Sunday, 15 June 2025
NewsFeed

รถไฟ ‘กรุงเทพฯ-หัวหิน’ ลดเวลาวิ่ง เหลือเพียง 3 ชม. ส่วน ‘กรุงเทพ-ชุมพร’ วิ่งฉิว 6 ชม. เร็วเหมือนรถยนต์

(16 ม.ค. 67) คนนั่งรถไฟเฮ!! เว็บไซต์จองตั๋วรถไฟ ได้มีการปรับปรุงเวลาเดินรถสายใต้ทุกขบวน โดยบางขบวนจะปรับเวลาออกไวขึ้น ถึงไวขึ้น ขณะที่บางขบวนออกช้ากว่าเดิม แต่ถึงปลายทางไวขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร ทำให้รถไม่ต้องเสียเวลาสับหลีกอีกต่อไปในการเดินรถช่วงเส้นทางดัง 

โดยจากการสังเกตในหน้าจองตั๋วพบว่า รถด่วนดีเซลรางขบวนที่ 43 จากเดิมกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึงหัวหิน จะใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง แต่เวลาเดินรถใหม่จะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง เทียบเท่าขับรถยนต์ นอกจากนี้ในช่วงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์-ชุมพร จากเดิมเคยใช้ระยะเวลามากถึง 8 ชั่วโมง แต่เวลาใหม่เหลือเพียง 6 ชั่วโมง 20 นาที เท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเท่ากับการขับรถยนต์

'นักลงทุนโลก' ฟันธง!! หมดยุค 'คริปโต' ต่อจากนี้ คือ โอกาสยุคทองของ AI

ตามสัจธรรมของโลก ทุกสรรพสิ่งล้วนมีช่วงเวลาของการตั้งอยู่ ดับไป วนไปเป็นวัฏจักร 

แต่ในยุคเทคโนโลยีสมัยใหม่ ดูเหมือนว่าวัฏจักรที่ว่านี้ จะหมุนไวเป็นพิเศษ 

สังเกตได้จากทิศทางของงานประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum งานประชุมชั้นนำที่คัดสรรเฉพาะผู้แทนจากรัฐบาลทั่วโลกมากกว่า 100 ประเทศ, องค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญ, นักธุรกิจแถวหน้าของโลก และผู้ที่มีอิทธิพลในสังคมจากสาขาต่าง ๆ มาถกประเด็นกันถึงทิศทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว หัวข้อเรื่องธุรกิจเงินคริปโตเคอร์เรนซี เป็นประเด็นหลักที่ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอย่างมาก จนเรียกได้ว่า ช่วงเวลานั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ หายใจเข้า-ออก เป็นภาษาคริปโตกันเลยทีเดียว

แต่ทว่าล่าสุดปีนี้ (2024) หัวข้อเรื่องเกี่ยวกับ AI กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในงาน World Economic Forum ไปเสียแล้ว เบียดธุรกิจคริปโตตกเวทีไปไกลไม่เห็นฝุ่น บริษัทชั้นนำของโลกต่างเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ของตนออกสู่ตลาดกันอย่างคึกคัก และเชื่อมั่นว่ายุคทองของ AI มาถึงแล้ว พร้อมประกาศชัดว่า ต่อจากนี้ The future is AI.

การพลิกกระแสไปสู่วัฒนธรรม AI เกิดขึ้นเร็วมาก เริ่มจากการเปิดตัวของ ChatGPT โปรแกรมแชต บอท AI ที่พัฒนาโดยบริษัท OpenAI ที่ออกมาเมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา และกลายเป็นกระแสหลักที่นักลงทุนทั่วโลกต่างพูดถึง 

และแน่นอนว่าไม่มีใครอยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกต่างถูกกดดันให้แข่งขันเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้าน AI อาทิ Intel บริษัทเซมิคอนดัคเตอร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ หรือ Salesforce บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ทุ่มเม็ดเงินลงทุนในงานพัฒนา AI ของตน 

