขา

'แบงก์' ป้อง!! 'ธปท.' ทำหน้าที่นายประตูที่ดี เน้นคุมเสถียรภาพ ลั่น!! อยากให้ ศก.ดี ต้องมีผู้เล่นกองหน้า 'ชัดเจน-เหมาะสม'

(19 ม.ค.67) นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถ้าจะมองว่าเป็นกองหน้า หรือฝั่งของกระทรวงการคลังจะเป็นกองหลัง ก็ต้องทำงานเป็นทีม ดังนั้นทั้งนโยบายการเงินและการคลังก็ต้องทำงานร่วมกัน ซึ่งก็ถูกต้องที่นโยบายการเงินเป็นกองหลัง และเป็นผู้รักษาประตู

“ถ้าบอกว่าอยากให้เศรษฐกิจดีต้องลดดอกเบี้ยนั้น เรื่องนี้จะไม่ใช้ปัจจัยที่จะฟื้นเศรษฐกิจได้โดยใช้เครื่องมือนี้เพียงอย่างเดียว เพราะนโยบายทางการเงินมีหน้าที่รักษาเสถียรภาพ ทั้งอัตราแลกเปลี่ยน เงินเฟ้อ เสถียรภาพตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งเป็นเรื่องการเงินภาพใหญ่ที่ ธปท.ต้องให้ความสำคัญ” นายอมรเทพ กล่าว

นายอมรเทพ กล่าวว่า ขณะนี้โจทย์การแก้เศรษฐกิจนั้นจะให้น้ำหนักไปที่ใด ถ้าจะให้ทุกผู้เล่นเทน้ำหนักไปอยู่กองหลังและดูแต่เสถียรภาพมันก็ไม่มีทางที่จะทำประตูได้ ซึ่งถือเป็นโจทย์หนึ่งที่กำลังติเตียนกันว่ามันจะดีหรือไม่ ที่เทน้ำหนักให้ตรงนี้มากเกินไป ขณะเดียวกัน ทรัพยากรที่เป็นผู้เล่นกองหน้า หรือเรื่องงบประมาณปี 2567 ยังไม่มีการดำเนินการ รวมถึงหลายๆ อย่างที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน และถ้ามองว่าจะยืมตัวผู้เล่นจากกองหลังมาเป็นกองกลาง หรือกองหน้าอย่างไร สุดท้ายก็อยู่ที่การเจรจาระหว่างกัน

อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของ ธปท. ไม่ได้ทำผิดพลาดอยู่แล้ว เพราะหน้าที่คือรักษาเสถียรภาพ แต่ปัญหาขณะนี้อยู่ที่กองหน้าขาดผู้เล่น (งบประมาณ) มากกว่า ดังนั้น อาจต้องผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างอื่นที่ไม่ใช้งบประมาณมาช่วยสนับสนุนและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เพราะนโยบายที่ใช้กับเศรษฐกิจไม่ได้มีเพียงนโยบายทางการเงิน เช่น การผลักดันเรื่องนโยบายอุตสาหกรรม เรื่องการค้าโดยเร่งเจรจาการค้าเสรี หรือภาคการท่องเที่ยวที่จะใช้นโยบายดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทย เป็นต้น

“ปัญหาอาจเพราะผู้เล่น หรือเครื่องยนต์อื่นๆ ทำไม่ได้เลยเหลือความหวังกับฝั่งนโยบายการเงิน แต่หากพิจารณาประเทศอื่นๆ เขาไม่ได้หวังเรื่องการเงินอย่างเดียว เพราะถ้าใช้การเงินโดยการลดดอกเบี้ยก็เป็นความเสี่ยง แต่หากต้องทำจริงๆ ก็ทำได้ แต่จะมีผลข้างเคียงตามมา เช่น เงินเฟ้อขยับขึ้น เงินบาทอ่อนค่า ถ้าพิจารณา 2-3 วันที่ผ่านมา กรณีนักลงทุนอาจผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกได้เร็ว ถ้าไทยทำนโยบายสวนทางจะมีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งหมดนี้ทีมเศรษฐกิจต้องพูดคุยกัน” นายอมรเทพ กล่าว

สมาคมแม่บ้านตำรวจสร้างไอเดียในยุคดิจิตอล อบรมการตลาดออนไลน์ 'เจาะตลาดออนไลน์ให้ยอดขายสุดปัง' ให้กับครอบครัวตำรวจต่อยอด สร้างอาชีพที่ยั่งยืน

คุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า สมาคมแม่บ้านตำรวจ จัดโครงการฝึกอบรม E- Learning อบรมการตลาดออนไลน์ ในหัวข้อเรื่อง “เจาะตลาดออนไลน์ให้ยอดขายสุดปัง” ในวันนี้ (19 มกราคม 2567) ตั้งแต่ เวลา 08.30 - 16.30 น. ณ ชั้น 32 อาคารศูนย์ฝึกกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

ทั้งนี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจตระหนักว่า ในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทและความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจการค้าขายออนไลน์ผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ทดแทนการซื้อจากการตลาดแบบดั้งเดิม และมีแนวโน้มในการหาข้อมูลและตัดสินใจออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ปัจจุบันมีสื่อออนไลน์รูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากและมีบทบาทต่อผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ

สมาคมแม่บ้านตำรวจเห็นว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับช่องทางการตลาดยุคดิจิทัล การวิเคราะห์ช่องทางการตลาดที่มีศักยภาพมีความสำคัญ เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ จึงได้จัดทำโครงการ E-learning ขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิตให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัว และที่สำคัญเป็นการต่อยอดของโครงการ OPOP (One Province One Product) เพื่อขยายฐานการตลาดออนไลน์ให้กับผลิตภัณฑ์ของครอบครัวข้าราชการตำรวจ ที่อยู่ในโครงการ OPOP ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจ นำไปใช้เสริมการประกอบอาชีพ สร้างความรู้ความเข้าใจทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงทักษะในการนำเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แทปเลต โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และสื่อออนไลน์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสื่อสาร หรือใช้เพื่อพัฒนาอาชีพให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับช่องทางการตลาดยุคดิจิทัลให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพให้เกิดการพึ่งพาตนเองและนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

สมาคมแม่บ้านตำรวจเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จัดโครงการฝึกอบรม E- Learning อบรมการตลาดออนไลน์ ในหัวข้อเรื่อง “เจาะตลาดออนไลน์ให้ยอดขายสุดปัง” ขึ้น โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับจากโลกออนไลน์ บรรยายเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจในการขายสินค้าออนไลน์  เทคนิคดีๆ ในการทำคอนเทนต์อย่างไรให้โดนใจลูกค้า ซึ่งมีวิทยากรคือ อาจารย์แชมป์ คุณธิติพล เทียมจันทร์ ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ อันดับ 1 Thailand Number One Digital Marketing Consultant เจ้าของเว็บบล็อกเกี่ยวกับการตลาดและการตลาดออนไลน์ ที่มียอดผู้เข้าชมต่อเดือนมากกว่า 3 หมื่นครั้ง และเป็นผู้ก่อตั้งและร่วมบริหาร เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม และเว็บแอปพลิเคชั่น และวิทยากรอีกท่านคือ  คุณฝน คุณภัทรนิษฐ์ ไชยโอฬารวงศ์ เจ้าของและ CEO Topslim ผู้ประสบความสำเร็จจากการตลาดออนไลน์ จะมาเล่าถึงประสบการณ์และไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์
 
การอบรมสัมมนาในวันนี้ เป็นการอบรมครั้งที่ 1 ทางทีมงานฯ ได้มีการประกาศข้อมูลประชาสัมพันธ์ผ่านกลุ่ม Line ข้าราชการตำรวจและครอบครัว ผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย (SME) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีข้าราชการตำรวจและครอบครัวพร้อมทั้งประชาชนทั่วไปสนใจจำนวนมาก จากนั้นได้คัดเลือกตามลำดับการลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมอบรม ซึ่งทางทีมงานสมาคมแม่บ้านตำรวจจะได้มีการอบรมในครั้งต่อไป สำหรับสมาชิกสมาคมแม่บ้านตำรวจท่านใดพลาดในการอบรมในครั้งนี้ สามารถติดต่อตามข่าวสารจากเฟซบุ๊ค และเพจของสมาคมแม่บ้านตำรวจได้ หรือผู้สนใจในกิจกรรมการอบรมนี้ ท่านสามารถติดตามการบรรยาย Facebook Live ผ่านเพจสมาคมแม่บ้านตำรวจในวันนี้  เวลา 09.00-12.00 น. 

