Friday, 23 May 2025
NewsFeed

'โย-พงศธร' ผู้สมัคร สส.ระยอง ก้าวไกล แจงเหตุไม่เสียภาษี  อ้าง!! ตอนนี้เริ่มถูกโจมตี เพราะหาเสียงได้สร้างสรรค์

(28 ส.ค. 66) นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือโย ผู้สมัคร สส. เขต 3 จังหวัดระยอง กล่าวถึงประกาศ ของ กกต. ระยอง ที่ตนเองไม่ได้เสียภาษี 3 ปีย้อนหลัง ว่า ตามที่ได้มีประกาศจากทาง กกต. ว่าตนไม่เสียภาษีนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเวลารับสมัครมีการให้กรอกอาชีพของผู้สมัคร สส. จะมีให้แนบ 2 แบบ คือแบบที่เป็นของบุคคลที่มีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษี ต้องแสดงเอกสารเสียภาษี 3 ปีย้อนหลัง กับแบบที่สอง บุคคลที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี จะเป็นแบบ สส. 4/7 คือเป็นใบรับรองตัวเองว่ามีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ซึ่งตนใช้แบบที่สองในการยื่น คือมีรายได้ไม่ถึง 220,000 บาทต่อปี ซึ่ง กกต. ก็มีการประกาศรับรองปกติ

เมื่อถามย้ำว่าเป็นเพราะรายได้ไม่ถึงใช่หรือไม่ นายพงศธร กล่าวว่า ใช่ ตนไม่ได้กังวล ถือเป็นกระบวนการตามปกติและมีเอกสารรับรองผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว ไม่กังวลว่าคนจะเข้าใจผิดว่าไม่เสียภาษี หากเรียกไปชี้แจงก็สามารถชี้แจงได้

เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะบอกชาวระยองที่หาเสียงอยู่ขณะนี้หรือไม่ นายพงศธร กล่าวว่า นอกจากเรื่องหาเสียงก็มีข่าวเรื่องของการโจมตีตน ตนเข้าใจว่าเป็นเพราะการเมืองที่พรรคก้าวไกลพยายามทำในเรื่องการหาเสียงเชิงสร้างสรรค์และพูดถึงว่าเราจะทำนโยบายอะไร ดังนั้น ฝ่ายที่โจมตี ตนขอให้พ่อแม่พี่น้องเข้มแข็ง รับฟังข่าวสารอย่างมีวุฒิภาวะ

‘โรงแรม’ ยัน!! ไม่ย้าย ‘ครูกายแก้ว’ ไม่ผิดเงื่อนไข สัญญาเช่า 20 ปี แต่จะสร้างโดมครอบแทน เพื่อลดกระแสความไม่สบายใจของสังคม

(28 ส.ค. 66) จากกรณีรูปปั้นครูกายแก้วที่ถูกนำมาตั้งไว้บริเวณโรงแรมเดอะบาซาร์ โฮเทล แบงค็อก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่าย สู่การตั้งคำถามของสังคมว่าสมควรย้ายรูปปั้น ‘ครูกายแก้ว’ หรือไม่

ล่าสุด ที่ห้องรัชโยธินแกรนด์ ชั้น 20 โรงแรมเดอะ บาซาร์ โฮเทล แบงค็อก นายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยนายสิทธิชัย หอมศิริวรรณ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย แถลงกรณีรูปปั้นครูกายแก้ว ที่ตั้งบริเวณโรงแรม เดอะ บาซาร์ โฮเทล แบงค็อก ประเด็น “รูปปั้นครูกายแก้ว อยู่ หรือ ไป”

นายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ขอขอบคุณสภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดย ดร.ศุภาชัย คณะราษฎรไทยแห่งชาติ รวมถึงคณะราษฎรไทยแห่งชาติ องค์กรตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 42 โดยคุณพลภาขุน เศรษฐญาบดี โดยทั้ง 2 หน่วยงานส่งหนังสือถึงทางโรงแรมว่า บัดนี้มีความเข้าใจแล้วว่า ‘รูปปั้นครูกายแก้ว’ ไม่กระทบต่อความเชื่อต่อทางพระพุทธศาสนา แต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้ ทางหน่วยงานยินดีให้ความร่วมมือกับโรงแรงในภายภาคหน้าต่อไป

