Friday, 23 May 2025
NewsFeed

พิษณุโลก พิธีเปิดการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ ประจำปี 2566 ภายในกองทัพภาคที่ 3

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญกับกองทหารเกียรติยศเป็นอย่างมาก และผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น จึงมีนโยบายให้จัดการแข่งขันของทหารเกียรติยศขึ้น เพื่อให้มีการปฏิบัติในรูปแบบเดียวกัน มีความพร้อมเพียง เข้มแข็ง และสง่างาม โดยจัดให้มีการแข่งขัน ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ซึ่งกองทหารเกียรติยศของกองทัพภาคที่ 3 ได้แสดงถึงความสามารถและมาตรฐาน จนได้เป็นตัวแทนของกองทัพบกเข้าแข่งขันในระดับกองทัพไทย สร้างขื่อเสียงให้กับกองทัพภาคที่ 3 เป็นอย่างมาก

ในวันที่ 29 สิงหาคม 2566 เวลา 08.00 นาฬิกา พลตรี ประสาน แสงศิริรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ ประจำปี 2566 ณ ลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 

ทั้งนี้รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้กล่าวชื่นชมกองทหารเกียรติยศทั้ง 10 หน่วย ที่ผ่านการคัดเลือกในระดับมณฑลทหารบกของตนเอง จนสามารถเข้ามาแข่งขันในระดับกองทัพ ขอให้กำลังพลทุกนายได้ตั้งใจปฏิบัติอย่างเต็มความสามารถให้สมกับที่พวกเราได้ทุ่มเทฝึกซ้อมมาจนนับครั้งไม่ถ้วน และขอให้นำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับไปปฏิบัติภารกิจถวายพระเกียรติ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ได้อย่างถูกต้องตามระเบียบ แบบธรรมเนียม และเป็นไปตามพระราชนิยม เกิดความเรียบร้อย และสง่างาม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยออนไลน์ คนร้ายออนไลน์โหดร้ายมาก หลอกซ้ำสอง ซ้ำเติมเหยื่อ

สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. / หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พล.ต.ท.ธัชชัย  ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน เนื่องจากในช่วงนี้มีคนร้ายแอบอ้างทำเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ปลอม หลอกผู้เสียหายซ้ำซ้อน อันเป็นเหตุให้มีประชาชนได้รับความเสียหายเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และยังมีคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์พัฒนาวิธีการหลอกรูปแบบใหม่โดยอ้างว่าโทรมาจากห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล จึงได้ร่วมกันแถลงข่าวให้ประชาชนทราบ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2566 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. กล่าวว่า สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ วันที่ 20 สิงหาคม 2566  ถึง 26 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น รับแจ้งทั้งหมด 3,671 เคส  ความเสียหายกว่า 466 ล้านบาท โดยคดีที่มีอัตราเกิดมากที่สุด 5 อันดับแรก อันดับที่ 1 ก็ยังคงเป็น คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ อยู่ที่ 1,781 เคส ยอดความเสียหาย 21,243,102.05 บาท ตามมาด้วย คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ 378 เคส ยอดความเสียหาย 53,691,234.94 บาท คดีหลอกลวงให้ลงทุน ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 342 เคส ยอดความเสียหาย 175,573,367.60 บาท คดีหลอกลวงให้กู้เงิน 304 เคส ยอดความเสียหาย 13,324,870.00 บาท คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ฯ 270 เคส ยอดความเสียหาย 44,105,474.53 บาท ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมานี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เริ่มได้รับแจ้งพฤติการณ์ใหม่ที่คนร้ายนำมาใช้ ในการหลอกลวงพี่น้องประชาชน อันได้แก่ คนร้ายปลอมเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์แล้วหลอกเหยื่อให้โอนเงินเป็นการซ้ำเติมผู้เสียหายและพบมุขใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างว่าโทรติดต่อมาจากห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล เพื่อเป็นการป้องกันและให้ประชาชนได้รับรู้เท่าทันกลโกงของคนร้าย จะให้ พล.ต.ต.ชูศักดิ์  ขนาดนิด ผบก.ตอท. เป็นผู้แถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดในลำดับถัดไป
 
