Tuesday, 20 May 2025
NewsFeed

'สลัดข้าง-สลายขั้ว' กระแสคนไทยกลับมารักกันเพราะมี 'ขั้ว' ล้มสถาบันฯ มาช่วยประสานใจ

ตอนนี้ในโซเชียลมีเดียเริ่มมีการพูดถึงกระแส 'สลายขั้ว' ระหว่าง 'คนเสื้อเหลือง-คนเสื้อแดง' มากขึ้น แนวโน้มการพูดคุยเป็นไปในทิศทางของการปรับความเข้าใจกัน และให้อภัยต่อเรื่องในอดีต เพื่อจับมือกันก้าวไปข้างหน้า ก้าวข้ามความขัดแย้ง ภายใต้จุดร่วมเดียวกัน คือ ธำรงไว้ซึ่ง 'ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์'

อย่างไม่นานมานี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ 'Peemai Sirikul' ซึ่งออกตัวว่า FC พี่โทนี่และพรรคเพื่อไทย และก็มักจะโพสต์ล่วงเกินฝั่งตรงข้ามบ่อย ๆ ก็ได้ออกมาโพสต์ด้วยว่า...

"ขอโทษพี่น้องเหลือง - สลิ่มเฟส 1 สิ่งใดที่ได้ล่วงเกินกันในอดีต ขออโหสิ นับจากนี้เราคือพี่น้องร่วมชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เดียวกัน ขอเชิญชวนทุกท่านสมานฉันท์ ปรองดอง"

โดยข้อความดังกล่าว ได้ถูกแชร์ออกไปในโลกโซเชียลมากมาย สร้างแรงกระตุ้นในขั้วเหลืองแดงในอดีตเริ่มรู้สึกถึงสปิริตที่อยากแสดงออกในห้วงเวลาที่ประเทศไทยต้องรวมใจเป็นหนึ่ง

ประกอบกับความเคลื่อนไหวของต่างขั้วพรรคการเมืองที่ตัดสินใจเข้ามาร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศเดินหน้าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยมีพรรครวมไทยสร้างชาติตอบรับคำเชิญของพรรคเพื่อไทยเป็นไฮไลต์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.นั้น ก็ยิ่งทำให้คนไทยเริ่มมองเห็นแสงสว่างขอการยุติสงครามสีอันยาวนานหลายทศวรรษลงได้แน่ ๆ

พร้อมทั้งเหลือเพียงสีของธงชาติไทยทั้งสาม ที่คนไทยจะกอดไว้เพียงหนึ่งเดียว

เพียงแต่ขั้วหรือสีที่ทำให้ 'เหลือง-แดง' เริ่มผสานกลมกลืน และสลายขั้วกันได้นี่สิ...จะอยู่ในฐานะอะไรต่อไป?

รัฐบาล เตรียมเปิดตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม ปักหมุดไทยเป็น 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางสำคัญ

(18 ส.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อรองรับและขยายโอกาสทางการตลาดสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิมทั่วโลก พร้อมทำแผนยุทธศาสตร์ ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็น 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิมภายในปี 2570 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ความสำคัญของตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม โดยจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและบริการ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่สนใจ ในเรื่องพฤติกรรมนักท่องเที่ยวมุสลิม การออกแบบบริการรองรับตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม และชี้แจงแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิม ระยะ 5 ปี (2566-2570) 

ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ฯ ประกอบด้วย การยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อเข้าสู่มาตรฐาน, การพัฒนาสินค้า บริการ และกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิม, สนับสนุนการนำเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมุสลิม, บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิม และเพิ่มโอกาสทางการตลาด และสร้างการรับรู้ความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิม

น.ส.รัชดา กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและการแข่งขันได้อย่างยั่งยืนของรัฐบาล เพื่อยกระดับผู้ประกอบการด้านบริการเพื่อการท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิมที่เพิ่มขึ้น โดยประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวมุสลิมทั่วโลก ซึ่งในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวมุสลิมเดินทางมาไทยกว่า 3 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพมีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ ข้อมูลจาก MasterCard-CrescentRating Global Muslim Travel Index 2022 จัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศ/รัฐ/เขตปกครอง ที่ไม่ใช่มุสลิม ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมนิยมมาท่องเที่ยว รองจาก สิงคโปร์ และไต้หวัน (https://www.crescentrating.com/reports/global-muslim-travel-index-2022.html)

“รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อสูง และขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงได้บูรณาการการทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรต่าง ๆ ในการสนับสนุน และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อมั่นว่าแผนยุทธศาสตร์ที่มีประโยชน์นี้จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อผลักดันให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ให้ไทยเป็น 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิมภายในปี 2570” น.ส.รัชดา กล่าว