พ่อเมืองเชียงราย!!จับอีกน้ำกระท่อมแต่งกลิ่นรสชาติจัดระเบียบสังคมป้องกันเด็กและเยาวชน

วันที่ 18 มกราคม 2567 เวลา 23.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้คณะทำงานจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการจังหวัดเชียงราย นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย  ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 ปลัดอำเภอเมืองเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองเชียงรายที่ 3 กอ.รมน. ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย  สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย พมจ.เชียงรายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจเพื่อจัดระเบียบสังคมตรวจสอบการกระทำผิดของสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
    
ทั้งนี้ได้เข้าตรวจสอบร้านวัยรุ่นดูใบ พลังใบ by สองพี่น้อง ตั้งอยู่เลขที่ 850/1 หมู่ที่ 3 ถนนเกาะทอง ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เนื่องจากมีการแจ้งเบาะแสมาที่คณะทำงานฯ ว่าร้านดังกล่าวมีการจำหน่ายน้ำกระท่อมปรุงให้แก่เด็กและเยาวชน มีการมั่วสุม เสียงดังก่อให้เกิดความเดือนร้อนรำคาญให้แก่ที่พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง เปิดให้บริการไม่มีเวลาปิดจนกว่าลูกค้าจะหมดจากจากการเข้าตรวจสอบพบมีผู้ใช้บริการกว่า 30 คน นั่งดื่มกินน้ำกระท่อมผสมน้ำหวานแต่งกลิ่น ฯลฯ ภายในร้าน จากการสอบถามอาการของผู้มาใช้บริการ ว่าอาการที่กินน้ำกระท่อมเป็นอย่างไร ซึ่งแต่ละคนจะสำแดงอาการไม่เหมือนกัน เช่น เมา มึน อึนๆ คึก ซึม แล้วแต่อาการของแต่ละคน และจากการตรวจค้นยังพบยาแก้ไอ ที่เปิดขวดแล้ว อยู่บริเวณจุดปรุงน้ำกระท่อม และที่ไม่ได้เปิดขวดอีกจำนวนหนึ่ง และพบขวดยาแก้ไอที่ใช้หมดแล้วอยู่ภายในบริเวณร้านเป็นจำนวนมาก ทั้งยังตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้อีก 1 กระเป๋า
     
ซึ่งจากการตรวจสอบภายในร้านพบมีบุคคลแสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน
จำนวน 1 คน แต่จากการตรวจสอบใบอนุญาต ไม่พบหนังสือรับรองการแจ้งการสะสมอาหาร ตามพรบ.การสาธารณสุข และมีการจำหน่ายน้ำกระท่อม โดยฝ่าฝืน พรบ.อาหารฯ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจร้านดังกล่าวยังไม่มีการตรวจความปลอดภัยของอาหารและไม่ได้ส่งมอบสลากให้สำนักงานอาหารและยาตรวจอนุมัติก่อนนำไปใช้ตามเงื่อนไขของประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยอาหารใหม่หรือที่ผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

พิษณุโลก มทบ.39 ทำพิธีปิดการฝึก (ผลัดที่ 2) ของนักศึกษาวิชาทหารพร้อมฝึกความเป็นผู้นำ และเป็นกำลังสำรองที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 67 เวลา 1030  พล.ต.กฤษณะ ภู่ทอง ผบ.มทบ.39 เป็นประธานใน พิธีปิดการฝึกภาคสนาม ของสถานศึกษาในพื้นที่ จว.พ.ล. และ จว.ส.ท. ผลัดที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2566 มี นศท. เข้ารับการฝึก จำนวน 39 สถานศึกษา รวม นศท. 339 นาย ณ หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.39 อ.เมือง จว.พ.ล.

ในการนี้ ประธานในพิธีฯ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับ นศท.บังคับบัญชา ที่มีภาวะเป็นผู้นำ มีลักษณะทางทหารดีเด่น เป็นต้นแบบที่ดีของ นศท. และ นศท.มีผลคะแนนการยิงปืนดีเยี่ยม พร้อมทั้งได้มอบประกาศนียบัตรให้กับ ผกท. ที่มีความวิริยะ เสียสละ มากำกับควบคุมดูแล นศท. เป็นประโยชน์ต่อการฝึกภาคสนาม นศท. เป็นอย่างยิ่ง และได้กล่าวให้โอวาทให้กับ นศท. ให้เป็นเยาวชนต้นแบบ เป็นกำลังสำคัญที่พร้อมเติบโตเป็นผู้นำ เป็นผู้ที่มีความเสียสละ มีจิตอาสา พร้อมพัฒนาประเทศและทำเพื่อสังคมส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก

วงดุริยางค์กรุงเทพคริสเตียนรับรางวัลเยาวชนดีเด่นจากนายกรัฐมนตรี

วงดุริยางค์โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เนื่องในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 โดยการรับราวัลในครั้งนี้พิจารณาการคัดเลือกจากผลงานของวงดุริยางค์โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยที่ได้รับรางวัล GOLD DISTINCTION เหรียญทองเกียรติยศ WINNER IN MIDDLE CLASS ชนะเลิศการประกวดในระดับนานาชาติในงานเทศกาลดนตรี The 24th International Festival of Wind Orchestras Prague

เมื่อวันที่ 24 มิถุนยน 2566 ณ โรงแรม Olsanka Congress Hall กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก และรางวัล GOLD DISTINCTION เหรียญทองเกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกวดวงดุริยางค์นั่งบรรเลงระดับนานาชาติรายการ Rasteder International Music Festival 2023 (European Open Championship) เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2566 ณ เมืองอาร์สทีเดอร์ (Rastede) ประเทศเยอรมนี

เจนกิจ นัดไธสง รายงาน 

'ญี่ปุ่น' ตัดสินประหารชีวิตหนุ่มวัย 21 คดีแรกหลังแก้กม.เยาวชน ก่อเหตุแทงพ่อแม่สาวที่แอบชอบดับ ก่อนเผาบ้านและไม่สำนึกผิด

(19 ม.ค. 67) สำนักข่าว Kyodo News ของญี่ปุ่น รายงานว่า ศาลญี่ปุ่น ได้ตัดสินประหารชีวิตนายยูกิ เอนโดะ วัย 21 ปี หลังก่อเหตุแทงพ่อแม่ของสาวที่ชอบจนเสียชีวิต และยังเผาบ้านของสาวคนดังกล่าว ที่เมืองโคฟู จังหวัดยามานาชิ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น โดยเป็นคดีแรกที่ตัดสินโทษประหารชีวิตแก่ผู้กระทำผิดที่ในขณะที่ก่อเหตุเป็นผู้เยาว์ นับตั้งแต่มีการแก้กฎหมายเยาวชน ปรับลดอายุบรรลุนิติภาวะเมื่อปี 2022

ข่าวระบุว่า ตามกฎหมายเดิมของญี่ปุ่น ผู้ที่จะถูกระบุว่าเป็นเยาวชนจะต้องอายุน้อยกว่า 20 ปีลงไป แต่เมื่อเดือนเมษายน 2022 ได้มีการปรับแก้กฎหมายใหม่ กำหนดอายุของเยาวชนไว้ว่า อายุ 18 ปีลงไป ทำให้นายเอนโดะซึ่งขณะก่อเหตุอายุ 19 ปี ไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นเยาวชนแล้ว

นายจุน มิคามิ หัวหน้าคณะผู้พิพากษาศาลแขวงโคฟุ ได้ตัดสินประหารชีวิตนายเอนโดะ และว่า นายเอนโดะจะต้องรับโทษความผิดทางอาญา โดยอายุของเขาไม่ใช่เหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงต่อการรับโทษประหารแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายเอนโด ได้แทงพ่อแม่ของสาวที่แอบชื่นชอบ จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 64 (2021) และยังทำร้ายน้องสาวของสาวที่แอบชอบจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจุดไฟเผาบ้านของหญิงสาว โดยที่ตัวหญิงสาวที่นายเอนโดะแอบชอบไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

โดยนายเอนโดะ ให้การระหว่างการพิจารณาคดีว่า เขาชื่นชอบนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่สาวคนดังกล่าวไม่ยอมออกเดตด้วย ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง และโมโห นอกจากนี้ ตัวนายเอนโดะ ยังบอกด้วยว่า ตัวเขาเองมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ของตัวเอ

อย่างไรก็ตาม ตลอดการพิจารณาคดี นายเอนโดไม่ได้กล่าวคำขอโทษต่อการกระทำของตัวเองแต่อย่างใด และปฏิเสธที่จะยื่นเรื่องอุทธรณ์คำตัดสิน โดยบอกว่า ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ อีกแล้ว

ทั้งนี้ แม้กฎหมายเยาวชนของญี่ปุ่นจะมีการแก้ไขเมื่อปี 65 (2022) ลดอายุของผู้ที่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย จากเดิมคือตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป เป็น 18 ปีขึ้นไป แต่ผู้ที่อายุ 18 และ 19 ปี ยังคงได้รับการคุ้มครองอยู่ เพียงแต่จะได้รับการดูแลที่ต่างจากผู้ที่อายุ 17 ปีลงไป และยังอนุญาตให้สื่อสามารถเปิดเผยชื่อของจำเลยที่อายุ 18-19 ปีได้ เมื่อถูกดำเนินคดีแล้วเท่านั้น

'โซเชียล' ชื่นชม!! 'ชรินทร์ นาคทอง' สุดยอดโชเฟอร์แท็กซี่ น้ำใจงาม คืนทรัพย์สินเฉียดล้านแก่เจ้าของ บอก "ไม่ใช่ของเรา ต้องคืนเขา"

(19 ม.ค. 67) จากเพจ 'ไจตนย์ : Jaitana channel' ได้โพสต์เหตุการณ์น่าประทับใจ กรณีโชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่งโทรแจ้ง สวพ.91 เพื่อให้เจ้าของที่ลืมกระเป๋าไว้มารับ ระบุว่า...