 พล.ต.ต.ชูศักดิ์  ขนาดนิด  ผบก.ตอท. กล่าวว่า  ในช่วงนี้มีเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ปลอม โดยคนร้ายโฆษณาผ่านเพจ facebook ปลอม เมื่อเหยื่อเข้าไปค้นหาหน่วยรับแจ้งความออนไลน์  เพจกลุ่มนี้จะซื้อโฆษณาจาก facebook ทำให้เพจขึ้นมาในระบบค้นหาจากเว็บ Search Engines ต่างๆ ทั้ง Google Bing safari เป็นต้น  เมื่อเหยื่อหลงเชื่อกดเข้าเว็บไซต์หรือเพจ facebook ก็จะคุยกับระบบ AI และให้เพิ่มเพื่อนไลน์คนร้าย จากนั้นส่งต่อให้คนร้ายที่อ้างตัวเป็นทนายความเพื่อหลอกถามข้อมูล แล้วจะอ้างว่า ได้ทำการตรวจสอบเส้นเงินแล้ว พบว่าเงินออกนอกประเทศไปแล้ว และคนร้ายใช้บัญชีม้า ทำให้ตามเงินกลับมาไม่ได้ แต่ว่าเงินยังฟอกไม่สำเร็จ และรู้ว่าเงินเข้าสู่แพลตฟอร์มไหน  จากนั้นส่งต่อให้คนร้ายที่อ้างตัวว่าเป็นทีม IT สามารถโจมตีแพลตฟอร์มนี้ เพื่อนำเงินคืนมาให้ได้  จากนั้นส่งต่อให้หัวหน้าของคนร้ายที่เป็นเจ้าหน้าที่ IT อ้างว่า ขณะนี้เงินของเหยื่อได้เข้าสู่แพลตฟอร์ม เว็บพนันออนไลน์ แต่จะช่วยโจมตีเว็บไซต์ดังกล่าวให้  โดยให้เหยื่อสมัครและเล่นในเว็บไซต์พนัน โดยอ้างว่า ไม่ได้พามาเล่นการพนันแต่เป็นการพามากู้เงินคืนจากเว็บไซต์ โดยจะทำการโจมตีให้เหยื่อ แต่มีข้อแม้ต้องใช้เงินตัวเองยิ่งเติมเยอะยิ่งได้คืนมาก และเร็ว และ ทำได้แต่บางช่วงเวลาของวันเท่านั้น ไม่งั้นเซิร์ฟเวอร์จะตรวจพบ และ ขอหักเงิน 10% เพื่อเป็นค่าทนาย จากรายได้ที่ได้จากการโจมตี  เหยื่อหลงเชื่อเพราะคิดว่าจะได้เงินคืน  สุดท้ายเสียเงินเพิ่ม

ข้อแนะนำ
1. ไม่มีหน่วยงานราชการหน่วยงานใดให้ประชาชนโอนเงินเพื่อเล่นเว็บพนันออนไลน์หรือโอนเงินให้ทำอะไรก็ตาม
เพื่อให้ได้เงินคืน
2. หากต้องการแจ้งความออนไลน์ให้แจ้งความผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com  หรือแจ้งความสถานี
ตำรวจท้องที่ได้ทั่วประเทศ  
3. หากมีข้อสงสัยต้องการสอบถามหรือขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1441 หรือ 191
 
พล.ต.ต.ชูศักดิ์ฯ  กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้มีคนร้ายแก็งคอลเซ็นเตอร์ใช้เบอร์มือถือซิมม้าโทรหาเหยื่อ แจ้งว่ามีคนไข้ถูกส่งมาที่ห้องฉุกเฉิน และมีค่าใช้จ่ายต้องชำระสำหรับการผ่าตัดด่วน เหยื่อปฏิเสธว่าไม่รู้จักบุคคลที่ถูกส่งมาห้องฉุกเฉินดังกล่าว แต่ทางคนร้ายยังคงยืนยันว่าคนไข้คนดังกล่าวระบุชื่อเหยื่อเป็นเบอร์ติดต่อ หากคนไข้เป็นอะไรไปเหยื่อต้องรับผิดชอบ เหยื่อขอคุยสายกับนายแพทย์เจ้าของคนไข้ แต่คนร้ายไม่ยอมจึงได้วางสายไป เหยื่อพยายามโทรกลับไปติดต่อแต่โทรกลับไปไม่ได้ มีเสียงแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อเลขหมายดังกล่าวได้ ภายหลังเหยื่อได้นำเบอร์มือถือดังกล่าวมาตรวจสอบกับ Application Whoscall พบว่าเป็นเบอร์ที่ถูกรายงานไว้ว่าเป็นเบอร์คนร้าย

​จุดสังเกต
1. คนร้ายใช้ซิมม้าโทรตามแนวชายแดนที่มีสัญญาณผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อว่า
เป็นการโทรศัพท์จากโรงพยาบาลจริง
2. หมายเลขโทรศัพท์ที่คนร้ายโทรหา  ไม่สามารถโทรติดต่อกลับไปได้
 