‘อุงเอิง’ ปล่อยโฮ ถูก ‘นุ่น นพลักษณ์’ หาว่าแย่ง ‘สไปรท์’ จนทัวร์ลง ฝ่ายชายยัน!! ไม่เป็นความจริง ตนเป็นคนทักหาก่อน ตอนที่โสดแล้ว

‘อุงเอิง’ ปล่อยโฮ สุดเสียใจ ทั้งที่เป็นเอฟซี ‘นุ่น นพลักษณ์’ แต่กลับถูกบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังเมนต์ไม่ดี อัดเอามาจากไหนว่าแย่ง ‘สไปรท์’ ให้ข้อคิด คนเมนต์ยังทักมาขอโทษแล้วมันจะจริงไหม

กลายเป็นประเด็นดรามาอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ ‘สไปรท์ SPD’ หรือ ‘เนติเจน เนติรัตนไพบูลย์’ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ได้เผยสถานะว่ากำลังคุยๆ อยู่กับ ‘อุงเอิง สัณห์สิริ แสงดี’ ผู้ดูแลช่องในสังกัด SPD เวลาไล่ๆ กับที่ ‘แน็ก ชาลี ไตรรัตน์’ ประกาศคบ ‘เก๋ไก๋ สไลเดอร์’ หรือ ‘ณัฐธิชา นามวงษ์’ แฟนเก่าสไปรท์ โดยสไปรท์และอุงเอิงถูกชาวเน็ตถล่มแหลก ว่าแอบคบกันมาตั้งนานแล้ว ทำไมต้องมาเปิดตัวตอนที่แน็กประกาศคบเก๋ไก๋ อีกทั้งในไลฟ์ ยังมีบางมุมที่ทำให้ชาวเน็ตรุมถล่มอุงเอิงว่าจุ๊บแก้มสไปรท์โชว์

งานนี้เรื่องยังไม่จบ เพราะมีคนมาเติมเชื้อดรามา นั่นคือ ‘นุ่น นพลักษณ์ กุลธวัชชัย’ บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง ที่ได้แชร์ข่าวดังกล่าวของสไปรท์ และอุงเอิง ก่อนเผยว่า “ทำไมผู้หญิงคนหนึ่งต้องมาเจอเรื่องแบบนี้” รวมทั้งได้เข้าไปเมนต์แฟนคลับรายหนึ่งที่เข้ามาแซะว่า แฟนใหม่ มาในนามที่ปรึกษาค่ะ ไปดูคลิปที่ถ่ายกับซานิ อ๋อเลย ด้วยข้อความว่า “เป็นวิธีแย่ง ผ. ชาวบ้านที่ได้ผล 99.99 เปอร์เซ็นต์” จนทำให้แฟนคลับสไปรท์และอุงเอิงไม่พอใจ

ต่อมาฝั่งนุ่น นพลักษณ์ ก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งไป และทักไปขอโทษสไปรท์ด้วยตัวเอง ซึ่งเจ้าตัวก็ขอให้นุ่น นพลักษณ์ แก้ข่าวให้ด้วย

แต่ล่าสุด สไปรท์และอุงเอิง ไม่อาจอยู่เฉยได้ เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้อุงเอิงโดนชาวเน็ตด่ายับเยินไม่มีชิ้นดี โดยทั้งคู่ได้ไลฟ์สดชี้แจงข้อเท็จจริง งานนี้มีคนเข้ามาดูไลฟ์กว่าแสนคน ระหว่างไลฟ์อุงเอิงถึงขั้นปล่อยโฮ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

อุงเอิง : ที่บอกว่าหอมแก้มกัน เราไม่ได้หอมแก้ม ดูไลฟ์จบไหม

สไปรท์ : ยกคอมเมนต์ นุ่น นพลักษณ์ ที่บอกว่าไม่อยากยอมรับว่าเป็นเพื่อน เพราะมันจะดูแย่ไปหน่อย แต่ก็ทำงานอยู่ช่องเดียวกันมา 6 ปี มันไม่จริง คนก็เชื่อกับข่าวเท็จ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะพี่เขาก็ทักมาขอโทษแล้ว แต่ก็อยากให้ช่วยแก้ข่าวแหละ ไม่งั้นคนก็เข้าใจผิดกันตลอด

อุงเอิง : มีคนบอกว่าบีบน้ำตา ขอถามสักคำ ลองมาโดนแบบฉันไหม แล้วจะรู้ว่าหนักแค่ไหนที่เขาต้องรับมือกับเรื่องแบบนี้