ขณะที่ประเด็นเรื่องการวางรูปปั้นครูกายแก้ว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของความเชื่อทางศาสนานั้น นายชาลี กล่าวว่า แยกออกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรก ทางโรงแรมได้เช่าที่ดินของการรถไฟทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์ในการเช่ามาทำธุรกิจการให้บริการในด้านการโรงแรม และส่วนอื่นๆ ตามไปด้วย ดังนั้น โรงแรมได้แบ่งพื้นที่ให้บริษัทของครูกายแก้ว โดยมีอาจารย์หน่อยเป็นผู้เช่า ทางโรงแรมแบ่งพื้นที่ด้านหน้าที่จะเห็นว่ามีรูปปั้นต่างๆ ซึ่งพื้นที่หน้าโรงแรมทั้งหมด ทางโรงแรมมอบให้ผู้เช่าไป เป็นสัญญาระยะเวลา 20 ปี ปีละ 2,400,000 บาท เพื่อให้อาจารย์หน่อยช่วยปรับฮวงจุ้ยของโรงแรมให้ดีขึ้น และระบุในสัญญาชัดเจนว่าต้องไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียกับโรงแรม ไม่มีผลกระทบต่อสังคม แต่ไม่ได้ทราบว่าจะนำรูปปั้นของครูกายแก้วมาวาง แต่ถือเป็นสิทธิ์ของผู้เช่า เพราะทางผู้เช่าต้องการจะทำธุรกิจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งโรงแรมก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะรูปปั้นครูกายแก้วช่วยทำให้โรงแรมกลายเป็นที่รู้จัก โด่งดังมากขนาดนี้ และถือว่าเป็นการสร้างกระแสในทางบวกให้กับโรงแรมด้วยซ้ำ เพราะมีลูกค้าและมีการจองโรงแรมมากขึ้น

เบื้องต้นโรงแรมหารือกับ กทม.ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร และได้ข้อสรุปว่าการตั้งรูปปั้นครูกายแก้วนั้น ไม่ได้มีความผิด แต่เพื่อความสบายใจของประชาชน จึงมีการขอให้ปกปิด โดยการสร้างประติมากรรมส่วนครอบ งบประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งผู้เช่าช่วงสถานที่จะเป็นคนออกค่าใช้จ่าย แต่นายชาญ ตุลยาพิศิษฐ์ชัย หุ้นส่วนที่ถือหุ้นประมาณ 20 % จะช่วย 20 ล้านบาท คาดใช้ระยะเวลาในการสร้าง 2 เดือน เพื่อลดกระแสความไม่สบายใจ และให้หันมาสนใจประติมากรรมครอบแทน ซึ่งออกแบบโดยสถาปัตยกรรม จะมีรูปทรงคล้ายโดมของสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนในอนาคตหลังหมดสัญญาจะมีการย้ายรูปปั้นครูกายแก้วออกหรือไม่ คงต้องรอดู แต่คาดว่าคงไม่ย้าย เพราะตอนนี้ก็มีถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ยึดรถไอศกรีมฉาว กลางย่านท่องเที่ยวดังในกรุงลอนดอน หลังกร่างขวางถนน ไร้ใบอนุญาต แถมค้ากำไรเกินควร 

(28 ส.ค. 66) ทำเสียชื่อเมืองผู้ดีเก่าอย่าง ‘กรุงลอนดอน’ ประเทศอังกฤษอย่างนี้ ต้องโดนสักที สำหรับรถเร่ขายไอศกรีมตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ตอนนี้ โดนสื่ออังกฤษรุมแฉว่า “เป็นร้านที่ขายไอศกรีมแพงที่สุดในอังกฤษแล้ว”