วิธีป้องกัน
1. ให้สังเกตความผิดปกติของปลายสาย  เช่น  ถามชื่อ-นามสกุล จริง การใช้ข้อความอัตโนมัติ  การโอนสายให้เจ้าหน้าที่  หากมีการ VIDEO CALL ให้สังเกตความผิดปกติของเสียงและท่าทาง (คนร้ายใช้โปรแกรมปลอมใบหน้า)
​2. หากคนร้ายอ้างเหตุต่างๆ  หรือข่มขู่ให้โอนเงิน  ให้โทรศัพท์ตรวจสอบหรือโทรสายด่วนหน่วยงานที่มีการแอบอ้าง ก่อนดำเนินการใดๆ
​3. หากมีหมายเลขโทรศัพท์ ที่ไม่ได้บันทึกไว้ในเครื่องโทรหา ไม่ควรรับสายในทันที  และให้ตรวจสอบผ่าน
แอปพลิเคชัน Whoscall ว่าเป็นเบอร์คนร้ายหรือเป็นเบอร์ที่ถูกรายงานไว้หรือไม่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าปัจจุบันคนร้ายยังคงใช้วิธีการหลอกโดยอาศัยกลโกงเดิมๆ แต่ได้พัฒนาวิธีการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ดังนั้นเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com  

จุดจบคนโกง สืบนครบาลรวบ 'ป้าประยูร' บัญชีม้าติด แบล็กลิสต์ หลอกขายเสื้อวงศิลปินเกาหลี อ้างว่าเอาบัญชีจำนำไว้

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริต ชุดลาดตระเวนออนไลน์ได้สืบสวนหาข่าวพบว่ามีมิจฉาชีพใช้บัญชีม้าธนาคาร หลอกขายเสื้อของวง 'Got7'และเป็นเสื้อของศิลปินดัง 'Jackson Wang' ให้กับเยาวชนเป็นจำนวนมาก เจ้าตัวอ้างว่าเปิดบัญชีแล้วได้นำบัญชีไปจำนำไว้เป็นเงิน 7,000-8,000 บาท 

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์  พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. สั่งการให้ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. นำโดย พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ชุดปฏิบัติการที่ 4 สืบสวนจับกุม นางประยูร จินดา อายุ 57 ปี อยู่ 14 ม.8 ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 183/2566 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2566 คดีอาญาที่ 973/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ ภายในซอยชุมชนวัดมะกอกกลางสวน ซ.9 แขวงและเขต พญาไท กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง หลอกขายบัตรเสื้อผ้าของเหล่าศิลปินเกาหลีชื่อดัง โดยใช้ชื่อบัญชีรับโอนเงินชื่อบัญชี “นางประยูร จินดา”  ตำรวจสืบสวนนครบาลจึงได้ทำการตรวจสอบพบว่า ชื่อบัญชีดังกล่าวมีประวัติในแบล็กลิสต์บัญชีคนโกงของเว็บไซต์ “www.blacklistseller.com” จำนวน 14 รายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนหาข้อมูล นางประยูร จนสืบทราบว่า นางประยูร ได้มีการหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง เมื่อพบผู้ต้องหาจึงได้แสดงตัวจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมาย ให้นางประยูรทราบ

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้มีการเปิดบัญชีแล้วได้นำบัญชีดังกล่าวไปให้กับเพื่อนในที่ทำงาน โดยเป็นการนำบัญชีไปจำนำไว้ และได้เงินจากการนำบัญชีไปจำนำเป็นเงิน 7,000-8,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการไปนำบัญชีของกลับมาเลย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่ง สภ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ประธาน​มูลนิธิ​คลังสมอง​ วปอ.​ เพื่อ​สังคม​ เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์​ ครบรอบ 33 ปี วันสถาปนาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ​​

วันที่​ 29 สิงหาคม​ 2566 พลเอก​ นรินทร์​ แทบ​ประสิทธิ์​ ประธาน​มูลนิธิ​คลังสมอง​ วปอ.​ เพื่อ​สังคม​ พร้อมด้วย​ นายวิรุฬ​ รัตนปริคณน์​ กรรมการ​มูลนิธิ​ฯ​ และรองผู้อำนวยการหลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง​ (นพม.)​ เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์​ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ​ ประจำปี​ 2566 (ครบ 33 ปี) 