สไปรท์ : สถานะตอนนี้คือคนคุยกัน แต่ข่าวในเพจทั้งหลายไปตีว่าเราคบกัน เปิดตัว ถ้าคนติดตาม เขาจะรู้อยู่แล้วว่ายังไง ผมก็บอกไปเป็นปีแล้วว่ามีคนคุยแล้ว แต่อาจไม่ชัดเจนนิดนึง คือไม่ได้เฉลยว่าเป็นใคร ไม่ได้บอกสื่อว่าเป็นอุงเอิงก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเข้าใจผิดด้วยหรือเปล่า

อุงเอิง : ตอนนี้ดูจากสภาพ บอกอะไรไปก็ไม่น่ามีประโยชน์แล้ว ก็ไม่เป็นไร คนที่เปิดใจ เป็นกลาง พร้อมรับฟังข่าวที่เป็นเรื่องจริง ตอนนี้คนดูเป็นแสนคนแล้ว (หัวเราะ) สำนักข่าว ขอร้องค่ะ แก้ข่าวให้ด้วยนะคะ ที่บอกว่าเอิงจุ๊บ เปิดตัวสไปรท์ ช่วยบอกด้วยว่าไม่ได้จุ๊บเปิดตัวใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้หอมโดนอะไรเลยด้วยซ้ำ

สไปรท์ : มันเป็นมุม เป็นช็อตที่เราเล่นกัน เป็นปกติอยู่แล้ว คนติดตามก็จะเข้าใจ

อุงเอิง : (อ่านเมนต์) ผู้หญิงแสดงออกเยอะกว่าผู้ชาย

สไปรท์ : ตอนแรกว่าจะลงเป็นคลิปเลย เรื่องที่ทุกคนเข้าใจผิด

อุงเอิง : เหนื่อยจริงๆ รู้สึกเลยว่าโอ้มายก๊อด คนเป็นกำลังใจให้ก็ขอบคุณค่ะ ขอพูดนิดนึงว่าคนที่ว่าเขา เรื่องบุคลิกภาพ หรือการแสดงออก เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะมีไม่เหมือนกัน เขาเป็นคนมีนิสัยร่าเริง ถ้าดูเอิงเล่นกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายแบบนี้เหมือนกันหมด แต่ข่าวที่โดนตัดมาลง เขาก็เอามาลงแต่ตอนที่เอิงเล่นกับไปรท์ ถ้าติดตามจะรู้ว่าเอิงเป็นยังไง

สไปรท์ : มันจังหวะนั้นพอดี คนดูเยอะมาก ก็จะพูดทีเดียวแล้วกัน ตอนนี้มีเรื่องเข้าใจผิด เรื่องเอิงเป็นการแชร์ข่าวเท็จ และเข้าใจผิดตัวเอิงหลายประเด็นมาก อย่างเพจพี่นุ่นที่แชร์ออกไป คนกดไลก์ แชร์ไปเยอะมาก ซึ่งมันไม่จริงเลย พี่นุ่นก็ได้ทักมาขอโทษเราเรียบร้อยแล้ว เราไม่ได้ติดใจอะไร แต่ทำให้คนเข้าใจผิด มีคนมาว่าเอิงทุกช่องทาง ทำให้เสียหาย ได้รับผลกระทบ เราก็ขอให้เขาช่วยแก้ข่าวให้ถูกต้อง ผมไม่ได้ไปทักบอกพี่นุ่นนะ ว่าข่าวไม่จริง เขาทักมาเอง ก็โอเคแล้ว ที่เขารู้ว่าความจริงเป็นยังไง ไม่ใช่จะเอาเรื่องไม่จริงไปพิมพ์ยังไงก็ได้ ทำให้เอฟซี หรือฐานคนดูของเขาที่มีเป็นล้านเข้าใจผิดเอิง เอิงก็ติดตาม เป็นเอฟซีพี่เขาเหมือนกัน ไม่อยากให้เสพข่าวที่มันไม่จริง

อุงเอิง : (ร้องไห้)

สไปรท์ : ไม่เป็นไรๆ

อุงเอิง : ไม่คิดว่าคนจะเข้าใจผิดได้ขนาดนี้ กับพี่นุ่นที่เราติดตามและชอบมาก (ร้องไห้)

สไปรท์ : นั่นคือเรื่องที่ทุกคนเข้าใจเอิงผิด ถ้าคิดว่าจริงเหมือนที่เขาว่าก็หาหลักฐานมาแล้วกัน ไม่รู้จะพูดไง พิมพ์อะไรไปก็ไม่เชื่อ