เมื่อตำรวจลอนดอนใน 2 พื้นที่ทั้ง ‘Lambeth Council’ และ ‘Westminster City’ ได้บุกเข้ายึดรถเร่ขายไอศกรีมคันหนึ่ง ที่จอดขายไอศกรีมโคนสไตล์อังกฤษ ที่เรียกว่า ‘99 Flake’ ให้แก่นักท่องเที่ยวบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ เพราะจอดรถบนสะพานกีดขวางเลนจักรยาน ผิดกฏจราจร สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ และยังพบว่ารถขายไอศกรีมคันนี้ ไม่มีใบอนุญาติในการจำหน่ายอาหาร ผิดระเบียบด้านอนามัยอีกต่างหาก

แต่ที่แสบยิ่งกว่านั้นคือ ก่อนที่ตำรวจลอนดอนจะบุกมายึดรถไอศกรีมคันนี้ไป มีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งว่า รถเร่คันนี้ ขายไอศกรีมโคนในราคาแพงลิว เข้าข่ายขูดรีดนักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว

เพราะร้านนี้ ขายไอศกรีม 99 Flake ขนาดมาตรฐาน ซึ่งเป็นไอศกรีมโคนไอคอนของเกาะอังกฤษ ในราคาสูงถึงโคนละ 7 ปอนด์ (ประมาณ 310 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าร้านทั่วไปเกือบ 5 เท่า

หากคิดว่าไอศกรีมโคนละ 7 ปอนด์ ราคาแพงมากแล้ว แต่ล่าสุด ‘โจแอน ซิมบอร์’ นักท่องเที่ยวสาวรายหนึ่ง ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวและลูกๆ ยืนยันว่าได้ซื้อไอศกรีมโคนกับรถคันนี้ในราคาแพงกว่า 7 ปอนด์เสียอีก โดยเธอได้สั่งไอศกรีมไปทั้งหมด 4 โคน โดนไป 30 ปอนด์ (ประมาณ 1,330 บาท) ตอนที่เจ้าของร้านบอกราคา เธออึ้งจนงง!! แม้จะเข้าใจว่าค่าครองชีพในลอนดอนนั้นสูงมาก แต่ไม่นึกว่าจะสูงถึงขนาดนี้

สิ่งที่ผิดปกติคือ ทางร้านก็ไม่ยอมติดป้ายราคาอาหารที่หน้าร้านเลย แม้คนทั่วไปจะสอบถามราคาก่อนซื้อ แต่บางครั้งหลายคนก็ชะล่าใจ ไม่นึกว่าไอศกรีมโคนเล็กๆ จะมีราคาแพงได้ถึงขนาดนี้

สำหรับไอศกรีมโคน 99 Flake ชื่อดังนี้ ถือกำเนิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่บริษัทผู้ผลิตช็อกโกแลต Cadbury ในเมืองเบอร์มิงแฮม ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในปี 1920 ที่ชื่อว่า ‘Flake’ มีลักษณะเป็นแท่งช็อคโกแลตอบกรอบ คล้ายตังเม และไม่ละลายในอากาศร้อน ต่อมานิยมใช้ในการตกแต่งบนหน้าขนมหวาน

โดยร้านที่อ้างว่าเสิร์ฟเมนู 99 Flake เป็นร้านแรก คือร้านไอศกรีมของ ‘นายสเตฟาโน อาร์คารี’ ซึ่งร้านของเขาตั้งอยู่บ้านเลขที่ 99 บนถนน Portobello High Street ในสก็อตแลนด์ ได้ใช้ช็อกโกแลต Flake ครึ่งแท่งปักในไอศกรีมซอฟท์ครีม 1 โคนออกขายในปี 1922 ซึ่งเชื่อว่า 99 Flake มาจากเมนูนี้ที่ร้านของเขา และเป็นเมนูไอศกรีมที่ดังมาก และมีหลายร้านนำไอเดียไปขายบ้าง และกระจายไปทั่วอังกฤษ จนบริษัท Cadbury ต้องออกช็อกโกแลต Flake ในขนาดครึ่งแท่งมาวางจำหน่ายสำหรับนำไปประดับเป็นไอศกรีม 99 Flake โดยเฉพาะในเวลาต่อมา