PitchBook บริษัทวิจัยด้านการลงทุน พบว่าบริษัทสตาร์ตอัปด้าน AI และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ได้รับแหล่งเงินลงทุนมากขึ้น และมากกว่าธุรกิจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เคยเป็นดาวรุ่งเช่นกัน อย่าง ธุรกิจคริปโต และยังสามารถทำรายได้กว่า 600 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลาแค่ไตรมาสเดียว 

นอกจากกระแสตลาดผู้พัฒนา AI จะคึกคักแล้ว บริษัทชั้นนำในหลายประเทศก็ตอบรับกระแส AI และพร้อมจะนำมาปรับใช้องค์กรแล้ว จากการสำรวจประจำปีของบริษัท PwC พบว่าเกือบครึ่ง (42%) ของบริษัทในอังกฤษได้เริ่มนำเทคโนโลยี AI มาใช้แล้ว ในขณะที่ 32% ของบริษัทกว่า 4,702 แห่งจาก 105 ประเทศทั่วโลกต่างก็เริ่มปรับปรุงเทคโนโลยีของตนด้วย AI แล้วเช่นกัน 

ด้าน คริสทาลินา จอร์จิวา ผู้อำนวยการ IMF แสดงความเห็นว่า การเติบโตของ AI อาจส่งผลกระทบกับตำแหน่งงานของมนุษย์ถึง 40% ที่อาจทำให้ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในสังคมแย่ลง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว มีแนวโน้มที่จะบูรณาการองค์กรของตนด้วย AI เร็วกว่าที่อื่น ๆ ทำให้โอกาสที่แรงงานมนุษยจะถูกแทนที่ด้วย AI อาจมีสัดส่วนสูงถึง 60% เลยทีเดียว  

เช่นเดียวกับ Goldman Sachs ที่ได้ประเมินไว้เมื่อปี 2023 ว่า AI สามารถใช้แทนที่แรงงานมนุษย์ได้ถึง 300 ล้านตำแหน่ง แต่ในอีกแง่หนึ่ง AI ก็สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ ๆ ให้กับมนุษย์ที่ตามกระแสของความเปลี่ยนแปลงทัน แล้วสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตนได้ 

ดังนั้นการเกิดขึ้นในยุคของ AI จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ผู้มีอำนาจในการกำหนดนโยบายต้องตระหนักรู้ถึงผลกระทบในหลายมิติต่อผู้คนในสังคมของตน และต้องเร่งพัฒนาความรู้ให้เท่าทันกับโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ให้เป็นมนุษย์ผู้ควบคุมปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่มนุษย์ที่ถูกแทนที่ด้วย AI ในอนาคตอันใกล้

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

‘สุนัขตำรวจ K-9’ ร่วมรำลึกพระคุณครู เรียงแถวนำพานดอกไม้ไหว้ครูฝึก

(16 ม.ค.67) เป็นวันครูแห่งชาติ ศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้โพสต์ภาพสุดอบอุ่น สุนัขตำรวจ K-9 เข้าแถวมอบพวงมาลัย ไหว้ครูฝึก

โดยมีแคปชันน่ารักๆ ว่า “16 ม.ค.คือวันครู แต่ I Miss You คือ ทุกวัน ‘น้อมระลึกถึงพระคุณครู’ #ครูฝึก K-9 #K9Police” ภายหลังที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยว่า ลูกศิษย์ของครูน่ารักมาก, น่ารักครับ

สำหรับ K9 นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกองกำกับการสุนัขตำรวจ (กก.สข.) เรียกกันว่า K9 เล่นคำมาจากคำว่า Canine ที่แปลว่าสุนัข ภายใต้สังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) เป็นเหมือนโรงเรียนฝึกสุนัขตำรวจ

บัดดี้สี่ขาผู้ซื่อสัตย์ของตำรวจเหล่านี้มักมีบทบาทค้นหาวัตถุระเบิดหรือยาเสพติด เนื่องจากมีสัญชาตญาณการค้นหาดีกว่ามนุษย์ โดยเฉพาะด้านการรับกลิ่น และการได้ยิน ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น อาชญากรรมมีความซับซ้อนได้พัฒนารูปแบบการหลอกลวง โดยเฉพาะการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก สร้างรอยแผลบาดลึกในจิตใจของเหยื่อเป็นอย่างมาก