อุงเอิง : ไปเอามาจากไหน ที่ว่าเขาแย่ง ว่าเขาต่างๆ นานา

สไปรท์ : ผมเป็นคนทักเอิงไปเอง ตอนนั้นผมโสดแล้ว เอิงจะแย่งได้ไง เอิงจะแย่งคนโสดเหรอ ทุกคนเข้าใจผิดแบบนี้มาปีสองปีแล้ว เอิงก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่เป็นความจริง

อุงเอิง : (ปล่อยโฮ) ทำไมคนเราใจร้ายได้ขนาดนี้วะ ไม่รู้เลยว่าเขาไปทำอะไรให้เหรอ (ร้องไห้หนัก)

สไปรท์ : ยืนยันความจริงเหมือนเดิม ในฐานะเป็นซีอีโอ เป็นประธานบริษัท ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น กระทบชื่อเสียง ภาพลักษณ์ จิตใจเด็กในสังกัด อะไรไม่จริง ก็ไม่ควรมาว่ากันนะครับ ซึ่งถ้ายังเกิดแบบนี้ต่อไป ก็ต้องทำการฟ้องเพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง ใครคอมเมนต์ว่าอุงเอิง เวลาอุงเอิงโพสต์งาน ลูกค้าไม่อยากเห็นคอมเมนต์เสียๆ หายๆ ถ้าใครว่าไปแล้วก็ไปลบซะ เพราะมันไม่ได้เป็นความจริง

คนที่รู้ว่าตัวเองผิดยังทักมาขอโทษ แล้วมันจะจริงไหม คนกล่าวหาเราไปยังทักมาขอโทษ แล้วมันจะจริงไหม ผมไม่อยากให้เอิงเสียใจ อยากให้เขามีกำลังใจ กลับมาทำงานอีกครั้งนึง ถ้าเป็นแบบนี้ก็มีผลกระทบต่องานและจิตใจ และมีผลกระทบต่อบริษัทเหมือนกัน มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะว่ากันได้สนุกปาก เอิงก็มีทีมงานที่ดูแล ถ้าเอิงเป็นอย่างที่เขาว่าจริง หรือผมเป็นคนไม่ดีจริง ตามในข่าว โกหกจริง ก็คงไม่มีใครคบแล้ว จริงไหม ทุกวันนี้มีทีมงาน 50 คน มีบริษัท

'ศิริกัญญา' แจงประเด็น "คลังลงทุนอาบอบนวด...เมื่อไรขาย?" รู้อยู่แล้ว!! ไม่ได้เข้าซื้อหุ้นโดยตั้งใจ แต่ได้จากการยึดทรัพย์ของปปง.

(18 ส.ค.66) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความชี้แจงจากกรณีที่อภิปรายในสภาฯ ประเด็นลงทุนอาบอบนวด?? ตกลงขายได้มั้ย? ว่า...

เมื่อวันพุธ ดิฉันได้อภิปรายซักถามเกี่ยวกับรายงานการเงินแผ่นดินไป ไล่เรียงคำถามตั้งแต่การบริหารจัดการที่ราชพัสดุ งบประมาณที่ลงบัญชีว่าเบิกจ่ายเกินกว่าที่สภาอนุมัติ ไปจนถึงเงินลงทุนประเภทต่าง ๆ ของแผ่นดินที่กระทรวงการคลังบริหารแทน ซึ่งรวมถึงบริษัทที่ประกอบกิจการอาบอบนวด 5 บริษัท ที่ดิฉันได้สอบถามผู้มาชี้แจงว่าถือไว้ทำไม เมื่อไหร่จะขาย

กลายมาเป็นประเด็นโจมตีตามภาพ จึงขอชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องดังนี้ค่ะ

> คลังไม่ได้ลงทุนในอาบอบนวด

...ทราบดีค่ะ ว่ากระทรวงการคลังไม่ได้เข้าซื้อหุ้นโดยตั้งใจ และได้มาจากการยึดทรัพย์ของ ปปง. ซึ่งได้อภิปรายเรื่องนี้ไปแล้วด้วย สไลด์ก็เขียนอยู่ว่ามาจากยึดทรัพย์ เราไม่ควรอ่านแต่พาดหัวข่าวนะคะ ควรอ่านเนื้อข่าว หรือย้อนฟังการอภิปรายเต็ม ๆ เพื่อให้เข้าใจ

> การขายทอดตลาดทรัพย์สินใด ๆ เมื่อคดีสิ้นสุดเป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม

...กรณีนี้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำที่ผิดกฎหมายตกเป็นของแผ่นดิน และให้ตกเป็นของกระทรวงการคลัง ตามมาตรา 51 พ.ร.บ. ปปง.