ในโอกาส​นี้ได้รับ​เกียรติ​จาก​ พลเอก​ ศิราวุฒิ​ วงศ์ขันตี​ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด​ เป็นประธานในพิธี​ และพลเอก วิชัย ชูเชิด ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ​ ให้การต้อนรับ​ ซึ่งในงานดังกล่าวนี้​ยังได้รับเกียรติ​จาก​ผู้บังคับบัญชา​ อดีตผู้บังคับบัญชา​ และข้าราชการ​ของกองบัญชาการ​กองทัพไทย​ เข้าร่วมพิธีด้วย

เด็กไทยสร้างชื่อ คว้า 23 รางวัลการแข่งขันเต้นระดับโลก รายการ ‘UDO WORLD STREET DANCE 2023’ ที่อังกฤษ

(29 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ศรัญญา ชาญเชี่ยว หรือ ครูตาล ผู้บริหาร IDS DANCE STUDIO จ.ชลบุรี ที่ได้นำทีมเยาวชน I DASS ALL OUT TEAM เข้าร่วมการแข่งขันการเต้น STREET DANCE ในรายการ ‘UDO WORLD STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2023’ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแบล็คพลู ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 23-27 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่เยาวชนไทยสามารถสร้างผลงานได้ดีเยี่ยม 

โดยการแข่งขันดังกล่าวนับเป็นเวทีที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังสามารถดึงดูดนักเต้นทั่วโลกให้เข้าร่วมชิงชัยได้มากถึง 30 กว่าประเทศ  

ขณะที่การนำทีมเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ‘IDS DANCE STUDIO ชลบุรี’ มีทีมที่สามารถคว้าถ้วยรางวัลได้มากถึง 23 ถ้วยรางวัล ประกอบด้วย

1. รายการแข่งขันประเภททีม /TEAM 
รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 
ระดับ : INTERMEDIATE 
รางวัล : รองชนะเลิศอันดับ 2 
ทีม : I DASS ALL OUT TEAM 

2. รายการแข่งขันประเภทเดี่ยว / SOLO 
-รุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี 
ระดับ BEGINNER 
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 
ด.ญ.ณิรินทร์ ศิริ (กันตา)  

-รุ่นอายุไม่เกิน 10ปี 
ระดับ INTERMEDIATE  
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 
ด.ช.ณัฐพนธ์ ศิริ (กตังค์) 

-รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE  
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1

ด.ญ.ลภัสรดา ไชยรักษ์ (หยก) 
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3
ด.ญ.อายูมิ อิโตะ (ยูมิ)

-รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE  
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 
ด.ญ.ชนิดาภา สังขจาย (ใบเตย)  

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 
ด.ญ.พศวีร์ อุบลนุช (ยาหยี) 

3. รายการประเภทคู่ / DUO  
- รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี
ระดับ INTERMEDIATE 
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 
ด.ญ.ลภัสรดา ไชยรักษ์ (หยก) 
ด.ช.ณัฐพนธ์ ศิริ (กตังค์)

- รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE 
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1  
ด.ญ.ชนิดาภา สังขจาย (ใบเตย)  
ด.ญ.พศวีร์ อุบลนุช (ยาหยี) 

- รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE  
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1
ด.ญ.ชญาณี อรัญคีรีมาศ (อ๋อ)
ด.ญ.รามิล ศักดิ์ศรีดีเลิศ(เพลย์) 

4. รายการแข่งขันประเภททีม 4 คน/QUAD 
-รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE 
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
ด.ญ.ลภัสรดา ไชยรักษ์ (หยก) 
ด.ญ.อายูมิ อิโตะ (ยูมิ) 
ด.ช.ณัฐพนธ์ ศิริ (กตังค์)  
ด.ช.ภพพี ชัยประสาธน์ (พี)

-รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE 
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3
ด.ญ.ชนิดาภา สังขจาย (ใบเตย)
ด.ญ.ชญาณี อรัญคีรีมาศ (อ๋อ)
ด.ญ.รามิล ศักดิ์ศรีดีเลิศ(เพลย์) 
ด.ญ.พศวีร์ อุบลนุช (ยาหยี)

5. รายการแข่งขันประเภททีม SUPERCREW THAILAND  
รางวัลชนะเลิศอันดับ 1
ด.ญ.ชญาณี อรัญคีรีมาศ (อ๋อ)

6. รายการแข่งขันประเภทแบทเทิล/BATTLE  
รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี  
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 
ด.ญ.ลภัสรดา ไชยรักษ์ (หยก)

‘อดีตนักเดินเรือเก่า’ แอบหวั่น!! อาหารทะเลนำเข้าจากญี่ปุ่น ความปลอดภัยที่ยังถูกตั้งคำถาม หลังน้ำปนเปื้อนล่องทะเล

(29 ส.ค.66) ข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Naruphun Chotechuang’ โดย ‘คุณนฤพันธ์ โชติช่วง’ อดีตนักเรียนวิทยาลัยยามชายฝั่งญี่ปุ่น ได้โพสต์ให้ความรู้กรณีญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกันตรังสีสู่ทะเลไว้ว่า...