'ไบแนนซ์ ประเทศไทย' คิกออฟ!! เปิดเทรดคริปโตแล้ว กร้าว!! ปลอดภัย โปร่งใส มั่นใจคุณภาพการให้บริการ

(16 ม.ค. 67) เพจ Binance TH ประกาศว่า Binance TH by Gulf Binance แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ได้เปิดให้สมัครสมาชิกได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เพื่อเริ่มต้นเทรดคริปโทมากกว่า 110 คู่เหรียญ ฝากและถอนได้ด้วยเงินบาท

Binance TH by Gulf Binance คือแพลตฟอร์มที่ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (สำหรับการซื้อขายด้วยเงินบาท) และบริการนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (สำหรับการซื้อขายระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัล) โดยบริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด ในเครือของ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และบริษัท ไบแนนซ์ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ จำกัด ในเครือกลุ่ม Binance

บริษัทได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ได้แก่ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี, ใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัล, ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี และใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล

บริการของบริษัทฯ มีดังนี้

1. บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทฯ จะให้บริการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ใช้บริการสามารถวางคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับผู้ใช้บริการอื่นภายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทฯ ได้ โดยสอดคล้องกับกลไกการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะนำมาให้บริการซื้อขาย, กลไกการจับคู่, การชำระราคาและส่งมอบ รวมถึงกลไกการตรวจสอบสภาพตลาดที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะให้บริการเฉพาะการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยสกุลเงินบาทเท่านั้น

และ 2. บริการนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล - บริษัทฯ จะให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ใช้บริการสามารถวางคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านบริษัทฯ ในฐานะนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อส่งไปยังศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลปลายทาง (sourced exchange) ที่เชื่อมต่อกับบริษัทฯ ได้ ภายใต้กลไกเงื่อนไขราคาที่ดีที่สุดตามสภาพตลาด ทั้งนี้ บริการนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนี้จะให้บริการเฉพาะการซื้อขายระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกันเท่านั้น

คุณสมบัติ ในการลงทะเบียนเพื่อใช้งานบัญชีการใช้งาน Binance TH

-กรณีบุคคลธรรมดา อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์

-กรณีนิติบุคคล เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นและดำรงอยู่โดยชอบภายใต้กฎหมายของประเทศที่จัดตั้งขึ้น และมีความสามารถทางกฎหมาย และสามารถเข้าทำข้อตกลง

-ไม่เคยถูกระงับหรือถูกลบออกจากการใช้งานบริการของบริษัทมาก่อน

-ไม่มีบัญชีการใช้งานกับบริษัทฯ อยู่แล้ว

- การใช้บริการต้องไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ใดๆ ที่บังคับใช้ หรือนิติบุคคลที่ดำเนินการแทน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง

- ไม่มีสถานะความเป็นบุคคลอเมริกันตามกฎหมาย FATCA

ขอนแก่น-ฟรี!คอนเสิร์ตการกุศล ฉลองครบรอบ 60 ปี มข.อุทิศเพื่อสังคม ช่วยเหลือชุมชนที่ยังขาดแคลน

เพื่อเฉลิมฉลอง 60 ปีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบาย Social Innovation หรือ การอุทิศเพื่อสังคมของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และเพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ยังขาดแคลน และนี่ก็คือความตั้งใจและวัตถุประสงค์ที่ได้จัดงานขึ้นในครั้งนี้ 
   