การบังคับคดีสิ้นสุดตั้งแต่ตอนที่โอนหุ้นมาเป็นของกระทรวงการคลังเมื่อ 11 ปีก่อนแล้วค่ะ

อำนาจการจำหน่ายสินทรัพย์ก็อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่ทำหน้าที่หลักทรัพย์

และถ้าฟังจนถึงผู้ชี้แจงจากสคร. ตอบคำถามดิฉัน ก็จะทราบว่าเค้าอยากจะขายค่ะ แต่ขายไม่สำเร็จ ราคาไม่เป็นที่พอใจ

กรมบังคับคดีจะมาขายทอดตลาดได้ยังไงก่อน...!!

เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งทราบ แต่ได้ซักถามกระทรวงการคลังมาหลายปีเกี่ยวกับหุ้นที่ถือเหล่านี้ทั้งที่ได้จากนโยบาย (ในอดีต) และที่ได้จากการยึดทรัพย์ สคร.ก็พูดตลอดว่าจะพยายามจำหน่ายออก แต่จำหน่ายไม่ออกซักที

ที่ต้องมาเร่งรัด เพราะเมื่อต้นปีก็มีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับบริษัทนี้ ทั้งเรื่องผู้ถือหุ้นใหม่ ที่เกี่ยวพันกับทุนจีน และการจับกุมเพราะเปิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จึงไม่อยากให้หน่วยงานรัฐต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ค่ะ

จึงขออนุญาตชี้แจง เพราะไม่ได้แค่คนเดียวที่เข้าใจผิด คนระดับครูบาอาจารย์ก็ยังกระจายข่าวด้วยอคติไปทั่ว เดี๋ยวประชาชนจะเชื่อข้อมูลที่ผิด ๆ ค่ะ

‘ธนกร’ ยัน!! ‘รทสช.’ พร้อมทำงาน-สร้างประโยชน์ให้ ปชช. ย้ำ!! ถึงเวลาปรองดอง ร่วมมือกันขจัดภัยคุกความความมั่นคง

(18 ส.ค. 66) ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี มีกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังไม่สามารถตกลงโควตากับพรรคเพื่อไทยได้ ว่า ยังไม่ทราบ แต่ในส่วนของพรรครทสช.ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งตนได้พูดคุยกับเลขาธิการพรรคทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าพรรครทสช. จะขอโควตารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสามเก้าอี้และรัฐมนตรีช่วย 1 เก้าอี้ นายธนกร กล่าวว่า เราไม่ได้มีเงื่อนไขตรงนั้น และพรรคได้มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครทสช. และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เป็นคนไปเจรจา และเท่าที่ฟังทุกอย่างไม่ได้มีปัญหาอะไร เราไม่ได้มีเงื่อนไขในเรื่องของกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งพรรคยึดหลักสามารถทำงานให้กับประชาชน ได้อย่างเต็มที่พรรคก็ยินดี ย้ำว่าพรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีควรที่จะพูดคุยกันให้จบก่อนที่จะมีการโหวตนายกฯ เพราะในหลักการของการเมืองเป็นแบบนี้ และการโหวตนายกฯ ในวันที่ 22 ส.ค.นี้จะต้องมีการพูดคุยประสานงานกันก่อน หากไม่มีการพูดคุยประสานงานกัน ตนคิดว่าก็อาจจะไม่จบ แต่ในพรรครทสช.จบแล้ว แต่พรรคอื่น ตนไม่รู้เพราะไม่ได้ไปก้าวล่วงเขา

เมื่อถามย้ำว่าได้มีการแจ้งหรือไม่ว่า 4 เก้าอี้รัฐมนตรีที่ได้ตามสูตรคณิตศาสตร์การเมืองมีกระทรวงอะไรบ้าง นายธนกร กล่าวว่า เรื่องตำแหน่งอะไรตนไม่ทราบ ทราบแค่ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของการแบ่งโควตากระทรวงอะไร และพรรครทสช. ไม่ได้ยึดตรงนั้นเป็นหลักตนคิดว่าพรรครทสช.มี สส. 36 คน สามารถทำงานให้กับประเทศได้อย่างเต็มที่ เพราะทุกคนเป็น สส. ที่เก่ง ดูได้จากการอภิปรายในสภาฯ ฉะนั้นในการบริหารงานพรรค รทสช. ยึดหลักตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ไว้ในช่วงที่เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช. โดยเฉพาะการทำงานและสานงานต่อ ที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำไว้แล้ว แม้วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ในพรรคแล้ว แต่ก็ได้วางโครงสร้างไว้กับพรรคและพวกเราก็ได้เดินต่อ