'ความดี ต้องทำ ถึงจะรู้'

นี่คือ คำพูดของหนุ่มน้ำใจงามคนนี้ น้ำตาคลอเบ้า จนเอ่อล้นออกมา ก่อนที่จะบอกสิ่งที่อยู่ในใจนี้ กับเรา

นี่คือน้ำตาแห่งความตื้นใจ ความปีติ ความสุขใจ ในคุณความดีที่ได้ทำ เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจที่งดงามของ 'คุณชรินทร์ นาคทอง' อายุ 62 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร โชเฟอร์เเท็กซี่ สีชมพู คาดเขียว ทห-6062 กทม และเขาย้ำว่า...

"มันไม่ใช่ของเรา ต้องคืนเขา"

เมื่อคืนวันครู (16 มกราคม) คุณชรินทร์โทรมาที่สวพ.91 หมายเลข 1644 โทรฟรี 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ เพื่อเเจ้งว่า ผู้โดยสารที่รับมาจากหน้าโรงเเรมย่าน ราชเทวี ไปส่งเเถวพระราม 7 ลืมกระเป๋าไว้ที่กระโปรงท้ายรถ ขอให้สวพ.91 ช่วยประกาศหาเจ้าของ

เขาเล่าว่า...
"กำลังจะเติมเเก๊ส ก่อนจะเข้าบ้าน  พอเปิดกระโปรงท้ายรถ ก็เจอกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสาร ไม่กล้าเปิดดู ไม่กล้าแตะ เพราะไม่ใช่ของเราจากนั้นจึงรีบโทรมาเเจ้งที่สวพ.FM91 ให้ช่วยประกาศตามหาเจ้าของ และพร้อมกับรีบนำกระเป๋าเข้ามาฝากไว้ที่สวพ.91 

และตามขั้นตอนการทำงานของทีมสวพ.91 จึงเปิดกระเป๋าทำการตรวจสอบ เพื่อบันทึกรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน ถึงได้รู้ว่าเป็นของมีค่า

- มีเอกสารใบกำกับภาษี และทรัพย์สินคือไอแพด 2 เครื่อง  โทรศัพท์มือถือไอโฟน 10 เครื่อง  
- กล่องกระดาษสีน้ำเงิน 1 กล่องข้างในมีทองคำแท่ง 5 แท่งๆละ 1 บาท
- น้ำหนักรวม 5 บาท ทั้งหมดมีมูลค่ากว่า 7 แสนบาท

คุณภาณุภณ วังวิไล อายุ 52 ปี เจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิต บอกเราว่า "ดีใจมาก ตอนแรกเครียดมากจนลงกระเพาะ ของทั้งหมดนี้จัดเตรียมไว้สำหรับจัดโปรโมชั่นให้ลูกทีมในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ดีใจมากๆ ที่ได้คืน"

คุณเพ็ญมณี หนึ่งในทีมที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า "เราจะหาแท็กซี่คันนี้ได้ยังไง มันเหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร" จึงช่วยกันทำทุกรูปแบบ ทั้งโทรไปตามที่ต่างๆ แจ้งความที่โรงพัก เพื่อให้ได้ของคืน

และในที่สุด เธอบอกว่า...

"ได้รับสายสวรรค์จากทีมสวพ.91 บอกว่าของของคุณอยู่ที่เราแล้ว คุณสบายใจได้ เราจะดูแลให้อย่างดี"

คุณเพ็ญมณี เล่าไปร้องไห้ไป และแน่นอน มันคือน้ำตาแห่งความสุขของทั้งผู้ให้และผู้รับ

ขอบคุณ 'คุณชรินทร์ นาคทอง'

ความดีที่คุณได้ทำ ไม่แค่ทำให้คุณอิ่มเต็มด้วยความสุข แต่คุณได้เผื่อแผ่ให้กับทุกคนที่ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ได้รับรู้เรื่องราวของคนดี เช่นคุณ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top