เมื่อค่ำวันที่ 15 ม.ค.2567 ที่แปลงดอกแคคตัสอุทยานเทคโนโลยีการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานเปิดครั้งแรกและครั้งเดียวในรอบ 60 ปี ฟรีคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น  “Dean Charity Concert : หนาวลมชมดอกไม้“  ภายใต้การอำนวยการของ รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข. ดื่มด่ำกับสายลมหนาวและบทเพลงอันแสนไพเราะจากศิลปินนักร้องอาชีพ อาทิ แน็ท เดอะวอยซ์ และ อินทร์ ดาริกา (แน็ทอินทร์ Love) พร้อมด้วยนักร้องรับเชิญกิตติมศักดิ์มากมาย กลางทุ่งดอกคัตเตอร์ ยามอาทิตย์อัสดง โดยมี นายศักดา ต้นคชสาร นายอำเภอสีชมพู, นายณัฐโรจน์ แก้วมาลา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลดงลาน ตลอดจนคณบดีจากหลายคณะ พี่น้องประชาชน นักศึกษา เข้าร่วมชม คอนเสิร์ต กันเป็นจำนวนมาก
   
รศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่าในการจัดงานฟรีคอนเสิร์ตการกุศล 60 ปีมหาวิทยาลัยขอนแก่นในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือพี่น้องชุมชนทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งได้ทำหลายๆโครงการ และหลายๆคณะฯ ส่วนนี่ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ รศ.ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่านได้ริเริ่ม และด้วยความร่วมมือจากคณบดีทุกคณะ ที่ได้มาจัดคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อที่จะได้รวบรวมรายได้เหล่านี้ พร้อมทั้งบริจาคเสื้อผ้าและของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชนบท และในพื้นที่ห่างไกล ปีนี้เราไปที่อำเภอสีชมพู ซึ่งในวันนี้ท่านนายอำเภอก็ได้มาร่วมงานด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งว่าเราอยู่ทางในเมืองหรือในมหาวิทยาลัย ไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปช่วยโดยตรง จึงได้ทำแบบระดมทุน คิดว่ามีส่วนช่วยในการบรรเทาสิ่งที่ขาดเหลือในชนบท โดยเฉพาะในอำเภอสีชมพู ในปีนี้ให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
    
ด้าน รศ.ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า วัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ เป็นไปตามที่ท่านอธิการบดีฯได้กล่าวมาดังกล่าวข้างต้นแล้ว และรวมไปถึงการแสดงออกศักยภาพ ของคณบดี คณะฯ ต่างๆ ผู้อำนวยการสำนักด้วย และรวมไปถึงคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น ด้วยความตั้งใจที่จะร่วมเฉลิมฉลอง 60 ปีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบาย Social Innovation หรือ การอุทิศเพื่อสังคมของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และเพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ยังขาดแคลน และนี่ก็คือความตั้งใจและวัตถุประสงค์ที่ได้จัดงานขึ้นในครั้งนี้ และที่สำคัญก็เปิดโอกาสให้บุคลากร และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มีความสดชื่นและมีความสุข ในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ และฉลอง 60 ปีมหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมทั้งได้อุดหนุน SMEs หรือธุรกิจเล็กๆ วันนี้เราเปิดตลาดนัดแบบ Street food บายาบาซ่า เปิดโอกาสให้ร้านอาหารที่แบบ Food truck มาร่วมออกบูธเพื่อจำหน่ายสินค้า เพื่อเป็นการต่อลมหายใจให้กับผู้ประกอบการร้านเล็กๆอีกด้วย มาสนุกสนานร่วมกันเพื่อก้าวไปข้างหน้า กับมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เจริญรุดหน้าให้มากกว่านี้

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ “ร.ต.ท.สถาพร สุจิณโณ” วีรบุรุษผู้เสียสละแห่ง ตชด.