เมื่อถามอีกว่าการตั้งรัฐบาลสลายขั้วจะทำงานกันราบรื่นหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าวันหนึ่งก็ถึงเวลา ในการที่พรรคการเมืองแต่ละพรรค ได้สลายสีเสื้อและควรที่จะยึดประโยชน์ของประเทศด้วยความปรองดอง ซึ่งตนคิดว่ามันมีบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศมากกว่า ฉะนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่ทุกพรรคจะต้องร่วมมือกันทำงาน

เมื่อถามด้วยว่าในพรรค รทสช. ได้มีการแบ่งโควตาหรือไม่ว่าสัดส่วนจะต้องเป็นอย่างไร นายธนกร กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก

เมื่อถามว่าชื่อแคนดิเดตนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน หรือน.ส. แพทองธาร ชินวัตร พรรครทสช. พร้อมจะยกมือโหวตให้ใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าเราตัดสินใจร่วมรัฐบาลแล้วก็อยู่ที่สิทธิ์ของพรรคแกนนำในการที่จะเสนอนายกฯ พวกเราก็พร้อมที่จะดำเนินการตามมติของพรรค ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อถามย้ำว่าแต่ สว.ตั้งแง่เรื่องคุณสมบัติของนายเศรษฐา ตรงนี้จะราบรื่นหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายเศรษฐา ซึ่งเขาก็ต้องอธิบาย และนายเศรษฐาก็ระบุว่าอธิบายได้ ดังนั้นทุกฝ่ายก็จะต้องฟัง ส่วนนายเศรษฐาควรที่จะต้องไปชี้แจงในสภาหรือไม่นั้น นายธนกร กล่าวว่า ก็แล้วแต่พรรค

'สิทธิบัตรทอง' 'นักเรียน นักศึกษา' เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ รับยาไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ร้านยา 'เอ็กซ์ต้า พลัส'

👶🏻 เด็กเล็ก นักเรียน นักศึกษา 👩🏻‍🎓 หากเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการเบื้องต้น สามารถใช้สิทธิบัตรทอง เพื่อรับยาได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 💊🩺✨

📌 ที่ร้านยา ’เอ็กซ์ต้า พลัส’ 🏥🧑🏻‍⚕️

*เฉพาะ 200 สาขาทั่วประเทศที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการ สปสช.

🔵 กรณีที่มีบัตรประชาชนและลงทะเบียนสิทธิบัตรทองแล้ว

สามารถนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่ร้านยา เพื่อเข้ารับบริการจากเภสัชกรได้เลย

🔵 กรณีที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน

สามารถใช้สูติบัตรแทนได้ แต่ต้องมีผู้ปกครองและนำบัตรประชาชนของผู้ปกครองไปแสดงที่ร้านยาด้วย

‘พลอย’ พนง.โรงแรม คู่กรณี ‘พี่กบ’ ขอบคุณกำลังใจจากชาวเน็ต หลังร่วมส่งพวงหรีด แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณแม่

สืบเนื่องจากกรณีที่เดือดไปทั่วโลกโซเชียล กับกรณีของ พี่กบ และ คุณพลอย หลังจากที่คุณพลอยได้ออกมาเผยแพร่ภาพแชท ที่ตนเองได้ขออนุญาต พี่กบ ลางานเพื่อไปดูแลคุณแม่ที่ป่วยหนัก โดยมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและถือเป็นข่าวร้ายที่แม่ของคุณพลอยนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งคุณพลอยก็ได้ทักไลน์ ไปขอลางานแต่ทาง พี่กบ นั้นไม่อนุญาตและตอบว่า “จะลาออกใช่ไหมคะ ถ้าลาออกมาเซ็นใบลาออกด้วย” จึงกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดไปทั่วโลกโซเชียล และชาวเน็ตต่างขุดพาทัวร์ไปลงสถานที่ทำงานของ พี่กบ อีกทั้งยังขุดเฟซบุ๊กส่วนตัวของ พี่กบ อีกด้วย

ซึ่งทางด้านรีสอร์ตต้นสังกัดของทั้งคู่ก็ได้ออกมาแถลงการณ์แล้วเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยมีใจความสำคัญว่า ทางรีสอร์ตได้มีคำสั่งพักงานพนักงานคนดังกล่าวออกจากรีสอร์ต ในขณะเดียวกันได้ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของผู้จัดการคนนี้ต่อไป และให้ คุณพลอย ทำธุระของตนเองให้เสร็จสิ้น แล้วค่อยกลับมาทำงานโดยไม่มีการไล่ออกใดๆ