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปทานโอโทะโระลายสวย ๆ จากรูปภาพที่ 1 ในราคา 10 ชิ้น 399 บาท (ตกเฉลี่ยชิ้นละ 40 บาท) เมื่อทานแล้วคุณภาพไม่ต่างจากโอโทะโระที่ญี่ปุ่นระดับราคา 3 ชิ้นพันเยนเลย (ตกเฉลี่ยชิ้นละ 33.3 บาท) ก็ถือว่าทานทิ้งทวนก่อนจะลดการทานอาหารทะเลสักพัก อันเนื่องจากข่าวการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ได้รับการบำบัดแล้วลงสู่ทะเลของประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา

ขอเกริ่นต้นเหตุของเรื่องก่อนนะครับ เมื่อ 12 ปีที่แล้วเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น จนทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงผลิตไฟฟ้าฟุคุชิมะหมายเลขหนึ่งเกิดการเมลท์ดาวน์ จึงต้องนำที่ใช้หล่อเย็นแกนพลังงานของเตาปฏิกรณ์และน้ำเหล่านั้นก็ปนเปื้อนกัมมันตรังสี ปริมาณน้ำเหล่านั้นคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 ปีในการทยอยปล่อยน้ำที่บัดบำแล้วจนกว่าจะหมด แต่ถึงแม้จะได้รับการอนุญาตจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) แล้วว่าปริมาณการปนเปื้อนกัมมันตรังสีนั้นอยู่ใน ‘ระดับที่มองข้ามได้’ ว่าแต่มันปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล ธรรมชาติ และมนุษย์จริงหรือไม่ ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ดี 

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการลดการทานอาหารทะเลสักพักของผม? ด้วยอาชีพเก่าอย่างนักเดินเรือ ที่จำเป็นต้องเรียนในศาสตร์วิชาอุตุนิยมวิทยา และสมุทรศาสตร์ ให้เข้าใจหลักการพยากรณ์อากาศ การเกิดพายุ การเกิดคลื่น และกระแสน้ำในทะเลเพื่อใช้ในการนำเรืออย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของกระแสน้ำในทะเลบนโลกเรานั้น ผมจำได้ขึ้นใจเนื่องจากตอนสอบภาคทฤษฎีในตำแหน่งนายเรือ และสอบสัมภาษณ์ในตำแหน่งนายประจำเรือเจอคำถามเกี่ยวกับเรื่องกระแสน้ำนี้ด้วย

จากรูปภาพที่ 2 เป็นภาพทิศทางของกระแสน้ำบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกที่แบ่งได้เป็นสองแบบคือ กระแสน้ำอุ่นแทนด้วยสีแดง และกระแสน้ำเย็นแทนด้วยสีน้ำเงิน การปล่อยน้ำที่ได้รับการบำบัดแล้วลงสู่ทะเล ณ จุดเกิดเหตุมีโอกาสที่กระแสน้ำอุ่นจะพัดเอาน้ำเหล่านั้นไปยังทวีปอเมริกาแล้วแยกออกเป็นสองสาย ไปทางเหนือแล้ววนกลับไปที่ญี่ปุ่น หรือลงทางใต้แล้ววนกลับไปยังเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) นั่นหมายความว่า มีโอกาสที่สัตว์ทะเลที่อาศัยบริเวณนั้นได้รับกัมมันตรังสี ซึ่งก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัดว่าจะไม่มีการกลายพันธุ์ และมนุษย์ก็จะรับเอาสารกัมมันตรังสีจากสัตว์ทะเลเหล่านั้นมาอีกต่อหนึ่ง 

เพื่อให้เห็นภาพชัด ๆ ผมแคปเอาภาพที่ 3 จากเว็บที่แสดงกระแสน้ำทั่วโลกแบบ Real time มาให้ดูกัน ใครสนใจดูเองเชิญตามลิงก์นี้
https://earth.nullschool.net/#current/ocean/surface/currents/equirectangular=-169.89,11.90,510 