วันนี้ (16 ม.ค. 67) เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ท.สถาพร สุจิณโณ ณ วัดสามกอง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ,พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ร่วมพิธี โดยมี พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โพธิ์ศรีมา ผบ.ฉก.ตชด.44 พร้อมคณะให้การต้อนรับ 

ร.ต.ท.สถาพร สุจิณโณ อายุ 55 ปี หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4411 สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิง ที่บริเวณบ้านตันหยง ตำบลตะปอเยาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ ร.ต.ท.สถาพร สุจิณโณ ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 เวลา 11.35 น. โดยตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดสามกอง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ท.สถาพร สุจิณโณ เป็นไปอย่างสมเกียรติยศ เต็มไปด้วยความอาลัยจากครอบครัว เหล่าผู้บังคับบัญชา เพื่อนข้าราชการตำรวจและเครือญาติ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ทอดทิ้งบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตในหน้าที่ โดยจะมีการพิจารณาเลื่อนขั้นยศตามความเหมาะ โดย ร.ต.ท.สถาพร สุจิณโณ ผู้เสียชีวิต มีบุตรชาย 1 คน คือ ส.ต.ต.ชานนท์ สุจิณโณ ปฎิบัติหน้าที่ กก.ตดช.43 พร้อมให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 

ก่อนเดินทางกลับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ทักทายพูดคุยแก่ข้าราชการตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมย้ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ทอดทิ้งประชาชนและบุคลากรตำรวจทุกคน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบนโยบายให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขับเคลื่อนการปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน ต่อการคืนเยาวชนหลักการ "การสร้างคน ให้คนกลับมาสร้างชาติ"

วันที่ 16 มกราคม 2567 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดี-รังสิต เขตหลักสี่ กทม. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้เกียรติร่วมโครงการและ "มอบนโยบายการบริหารและขับเคลื่อน กระทรวงยุติธรรมเข้าสู่ยุค "ความ ยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความ ยุติธรรมนำประเทศ" ในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 " โดยมี พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจฯ พร้อม ด้วยรองอธิบดีฯ และผู้เข้าร่วม โครงการฯ จำนวน 144 คน ให้การต้อนรับและร่วมรับฟังนโยบายฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกรมพินิจฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบนโยบาย และแนวทางในการปฏิบัติราชการของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 

สามารถนำไปถ่ายทอดให้กับผู้ปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของกรมไปในทิศทางเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า "กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นกรมที่สร้างอนาคตให้กับประเทศไทย 

ท่านทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนที่ก้าวปกครองของเด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาด ซึ่งแน่นอนว่าการสร้างย่อมดีกว่าการซ่อม แต่ถ้าท่านสามารถซ่อมแซมเด็กและเยาวชนคนหนึ่งได้ก็เท่ากับท่านได้สร้างคนที่มีคุณภาพกลับคืนสู่ประเทศชาติเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเมืองของเรา ขอฝากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนว่าในพลวัตที่บ้านเมืองของเรามีความเปลี่ยนแปลงไป เราจะทำอย่างไรให้สถานพินิจฯ ที่เราอยู่นี้ให้เป็นสถานที่ที่มีคุณค่า เปลี่ยนมนุษย์จากที่ไม่รู้...ให้รู้ เปรียบเหมือนกับการช่วยเหลือคนจน หรือคนเจ็บป่วย หรือคนที่ตกทุกข์ได้ยากก่อนและอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือท่านต้องยึด โยงกับชุมชนให้ได้ เพราะ  อบต.ทุกแห่งก็มีการเชื่อมโยงกับระบบการศึกษา ฉะนั้นเราเป็นเหมือนพ่อแม่ที่ไม่ใช่แค่สอนเรื่องการศึกษาแต่เราต้องสอนให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตด้วย 

ขอให้ท่านรักและศรัทธาในงานของท่าน เพราะสิ่งที่ยากคือการบูรณะกล่อมเกลาเขาให้ไม่กลับมากระทำผิดซ้ำ ฉะนั้นงานของท่านจึงเป็นงานที่มีคุณค่ามาก เราต้องให้คนกลุ่มนี้กลับมาพัฒนาสังคม และกระทรวงยุติธรรมยังมีอีกหน้าที่หนึ่งคือ "การสร้างคน...เพื่อให้คนกลับมาสร้างชาติ" และขอฝากทุกท่านในเรื่องของการสื่อสารและสร้างความเข้าใจให้กับสังคมในภารกิจงานของกรมพินิจฯ และกระทรวงยุติธรรมและช่วยกันนำความยุติธรรมไปสู่ทุกชุมชนต่อไป"