ซึ่งทางด้าน คุณพลอย หลังได้เปิดใจต่อกรณีที่เกิดขึ้นไปแล้วว่า ที่ผ่านมาได้คุยกับ พี่กบ ตลอดว่าขณะนี้คุณแม่ป่วย อาจจะมีการขอลากระทันหันหากเกิดอะไรขึ้นกับแม่ ไม่ใช่ไม่เคยบอก ไม่ใช่ไม่เคยขอ ช่วงที่รู้ข่าวจากแม่ ยอมรับว่าไม่มีคนมาหน้าที่แทน ตนพยายามแจ้งมาโดยตลอด และที่โพสต์รูปออกไปก็เพราะความน้อยใจนั้นเอง

ล่าสุด คุณพลอย ก็ได้เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยเป็นการขอบคุณทุกกำลังใจของชาวเน็ตที่ส่งมาให้ ทั้งพวงหรีด และข้อความให้กำลังใจต่างๆ ผ่านโลกโซเชียล โดยคุณพลอยระบุข้อความว่า “พลอยขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้นะคะ ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ”

‘รทสช.’ ประกาศชัด ร่วมรัฐบาลไร้เงื่อนไขต่อรอง แต่นี่คือเวลาที่บ้านเมืองควรจะมีความสามัคคีได้แล้ว

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 66 ‘เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี’ อดีตผู้สมัคร สส.กทม. เขต 33 บางพลัด-บางกอกน้อย พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า…

“จากการคุยกับพี่น้องหลายท่านที่เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุน พวกเรา พรรครวมไทยสร้างชาติ เนเน่ได้รับรู้ถึงหลายความกังวลใจของหลายๆ คนนะคะ

… บ้างก็ไม่อยากให้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยด้วยอดีตที่เรามีกันมา
… บ้างก็เห็นว่าแนวทางและอุดมการณ์เราต่างกันมากเหลือเกิน
… บ้างก็กังวลในเรื่องการประกาศที่จะแก้รัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย

เนเน่ขอสรุปประเด็นจากการโพสต์ของท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาให้ทุกท่านทราบว่า เราตัดสินใจร่วมรัฐบาลเพราะ… 

… ถึงเวลาที่บ้านเมืองควรจะมีความสามัคคีปรองดอง ความสงบสุข และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
… เราไม่มีข้อต่อรองหรือข้อเรียกร้องใดๆ ขอแค่ได้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน 
… พรรคเพื่อไทยเขายืนยันจะไม่มีการทำการที่ขัดต่ออุดมการณ์ของเราเรื่องชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์

เนเน่วอนขอความเข้าใจจากทุกท่าน และขอยืนยันให้ทราบว่าความเห็น ความรู้สึกของ พี่น้องแฟนคลับทุกท่านสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเราค่ะ #เราจะสู้ไปด้วยกัน #ประเทศไทยต้องไปต่อ”

รู้จัก ‘Loopsie’ แอปพลิเคชันแต่งรูปน้องใหม่มาแรง!! สร้างรูปอนิเมะสไตล์ญี่ปุ่น ด้วย AI บอกเลยว่าคาวาอีสุดๆ

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 66 ตอนนี้ใครที่เข้าโซเชียลทุกแพลตฟอร์มก็ต่างเจอภาพ แอนิเมชันสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีคนนำไปแชร์กันเป็นจำนวนมาก โดยสามารถสร้างภาพ AI ให้ประมวลผลภาพคน และสถานที่ต่าง ๆ ให้กลายเป็นภาพเสมือนในอนิเมะญี่ปุ่น ซึ่งถูกใจชาวโซเชียลอย่างมากมาย ที่สำคัญสามารถใช้ฟรีเป็นเวลา 3 วัน สำหรับแอปพลิเคชัน ‘Loopsie : Deforum AI Art’ มีฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย รวมถึงสามารถทำเป็นภาพวิดีโอเคลื่อนไหวได้อีกด้วย หากเลือกสมัครแพ็กเกจเป็น ‘Loopsie Pro’

ขั้นตอนการใช้งาน

วิธีใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘Loopsie’ จาก App Store หรือ Play Store จากนั้น ถ่ายภาพหรือวิดีโอ รวมทั้งสามารถดึงรูปภาพที่เก็บไว้ในเครื่องมาเข้าแอปพลิเคชัน โดยสามารถเลือกฟิลเตอร์หรือเอฟเฟกต์ได้เลย จากนั้น ภาพถ่ายหรือวิดีโอจะถูกแปลงตามฟิลเตอร์ หรือเอฟเฟกต์ที่เราเลือกและสามารถบันทึกมาใช้งานได้เลย