โพสต์นี้ไม่ได้ต้องการให้ทุกคนแตกตื่น แต่ต้องการให้ตื่นตัวกับสถานการณ์ของโลก ประเทศจีนเองก็มีมาตรการยกเลิกการนำเข้าสัตว์ทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมดแล้ว เกาหลีก็มีการประท้วงต่อรัฐบาลญี่ปุ่นในการทำเช่นนี้ ส่วนไทยที่มีหลายคนรักในปลาส้ม และโอมากาเสะนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นยังอาจไม่รับรู้ถึงเรื่องเหล่านี้ ก็อยากให้รับรู้ถึงความเสี่ยงที่มี และพิจารณาความเสี่ยงนั้นด้วยตัวเองครับ

ปล. ที่จริงคนเราก็กินสัตว์ทะเลที่ปนเปื้อนไมโครพลาสติกมาสักพักแล้วนะ ต่างประเทศค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แล้ว แต่ไทยยังทำตัวเหมือนท่านฮุคเพลง ‘ความซื่อสัตย์’ ของบอดี้สแลมต่อไป

‘อาม ชุติมา’ ประกาศเปลี่ยนผู้จัดการ ป้องกันเจ้าภาพโอนเงินค่าจ้างผิด พร้อมบอกเป็นนัย “ขอโทษที่โพสต์แบบนี้ แต่แบกหนี้ให้ใครไม่ไหวแล้ว”

(29 ส.ค.66) เพิ่งจะรับบทสาวโสดไปไม่นานสำหรับนักร้องนักแต่งเพลงคนดัง ‘อาม ชุติมา โสดาภักดิ์’ ที่ประกาศเลิกรากับแฟนหนุ่มนักฟุตบอลหลังคบกันได้ระยะหนึ่ง ล่าสุดก็ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง

โดยคราวนี้ ‘อาม ชุติมา ได้ออกมาโพสต์แจ้งเตือนเจ้าภาพหลายๆ คน ว่าเธอเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่แล้ว เนื่องจากเกรงว่าเจ้าภาพจะให้เงินค่าจ้างผิด ซึ่งหากมีการให้เงินค่าจ้างกับผู้จัดการส่วนตัวคนเก่า ตนก็จะไม่ขอรับผิดชอบทุกกรณี โดยระบุว่า…

“เนื่องจากตอนนี้น้องอาม ชุติมา ได้มีการเปลี่ยนผู้จัดการ หากผู้จัดการคนเก่าได้มีการรับเงินเจ้าภาพคนไหน ต่อไปนี้ งดรับผิดชอบทุกกรณีนะคะ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง”

ทั้งนี้ ‘อาม ชุติมา ก็ได้ออกมาคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “ขอโทษที่โพสต์แบบนี้ หนูแบกหนี้ให้ใครไม่ไหวแล้วค่ะ” ท่ามกลางเหล่าแฟนคลับที่เข้ามาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม

ไม่ว่าจะเป็น “ซัพพอร์ตตลอดนะคะ”, “สู้ๆ น้อง” , “สู้ๆ นะคะ ขอให้มีคนร่วมงานเก่งๆ และซื่อสัตย์ค่ะ จะได้ปังๆ ยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ”, “เป็นกำลังใจให้น้องอามนะครับ”, “ให้กำลังใจน้องสาวน้าา”, “เป็นกำลังใจให้นะคะน้องอาม”, “ห่วงใยน้องอาม ติดตามผลงานตลอดนะคะ” เป็นต้น

INTERLINK ประกาศกร้าว!! ขอสร้างการเติบโตยั่งยืน แม้ผลัดใบรัฐบาล ชู!! 'สินค้าดี-บริการเยี่ยม-ราคาเป็นธรรม' นำธุรกิจเอื้อผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม

(29 ส.ค.66) นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ได้เผยถึงพันธสัญญาของ INTERLINK ต่อทุกผู้เกี่ยวข้องในระบบนิเวศธุรกิจของบริษัท ถึงการเปลี่ยนผ่านขั้วรัฐบาลใหม่ ว่า...