ดังนั้น 99 Flake จึงเป็นไอศกรีมโคนระดับมาตรฐาน สตรีทฟู้ดทั่วไปในอังกฤษ โดยมากขายในราคาเริ่มต้นเพียง 1.5 ปอนด์เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นหลายปี ขายในราคา 99 เซนท์ตามชื่อไอศกรีมด้วยซ้ำไป

เมื่อเป็นไอศกรีมระดับตำนานของอังกฤษ ก็มีนักท่องเที่ยวหลายคนสนใจอยากลองเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอมาเจอราคาของรถเร่ไอศกรีม ที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ดูเข้าถึงง่าย แต่หลอกขายไอศกรีมในราคาที่เรียกได้ว่าขูดรีด หลอกลวงผู้บริโภค เห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยวก็คิดจะขายในราคาแบบตีหัวเข้าบ้าน ก็ทำนักท่องเที่ยวเข็ดได้เหมือนกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็โดนยึดรถ โดนออกสื่อทั่วอังกฤษประจานไปตามระเบียบ แต่ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวก็ต้องพึงระวังในการซื้อของกิน ของใช้เวลาเดินทางต่างแดน ต้องถามราคาก่อนสั่งเสมอ จะได้ไม่โดนโขกราคาเลือดซิบเช่นนี้

‘แบมแบม’ โผล่เล่าเรื่องผี รายการเดอะโกสต์ คนดูสดทะลุหลักแสน ล้มสถิติเดิมที่เคยมีมา

(28 ส.ค. 66) สร้างเสียงฮือฮากับมิติใหม่แห่งการโปรโมทคอนเสิร์ต ‘แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ หรือ ‘แบมแบม GOT7’ ปรากฏตัวครั้งแรกใน ‘The Ghost Radio’ รายการเล่าเรื่องผี รวมเรื่องราวสุดหลอนชื่อดังแห่งเมืองไทย ในวันที่ 27 ส.ค.66 เวลา 21.45 น. ทางช่องยูทูบ The Ghost Radio Official

นอกจากจะมากล่าวถึงคอนเสิร์ตแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว แบมแบมยังเซอร์ไพรส์ด้วยการเล่าเรื่องผีครั้งแรกในชีวิต จนหลายคนพากันตะลึงไม่ใช่น้อย ซึ่งการมาในครั้งนี้ เหล่าอากาเซไม่พลาดที่จะมารอต้อนรับตั้งแต่ทางเข้ารายการ จวบจนในไลฟ์สด ซึ่งล่าสุด เปิดเผยว่า ยอดผู้รับชมกวาดไปกว่า 109,245 วิว ซึ่งถือว่า ล้มสถิติเดิมที่เคยมีมา

ทางเพจ The Ghost Radio ได้เปิดผู้ติดตาม พร้อมระบุแคปชันว่า "คืนนี้มีความสุขมากคร้าบบ พวกเราโดนน้องตกซะแล้ววว หลงมากตะหนูแบมแบม ที่มาพร้อมกับสถิติใหม่ ทะลุแสน ฝันดีคร้าบบบบ รักแบมแบม พร้อมเป็นเอเลี่ยนคร้าบบบบ #Bambam #theghostradio #เดอะโกสต์เรดิโอxแบมแบม"

‘เศรษฐา’ เรียก 8 สายการบิน ร่วมถกรับมือไฮซีซันไตรมาส 4 ปลื้ม!! สายการบินตอบรับฟรีวีซ่า เพิ่ม นทท.-กระตุ้นเศรษฐกิจ

(28 ส.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นประธานการประชุมร่วมกับ 8 สายการบิน เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ และหาแนวทางแก้ไขด้านการบิน เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว โดยมีตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบาย, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อ, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่