ซึ่งก็มีทั้งฉากเฟรม เงินสด ผีเสื้อ หิมะ หรือ ฟ้าแลบ เป็นเอฟเฟกต์ให้ได้เล่นจำนวนมาก ส่วนเอฟเฟกต์ต่างๆ ก็มีทั้ง การขยับแบบ 3 มิติ แบบวินเทจ ทันสมัย และ สโลว์โมชัน

ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน Loopsie เปิดให้เล่นฟรี 3 วัน ก่อนจะอัปเกรดและใช้เวอร์ชันโปรฯ แต่งภาพได้เต็มรูปแบบ ซึ่งจะต้องเสียเงิน ซึ่งก็มีคนโหลดแอพพลิเคชั่นไปใช้แล้วกว่า 5 ล้านครั้ง

ค่าบริการ Loopsie เบื้องต้น

- Loopsie Pro 249 บาทต่อสัปดาห์

- Loopsie Pro 359 บาทต่อเดือน

- Loopsie Pro 1,990 บาทตลอดชีพ

สืบนครบาล และสืบ111 รวบ 'ไบร์ทบางโพ' นักย่องเบากลางคืนขโมยน้ำกระท่อม 50 ขวด

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งรัดปราบปรามแก๊งโจรกรรมลักทรัพย์ประชาชนบริเวณที่พักอาศัยและแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างหนัก สร้างความเดือดร้อนและกระทบการดำรงชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบนครบาล IDMB และ นักเรียนสืบสวน111 ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชนในพื้นที่ กรุงเทพฯ ว่ามีโจรย่องเบาร้านขายกระท่อมลักเงินสดประมาณ 5,000 บาท นํ้ากระท่อมบรรจุขวด ปริมาณ 1.5 ลิตร จำนวน 50 ขวด รวมความเสียหายเป็นเงิน 7,520 บาท

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย , พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข  ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย  พ.ต.ท.มาโนชย์  ทองแก้ว , พ.ต.ท.วุฒิพันธ์  ผอบทอง , พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ , พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อม นักเรียนสืบสวนคดีอาญา รุ่น 111 ทำการจับกุมตัว นาย ฐิติวัฒน์ หรือไบร์ท ทองอยู่ อายุ 23 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 9 เชิงสะพานพิบูล (ฝั่งซ้าย) แขวงบางชื่อ เขตบางชื่อ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ 2519/2566 ลง 8 สิงหาคม 2566 ข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ

โดยพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ ผู้เสียหายได้มาเช่าร้านค้า ซึ่งตั้งอยู่ ภายในซอยรัชดาภิเษก 36 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อใช้สำหรับเปิดร้านขายกระท่อม และผู้เสียหายได้ขายกระท่อมเรื่อยมา ต่อมาวันที่ 16 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 03.15 น. ผู้กล่าวหาได้ทำการปิดร้านค้า เพื่อกลับไปพักผ่อนที่พักอาศัยอยู่ที่คอนโด ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. (ของวันเดียวกัน) ผู้เสียหายได้มาเปิดร้านค้าเพื่อขายกระท่อม ปรากฎว่าเมื่อเข้าไปภายในร้านค้าพบว่า ทรัพย์สินภายในร้านค้าได้หายไป ประกอบด้วย  เงินสดประมาณ 5,000 บาท นํ้ากระท่อมบรรจุขวด ปริมาณ 1.5 ลิตร จำนวน 50 ขวด ราคาประมาณ 2,500 บาท ใบกระท่อมสด 1 ถุง ราคา 20 บาท รวมทรัพย์สินที่หายไปจำนวน 3 รายการ รวมความเสียหายเป็นเงิน 7,520 บาท และตรวจพบว่าปลั๊กกล้องวงจรปิดได้ถูกดึงออก จากนั้นผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เชื่อมไว้กับโทรศัพท์ของผู้เสียหาย จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 03.57 น. มีผู้ชาย สวมเสื้อแจ๊คเก็ต สวมกางเกงขายาว  และสวมรองเท้าผ้าใบ โดยผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายฐิติวัฒน์ ซึ่งเป็นลูกค้าที่เคยมาซื้อกระท่อมกับทางร้าน โดยเข้ามาภายในร้านและทำการรื้อค้นทรัพย์สินภายในร้าน และลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมายจนกว่าคดีถึงที่สุด

จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญา พบมีประวัติ ดังนี้ 
1.ปี 2558 มีคดีข้อหา พาอาวุธปืนไปในเมืองฯ
2.ปี 2561 มีคดีข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5
3.ปี 2564 มีคดีข้อหา ครอบครองยาเสพติดประเภท 5
4.ปี 2566 ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่เป็นภัยต่อสังคม สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกประเภท ซึ่งมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตปกติของประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top