“ตลอดระยะเวลา 2-3 อาทิตย์นี้ ถ้าไม่พูดถึงรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะตั้ง ก็ดูจะเชยและไม่ทันสถานการณ์   แต่เนื่องจากผมเป็นประธานกลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ซึ่งต้องนำพาธุรกิจของกลุ่มให้เติบโตต่อเนื่องและยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นใคร หรือใครจะเข้ามาบริหารกระทรวงต่าง ๆ”

“ทั้งนี้ เป้าหมายที่กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ต้องทำ คือดำเนินการให้ผลประกอบการ สามารถเติบโตต่อเนื่อง ทั้งรายได้และกำไร ตามที่ได้สัญญาไว้กับนักลงทุน”

นายสมบัติ กล่าวอีกว่า “ผมอยากจะบอกข่าวสำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ เพราะตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เป็นต้นมา มีสัญญาณที่ส่งให้ ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ ขายดี เป็นเทน้ำเทท่า (พนักงานบอก) เริ่มจากการจัด Mid Year Sales ที่ผลปรากฏว่าสินค้าที่เตรียมไว้ ได้รับการตอบรับอย่างเกินความคาดหมาย เป็นผลให้ทีมโลจิสติกส์ และทีมจัดส่ง ไม่มีวันได้หยุดพักเลย ต้องจัดส่งทุกวันทั้งในกรุงเทพและในทุก ๆ ภูมิภาค” 

"อีกทั้งเผอิญบริษัทผู้ผลิตสายไฟฟ้าของประเทศไทยรายใหญ่มีปัญหาไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามกำหนด ดังนั้น INTERLINK จึงเกิดปรากฏการณ์ส้มหล่น สินค้าสายสัญญาณและสายคอนโทรล ขายดีจนขาดตลาด อาทิ สาย Sola Cable, สายโทรศัพท์, สาย Security and Control, สาย CVV, สาย THW-F เป็นต้น ซึ่งโรงงานของ ILINK พร้อมที่จะผลิตสินค้าเหล่านี้เข้ามาทดแทนตลาดที่ขาดหายไป”

นายสมบัติ กล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า “คาดว่าใน 3 เดือนข้างหน้านี้ ผลิตภัณฑ์สายสัญญาณและสายคอนโทรลของ ILINK จะได้เป็นทางเลือกใหม่ภายใต้สโลแกน 'สินค้าคุณภาพ ราคาถูกกว่า และบริการที่ดีกว่า' แน่นอนครับ”

โครงการฟื้นฟูปะการังและสิ่งมีชีวิต อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1

ทัพเรือภาคที่ 1 โดย อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมฟื้นฟูปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ณ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ทัพเรือภาคที่ 1 และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โครงการปรับปรุงและขยายระบบต่อไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ที่ได้มีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องด้วยดีเสมอมา รวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร โรงเรียนสัตหีบ เขตกองเรือยุทธการ โรงเรียนสัตหีบเขตฐานทัพเรือสัตหีบ และกลุ่มนักท่องเที่ยว ภาคประชาชน ที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

สืบเนื่องจาก ในปี 2566 ทางอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1ได้มีการตรวจพบว่าปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์ “เอลนีโญ่” อาทิ ปะการังฟอกขาว โรคปะการังแถบเหลือง การลดลงของสัตว์ทะเล ซึ่งล้วนแต่เกิดจากสภาพอากาศของโลกที่เปลื่ยนแปลงโดยเฉพาะปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ที่ทําให้อุณหภูมิน้ําทะเลเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดีในพื้นที่ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 ยังคงมีวงจรที่ยังคงเป็นไปตามธรรมชาติทุกๆ ปี นั่นคือการมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ ในช่วงเดือน มิถุนายน - กรกฎาคม 

ทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้กําหนดจัดกิจกรรม ฟื้นฟูปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ณ อุทยานใต้ทะเลเกาะขามขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ และความสมดุลของระบบนิเวศน์ให้เหมาะสมต่อการดํารงชีวิตของสัตว์ทะเล บริเวณอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 รวมท้ังสร้างจิตสํานึกและทัศนคติ ที่ดีในการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ร่วมกิจกรรมฯ และเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 85 คน

โดยกิจกรรมประกอบด้วย การมอบงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการฯ จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โครงการปรับปรุงและขยายระบบต่อไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน โดยนางสุภาวิณี นาควิเชตร หัวหน้าหมวดประชาสัมพันธ์ (มปส-ปส.) กฟผ.โครงการปรับปรุงและขยายระบบส่งไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน จำนวน 100,000 บาท การขยายพันธุ์ปะการัง การปล่อยแม่ปูม้า (พร้อมไข่) และเต่าทะเลลงสู่ทะเล และ การติดตามดูแลจุดที่เต่าทะเลวางไข่บนเกาะขาม รวมถึงมีการให้ความรู้แก่เยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ อีกด้วย

