เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.67) จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.บัวผัน (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี หญิงสติไม่ดี ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน โดยในจำนวนนี้มีลูกของตำรวจสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ฆ่าทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนใน จ.สระแก้ว
แต่ต่อมาตำรวจกลับจับแพะ คือนายปัญญา คงแสนคำ อายุ 54 ปี หรือลุงเปี๊ยก สามีผู้ตาย และส่งเข้าเรือนจำ ภายหลังเรื่องแดงจึงทำหนังสือขอปล่อยตัวออกมา
ทำให้ใครหลายคนต่างสงสัยว่าทำไม ลุงเปี๊ยกถึงรับสารภาพ พร้อมกับชี้จุดก่อเหตุได้อย่างถูกต้อง
เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 16 มกราคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาที่ บก.ภ.จว.สระแก้ว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในประเด็นที่ ลุงเปี๊ยก รับสารภาพกับตำรวจ สภ.อรัญประเทศ พร้อมกับเปิดโอกาสให้สื่อได้สอบถามลุงเปี๊ยก
ช่วงหนึ่งนักข่าวสอบถามว่า ทราบได้ยังไงว่ามีการใช้เก้าอี้ตีป้าบัวผัน ซึ่งตรงกับคำให้การของเด็ก ลุงเปี๊ยก กล่าวว่า “ผมตั้งดั้นขึ้นมาเอง เป็นเรื่องสมมติ คือว่าผมเมา”
ส่วนมีเหตุผลว่าทำไม มีการเล่าเรื่องออกมาแบบนั้น ลุงเปี๊ยกกล่าวว่า “ไม่รู้อะไร ตอนนั้นมันคิดอะไรอัตโนมัติขึ้นมา ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าสิ่งที่ผมทำไปนั้นมันผิดหรือถูก ผมก็ยังไม่รู้ตัว เพราะยังเมาค้างอยู่ครับ”
บิ๊กโจ๊กได้ถามว่า แล้วไม่กลัวติดคุกเหรอ ที่ให้การแบบนั้น ลุงเปี๊ยกกล่าวว่า “ผมก็กลัวสิครับ”
บิ๊กโจ๊กถามต่อว่า แล้วมีใคร หรือตำรวจคนไหน มาเตี๊ยมให้การแบบนั้นบ้าง ลุงเปี๊ยกกล่าวว่า “ไม่มีเลยครับ ผมไม่รู้จริงๆ”
บิ๊กโจ๊กถามต่อว่า ทำไมถึงให้การว่า ใช้เก้าอี้ตี ทำไมไม่ให้การว่าบีบคอ ลุงเปี๊ยกตอบว่า “ก็ตำรวจยื่นให้”
ก่อนที่จะมีตำรวจแทรกชี้แจงว่า บริเวณดังกล่าวมีเก้าอี้วางอยู่แล้ว เพราะเป็นหอประชุม พื้นที่จัดกิจกรรมวันเด็ก
ต่อมา ลุงเปี๊ยกได้กล่าวว่า “ผมนึกขึ้นมา ตอนนั้นทะเลาะกัน ผมตั้งเรื่องขึ้นมาเอง ผมสมมติขึ้นมาเอง ตอนแรกผมก็เห็นสิ่งอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น ผมนึกขึ้นมาเอง”
ต่อมา บิ๊กโจ๊กได้ถามพี่สะใภ้ว่า เชื่อที่ลุงเปี๊ยกพูดหรือไม่ โดยพี่สะใภ้ระบุว่า “ไม่เชื่อ มันกินเหล้า เบ๋อๆ มันกินเหล้า ส่วนตัวไม่เชื่อว่ามีใครเตี๊ยม คงจะเป็นบ้าของมันเอง”
ด้าน พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า การควบคุมตัวลุงเปี๊ยกหลังจากที่ลุงรับสารภาพนั้นเนื่องจากลุงเปี๊ยกไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาจจะหาตัวไม่พบในภายหลัง ไม่ใช่การจับกุมและเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้วน่าเชื่อได้ว่าเป็นผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นคำรับสารภาพ เลือดคนที่ติดอยู่กับขากางเกง การพาไปดูที่เกิดเหตุ ผู้ตายไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร และทั้งสองคนมีการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ จึงต้องขออำนาจศาลควบคุมตัวไว้ก่อน ตามกฎหมาย ไม่ใช่การจับกุม
พ.ต.อ.พิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า และการที่ต้องกันลุงเปี๊ยกไม่ให้พบกับผู้สื่อข่าวสืบเนื่องมาจากเป็นความประสงค์ของลุงเอง นอกจากนั้นโดยส่วนตัวแล้ว ยังไม่เคยเจอตัวรองสารวัตรสืบ ที่เป็นบิดาของเยาวชนที่ก่อเหตุเลย เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือกัน ตามที่สังคมเข้าใจ