'ลุงเปี๊ยก' ตอบปม ใช้เก้าอี้ทำร้าย 'ป้าบัวผัน' ยัน!! ตำรวจไม่ได้ 'บังคับ-เตี๊ยม' ให้รับสารภาพ

เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.67) จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.บัวผัน (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี หญิงสติไม่ดี ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน โดยในจำนวนนี้มีลูกของตำรวจสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ฆ่าทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนใน จ.สระแก้ว

แต่ต่อมาตำรวจกลับจับแพะ คือนายปัญญา คงแสนคำ อายุ 54 ปี หรือลุงเปี๊ยก สามีผู้ตาย และส่งเข้าเรือนจำ ภายหลังเรื่องแดงจึงทำหนังสือขอปล่อยตัวออกมา

ทำให้ใครหลายคนต่างสงสัยว่าทำไม ลุงเปี๊ยกถึงรับสารภาพ พร้อมกับชี้จุดก่อเหตุได้อย่างถูกต้อง

เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 16 มกราคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาที่ บก.ภ.จว.สระแก้ว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในประเด็นที่ ลุงเปี๊ยก รับสารภาพกับตำรวจ สภ.อรัญประเทศ พร้อมกับเปิดโอกาสให้สื่อได้สอบถามลุงเปี๊ยก

ช่วงหนึ่งนักข่าวสอบถามว่า ทราบได้ยังไงว่ามีการใช้เก้าอี้ตีป้าบัวผัน ซึ่งตรงกับคำให้การของเด็ก ลุงเปี๊ยก กล่าวว่า “ผมตั้งดั้นขึ้นมาเอง เป็นเรื่องสมมติ คือว่าผมเมา”

ส่วนมีเหตุผลว่าทำไม มีการเล่าเรื่องออกมาแบบนั้น ลุงเปี๊ยกกล่าวว่า “ไม่รู้อะไร ตอนนั้นมันคิดอะไรอัตโนมัติขึ้นมา ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าสิ่งที่ผมทำไปนั้นมันผิดหรือถูก ผมก็ยังไม่รู้ตัว เพราะยังเมาค้างอยู่ครับ”

บิ๊กโจ๊กได้ถามว่า แล้วไม่กลัวติดคุกเหรอ ที่ให้การแบบนั้น ลุงเปี๊ยกกล่าวว่า “ผมก็กลัวสิครับ”

บิ๊กโจ๊กถามต่อว่า แล้วมีใคร หรือตำรวจคนไหน มาเตี๊ยมให้การแบบนั้นบ้าง ลุงเปี๊ยกกล่าวว่า “ไม่มีเลยครับ ผมไม่รู้จริงๆ”

บิ๊กโจ๊กถามต่อว่า ทำไมถึงให้การว่า ใช้เก้าอี้ตี ทำไมไม่ให้การว่าบีบคอ ลุงเปี๊ยกตอบว่า “ก็ตำรวจยื่นให้”

ก่อนที่จะมีตำรวจแทรกชี้แจงว่า บริเวณดังกล่าวมีเก้าอี้วางอยู่แล้ว เพราะเป็นหอประชุม พื้นที่จัดกิจกรรมวันเด็ก

ต่อมา ลุงเปี๊ยกได้กล่าวว่า “ผมนึกขึ้นมา ตอนนั้นทะเลาะกัน ผมตั้งเรื่องขึ้นมาเอง ผมสมมติขึ้นมาเอง ตอนแรกผมก็เห็นสิ่งอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น ผมนึกขึ้นมาเอง”

ต่อมา บิ๊กโจ๊กได้ถามพี่สะใภ้ว่า เชื่อที่ลุงเปี๊ยกพูดหรือไม่ โดยพี่สะใภ้ระบุว่า “ไม่เชื่อ มันกินเหล้า เบ๋อๆ มันกินเหล้า ส่วนตัวไม่เชื่อว่ามีใครเตี๊ยม คงจะเป็นบ้าของมันเอง”