ด้านตัวแทนของสายการบิน ได้แก่ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผอ.ใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน), นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผอ.สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย, นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน), นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท, นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย, นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, นายชัยยง รัตนาไพศาลสุข รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จํากัด, นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จํากัด (มหาชน), นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และนายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สายการบินนกแอร์ จํากัด (มหาชน)

สำหรับปัญหาที่ผู้ประกอบการสะท้อนมายังนายกฯ และพรรคเพื่อไทย เช่น
1.) การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ทันกับฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างน้อย 20%
2. การเพิ่มศักยภาพเครื่องบินให้ทันกับการปรับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น
3.) การเพิ่มโอกาสผลักดันนักท่องเที่ยวในตลาดขนาดใหญ่ เช่น จีน อินเดียให้มากขึ้น
4.) การเพิ่มจำนวนเครื่องบินให้มีความเหมาะสมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล

นายเศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอบคุณที่ทุกคนสละเวลามาพบกัน ซึ่งเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล วันนี้พรรค พท. เรามาพร้อมกับว่าที่รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ว่าที่ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ว่าที่เลขานายกฯ ว่าที่ รมว.คมนาคม และว่าที่ รมช.คลัง วันนี้เราพร้อมมาฟังความคิดเห็นจากสายการบินทั้งหมดว่ามีอะไรให้เราช่วยเหลือบ้าง เมื่อถวายสัตย์ฯแล้วจะดำเนินการทันที ซึ่งรัฐบาลพรรค พท.มีความร้อนใจว่าไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว ถ้าเราเริ่มทำงานได้ก่อนจะเป็นการแสดงความได้เปรียบ เพื่อให้ภาคเอกชนมีความพร้อมที่จะรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว

นายเศรษฐา กล่าวว่า และขอขอบคุณ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการช่วยกันส่งเสริมการทำงานกับรัฐบาล พท.ในการเตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซัน ซึ่งเป็นการส่งเสริมรายได้เข้าประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการภายในสนามบิน การเพิ่มเที่ยวบิน การเพิ่มหรือขยายรันเวย์ เป็นต้น

ส่วนข้อเสนอของสายการบินต่างๆ ถือว่าเป็นความร่วมมือที่ดีในการร่วมกันส่งเสริม และสร้างรายได้เข้าประเทศ เป็นเรื่องดีที่ทุกสายการบินให้การตอบรับนโยบาย Free visa ในบางประเทศที่มีศักยภาพ เช่น จีน ซึ่งคาดว่าทุกสายการบินมีความต้องการขยายจำนวนเที่ยวบินรับนักท่องเที่ยว ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศ รัฐบาลที่นำโดยพรรค พท.มีแผนที่จะไปโปรโมทการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศในปีหน้าในเที่ยวบินที่มีความพร้อม ซึ่งแต่ละสายการบินมีสัญญาณที่ดีว่า หากรัฐบาลสามารถเพิ่มความต้องการนักท่องเที่ยวไทยได้ สายการบินจะมีการแข่งขันกันโปรโมทการท่องเที่ยวร่วมกัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงตั๋วโดยสารได้ในราคาที่เหมาะสม

‘บางจาก’ ตั้งโต๊ะซื้อ ‘เอสโซ่’ หุ้นละ 9.89 บ. ทยอยเปลี่ยนป้ายปั๊ม 1 ก.ย. ปิดตำนาน 129 ปี

ภายหลัง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทได้ดำเนินการในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO โดยได้ตกลงราคาซื้อขายสุดท้ายตามสัญญาซื้อขายหุ้นที่ได้ลงนามไป เมื่อ 11 ม.ค. 66 ในสัดส่วน 65.99% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด (หรือราว 2.28 พันล้านหุ้น) จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ESSO บริษัท เอ็กซอนโมบิล เอเชีย โฮลดิ้ง พีทีอี แอลทีดี (ExxonMobil) 