นิราช/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

มอบทุนการศึกษา บุตรบุคลากร รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นร.ในชุมชนใกล้เคียง นร.พยาบาลทหารเรือ และนักเรียนจ่าทหารเรือ เหล่าทหารแพทย์ 5 แสนบาท 

ณ ห้องคลองไผ่ หอประชุมโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือโท ชลธร สุวรรณกิตติ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ พลเรือตรี ณัฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ พลเรือตรี กิตตินันท์ งามศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ และประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พลเรือตรี ประทีป ตังติสานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ พลเรือตรีหญิง อำไพวัลย์ สวยสม ประธานมูลนิธิปันน้ำใจสาธุ พลเรือตรีหญิง สายชล กองอ่อน พลเรือตรีหญิง นิภาภรณ์ เล้าโสภาภิรมย์ นาวาเอก สมศักดิ์ พรหมมาลี ประธานชมรมผู้สูงอายุ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และนาวาเอกหญิง สุมาลี ไวยเนตร ได้ร่วมมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรของบุคลากร รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นักเรียนในชุมชนใกล้เคียงโรงพยาบาล จำนวน 115 ทุน นักเรียนพยาบาลทหารเรือ และนักเรียนจ่าทหารเรือ เหล่าทหารแพทย์ จำนวน 4 ทุน รวม 119 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 500,000 บาท 

โดยจัดสรรเป็นทุนการศึกษาระดับต่างๆ 115 ทุน ทุนละ 4,000 บาท แบ่งเป็นในระดับประถมศึกษา 52 ทุน ระดับมัธยมศึกษา 43 ทุน ระดับอุดมศึกษา 17 ทุนสำหรับเด็กพิเศษ 3 ทุน ทุนนักเรียนพยาบาลทหารเรือ ทุนละ 10,000 บาท 2 ทุน และทุนนักเรียนจ่าทหารเรือ เหล่าทหารแพทย์ ทุนละ 10,000 บาท  2 ทุน 

เป็นเงินทุนการศึกษาที่ได้มาจาก มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 140,000 บาท จากชมรมผู้สูงอายุโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ 20,000 บาท จากศูนย์ปันน้ำใจสาธุ 50,000 บาท จากพลเรือตรีหญิง อำไพวัลย์ สวยสม 10,000 บาท จากพลเรือตรีหญิง นิภาภรณ์ เล้าโสภาภิรมย์ 30,000 บาท จากสวัสดิการเงินกู้ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 200,000 บาท เงินดอกผลจากองค์การอุตสาหกรรมทหาร 21,000 บาท เงินสวัสดิการภายใน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ 19,000 บาท และจากนาวาเอกหญิง สุมาลี ไวยเนตร 10,000 บาท

ด้วยมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เล็งเห็นในคุณค่าการศึกษาของเยาวชน ที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต โดยเฉพาะบุตรของกำลังพลในโรงพยาบาล และนักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนพื้นที่สัตหีบ ที่กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ในขณะนี้ อาจขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษา จึงได้จัดหางบประมาณทั้งจากมูลนิธิฯ ทั้งจากผู้มีจิตศรัทธา และในส่วนของโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพื่อให้เป็นทุนในการศึกษาเล่าเรียน เนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนาโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ปีที่ 26 ในครั้งนี้

โดยเจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ ได้กล่าวขอบคุณผู้ที่กรุณามอบเงินเป็นทุนการศึกษาให้แก่บุตรของบุคลากร ของโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ นักเรียนในชุมชนใกล้เคียงโรงพยาบาล นักเรียนพยาบาลทหารเรือและนักเรียนจ่าทหารเรือ เหล่าทหารแพทย์ และกล่าวให้โอวาทกับผู้รับมอบทุนการศึกษาในวันนี้ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า การศึกษานับเป็นรากฐานอันสำคัญยิ่ง ที่จะส่งเสริมให้มวลมนุษย์มีความรู้และความคิด ที่จะสร้างจินตนาการ และสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และประเทศชาติ ทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข การที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ได้จัดให้มีการมอบทุนการศึกษาในวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและสมควรที่จะปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้รับทุนการศึกษาในวันนี้ เงินทุนที่รับไปนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มากนักแต่ก็น่าจะบรรเทาความเดือดร้อนภายในครอบครัวได้ในระดับหนึ่ง ขอให้นำเงินไปใช้อย่างประหยัดและคุ้มค่า เพื่อส่งเสริมและเอื้ออำนวยต่อการศึกษาให้ประสบความสำเร็จ และประพฤติตนเป็นคนดีของบิดา-มารดา และประเทศชาติต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top