ด้าน พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า การควบคุมตัวลุงเปี๊ยกหลังจากที่ลุงรับสารภาพนั้นเนื่องจากลุงเปี๊ยกไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาจจะหาตัวไม่พบในภายหลัง ไม่ใช่การจับกุมและเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้วน่าเชื่อได้ว่าเป็นผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นคำรับสารภาพ เลือดคนที่ติดอยู่กับขากางเกง การพาไปดูที่เกิดเหตุ ผู้ตายไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร และทั้งสองคนมีการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ จึงต้องขออำนาจศาลควบคุมตัวไว้ก่อน ตามกฎหมาย ไม่ใช่การจับกุม

พ.ต.อ.พิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า และการที่ต้องกันลุงเปี๊ยกไม่ให้พบกับผู้สื่อข่าวสืบเนื่องมาจากเป็นความประสงค์ของลุงเอง นอกจากนั้นโดยส่วนตัวแล้ว ยังไม่เคยเจอตัวรองสารวัตรสืบ ที่เป็นบิดาของเยาวชนที่ก่อเหตุเลย เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือกัน ตามที่สังคมเข้าใจ

บิ๊กไอที 'เกาหลีใต้' ร่วมลงขัน!! 16 ล้านล้านบาท ผุดศูนย์ผลิตชิปใหญ่สุดในโลก ปี 2047 เพื่ออนาคตคนรุ่นต่อไป

เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ได้เผยแผนการสร้าง 'Semiconductor Mega Cluster' หรือที่เรียกว่า ศูนย์เซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ ณ ทางตอนใต้ของกรุงโซลภายในปี 2047 โดยกลุ่มบริษัทชั้นนำอย่าง Samsung Electronics และ SK hynix ได้เตรียมลงทุนจำนวน 622 ล้านล้านวอน หรือนับเป็นเงินไทยก็ประมาณ 16 ล้านล้านบาท

โดยในแผนดังกล่าวเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่จำนวน 13 แห่ง และศูนย์วิจัยจำนวน 3 แห่ง (จากเดิมมีอยู่ 21 แห่ง) กินพื้นที่ตั้งแต่เมือง Pyeongtaek ไปจนถึงเมือง Yongin ซึ่งคาดว่าจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีกำลังการผลิตแผ่นเวเฟอร์สำหรับทำชิปได้ราว 7.7 ล้านแผ่น / เดือน ภายในปี 2030

รัฐมนตรีอุตสาหกรรม Ahn Duk-geun ได้กล่าวว่า หากการสร้างศูนย์ผลิตชิปเสร็จเร็วก่อนเวลา เราก็จะได้รับความสามารถในการแข่งขันทางภาคส่วนชิปในระดับแถวหน้าของโลก อีกทั้งยังเป็นการสร้างอาชีพที่มีคุณภาพให้แก่คนรุ่นต่อไปด้วย

ตามข้อมูล บริษัท Samsung Electronics ได้วางแผนลงทุน 500 ล้านล้านวอน สำหรับโครงการนี้ โดยจะรวมไปถึงงบประมาณ 360 ล้านล้านวอน สำหรับการสร้างโรงงาน 6 แห่งใหม่ใน Yongin ที่อยู่ห่างจากทางใต้ของโซลประมาณ 33 กิโลเมตร และได้ลงทุน 120 ล้านล้านวอนเพื่อสร้างโรงงาน 3 แห่งในเมือง Pyeongtaek และลงทุนอีก 30 ล้านล้านวอนในการสร้างศูนย์วิจัยอีก 3 แห่งใน Giheung ในขณะที่ SK hynix จะจัดสรรเงินจำนวน 122 ล้านล้านสอน เพื่อสร้างโรงงานใหม่ 4 แห่ง ในเมือง Yongin