ล่าสุดได้กำหนดราคาสุดท้ายเสร็จสิ้นเมื่อ 25 ส.ค. 2566 ที่ราคา 9.8986 บาทต่อ หุ้น โดย BCP จะชำระค่าหุ้นสามัญจำนวน 2.28 พันล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 65.99% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ ESSO คิดเป็น มูลค่ารวมราว 2.26 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 31 ส.ค. 2566 นี้ ถือเป็นการเปลี่ยน อำนาจควบคุม

จากนั้น ทาง BCP จะดำเนินการเข้าทำคำเสนอหุ้นที่เหลือของ ESSO สัดส่วน 34.01% (หรือราว 1.18 พันล้านหุ้น) ในช่วงต้นเดือน ก.ย. 66 ในราคาเดียวกันที่ 9.8986 บาทต่อหุ้น และคาดการทำ tender จะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. 66 และหากว่าtender ได้ไม่ครบจำนวน ก็ไม่มีแผนที่จะซื้อเพิ่มในตลาดฯ ให้ครบ เพราะสัดส่วนหลัก 65.99% ใน ESSO ก็ถือว่ามี อำนาจควบคุมแล้ว

ทั้งนี้ หลังควบรวมกิจการเรียบร้อย จะส่งผลให้บางจากจะส่งผลให้กำลังการกลั่น เพิ่มขึ้นเป็น 2.94 แสนบาร์เรลต่อวันจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็นโรงกลั่นที่ขนาดกำลังการผลิตที่ใหญ่ ที่สุดในประเทศไทย และจะส่งผลให้ธุรกิจ การตลาด (Retail Marketing) ขึ้นอยู่ในอันดับ 2 ในส่วนของส่วนแบ่งการตลาด

และตั้งแต่ 1 ก.ย. 66 เป็นต้นไป จะเริ่มทยอยเปลี่ยนป้ายปั๊ม ESSO จำนวน 780 สถานี เป็น บางจากทั้งหมด โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งจะทำให้บางจากมีปั๊มน้ำมันรวมกว่า 2,100 สถานี

บลูเทค ซิตี้ เปิดโมเดล "วันหัวใจบริสุทธิ์" ชวนเยาวชนร่วมกิจกรรม Good heart Pure Heart ปลูกด้วยมือ โตที่ใจ ปีที่ 1

วันนี้ (28 ส.ค. 66) บลูเทค ซิตี้ ผุดไอเดีย "วันหัวใจบริสุทธิ์" ภายใต้คอนเซ็ปต์กิจกรรม Good heart Pure Heart ปลูกด้วยมือ โตที่ใจ โดยมีคุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ และผู้บริหารบริษัท อมิตา เทคโนโลยี(ประเทศไทย) จำกัด นำทีมพนักงานร่วมกันปลูกต้นมุจลินท์ (ต้นจิกน้ำ) เพื่อสืบสานไม้พุทธประวัติ และมอบอุปกรณ์เย็บตับจาก (คล้า) ให้กับกลุ่มอาชีพเย็บตับจาก ที่ผ่านการคัดเลือกโครงการ"ส่งเสริมอาชีพคนตัดเย็บจาก" จำนวน 10,000 เส้น ให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาและต่อยอดอาชีพชุมชนดั่งเดิม ซึ่งถือเป็นปฐมฤกษ์ในการเปิดโมเดล "วันหัวใจบริสุทธิ์" ปีที่1

นอกจากนี้ บลูเทค ซิตี้ ยังชวนเยาวชน นักเรียนโรงเรียนวัดเขาดิน เข้าร่วมกิจกรรม Good heart Pure Heart ปลูกด้วยมือ โตที่ใจ โดยปลูกฝังให้เยาวชนได้รู้จักการ อนุรักษ์ อนุบาล พันธุ์ไม้ป่าชายเลน จำนวน 1,000 ต้น สามารถดูดซับคาร์บอนได้ 1,000 ตัน และเรียนรู้การเพาะพันธุ์ปูทะเล สร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างระบบนิเวศน์ที่หลากหลายในพื้นที่ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา อีกด้วย