และจากการลงทุนของภาคเอกชนนั้น ทางภาครัฐก็ได้วางแผนที่จะมีกำลังการผลิตที่ซับซ้อนในระดับโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่ทันมีความสมัย ที่จะรวมไปถึงชิปที่มีสถาปัตยกรรม 2 นาโนเมตรและหน่วยความจำแบนด์วิธสูงๆ นอกจากนี้รัฐมนตรียังเสริมว่า ในโครงการนี้จะสามารถสร้างตำแหน่งงานได้มากถึง 3.46 ล้านตำแหน่ง

ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ยกระดับและสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปในประเทศมาโดยตลอด โดยการสนับสนุนภาคชิปในประเทศนับเป็น 16% ของการส่งออกทั้งหมด ซึ่งก็ได้ตั้งเป้าหมายในอนาคตไว้ว่าจะสามารถผลิตชิปได้มากขึ้นเป็น 10% ภายในปี 2030 (จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 3%) ตลอดจนสนับสนุนนโยบายอื่นเพื่อปกป้องธุรกิจนี้ที่เป็นธุรกิจแกนหลักของเศรษฐกิจประเทศ

'สุวัจน์' เป็นประธานถวายหุ่นขี้ผึ้งเสมือน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ปางปัญญาบารมี ณ วัดอินทรวิหาร พร้อมเปิดให้ 'ปชช.-นทท.' เข้าชมทุกวัน

เมื่อวานนี้ (16 ม.ค. 67) พระโสภณธรรมวงศ์ (เจ้าคุณน้อย) เจ้าคณะแขวงสามพระยา เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารฯ กรุงเทพ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีสมโภชบวงสรวงรูปเหมือนเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ปางปัญญาบารมี ณ มณฑลพิธีศักดิ์สิทธิ์ หน้าหลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง (บางขุนพรหม) กทม. 

โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาสและเจ้าภาพ 'ปอ' นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ผู้บริหารเครือ TNP Group บริษัทนำเข้ารถรายใหญ่ของไทย ร่วมกับแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก 

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ปางปัญญาบารมี องค์นี้ ... เป็นหุ่นขี้ผึ้ง ขนาดสูง 178 ซม. ดำเนินการจัดสร้างโดย 'สันติ พิเชฐชัยกุล' ประติมากรเอกระดับโลก

สำหรับหลวงปู่โตองค์นี้เป็นไฟเบอร์กลาส ไม่ได้เป็นหุ่นขี้ผึ้งเบอร์กลาส ทนความร้อนได้ รายละเอียดเส้นจะเก็บได้คมชัดกว่า ซึ่งอาจารย์สันติ พิเชฐชัยกุล ท่านนี้คือคนเดียวกับที่ปั้นรูปหล่อเหมือนในหลวง ร.9

สำหรับ สมเด็จฯ โต องค์นี้ จะตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ปางปัญญาบารมี ณ ศาลาสังฆานุสรณ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ซึ่งภายในจัดให้มีบรรยากาศแบบย้อนยุค สมัยรัชกาลที่ 4 พร้อมกับการรับชมชีวประวัติ โดยสมเด็จฯ โต 'อิ่มบุญ อิ่มใจ' เปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เข้าชมได้ทุกวัน ณ วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง 

ทั้งนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) มีความผูกพันกับวัดอินทรวิหารฯ มาตั้งแต่เยาว์วัย กล่าวคือ ตั้งแต่เริ่มหัดเดินจนได้บวชเรียนเป็นสามเณรหลวง จากนั้นท่านได้มาสร้าง หลวงพ่อโต (พระพุทธศรีอริยเมตไตรย) เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร ขนาดใหญ่ สูง 32 เมตร เมื่อ พ.ศ.2410 สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ท่านได้มรณภาพลงขณะที่สร้างไปได้ถึงบริเวณพระนาภี (สะดือ) การก่อสร้างจึงหยุดชะงักลง และได้มีการก่อสร้างต่อจนสำเร็จในปี พ.ศ.2467 สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้จัดให้มีงานสมโภชเป็นครั้งแรกเป็นเวลาสามวัน คือวันที่ 4-6 มีนาคม พ.ศ.2471 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top