‘ฟองสนาน’ โหรดัง น้ำตาซึม!! เล่าถึงนายกฯ ในดวงใจ เผย นายกฯ ท่านนี้เคยปฏิเสธคอมมิชชัน ‘พันล้าน’ มาแล้ว

(28 ส.ค. 66) ฟองสนาน จามรจันทร์ นักพยากรณ์ชื่อดัง อดีตนักข่าวสายการเมือง และนักจัดรายการวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Fongsanan Chamornchan’ ในหัวข้อ ‘นายกฯ ในดวงใจท่านนี้เคยปฏิเสธคอมมิชชั่นประมาณพันล้านขึ้นมาแล้ว’ มีรายละเอียดดังนี้

‘อดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน’ ผู้ดีรัตนโกสิทร์ เคยพูดไว้ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์นานมาแล้วว่า นักการเมืองและข้าราชการต้องไม่รับทั้งคอร์รัปชันและคอมมิชชัน

และแล้ววันหนึ่งที่ห้องโหรเล็กๆ ของแม่หมอที่ตลาดบองมาเช่ ห้องบี 263 ห้องนี้ วันๆ เจอข่าวเต็มไปหมด ทั้งดี-ร้าย… เพราะเป็นศูนย์รวมข่าวซุบซิบจากลูกค้าเพียบ

แต่รู้อะไรมามักจะเงียบ อย่างน้อยก็แค่คุยกันในครอบครัวสามคน พ่อคุณหนุ่ย-ลูกพราวฟอง-แม่หมอ

แต่คราวนี้-ถึงวันลา… คนแม่ขอเป็นลำโพงปากแตกหน่อยว่า…

มีเหตุการณ์หนึ่ง เจ้าของโปรเจกต์ที่ค่อนข้างจะเข้าท่า ทะลุไปพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้

แต่ท่านปฏิเสธ… ไม่สนคอมมิสชันมหึมาหรือตามน้ำ… เป็นมูลค่าพันล้านขึ้น แล้วโครงการนี้ก็ไปลงประเทศอื่น

คนเล่าแม้จะเสียผลประโยชน์ ก็ยังบอกว่า จะเลือกท่าน

แล้วอย่ามาถามว่าคนเล่าเป็นใคร เพราะจำไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป.ป.ช.คณะนี้ อย่าแหยม… ยิ่งหมั่นไส้อยู่

ขอจำแต่คุณงามความดีของคนชื่อ ‘บิ๊กตู่’ … (คนอื่นแม่หมอไม่เรียกบิ๊กหรอกจ้า เพราะโหลมาก)

แม่หมอน้ำตาซึมมาเล่าให้คุณหนุ่ยฟัง เล่าให้พราวฟองฟังเพื่อบอกว่า ทหารเสือท่านนี้ ร้องโฮก ไม่ใช่เอ๋ง

ทหารเสือท่านนี้ขึ้นไปกราบพระบาทในหลวง ร.9 บนสวรรค์ได้เต็มภาคภูมิ

ด้วยรักจากพี่ ที่อกหักเพราะรัก ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’

พี่ฟองสนาน จามรจันทร์ อดีตนักข่าวการเมือง ที่พอจะอวดท่านนายกฯ ของพี่ได้บ้างนิดหน่อยว่า ทำข่าวมาตลอดชีพ เริ่มจากสยามรัฐ ไม่เคยรับซองขาวค่ะ เพราะคณะนิเทศศาสตร์จุฬาฯ+รุ่นพี่สยามรัฐสอนมาดี

ที่เล่าก็เพื่อจะบอกว่า คอมมิชชันที่หากท่านรับกับซองขาว หากพี่จะรับจำนวนต่างกันฟ้ากับเหวเลยเชียวค่ะ

มกุฎราชกุมารซาอุฯ ผุดแผนสร้าง ‘ศูนย์โลจิสติกส์’ กว่า 50 แห่ง หนุนความหลากหลายเศรษฐกิจท้องถิ่น-อีคอมเมิร์ซ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว เผยว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เปิดตัวแผนสร้างศูนย์โลจิสติกส์กว่า 50 แห่ง เพื่อเปลี่ยนประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ระดับโลก

สำนักข่าวซาอุดีอาระเบีย รายงานว่าแผนการดังกล่าวมีเป้าหมายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาคโลจิสติกส์ สร้างความหลากหลายของเศรษฐกิจท้องถิ่น และเสริมสร้างสถานะของซาอุดีอาระเบียในฐานะจุดหมายการลงทุนชั้นนำ

รายงานระบุว่าแผนการนี้ประกอบด้วยศูนย์ 59 แห่งบนพื้นที่รวมกว่า 100 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่ในกรุงริยาด 12 แห่ง เมกกะ 12 แห่ง ภูมิภาคตะวันออก 17 แห่ง และส่วนอื่นๆ ของซาอุดีอาระเบียอีก 18 แห่ง

ศูนย์โลจิสติกส์ดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2030 จะเปิดทางให้อุตสาหกรรมท้องถิ่น ส่งออกผลิตภัณฑ์ของซาอุดีอาระเบียได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง และสนับสนุนอีคอมเมิร์ซ โดยเกื้อหนุนการเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว ระหว่างศูนย์โลจิสติกส์และศูนย์กระจายสินค้าทั่วซาอุดีอาระเบีย

‘แพรรี่’ ยิ้มหวาน ลั่น!! ศาลรับฟ้องแล้ว กรณีถูกกระชากวิกผม แม้ความผิดฐานจะมีโทษเล็กน้อย แต่ไม่มีใครควรถูกด้อยค่า 

เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.66) จากกรณีเหตุการณ์ฮือฮา ‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ โดนพิธีกรรับเชิญในรายการเดียวกันกระชากวิกผมจนเป็นเหตุให้ทั้งสองฝั่งออกมาโต้ฝีปากกันดุเดือดเมื่อหลายเดือนก่อนและเหมือนกับว่าเรื่องจะเงียบไป

ทว่าล่าสุด บนเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้โพสต์แจ้งว่าตอนนี้ศาลรับฟ้องคดีแพรรี่โดนกระชากวิกกลางรายการแล้ว โดยคู่กรณีที่กระชากวิกแพรรี่ ไพรวัลย์ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดย แพรรี่ ไพรวัลย์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กไว้ดังนี้

“จากเหตุการณ์ที่ดิฉันถูกกระชากวิกจากศีรษะของดิฉันเมื่อหลายเดือนก่อน หลายคนอาจไม่ทราบว่า ดิฉันได้ใช้สิทธิทางศาลเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวนะคะ

นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันนี้ คดีมีมูล ศาลจึงประทับรับฟ้องคดีดังกล่าวไว้พิจารณาแล้วค่ะ ทุกคนคะ การที่ดิฉันมาศาลวันนี้ ดิฉันเพียงต้องการแสดงจุดยืนในมุมของดิฉันว่า ทุกคนควรได้รับการให้เกียรติ และการปฎิบัติในฐานะเพื่อนมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าบุคคลเหล่านั้นจะเป็นชายจริงหญิงแท้หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศ

การกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญเป็นเรื่องที่กฎหมายให้การคุ้มครองนะคะ ที่สำคัญ หากการกระทำดังกล่าวข้างต้น เป็นการกระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ก็ยิ่งต้องระวางโทษเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ความผิดฐานดังกล่าวจะมีโทษเพียงเล็กน้อย แต่ในฐานะผู้ถูกข่มเหงรังแกหรือกระทำให้ได้รับความอับอาย ดิฉันเห็นว่า เราไม่ควรละเลยต่อกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ตลอดจนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเราค่ะ

ไม่มีใครควรถูกด้อยค่า หรือถูกกระทำให้เป็นตัวตลกในสายตาของผู้อื่นนะคะ ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะให้เกียรติกันค่ะ

ปล. กรุณาแสดงความเห็นด้วยความสุภาพนะคะ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top